07/07/2025
มัดรวม 200 เรื่อง ที่คนทำงาน และคนทำธุรกิจต้องรู้ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต จากงาน CTC2025
🎯 และนี่คือ #มัดรวม200 บทเรียนสำคัญสำหรับอนาคตในการทำธุรกิจ และการทำงาน จากสปีคเกอร์ที่ตั้งใจคัดเนื้อหาแบบเข้ม ๆ มาฝากถึงคุณผู้อ่านทุกคน ในงาน SUPALAI Presents CREATIVE TALK CONFERENCE 2025 “THE FUTURE IS WORTH A THOUSAND WORDS
1. ในฐานะหัวหน้าเราไม่เพียงแต่ดึงสมรรถภาพออกมาเพียงเท่านั้น แต่ต้องคำนึงถึงความเป็นมนุษย์ของเพื่อนร่วมงานด้วย Leads with Empathy
2. ทักษะสมัยนี้รอบด้านมาก แต่สิ่งที่ต้องมีคือ Commitment และ ความเป็น Professional องค์กรจะเก็บคนที่พร้อมจะ Commit ทำให้บรรยากาศในองค์กรมันดี หัวหน้าต้องทำมากกว่าเดิมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์เท่าเดิม ใครที่ไม่ทำงานนอกเขตหัวหน้าอาจจะไม่เลือกเก็บไว้
3. ยุคปัจจุบันนี้ ในการจัดการการทำงานคือเราไม่ควรแต่รับผิดชอบการงานการเงินของตัวเอง แต่เราควรมองถึงเรื่องการพัฒนาตนเองด้วย การที่ทักษะเราสูงขึ้น ทำให้งานเราดีขึ้น และสามารถยกระดับทางการเงินของเราได้
4. ต้องให้คนทำความเข้าใจว่า Empathy ไม่ได้แปลว่าสงสาร อยากให้ทุกคนตระหนักว่าคุณไม่ใช่คนเดียวที่อยู่ท่ามกลางมรสุม ทุกคนมีความเหนื่อย และมีภาระที่ต่างกัน อย่าลืมดูแลสภาพจิตใจตนเองก่อนจะดูแลจิตใจคนอื่น และเรียนรู้ที่จะเอาใจเขามาใส่ใจเราเพื่อความสัมพันธ์ที่ดีต่อทุกฝ่าย
5. หากพูดถึงงาน Creative (ความคิดสร้างสรรค์) เราสามารถคิดอะไรมาก็ได้ แต่เมื่อนำความคิดมาใช้ในการแก้ไขสถานการณ์หน้างาน (Improvise) เราต้องสามารถวัดค่า ROI (ตัวชี้วัดประเมินความคุ้มค่าของการลงทุน) ได้ด้วย ไม่เช่นนั้นอาจไม่ควรค่าแก่การทำตั้งแต่แรก
6. ศัพท์ใหม่ Reinvention คือ การรื้อแล้วจินตนาการว่า ถ้าเรารื้อแล้วเราทำสิ่งนี้ขึ้นมาใหม่ จะเป็นอย่างไร โดยใช้เอไอเข้าไปทำให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นมาใหม่
7. การจะคิดงานครีเอทีฟ ต้องคำนวณให้เป็น ครีเอทีฟที่ดีต้องเริ่มต้นจากคณิตศาสตร์ หากทำแล้วรู้สึกว่า “ไม่อิมแพ็ค” อย่าไปทำ เพราะจะเสียเวลา “ทุกอย่างต้องเป็นธุรกิจ”
8. Great Ideas Prove ROI (ไอเดียที่ดี สะท้อนผลตอบแทนที่ดี) เปรียบเสมือนกับลูกคิดที่แสดงสื่อว่า การทำงานออกมาสักชิ้น ทุกอย่างผ่านการคำนวณมาแล้ว เช่น อัตราการขายในหนึ่งชั่วโมง จะขายออกไป 500 ชิ้น และสินค้าที่เราทำจะมีผู้ซื้อรออยู่ 4,000 ราย
9. สิ่งสำคัญอยู่ที่ Judgement ของมนุษย์ ในฐานะ Creative เราจะมองว่า เราจะถูก AI ทำให้ตกงานรึเปล่า? แต่สุดท้ายคนที่มี Judgement ที่ดี ก็จะสามารถทำงานร่วมกับ AI ได้
10. แรงกระตุ้นจากโซเชียลมีเดียมีเยอะมากขึ้น ผู้คนสมาธิสั้นมากขึ้น จดจ่อหน่อยลง การทำการตลาดในยุคนี้ จึงเรียกว่า New Reality
11. เทคนิคที่เราใช้ต้อง Catch Attention ต้องทำคอนเทนต์สั้น ฮุค แรง ถ้า Long Form ต้องแบ่งเป็นพาร์ทๆ ได้ แบรนด์ต้องทั้งไวและลึก
12. เพราะลูกค้าไม่ได้จำว่า “เราพูดอะไร” แต่จะจำว่า “มีความรู้สึก”อย่างไรต่อแบรนด์ เมื่อลูกค้าเกิดความรู้สึกต่อแบรนด์ ก็จะจำแบรนด์ได้
13. ต้องทำให้เขาเห็นความคุ้มค่าของเรา ซึ่งความคุ้มค่าของผู้บริโภคจะอยู่ที่ฟังก์ชัน โดยลูกค้าจะมองว่าจะใช้ประโยชน์ได้อย่างไร หรือ แบรนด์นี้ทำยังไงให้ชีวิตเขาดีขึ้น ซึ่งแบรนด์ต้องทำให้ลูกค้าตระหนักได้ว่า “จะใช้เราให้คุ้มค่าได้อย่างไร” โดยต้องมองว่า “ลูกค้ามองว่าเราคุ้มอย่างไร”
14. แต่ต้องยอมรับว่าต่อให้ลูกค้ารักเรา เขาก็รักคนอื่นได้ ในการทำสิ่งต่าง ๆ เราจึงต้องคิดว่าจะสร้าง Love กับแบรนด์ หรือสร้าง Conversion อะไรจากเขา จึงคิดสิ่งนั้นออกมาให้ตอบโจทย์
15. Survival Mode ของนักการตลาดที่อาจจะถูกจำกัดงบมากขึ้น แต่อย่าให้คุณภาพและคุณค่าของแบรนด์ลดลงเด็ดขาด
16. คำแนะนำสำหรับ “Survival Mode” ของนักการตลาด
- ต้องเลือกสิ่งที่เป็น Core ให้กับลูกค้า และพยายามทำให้จุดนั้นแข็งแรง
- ทำยังไงก็ได้ให้สินค้าของเราเป็นตัวเลือกที่ง่ายสำหรับลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่าย
- อย่าหยุดสร้างแบรนด์ และ Keep Connection กับลูกค้าให้เป็นแบรนด์ที่จับต้องได้
17. การเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมยานยนต์เกิดขึ้นทุกวัน ปัจจุบันตลาดอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ยอดขายรถใหม่ในปีที่แล้วลดลงเหลือเพียง 570,000 คัน จากเดิมกว่า 1 ล้านคัน
18. Al Everywhere: อยู่ในรถ มือถือ บ้าน และที่ทำงาน
19. ร้านอาหารเปิดใหม่ปิดตัวใน 1 ปี มากกว่า 50% เหมือนสตาร์ทอัพเลย ค่อนข้างจะเป็นธุรกิจที่เหนื่อยมากๆ เป็น High Risk, Low Return แต่ร้านอาหารก็ยัง Over Supply อยู่ในประเทศไทย ธุรกิจร้านอาหารกำลังเผชิญความยากลำบาก ยอดขายลดลงจากวันละ 5 หมื่นบาท ตอนนี้เหลือเพียง 2 หมื่นบาท หรือลดลงกว่าครึ่ง
20. สิ่งที่น่ากังวล คือ เมื่อเราคิดว่าเราทำเพื่อขยาย การบริหารการจัดการต้องทำให้ดี และต้องเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้ได้ อาจจะต้องมีการจดทะเบียน ควรทำบัญชี ควรทำบันทึกให้ดี เพื่อที่จะเข้าแหล่งเงินทุนเพื่อการขยายให้ได้ และเข้าสู่ตลาดทุนได้ง่ายมากขึ้น เพราะฉะนั้นต้องมีเทคโนโลยีที่ถูกต้อง
21. โลกของเรากำลังจะกลายพันธุ์ คือโลกที่เราเกิดและโตมา เราเรียกว่า Post-World Order ตั้งแต่หลังสงครามโลก เรามีพี่ใหญ่เป็นสหรัฐฯ ที่เขาไปสร้างฐานทัพทางทหารไปทั่วโลก เรื่องที่สองคือ Globalization / Free Trade agreement / WHO ที่ทุกคนเชื่อมั่น จีนเป็น Supply หลักของโลก อยากจะบอกว่าสิ่งเหล่านี้กำลังกลายพันธ์ุ มันไม่ใช่ Post-modern แต่มันคือ Pre Something World ที่กำลังกลายพันธุ์ คือ พัฒนาไปตรงกันข้ามกับสิ่งที่เคยเป็นมา ให้จำคำใหม่ว่า regionalization ก็คือแต่ละ area ก็จะจับมือกัน เป็นเขตเศรษฐกิจ
22. อย่าหลงทิศ ต้องกลับมาถามธุรกิจองค์กร ว่าบริษัทเราตอบโจทย์ world order ได้ไหม Direction ต้องสำคัญ
23. “ความสามารถในการรู้เทคโนโลยีสำคัญมาก ห้ามตกรถ! ทุกคนในองค์กรต้องใช้ AI ทำงาน” ทุกบริษัทควรเป็น AI-first Company AI ที่ใช้แทนคนต้องมากขึ้น คนต้องลดลง ถ้าไม่ทำบริษัทนั้นช้ากว่ามากแล้ว
24. หัวใจการอยู่รอดในยุคเปลี่ยนผ่าน
- ใช้เทคโนโลยีให้เป็น หาทางเข้าถึงทุน
- อย่าหลงทิศทางโลก ต้องมองให้ขาด
- ลดจำนวนคน แต่เพิ่มศักยภาพ
- ธุรกิจใดปรับตัวก่อน = รอดก่อน
25. Mindfulness ให้คำจำกัดความสั้นๆง่าย ๆ คือ การเอาใจมาอยู่กับปัจจุบัน มี 3 องค์ประกอบ คือ Awareness อยู่กับปัจจุบัน และไม่ตัดสิน
26. รู้เขา รู้เรา: หัวหน้าต้องเป็นผู้นำในเรื่องนี้ ให้ทุกคนทบทวนกับตัวเอง เขาในที่นี้คือ Culture ให้เป็น เรื่องปกติขององค์กร คนที่เข้ามาทำงานใหม่จะ blend in แบบไม่ให้ Weird มาก แล้วมันจะเป็นสิ่งที่ดี ดังนั้น Mindfulness ต้องง่ายจึงจะทำได้
27. การทำ Active Listening ฟังแล้วต้องทวน การเคลื่อนจไหวที่ช้าลงทำให้สมองทำงานได้ดีขึ้น หลายครั้งสิ่งที่ง่ายจะถูกด้อยค่า และสิ่งที่ง่ายคือสิ่งที่ Impact ที่สุด การทำสิ่งสำคัญคือการเอามือถือออกไปก่อน ในญี่ปุ่นมีการเก็บมือถือก่อนทำงานด้านความคิดสร้างสรรค์ เพื่อไม่ให้ไขว้เขวตอนทำงาน
28. สิ่งที่ง่ายที่สุด คือสิ่งที่ยากที่สุด ศัตรูที่ท้าทายที่สุดของ mindfulness คือ โทรศัพท์มือถือ หากเป็นไปได้ หากจะมีการประชุมที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ให้นำมือถือไว้ข้างนอกไว้ก่อน
29. Mindfulness ทำงานเมื่อร่างกายเรามีการจดจ่ออยู่กับปัจจุบัน เหมือนกับการเปลี่ยนรางรถไฟ ที่มีการปรับเบรก ทำให้เราได้เบรกตัวเอง และทำให้ตัวเรารู้สึกผ่อนคลาย ยิ่งเราฝึกฝนตลอดจะเป็นการฝึกให้เราโฟกัสและแม่นยำขึ้น เมื่อเวลาที่เราเครียดความคิดเราจะวิ่งเหมือนระเบิดที่วิ่งไปมา
30. แนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในโลกโฆษณาปี 2030
แนวโน้มที่ 1 -> โฆษณาแบบเดิมจะมีอยู่…แต่ก็จะมีรูปแบบใหม่เช่นกัน หนังโฆษณาผ่านมากี่ยุคสมัยมันยังมีอยู่ แต่มันอาจจะมีรูปแบบการเล่าใหม่ ๆ เพราะบางครั้งสั้นก็ไม่ได้ตอบโจทย์เสมอไป อีกหนึ่งรูปแบบที่น่าเรียนรู้ในเครื่องมือใหม่ ๆ คือ Immersive Experience
31. แนวโน้มที่ 2 -> มนุษย์จะยังมองหาอะไรเดิม ๆ แต่จะซับซ้อน เข้าใจยากมากขึ้น ในสมองของมนุษย์จะเริ่มซับซ้อนมากขึ้น เข้าใจยากขึ้น คาดเดาได้ยากขึ้น ซึ่งเป็นความท้าทายมาก ๆ ทั้งความเชื่อ, มุมมอง, เหตุผล, ทัศนคติ
32. แนวโน้มที่ 3 ->. เมื่อโลกเต็มไปด้วย AI ความเป็นมนุษย์จะกลับมามีคุณค่า ปัจจุบันคอนเทนต์เชิง AI มันมากขึ้น เราเห็นลิง Vlog ได้แล้ว, เห็นพระ AI แล้ว และมีอีกหลาย ๆ อย่าง ดังนั้น อะไรที่ดูธรรมดาวันนี้ อีก 5 ปีข้างหน้ามันอาจจะมีคุณค่าในวันข้างหน้าได้
33. แนวโน้มที่ 4. -> โฆษณาจะเน้นที่ผลลัพธ์ แต่ความสร้างสรรค์ยังเป็นหัวใจสำคัญ คุณเพิร์ทย้ำถึงงานที่ได้ไป Cannes Lions ในระดับโลกยังคงให้คุณค่ากับความคิดสร้างสรรค์ แม้ในยุคที่ AI จะรวดเร็วแค่ไหนก็ตาม แต่ความคิดสร้างสรรค์ยังเป็นหัวใจสำคัญ
34. หัวใจหลัก 7E FOR 2030 BRANDS แนวทางสำหรับแบรนด์เพื่อรับมือโลกโฆษณาในปี 2030
- 1. ENTERTAIN - สร้างความสนุก ให้คนอยากดู อยากแชร์
- 2. EMOTION สร้างความผูกพันด้วยความรู้สึก
- 3. EDGE มีจุดยืนที่เฉียบ แตกต่าง จำง่าย.
- 4. EXCLUSIVITY ทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่า….ฉันพิเศษ
- 5. ETHICS โปร่งใส และรับผิดชอบต่อสังคม
- 6. EMERGENCE เปิดใจรับสิ่งใหม่ กล้าลองก่อนคนอื่น
- 7. EMPATHY เข้าใจมนุษย์….ให้ลึกกว่าข้อมูล
35. Mindfulness เสริมในการพัฒนาทักษะโดยส่งผลต่อ psychological capital โดยมองถึงเรื่องความหวัง ความผ่อนคลาย เมื่อสมองผ่อนคลายจะเพิ่มความสามารถในเรื่องของ creativity มากขึ้น สามารถปรับใช้ในองค์กรโดยแนวคิด รู้เขารู้เรา
36. มอง mindfulness ให้ง่ายขึ้น โดยมองเป็น Mindfulness + something ยกตัวอย่าง Eating + Mindful ลองเปลี่ยนจากทานข้าวพร้อมกับดูหนัง ดูมือถือ เป็นการค่อย ๆ ทาน และคิดทบทวนไปเรื่อย ๆ ทำให้เราได้มีเวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น
37. 3 สิ่งที่ทำให้ประเทศพัฒนา
- MAN การพัฒนาคนให้เก่ง ทำให้เกิดการพัฒนาในองค์กร โดยควรเสริม Critical thinking และ Creativity ให้มากขึ้น
- Technology ถึงแม้เทคโนโลยีจะพัฒนาขึ้นไปแต่ใช่ว่าเราต้องหยุดพัฒนา ควรดูว่าเทคโนโลยีที่เราสร้างนั้น Scalable แล้วหรือยัง และมี Trust and Secured มากพอหรือยัง
- Energy เป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนโลกใบนี้ โดยให้เราใส่ใจว่าพลังงานที่เรามีนั้นมี Sustainability และ Security มากพอมั้ย
38. สิ่งสำคัญในการจะพัฒนาประเทศ คือการวัด skills ของบุคลากร โดยเราต้องไม่วัด skills เพียงเฉพาะบุคลากร หรือประชนในระบบการศึกษาเท่านั้น แต่เรามีความจำเป็นที่จะต้องวัด skills ของประชากรทั่วไปด้วย เพราะการที่คนเรามี skills มากพอจะทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่จะช่วยในการพัฒนาประเทศได้
39. การท่องเที่ยวในประเทศไทยมีโอกาสที่จะเติบโต เพราะการท่องเที่ยวต่างจากกลุ่มแพลตฟอร์มดิจิทัลตรงที่ว่า การท่องเที่ยวต้องเข้ามาสัมผัสด้วยตัวเองถึงจะสามารถสัมผัสประสบการณ์นั้น ๆ ได้ นอกจากปัจจัยพื้นฐานที่จะสามารถดึงดูดการท่องเที่ยวแล้ว เราต้องใส่ใจในปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดการปรับตัวของมนุษย์ อาทิเช่น กระแสท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หรือ การไปคอนเสิร์ตที่มีคนให้ความสนใจมากขึ้น
40. การเกิด Digital Economy ทำให้ประเทศเพื่อนบ้านเห็นโอกาสของตลาด ทำให้เกิดการเข้ามาลงทุนในตลาดประเทศไทย เป็นการแย่งงานของ SMEs ประเทศไทย จากผลนี้ทำให้เกิดการปรับตัวจนเกิด AI-Driven Economy
41. ปัจจุบันเราเข้าสู่ช่วงสงครามล่าอาณานิคมแบบไม่ใช้กำลัง โดยสู้ผ่านนวัตกรรมที่เกิดขึ้นในโลก การที่เราจะแข่งในสนามนี้ได้ คือการตั้งกลยุทธ์เชิงรับและเชิงรุก–การที่ต่างชาติเราเข้ามาลงทุน เราควรมีนวัตกรรมที่ตั้งรับได้
42. ทุกคนสามารถใช้ AI ได้หมด แต่ไม่สามารถคาดหวังได้ว่าทุกคนจะใช้งาน AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมือนกับ Excel ที่สร้างมานาน แต่ความสามารถในการใช้งานของแต่ละคนไม่เท่ากัน เป็นต้น สำหรับองค์กร AI ต้องเข้าไปอยู่ใน Workflows ของการทำงาน เพื่อให้กระบวนการราบรื่นไม่มีสะดุด ใครมาใหม่สามารถทำงานต่อได้เลย AI สำหรับธุรกิจ มีเพื่อสอดรับความต้องการ และแก้ PainPoint ของลูกค้า
43. หลายธุรกิจไม่จำเป็นต้องใช้ AI แต่สามารถใช้โอกาส และประสบการณ์ที่มีสร้าง AI เพื่อช่วยให้การทำธุรกิจในครั้งต่อไปง่ายขึ้นได้ กล่าวคือ สร้าง AI เพื่อทำซ้ำในงานที่เราเคยทำไปแล้วนั่นเอง
44. สำหรับประเทศไทย ตลาด AI ลูกค้ามีความรู้มากขึ้น ผู้ประกอบการ AI ไม่จำเป็นต้องสร้างฐานผู้รู้ ผู้เล่นในตลาดมีความอยากรู้ อยากใช้ แต่ไม่ถึงกับเจอแล้วอยากใช้งานเลย แต่แค่ “สนใจ” ซึ่งถือเป็นความท้าทายของผู้ประกอบการในการพัฒนา AI ในอนาคต
45. AI ทำไม่ได้อยู่ 2 เรื่องคือ บริบทที่มากเกินไป คือมันวิเคราะห์ดาต้าแต่เราไม่สามารถอัปโหลดทั้งหมดได้ เช่น ทำหน้าหงุดหงิด AI ก็ไม่รู้เรื่อง คือเราสามารถวิเคราะห์ได้ว่าดาต้านั้นมาใช้บริบทอะไร กับงานที่มัน specific ดีเทลมาก ๆ จะไม่คุ้มที่จะเทรนเอไอให้มันทำงานนี้
46. 3-5 ปี คือความช้าของตลาด AI ในประเทศไทย เมื่อเทียบกับตลาด AI ต่างประเทศ ดังนั้น สำหรับผู้ประกอบการที่อยากจะกระโดดเข้ามาในตลาด AI Economy ต้องมอง Global Demand ให้ออกก่อน
47. การจัดการเงินสำคัญกว่าแค่คิดว่าต้องเก็บเงินสด เมื่อเศรษฐกิจไม่แน่นอน เราควรมีเงินสำรองไว้ เท่าที่รู้ว่าหากมีเหตุจำเป็นเราจะต้องอยู่รอดด้วยการเก็บเงินสดแค่ไหน เงินสดจำเป็นต้องเก็บ แต่ต้องเก็บที่จำเป็น แล้วเอาที่เหลือไปลงทุน
48. ฟังคนอื่นให้น้อยลง มนุษย์ทุกคนควรมี Play book ของตัวเอง เพราะแต่ละคนมีจุดมุ่งหมายและความสำคัญที่แตกต่างกัน ควรวางแผนระยะ 6 เดือนถึงจะเพียงพอต่อการเก็บสำรองฉุกเฉิน
49. สารตั้งต้นสมการการเงิน รายได้หายคือเสี่ยงเลย ช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่ควรลงทุน “จงโลภเมื่อคนอื่นกำลังกลัว จงกลัวเมื่อคนอื่นกำลังโลภ”
50. ที่สำคัญกว่าการเก็บเงินสด คือการพัฒนาตนเอง เพราะทรัพย์สินที่ดีที่สุดที่คนหนึ่งพึงมี คือความรู้ความสามารถ ถ้าเรามี ไม่ว่าสถานการณ์อะไรจะเกิด เราจะไปหาเงินสดได้
51. ถ้ากำลังตัดสินใจลงทุน ควรมีหลักการ หรือเลือกลงทุนอย่างไร อย่างแรกลงทุนในความรู้ ความเสี่ยงจริง ๆ คือ สิ่งที่เราไม่รู้ การลงทุนมีความเสี่ยงจริง แต่เสี่ยงเพราะเราไม่รู้ ถ้าเรารู้ว่าลงทุนให้หุ้นเสี่ยงอย่างไร ในพันธบัตร ในอสังหา เสี่ยงอย่างไร เราจะจัดการได้
52. การลงทุน มีองค์ประกอบ หรือที่เรียกว่า แก้ว 3 ประการ ได้แก่ เงินต้น ผลตอบแทนทบต้น และระยะเวลาในการลงทุน เราต้องมากำหนดว่า เราต้องการลงทุนด้วยเงินต้นแบบไหน ลงทีละน้อย หรือลงตูมทีเดียว แล้วต้องการผลตอบแทนแบบไหน
53. กฎ 72 ถ้าลงทุนได้ผลตอบแทนเท่าไหร่ ให้หารด้วย 72 จะรู้ว่าจะได้ผลลัพธ์เป็นสองเท่าในระยะเวลากี่ปี ถ้าต้องการลงทุนเอง ถ้าต้องการให้ได้ผลตอบแทนอย่างน้อย 15% ต่อปี ก็ต้องมาถามตัวเองว่าจะลงทุนแบบไหน หรือถ้าไม่ต้องการคิดเยอะ ไม่ต้องการศึกษาเพิ่มมาก ผลตอบแทนโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 8% ต่อปี ลงทุนในพอร์ตทั่วไป
54. เราไม่จำเป็นต้องกลัวเงินเฟ้อ เพราะเราทำอะไรกับมันไม่ได้ มันขึ้นก็ขึ้นอย่างนั้น สิ่งที่เราทำได้คือหาเงินให้เพียงพอ ชีวิตที่มีความสุขคือมีเงินเพียงพอ เมื่อข้าวของแพงขึ้นก็ต้องหาเงินมากขึ้น เพราะเราก็ยังอยากกิน เราไม่สามารถต่อสู้เงินเฟ้อได้
55. ลงทุนก็ต้องลงทุน ภาระก็ต้องมี เราจะทำอย่างไร แบบนี้เราไม่ได้ต้องเลือก ก หรือ ข เราเอาทั้งคู่ได้ โดยจัดการให้เหมาะสม เอาภาระตั้งก่อน โดยภาระก็ต้องแยกว่า ภาระที่จำเป็นจริง ๆ กับ ภาระที่หาเรื่อง
56. การเงินต้องมีวินัย คนที่ไม่ยอมรับว่ามีปัญหาการเงินจะยิ่งมีปัญหาการเงิน ถ้ายอมรับและมีวินัย รับผิดชอบได้ อย่างไรก็จัดการได้
57. Step การสัมภาษณ์คน
- Criteria : รู้ว่าคนที่เราจะจ้างมาในตำแหน่งนั้น ๆ ต้องมี criteria อะไร เช่น ถ้าจะยิง ads ยิงใน platform ไหนได้บ้าง ถ้าได้ platform เท่านี้ควรจะได้เงินเดือนเท่าไหร่
- Training : ส่งพนักงานไปอบรม เช่น ในช่วงโปร ก็จะส่งพนักงานไปเรียน เพราะเจ้านายประเมินว่าความสามารถของพนักงานที่จ้างไม่ถึงในบางหัวข้อ
- Compensation : คุยเรื่องเงินเดือน โดยอ้างอิงจาก criteria ที่ทำได้ว่าทำได้เท่าไหร่
- Planning : ดูว่าพนักงานคนนั้นสามารถวางแผนที่จะทำงาน ของงานนั้นๆ ได้หรือไม่
- Opportunity : พูดคุยเรื่องโอกาสในการเติบโตของพนักงานคนนั้นๆ
(ถ้าคนเก่งที่เค้าสามารถไปที่ไหนก็ได้ เจ้านายจะมีการโน้มน้าวอย่างไรเพื่อให้พนักงานคนเก่งนั้นๆ สามารถอยู่ได้)
58. Leader’s use of Self : การคัดคนเข้าทำงานมีความสำคัญ ถ้ามี Mindset ว่าอยากทำงานสบาย อาจจะส่งผลให้เราเลือกพนักงานที่อยากทำงานสบาย ๆ เข้ามา
59. ธุรกิจประกอบด้วย “การตลาด การบริหาร การเงิน” คนที่เริ่มต้นจะบอกว่า การตลาดเป็นเรื่องยาก แต่ถ้าเป็นเจ้าของธุรกิจแล้วจะรู้ว่าเรื่องยากคือ เรื่องคน
60. CEO ของบริษัทใหญ่ระดับ 500 แรกของโลก กี่เปอร์เซ็นต์โดนไล่ออกในปีแรก คำตอบคือ 25% สิ่งที่น่าสนใจคือตอนรับสมัครก็รู้ว่าเขาเก่งหรือไม่ และไม่อยากให้ต้องไล่ออก อะไรคือ gap ที่ทำให้ผลลัพธ์ที่ทำได้กับคาดหวังต่างกัน gap นั้น คือ “การบริหารคน”
61. หลักในการใช้ AI คือ บรีฟเคลียร์ น้อง AI ชอบหัวหน้าที่จู้จี้จุกจิก การ prompt จะไม่สั้น ๆ ยิ่งเคลียร์มากเท่าไหร่ ก็จะทำให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพเท่านั้น
62. Purpose-Driven Content Framework กรอบคิดที่ช่วยให้ธุรกิจมีเป้าหมายและสร้างพลังจากเรื่องราวของตัวเอง
[Extract Your Origin Story]
จุดเริ่มต้นของคุณคืออะไร? ปัญหาอะไรที่เคยกระทบใจคุณจนอยากลงมือเปลี่ยนแปลง?
[Define Your Revolution]
การเริ่มต้นทำธุรกิจ เราไม่รู้ว่ามันจะสร้างคุณค่าได้อย่างไร ด้วยการดึงเอาความสนุกบางอย่างในใจออกมาได้ แค่ระหว่างทางเราต้องรู้ว่าเราทำไปเพื่ออะไร
[Share Your Journey]
สุดท้ายแล้วแชร์เส้นทางของคุณ หาความกล้าหาญของเราให้เจอเพื่อเอาชนะเสียงในใจ และวันนี้ที่เราทำลงไป เราเก่งกว่าเมื่อวานได้ เราเก่งมาก ๆ แล้ว สนุกกับมัน มองหาความอินในการทำงาน อย่าเครียด จนทำให้เราไม่จอยกับสิ่งที่เราทำ
63. สิ่งที่จะทำให้เราไม่สูญเสีย Purpose: จอยในสิ่งที่ทำ แม้ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม เพราะเราไม่ควรเกิดมาทำงาน แล้วเครียดไปวัน ๆ เท่านั้น จึงต้องจอยกับมัน รวมถึงคิดให้ได้เสมอว่า ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่วันแรก และต้องให้เวลาตัวเองในการทำสิ่งต่าง ๆ เยอะ ๆ ลองผิดลองถูก ค่อย ๆ เริ่มจากกำลังที่เรามี ซึ่งจะส่งผลที่ดีกับเราในสักวันหนึ่งอย่างแน่นอน
64. Reskill คนในองค์กรให้เข้าใจเรื่องความยั่งยืน เพื่อให้คนในองค์กรช่วยคิดว่าจะสามารถปรับองค์กรมาเป็นองค์กรที่ยั่งยืนได้อย่างไร สำหรับคนที่เริ่มทำองค์กร ก็พยายามคิดตั้งแต่แรกเลยว่าจะทำให้ความยั่งยืนเข้าไปในกระบวนการต่าง ๆ หรือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้อย่างไร
65. Geopolitics มีผลอย่างไรต่อการลงทุน ผลจาก Geopolitics หุ้นจะลงอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อผ่านไปประมาณ 1 เดือน หุ้นจะกลับมาขึ้น การที่หุ้นในตลาดร่วงลงไปจาก Geopolitics จะต้องดูว่าตัวหุ้นที่เราซื้อเกี่ยวข้องกับตัวสงครามหรือไม่ ? หากไม่เกี่ยวยังไงอีกหนึ่งเดือนข้างหน้าหุ้นก็ขึ้น และมีโอกาสจะขึ้นหนักด้วย
66. การเกิด Geopolitics เป็นการเปลี่ยนผ่านด้านสำคัญของประเทศ การที่ประเทศแต่ละประเทศเกิดการเติบโตทางด้านอุตสาหกรรม ทำให้ความร่วมมือในหลากหลายประเทศอ่อนแอลง และทำให้เกิด conflict ในประเทศร่วมด้วยซึ่งส่งผลต่อความหันเหทางตลาดหุ้นโดยตรง โดยสำหรับตัวกลางที่เป็นเหมือนหลุมหลบภัยของทั่วโลกคือ “ทองคำ”
67. การเข้ามาของ AI กลับไม่ได้ถูกมองว่าจะลดรายได้ของพนักงาน แต่เป็นการลดต้นทุนของผู้ประกอบการมากกว่า และอาจจะมีการเติบโตของรายได้มากขึ้นได้
68. ตลาดหุ้นประเทศสหรัฐอเมริกายังดีอยู่ เนื่องจากตลาดหุ้นอาจเป็นตัวเดียวที่แบกประเทศสหรัฐไว้ รวมถึงทั้ง ทอง และ Bitcoin คุณทรายมองว่าเป็นตัวที่น่าลงทุนทั้งคู่ หากมองว่าราคาวันนี้แพงมาก ให้ลองมองไปอนาคตจะแพงขึ้นเท่าไหร่
69. ทองคำเป็นทรัพย์สินที่ไม่มี Perform แต่มีการเติบโต Bitcoin เองก็เช่นกัน โดยทองคำตอนนี้กลายเป็นสิ่งที่มาทดแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ตอนนี้ทองคำเริ่มขุดยากจึงทำให้มีการเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ และ Bitcoin อาจมีแนวโน้มขึ้นในอนาคต
70. ในอนาคต Quality จะเป็นสิ่งสำคัญในการขายของ เพราะไม่ใช่แค่ลูกค้าที่ต้องการ แต่แพลตฟอร์มก็ต้องการคอนเทนต์ ที่มี Quality เช่น คุณภาพสินค้าที่ดี รายละเอียดที่ชัดเจน Seller ที่สามารถบอกข้อดี ข้อจำกัดของสินค้า และบอกเล่า Personal Brand ให้ลูกค้ารู้ได้
71. คู่มือสำหรับ “นักป้ายยา” ในการเลือกขายสินค้าบางครั้งแค่ “รู้ใจ” อาจไม่พอ ต้อง “รู้ตลาด” ด้วยว่าแต่ละแพลตฟอร์มสินค้าที่ขายดี คือ สินค้าอะไร ยกตัวอย่างยอดขายสินค้าที่ขายดีบน Shopee และ Lazada ใน Q1-2025 อันดับ 1 หมวดสินค้า Health & Beauty อันดับ 2 หมวดสินค้า Fashion และอันดับ 3 หมวดสินค้า Food & Beverage, Groceries
72. อย่าคิดว่า “คนเข้ามาเยอะแล้ว” หรือ “ไม่ทันแล้ว” เพราะผู้ขายนั้นเข้าสู่การตลาดออนไลน์ทุกปี แต่ผู้ที่ไม่ล้มเลิกนั้นสามารถประสบความสำเร็จได้ เพราะโอกาสนั้นมีตลอดเวลา ถึงแม้ว่าไม่อาจรับประกันความมั่นคง แต่เรายัง “ทัน” เสมอ และเรา “ทันตลอดเวลา”
73. สินค้าที่กำลังเป็นที่นิยมใน E-Commerce มีดังนี้
- อันดับ 1: Health & Beauty
- อันดับ 2: Fashion
- อันดับ 3: Home & Living เช่น อาหาร
- อันดับ 4: Electronics
- อันดับ 5: Food & Beverage, Groceries
74. “ไม่มีสูตรสำเร็จสำหรับการทำธุรกิจ” MarTech ถูกออกแบบมาเพื่อให้เราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้นให้ดูว่า MarTech ไหนที่จะสามารถ “อุด” รอยรั่วของคุณได้มากที่สุด จากนั้นดูที่ราคาและคุณสมบัติที่คุณรับได้ ที่สำคัญ คือ “ควรลอง MarTech ทุกระบบที่มี ก่อนลงทุนและตัดสินใจซื้อเสมอ”
75. At this point, people are so obsessed with the AI that Some customers can’t tell the difference so they feel confident talking to the AI, but they can ask an AI to talk to a human, like if they said “I want to talk with human” it will change from talking to AI to human. (For Hubspot)
76. When businesses don’t have any end goal in mind, they can’t start so the Hubspot is helping them to do so, what is their end goal in mind, without having the end goal in mind we might be using the wrong technology resulting in abandoning those projects mid way.
77. Shift the focus from thinking of it on the department level into looking at it in the customer journey, understanding them, and measuring how long the customer needs to be in the journey. Putting customers first would be the first step.
78. คนจะรักเรา (หรือแบรนด์เรา) ไม่ใช่เพราะเราเก่งหรือดูดี แต่เพราะ “เราให้คุณค่า” อย่างสม่ำเสมอ และ “อยู่ตรงนั้นเสมอ” ในเวลาที่เขาต้องการ ความรักในความหมายของแบรนด์ เท่ากับความไว้วางใจที่สะสมมาตลอด
79. ความกล้า ที่ซีคอนมีอีเวนต์มากมาย เราลงมือทำแล้วเดี๋ยวความกล้าจะตามมา ความกล้าเปรียบเหมือนโบนัส ที่เราทำสิ่งนั้นอย่างไม่มั่นใจใตอนแรก ทำให้รู้ว่าความกลัวไม่ใช้อุปสรรค ความกล้าไม่ใช้ความรู้สึก ทำซ้ำ ทำบ่อยให้เกิดความกล้าขึ้นมา
80. นิยามของความเก่งและความอดทนมันเปลี่ยนไป ความเก่งแปลว่า skill (ในยุคเก่า) ความอดทนคือต้องอยู่กับการยากลำบาก ตอนนี้มันเปลี่ยนไป ความเก่งคือ identity ตัวตนของเขาคือสิ่งที่ผู้คนเห็น เขาต้องการให้เห็นความเก่งของเขาในทุก ๆ ด้าน เรื่องงาน เรื่องส่วนตัว
81. ความพึงพอใจของลูกค้า คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้องค์กรสามารถยืนหยัดอยู่ได้ในสภาพเศรษฐกิจเช่นนี้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องค้นหาวิธีการที่จะรักษาความพึงพอใจของลูกค้าไว้ให้ได้อยู่เสมอ องค์กรต้องพร้อมปรับตัวอย่างต่อเนื่อง และรักษามาตรฐานการให้บริการหรือคุณค่าให้มั่นคง เพื่อให้ลูกค้ายังคงนึกถึงและเลือกเราอยู่เสมอ
82. ในช่วงวิกฤตการใช้เงินอย่างฉลาดเป็นสิ่งสำคัญ เช่น เมื่อจะลงทุน ต้องเลือกและประเมินความเสี่ยงอย่างละเอียด เตรียมตัวให้พร้อมกับโอกาสที่จะมาในอนาคตอยู่เสมอ รวมถึงดูแลพนักงานให้ดี เพราะ ‘คน’ เป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจ
83. คนเจนนี้เติบโตมากับการถูกเปรียบเทียบ มนุษย์ชอบเปรียบเทียบเป็นเรื่องธรรมดา แต่เราแก้ได้ ด้วยการเข้าใจว่า "ไม่มีใครมีภาพที่สวยงามแบบในโซเชียลตลอดเวลา"
84. Extrovert ชอบคิดว่า Introvert ช้า ทำอะไรไม่ทันใจ กลับกัน Introvert ก็ชอบคิดว่า Extrovert ทำอะไรไม่คิดเลย เราแค่มีวิธีที่แตกต่างกัน วันนี้เราไม่ควรมองคนแค่ ทักษะ แต่ควรมองที่ "ความเป็นตัวตน" ของเขาเพื่อเข้าใจให้มากขึ้น
85. ไม่ว่าจะ Rolex ที่หากลุ่มเป้าหมายเจอในสงครามและ Onisika ที่หา Purpose เจอจากการทำ innovation กับ Product ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนสร้างแบรนด์ก็สำเร็จได้เหมือนกัน
86. มองว่าการเลือกพาร์ทเนอร์ก็เหมือนการเลือกเพื่อน เปรียบเป็นเหมือนกลุ่มเพื่อนเราก็จะรู้ว่าเพื่อนบางคนก็เป็นเพื่อนทำกิจกรรม หรือเพื่อนที่รู้จักผ่าน ๆ ถ้าเป็นการรับเป็นพาร์ทเนอร์ ก็เหมือนเราเลือกเพื่อนสนิทมาทำงานด้วย
87. luxury mindset คือการที่เราไม่ปล่อยสูตร เพราะถ้าเราปล่อยสูตรให้คนอื่น จะมีคนเอาไปดัดแปลงได้ และจะทำให้สูตรพังได้
88. หาโอกาสแล้วทำในสิ่งที่ยักษ์ใหญ่มองไม่เห็น กระดุมเม็ดแรก ของคนไทย คืออยากรวย แต่ในโลกธุรกิจที่ผ่านมา มีใครทำธุรกิจเพราะอยากรวยมั้ย สตีฟ จ๊อบทำ Apple เพราะอยากรวยหรือเปล่า เราต้องแก้ปัญหาให้ชีวิตมนุษย์ Passion คือการสร้าง Spirit ให้กับมนุษย์
89. การขายของออนไลน์ในปัจจุบันนั้นมีหลากหลายรูปแบบ จำแนกออกเป็น 5 ประเภท
- Marketplace commerce คือ การตลาดยุคแรกเริ่มเป็นการเชิญชวนให้คนมาเปิดร้านบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ
- Video Commerce คือ การที่มีคนรีวิวสินค้าให้ผู้บริโภค เน้นกระตุ้นให้ผู้บริโภคซื้อสินค้า เช่น TikTok Shop
- Live Commerce คือ การขายของผ่านการถ่ายทอดสด ซึ่งเป็นการขายแบบเร่งปฏิกิริยาของผู้ซื้อ ทำให้ผู้ซื้อรู้สึกว่าต้องซื้อในทันที
- Chat commerce คือ การขายของผ่านการสนทนา เช่น การเข้ามาปรึกษา และการถามหาสินค้าของลูกค้า
- Quick commerce เกิดจากความต้องการของผู้คน ในปัจจุบันนอกจากจะเน้นความสะดวกสบายแล้ว ผู้บริโภคยังให้ความสำคัญกับความรวดเร็ว ก่อให้เกิดการขายประเภท delivery
90. Personalization สิ่งที่เราตั้งโจทย์เลยคือ Personalization คืออะไรสำหรับ OR และลูกค้าต้องการอะไร ในยุคนี้คนไม่ต้องการรอนาน กว่าจะหาโปรโมชั่นนานจนไม่เอาและ ปัจจุบันมันต้องรวดเร็วและเรียลไทม์เมื่อมาอยู่ที่หน้าร้าน
91. ในอนาคต Quality จะเป็นสิ่งสำคัญในการขายของ เพราะไม่ใช่แค่ลูกค้าที่ต้องการ แต่แพลตฟอร์มก็ต้องการคอนเทนต์ ที่มี Quality เช่น คุณภาพสินค้าที่ดี รายละเอียดที่ชัดเจน Seller ที่สามารถบอกข้อดี ข้อจำกัดของสินค้า และบอกเล่า Personal Brand ให้ลูกค้ารู้ได้
92. คู่มือสำหรับ “นักป้ายยา” ในการเลือกขายสินค้าบางครั้งแค่ “รู้ใจ” อาจไม่พอ ต้อง “รู้ตลาด” ด้วยว่าแต่ละแพลตฟอร์มสินค้าที่ขายดี คือ สินค้าอะไร ยกตัวอย่างยอดขายสินค้าที่ขายดีบน Shopee และ Lazada ใน Q1-2025 อันดับ 1 หมวดสินค้า Health & Beauty อันดับ 2 หมวดสินค้า Fashion และอันดับ 3 หมวดสินค้า Food & Beverage, Groceries
93. Marketing Intelligence คือ การเห็น รู้ เข้าใจ และเลือกการทำการตลาดอย่างชาญฉลาด
94. ทำการตลาดอย่างชาญฉลาด คือ การผนวกผลลัพธ์สามข้อแรกออกมาเป็นการทำการตลาดที่ตรงโจทย์และตรงกลุ่ม โดยนำเครื่องมือ MarTech มาช่วย
95. ครีเอทีฟมีบรีฟ ถ้าบรีฟที่เราไม่เชื่อ ไม่สนุก จะนำมาซึ่งงานเจ๋ง ๆ ไม่ได้ ครีเอทีฟที่ดี ต้องไปดูที่บรีฟก่อน เราต้องตั้งคำถามกับบรีฟว่าบรีฟนี้ใช้ได้จริงหรือเปล่า ผลลัพธ์สุดท้ายจะไปคล้องจองกับโจทย์ที่เราตั้งไว้
96. ถ้าเราอยากจะเป็นมนุษย์ครีเอทีฟ เราต้องเอาตัวเองอยู่กับความไร้ระเบียบ ความปั่นป่วนบ้าง คนเหล่านี้หายากขึ้นเรื่อย ๆ และเราจะเป็นคน Creativity
97. วงการ Creative ไม่สามารถคิดเหมือนกันได้ เพราะถ้าทำเหมือนกัน ทุกอย่างก็จะเหมือนกัน บางครั้งช่อง Youtube 200 Views อาจจะทำให้เกิดงานใหม่ขึ้นมา บางครั้งก็ต้องคิดไม่เหมือนคนอื่นบ้าง
98. บางครั้งมนุษย์ไม่ใช่ไม่มีไอเดีย แต่เราอยู่ด้วยความกลัว เราไม่อยากออกนอกกลุ่ม สิ่งที่ทำให้ไม่กลัวคือ ยืนหัวแถวให้บ่อย การยืนหัวแถวอาจจะไม่เวิร์ค เราแค่ต้องการลองทำดู บางทีการที่มีหางแถวไม่กี่คนอาจจะมีผลต่อชีวิตเรามาก
99. คุณค่าของการมีชีวิตอยู่ คือเราทำอะไรสักอย่างในแบบที่เราเชื่อและทำในสิ่งที่เราอยากทำจริง ๆ ไม่ต้องหวังว่าจะเปรี้ยง บางทีวงการนี้รันไปได้ด้วยคนที่ไม่ได้หวังว่าจะเปรี้ยง เราต้องซื่อสัตย์และจริงใจกับตัวเอง
และกล้าที่จะทำสิ่งนั้นไม่ใช่เพื่อโลกและวงการ แต่เพื่อยืนยันการมีอยู่
100. เทคนิคการคิดงานแบบมี Creativity ตอบโจทย์ก่อนรับบรีฟ
- ตั้งคำถามกับบรีฟ: ที่ได้รับต้องเอ๊ะก่อนว่าบรีฟมาแบบนี้ไปต่อได้มั้ย
- สำรวจบรีฟ: เขียนบรีฟมาอย่างไร ผลลัพธ์สอดคล้องกับโจทย์ที่ตั้งไว้หรือไม่
- เช็กบรีฟ: ดูว่าตรงวัตถุประสงค์มั้ย มีความถูกต้องแค่ไหน
อ่านต่อให้ครบแบบจุก ๆ 200 ข้อ ได้ที่
http://creativetalkconference.com/200-bullet-points-from-ctc2025
ใครที่อยากรับชมแบบจัดเต็ม
สามารถซื้อบัตรรับชมย้อนหลังทุกเซสชันเพิ่มเติมได้ที่
👉 https://bit.ly/3TRATke
#การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย #ททท #สุขทันทีที่เที่ยวไทย #ธุรกิจสร้างสรรค์ #มัดรวม100