
13/08/2025
[Research Talk] สมุนไพรแช่เท้าให้อะไรมากกว่าที่พวกเราคิด โดยเฉพาะในกลุ่มคนไข้ความดันโลหิตสูง
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง (Quasi-experimental research) แบบสามกลุ่มเปรียบเทียบก่อนและหลังการทดลอง
มีวัตถุประสงค์เพื่อ
1) เปรียบเทียบค่าความดันโลหิตก่อนและหลังการทดลอง
2) เปรียบเทียบค่าความดันโลหิตระหว่างกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลอง
3) ศึกษาความพึงพอใจต่อการแช่เท้าตำรับสมุนไพร ประกอบด้วย ผิวมะกรูด ตะไคร้หอม เหง้าขมิ้นชัน ใบมะขาม ใบเปล้าใหญ่ พิมเสน และเกลือสินเธาว์
ในกลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้ที่มีค่าความดันโลหิต ≥140/90 mmHg ที่มารับบริการคลินิกโรคเรื้อรัง โรงพยาบาลพนา จังหวัดอำนาจเจริญ จำนวน 150 คน คัดเลือกแบบเจาะจงตามเกณฑ์คัดเลือก แบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 50 คน ได้แก่ กลุ่มนั่งพัก 15 นาที กลุ่มแช่เท้าน้ำอุ่น 5 นาที และกลุ่มแช่เท้าสมุนไพร 5 นาที ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มแช่เท้าสมุนไพรมีค่าความดันโลหิตซิสโตลิกลดลงจาก 156.00 mmHg เป็น 133.48 mmHg ลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p= 0.029)
ขณะที่กลุ่มแช่เท้าน้ำอุ่นมีค่าความดันไดแอสโตลิกลดลงอย่างมีนัยสำคัญ (p= 0.002) แต่กลุ่มนั่งพักไม่พบความแตกต่างที่มีนัยสำคัญ เมื่อเปรียบเทียบระหว่างกลุ่ม พบว่าค่าความดันโลหิตซิสโตลิกในกลุ่มแช่เท้าสมุนไพรต่ำกว่ากลุ่มนั่งพักและแช่เท้าน้ำอุ่นอย่างมีนัยสำคัญ (p< 0.001) ความพึงพอใจต่อการแช่เท้าสมุนไพรอยู่ในระดับมาก
ดังนั้น การแช่เท้าสมุนไพรด้วยระยะเวลา 5 นาที ในช่วงอุณหภูมิ 38–40°C สามารถช่วยลดค่าความดันโลหิตซิสโตลิกได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความพึงพอใจในระดับสูงแก่ผู้เข้าร่วม เป็นกิจกรรมทางเลือกอีกหนึ่งที่ปลอดภัย สามารถประยุกต์ใช้ในการส่งเสริมสุขภาพของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงได้ในระดับชุมชนและสถานบริการสุขภาพปฐมภูมิ
ขอบคุณข้อมูลจาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/ttm/article/view/274110
#แพทย์แผนไทยประยุกต์ #แพทย์แผนไทย
#สุขภาพดี #การแพทย์ทางเลือก