Vestibular Clinic, Ramathibodi Hospital

Vestibular Clinic, Ramathibodi Hospital Also, we determine the most effective treatment path to help get you on the road to recovery as soon as possible.

Vestibular Clinic at the Ramathibodi Hospital is a highly specialized clinic offering access to advanced vestibular diagnostic testing as well as rehabilitation. We help patients who are experiencing any forms of dizziness, vertigo, or imbalance get to the root cause of their symptoms by providing the comprehensive assessment. Vestibular rehabilitation is a proven treatment for dizziness and balance problems and is highly effective for all age groups. Our specialized physiotherapists can help you return to a life without dizziness by designing an individually tailored exercise program to ensure the best results.

🌀 เมื่อหมอบอกว่า เป็นโรคตะกอนหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน (Benign Paroxysmal Positional Vertigo - BPPV)📌 โรคนี้คืออะไรโรคตะกอ...
14/08/2025

🌀 เมื่อหมอบอกว่า เป็นโรคตะกอนหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน (Benign Paroxysmal Positional Vertigo - BPPV)

📌 โรคนี้คืออะไร
โรคตะกอนหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน (โรคเวียนศีรษะจากการเปลี่ยนท่าทาง) เกิดจากการที่ผลึกแคลเซียมที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบการทรงตัวของหูชั้นใน หลุดออกจากตำแหน่งปกติ ไปอยู่ในอีกบริเวณหนึ่ง ซึ่งคือหลอดกึ่งวงกลมที่ใช้รับการทรงตัว

🤕 อาการเป็นอย่างไร
จะมีอาการเวียนศีรษะบ้านหมุน เมื่อมีการเปลี่ยนท่าทางของศีรษะ โดยส่วนใหญ่อาการหมุนจะน้อยกว่า 1 นาที อาจมีอาการเวียนศีรษะหรือโคลงเคลงในระหว่างวันได้ แต่อาการมักไม่รุนแรงและไม่มีอาการของระบบสมอง เช่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง ชาครึ่งซีก พูดไม่ชัด กลืนลำบาก ร่วมด้วย

⚙️ ทำให้เกิดอาการได้อย่างไร
ผลึกแคลเซียมที่อยู่ผิดที่นี้ จะเคลื่อนที่ตามการขยับของศีรษะ ทำให้มีอาการเมื่อเปลี่ยนท่าทาง เช่น ก้ม เงย ล้มตัวลงนอน กลิ้งตัวบนที่นอน นอนสระผม นอนทำฟัน หรือการแหงนหน้าเพื่อหยอดตา

👥 คนอื่นเป็นกันบ้างไหม
มากกว่า 50% ของผู้ป่วยที่มีอาการเวียนศีรษะบ้านหมุนเป็นโรคนี้ และโรคนี้เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดที่ทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะบ้านหมุน

❓ทำไมถึงเป็นกัน
อายุที่มากขึ้น การกระทบกระแทกของศีรษะ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผลึกแคลเซี่ยมหลุด ปัจจัยอื่นที่ทำให้เพิ่มความเสี่ยง เช่น เพศหญิง โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง โรคกระดูกพรุน ภาวะขาดวิตามินดี โรคไมเกรนหูชั้นใน โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน โรคประสาทการทรงตัวอักเสบ

🚫 เรียกอีกอย่างว่า โรคน้ำในหูไม่เท่ากันใช่หรือไม่
❌ไม่ใช่ โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน จะมีอาการเวียนศีรษะบ้านหมุนที่มีระยะเวลายาวนานกว่ามาก มีการได้ยินลดลง มีเสียงรบกวนในหู และรู้สึกแน่น ๆ ในหูร่วมด้วย

🧠 เกิดจากความผิดปกติของสมองหรือไม่
❌ ไม่ใช่ โรคตะกอนหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน เป็นความผิดปกติที่หูชั้นใน

⚠️ เป็นอันตรายถึงชีวิตหรือทำให้มีการลุกลามหรือไม่
ตัวโรคไม่มีการลุกลามและไม่อันตรายถึงชีวิต อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่มีอาการ ควรระมัดระวังเพื่อไม่ให้ล้มหรือได้รับอุบัติเหตุเพิ่มเติม

🍽️ เคยเป็นแล้ว ห้ามทำอะไรหรือมีอาหารที่ห้ามรับประทานหรือไม่
ในช่วงที่สบายดี ไม่มีข้อห้ามใด ๆ สามารถก้ม เงย ออกกำลังกาย ใช้ชีวิตประจำวัน ท่องเที่ยว รวมถึงขึ้นเครื่องบินได้ตามปกติ ในช่วงมีอาการ ให้ระมัดระวังท่าที่กระตุ้นอาการ เนื่องจากอาจทำให้เวียนศีรษะบ้านหมุนและเกิดอุบัติเหตุตามมา ควบคุมอาหารตามโรคประจำตัวอื่น ๆ ที่เป็น ทั้งในช่วงที่สบายดีและมีอาการ

🔄 หายเองได้หรือไม่ จะเป็นซ้ำหรือไม่
มีโอกาสหายเองได้ เมื่อผลึกแคลเซียมกลับเข้าที่แล้ว อาการจะหายได้เอง หากมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง ชาครึ่งซีก หรืออาการเป็นรุนแรง มีอาการต่อเนื่องไม่หาย ควรพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยแยกโรคและรักษา โรคนี้มีโอกาสเป็นซ้ำได้ประมาณ 15% ต่อปี

🩺 วินิจฉัยอย่างไร
วินิจฉัยจากประวัติ การตรวจร่างกายระบบการทรงตัว และการตรวจด้วยท่าทางที่จำเพาะกับตัวโรค มีการหมุนศีรษะ ช่วงที่ได้รับการตรวจ อาจกระตุ้นให้มีอาการเวียนศีรษะบ้านหมุนได้ทั้งนี้เพื่อให้ได้การวินิจฉัย โดยแพทย์จะดูอาการผู้ป่วยและการกระตุกของลูกตา

💊 การรักษา
การรักษาหลัก คือการแก้ที่ต้นเหตุ โดยทำกายภาพบำบัดเพื่อให้ผลึกแคลเซียมกลับเข้าที่ อาจมีการให้ยาเพื่อบรรเทาอาการเวียนศีรษะร่วมด้วยในบางราย

💭 กลัวว่าจะเป็นซ้ำ
การกลัวหรือกังวลมากว่าจะเป็นซ้ำในช่วงที่สบายดีแล้ว จนไม่กล้าขยับศีรษะ ใช้ชีวิตประจำวันตามปกติหรือเดินทางท่องเที่ยว ส่งผลต่อสภาวะจิตใจได้ ซึ่งอาจทำให้ต้องได้รับการรักษาภาวะทางด้านจิตใจตามมา

🏠 หากเป็นซ้ำที่บ้านควรทำอย่างไร
อาการมักเกิดขึ้นในช่วง 20 วินาทีแรก หลังจากมีการเปลี่ยนอิริยาบถ ให้ระมัดระวังการยืนและเดินในช่วง 20 วินาทีแรกนี้ เช่น หากรู้สึกว่า วันนี้ตื่นมาอาการแปลก ๆ ไป เมื่อลุกขึ้นจากท่านอน ให้นั่งบนเตียงนิ่ง ๆ 20 วินาทีก่อนค่อยยืนหรือเดินต่อ เพราะหากเกิดอาการเวียนศีรษะบ้านหมุนในท่านั่ง จะไม่อันตรายเท่าท่าเดิน หากเกิดอาการเวียนศีรษะบ้านหมุนครั้งใหม่ ให้ทำให้ศีรษะอยู่นิ่ง ๆ อาการจะหายไปได้ โดยส่วนใหญ่อาการจะไม่เกิน 1 นาที เมื่อมีการเคลื่อนไหวศีรษะซ้ำ จะยังมีอาการแบบเดิมซ้ำได้ จนกว่าผลึกแคลเซียมจะกลับเข้าที่ หากอาการส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน อาการเปลี่ยนไปจากครั้งที่เคยพบแพทย์ มีอาการอื่น ๆ ทางสมองร่วม ให้พบแพทย์ซ้ำ

หากท่านต้องการปรึกษาปัญหาเวียนศีรษะ สามารถติดต่อคลินิกเวียนศีรษะและการทรงตัว ชั้น 4 อาคารศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตน์ คณะแพทยศาสตร์​โรงพยาบาลรามาธิบดี หรือโสตศอนาสิกแพทย์ได้ครับ

📌 คุณมีอาการเหล่านี้หรือไม่ถ้าท่านรู้สึกโคลง ตัวโยกเหมือนยืนอยู่บนเรือ หรือรู้สึกเดินเซไม่มั่นคงเหมือนเมาแต่ไม่มีบ้านหมุ...
16/07/2025

📌 คุณมีอาการเหล่านี้หรือไม่

ถ้าท่านรู้สึกโคลง ตัวโยกเหมือนยืนอยู่บนเรือ หรือรู้สึกเดินเซไม่มั่นคงเหมือนเมาแต่ไม่มีบ้านหมุน อาจเป็นไป
ได้ว่าคุณอาจเป็นโรค PPPD

🧠 PPPD คืออะไร
PPPD ย่อมาจาก Persistent Postural Perceptual Dizziness เป็นโรคที่ทำให้รู้สึกเวียน/มึนศีรษะเรื้อรังที่รบกวนชีวิตประจำวัน ไม่ใช่โรคทางจิตเวช แต่เกิดจากการประมวลผลข้อมูลเกี่ยวกับการทรงตัวของสมองผิดปกติ คล้ายๆ กับการแปลความผิดของคอมพิวเตอร์ พบได้บ่อยถึง 1 ใน 4 ของผู้ที่มีอาการเวียนศีรษะเรื้อรังทั้งหมด โดยเฉพาะเพศหญิงอายุ 50 ปีขึ้นไป ในเด็กและวัยรุ่นก็อาจพบได้แต่น้อยกว่า

🔎 สาเหตุ
ส่วนใหญ่เกิดขึ้นหลังจากมีอาการเวียนศีรษะหรือมีความผิดปกติของระบบการทรงตัวต่างๆ เช่น โรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน โรคของระบบการทรงตัว เวียนศีรษะจากไมเกรน การบาดเจ็บที่ศีรษะ ภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ หรือมีเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนทางจิตใจ ทำให้เกิดภาวะแพนิค หรือภาวะวิตกกังวล ผิดปกติของระบบต่างๆ ได้รับการรักษาจนหายดีแล้วแต่อาการเวียนศีรษะยังคงอยู่ เพราะระบบต่าง ๆ ของถึงแม้ว่าความการทรงตัวและสมองยังไม่สามารถประสานงานกันได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นเดิม

⚠️ ปัจจัยส่งเสริมให้เกิดโรค
🔹 ผู้ที่มีบุคลิกภาพแบบย้ำคิดย้ำทำ (Obsessive and compulsive personality) หรือมีอารมณ์ไม่
มั่นคง (neurotic personality trait) มีแนวโน้มจะเป็น PPPD ได้มากกว่า
🔹 ผู้ที่เฝ้าระวังร่างกายผิดปกติ (high body vigilance) จะสังเกตร่างกายตัวเองมากเกินไป เช่น
ความรู้สึกโคลงเคลงขณะยืนหรือเดิน ถึงแม้จะเพียงเล็กน้อย แต่ก็จะมีความวิตกกังวลว่าจะล้มมาก
ต้องระวังตัวตลอดเวลา มักมีมุมมองต่อโรคในแง่ลบ (negative illness perception)

😵 อาการ
🔸 อาการหลักของ PPPD คือความรู้สึกโคลง โยกหรือเซเหมือนอยู่บนเรือ เดินไม่มั่นคงรู้สึกว่าเดินเหมือนคนเมา อาจมีอาการเวียนศีรษะร่วมด้วยแต่ไม่หมุนต่อเนื่องกันมากกว่า 3 เดือน โดยอาจมีช่วงที่อาการดีขึ้นหรือแย่ลงสลับกันไป
อาการจะแย่ลงในสถานการณ์ดังต่อไปนี้:
🔸 ขณะนั่งโดยไม่มีพนักพิง ยืน หรือเดิน
🔸 ขณะเคลื่อนไหวร่างกาย เช่น ก้ม เงย หัน หรืออยู่ในภาวะที่เคลื่อนไหว เช่น นั่งรถ ขึ้นลิฟต์ เป็นต้น
🔸 ขณะมองภาพเคลื่อนไหวหรือมีความซับซ้อน เช่น การจ้องมองมือถือ เดินในที่ๆ มีคนหนาแน่น
🧠 อาการอื่นๆ ที่อาจตามมา คือ สมาธิสั้นลง หลงลืม หรือรู้สึกอยากแยกตัวจากสังคม

🧪การวินิจฉัย
ยังไม่มีการตรวจใดๆ ที่สามารถยืนยัน PPPD โดยตรง ปัจจุบันอาศัยการซักประวัติเป็นหลัก โดยใช้เกณฑ์ในการวินิจฉัย ดังนี้
1️⃣ ถ้าท่านรู้สึกเวียนศีรษะหรือโคลง แต่ไม่หมุน เกือบตลอดเวลาต่อเนื่องกันมาอย่างน้อย 3 เดือน
2️⃣ ถ้าอาการของท่านแย่ลง เวลาตั้งตัวตรง เคลื่อนไหวหรือมองภาพเคลื่อนไหว
3️⃣ ถ้าท่านไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติเพราะอาการที่เป็นอยู่
4️⃣ ไม่พบโรคหรือความผิดปกติอื่นๆ

🧑🏻‍⚕️ การรักษา
💊 ยา จัดอยู่ในกลุ่มยาต้านเศร้าที่จะช่วยปรับสมดุลการประมวลผลของสมอง เช่น sertraline,
escitalopram, venlafaxine เป็นต้น อย่างไรก็ตามยากลุ่มนี้อาจก่อให้เกิดภาวะไม่พึงประสงค์ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก เช่น คลื่นไส้ อาเจียน กระสับกระส่าย นอนไม่หลับ กังวลมากขึ้น แต่จะค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ เมื่ออาการต่างๆ ดีขึ้นแพทย์จะพิจารณาปรับลดยาลง หรือหยุดยาในที่สุด
💪การฟื้นฟูระบบการทรงตัว (Vestibular Rehabilitation)
ผู้ป่วย PPPD ส่วนใหญ่มักหลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหว นักกายภาพบำบัดสามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับการฝึกการทรงตัว ท่าออกกำลังที่จะช่วยลดความไวต่อการเกิดอาการเวียนศีรษะ อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยบางรายอาจรู้สึกเวียนศีรษะเพิ่มขึ้นขณะฝึกเพราะต้องเผชิญกับสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการ และมีความวิตกกังวลที่รุนแรงขึ้นหลังการรักษา
🧘🏻การทำจิตบำบัด
ความวิตกกังวลเป็นผลลัพธ์ที่ตามมาหลังจาก PPPD ซึ่งจะยิ่งทำให้อาการแย่ลง ดังนั้นการทำจิต
บำบัดด้วยการปรับความคิดและพฤติกรรม (Cognitive Behavioral Therapy; CBT) อาจเป็นประโยชน์ โดยช่วยลดการเฝ้าระวังร่างกายที่มากเกินไปและความกลัวว่าจะเวียนศีรษะหรือหกล้ม รวมถึงช่วยให้ผู้ป่วยสามารถเผชิญกับความวิตกกังวลได้ดีขึ้น นอกจากนี้การทำจิตบำบัด จะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถรับมือการฝึกเพื่อฟื้นฟูระบบการทรงตัวได้ดีขึ้น

❓ จะหายไหม
เมื่อได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง อาการต่างๆ จะค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ แต่จำเป็นต้องอาศัยเวลาเป็น
เดือนหรือปี เพื่อให้สมองปรับการทำงานให้เหมาะสม ทั้งนี้ผู้ป่วยต้องให้ความร่วมมือในการรักษาและปฏิบัติตามคำแนะนำ

🏡 เคล็ดลับในการใช้ชีวิตประจำวัน
🧹การจัดสิ่งแวดล้อมควรจัดโต๊ะทำงานให้เป็นระเบียบ เพื่อลดสิ่งเร้าที่อาจกระตุ้นอาการ
📱หลีกเลี่ยงการจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ โดยควรพักสายตาทุก 20 นาที
🏠 จัดบ้านให้เป็นระเบียบ ลดสิ่งกีดขวางเพื่อป้องกันการหกล้ม
🕶️ หากต้องไปยังสถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่านควรพกแว่นกันแดดหรือหมวก เพื่อลดแสงจ้าและสิ่งกระตุ้นทางสายตา ถ้าเริ่มมีอาการควรมองหาจุดนั่งพักที่เงียบสงบและปลอดภัย

💪 การออกกำลังกาย
ฝึกการทรงตัวหรือการเคลื่อนไหวตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยให้สมองเกิดการปรับตัวให้เข้าสู่สภาวะปกติ ถึงแม้ช่วงแรกของการฝึกอาจกระตุ้นให้เกิดอาการเวียนศีรษะแต่เมื่อฝึกอย่างสม่ำเสมอจะเกิดการปรับตัว อาการเวียนศีรษะจะค่อยๆ ทุเลาลงจนหายไป
🏃การเดินเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกที่เหมาะสำหรับผู้ป่วย PPPD เพราะช่วยเพิ่มความ
ทนทานของร่างกายและกระตุ้นการปรับตัวของสมองในการประมวลผลการทรงตัว อีกทั้งยังช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวล ควรเริ่มเดินเป็นระยะเวลาสั้น ๆ และเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้ร่างกายและสมองได้ปรับตัวอย่างเหมาะสม ควรเลือกสถานที่ที่ปลอดภัยและไม่เสี่ยงต่อการหกล้ม และควรสวมรองเท้าที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ

🥴 วิธีจัดการกับอาการเวียนศีรษะ
เมื่อรู้สึกเวียนศีรษะ ควรนั่งพักและสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อช่วยบรรเทาอาการ หากเวียนศีรษะมาก
อาจใช้ยาร่วมด้วย เช่น ยาแก้แพ้ หรือยาแก้เมารถ แต่ไม่แนะนำให้ใช้ยากลุ่มนี้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานเนื่องจากยาเหล่านี้จะยับยั้งการทำงานของศูนย์การทรงตัวในสมอง ทำให้การปรับตัวของสมองช้าลง

😰เรียนรู้วิธีรับมือกับความเครียด
ความเครียดสามารถกระตุ้นหรือทำให้อาการต่างๆ แย่ลง โดยเพิ่มความไวของสมองต่อความรู้สึก
เวียนศีรษะและการทรงตัว นำมาสู่ความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้น และย้อนกลับมาทำให้อาการเวียนศีรษะแย่ลงอีก เกิดเป็นวงจรซ้ำซ้อน การหยุดวงจรนี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรักษาที่ได้ผล เทคนิคการผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิ และการฝึกหายใจ ช่วยลดความเครียดและความรุนแรงของอาการ หากความเครียดหรือความวิตกกังวลส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน ควรขอคำปรึกษาจาก
ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวชหรือจิตวิทยา บางกรณีอาจจำเป็นต้องใช้ยาเพื่อช่วยควบคุมความวิตกกังวลหรือภาวะซึมเศร้าควบคู่กับการรักษาอื่นๆ

📌 โดยสรุป
♦️ PPPD เป็นโรคที่เกิดจากการปรับตัวที่ผิดปกติของสมองต่อภาวะเวียนศีรษะที่เกิดขึ้นนำมาก่อน ไม่ว่าแรกเริ่มจะเกิดจากโรคที่สัมพันธ์กับหูชั้นใน หรือโรคเจ็บป่วยอื่นๆ ใดๆ ก็ตาม
♦️ โรคที่เป็นต้นกำเนิดหรือตัวกระตุ้นอาจหายไปแล้วหรือยังมีอยู่ก็ได้
♦️ ถ้าโรคต้นกำเนิดอาการเวียนยังมีอาการอยู่ ก็จะมีอาการของโรคดังกล่าว ควบคู่กับอาการ
ของโรค PPPD
♦️ ถ้าโรคต้นกำเนิดอาการเวียนศีรษะบรรเทาแล้ว ก็อาจจะมีอาการแค่ของ PPPD อย่างเดียว
♦️ผู้ป่วยอาจมีอาการเวียนศีรษะ โคลงเคลง ทรงตัวลำบาก รู้สึกพื้นยวบยาบ ทรงตัวแย่ลงเมื่อขยับตัวมากขึ้น หรืออาการแย่ลงเมื่อภาพรอบๆ ตัวมีความซับซ้อนมากขึ้น หรืออยู่ในที่โล่งมาก ใช้สายตาเยอะ และอาการดังกล่าวนี้รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันเกิน 3 เดือน
♦️ โรคนี้เป็นโรคในกลุ่ม functional disorder ไม่ใช่ความผิดปกติทางกายภาพถาวร ทำให้ไม่สามารถตรวจพบได้จากการถ่ายภาพรังสี CT MRI รวมถึงเจาะเลือดใดๆ แต่ก็ไม่ใช่โรคทางจิตเวช หรือไม่ได้แปลว่าผู้ป่วยคิดมาก คิดไปเอง หรือจิตใจอ่อนแอ เพียงแค่สมองเกิดการปรับตัวผิดปกติและต้องการการฝึกฝนใหม่
♦️ การรักษาประกอบไปด้วยการให้ยาในกลุ่ม SSRI หรือ SNRI, การกายภาพการทรงตัว, และการทำจิตบำบัดเพื่อการปรับความคิดและพฤติกรรม ซึ่งอาจทำร่วมกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาได้
♦️ โรคนี้สามารถดีขึ้นได้ เมื่อผู้ป่วยมีความเข้าใจในตัวโรค ลดความกังวลและพยายามใช้ชีวิตตามปกติและรับการรักษาที่ถูกต้อง ปฏิบัติตามที่แพทย์แนะนำได้

หากท่านต้องการปรึกษาปัญหาเวียนศีรษะ สามารถติดต่อคลินิกเวียนศีรษะและการทรงตัว ชั้น 4 อาคารศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตน์ คณะแพทยศาสตร์​โรงพยาบาลรามาธิบดี หรือโสตศอนาสิกแพทย์ได้ครับ

A huge thank you to everyone who joined the meeting! Your participation and contributions made it a truly valuable exper...
10/02/2025

A huge thank you to everyone who joined the meeting! Your participation and contributions made it a truly valuable experience.

Special thanks to Audimed, Interacoustics, and our invited speaker, Leigh Martin, for their support and insightful contributions.

Let’s keep in touch! If we have another meeting in the future, we’ll post updates here—so stay tuned. Looking forward to seeing you all again!

If you have any comments or feedback, feel free to DM us via this page—we’d love to hear your thought

หน่วยตรวจการทรงตัว ภาควิชาโสตศอนาสิกวิทยา คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ขอเชิญเข้าร่วมการประชุมวิชาการนานาชาติ“Founda...
06/11/2024

หน่วยตรวจการทรงตัว ภาควิชาโสตศอนาสิกวิทยา คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ขอเชิญเข้าร่วมการประชุมวิชาการนานาชาติ
“Foundations in Balance Assessments: Thailand 2025”

วันที่: 6-8 กุมภาพันธ์ 2568
สถานที่: โรงแรม Mövenpick สุขุมวิท 15 กรุงเทพฯ

การประชุมนี้จะดำเนินการบรรยายและกิจกรรมทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมทั้งจากประเทศไทยและนานาชาติสามารถแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในด้านการประเมินระบบการทรงตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หัวข้อสำคัญในงานประชุม:

• หลักสูตรครอบคลุมเนื้อหาสำคัญ: ครอบคลุมการวินิจฉัยและการรักษาอาการเวียนศีรษะ BPPV, การทดสอบ vHIT, VEMP, caloric test, การทดสอบด้วยเก้าอี้หมุน (rotatory chair), เก้าอี้เพื่อการวินิจฉัยและรักษา BPPV (TRV Chair) และโปรแกรมฟื้นฟูระบบการทรงตัว
• การฝึกปฏิบัติจริง: การสาธิตภาคปฏิบัติในทุกหัวข้อ โดยมีคำแนะนำอย่างใกล้ชิดจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ


วิทยากร:

• Leigh Martin – Adjunct Professor in Audiology, Director of the Academy, University College Cork, Ireland
• นพ.กฤตนัย ธีรธรรมธาดา – หน่วยโสตและโสตประสาทวิทยา ภาควิชาโสตศอนาสิกวิทยา คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
• คณาจารย์จากหน่วยโสตและโสตประสาทวิทยา ภาควิชาโสตศอนาสิกวิทยา คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

อัตราค่าลงทะเบียน:

• ผู้เข้าร่วมจากต่างประเทศ: Early Bird 280 USD, Regular 310 USD, Late 340 USD
• ผู้เข้าร่วมชาวไทย: Early Bird 9,000 THB, Regular 10,000 THB, Late 11,000 THB

รายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.imcpcthailand.com/balancing

กรุณาลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อรับสิทธิ์ส่วนลด Early Bird
https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLScTuwDqs6GEN2r2EgFUL3kMiGu67XlhLsxyIszQ8jtApGvNBA/viewform?pli=1
การประชุมนี้เป็นโอกาสสำคัญในการเพิ่มพูนความรู้ทางวิชาการด้านการประเมินระบบการทรงตัว และสร้างเครือข่ายทางวิชาชีพในระดับนานาชาติ

ที่อยู่

Dusit

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Vestibular Clinic, Ramathibodi Hospitalผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง Vestibular Clinic, Ramathibodi Hospital:

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram

ประเภท