
16/09/2025
🌟 เทรนด์แรงในยุคนี้
"ฉีด Growth hormone เพิ่มความสูงให้ลูก"
หลายครอบครัวอาจได้ยินบ่อยขึ้นว่า “มีการฉีด Growth hormone เพื่อให้ลูกสูง”
ฟังแล้วเหมือนจะง่าย แต่จริงๆ นี่คือ "ดาบสองคม" ที่มีทั้งด้านดีและด้านที่อาจทำร้ายลูกเราได้ หากใช้ผิดที่ผิดทาง ⚖️
วันนี้จะมาเล่าเรื่อง Growth hormone ฉบับเข้าใจง่ายๆ
สรุปให้ฟัง 5 ข้อครับ
============================
1. 🔎 Growth hormone คืออะไร?
2. 💉 การฉีด Growth hormone ใช้ในใครบ้าง?
3. 👩⚕️ เพราะอะไรการฉีด Growth hormone ถึงต้องอยู่ในมือหมอเด็กเฉพาะทางต่อมไร้ท่อเท่านั้น?
4. 🌿 วิธีเพิ่ม Growth hormone แบบธรรมชาติ
5. 📢 ข่าวจากเกาหลีใต้ คำเตือนเรื่องการใช้ Growth hormone เกินความจำเป็น
============================
1. 🔎 Growth hormone คืออะไร?
Growth hormone เป็นฮอร์โมนการเจริญเติบโต
ที่หลั่งจากต่อมใต้สมองส่วนหน้า
หลั่งมากตอน “หลับลึกช่วงต้นคืน” และจะหลั่งเพิ่มขึ้นตอนเด็กกำลังโต
🌱 หน้าที่ของ Growth hormone
ไม่ได้ทำแค่เรื่อง “ความสูง” แต่มีบทบาทกว้างกว่านั้นมาก
• 🦴 กระดูก → กระตุ้นแผ่นการเจริญเติบโต ทำให้เด็กสูงขึ้น
• 💪 กล้ามเนื้อ → ช่วยสร้างโปรตีน เพิ่มความแข็งแรง
• 🔥 ไขมัน → สลายไขมันสะสมมาใช้เป็นพลังงาน
• 🍚 น้ำตาล → ต้านฤทธิ์อินซูลิน ถ้ามากเกินไปเสี่ยงดื้อต่ออินซูลินและเป็นเบาหวาน
• กักเก็บน้ำ โซเดียม และฟอสเฟต มีผลต่อความดันและการทำงานของหัวใจ
📌 จะเห็นว่า Growth hormone คือฮอร์โมนที่คุมทั้งการเจริญเติบโตและเมตาบอลิซึม
👉 ถ้าขาดไป; ร่างกายจะโตช้า ไขมันสะสมผิดปกติ
👉 ถ้ามากเกินไป; ก็อาจนำไปสู่โรคต่างๆได้เช่นกัน
============================
2. 💉 การฉีด Growth hormone ใช้ในใครบ้าง?
เพื่อให้เห็นภาพเข้าใจง่ายๆ ขอแบ่งเป็น 3 กลุ่มครับ
👶 กลุ่มที่ 1: เด็กที่ “ขาด Growth hormone จริงๆ” เช่น
• เด็กที่เป็นโรคขาดฮอร์โมนนี้ตั้งแต่กำเนิด (Growth hormone deficiency)
• หรือโรคบางอย่างที่ทำให้ต่อมใต้สมองทำงานผิดปกติ
➡️ เด็กเหล่านี้คือ "ขาดจริงๆ"
การฉีดฮอร์โมนนี้ คือ การเติมของที่ขาดให้กลับมาพอดี
ทำให้ร่างกายเจริญเติบโตได้ใกล้เคียงเด็กปกติและถือว่าปลอดภัย
⸻
👦 กลุ่มที่ 2: เด็กที่ไม่ได้ขาด Growth hormone แต่ตัวเตี้ยไม่ทราบสาเหตุ (Idiopathic Short Stature – ISS)
คือ เด็กที่ตัวเล็กกว่าเกณฑ์ชัดเจน (เช่น ความสูงต่ำกว่าเปอร์เซ็นไทล์ที่ 3)
แต่ตรวจแล้วไม่พบโรคทางต่อมไร้ท่อ เมตาบอลิซึม หรือโรคอื่นๆ ที่อธิบายความเตี้ยได้
📌 จุดสำคัญคือ
• การฉีด Growth hormone ในกลุ่มนี้ยังเป็นเรื่องถกเถียง ไม่ใช่ข้อบ่งชี้ชัดเจน
• ผลลัพธ์ไม่แน่นอน หลังฉีดหลายปี บางคนสูงขึ้น 4–10 ซม. แต่บางคนแทบไม่เปลี่ยนแปลงเลย
❗ และที่ต้องย้ำคือ เด็กกลุ่มนี้ “ไม่ได้มีโรค”
ดังนั้นก่อนตัดสินใจ ต้องชั่งน้ำหนักให้รอบคอบว่า…
• ประโยชน์ที่อาจได้ มากพอจะคุ้มกับความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายหรือไม่?
• การเริ่มฉีด ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของหมอต่อมไร้ท่อเด็กเท่านั้น เพื่อช่วยประเมินอย่างละเอียดว่า “ควรเริ่มหรือไม่ควรเริ่ม”
⸻
🧑 กลุ่มที่ 3: เด็กที่ไม่ได้ขาด Growth hormone และไม่ได้เตี้ยกว่าปกติ
เพียงแต่อยาก “สูงกว่าที่เป็นอยู่”
กลุ่มนี้คือกลุ่มที่ หมอต่อมไร้ท่อเด็ก
❌❌❌ ไม่แนะนำให้ฉีดอย่างเด็ดขาด ❌❌❌
➡️ เพราะ…
• ❌ การฉีด Growth hormone ในเด็กกลุ่มนี้ ไม่มีใครการันตีได้ ว่าจะสูงขึ้นจริงมั้ย หรือจะสูงกี่เซนติเมตร (ไม่มีข้อมูล)
• ⚠️ แต่สิ่งที่อาจเกิดขึ้นคือความเสี่ยงจากการมี Growth hormone มากเกินไป
⚠️ ความเสี่ยงเมื่อ Growth hormone มากเกินไป
1️⃣ 🦴 กระดูก → แผ่นการเจริญเติบโตถูก"เร่งมากเกิน"
→ เกิดกระดูกสันหลังคด หรือ หัวกระดูกต้นขาหลุด เจ็บ เดินกะเผลก ต้องผ่าตัด (Scoliosis & slipped capital femoral epiphysis)
2️⃣ 🍭 Growth hormone มากไปจะต้านอินซูลิน
→ น้ำตาลสูงตลอด → เสี่ยงเบาหวานชนิดที่2 ในอนาคต
3️⃣ 🧠 สมอง → คั่งน้ำและเกลือ
→ ความดันในกะโหลกสูง → ปวดหัว ตาพร่ามัว และบางรายอาจถึงขั้นตาบอดถาวร
4️⃣ ❤️ หัวใจและหลอดเลือด → กระตุ้นหัวใจและหลอดเลือดมากเกินไป
→ เสี่ยง โรคหัวใจและโรคหลอดเลือด ในอนาคตระยะยาว
📌 สรุป
ความสูง 👉 ไม่มีใครรับประกันได้
แต่ความเสี่ยง 👉 เพิ่มขึ้น (เพราะ growth hormone มากไป)
และบางอย่างคือ “💣 ระเบิดเวลา” ที่กว่าจะเห็นผลก็อีกหลายปี
============================
3. 👩⚕️ เพราะอะไรการฉีด Growth hormone ถึงต้องอยู่ในมือหมอเด็กเฉพาะทางต่อมไร้ท่อเท่านั้น?
หมอเด็กทั่วไป หรือ หมอเด็กเฉพาะทางด้านอื่นๆก็ฉีดให้ไม่ได้
เพราะมันไม่ใช่แค่ “การฉีดยา” แต่คือการดูแลอย่างต่อเนื่อง ต้องมีทั้ง
• การประเมินละเอียดว่าใครควรฉีดจริงๆ
• ฉีดขนาดยาเท่าไหร่? ฉีดบ่อยแค่ไหน
• ติดตามผลเลือดและผลข้างเคียงเป็นระยะๆ
✅ ถ้าลูกคุณอยู่ในการดูแลของหมอต่อมไร้ท่อเด็ก และได้รับการฉีด Growth hormone
→ คุณพ่อคุณแม่มั่นใจได้เลยว่า หมอได้ไตร่ตรองมาอย่างรอบคอบแล้วว่าลูกมีข้อบ่งชี้จริงและปลอดภัย
⚠️ แต่ถ้าลูกได้รับการฉีด Growth hormone จากคนที่ไม่ใช่หมอเฉพาะทาง
– ส่วนใหญ่จะเลือกฉีดให้เด็กกลุ่มที่3 คือ ไม่ได้เตี้ยกว่าปกติ ไม่ได้ขาดฮอร์โมน แต่ฉีดเพราะ “อยากสูงกว่าที่เป็นอยู่”
– หลายครั้งสิ่งที่คุณได้รับ คือ “การขายฝัน” ที่แลกมาด้วยค่าใช้จ่ายมหาศาล
– และสิ่งที่น่ากังวลคือ ความเสี่ยงจริงๆ มักไม่ถูกบอกครบถ้วน
📌 หากเกิดผลเสียขึ้นมา จะไม่มีใครสามารถรับผิดชอบแทนคุณได้เลย
จึงอยากเตือนไว้ด้วยความหวังดีว่า → ถ้าคนที่คุณพาลูกไปรักษาอยู่ไม่ใช่หมอต่อมไร้ท่อเด็ก แนะนำให้ถอยออกมาก่อน
เพราะความหวังดีที่มีต่อลูก อาจกลายเป็นผลเสียในอนาคตได้โดยที่ไม่รู้ตัวนะครับ 💙
============================
4. 🌿 วิธีเพิ่ม Growth hormone แบบธรรมชาติ
• นอนหลับลึกและเพียงพอ 🛌
[เพราะฮอร์โมนจะหลั่งมากขึ้นตอนหลับลึก]
• ออกกำลังกาย กระโดด วิ่ง เล่นกีฬา 🏃♂️
• กินอาหารครบหมู่ โปรตีนเพียงพอ 🍳🥛
• รักษาน้ำหนักไม่ให้อ้วนเกินไป ⚖️
============================
5. 📢 ข่าวจากเกาหลีใต้: คำเตือนเรื่องการใช้ Growth hormone เกินความจำเป็น
(อ่านลิ้งข่าวเต็มได้ในคอมเมนท์)
เกาหลีใต้มีปัญหาเรื่องนี้มานานหลายปีแล้ว
และได้รายงานว่า การใช้ Growth hormone ในเด็กที่มี "ความสูงปกติ" กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว 🚨
• มูลค่าตลาดเติบโตจาก 148,800 ล้านวอน (ปี 2019) → 444,400 ล้านวอน (ปี 2023) โตเฉลี่ยกว่า 30% ต่อปี
• ค่าใช้จ่ายต่อคนราว 25,000 บาท/เดือน
แต่สิ่งที่น่าห่วงคือ ผลข้างเคียงที่รายงานเพิ่มขึ้นเกือบ 4 เท่าในเวลาเพียง 4 ปี
• 2019: 436 เคส
• 2023: 1,626 เคส
💢 อาการที่พบ เช่น ปวด/บวมบริเวณที่ฉีด, ปวดหัว, เวียนศีรษะ, ง่วงซึม, น้ำตาลสูง
และความเสี่ยงระยะยาว เช่น ข้อต่อเจ็บ, กระดูกสันหลังคด, เนื้องอก, โรคหัวใจและหลอดเลือด
👩⚕️ ผู้เชี่ยวชาญด้านต่อมไร้ท่อเด็กในเกาหลีเตือนว่า
• การฉีด Growth hormone ต้องทำเฉพาะเด็กที่ “ขาดจริง” เท่านั้น
• ก่อนเริ่มรักษา ต้องตรวจ growth plate และ ระดับฮอร์โมนให้แน่ชัด
• ไม่แนะนำให้ใช้ในเด็กที่ร่างกายปกติ เพียงแต่อยากสูงเพิ่มขึ้น
📌 สรุป รัฐบาลเกาหลีและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญย้ำตรงกันว่า “การฉีด Growth hormone ในเด็กที่ไม่ได้ขาดจริง ไม่ควรทำ”
เพราะนอกจากจะไม่มีหลักฐานชัดเรื่องประสิทธิภาพ ยังมีความเสี่ยงต่อสุขภาพที่มากเกินกว่าจะคุ้มค่า
============================
👨👩👧 คุณพ่อคุณแม่ที่กังวลว่าลูกตัวเตี้ยไปไหม?
อันดับแรก ลองเข้าไปในลิงก์ที่หมอแนบไว้ในคอมเมนต์ ใส่อายุ น้ำหนัก และส่วนสูงของลูกลงไปดูก่อนนะครับ 📊
เพราะหลายครั้งที่พ่อแม่คิดว่าลูกเตี้ยจากการเปรียบเทียบกับเด็กคนอื่น
แต่จริงๆแล้วเมื่อตรวจตามเกณฑ์มาตรฐาน เด็กยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ 🙆♂️🙆♀️
แต่ถ้าผลออกมาว่า “อยู่ในเกณฑ์เตี้ย” หรือ “เตี้ยแคระแกร็น”
➡️ นั่นแปลว่าลูกของคุณมีความเสี่ยงจริงๆ และควรพาลูกไปปรึกษาหมอเด็กใกล้บ้าน เพื่อรับการประเมินอย่างละเอียดต่อไป 👩⚕️👨⚕️
🌟 สุดท้ายนี้
การอยากให้ลูกสูงขึ้น เป็นความหวังที่พบได้บ่อยในคุณพ่อคุณแม่ทุกคนครับ 💙
แต่สิ่งสำคัญกว่าคือ ต้องอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัยและความพอดี
อะไรที่ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนเรื่องผลข้างเคียงในระยะยาว ก็ควรเลี่ยงไว้ก่อน
เพราะ… “การตัวเล็กอย่างแข็งแรง ย่อมดีกว่าการสูงขึ้นนิดหน่อยแต่ต้องแลกกับโรคที่ติดตัว” นะครับ 🌱
============================
บทความนี้ได้รับการช่วยตรวจสอบโดย อ.นพ.คมศักดิ์ ศรีลัญฉกร
หมอเด็กเฉพาะทางโรคต่อมไรท่อ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
ขอบพระคุณอาจารย์ไว้ ณ.ที่นี่ด้วยครับ