24/07/2025
สถาบันมะเร็งแห่งชาติ จับมือ KMITL ผนึกกำลังพัฒนา AI ตรวจคัดกรองมะเร็ง เพิ่มประสิทธิภาพ ลดเหลื่อมล้ำ เพื่อสุขภาพคนไทย
🔹สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ ร่วมกับ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (KMITL) จัดพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือทางวิชาการ โดยมีเป้าหมายในการบูรณาการองค์ความรู้ด้านการแพทย์และวิศวกรรม เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ระบบสาธารณสุขไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการตรวจคัดกรองและวินิจฉัยโรคมะเร็งอย่างมีประสิทธิภาพ
🔹วันนี้ (24 กรกฎาคม 2568) ที่ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร เรืออากาศเอกสมชาย ธนะสิทธิชัย ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ และรองศาสตราจารย์ ดร.สมยศ เกียรติวนิชวิไล คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ KMITL ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือทางวิชาการ โดยมีนายแพทย์ธนะรัตน์ อิ่มสุวรรณศรี รองผู้อำนวยการด้านวิชาการและแพทยศาสตรศึกษา สถาบันมะเร็งแห่งชาติ รองศาสตราจารย์ ดร.วิบูลย์ ปิยวัฒนเมธา ภาควิชาวิศวกรรมชีวการแพทย์ KMITL และคณะผู้บริหารจากทั้งสองหน่วยงาน ร่วมเป็นสักขีพยาน
🔹เรืออากาศเอกสมชาย ธนะสิทธิชัย ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวว่า “ประเทศไทยยังคงเผชิญกับปัญหาเชิงระบบในการให้บริการตรวจคัดกรองและวินิจฉัยโรคมะเร็งโดยเฉพาะมะเร็งในสตรี เช่น มะเร็งเต้านม ซึ่งมีอุบัติการณ์สูงแต่ทรัพยากรที่มีอยู่ ยังไม่เพียงพอ ทั้งบุคลากร เครื่องมือและเทคโนโลยี หลายระบบยังจำเป็นต้องพึ่งพาปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทางการแพทย์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งมีต้นทุนสูงและไม่ตอบโจทย์บริบทของประเทศไทย ขณะที่มะเร็งปากมดลูกแม้จะมีการจัดบริการที่ครอบคลุมมากขึ้น แต่ยังคงขาดเทคโนโลยีสนับสนุนด้านการวิเคราะห์ภาพ เช่น ภาพแป๊ปสเมียร์และโคลโปสโคปี ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มความแม่นยำ ในการวินิจฉัย ความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นต้นแบบของการพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ยั่งยืน สามารถขยายผลได้ในอนาคต และนำไปสู่การให้บริการที่ครอบคลุมและแม่นยำยิ่งขึ้นทั้งในเขตเมืองและพื้นที่ห่างไกล”
🔹รองศาสตราจารย์ ดร.สมยศ เกียรติวนิชวิไล คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ KMITL กล่าวว่า “การร่วมมือในครั้งนี้เป็นการนำความเชี่ยวชาญของนวัตกรรมทางวิศวกรรมของ KMITL ในด้านชีวภาพโฟโตนิกส์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาผสานกับความเชี่ยวชาญทางคลินิกของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ เพื่อสร้างเทคโนโลยีที่มีต้นทุนต่ำ เข้าถึงได้ง่าย และสามารถนำไปใช้ได้จริงในระบบบริการสุขภาพของประเทศ”
🔹ความร่วมมือในครั้งนี้เกิดจากวิสัยทัศน์ร่วมกันของทั้งสองหน่วยงาน ที่ต้องการส่งเสริมการนำนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้จริงในระบบบริการสุขภาพ โดยเฉพาะในการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งตั้งแต่ระยะแรกเพิ่มความแม่นยำ และลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ ซึ่งมีโครงการนำร่องสำคัญที่มุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยี AI วิเคราะห์ข้อมูลจากการตรวจทางการแพทย์ ได้แก่ การพัฒนาซอฟต์แวร์ Deep Learning สำหรับวิเคราะห์ภาพจากการตรวจแป๊ปสเมียร์ (Pap Smear) เพื่อค้นหาเซลล์ผิดปกติที่อาจนำไปสู่โรคมะเร็งปากมดลูก, การประยุกต์ใช้ AI กับภาพถ่ายแมมโมแกรม (Mammogram) ตรวจหาก้อนหรือสิ่งผิดปกติในเต้านมที่อาจเป็นมะเร็ง, การใช้เทคโนโลยี Deep Learning วิเคราะห์ภาพจากกล้อง Colposcopy ดูความผิดปกติของปากมดลูกแบบขยายภาพ เพิ่มความแม่นยำในการวินิจฉัยและวางแผนการรักษา
🔹นอกจากนั้นความร่วมมือนี้นับเป็นต้นแบบของการพัฒนา “เทคโนโลยีเพื่อประชาชน” ที่เน้นความยั่งยืน ขยายผลได้จริง และสามารถเข้าถึงได้ในราคาที่สมเหตุสมผล โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย ผ่านการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งอย่างมีประสิทธิภาพ
*** ขอบคุณ ***
24 กรกฎาคม 2568