คลินิกจิตเวช โรงพยาบาลหาดใหญ่

คลินิกจิตเวช โรงพยาบาลหาดใหญ่ ให้บริการทางด้านสุขภาพจิต เช่น ปัญ? ให้บริการในวันเวลาราชการเท่านั้น

29/07/2025

🧠✨ คุณก็ช่วยเหลือคนรอบข้างได้ ด้วยหลัก “3ส”
(สำหรับเหตุการณ์ไม่สงบชายแดนไทย–กัมพูชา และสถานการณ์ตึงเครียดต่าง ๆ)
ส1 สอดส่องมองหา (Look) 👀
• ค้นหาผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน เมื่อคนที่ เศร้าหมอง กินไม่ได้ นอนไม่หลับ แยกตัวจากคนอื่น
• กลุ่มเสี่ยงและกลุ่มเปราะบาง: ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้เจ็บป่วยเรื้อรัง ผู้ป่วยจิตเวช โดย ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ลดความตื่นตระหนกในสังคม

ส2 ใส่ใจรับฟัง (Listen) 👂ฟังอย่างตั้งใจ รับฟังอย่างมีความหมาย เช่น
• เข้าใกล้ด้วยท่าทีอ่อนโยน 🤝
• ถามด้วยความเป็นห่วง: “เป็นอะไรไหม?”
• รับฟังอย่างตั้งใจ ไม่ตัดสิน
• แสดงความเข้าใจ ให้เวลาระบาย

ส3 ส่งต่อเชื่อมโยง (Link) 🔗 ให้ความช่วยเหลือตามความจำเป็น
• พาไปพบครอบครัว/เพื่อนสนิท
• แนะนำผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน
• ติดต่อ อสม. หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุข / โรงพยาบาล เพื่อดูแลต่อเนื่อง 🏥

สุขภาพจิตดี เริ่มได้จากเราและชุมชนของเรา 💚

#3สพลังใจ #กรมสุขภาพจิต

29/07/2025

“เด็ก ๆ ควรถูกสอนว่าให้คิด “อย่างไร” ไม่ใช่ว่าให้คิด “อะไร””

มาร์กาเร็ต มีด (Margaret Mead)

กรมสุขภาพจิต ขอแนะนำ
- ทักษะนี้พัฒนาได้ผ่าน : โปรแกรมการส่งเสริมพัฒนาการและสร้างวินัยเชิงบวก โดยครอบครัวมีส่วนร่วม (Preschool Parenting Program : Triple-P)
- หลักสูตรนี้ช่วยเสริมพลังพ่อแม่ผู้ปกครองในการส่งเสริมการปลูกฝังลักษณะนิสัยที่ดี พัฒนาอีคิวหรือความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Quotient EQ) ตั้งแต่ปฐมวัย ซึ่งจะทำให้เด็กมีคุณสมบัติของการมีอีคิวที่ดีติดตัวไปและสามารถนำมาใช้ในการดำเนินชีวิตทุกช่วงวัยได้อย่างอัตโนมัติ

- สามารถเข้าถึงได้ใน คลังความรู้สุขภาพจิต กรมสุขภาพจิต https://dmh-elibrary.org/

29/07/2025

เชิญชวนบุคลากรจิตอาสาทุกท่าน
1. ผู้สนใจสมัคร กรอกข้อมูล ใน Google form
2. กองสาธารณสุขฉุกเฉิน จะรวบรวมผู้สมัครใจ ส่งให้สำนักงานเขตทราบ และรวบรวมจัดทีม
3. เมื่อได้รับการร้องขอ เขตสุขภาพจะส่งทีมไปยังพื้นที่ที่ร้องขอต่อไป

29/07/2025

🧠 เสพข่าวมากไป ใจอาจล้า 📰💓
ข่าวคือความรู้... แต่ถ้ามากเกินไป ใจอาจรับไม่ไหว
ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารหลั่งไหล การดูแลใจเมื่ออยู่กับข่าวก็สำคัญพอๆ กับการติดตามข้อมูลที่ถูกต้อง
📍 สัญญาณเตือนว่าเราเสพข่าวมากเกินไป
-รู้สึกเหนื่อย แม้แค่ดูข่าว
-ฝันร้าย นอนไม่หลับ
-หงุดหงิด เครียดโดยไม่รู้สาเหตุ

🕒 เทคนิคดูแลใจเมื่ออยู่กับข่าว
-จำกัดเวลาเสพข่าว วันละ 2 รอบ รอบละไม่เกิน 15 นาที
-หยุดเลื่อนฟีด ถ้าหัวใจเริ่มแน่น หายใจลึกๆแล้ววางโทรศัพท์

🔄 เปลี่ยนการเสพ...ให้เป็นการเสริมพลัง
-รับฟังข่าวสารจากแหล่งที่น่าเชื่อถือได้
-เลือกติดตามเพจที่สร้างพลังใจ
-แชร์เรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นท่ามกลางเหตุการณ์

🧡 พักข่าว ≠ ไม่ใส่ใจ "แค่ดูแลใจตัวเองก่อน"
หากรู้สึกเครียด วิตกกังวล ช่องทางรับคำปรึกษา โทรปรึกษาได้ที่ สายด่วนสุขภาพจิต 1323

#สุขภาพจิตดีเริ่มที่ใจเรา #เสพข่าวอย่างมีสติ
#กรมสุขภาพจิต

29/07/2025

"เรื่องของ Resilience (ความสามารถในการฟื้นฟูทางจิตใจ)
กับ ซีรี่ส์เรื่อง Itaewon class"

ซีรี่ส์เรื่องนี้ สำหรับตนเอง
คิดว่าข้อคิดที่โดดเด่น คือ "resilience"

Resilience
แปลเป็นไทย คือ ความสามารถในการฟื้นฟูทางจิตใจ
หลังจากพบปัญหาความยากลำบากของชีวิต หรือ จิตใจ

สำหรับตนเอง
แปลคำนี้ว่า
"กลับมาใหม่ ไฉไลกว่าเดิม"

:) :) :)

!!!! Spoiler alert !!!!

พระเอกเรื่องนี้ พัคแซรอย

เป็นตัวอย่างของความ resilience

หนังปูถึงชีวิตรันทด (และบัดซบ)
ของพระเอก
พระเอกถูกไล่ออกจากโรงเรียนมัธยม พ่อถูกไล่ออกจากงาน พ่อถูกรถชนตาย
ตัวเขาต้องติดคุก
โดยทั้งหมดเกิดจากฝีมือ พ่อ-ลูกตระกูลหนึ่ง ที่รวยเป็นอันดับต้นของเกาหลี

หนังปูพื้นไปเรื่องการแก้แค้นห้ำหั่นกัน

ข้อคิดที่โดดเด่นในซี่รี่ส์เรื่องนี้

พระเอกตกอยู่ในสถานการณ์ที่ชีวิตตกต่ำลงเหวจนติดคุก
การติดคุก เป็นตราบาปหนึ่งที่ทำให้ใช้ชีวิตดีๆ ชีวิตที่รุ่งเรืองได้ยาก

และหนังสื่อว่า เมื่อออกจากคุกงานที่ทำได้ในเกาหลี
คือ กรรมกร ประมง หรือ งานในวงการนักเลง

จะอ่านหนังสือหาความรู้ไปทำไม
หาไปก็ไม่มีประโยชน์ ไม่มีใครจ้างหรอก ไม่มีสังคมยอมรับ

ฉากในรูปนี้
คือ ฉากที่โชว์ ความคิดของพระเอก
ที่ทำให้พระเอก มีความ resilience

พระเอกบอกว่า
"ถ้าเราคิดว่าตัวเองไร้ค่า เราก็จะไร้ค่า"

"ที่นายไร้ค่า
เพราะนายคิดว่าตนเองไร้ค่า"

"ความคิดว่าตนเองไร้ค่า เป็นความคิดที่งี่เง่า"

เป็นคำพูดที่พระเอก บอกกับนักเลงที่อายุน้อยกว่าที่เพิ่งติดคุกเข้ามาที่ไม่เข้าใจว่าพระเอกนั่งอ่านหนังสือ หาความรู้ไปทำไม
เพราะ เขาคิดว่า
"คนอย่างเขาจะออกไปทำอะไรดีๆได้อย่างไร ใครเขาจะเอา"

ฉากการปะทะกัน ระหว่างพระเอก กับ นักเลงรุ่นน้อง

บ่งบอกถึง ตรรกะ วิธีคิดที่ต่างกัน

พระเอกมีตรรกะ
เชื่อในคุณค่าของตนเอง
เขาไม่เคยคิดว่าตัวเขาไร้ค่า
แม้สถานการณ์จะชวนให้คิดแบบนั้น เชื่อแบบนั้น
เพราะ
คนรอบตัวคิดกับเขาแบบนั้น
สังคมคิดกับเขาแบบนั้น

เขาไม่เคยรู้สึกตนเองไร้ค่า แม้สังคมจะไม่เห็นคุณค่าเขา

และนี่เป็นที่มาที่ทำให้
พัคแซรอย พระเอกของเรื่อง
เป็นคนที่ไม่ย่อท้อ พร้อมลุกขึ้นสู้ชีวิตตลอด
ไม่ว่าสังคมจะดูถูกเหยียดหยามอย่างไร
เขาไม่หวั่น ไม่สนใจสายตาเหยียดหยาม สายตาที่มองเขาอย่างไร้ค่า

เขาสนใจเพียงว่า
เขาจะทำอะไรได้บ้าง
ที่เขาจะมีชีวิตที่ดี
ที่เขาจะมีชีวิตที่มีคุณค่าอย่างที่ตัวเขาฝันไว้

#ข้อคิดที่สำคัญ

ข้อคิดที่สำคัญ คือ
การไม่ดูถูกตนเอง
การเห็นคุณค่าในตนเอง

ไม่มีใครเกิดมาเพื่อมาเห็นคุณค่าเรา
คนที่เกิดมาเพื่อเห็นคุณค่าเรา
ในโลกนี้มีเพียงคนเดียวเท่านั้น
คือ ตัวเราเอง

เมื่อเราเห็นคุณค่าในตัวเอง
เรารู้ว่าเราทำอะไร เพื่ออะไร
และ ไม่ไปฟูมฟายกับสายตาผู้คนที่มองเรา

เราจะไม่ย่อท้อ
เราจะมีพลังในการต่อสู้

"กลับมาใหม่ ไฉไลกว่าเดิม" เกิดขึ้นแน่นอน

resilience ที่แท้ทรูมีอยู่จริง ภายในตัวเราทุกคน

🙂 🙂 🙂 🙂 🙂

บทความโดย พญ.ทานตะวัน อวิรุทธ์วรกุล

-----------------------------------------------
-----------------------------------------------

หมายเหตุ :
ขยายความ
"กลับมาใหม่ ไฉไลกว่าเดิม"

ไฉไลกว่าเดิม จาก
ความเข้มแข็งกว่าเดิม เฉลียวฉลาดรอบคอบกว่าเดิม มีทักษะชีวิตที่ดีกว่าเดิม เก่งกว่าเดิม ความเข้าใจ ความลุ่มลึก และ ความรอบรู้มากขึ้นกว่าเดิม
และ อีกหลายๆอย่างที่เติบโตมากขึ้นๆ
จากปัญหาและความยากลำบากที่เข้ามา

-----------------------------------------------

:) ท่านใดสนใจรับฟังเสียงบรรยายบทความนี้ สามารถรับฟังได้ทางลิงค์นี้ค่ะ :)
https://www.youtube.com/watch?v=LSPIZHTt2KM

--------------------------------------------------

ปล. สามารถรับฟังเพลง Start ของศิลปิน Gaho
เพลง ประกอบซีรี่ส์เรื่องนี้ได้ทางลิงค์นี้ค่ะ
ทั้งทำนอง และ เนื้อร้อง ยิ่งเห็นพลัง resilience ของพัคแซรอย พระเอกในเรื่องนี้มากค่ะ
https://www.youtube.com/watch?v=623wpnJG3o4

29/07/2025

‘มีจี’ และ ‘มีแร’ เป็นฝาแฝดกัน แต่ทั้งคู่มีนิสัยต่างกันโดยสิ้นเชิง

มีจี เป็นคนกล้าแสดงออก เล่นกีฬาเก่ง แต่เรียนไม่เก่ง ส่วน มีแร เป็นคนเรียนเก่ง เงียบ ไม่ชอบเล่นกีฬา สุขภาพไม่แข็งแรง ป่วยบ่อยๆ และไม่ชอบกินยา

ตั้งแต่เด็กมีจีและมีแรพยายามช่วยเหลือกัน ด้วยการสลับตัวกันไปทำในสิ่งที่ตัวเองแต่ละคนไม่ชอบบ่อยๆ เช่น มีจีไปเล่นกีฬาแทนมีแร มีแรไปเรียนหนังสือแทนมีจี


จนเมื่อทั้งคู่เติบโตขึ้น มีแรเรียนจบมหาวิทยาลัย ได้งานที่บริษัทใหญ่ในกรุงโซล แต่มีจีไม่ได้เรียนต่อมหาวิทยาลัย ทำงานหาเช้ากินค่ำอยู่ที่บ้านเกิด และทำหน้าที่ดูแลยายที่ป่วยเป็นโรคเส้นเลือดสมองแตก

มีแรยุ่งกับการทำงานและไม่ค่อยได้กลับบ้าน สองพี่น้องดูเหมือนจะมีชีวิตที่ห่างไกลกันไปเรื่อยๆ จนวันหนึ่งที่แม่บอกให้มีจีนั่งรถไฟไปหามีแรที่โซลเพื่อเอาอาหารไปให้ มีจีไม่เต็มใจนักแต่ก็ยอมไปในที่สุด


ตอนนั้นที่เองที่มีจีพบว่า มีแรกำลังมีปัญหาใหญ่ในชีวิต แทบจะไปไม่เป็น มีจีเป็นห่วงมีแรมาก

ทำให้มีจีบอกมีแรว่า เธอจะช่วยมีแร ด้วยการสลับตัวกันเหมือนตอนเด็กๆ ไว้มีแรสบายใจดีเมื่อไหร่ ค่อยกลับมาโซลอีกที


เรื่องของมีจีและมีแร มาจากซีรีส์เกาหลีเรื่อง Our Unwritten Seoul ที่หมอได้ดูและเกิดความประทับใจ จึงอยากมาเขียนบทความถึงซีรีส์เรื่องนี้

(ข้อความต่อไปนี้อาจเปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของซีรีส์)


เรื่องราวในซีรีส์ดำเนินไปเรื่อยๆ ทำให้คนดูเห็นถึงที่มาที่ไปของตัวละครอย่าง มีแร และ มีจี

มีแรมีปัญหาการถูกกลั่นแกล้งในที่ทำงาน สิ่งที่เธอรู้สึกกลัวคือการกล้าลุกขึ้นมาและบอกคนอื่นๆ ว่าเธอเป็นผู้ถูกกระทำ เพราะคิดว่าตัวเองไม่ได้มีอำนาจมากเพียงพอ วิธีที่มีแรใช้คือการวิ่งหนีจากปัญหาที่เผชิญหน้า เพราะไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี

ส่วนมีจีเอง ถึงแม้ว่าจะดูเหมือนเป็นคนร่าเริง กล้าแสดงออก มีพลังเหลือล้น แต่บาดแผลและความเจ็บปวดในอดีต ที่มีจีเคยเป็นนักกีฬาวิ่งแข่ง แต่ประสบอุบัติเหตุทำให้กลับไปวิ่งไม่ได้อีก ผลพวงจากเหตุการณ์ตอนนั้นเชื่อมโยงมาถึงการป่วยของคุณยาย ที่มีจีโทษตัวเองอยู่ลึกๆ เสมอว่าเธอเองเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณยายป่วยหนัก


เรื่องของมีจีกับมีแร ก็เหมือนชีวิตจริงของคนเราบางคน ที่กำลังรู้สึกเป็นทุกข์ เพราะปัญหาที่เผชิญ หรือปัญหาที่เป็นบาดแผลทางจิตใจจากเรื่องราวในอดีต

และเมื่อมีความทุกข์ บางคนจึงใช้วิธีวิ่งหนีปัญหาออกมา หรือ ซ่อนมันเอาไว้ภายใต้หน้ากากของรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ แต่จริงๆ ในใจกำลังร้องไห้อยู่


บางทีเราอาจจะ ‘วิ่งหนี’ หรือ ‘ซ่อน’ ปัญหาไว้ได้ชั่วคราว
แต่การเยียวยาจริงๆ จะเริ่มต้นเมื่อเราหันกลับมา ‘มองมันอย่างเข้าใจ’
ยอมรับ และดูว่าเราจะทำอย่างไรกับปัญหานั้นได้บ้าง

ถ้าเป็นปัญหาที่เป็นแผลใจในอดีต เป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้ว คงต้องบอกตัวเองว่า เราอยู่ในปัจจุบัน ให้อภัยตัวเอง และก้าวไปข้างหน้า เพราะอย่างไรชีวิตเราก็มีพรุ่งนี้รออยู่

ส่วนปัญหาในวันนี้ ถ้ามันหนักหนา ก็หายใจเข้า หายใจออกให้ลึกๆ ตั้งสติ ค่อยๆ คิด หาตัวช่วยบ้าง มีคนปรึกษาที่ไว้ใจได้ แก้ไขจัดการ ทำเท่าที่ได้


หมอชอบคำพูดของคุณยายมีจีและมีแรในเรื่อง

คุณยายบอกว่า “อดีตผ่านไปแล้ว ส่วนพรุ่งนี้ยังมาไม่ถึง เราแค่ทำวันนี้ให้ดีที่สุด”


ชีวิตก็เป็นเช่นนี้แหละ
และแม้เราจะยังไม่กล้าก้าวข้ามมันในวันนี้ ก็ไม่เป็นไร
เพราะการเยียวยา ไม่ใช่การแข่งขันกับใคร
แต่คือการค่อยๆ ซื่อสัตย์กับใจตัวเอง — ทีละนิด


หมายเหตุ: ในการเขียนบทความนี้ หมอไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆ จากบริษัทหรือผู้เกี่ยวข้องกับซีรีส์ เพียงแต่ได้รับชมและประทับใจ จึงขอเขียนแบ่งปันข้อคิดที่ได้สู่ผู้อ่านค่ะ

#หมอมินบานเย็น

29/07/2025

เราอยู่เคียงข้างคุณ 🤝ช่องทางขอความช่วยเหลือสุขภาพจิต 🧠💬
“หากรู้สึกว่ารับมือไม่ไหว หรือมีอาการผิดปกติ โปรดอย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือ!” 🙏

📞 โทรฟรี! สายด่วนสุขภาพจิต 1323 (ตลอด 24 ชั่วโมง) ☎️

🏥 ปรึกษาบุคลากรสาธารณสุขใกล้บ้าน: รพ.สต., รพ.ชุมชน, รพ.ทั่วไป 🧑‍⚕️👨‍⚕️

📍 ติดต่อศูนย์สุขภาพจิตประจำเขต 🗺️

“ในยามวิกฤต สติและความสามัคคี 🤝 คือสิ่งสำคัญที่สุด กรมสุขภาพจิตพร้อมอยู่เคียงข้างประชาชนทุกคน 💞 ขอให้เราจับมือกัน ก้าวผ่านสถานการณ์นี้ไปด้วยใจที่เข้มแข็ง 💪”

29/07/2025

💗💗การดูแลจิตใจเด็กจากเหตุการณ์ความรุนแรงจากการประทะเหตุ
ชายแดนไทย-กัมพูชา

ในภาวะวิกฤติ หรือเหตุการณ์สูญเสียส่งผลให้เกิด ความท่วมท้นของการนำเสนอข่าวของสื่อ และการเข้ามาจัดการในภาวะฉุกเฉินของหน่วยงานต่างๆ ซึ่งอาจจะสร้างความตื่นตระหนกให้กับครอบครัวและชุมชนได้มาก โดยเฉพาะในกลุ่มวัยเด็ก

หากพบความผิดปกติทางความคิด อารมณ์ หรือพฤติกรรมในเด็ก ควรรีบพาไปปรึกษาจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น หรือ โทรสายด่วนสุขภาพจิต 1323

เราขอแสดงความห่วงใย ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆท่านผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้ 🙏🙏

#กรมสุขภาพจิต #สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ #ห่วงใย #ดูแลใจ #เหตุการณ์ความไม่สงบชายแดน

29/07/2025

สมาคมนักจิตวิทยาคลินิกไทย ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์ความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการสู้รบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา และขอส่งกำลังใจให้กับทุกครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ 🤍
ในช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและตึงเครียด การดูแลใจตนเองคือสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม 🧠✨
สมาคมฯ ขอเชิญชวนทุกคนให้หันมาใส่ใจสุขภาพจิตของตนเอง ด้วย 5 แนวทางง่าย ๆ เพื่อประคองใจให้ผ่านช่วงเวลาอ่อนไหวนี้ไปด้วยกัน 🤝

29/07/2025

#ความเหงาแม้อยู่ท่ามกลางผู้คน

_~_~_~_~_~_~_~_~_~_~_~_~_~_~

เกิดจากการไม่สามารถเชื่อมโยง (connect) กับใครได้ (ด้วยเหตุปัจจัยบางอย่าง)

*********************************

“ความเหงาแม้อยู่ท่ามกลางผู้คนเป็นความเหงาที่ทำงานกับจิตใจเราได้ดีกว่า การรู้สึกโดดเดี่ยวแบบอยู่ตัวคนเดียวอีก
เพราะการเหงาแบบไม่มีใคร มันอาจจะบรรเทาลงได้ด้วยการเจอใครสักคน
แต่การเหงาทั้งๆที่มีคนรายล้อมอยู่นั้นมันเจ็บปวดกว่า
เพราะไม่รู้อีกนานเท่าไหร่ #คนที่จะต่อติดกับความรู้สึกและเข้าใจเราจะเข้ามาสักที”

*********************************

การกลับมาเชื่อมโยงกับตนเอง
จะช่วยบรรเทาความรู้สึกเหงาและโดดเดี่ยวนี้ลงได้ค่ะ
🙂

-----------------------------------------

การกลับมาเชื่อมโยงกับตนเอง
คือการกลับมาใส่ใจและเข้าใจความสุขความทุกข์ที่เกิดขึ้นในจิตใจและในร่างกายของตนเอง

และ หมั่นกลับมาดูแลตนเอง
ใส่ใจ และ รับฟัง ความคิด ความรู้สึก และ การกระทำที่เกิดขึ้นของตนเอง
ด้วยความเข้าใจ

_~_~_~_~_~_~_~_~_~_~_~_~_~_~

เครดิตเรื่อง : หมอเบิ่นนี่
เครดิตข้อความ ใน เครื่องหมายคำพูด : Kanin The Movie รีวิว หนัง เรื่อง Lost in translation July 14,2016 : link เพจ : https://www.facebook.com/share/18a7g5Kem1/?mibextid=wwXIfr

เครดิตภาพ : https://images.app.goo.gl/kct2p7ooyUdqcinx7

29/07/2025

คุณกำลังเครียดอยุ๋รึเปล่า!! มาดูสัญญาณเตือน 3 ด้าน ‼

💪 ด้านร่างกาย: เจ็บป่วยบ่อย ไม่ทราบสาเหตุ ปวดหัว เบื่ออาหาร นอนไม่หลับ ท้องอืด ฯลฯ
🩷 ด้านจิตใจ: เคร่งเครียด ไม่มีสมาธิทำงาน หงุดหงิด ฟุ้งซ่าน เหม่อลอย เศร้าหมอง เป็นต้น
🙋‍♀️ ด้านพฤติกรรม: จู้จี้ เก็บตัว ดื่มสุรา ใช้ยากระตุ้น เช่น ยานอนหลับ
#สสส #สื่อสารสุข #ลดเครียด #สร้างสุข

29/07/2025

การพูดคุยเรื่องสงครามกับเด็กเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะเด็กอาจรู้สึกหวาดกลัว สับสน หรือไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น

พ่อแม่จึงควรใช้ท่าทีที่อ่อนโยน ซื่อสัตย์ และปลอดภัยทางอารมณ์ โดยสามารถใช้แนวทางต่อไปนี้


1. เริ่มจากการฟังลูกก่อน
ถามอย่างเปิดใจว่า
-“ลูกเคยได้ยินเรื่องสงครามมาจากไหนเหรอ?”
-“เพื่อนๆ ที่โรงเรียนพูดถึงเรื่องนี้ยังไงบ้าง?”
ฟังอย่างตั้งใจ เพื่อเข้าใจว่าลูกรับรู้อะไร กลัวอะไร และสงสัยเรื่องไหน

2. ตอบด้วยความจริงที่เหมาะสมกับวัย
-เด็กเล็ก: อธิบายด้วยภาษาง่ายๆ ไม่เน้นรายละเอียดรุนแรง
-เด็กโต: เพิ่มข้อมูลเรื่องเหตุผลและภูมิหลังของความขัดแย้ง แต่ยังควรเลี่ยงภาพหรือคำอธิบายที่รุนแรงเกินไป

3. เน้นความมีมนุษยธรรมและความเห็นอกเห็นใจ
-เช่น หากมีข่าวการโจมตีโรงพยาบาลหรือบ้านเรือนประชาชน อธิบายว่า “ในสงคราม มีกฎที่ห้ามโจมตีคนที่ไม่เกี่ยวข้อง เช่น คนป่วย เด็ก หรือผู้บริสุทธิ์” และสอนให้เห็นคุณค่าของการช่วยเหลือและเมตตาต่อกัน

4. ปลอบโยนและสร้างความมั่นใจ
หากลูกถามว่า “สงครามจะมาถึงบ้านเราหรือเปล่า?” พ่อแม่สามารถตอบด้วยความมั่นคงว่า
-“บ้านเราปลอดภัยนะ พ่อแม่จะดูแลลูกเสมอ”
-“ถ้ามีอะไรอันตราย พ่อแม่จะพาไปที่ปลอดภัยทันที”
-“ถ้าลูกกังวลหรือกลัว บอกพ่อแม่ได้ตลอดเลยนะ”

5. ชวนลูกทำสิ่งดีๆ เพื่อผู้อื่น
-บริจาคของ หรือ เขียนการ์ดให้กำลังใจทหาร ผู้ประสบภัยที่ได้รับผลกระทบ
สิ่งเหล่านี้ช่วยให้เด็กรู้สึกว่าตัวเองมีพลังและทำสิ่งดีๆได้

6. หากลูกมีอาการวิตกมาก ควรขอคำปรึกษาเพิ่มเติม
-ถ้าลูกมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป เช่น ฝันร้าย นอนไม่หลับ กลัวมากผิดปกติ แนะนำให้พาไปประเมินสุขภาพจิตกับจิตแพทย์เด็กหรือผู้เชี่ยวชาญ


หวังว่าจะมีประโยชน์ในช่วงเวลานี้นะคะ

#หมอมินบานเย็น
#ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด

ที่อยู่

182 ถ. รัถการ ต. หาดใหญ่
Hat Yai
90110

เวลาทำการ

จันทร์ 08:00 - 16:00
อังคาร 08:00 - 16:00
พุธ 08:00 - 16:00
พฤหัสบดี 08:00 - 16:00
ศุกร์ 08:00 - 16:00

เบอร์โทรศัพท์

+6674273251

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ คลินิกจิตเวช โรงพยาบาลหาดใหญ่ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง คลินิกจิตเวช โรงพยาบาลหาดใหญ่:

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram

ประเภท