30/11/2023
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับไรฝุ่นที่ชาวภูมิแพ้ควรรู้ มาดูกันเลยค่ะ
++ "ไรฝุ่น" คือสารก่อภูมิแพ้ที่พบมากที่สุดในผู้ป่วยภูมิแพ้
++ ที่นอน 1 หลังอาจมีไรฝุ่นอาศัยอยู่มากกว่า 2 ล้านตัว
ไรฝุ่นถือเป็นศัตรูอันดับ 1 ของชาวภูมิแพ้ที่รบกันไม่เคยชนะสักที ซึ่งไรฝุ่นเป็นแมลงขนาดเล็ก ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ขนาดแค่ 0.3 มม. เท่านั้นสามารถปะปนอยู่กับฝุ่นตามพื้นบ้าน ห้องนอน ที่นอน หมอน พรม และเครื่องเรือนต่างๆ โดยเฉพาะบ้านหรือห้องนอนที่มีความอับชื้นอากาศไม่ถ่ายเท ซึ่งไรฝุ่นกินจุเหล่านี้ มักกินเศษผิวหนังและรังแคเป็นอาหาร จากนั้นจะถ่ายมูลไว้ในสถานที่ที่อาศัยอยู่ โดยเฉพาะบนเตียง หรือที่นอน ซึ่งเป็นแหล่งสะสมของตัวไรฝุ่นและมูลของไรฝุ่น
ไรฝุ่นตัวเล็กมีมากกว่าที่คิด!
ในฝุ่นบ้าน 1กรัม สามารถพบไรฝุ่นได้ถึง 500ตัว
น้ำหนัก 1ใน 10ของหมอนเก่าอายุ 6ปี มาจากไรฝุ่นและมูลของไรฝุ่น
ในที่นอน 1หลัง มีไรฝุ่นอาศัยอยู่ประมาณ 2ล้านตัว
มูลของไรฝุ่นสามารถฟุ้งกระจายได้ง่ายและลอยเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจของเราในขณะนอนหลับ
เติบโตได้ดีที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียสและชอบความชื้น โดยเฉพาะบนร่างกายของมนุษย์
มูลไรฝุ่นเป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้อาการภูมิแพ้และโรคหอบหืดกำเริบจนควบคุมอาการได้ยาก
กำจัดไรฝุ่นอย่างไรไม่ให้ภูมิแพ้กำเริบ ?
1. ซักปลอกหมอน และผ้าปูที่นอน 1-2สัปดาห์ ด้วยน้ำร้อน 55-60องศาเซลเซียส เพื่อฆ่าไรฝุ่น และใช้ผ้าคลุมที่นอนและหมอนเพื่อกันไรฝุ่น
2. ใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีคุณภาพดี ถ้าเป็นไปได้ควรใช้เครื่องที่มี HEPA filter ด้วย- มีการระบายอากาศในห้องนอนเพื่อลดความชื้น อย่างน้อยควรเปิดประตูหน้าต่างห้องนอนวันละ 1ชั่วโมง ดีกว่าปิดห้องไว้ตลอดเวลา
3. ทำความสะอาดบ้านและห้องนอนด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ
4. ไม่ควรปูพรม ไม่ควรใช้เฟอร์นิเจอร์ที่หุ้มด้วยผ้าและผ้าม่านในห้องนอน
5. ไม่ควรเก็บของเล่นจำพวกตุ๊กตาขนนิ่มๆ ในห้องนอน ถ้ามีควรทำความสะอาดด้วยน้ำร้อน 55-60องศาเซลเซียส หรือแช่แข็งเพื่อฆ่าไรฝุ่น
6. ไม่ควรนำสัตว์เลี้ยงเข้าไปในห้องนอน เพราะรังแคจากสัตว์เลี้ยงเป็นอาหารที่ดีของไรฝุ่น
7. นำที่นอน หมอน และพรม ตากแดดจัดๆ ประมาณ 3ชั่วโมงขึ้นไป จะช่วยฆ่าตัวไรฝุ่นได้
อย่างไรก็ตาม หากเกิดอาการผิดปกติใดๆ ก็อย่านิ่งนอนใจ ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้ เพื่อหาทางรักษาได้อย่างทันท่วงที
Cr. BDMS, PPTV