
23/07/2022
ใกล้ตัวผู้หญิงควรรู้‼️
>> ผู้ที่ประจำเดือนมามากมักมีลักษณะ ดังนี้ค่ะ
* ประจำเดือนมามากกว่า 7 วัน
* มีเลือดรอบเดือนมากจนต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยชั่วโมงละหลายครั้งติดต่อกันหลายชั่วโมง
* จำเป็นต้องใส่ผ้าอนามัยครั้งละมากกว่า 2 ชิ้น เพื่อซับเลือดรอบเดือน
* ต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยระหว่างนอนหลับตอนกลางคืน
* มีลิ่มเลือดไหลออกมากับเลือดประจำเดือน โดยลิ่มเลือดมีขนาดใหญ่
* รู้สึกเหนื่อยหรือหายใจหอบ
* มีเลือดออกระหว่างรอบเดือน หรือมีเลือดออกหลังเข้าวัยทอง
#ประจำเดือนมามากเกิดจากอะไร ?
ประจำเดือนมามากเกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยทั่วไปแล้ว ผู้ที่ประสบภาวะนี้มักประสบปัญหาฮอร์โมนไม่สมดุล รังไข่ทำงานผิดปกติ เกิดปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับมดลูก ได้รับภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์ เกิดผลข้างเคียงจากการใช้ยา หรือป่วยเป็นโรคอื่น ๆ ดังนี้
* #ฮอร์โมนไม่สมดุล
ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนที่สมดุลจะช่วยสร้างเยื่อบุโพรงมดลูกขึ้นมา โดยเยื่อบุโพรงมดลูกจะลอกตัวกลายเป็นเลือดประจำเดือนในกรณีที่ไข่ไม่ได้รับการปฏิสนธิ หากฮอร์โมนในร่างกายไม่สมดุล จะส่งผลให้สร้างเยื่อบุโพรงมดลูกมากเกินไป ซึ่งทำให้มีเลือดประจำเดือนมาก
>> ทั้งนี้ หากร่างกายไม่ตกไข่ตามปกติ ก็ส่งผลให้ระดับฮอร์โมนไม่สมดุล และสร้างเยื่อบุโพรงมดลูกหนาเกินไปจนทำให้ประจำเดือนมามากได้
* #เกิดปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับมดลูก
ปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับมดลูกนั้นมีหลายอย่าง ผู้ที่ประจำเดือนมามากอาจประสบภาวะสุขภาพต่อไปนี้
* #เนื้องอกในมดลูก
เนื้องอกในมดลูกไม่ใช่เนื้อร้ายที่เป็นโรคมะเร็ง โดยเนื้องอกเจริญขึ้นภายในเยื่อบุโพรงมดลูกหรือมดลูก ส่งผลให้ผู้ที่เกิดเนื้องอกบริเวณดังกล่าวมีประจำเดือนมามากหรือมีประจำเดือนนานกว่าปกติ
* #มะเร็ง
มะเร็งบางชนิด เช่น #มะเร็งมดลูก #มะเร็งปากมดลูก หรือ #มะเร็งรังไข่ ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้เลือดประจำเดือนมากกว่าปกติ อย่างไรก็ดี ผู้ที่ประจำเดือนมามากจากสาเหตุนี้พบได้ไม่บ่อยนัก
* #ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ
ภาวะนี้จะส่งผลกระทบต่อการทำงานของรังไข่ ทำให้รอบเดือนมาไม่ปกติและประจำเดือนมามากเมื่อกลับมามีรอบเดือนตามปกติ
* #อุ้งเชิงกรานอักเสบ
ผู้ป่วยโรคนี้เกิดการติดเชื้อที่ระบบสืบพันธุ์ส่วนบน ได้แก่ มดลูก ท่อนำไข่ หรือรังไข่ มักเกิดอาการปวดท้อง รวมทั้งมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์หรือระหว่างช่วงที่ไม่มีประจำเดือน
* #เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ในเนื้อมดลูก (Adenomyosis) ภาวะนี้เกิดจากต่อมของเยื่อบุมดลูกเข้าไปฝังตัวที่กล้ามเนื้อมดลูก ส่งผลให้ผู้ป่วยมีเลือดประจำเดือนมากรวมทั้งปวดท้องประจำเดือน เยื่อบุโพรงมดลูกที่เจริญในเนื้อมดลูกมีแนวโน้มเกิดขึ้นกับผู้หญิงวัยกลางคนที่เคยมีบุตร
* #เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่นอกมดลูก (Endometriosis)
ภาวะนี้คือภาวะที่เยื่อบุโพรงมดลูกขนาดเล็กเจริญภายนอกมดลูก เช่น ท่อนำไข่ รังไข่ กระเพาะปัสสาวะ หรือช่องคลอด ส่งผลให้ผู้ป่วยเสี่ยงปวดท้องประจำเดือนได้
* #ติ่งเนื้อที่ปากมดลูกหรือโพรงมดลูก
ติ่งเนื้อคือเนื้องอกที่ไม่ใช่เนื้อร้าย โดยจะเจริญขึ้นที่เยื่อบุโพรงมดลูกหรือปากมดลูก
* #ได้รับภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์
สตรีมีครรภ์ที่มีเลือดออกจากช่องคลอดมากอาจเกิดจากภาวะแท้งหรือภาวะท้องนอกมดลูกได้ อย่างไรก็ตาม ภาวะดังกล่าวเสี่ยงทำให้เกิดอาการประจำเดือนมามากได้ไม่บ่อยนัก
* #เกิดผลข้างเคียงจากการใช้ยา
ยารักษาโรคบางอย่างก่อให้เกิดอาการประจำเดือนมามาก ซึ่งประกอบด้วยยาต้านการแข็งตัวของเลือด ยาสำหรับใช้ทำเคมีบำบัดบางตัว ยาต้านอักเสบ หรือห่วง อนามัยสำหรับคุมกำเนิด
* #ป่วยเป็นโรคต่างๆ
ผู้ที่ป่วยเป็นโรคบางชนิดอาจมีเลือดประจำเดือนมามาก เช่น #ไฮโปไทรอยด์ #โรคเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด หรือ #โรคที่เกี่ยวกับตับและไต
📌ปรึกษาปัญหาสุขภาพโดยผู้เชี่ยวชาญ
โทร 092-461-9465
Cr ใกล้หมอจิ๋ม👍