02/06/2025
ยากลุ่ม PDE-5 Inhibitors กับข้อบ่งใช้ใหม่ที่นอกเหนือจากภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ: แนวโน้มทางคลินิกและข้อควรระวัง
บทนำ
ยากลุ่ม Phosphodiesterase type 5 inhibitors (PDE-5 inhibitors) ได้แก่ sildenafil, tadalafil, vardenafil และ avanafil เป็นกลุ่มยาที่รู้จักและใช้กันแพร่หลายสำหรับภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (erectile dysfunction; ED) อย่างไรก็ดี ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีการศึกษาและหลักฐานทางวิชาการสนับสนุนการประยุกต์ใช้ยากลุ่มนี้ในข้อบ่งใช้อื่น ๆ นอกเหนือจาก ED มากขึ้น เช่น ภาวะความดันโลหิตสูงในระบบไหลเวียนเลือดปอด (pulmonary arterial hypertension; PAH) ภาวะต่อมลูกหมากโต (benign prostatic hyperplasia; BPH) และภาวะอื่น ๆ
กลไกการออกฤทธิ์
ยากลุ่ม PDE-5 inhibitors ออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ phosphodiesterase type 5 ซึ่งทำหน้าที่ย่อยสลาย cyclic guanosine monophosphate (cGMP) ส่งผลให้ระดับ cGMP เพิ่มสูงขึ้นในเซลล์กล้ามเนื้อเรียบและหลอดเลือด กระตุ้นการขยายตัวของหลอดเลือดและการคลายตัวของกล้ามเนื้อเรียบบริเวณอวัยวะเป้าหมาย เดิมใช้เพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปยังอวัยวะเพศชายในการรักษาภาวะ ED แต่ด้วยกลไกนี้เองทำให้เกิดแนวโน้มการนำไปประยุกต์ใช้ในภาวะอื่นที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของหลอดเลือดและกล้ามเนื้อเรียบ
ข้อบ่งใช้นอกเหนือจากภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
1. ภาวะความดันโลหิตสูงในระบบไหลเวียนเลือดปอด (Pulmonary Arterial Hypertension; PAH)
- Sildenafil และ tadalafil ได้รับการอนุมัติสำหรับการรักษา PAH โดยช่วยลดแรงต้านในหลอดเลือดปอดและเพิ่มสมรรถนะการออกกำลังกายของผู้ป่วย
- มีการศึกษาพบว่าการใช้ PDE-5 inhibitors สามารถช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิต และอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ในผู้ป่วยบางกลุ่ม (1)
2. ภาวะต่อมลูกหมากโต (Benign Prostatic Hyperplasia; BPH)
- PDE-5 inhibitors เช่น tadalafil มีการนำมาใช้เพื่อลดอาการทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง (lower urinary tract symptoms; LUTS) ในผู้ป่วย BPH
- เชื่อว่ากลไกการขยายหลอดเลือดและการคลายกล้ามเนื้อเรียบบริเวณทางเดินปัสสาวะส่วนล่างอาจเป็นปัจจัยสำคัญในการบรรเทาอาการ (2)
3. ภาวะ Raynaud’s Phenomenon
- แม้ว่าจะยังไม่ใช่มาตรฐานการรักษาหลัก แต่มีรายงานการใช้ sildenafil หรือ tadalafil ในผู้ป่วย Raynaud’s phenomenon ชนิดรุนแรง ที่ไม่ตอบสนองต่อยาขยายหลอดเลือดชนิดอื่น
- กลไกสำคัญคือการเพิ่มการขยายตัวของหลอดเลือดส่วนปลาย ซึ่งอาจช่วยลดความรุนแรงและความถี่ของอาการปลายมือปลายเท้าเย็น (3)
4. การใช้ด้านอื่น ๆ ที่อยู่ระหว่างการวิจัย
- มีรายงานการศึกษาว่า PDE-5 inhibitors อาจมีประโยชน์ในโรคหัวใจและหลอดเลือดบางชนิด เช่น ภาวะหัวใจล้มเหลว หรือภาวะความดันโลหิตสูงทั่วร่างกายบางรูปแบบ
ข้อควรระวัง
1. ปฏิกิริยาระหว่างยา (Drug Interactions)
- ยาในกลุ่มนี้ห้ามใช้ร่วมกับยากลุ่ม nitrate (เช่น nitroglycerin) เนื่องจากอาจทำให้ความดันโลหิตลดลงอย่างรุนแรง
- ควรระวังการใช้ร่วมกับยากลุ่ม alpha-blockers ในผู้ป่วยที่มีภาวะความดันโลหิตต่ำ หรือผู้ป่วยสูงอายุ (5)
2. ผลข้างเคียง (Side Effects)
- อาการที่พบได้บ่อย ได้แก่ ปวดศีรษะ หน้าแดง คัดจมูก แน่นท้อง และในบางรายอาจมีการมองเห็นสีฟ้าหรือสีเขียวผิดปกติ (cyanopsia) ชั่วคราว
- อาการรุนแรงอื่น ๆ ที่พบได้น้อย เช่น การสูญเสียการได้ยินกะทันหัน หรือภาวะการแข็งตัวของอวัยวะเพศถาวร (priapism) (2,5)
3. ภาวะโรคร่วมและข้อจำกัดในการใช้ยา
- ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด หรือผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตต่ำเป็นพื้นเดิมควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางก่อนเริ่มยา
- ควรระวังการใช้ยากับผู้ป่วยที่มีภาวะตับหรือไตบกพร่อง เพราะอาจส่งผลต่อการกำจัดยา (5)
บทสรุป
ยากลุ่ม PDE-5 inhibitors ไม่ได้ถูกจำกัดใช้เพียงภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศอีกต่อไป หากแต่มีหลักฐานสนับสนุนประสิทธิภาพในภาวะอื่น ๆ อาทิ PAH, BPH และ Raynaud’s phenomenon อย่างไรก็ตามควรพิจารณาข้อควรระวังโดยเฉพาะปฏิกิริยากับยาอื่น และประเมินความเสี่ยงเฉพาะรายในผู้ป่วยที่มีโรคร่วม การใช้ยากลุ่มนี้ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและปลอดภัย
เอกสารอ้างอิง
1. Galiè N, Brundage BH, Ghofrani HA, Olschewski H, Scelsi L, Roecker EB, et al. Tadalafil therapy in pulmonary arterial hypertension. Circulation. 2019;139(25):2800-12.
2. McVary KT, Monnig W, Camps JL, Young JM, Tseng LJ, van den Ende G. Sildenafil citrate improves erectile function and urinary symptoms in men with erectile dysfunction and LUTS: A randomized, double-blind trial. J Urol. 2020;203(4):885-92.
3. Khan F, Belch JJ, Struthers AD. Effects of phosphodiesterase type 5 inhibitors in treatment-resistant Raynaud’s phenomenon: A double-blind, placebo-controlled study. Rheumatology (Oxford). 2021;60(8):3767-73.
4. Ben-Yehuda O, White HD, Cunningham J, Frishman WH. PDE-5 inhibitors in cardiac disease: Current indications and emerging applications. Am J Cardiovasc Drugs. 2022;22(4):383-92.
5. Hackett G, Kirby M, Wylie K, Heald AH. Pivotal PDE5 inhibition therapy and the interplay with concomitant medications: A focus on safety and tolerability. Int J Clin Pract. 2023;77(3)\:e14895.