Chiang Rai Laboratory - เชียงรายแล็บ

Chiang Rai Laboratory - เชียงรายแล็บ ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ ตรวจสุขภาพประจำปี ตรวจเลือดสมัครงาน ตรวจสารก่อภูมิแพ้ ตรวจสารบ่งบอกมะเร็ง

08/08/2025

คลินิกเปิด ตามปกติช่วงวันหยุดยาว 9-12 สิงหาคม เวลา 7.00-13.00น.
อย่าลืมพาคุณแม่มาตรวจสุขภาพนะคะ โทรศัพท์ 053-740548

08/08/2025

ขอเชิญชวนประชาชนร่วมลงนามถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 12 สิงหาคม 2568
#ทรงพระเจริญ #เดินตามพ่อ

07/08/2025

เห็นมีข่าวทหารเริ่มเป็นมาลาเรีย ผมจะขอเล่าเรื่องราวของ โรคมาลาเรีย ให้ฟังนะครับ
จุดเริ่มต้นของโรคนี้ เริ่มจากเชื้อโรคที่ตัวมันเล็กมากๆ เล็กจนไม่เห็นด้วยตาเปล่า เชื้อนี้ก็คือ พลาสโมเดียม (Plasmodium) ซึ่งเป็นปรสิตเซลล์เดียว หรือที่เราเรียกว่า‘โปรโตซัว’นั่นเองครับ
โปรโตซัวตัวนี้มีหลายสายพันธุ์ แต่ตัวที่ร้ายกาจและสร้างปัญหาให้กับแถบบ้านเรามากที่สุด คือ พลาสโมเดียม ฟัลซิปารัม (Plasmodium falciparum) และ พลาสโมเดียม ไวแวกซ์ (Plasmodium vivax) เชื้อพวกนี้มีการเจริญเติบโตแปลงร่างได้หลายระยะ แต่ละระยะก็จะมีชื่อเรียกเฉพาะของมัน
การเดินทางของมาลาเรีย: จากยุงสู่คน
เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นที่ ยุงก้นปล่องตัวเมีย ไม่ใช่ยุงธรรมดาที่กัดเราทั่วไปนะครับ แต่เป็นยุงได้รับเชื้อมาลาเรียมาก่อน ยุงตัวนี้เปรียบเสมือนพาหนะที่จะนำผู้ร้ายเข้ามาในร่างกายของเรา
พอยุงก้นปล่องตัวเมียที่ติดเชื้อกัดเรา มันจะปล่อยผู้ร้ายตัวจิ๋ว หรือที่เรียกว่า สปอโรซอยต์ (Sporozoite) เข้าไปในกระแสเลือดของเราโดยตรง สปอโรซอยต์เหล่านี้จะเดินทางอย่างรวดเร็วไปยังเป้าหมายแรก นั่นก็คือ “ตับ” ครับ
ภารกิจแรกของผู้ร้าย: ยึดครองตับ
พอสปอโรซอยต์ไปถึงตับ มันก็จะเข้าไปซ่อนตัวและขยายพันธุ์อย่างเงียบๆ ภายในเซลล์ตับ ช่วงนี้ผู้ป่วยจะยังไม่มีอาการใดๆ เลยครับ เปรียบเหมือนผู้ร้ายกำลังซ่องสุมกำลังพลอยู่ภายในบ้านอย่างลับๆ ใช้เวลาประมาณ 7-10 วันในการขยายพันธุ์ พอได้กำลังพลมากพอแล้ว ผู้ร้ายที่ขยายพันธุ์แล้วซึ่งเราเรียกว่า มีโรซอยต์ (Merozoite) ก็จะออกจากตับและเข้าสู่กระแสเลือดอีกครั้ง เพื่อเดินทางไปสู่เป้าหมายต่อไป
การจู่โจมครั้งใหญ่: โจมตีเม็ดเลือดแดง
นี่คือช่วงที่โรคจะแสดงอาการออกมาให้เราเห็นอย่างชัดเจนครับ
เมื่อมีโรซอยต์เข้าสู่กระแสเลือด มันจะมุ่งหน้าไปยังเป้าหมายที่สำคัญที่สุด นั่นคือ เม็ดเลือดแดง ของเรา มีโรซอยต์จะบุกเข้าไปในเม็ดเลือดแดงและขยายพันธุ์อย่างรวดเร็ว ทำให้เม็ดเลือดแดงแตกออกและปล่อยมีโรซอยต์ตัวใหม่ๆ ออกมาเพื่อบุกเม็ดเลือดแดงอื่นๆ ต่อไป
การที่เม็ดเลือดแดงจำนวนมากถูกทำลายและแตกออกพร้อมๆ กันนี้เอง ทำให้เกิดอาการสำคัญของโรคมาลาเรีย คือ ไข้สูง หนาวสั่น และเหงื่อออก ซึ่งมักจะเกิดขึ้นเป็นรอบๆ ทุกๆ 2-3 วัน ขึ้นอยู่กับชนิดของเชื้อมาลาเรีย
ทำไมถึงไข้สูง หนาวสั่น? เพราะเมื่อเม็ดเลือดแดงแตก ร่างกายจะหลั่งสารกระตุ้นการอักเสบออกมา ทำให้มีไข้และหนาวสั่นคล้ายกับอาการไข้หวัดใหญ่
ทำไมถึงซีด? เพราะเมื่อเม็ดเลือดแดงถูกทำลายไปเรื่อยๆ ทำให้ร่างกายมีภาวะโลหิตจาง ทำให้ผู้ป่วยมีอาการซีด อ่อนเพลีย และเหนื่อยง่าย
ความอันตรายที่แตกต่างกัน
มาลาเรียที่เกิดจากเชื้อ P. falciparum ถือว่าอันตรายที่สุด เพราะเชื้อชนิดนี้ชอบทำลายเม็ดเลือดแดงทุกช่วงอายุ ทำให้เกิดภาวะโลหิตจางอย่างรุนแรง และที่น่ากลัวกว่านั้นคือ เม็ดเลือดแดงที่ติดเชื้อจะเหนียวและเกาะติดกัน ทำให้ไปอุดตันตามเส้นเลือดเล็กๆ ในอวัยวะสำคัญต่างๆ เช่น สมอง ไต หรือปอด มาลาเรียขึ้นสมอง จึงเป็นภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายที่สุดและอาจทำให้เสียชีวิตได้
ส่วนมาลาเรียจากเชื้อ P. vivax ถึงแม้จะอันตรายน้อยกว่า แต่ก็มีลักษณะพิเศษคือเชื้อบางส่วนสามารถไปซ่อนตัวอยู่ในตับได้นานเป็นเดือนเป็นปี และเมื่อมีโอกาสที่ร่างกายอ่อนแอลง เชื้อก็จะกลับมาโจมตีเม็ดเลือดแดงอีกครั้ง ทำให้เกิด ไข้มาลาเรียกำเริบ ได้ครับ
เหตุผลหลักที่ทหารตามแนวชายแดนมีความเสี่ยงติดเชื้อมาลาเรียสูงมาจาก 3 ปัจจัย คือ:
ทำเลที่ตั้ง: พื้นที่ชายแดนโดยเฉพาะในเขตจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ จันทบุรี และตราด ซึ่งมีพรมแดนติดกับกัมพูชา เป็นป่าเขา มีแหล่งน้ำ เหมาะแก่การแพร่พันธุ์ของ ยุงก้นปล่อง ซึ่งเป็นพาหะของโรค
ลักษณะงาน: ทหารต้องปฏิบัติงานในพื้นที่เปิดโล่งช่วงพลบค่ำและรุ่งสาง ซึ่งเป็นเวลาที่ยุงออกหากิน ทำให้ถูกยุงกัดได้ง่าย
ที่พักอาศัย: ที่พักอาจเป็นค่ายชั่วคราวและมีสิ่งป้องกันยุงไม่เพียงพอ เช่น ไม่มีมุ้งกันยุง ทำให้มีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อขณะพักผ่อน
การหลีกเลี่ยงในการเป็นมาลาเรียที่ดีที่สุดก็คือ “การป้องกันไม่ให้ยุงกัด” นั่นเองครับ

 #สาระความรู้ประจำเดือน  🫁🗣️🤧 #มะเร็งปอด หมายถึง อุบัติการณ์ที่เซลล์ของเนื้อปอดมีการแบ่งตัวที่มากเกินปกติจนไม่สามารถควบค...
06/08/2025

#สาระความรู้ประจำเดือน
🫁🗣️🤧 #มะเร็งปอด หมายถึง อุบัติการณ์ที่เซลล์ของเนื้อปอดมีการแบ่งตัวที่มากเกินปกติจนไม่สามารถควบคุมได้ และมีการเจริญเติบโตลุกลามรวมกันกันเป็นเนื้องอก และยังแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นได้

#ปัจจัยเสี่ยงมะเร็งปอด 💨💨

🩶บุหรี่ พบว่าประมาณ 85% หรือมากกว่าของผู้ป่วย🩶มะเร็งปอดมีประวัติการสูบบุหรี่
🩶ซิการ์และไปป์
🩶แอสเบสทอส (Asbestos) หรือแร่ใยหิน
🩶เรดอน (Radon) เป็นก๊าซไม่มีสี ไม่มีกลิ่น
🩶สารอื่น ๆ เช่น โครเมียม นิกเกิล
🩶ฝุ่นจากอุตสาหกรรมหนัก
🩶ไอสารระเหยน้ำมัน
🩶เขม่าควันต่าง ๆ
🩶มลภาวะทางอากาศที่ไม่บริสุทธิ์ PM2.5
🩶โรคเกี่ยวกับปอด ผู้ป่วยวัณโรค ถุงลมโป่งพอง ปอดอักเสบเรื้อรัง

🫁🗣️อาการและอาการแสดงต่าง ๆ ของมะเร็งปอดมีดังต่อไปนี้คือ

🤧ไอเป็นเวลานาน ไม่ทุเลาเหมือนการไอปกติ
🥶หายใจเหนื่อยหอบ หายใจสั้น เสียงแหบ
😵‍💫อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
😩ไอ หรือมีเสมหะ ปนเลือด
🤒เจ็บหน้าอก หัวไหล่ หลัง และแขนเป็นประจำ
😖เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
😦มีอาการบวมบริเวณใบหน้า ลำคอ หรือแขน

🧑‍🔬🧑‍🔬การวินิจฉัยโรคมะเร็งปอด
1. การตรวจคัดกรองในผู้มีความเสี่ยง ในปัจจุบันมีการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปอดด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์แบบใช้ปริมาณรังสีต่ำ (Low - Dose Computerized Tomography : LDCT) ในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง

2. การซักประวัติ ตรวจร่างกายและตรวจพิเศษโดยแพทย์

📌เอกซเรย์ปอด (Chest X-Ray)
📌เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan)
📌การตรวจด้วยเครื่องเพท/ซีทีสแกน (PET/CT Scan)
📌การส่องกล้องหลอดลมปอด (Bronchoscopy) และตัดชิ้นเนื้อเพื่อส่งตรวจทางพยาธิวิทยา (Biopsy)
📌การส่องกล้องในช่องกลางทรวงอก (Mediastinoscopy)
📌การตรวจด้วยเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ร่วมกับการตัดชิ้นเนื้อ (CT-Guided Biopsy) เป็นต้น

🕦🕖 โรคมะเร็งปอดมี 2 ชนิด

💊💨1. มะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็ก (Small Cell Lung Cancer)

มะเร็งชนิดนี้พบประมาณร้อยละ 10 - 25 ของมะเร็งปอดทั้งหมด เป็นมะเร็งชนิดที่มีการเจริญเติบโตและแพร่กระจายได้เร็ว ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักมีประวัติสูบบุหรี่ มะเร็งชนิดนี้อาจสร้างสารเคมีบางอย่างที่ทำให้เกิดอาการผิดปกติของระบบต่อมไร้ท่อ (ฮอร์โมน) ในร่างกาย

2. มะเร็งปอดชนิดเซลล์ไม่เล็ก (Non-Small Cell Lung Cancer)

มะเร็งชนิดนี้พบประมาณร้อยละ 75 - 90 ของมะเร็งปอดทั้งหมด มักมีการดำเนินโรคที่ช้ากว่า มีโอกาสตรวจพบโรคในระยะเริ่มต้นได้มากกว่ามะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็ก หากพบในระยะแรก การรักษาหลักคือการผ่าตัดเอาก้อนมะเร็งและต่อมน้ำเหลืองออก บางรายอาจให้การรักษาร่วมกับการใช้ยาต้านมะเร็งที่ออกฤทธิ์ทั่วร่างกาย ได้แก่ ยาเคมีบำบัด (chemotherapy) ยามุ่งเป้า (targeted therapy) และ/หรือยาภูมิคุ้มกันบำบัด (immunotherapy) หรือใช้รังสีรักษาร่วมด้วย ผลการรักษานั้นดีกว่ามะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็ก มีโอกาสหายขาดได้ แต่หากตรวจพบในระยะแพร่กระจาย การรักษาหลักคือการใช้ยาต้านมะเร็งที่ออกฤทธิ์ทั่วร่างกาย

✅🚨การรักษาโรคมะเร็งปอด

💪🌟1. การผ่าตัด ใช้สำหรับรักษามะเร็งในระยะแรกที่ยังไม่มีการแพร่กระจายไปไกลหรือมีการกระจายไปเฉพาะต่อมน้ำเหลืองใกล้ ๆ และไม่มีการลุกลามไปที่อวัยวะสำคัญต่าง ๆ ที่อยู่ใกล้เคียง เป็นทางเลือกที่พิจารณาก่อนการรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ เนื่องจากเป็นวิธีที่ทำให้ผู้ป่วยหายขาดจากโรคได้ การผ่าตัดมี 4 แบบ

📌การตัดเป็นรูปลิ่ม (Wedge Resection) คือ การผ่าตัดเพื่อนำเอาก้อนมะเร็ง และเนื้อเยื่อรอบ ๆ ออก
📌การตัดกลีบปอด (Lobectomy) คือ การตัดกลีบปอดออกทั้งกลีบ เป็นการผ่าตัดที่เหมาะสมในผู้ป่วยส่วนใหญ่
📌การตัดปอดทั้งข้าง (Pneumonectomy)
📌การตัดปอดและส่วนของหลอดลมร่วมออกด้วย (Sleeve Resection) คือ การตัดปอดออกทั้งกลีบร่วมกับการตัดและต่อหลอดลมข้างเคียงของปอดนั้นด้วย

🩵💨2. การฉายรังสี เป็นการรักษาเฉพาะที่เช่นเดียวกับการผ่าตัด

💨🧑‍🔬3. การให้ยาต้านมะเร็งที่ออกฤทธิ์ทั่วร่างกาย (systemic treatment) ได้แก่ ยาเคมีบำบัด ยามุ่งเป้า และยาภูมิคุ้มกันบำบัด

#ปัจจุบันสามารถตรวจวินิจฉัยจากเลือด เบื้องต้นได้ทั้งสองชนิดของโรคมะเร็งปอด สามารถสอบถามเพิ่มเติมแพ็คเกจ เเละราคาได้ที่
💗✅ #เชียงรายแล็บ ถนนธนาลัย เลยสวนตุงเเละโคมเชียงราย โทรศัพท์ 099-2354114📱📱

06/08/2025

กลาโหมเขมรจับตาบริเวณช่องอานม้าอย่างใกล้ชิด อ้างไทยเป็นฝ่ายตัดรั้วลวดหนาม
#มติชนออนไลน์
อ่านข่าวในคอมเมนต์

06/08/2025

วิจัยชี้ 'คนจะแก่เร็วขึ้น' เซลล์และอวัยวะเสื่อมเร็ว ในวัย 45-55 ปี
ยุคนี้หลายคนเชื่อว่าคนมีอายุยืนขึ้น แก่ช้าลง ทว่างานวิจัยใหม่ชี้ว่า "คนจะแก่เร็วขึ้น" ในวัย 45-55 ปี อันเป็นจุดเสื่อมสูงสุดของเซลล์ เนื้อเยื่อ และอวัยวะสำคัญในร่างกาย
ความแก่เป็นเรื่องธรรมชาติ เปรียบได้กับมนุษย์เห็นภาพสะท้อนจากกระจกเงาว่า เราเปลี่ยนแปลงทุกวัน ค่อย ๆ แก่ลง มนุษย์จึงทำใจได้และยอมรับ "ความชรา" และความเสื่อมถอยของร่างกายอย่างค่อยเป็นค่อยไป
แม้เทคโนโลยียุคใหม่ช่วยขจัดโรคภัยหลายอย่าง ชะลอความเหี่ยวย่นและความหย่อนยานของผิวภายนอก ทว่านักวิทยาศาตร์ยุคใหม่ค้นพบว่า คนจะแก่เร็วขึ้นในวัย 45-55 ปี
บางงานวิจัยระบุว่า ความแก่ของคนเราจะเร่งเวลาเร็วขึ้น เป็น 2 ช่วง คือเมื่ออายุเฉลี่ย 44 ปี และเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่ออายุเฉลี่ย 60 ปี
งานวิจัยล่าสุดของ Guanghui Liu จากสถาบันวิทยาศาสตร์จีนในปักกิ่ง (Chinese Academy of Sciences) เผย จุดวิกฤติ "ความชรา" ว่า อยู่ที่อายุประมาณ 50 ปี ที่เนื้อเยื่อและอวัยวะถึงจุดเสื่อมลงอย่างรวดเร็ว จากการศึกษาระดับโปรตีนในร่างกายในคนวัยผู้ใหญ่ และการทำงานของเส้นเลือดดำในหลอดเลือดที่ทำงานถดถอยลง โดยเฉพาะการทำงานของ “โปรตีน” ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลต่อการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ
งานวิจัยอ้างอิงจากการศึกษาเนื้อเยื่อที่เปลี่ยนไป จากผู้บริจาคอวัยวะ 76 คน อายุ 14-68 ปี ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ โดยเก็บตัวอย่างโปรตีนและเลือดจากอวัยวะสำคัญ เช่น หัวใจและหลอดเลือด การทำงานของเส้นเลือดใหญ่ที่นำเลือดออกจากหัวใจ ระบบย่อยอาหาร ตับ ตับอ่อน ม้าม ลำไส้ ระบบภูมิคุ้มกัน ระบบน้ำเหลือง ระบบต่อมไร้ท่อ ปอด ผิวหนัง และกล้ามเนื้อ ศึกษาเปรียบเทียบในช่วงอายุต่าง ๆ และพบว่าเชื้อโรค 48 ชนิด สัมพันธ์กับโปรตีนและอายุที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะโรคหัวใจและหลอดเลือด การเกิดพังผืดเนื้อเยื่อ ไขมันพอกตับและโรคเกี่ยวกับตับ
การเก็บข้อมูลนำไปสู่ข้อสรุปว่า เมื่ออายุ 45-55 ปี การทำงานของโปรตีนและเนื้อเยื่อจะเปลี่ยนไปส่งผลให้เกิดความชรา ทำให้ คนเราแก่เร็วขึ้น
อีกหนึ่งงานวิจัยของ ดร.ไมเคิล สไนเดอร์ (Michael Snyder) นักพันธุศาสตร์ มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด แคลิฟอร์เนีย ระบุว่า “ความแก่” ที่ดูเหมือนค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงไปทีละน้อยตามกาลเวลานั้น มีความสำคัญที่แฝงอยู่ด้วยคือ ความเสื่อมถอยของการทำงานของเซลล์ เนื้อเยื่อ และอวัยวะ โดยศึกษาถึงชีวโมเลกุลในเซลล์เพื่อทำความเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลง เพื่อหาทางบรรเทาและรักษาอาการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้น
ดร.สไนเดอร์และทีมงานค้นพบว่า บางโรคที่มักเกิดกับผู้สูงวัยเช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคอัลไซเมอร์ ความเสี่ยงจะไม่เพิ่มขึ้นทีละน้อยตามกาลเวลา แต่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อถึงอายุระดับหนึ่ง
โดย "ความแก่" จะไม่ค่อยเป็นค่อยไป (อย่างที่เราคิด) หากเกิดกระบวนการ “เร่งความแก่” จากโปรตีนที่เปลี่ยนไปในอวัยวะต่าง ๆ ตัวเลขที่น่าสนใจคืออายุ 50 ปี อัตราเร่งแก่นั้นจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
(ลิงก์อ่านต่อในคอมเมนต์)
#กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจLifestyle

05/08/2025
03/08/2025
02/08/2025
01/08/2025
31/07/2025

ทบ.สดุดีทหารกล้า จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพทหารหาญ 4 นาย พร้อมปูนบำเหน็จ-ขอพระราชยศทหารเลื่อนขั้นอย่างสมเกียรติ

ติดตามรายละเอียดในคอมเมนต์

#กองทัพบก #ทหารไทย #ไทยกัมพูชา #โหนกระแส

30/07/2025

บันทึกไว้ในความทรงจำ #เดลินิวส์ ขอสดุดี "15 นายทหารกล้า" พลีชีพปกป้องอธิปไตยผืนแผ่นดินไทย ในเหตุการณ์ ปะทะกองกำลังทหารกัมพูชา ในพื้นที่จังหวัดชายแดน..

#ชายแดนไทยกัมพูชา #ไทยกัมพูชา
#ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #สันติสู่ชายแดน
#เดลินิวส์ #เดลินิวส์ออนไลน์

ที่อยู่

568 (สี่แยกศาล) ถนนธนาลัย ต. เวียง อ. เมือง
Chiang Rai
57000

เวลาทำการ

จันทร์ 07:00 - 13:00
อังคาร 07:00 - 13:00
พุธ 07:00 - 13:00
พฤหัสบดี 07:00 - 13:00
ศุกร์ 07:00 - 13:00
เสาร์ 07:00 - 13:00
อาทิตย์ 07:00 - 13:00

เบอร์โทรศัพท์

+6653740548

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Chiang Rai Laboratory - เชียงรายแล็บผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง Chiang Rai Laboratory - เชียงรายแล็บ:

แชร์

ประเภท