ดูดวงเพราะรักตัวเอง Predict Myself

30/10/2025

30/10/2025

"How much will it really take
for you to forgive yourself?"
"มันต้องใช้อะไรอีกแค่ไหน
กว่าคุณจะยอมยกโทษและให้อภัยตัวเอง"
คุณขังตัวเองอยู่ในคุกของ "ความรู้สึกผิด"
มานานแค่ไหนแล้ว
คุณแบกความผิด ความเศร้า เสียใจ และ
ความทุกข์ทรมาน มาพอรึยัง
"ความรู้สึกผิด" อาจกำลังเป็นกำแพงแยกคุณ
ออกจากคนที่คุณรัก อยู่รึเปล่า
คุณมีความคิดที่ต้อง "อยู่" หรือ "ทำ"
เพื่อ "ชดใช้" อะไร ให้ใคร อยู่รึเปล่า
หากข้อความที่ติเขียนสะกิดใจคุณ
คุณรู้ว่าคุณพร้อม และ มันถึงเวลาแล้ว
ที่คุณจะเดินออกจากกรงขังแห่งความรู้สึกผิด
เพื่อที่คุณจะได้ “ให้อภัยตัวเอง” จริงๆสักที
ติชวนคุณมาค้นหารากของ Guilt (ความรู้สึกผิด)
เข้าใจที่ไปที่มา เพื่อปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระ
ในเวิร์คชอป Heal the Guilt แบบเข้มข้น
เสาร์ที่ 29 พ.ย. | 13:30–17:30 | ผ่าน Zoom
(เนื้อหาเยอะมาก กระบวนการเยอะกว่า
ขอให้ทุกคนเตรียมตัวเตรียมใจ หากเกินเวลา 🥰)
✨ พร้อมรับBonus สุดพิเศษ
1️⃣️ Healing ส่วนตัว 1:1 (60 นาที)
มูลค่า 5,500 บาท
2️⃣ คลิปเรียนทบทวนฟรีตลอดชีวิต
3️⃣ Line กลุ่มปิดเพื่อสนับสนุนคุณต่อไป
ให้รักษาพลังงานใหม่นี้ให้ยาวนาน
จนเป็นคุณคนใหม่ที่มีความสุขและเป็นอิสระ
💸 ราคาพลังงานแห่งการเปลี่ยนผ่าน
🌱 สมัครภายใน 10 พ.ย. – 4,444 บาท
🌿 หลัง 10 พ.ย. – 5,555 บาท
🌸 หลัง 15 พ.ย. – 8,888 บาท
📩 ลงทะเบียนหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Line:
https://lin.ee/RFnKCBM
เพราะการให้อภัยตัวเอง…
คือของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่คุณมอบให้ตัวเองได้
แล้วพบกันนะคะ
รัก ติ

30/10/2025

สุนทรียภาพแห่งการเลือกไทม์ไลน์ (Quantum Leap)
บ่อยครั้งที่ชีวิตให้ความรู้สึกว่าหนักอึ้ง วุ่นวาย และเต็มไปด้วยการต่อสู้ และเราก็เชื่ออย่างสนิทใจว่า ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ต้องแลกมาด้วยความพยายามที่หนักหน่วง คุณมองหาความจริงในหลายมิติ แต่กลับรู้สึกว่าการกระโดดข้ามไปสู่ชีวิตที่ Flow นั้นเป็นเรื่องซับซ้อนและไกลเกินเอื้อม
แต่ความจริงที่บริสุทธิ์คือ Quantum​ Leap ไม่ใช่เรื่องซับซ้อนอะไรขนาดนั้นถ้าคุณรู้ว่าความจริงที่สมบูรณ์นั้นได้สำเร็จแล้วในอีกมิติหนึ่ง ความสับสนที่คุณรู้สึกไม่ใช่การถูกลงโทษ แต่เป็นเพียง เสียงสะท้อน จากเรื่องราวเก่าๆ ที่จิตใต้สำนึกของคุณยังคงเชื่อถืออยู่
ไม่มีใครสามารถกระโดดได้ไกลอย่างแท้จริง หากยังคงถูกฉุดรั้งด้วยน้ำหนักที่มองไม่เห็น หากคุณพยายามที่จะพุ่งทะยานไปข้างหน้าโดยที่ยังไม่ได้ ย่อตัวลง เพื่อเคลียร์ความหนักอึ้ง นั่นคือการกระทำที่เรียกว่า มันคือการพยายามสร้างความมั่งคั่งด้วยคำยืนยันที่สวยงาม ในขณะที่จิตวิญญาณยังคงแบกความกลัว ความสงสัย และความรู้สึกไม่คู่ควรเอาไว้
การย่อตัวไม่ได้หมายถึงการจมอยู่กับความมืด แต่หมายถึงการ ยอมรับความจริงอย่างซื่อสัตย์ ว่า "ฉันอนุญาตให้ความหนักอึ้งนี้ปรากฏตัว เพื่อที่ฉันจะได้วางมันลงอย่างถาวร" การทำความสะอาดความหน่วงนี้ต่างหาก คือการลงมือทำที่ลึกซึ้งที่สุด
เมื่อคุณวางความหนักอึ้งลงแล้ว ทุกสิ่งจะกลับมาสู่สภาวะ Flow ตามธรรมชาติ การกระทำในไทม์ไลน์ที่สมบูรณ์นั้นไม่ได้มาจากความพยายาม แต่มาจาก การอนุญาตให้ชีวิตเป็นเรื่องง่าย นั่นคือที่ที่ Human Design เข้ามาทำหน้าที่เป็นพิมพ์เขียวที่ล้ำค่าที่สุดของคุณ
การลงมือทำที่สอดคล้องไม่ได้มาจากความสุ่มสี่สุ่มห้า แต่มาจาก การเคารพกลยุทธ์และอำนาจภายใน ( &​ ) ​ของคุณ การลงมือทำที่ถูกต้องสำหรับคุณอาจเป็นการหยุดพัก การรอคอย หรือการตอบสนองต่อแรงดึงดูด และนั่นคือการกระทำที่ดึงดูดความมั่งคั่งได้อย่างง่ายดายในแบบฉบับเฉพาะคุณ โดยไม่ฝืนธรรมชาติ
ความจริงสูงสุดคือการตัดสินใจว่าคุณจะเลือก timeline ไหนให้ตัวคุณเอง คุณเท่านั้นคือผู้เลือกไทม์ไลน์ของคุณเอง การเปลี่ยนตัวตน (Identity Shift) คือการประกาศในระดับจิตใต้สำนึกว่า "ฉันคือคนที่ใช้ชีวิตที่ Flow แล้ว" และทุกการตัดสินใจจากจุดนั้น คือการยืนยันถึงความเชื่อมั่นที่ไม่สั่นคลอน
จงเลือกความถี่แห่งความง่ายดาย จงยอมรับความมั่นใจที่ไม่เงื่อนไข และจงก้าวเดินราวกับว่าทุกสิ่งที่ปรารถนาได้ถูกมอบให้คุณแล้ว เพราะมันเป็นเช่นนั้นแล้วในความเป็นจริงที่คุณเลือก Choose Wisely..
​ ​ ​

30/10/2025

30/10/2025

ขออนุญาตขายของค่ะ
ตีมพลังงานตัวเอง เดือนนี้ supporter ให้กับคนที่ กำลัง ทำ inner work / Deep to the unknow! / Dark knight of the soul.

คนที่หลอกตัวเองเก่ง คุมจิตตัวเองให้มองโลกในแง่บวก ท่ามกลางสงครามได้อย่างเชี่ยวชาญ คือ ฉันคนนี้

ชอบพลังงานของคุณดาวเสาร์ ของฉันมาก แค่คิด ก็ถูกตบแล้วล่ะ

บางที การมีคนที่ฟังเรื่องหนักๆ ระหว่างการเดินทางภายในของตัวเองบ้าง ก็ดีเหมือนกันนะ

จากที่คิดว่าจะเข้าถ้ำ เงียบๆ คนเดียว

ใครอยากได้ intuintion deepๆ ฟาดๆ ลองทักเข้าใช้บริการได้นะ รับตามพลังงานเหมือนเดิมค่ะ
รัก

30/10/2025

ชลบุรีทัก ส่วนผสมของสีย้อม เป็นมงคลมากๆ ค่า

🌿 Workshop “ผ้าเช็ดหน้ามัดย้อม จากสีธรรมชาติ” 🌿
ชวนมาสัมผัสบรรยากาศสุดชิลล์ เรียนรู้การมัดย้อมด้วย จินตนาการใกล้ชิดธรรมชาติ
พร้อมเทคนิคการมัดย้อม และเคล็ดลับการซักถนอมผ้าให้อยู่คู่ใจไปนาน ๆ 💧
◽️
✨ สีธรรมชาติสุดละมุน
💗 ชมพูอ่อนหรือแดงระเรื่อจากแก่นไม้ฝาง
และ สีเทาอ่อนจากหินโมคคัลลาน
◽️
◽️
เรียนวันที่ : 8 และ 9 พฤศจิกายน 2568
เปิดบูธตั้งแต่เวลา : 09.00 - 15.00 น. (จะมาเรียนตอนไหนก็ได้ค่ะ)
สอนโดย : Nicha Ecoprint (ศิลปินชาวเหนือ ที่หลงใหลในสีสรรจากธรรมชาติ)
◽️
สถานที่ : 📍 ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง ชลบุรี
ราคาท่านละ : 99 บาท

หมายเหตุ : สามารถ walk-in ไปสมัครที่หน้างานได้เช่นกันค่ะ
◽️
🎁 สิ่งที่ทุกท่านจะได้รับ✨
ชิ้นงานผ้าเช็ดหน้ามัดย้อม 1 ผืน
ใช้เวลาทำประมาน 30 นาที + ทิ้งไว้รอแห้ง 30-1 ชม.
สามารถไปเดินเที่ยวเล่นในงานได้ระหว่างรอ
◽️
#เวิร์กช็อปธรรมชาติ #มัดย้อมสีจากธรรมชาติ
◽️
📍 ลงทะเบียนสมัคร
https://www.mabueang.com/events/workshop-phachedhna-mad-yxm-cak-si-thrrmchati
◽️
ติดต่อสอบถาม
🔹 สำนักงาน 038 198 643
🔹 ฝ่ายดูงาน https://line.me/ti/p/s07gf4C3_N (ไอดี mabeaeng (ไม่ต้องมี @ นำหน้า)
🔹 ฝ่ายกิจกรรม https://lin.ee/fGdgfsb (ไอดี )
▫️
ติดตามข่าวสาร
▶️ มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ https://www.facebook.com/agrinature.or.th
▫️
▶️ ศูนยกสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง https://www.facebook.com/mabeaeng
▫️
▶️ ร้านคืนชีวิตให้แผ่นดิน https://lin.ee/uwMeWlg / ไอดีไลน์

29/10/2025

29/10/2025

“เมื่อดินแดนแห่งรอยยิ้มค่อย ๆ สูญเสียความอบอุ่นที่เคยมี” “The Land of Smiles has lost some of its warmth.”
เงินซื้อสังคมหรือบริการได้ เป็นสิ่งที่เคยได้ยินมาตั้งแต่เด็ก แต่ไม่เคยคิดว่ามันจะจริง จนได้กลับไทยรอบที่ผ่านมา
ส่วนตัวแล้ว ฉันเป็นคนไม่ชอบกินข้าวในห้างหรือร้านอาหารหรูๆ เลย เพื่อนๆ จะรู้ดีว่าถ้านัดเจอฉัน และจะให้ชอบที่สุดคือร้านอาหารบ้านๆ ริมถนน เพราะฉันคิดถึงบรรยากาศเก่าๆ ของเมืองไทย รู้สึกว่าร้านดังๆ ต่างๆ ตกแต่งโมเดริน์เกินไป แม้จะดูสวยงามตามสมัย แต่ฉันก็ยังคงชอบไปในที่ที่ทำให้ระลึกถึงเมืองไทยเมื่อสี่สิบปีที่แล้วอยู่
บ้านเราเคยได้รับคำชื่นชมและชื่อเสียงอย่างเป็นทางการที่คนต่างชาติรู้จักในนามของประเทศแห่งรอยยิ้ม ซึ่งเป็นสิ่งที่ตัวฉันและมั่นใจว่าคนไทยหลายๆ คนภูมิใจมาเสมอ
สมัยก่อนมันเป็นแบบนั้นจริงๆ จะด้วยด้านเศรษฐกิจที่อยู่อย่างลำบากขึ้นหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ เวลาที่กลับไทยแต่ละปี ฉันถึงรู้สึกว่าคนไทยเราเครียดกันขึ้นเยอะมาก และกลายเป็นว่ารอยยิ้มที่เคยชินในแบบสมัยก่อนหายากขึ้นทุกวัน
นิสัยใจคอของคนไทยก็เปลี่ยนไปเยอะด้วย จะบอกว่าเพราะการใช้ชีวิตมันหนักและกดดันขึ้นหรืออย่างไรไม่ทราบ นอกจากรอยยิ้มที่เห็นได้ยากขึ้นแล้ว การพูดคุยและจิตใจก็ดูจะแข็งกระด่างขึ้นไปทุกที
จากที่เคยชอบกินข้างทาง อุดหนุนคนหาเช้ากินค่ำ และอยากกลับไทยแล้วได้เอาตัวลงไปอยู่กับคนพื้นที่จริงๆ แต่กลับค้นพบว่า มีกิริยาอาการหลายอย่างเช่น บางร้านแม่ค้าโหวกเหวกโวยวายมาก เวลาสั่งให้ลูกค้าไปนั่งรอก็ไม่ใช่เสียงแห่งการต้อนรับอีกต่อไป แต่เป็นการสั่ง และเห็นหลายๆ คนก็ดูจะกลัวพวกแม่ค้าด้วย เหมือนกับว่าเราต้องไปอ้อนวอนขอซื้อเขากิน
ฉันเดินบนสะพานลอยของสถานีรถไฟฟ้าในวันหนึ่งซึ่งมีป้ามาขายขนมไทย ซึ่งฉันชอบมาก เลือกเอาไว้หลายกล่องส่งให้ป้า แล้วมีขนมเปียกปูนซึ่งมีสองแบบ ก็เลยถามว่าแต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไรเหรอคะป้า คุณป้าเงยหน้าขึ้นแล้วตอบว่า ก็อันหนึ่งกระทิสดอันหนึ่งกระทิไม่สดแค่นั้น แค่นี้มองไม่ออกเหรอว่ามันแตกต่างกันตรงไหน ฉันชะงักทันที มองขนมหลายกล่องที่ยื่นให้ป้าก่อนนั้นซึ่งหลายร้อยบาทอยู่ คิดจะเปลี่ยนใจว่าจะเดินหนีไม่ซื้อแล้ว แต่คาดว่าน่าจะโดนด่าเป็นแน่ ก็เลยบอกว่าเอาแค่นั้นแหละค่ะ และจ่ายเงิน ทั้งที่ฉันอยากซื้อมากกว่านั้นในตอนแรก
วันถัดมา ไปนั่งกินร้านอาหารตามสั่งข้างทาง นั่งๆ หาน้ำกินเองนะแม่ค้าไม่มีเวลา จะเอาอะไรละ จดๆ มา จะให้มีคนมารอไปรับออเดอร์ไม่ได้หรอกนะ แล้วก็ต้องรอ ร้านนี้ทำตามใจแม่ค้ารวมถึงความเร็วด้วย นี่คือฉันยังไม่ได้เอ่ยอะไรสักคำตั้งแต่ย่างก้าวเข้าไป
นั่งอยู่ในนั้นเหมือนตัวเองเป็นคนตัวเล็กๆ ที่ต้องวิงวอนร้องขอ ที่จะได้มีโอกาสให้แม่ค้าเมตตาขายของให้ มันเกิดขึ้นหลายครั้ง จนวันหนึ่งนั่งคิดในห้องคนเดียวว่า เอ๊ะนี่เราคือใคร เราจะไปซื้อของเขานะ เราจะไปอุดหนุนเขา ทำให้เขามีรายได้ แล้วเราต้องเอาสุขภาพจิตของเราไปเสียกับเหตุการณ์แบบนี้กับการมาพักผ่อนปีละครั้งของเราจริงๆ เหรอ
วันต่อมา ฉันตัดสินใจหาร้านอาหารไทยในห้างทันที ปกติถ้ากินร้านข้างถนนคนเดียวจะตกอยู่ที่ ห้าร้อยถึงหกร้อยบาทต่อครั้ง แต่พอไปกินในห้างจะตกมือละพันห้าถึงพันแปดต่อมื้อ แต่ว่าเราได้บริการที่ดี ไม่ใช่แค่รสชาติของอาหาร จะว่าไปบางร้านก็ทำสู้ข้างถนนไม่ได้ แต่เราได้สุขภาพจิตที่ดีของตัวเอง มันทำให้วันนั้นทั้งวันของเราเป็นวันที่ดี ไม่ต้องอารมณ์เสีย โดนด่าหรือได้ยินคำไม่สุขภาพเยอะๆ
คุณบี้ถามฉันว่าทำไมย้ายที่พัก ตอนแรกอยู่ที่คอนโดอันหนึ่งซึ่งก็เงียบสงบและเป็นส่วนตัวดีมาก แต่ว่าเวลาจะไปว่ายน้ำหรือใช้ฟิตเนส พวกอุปกรณ์มันดูเก่าๆ และเหมือนถูกปล่อยทิ้งร้างไว้ไม่ได้รับการดูแล แม้ห้องแรกจะใหญ่กว่ามีทุกอย่างครบ แต่บรรยากาศรอบๆ ไม่ได้ผ่อนคลายเท่าไหร่ ฉันก็ทำการย้ายที่พักไปอยู่ที่ที่แพงขึ้น แต่มันได้ทุกอย่างรวมถึงบรรยากาศและสิ่งแวดล้อม
แม้สามีจะเอ่ยถามว่าราคาห้องพักเธอแพงอยู่นะสำหรับที่ไทย ฉันบอกว่าบี้ ฉันเหนื่อยกับการทำงานมาเยอะแล้ว ฉันต้องการพัก ฉันอยากลงมาด้านล่างหรือไปว่ายน้ำหรืออ่านหนังสือในที่ที่สงบและร่มรื่น เอาจริงๆ นะ เวลาไปอยู่ไหนแล้วสถานที่มันไม่เป็นระเบียบหรือไม่สะอาดหรือคนพูดจาไม่สุภาพ มันทำให้ฉันหงุดหงิด มันทำให้ไม่ผ่อนคลาย ฉันเลยจำเป็นต้องจ่ายเพิ่มขึ้นเพื่อให้การไปพักของเราเป็นการรีแลกซ์จริงๆ
สมัยก่อนงงตาแตกว่าทำไมฝรั่งจ่ายเงินบินไปไทย อยู่ที่หรูๆ กับการแค่ไปนั่งอ่านหนังสือตามขอบสระ หรือว่าขึ้นไปดื่มบนดาดฟ้าบางแห่งกับราคาน้ำแก้วละสี่ห้าร้อย ตอนนั้นไม่เข้าใจ แต่ปัจจุบันฉันก็ทำ ฉันแค่อยากไปนั่งดูวิวสวยๆ ได้ความเป็นส่วนตัว ดื่มด่ำบรรยากาศของกรุงเทพในยามค่ำคืนกับวิวตึกสูงๆ และการได้รับบริการที่ดี มันก็สมควรแหละที่จะต้องเสียราคาขนาดนั้น
สมัยก่อนเคยเถียงกับเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งเขาเป็นคนที่มีฐานะ มีรถมารับส่งเสมอ ไปร้านอาหารหรือที่ไหนก็ระดับห้าดาวทั้งหมด เวลาเจอกันแล้วฉันต้องนั่งรถเมล์ไปบ้าง รถไฟฟ้าไปบ้างแล้วเจอเหตุการณ์ไม่ค่อยสุภาพก็มาบ่นให้เพื่อนฟัง เพื่อนไม่เชื่อค่ะคุณ เขาบอกว่าไม่จริงหรอก เราไม่เคยเจอแบบนั้นเลยในชีวิต ฉันบอกเพื่อนว่าก็ใช่สิ เพราะเธอไม่เคยได้ทำแบบนั้น เธอใช้บริการแต่ในสถานที่ที่ทุกคนถูกฝึกมาแล้วเรื่องหัวใจของการให้บริการลูกค้า ฉันเข้าใจเพื่อนนะว่าทำไมเขาไม่เคยเห็น
ที่เขียนนี่ไม่ได้หมายถึงทุกร้าน บางร้าน บางคนดีๆ ในร้านธรรมดาหรือข้างถนนก็เยอะ แต่รู้สึกว่ามันมีลดน้อยลงเรื่อยๆ อย่าว่าไป ตอนบินกลับมาถึงเยอรมนี ฉันมีกระเป๋าสามใบและไม่สามารถจับทั้งสามใบแล้วขึ้นบันไดเลื่อนได้ คนเดินผ่านไปมาไม่มีคนหยุดถามว่าให้ช่วยอะไรไหม และที่นี่ไม่มีลิฟต์ด้วย มีแค่บันไดเลื่อน
ยืนมองไปรอบๆ จนมีพี่คนไร้บ้านคนหนึ่งเดินเข้ามาถามว่าให้ผมช่วยไหม ฉันถามว่าจริงเหรอคะ ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ เขาช่วยแบกกระเป๋าลงมาใต้ดินสองสามชั้นกับบันไดเลื่อนไม่พอ แต่เขาเอามาส่งจนฉันขึ้นรถไฟ ฉ้นโค้งคำนับให้พี่เขา บอกว่าขอบคุณจากหัวใจเลยนะคะพี่ พี่จะนั่งไหม เขาบอกไม่เป็นไร เขาไม่นั่งและไม่ได้จะขึ้นรถไฟไปกับฉันด้วย เขาบอกว่าเขาประจำอยู่ที่สนามบินและหาขออาหารจากผู้คนในนี้
ฉันล้วงกระเป๋าหยิบเงินยี่สิบยูโรให้เขา บอกว่าขอบคุณมากๆ นะคะที่พี่ช่วยเหลือ เขาบอกว่าไม่ขอรับ เพราะนี้คือน้ำใจ ไม่ได้หวังเอาเงิน เขาไม่ได้ขอเงินจากผู้คนด้วย แล้วแต่คนจะให้แต่ส่วนมากคือขออาหาร รถยังไม่ถึงเวลาออก ฉันทำการห่อกระเป๋าด้วยพาสสติกจากสนามบินไทยเพราะกันกระแทก รีบใช้มีดเล็กๆ ที่เขาติดไว้กับที่ห่อ กรีดกระเป๋าเดินทางแล้วรูดซิบออก กางมันบนรถไฟนั้นแหละ แล้วหอบเอาอาหารไทย และขนมนมเนยที่ตัวเองแบกข้ามน้ำข้ามทะเลมาเพื่อเอาให้พี่เขา
ฉันบอกว่านี่คือน้ำใจจากฉันเช่นกัน ขอให้พี่รับไว้เถอะ พอเป็นของกินเขาก็ยินดีรับและกล่าวขอบคุณ แต่ทำยังไงก็ไม่รับเป็นเงินสด
นี้คืออีกมุมของคนริมทางหรือข้างถนน พี่คนนี้เป็นคนเยอรมัน ฉันอยากให้เห็นภาพว่าไม่ว่าจะอยู่ในห้าง ที่หรูๆ หรือแม้จะไม่มีที่อยู่ แต่ถ้าจิตใจของเราดี แม้จะมีอะไรมากดดันมากเท่าไหร่ นิสัย คำพูดหรือการปฏิบัติของเรามันก็ไม่ได้ทำให้เราเปลี่ยนไปจากเดิมมากนักหรอกค่ะ
บางคนบอกฉันว่า เพราะว่าชีวิตมันลำบาก มันกดดัน ก็เลยทำให้เป็นคนแข็ง พูดจาไม่น่ารัก นี่ก็อยากจะบอกกลับไปว่า ทุกคนทั้งนั้นที่เคยต้องผ่านเวลาที่ชีวิตเขาเรียกว่าขาลง แต่บางคนเขาก็ไม่ได้ทำให้สถานการณ์เลวร้ายในชีวิตมาทำให้ความมีน้ำใจหรือการแสดงออกถึงมารยาทมันออกมาไปในทางที่ไม่สุภาพ
ตัวฉันเองก็เคยไร้บ้าน นั้นมันคือเหตุผลเหรอว่า ฉันต้องเติบโตขึ้นมาแล้วสามารถพูดคำหยาบใส่ใครก็ได้ หรือว่าถ้านิสัยจะแย่ก็ไม่เป็นไร เพราะว่าก็เติบโตมากับสิ่งแวดล้อมที่มันไม่ได้น่ารักสักเท่าไหร่ นั่นไม่ใช่เหตุผลและคำแก้ตัวนะฉันว่า
เราเลือกได้ว่าเราจะมีนิสัยและจิตใจแบบไหน มันน่าเศร้าใจจริงๆ ที่แต่ละปีที่กลับ เราเห็นประเทศของเราเปลี่ยนไปในทางที่มันไม่น่ารักมากขึ้น สมัยก่อนตอนที่มาอังกฤษใหม่ๆ โฆษณามาก เวลาเพื่อนคนอังกฤษจะไปเที่ยวไทย จะรีบบอกว่า ประเทศฉันน่ารักมาก คนน่ารัก สยามเมืองยิ้ม เป็นมิตร ของถูก และปลอดภัย
แต่สมัยนี้มันกลับกัน เวลาเพื่อนจะไป จะบอกว่าอะไรควรระวัง อะไรที่เป็นเรื่องไม่ดีที่อาจจะต้องเจอ เช่นโกงราคานักท่องเที่ยว บอกสิ่งแย่ๆ ให้เขาเตรียมใจไว้ ถ้าไม่เจอก็ดีไป เขาจะได้มีแต่ประสบการณ์ดีๆ แต่ถ้าบอกว่าทุกอย่างดีไปหมด แล้วเขาไปเจอไม่ดี เขาก็จะเสียความรู้สึกกันเปล่าๆ
ไม่น่าเชื่อเลยที่ฉันจะอยู่ได้มาถึงสมัยนี้ สมัยที่ตัวฉันเองกลับกลัวที่จะไปหาซื้ออะไรข้างทางกิน เพราะกลัวถูกแม่ค้าพูดจาไม่น่ารักใส่ แต่เลือกจ่ายเงินแพงๆ เพียงเพราะอยากได้ยินอะไรที่อ่อนหวานไพเราะเหมือนกับสิ่งที่ตัวเองเติบโตมาในแบบสมัยเก่าก่อน
ฉันรู้ว่าทุกที่มีคนดีและคนไม่ดี มีคนนิสัยน่ารักและไม่น่ารักปะปนกันไป และแน่นอนว่าเข้าใจว่าทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ทุกอย่างไม่แน่นอน แต่รู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงนี้มันมาจากนิสัยของคนเราด้วย ซึ่งทุกคนสามารถเลือกได้ว่าจะแสดงตัวออกมาแบบไหน และเสียดายมากๆ ที่เมืองไทยที่เคยน่ารักที่สุดในโลกในสายตาของฉัน วันนี้มันไม่ได้เหมือนเดิมแล้ว
มันกระทบฉันมากไหมก็ไม่ได้กระทบมาก เพราะนานๆ ครั้งกลับไทยที แล้วตอนนี้คือสามารถเลือกได้มากขึ้น ตรงไหนบริการไม่ดีก็เปลี่ยน แต่รู้สึกเห็นใจคนที่เขาเลือกไม่ได้ ยังต้องอยู่กับสภาพแวดล้อมแบบนั้น ทั้งที่มีหลายคนเหลือเกินที่ยังน่ารัก เป็นมิตรและพูดจาไพเราะน่าฟัง
เรารู้ว่าไม่มีอะไรคงทนแน่นอน แต่มันคงจะดีมากๆ ถ้าแบบเก่ามันดีขนาดนั้น แล้วมาถึงรุ่นนี้มันจะดีขึ้นไม่ใช่แย่ลง ถึงจะอย่างนั้นก็ตามประเทศไทยก็ยังคงเป็นประเทศที่ฉันรักที่สุด แม้จะไม่ได้น่ารักมากมายเหมือนสมัยก่อน ก็ได้แต่หวังว่าพวกเราทุกคนจะรักษาสิ่งดีๆ ต้นแบบดีๆ ที่อ่อนโยนต่อกันและกันให้ได้เหมือนที่บรรพบุรุษเราเคยทำไว้ให้พวกเราหลายรุ่นได้เห็น
วันนี้ฟังคำสอน จาก #ศาสตราจารย์_คุณรัญจวน_อินทรกำแหง ในหัวข้อ สุข-ทุกข์เลือกได้!...ถ้าเข้าใจ"กฎ"นี้?

ที่คุณป้าศรีเมตตาส่งมาให้ฟัง ท่อนหนึ่งท่านกล่าวไว้แล้วฉันถึงกับย้อนกลับไปฟังหลายๆ รอบ คือ ท่านบอกว่าไม่รู้ว่าหลายๆ คนจะแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นหรือทะเลาะเบาะแว้งหรือเอาเปรียบกันทำไม เพราะผลสุดท้ายแล้วทุกคนก็ต้องไปอยู่จุดเดียวกัน นั้นคือวันที่หมดลมหายใจและเหลือแค่ร่างกายที่นอนนิ่งและขยับไม่ได้ แม้แต่ลมหายใจเรายังเปลี่ยนแปลง ยังไม่ได้อยู่กับตัวเราตลอดไป .
ดีนะ ฟังแล้วมันทำให้เราหยุดชะงักความอยากหลายๆ อย่าง ท่านว่าทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เวลามีความสุข หลายๆ คนก็อยากกอดมันไว้ มีความทุกข์ก็อยากให้เวลามันผ่านไปเร็วๆ แต่ถ้าสังเกตดีๆ ทั้งทุกข์และสุขไม่เคยอยู่คงทนถาวรเลย มันเปลี่ยนได้เสมอเหมือนกัน ก็คงจะเหมือนนิสัยใจคอของคนเราสมัยนี้เหมือนกันแหละเนาะ แต่คงจะดีถ้าเราดูลึกๆ ของคำสอนของท่านว่า จะใจร้าย ด่าทอหรือพูดไม่ดีต่อกันทำไม เพราะสุดท้ายทุกคนก็ต้องไปถึงจุดจบที่เหมือนกันคือลาจากจากร่างกายสมมุติอันนี้้เหมือนกันทุกคน
#เมืองไทย #คนไทยในต่างแดน #คนไทยในเยอรมัน

29/10/2025

ในโลกยุคใหม่..
Feminine ทำพลังงานตัวเองให้เป็น Masculine
ใช้พลังงานหยาง มากกว่าพลังงานหยิน
ลงมือทำ ใช้กำลัง มากกว่ารับ หยุดให้ตัวเองพัก
Control มากกว่า Nurturing
ไม่รู้วิธี อนุญาต ให้ตัวเองได้รับการดูแล

จึงไม่ต้องแปลกใจ
ว่าทำไม ความสัมพันธ์บนโลก ถึงไม่ยั่งยืน
พบ คบ เลิก หาคนใหม่ ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า

ความจริงแล้ว ไม่มีอะไรฝืน ธรรมชาติ ได้เลย
ถ้าไม่เข้าใจในสิ่งนี้ ก็ต้องเรียนรู้ ไปเรื่อยๆ
จนกว่าวันหนึ่งที่เข้าใจ ธรรมชาติ
และ ทำให้ตัวเอง Flow ไปตามธรรมชาติ
นั่นแหละ ทุกอย่างจึงจะลงตัว อย่างสวยงาม

How to Make it Right = เข้าใจกฎธรรมชาติ
แล้วพบกันใน Workshop ต้นเดือนนี้ค่ะ ❤️

รายละเอียด Workshop
https://www.facebook.com/share/p/1BquXrRgmE/

29/10/2025

เคยถามตัวเองบ้างไหม...

ทำไมฉันทำให้ตัวเองเสียใจ
ทำไมชีวิตฉันวนลูปเป็นวงกลม
ทำไมฉันต้องเจอคนที่ใจร้ายกับฉัน
ทำไมฉันไม่เคยเข้าใจตัวเอง
ฉันจะไปทางไหนต่อดี แล้วต้องทำอย่างไร
เราใจดีกับตัวเองบ้างไหม
ยิ้มครั้งสุดท้ายแบบมีความสุขจริงๆ เมื่อไหร่
เราเป็นความรัก เป็นความจริงให้กับตัวเราแล้วหรือยัง

เพราะ Love Yourself ของเราไม่เท่ากัน แล้วอะไรคือสิ่งที่ใช่

ถ้าเธอสงสัยในตัวเอง หมดหวัง เสียใจ ปลดปล่อย ”เธอคนนั้น“ ตัวตนที่แท้จริงของเรา ให้ความรักในตัวเองได้เป็นดอกไม้ที่เติบโต

คำตอบคือ

+มองเห็นสิ่งที่อยู่ในตัวเอง เพราะเธอคือ only one in the world
+ ยอมรับทุกความไม่เพอร์เฟคในตัวเอง
+ใช้ใจเปิดรับทุกความรู้สึก เพื่อรักตัวเองให้มากขึ้น
+ สร้างความสุขเล็กๆจากตัวเองให้เป็น
+ เลิกมองแค่ปัญหา แต่หาทางออก
+เลิกสร้างเงื่อนไขเพื่อรักตัวเอง และคนอื่น
+มีขอบเขตกับทุกความสัมพันธ์
+ไม่คาดหวังจากคนอื่น แต่โฟกัสตัวเอง 100%
+เชื่อว่าเราคู่ควรที่จะได้รับความรักดีๆ ถ้าเราเป็นความรักที่ดีในตัวเอง

จากคนที่ใช้เวลาตลอด 7 ปี ทุ่มเททุกอย่างเพื่อรักตัวเองให้เป็น วันนี้เราทำได้แล้ว ขอส่งต่อเรื่องราวให้ทุกคนได้ค้นหาคำตอบเป็นของตัวเอง

🩷ตามหาคำตอบที่แท้จริง ของคำว่า รักตัวเองไม่เสียใจเลยสักวัน
🩷Unconditional Love รักที่บริสุทธิ์ที่เราเข้าใจคืออะไรกันแน่ แล้วสิ่งที่เข้าใจมาทั้งชีวิตตอบคำถามการใช้ชีวิตเราจริงๆหรือเปล่า
🩷ฮีลใจที่จริงใจกับตัวเอง ให้ตัวเรากลายเป็น ความรักดีๆมันเป็นแบบไหน
🩷ตัวตนจริงๆของเรา ที่กำลังรอวันเติบโตอย่างสดใสคืออะไร
🩷ความลับ(ที่ไม่ลับ) จาก universal tool ให้จักรวาลนำทาง จาก Western Astrology / Birth Chart พร้อม Journal Book และ Manual แบบละเอียด ที่ใครๆก็ใช้ได้

ค้นหาความจริงเพื่อ Love Yourself Speak Your Truth ไปกับ universe นี้ และ เป็นตัวเองแบบ No Filter


🛍️PRE-ORDER : The Flowers Inside You เพราะทุกคนมีดอกไม้ที่รอวันเบ่งบาน มาทำให้เธอคนนั้นได้แสดงออกให้โลกรู้

หนังสือเล่มแรกในชีวิตของ Bee Kanpatsorn เจ้าของเพจ Wonderful4Hearts และ SingAlongToJourney

📆Period 29.10.2025-14.11.2025
📒Book Only 789
📖Journal Only 333
Special Price Book+Journal 999
(จากราคาเต็ม 1,122 บาท)

How To Order : DM inbox page

E-Book 299 THB
E-Journal 99 THB
📱14.11.2025 พร้อมกันที่ MEB BOOK, ReadAwrite

🎁 Special for Event Only
🛒 สั่งจองในงาน Bangkok Magic Market 2025
รับ package Bloom Your Self-Love ผ่าน Birth Chart 222 บาท ฟรี! จำนวนจำกัด 5 slots

📆 15.11.2025
📍บ้านธรรมดา SRT สายสีแดง สถานีดอนเมือง




#หนังสือน่าอ่าน #หนังสือฮีลใจ #รักตัวเองดีสุด #ฮีลใจ