
30/08/2025
มุมมองว่าเราจะทำอย่างไรให้ “ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์รุนแรงไม่ถูกทำร้ายซ้ำ” โดยเฉพาะผ่าน forensic interview ซึ่งเป็นการสัมภาษณ์เชิงนิติวิทยาศาสตร์ที่ออกแบบมาเพื่อลดการซักถามซ้ำ ๆ
เมื่อกฎหมายกลายเป็นบาดแผลซ้ำ: บทเรียนจาก Unbelievable
ซีรีส์ Unbelievable บน Netflix เรื่องจริงของ “มารี” เด็กสาวที่กล้าลุกขึ้นมาแจ้งความว่าตัวเองถูกข่มขืน แต่สิ่งที่เธอได้รับกลับไม่ใช่ความช่วยเหลือหรือการปกป้อง กลับเป็นการถูกซักถาม ถูกกดดัน ถูกมองด้วยสายตาไม่เชื่อใจ จนสุดท้ายเธอถูกกล่าวหาว่าโกหก ทั้งที่ความจริงคือเธอเป็นผู้เสียหาย
สิ่งที่น่าเจ็บปวดที่สุดในเรื่องนี้ ไม่ใช่แค่การที่เธอถูกทำร้ายในครั้งแรก แต่คือการที่ “กระบวนการทางกฎหมาย” ที่ควรจะช่วย กลับทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกทำร้ายซ้ำอีกครั้ง
เมื่อการสอบสวนกลายเป็นบาดแผล
ในคดีความรุนแรงทางเพศ ผู้เสียหายมักถูกเรียกไปเล่าเหตุการณ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า รายละเอียดเล็กน้อยที่ต่างออกไปในแต่ละครั้ง กลับถูกตีความว่าเป็น “พิรุธ” หรือ “ความไม่น่าเชื่อถือ” ทั้งที่ในความจริงแล้ว การที่ความจำไม่ต่อเนื่องเป็นเรื่องปกติของคนที่เพิ่งผ่านเหตุการณ์กระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรง
“การถูกทำร้ายซ้ำ” ที่มองไม่เห็น
สิ่งนี้ในทางจิตวิทยาเรียกว่า secondary victimization หรือ “การเป็นเหยื่อซ้ำ” หมายถึงการที่ผู้เสียหายไม่ได้รับการเยียวยา แต่กลับต้องเจอกับความสงสัย คำพูดที่ตัดสิน หรือกระบวนการที่ทำให้เจ็บปวดเพิ่มขึ้น
* ต้องเล่าเรื่องซ้ำ ๆ ทั้งที่แผลใจยังสด
* ถูกถามด้วยท่าทีที่ไม่เชื่อ
* ถูกมองว่าตัวเอง “ไม่น่าไว้ใจ” หรือ “อาจแต่งเรื่อง”
สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้เสียหายรู้สึกเหมือนถูก “ข่มขืนซ้ำ” ในมิติทางใจ
เราเรียนรู้อะไรจากเรื่องนี้?
บทเรียนจาก Unbelievable คือ ระบบกฎหมายและคนในสังคมจำเป็นต้องเปลี่ยนมุมมองและวิธีการทำงานใหม่
* การทำงานที่เข้าใจบาดแผลทางใจ” (trauma-informed)
* ลดการซักถามที่ไม่จำเป็น และหาวิธีเก็บข้อมูลอย่างเคารพ
* ใช้ภาษาที่ฟังดูปลอดภัยและเชื่อใจ แทนที่จะทำให้รู้สึกถูกสงสัย
* และที่สำคัญ…ต้องเห็นผู้เสียหายในฐานะ “คนที่เจ็บปวดและต้องการการเยียวยา” ไม่ใช่ “ผู้ต้องหาที่ต้องพิสูจน์ตัวเอง”
บาดแผลที่ไม่ควรเกิดขึ้น
Unbelievable เป็นซีรีย์เตือนใจเราว่า ด้วยกระบวนการที่เป็นมิตรต่อผู้เสียหาย เราสามารถปกป้องทั้งความจริงในคดี และหัวใจที่บอบบางของผู้ที่ผ่านเหตุการณ์รุนแรงไปพร้อมกัน