คลินิกสูตินรีเวชหมอไพพรรณ

คลินิกสูตินรีเวชหมอไพพรรณ Paipan clinic OBGYN

❌ ร้านหยุด 4 วัน ❌วันที่ 9-12 ตุลาคม 2568🙏🏻 ขออภัยในความไม่สะดวก #คลินิกสูตินรีเวชหมอไพพรรณ
09/10/2025

❌ ร้านหยุด 4 วัน ❌
วันที่ 9-12 ตุลาคม 2568
🙏🏻 ขออภัยในความไม่สะดวก

#คลินิกสูตินรีเวชหมอไพพรรณ

 # # 💡 “แม่เป็นไทรอยด์...ลูกจะเป็นอะไรไหม?” # # # รู้ทันโรคไทรอยด์ในคนท้อง ปลอดภัยทั้งแม่และลูกฮอร์โมนไทรอยด์คือ “เครื่อ...
06/10/2025

# # 💡 “แม่เป็นไทรอยด์...ลูกจะเป็นอะไรไหม?”

# # # รู้ทันโรคไทรอยด์ในคนท้อง ปลอดภัยทั้งแม่และลูก

ฮอร์โมนไทรอยด์คือ “เครื่องยนต์ของร่างกาย”
เพราะควบคุมการเผาผลาญ พลังงาน และการเจริญเติบโตของสมองทารก
ดังนั้นเมื่อคุณแม่มีปัญหาไทรอยด์ โดยเฉพาะระหว่างตั้งครรภ์ จึงต้องดูแลเป็นพิเศษค่ะ

---

# # # 🔹 ภาวะไทรอยด์ในคนท้องมี 2 กลุ่มหลัก

1️⃣ **ไทรอยด์ทำงานเกิน (Hyperthyroidism)**

* มักเกิดจากโรค Graves’ disease
* อาการ: ใจสั่น เหงื่อออกมาก น้ำหนักลดแม้กินเยอะ มือสั่น
* ผลต่อแม่: เสี่ยงครรภ์เป็นพิษ คลอดก่อนกำหนด หัวใจเต้นเร็ว
* ผลต่อลูก: น้ำหนักน้อยในครรภ์ หัวใจเต้นเร็ว บางรายมีภาวะ “thyrotoxicosis ในทารก” หากภูมิคุ้มกันของแม่ข้ามรกไป

2️⃣ **ไทรอยด์ทำงานต่ำ (Hypothyroidism)**

* อาจเกิดจากโรค Hashimoto’s thyroiditis หรือขาดไอโอดีน
* อาการ: เหนื่อยง่าย หนาวง่าย ผิวแห้ง ขี้ลืม เฉื่อยชา
* ผลต่อแม่: เสี่ยงแท้ง คลอดก่อนกำหนด ความดันสูงระหว่างตั้งครรภ์
* ผลต่อลูก: การพัฒนาสมองและสติปัญญาล่าช้า (หากไม่ได้รับการรักษา)

---

# # # 💊 ยาไทรอยด์ กับลูกในท้อง

* **ยาลดไทรอยด์เกิน** เช่น *Propylthiouracil (PTU)* หรือ *Methimazole*
หมอจะเลือกใช้ขนาดต่ำที่สุดที่ควบคุมอาการได้ เพราะบางชนิดอาจผ่านรก
👉 ไตรมาสแรกมักใช้ PTU และเปลี่ยนเป็น Methimazole หลังจากนั้นเพื่อลดผลข้างเคียงต่อตับ

* **ยาฮอร์โมนทดแทน** เช่น *Levothyroxine*
ปลอดภัยและจำเป็นมากสำหรับคนที่มีไทรอยด์ต่ำ เพราะช่วยให้ฮอร์โมนแม่เพียงพอต่อพัฒนาการสมองของลูก

📍 หมายเหตุ: **อย่าหยุดยาเองเด็ดขาด!** เพราะอันตรายทั้งต่อแม่และลูก

---

# # # 🩺 การดูแลตัวเองของคุณแม่ไทรอยด์

1. ตรวจเลือดวัดระดับฮอร์โมนไทรอยด์ (TSH, FT4) อย่างสม่ำเสมอ
2. รับประทานยาให้ตรงเวลา (ยาฮอร์โมนทดแทนควรทานก่อนอาหารเช้า 30 นาที)
3. หลีกเลี่ยงอาหารหรืออาหารเสริมที่มีไอโอดีนสูงเกินไปโดยไม่ปรึกษาแพทย์
4. แจ้งแพทย์ก่อนคลอดหรือก่อนให้นมบุตร เพื่อปรับขนาดยาให้เหมาะสม
5. หลังคลอดควรตรวจไทรอยด์ซ้ำ เพราะบางรายอาจเกิด **“postpartum thyroiditis”** ได้

---

# # # 💬 สรุปง่าย ๆ จากหมอไพพรรณ

> “ไทรอยด์ในคนท้อง ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวค่ะ ขอแค่คุณแม่ตรวจและกินยาต่อเนื่องภายใต้การดูแลของแพทย์ ลูกก็สามารถเติบโตได้สมบูรณ์ แข็งแรง และฉลาดได้เหมือนเด็กทั่วไปเลยค่ะ 💕”

#ไทรอยด์ในคนท้อง #ดูแลแม่ให้ปลอดภัยลูกให้แข็งแรง
#หมอไพพรรณ #คลินิกสูตินรีเวชหมอไพพรรณ

❌ ร้านหยุด 1 วัน ❌วันที่ 6 ตุลาคม 2568🙏🏻 ขออภัยในความไม่สะดวก #คลินิกสูตินรีเวชหมอไพพรรณ
06/10/2025

❌ ร้านหยุด 1 วัน ❌
วันที่ 6 ตุลาคม 2568
🙏🏻 ขออภัยในความไม่สะดวก

#คลินิกสูตินรีเวชหมอไพพรรณ

แจ้งวันหยุดเดือนตุลาคม 2568  #คลินิกสูตินรีเวชหมอไพพรรณ
05/10/2025

แจ้งวันหยุดเดือนตุลาคม 2568

#คลินิกสูตินรีเวชหมอไพพรรณ

🐟 “แม่ท้องอยากฉลาด (ลูกก็ด้วย) ต้องกินอะไรถึงจะได้ DHA วันละ 200 มก.?”DHA (Docosahexaenoic acid) คือกรดไขมันดีที่เป็น “อ...
04/10/2025

🐟 “แม่ท้องอยากฉลาด (ลูกก็ด้วย) ต้องกินอะไรถึงจะได้ DHA วันละ 200 มก.?”

DHA (Docosahexaenoic acid) คือกรดไขมันดีที่เป็น “อิฐก้อนทอง” ของสมองและสายตาลูกในครรภ์
ใคร ๆ ก็อยากให้ลูกหัวไว ตาใสตั้งแต่อยู่ในท้องใช่ไหมคะ? 😍



🧠 ปริมาณ DHA ที่ต้องการ
• สตรีทั่วไปและหญิงตั้งครรภ์: 200–300 มก./วัน (ตาม WHO และ EFSA)
• แหล่งหลักมาจาก ปลาไขมันดี (oily fish) เช่น แซลมอน ซาร์ดีน แมคเคอเรล ทูน่า และไข่ที่เสริมโอเมกา-3



แต่คำถามคือ… “แล้วต้องกินอะไรบ้างถึงจะพอ?”
เฉลยค่ะ 👉 จริง ๆ แล้วแค่ปลาทูบ้าน ๆ ของเราก็เอาอยู่!



🍽️ แหล่งอาหารที่มี DHA สูง (โดยประมาณ)
• 🐟 ปลาแซลมอน (100 กรัม) → 1200–1500 มก.
• 🐟 ปลาทูไทย (150 กรัม) → 250–300 มก.
• 🐟 ปลาซาร์ดีนในน้ำมัน (½ กระป๋อง) → ~250 มก.
• 🐟 ปลาทูน่ากระป๋อง (100 กรัม) → ~200 มก.
• 🥚 ไข่โอเมกา-3 (1 ฟอง) → 80–100 มก.
• 🥛 นม/โยเกิร์ตเสริม DHA (1 ถ้วย) → 30–50 มก.
• 🌱 น้ำมันสาหร่าย (Algal oil) → 100–200 มก.



🍲 ตัวอย่างเมนูประจำวัน (รวมแล้วเกิน 200 มก. สบาย ๆ)

🌞 เช้า: ข้าวต้มปลาทู 100 กรัม (~200 มก.) + ไข่โอเมกา-3 1 ฟอง (~90 มก.)
🌤️ เที่ยง: สลัดทูน่า 100 กรัม (~200 มก.)
🌙 เย็น: แกงส้มปลาทู 150 กรัม (~300 มก.)

รวมทั้งวัน = ~790 มก. DHA แบบจัดเต็ม 🎉



🌿 สำหรับแม่ที่ไม่กินปลา

ไม่ต้องเครียดค่ะ เดี๋ยวนี้มี น้ำมันสาหร่าย (Algal DHA) เป็น Plant-based ที่ดูดซึมได้ดีไม่แพ้ปลา
กินวันละ 1–2 แคปซูลก็ได้ครบ 200 มก. เช่นกัน



📌 เมนู 7 วันสำหรับแม่ท้อง ได้ DHA ครบทุกวัน

หลักการง่าย ๆ
• กินปลาทะเล 1–2 มื้อ/สัปดาห์ เช่น ปลาทู แซลมอน ซาร์ดีน
• เสริมด้วยไข่โอเมกา-3 นม/โยเกิร์ตเสริม DHA
• หรือใช้น้ำมันสาหร่ายสำหรับคุณแม่ที่ไม่กินปลา



🗓️ ตารางเมนู

วันจันทร์
• เช้า: แกงจืดเห็ดหอมเต้าหู้ + ไข่ต้มโอเมกา-3 1 ฟอง
• กลางวัน: ขนมปังไข่คน + นมเสริม DHA
• เย็น: ผัดฉ่าปลาทู + ข้าวกล้อง

วันอังคาร
• เช้า: ไข่เจียวโอเมกา-3 + ข้าวสวย
• กลางวัน: สลัดทูน่าในน้ำแร่
• เย็น: แกงส้มชะอมกุ้ง + ไข่ต้ม

วันพุธ
• เช้า: โยเกิร์ตเสริม DHA + ซีเรียล
• กลางวัน: ผัดผักรวมเต้าหู้ + ปลาอบ 1 ชิ้น
• เย็น: ผัดไทยกุ้งสด + มะนาว

วันพฤหัสบดี
• เช้า: ข้าวต้มปลาเก๋า + ผักลวก
• กลางวัน: สลัดไก่ใส่ไข่โอเมกา-3
• เย็น: ต้มยำปลาทู + ข้าวกล้อง

วันศุกร์
• เช้า: ข้าวเหนียวหมูฝอย + ไข่ต้มโอเมกา-3
• กลางวัน: ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น + ถั่วงอกสด
• เย็น: ปลาซาร์ดีนในน้ำมัน + สลัดผักสด

วันเสาร์
• เช้า: โจ๊กปลาแซลมอน + ต้นหอม
• กลางวัน: ผัดฟักทองใส่ไข่โอเมกา-3
• เย็น: แกงเลียงกุ้งสด + ข้าวสวย

วันอาทิตย์
• เช้า: ข้าวต้มปลาทู + ผักบุ้งลวก
• กลางวัน: แซนด์วิชไข่โอเมกา-3
• เย็น: แกงส้มปลากะพง + ผัดผักรวม



🧠 ข้อคิดจากหมอไพพรรณ

“DHA ไม่ได้ต้องมากเวอร์ แต่ต้องสม่ำเสมอทุกวัน
เหมือนส่งของดีไปเลี้ยงสมองลูกแบบรายวันค่ะ 💝”



#แม่ท้องต้องรู้ ันละ200มก #หมอไพพรรณคลินิกสูตินรีเวช

ถ้าไม่ได้คุณพ่อสองท่านนี้ 🙏🙏😅
03/10/2025

ถ้าไม่ได้คุณพ่อสองท่านนี้ 🙏🙏😅

03/10/2025
 # # 💉 วัคซีน HPV คืออะไรวัคซีน HPV (Human Papillomavirus) คือวัคซีนที่ช่วยป้องกันเชื้อไวรัส HPV ซึ่งเป็นตัวการหลักของ *...
03/10/2025

# # 💉 วัคซีน HPV คืออะไร

วัคซีน HPV (Human Papillomavirus) คือวัคซีนที่ช่วยป้องกันเชื้อไวรัส HPV ซึ่งเป็นตัวการหลักของ **มะเร็งปากมดลูก** และยังเกี่ยวข้องกับมะเร็งอีกหลายชนิด เช่น มะเร็งช่องปาก คอหอย ทวารหนัก รวมถึงหูดหงอนไก่ 🚫🌸

---

# # 👩‍🦰👨‍🦱 ใครบ้างที่ควรฉีด

* ✅ **ผู้หญิงอายุ 9–26 ปี** (เหมาะสุดคือก่อนมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก)
* ✅ **ผู้ชายอายุ 9–26 ปี** (ช่วยลดการแพร่เชื้อและป้องกันหูด/มะเร็งทวารหนัก)
* 👉 ผู้หญิง/ผู้ชายอายุ **27–45 ปี** ก็ยังฉีดได้ โดยเฉพาะถ้ามีความเสี่ยงสูง (ขึ้นกับการปรึกษาแพทย์)

---

# # 🗓️ ต้องฉีกี่เข็ม

* **อายุต่ำกว่า 15 ปี** : ฉีด **2 เข็ม** (ห่างกัน 6–12 เดือน)
* **อายุ 15 ปีขึ้นไป** : ฉีด **3 เข็ม** (0, 1–2 เดือน, และ 6 เดือน)

---

# # ✨ ทำไมต้องรีบฉีด

* ป้องกันได้กว่า **90% ของมะเร็งปากมดลูก**
* ลดโอกาสเป็นหูดหงอนไก่ที่รักษายากและกวนใจ
* ยิ่งฉีดตอนยังไม่ติดเชื้อ **ยิ่งได้ผลสูงสุด**

---

# # 🎯 สรุปง่ายๆ

ใครๆ ก็ป้องกันมะเร็งได้ตั้งแต่วันนี้ 💪

* เด็กผู้หญิง–ผู้ชาย: 2 เข็มพอ!
* ผู้ใหญ่: 3 เข็มเอาชัวร์!

“วัคซีน HPV 💉 ไม่ได้มีไว้สำหรับผู้หญิงเท่านั้น! ผู้ชายก็ต้องฉีด ป้องกันได้ทั้งมะเร็งและหูดหงอนไก่ 🛡️ รู้ไว้…ยิ่งฉีดไว ยิ่งได้ผลเยอะ ✨ #วัคซีนHPV #ป้องกันมะเร็งปากมดลูก #ใครๆก็ควรฉีด”

ใครบ้างควรฉีด vaccine ป้องกันมะเร็งปากมดลูก

03/10/2025

# **ทานยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม (Combined Oral Contraceptives)** อย่างไรให้ปลอดภัย?

**เลือกให้เหมาะกับสุขภาพคุณ ตามแนวทาง MEC 2024**

ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม (COCs) หรือที่หลายคนคุ้นในชื่อ “ยาคุมเม็ด” คือหนึ่งในวิธีคุมกำเนิดยอดนิยม เพราะใช้ง่าย ราคาไม่แพง และยังช่วยลดอาการปวดประจำเดือน สิว หรือเลือดออกกระปริดกระปรอย แต่เดี๋ยวก่อน! การเลือกใช้ยาคุมไม่ใช่แค่เดินเข้าร้านแล้วหยิบมาเลยนะคะ เพราะสำหรับผู้หญิงบางกลุ่ม ยาคุมชนิดนี้อาจ **ไม่เหมาะ** หรือ **ต้องระวังพิเศษ**

มาดูกันค่ะ ว่าคนที่มีโรคประจำตัวหรือภาวะเสี่ยง ควรพิจารณาอย่างไรบ้าง

---

# # 🌟 **ใครที่ควรระวัง หรือหลีกเลี่ยงการทานยาคุมฮอร์โมนรวม?**

# # # 1️⃣ **โรคอ้วนและน้ำหนักเกิน**

* **BMI ≥ 30 kg/m²** (อ้วนมาก): MEC 2-3 → **ใช้ได้ แต่ระวังเพิ่มความเสี่ยงลิ่มเลือดอุดตัน**
* ยิ่ง BMI ≥ 35 + มีปัจจัยเสี่ยงอื่น (เช่น สูบบุหรี่, โรคหัวใจ) → MEC 3-4 **ควรหลีกเลี่ยง**
👉 **แนะนำ:** ลองพิจารณายาคุมชนิดโปรเจสตินล้วน (POPs) หรือห่วงอนามัย (IUD)

---

# # # 2️⃣ **ความดันโลหิตสูง**

* ถ้าควบคุมได้ (SBP 140-159 หรือ DBP 90-99) → MEC 3
* ถ้าควบคุมไม่ได้ (SBP ≥ 160 หรือ DBP ≥ 100) → MEC 4 ❌ **ห้ามใช้**
👉 **แนะนำ:** ตรวจความดันก่อนสั่งยา ถ้าสูง เลี่ยง COCs ไปเลย!

---

# # # 3️⃣ **เบาหวาน**

* **ไม่มีโรคหลอดเลือดแทรกซ้อน:** MEC 2-3 (ใช้ได้โดยระวัง)
* **มีโรคไต, เบาหวานนาน >20 ปี, หรือโรคหลอดเลือด:** MEC 3-4 ❌ **ไม่ควรใช้**
👉 **แนะนำ:** เน้นคุมกำเนิดชนิดที่ไม่เพิ่มเสี่ยงโรคหลอดเลือด เช่น IUD, POPs

---

# # # 4️⃣ **ไมเกรน**

* **ไม่มีออร่า:** MEC 2 → ใช้ได้
* **มีออร่า:** MEC 4 ❌ **ห้ามใช้เด็ดขาด เพราะเสี่ยง stroke**
👉 ถ้ามีไมเกรนแบบเห็นแสงแปลก ๆ ชา หรืออ่อนแรง ต้องบอกแพทย์ค่ะ

---

# # # 5️⃣ **ไขมันในเลือดสูง**

* ถ้าไม่มีโรคหลอดเลือดแทรกซ้อน → MEC 2 (ใช้ได้แต่ต้องติดตามค่าไขมัน)
* ถ้ามีโรคหลอดเลือดแทรกซ้อน → MEC 3-4 (เลี่ยงใช้ COCs)

---

# # # 6️⃣ **โรคหัวใจและหลอดเลือด**

* โรคหัวใจขาดเลือด, โรคหลอดเลือดสมอง, ลิ่มเลือดอุดตัน (VTE) → MEC 4 ❌ **ห้ามใช้ COCs**
👉 **แนะนำ:** ไปใช้วิธีคุมกำเนิดที่ปลอดภัยกว่า เช่น IUD

---

# # # 7️⃣ **อื่น ๆ ที่ควรรู้**

* **สูบบุหรี่** อายุ ≥ 35 ปี: MEC 3-4 ❌ **ไม่แนะนำ COCs**
* **ให้นมลูก **ยาคุมไม่ใช่ขนมหวาน เลือกให้เหมาะกับร่างกายเรา จะได้ปลอดภัยและสบายใจค่ะ**

---

# # 👩‍⚕️ **ตัวเลือกถ้าต้องเลี่ยงยาคุมฮอร์โมนรวม**

* ยาคุมโปรเจสตินล้วน (POPs)
* ยาฝังคุมกำเนิด
* ห่วงอนามัย (IUD) ทั้งแบบทองแดงและฮอร์โมน
* ถุงยางอนามัย

---

# # ✨ **สรุป**

> การใช้ยาคุมฮอร์โมนรวมไม่ใช่ว่าใครจะใช้ก็ได้ ต้องพิจารณาสุขภาพให้ดี ตรวจร่างกายก่อนเลือกใช้ และควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งค่ะ
> อย่าลืม! สุขภาพของเราไม่ควรเสี่ยงเพียงเพราะความสะดวกเพียงชั่วคราว 💊💖

---

# # 📌 **แหล่งอ้างอิง**

* World Health Organization. *Medical eligibility criteria for contraceptive use*, 6th ed. 2024.

03/10/2025

# การกระตุ้นพัฒนาการทารกระหว่างตั้งครรภ์: หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ว่าทำได้จริง!

“ลูกฉลาดตั้งแต่ในท้อง” ไม่ใช่แค่คำพูดสวยหรูอีกต่อไปแล้วค่ะ เพราะงานวิจัยหลายฉบับยืนยันว่า พัฒนาการสมองและระบบประสาทของทารกในครรภ์ (Fetal Neurodevelopment) สามารถถูกกระตุ้นได้ตั้งแต่ยังไม่คลอดจริง! แต่จะต้องทำอย่างถูกวิธีและเหมาะสมกับช่วงอายุครรภ์ เพื่อให้การพัฒนานั้น “ยั่งยืน” และ “ปลอดภัย” ที่สุดสำหรับแม่และลูกค่ะ

---

🐣พัฒนาการทางสมองของทารกในครรภ์ เกิดขึ้นเมื่อไร?

* **สัปดาห์ที่ 5-6:** เริ่มพัฒนา Neural tube >> พื้นฐานของสมองและไขสันหลัง
* **สัปดาห์ที่ 18-20:** เริ่มตอบสนองต่อเสียงและการสัมผัส
* **สัปดาห์ที่ 24-28:** ระบบประสาทสัมผัส (การได้ยิน, การเคลื่อนไหว) ทำงานสัมพันธ์กับสมองมากขึ้น
* **สัปดาห์ที่ 32 ขึ้นไป:** ทารกเริ่มจำเสียงและเกิดการเรียนรู้ (Fetal Learning & Memory)

---

🐣วิธี “กระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์” ที่มีหลักฐานสนับสนุน (Evidence-Based)

1. **การสื่อสารกับลูกในท้อง (Prenatal Talking & Singing)**

* **Evidence:** ทารกสามารถจดจำเสียงคุณแม่และคุณพ่อได้ตั้งแต่ในครรภ์ โดยเฉพาะช่วงอายุครรภ์ 25-27 สัปดาห์ขึ้นไป (Lecanuet JP et al., 1993)
* **แนะนำ:** พูดคุยกับลูกด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล หรือร้องเพลงซ้ำ ๆ เพื่อเสริมสร้างความคุ้นเคย และช่วยพัฒนา “Memory Pathway” ของสมอง

2. **ดนตรีกับพัฒนาการสมอง (Prenatal Music Stimulation)**

* **Evidence:** เสียงเพลงจังหวะช้า (Classical, Lullaby) ช่วยให้ทารกสงบ และส่งเสริมการพัฒนาของสมองส่วน Limbic system (Lozoff B et al., 2010)
* **แนะนำ:** เปิดเพลงเบา ๆ วันละ 10-15 นาที ในช่วงไตรมาสที่ 3 (28 สัปดาห์ขึ้นไป) เสียงควรไม่เกิน 65-70 dB

3. **สัมผัสเบา ๆ ที่หน้าท้อง (Tactile Stimulation)**

* **Evidence:** งานวิจัยพบว่าการลูบหน้าท้องเบา ๆ ในช่วงอายุครรภ์ 26 สัปดาห์ขึ้นไป ทารกจะตอบสนองโดยการเคลื่อนไหว และช่วยกระตุ้น Sensory-Motor Integration (Marx V et al., 2001)
* **แนะนำ:** ใช้ฝ่ามือลูบหน้าท้องขณะพูดคุยหรือเปิดเพลง สังเกตการตอบสนองของลูกเป็น Feedback

4. **โภชนาการแม่ตั้งครรภ์ (Maternal Nutrition)**

* **Evidence:** การได้รับ DHA, โฟเลต, ธาตุเหล็ก และโปรตีนอย่างเพียงพอ มีผลต่อโครงสร้างสมองและการเชื่อมต่อของ Neurons โดยตรง (Innis SM, 2008)
* **แนะนำ:** อาหารประเภทปลา, ไข่, ถั่ว และเสริม DHA อย่างน้อย 200-300 mg/day ตั้งแต่ต้นจนจบการตั้งครรภ์

5. **หลีกเลี่ยงความเครียด (Maternal Stress Reduction)**

* **Evidence:** Cortisol จากความเครียดแม่ตั้งครรภ์ที่สูง ส่งผลต่อโครงสร้างสมองของทารก (Sandman CA et al., 2012)
* **แนะนำ:** ฝึกการหายใจลึก ๆ (Mindful Breathing), พักผ่อนให้เพียงพอ และรับกำลังใจจากคนรอบข้าง

---

🐥ข้อควรระวังในการกระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์

* หลีกเลี่ยงเสียงดังเกิน 70 dB
* งดการกระตุ้นที่ทำให้ท้องแข็ง (เช่น นวดแรง ๆ)
* ระมัดระวังความเชื่อผิด ๆ ที่ไม่มีงานวิจัยรองรับ เช่น ใช้เครื่องกระตุ้นเสียงอัลตราซาวด์บ่อยเกินไปโดยไม่จำเป็นทางการแพทย์

---

👩🏻‍⚕️สรุปแบบหมอไพพรรณสไตล์

“ลูกในท้องเป็นนักเรียนตั้งแต่ยังไม่ลืมตาดูโลก” การกระตุ้นพัฒนาการควรเริ่มตั้งแต่ตอนนี้เลยค่ะ แต่ขอให้เป็นวิธีธรรมชาติ นุ่มนวล ปลอดภัย และอิงจากหลักฐานที่เชื่อถือได้ เพราะ “การเรียนรู้ที่ดีที่สุดของลูก เริ่มจากเสียงหัวใจแม่ และอ้อมกอดที่แม่ให้ตั้งแต่อยู่ในท้อง” ❤️

---

📖อ้างอิง📖

1. Lecanuet JP, et al. "Fetal Discrimination of Musical Stimuli". Dev Psychobiol. 1993.
2. Lozoff B, et al. "Iron Deficiency in Infancy and Subsequent Neurodevelopment". J Nutr. 2010.
3. Marx V, Nagy E. "Fetal Behavioural Responses to Maternal Voice and Touch". Early Human Development. 2001.
4. Innis SM. "Impact of maternal diet on human milk composition and neurological development of infants". Am J Clin Nutr. 2008.
5. Sandman CA, et al. "Fetal exposure to maternal depression and cortisol influences infant temperament". Child Development. 2012.

---

❤️

👶 **IUI (การฉีดเชื้อเข้าโพรงมดลูก) – ทางเลือกสำหรับคู่รักที่อยากมีลูก**ในยุคปัจจุบัน คู่รักจำนวนไม่น้อยเจออุปสรรค “อยากม...
02/10/2025

👶 **IUI (การฉีดเชื้อเข้าโพรงมดลูก) – ทางเลือกสำหรับคู่รักที่อยากมีลูก**

ในยุคปัจจุบัน คู่รักจำนวนไม่น้อยเจออุปสรรค “อยากมีลูก แต่ไม่ติดง่ายเหมือนที่คิด”
หนึ่งในวิธีการช่วยเจริญพันธุ์ที่ไม่ซับซ้อนและเป็นที่นิยม คือ **IUI**

💡 **IUI คืออะไร?**

* เป็นการคัดอสุจิที่แข็งแรง แล้วฉีดเข้าโพรงมดลูกตรงช่วงไข่ตก
* ช่วยให้อสุจิเดินทางไปเจอกับไข่ได้ง่ายขึ้น
* ขั้นตอนไม่ซับซ้อน เจ็บน้อย และค่าใช้จ่ายไม่สูงเท่า IVF

📊 โอกาสสำเร็จโดยเฉลี่ยอยู่ที่ **5–15% ต่อรอบ** ขึ้นอยู่กับอายุและสุขภาพของทั้งสองฝ่าย
เหมาะสำหรับคู่ที่มีสาเหตุมีบุตรยากไม่ชัดเจน หรือมีปัญหาอสุจิ/ไข่เล็กน้อย

✨ ตอนนี้มีหลายสถานพยาบาลในประเทศไทยที่สามารถทำ IUI ได้
เพื่อให้คู่รักมีโอกาสเลือกสถานที่ที่สะดวกและเหมาะกับตัวเอง
รายละเอียดรายชื่อสถานพยาบาล 👉 สแกนดูได้จาก **QR Code** ด้านล่างค่ะ

> การมีลูกอาจไม่ง่าย…แต่ก็ไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้ 🌱
> เพราะทุกความหวังสมควรได้มีโอกาส 👩‍❤️‍👨👶

---

“อยากมีลูก แต่ไม่ง่ายอย่างที่คิด… IUI อาจเป็นอีกหนึ่งคำตอบ 💖
ขั้นตอนสั้นๆ ไม่ซับซ้อน และเริ่มต้นได้ใกล้ตัวกว่าที่คิด
กดดูรายชื่อสถานพยาบาลที่ให้บริการได้จาก QR code เลยค่ะ 👇”

---

# # 🔖 Hashtags

#มีลูกยากไม่ใช่เรื่องไกลตัว #การมีบุตร #หมอสูติเล่าให้ฟัง

---

https://drive.google.com/file/d/1niLkQksDWTYkbU0QUV-bFrlhLrZbSu0_/view

ที่อยู่

224/9 หมู่บ้านสรัญสิริ ซอยโพธารส
Chumporn

เวลาทำการ

จันทร์ 17:00 - 20:30
อังคาร 17:00 - 20:30
พุธ 17:00 - 20:30
พฤหัสบดี 17:00 - 20:30
ศุกร์ 17:00 - 20:30
เสาร์ 09:00 - 12:30
13:30 - 15:30

เบอร์โทรศัพท์

+66 82 563 4778

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ คลินิกสูตินรีเวชหมอไพพรรณผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram

ประเภท