แข็งแรงเพื่อลูก ชนะโรค ชะลอวัย

แข็งแรงเพื่อลูก ชนะโรค ชะลอวัย ข้อมูลการติดต่อ, แผนที่และเส้นทาง,แบบฟอร์มการติดต่อ,เวลาเปิดและปิด, การบริการ,การให้คะแนนความพอใจในการบริการ,รูปภาพทั้งหมด,วิดีโอทั้งหมดและข่าวสารจาก แข็งแรงเพื่อลูก ชนะโรค ชะลอวัย, วิตามิน/อาหารเสริม, 359/1 ถ. อนรรฆนาค ต. กาฬสินธุ์, Kalasin.

01/08/2021

ฟังคำแนะนำจากคุณหมอกันค่ะ...
#วิธีการป้องกันตัวเองจากโค.วิด

🛎 กระทรวงสาธารณสุขยืนยันฟ้าทะลายโจร ต้านโควิด-19 ได้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันแล้ว ฟ้าทะลายโจรมีสาร "แอนโดร กราโฟไลด์" ...
07/07/2021

🛎 กระทรวงสาธารณสุขยืนยันฟ้าทะลายโจร ต้านโควิด-19 ได้

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันแล้ว ฟ้าทะลายโจรมีสาร "แอนโดร กราโฟไลด์" ต้านโควิด-19 ไม่ให้เข้าเซลล์ และต้านการแตกตัวของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในร่างกายได้ หารับประทานเพื่อป้องกันกันได้เลยวันนี้..
✅วิธีเลือกซื้อยาฟ้าทะลายโจร

🔺ยาฟ้าทะลายโจรมี 2ชนิด คือ แบบสกัดและแบบบดผง
🔺ดูบนฉลากว่ามีสารแอนโดรกราโฟไลด์ ไม่น้อยกว่า 20มก. ถ้าไม่มีระบุแปลว่าเป็นแบบบดผง
🔺ฟ้าทะลายโจรแบบบดผง จะมีสารแอนโดนกราโฟไลด์ประมาณ 4-5 มก. (เทียบกับแบบสกัดที่มีถึง 20 มก. และยังสกัดสาร AP3 มีผลข้างเคียงทำให้แขนขาอ่อนแรงออกไปแล้ว)
🔺สามารถกินเป็น immune booster สร้างภูมิต้านทานเชื้อให้กับร่างกายได้

🛎คำแนะนำการใช้ยาแคปซูลสกัดฟ้าทะลายโจรแบรนด์การบูร

เพื่อป้องกันการติดเชื้อในภารกิจประจำวันช่วงการแพร่ระบาดรอบ 3 นี้ ให้รับประทานเป็น Immune Booster วันละ 3 แคปซูล ตอนเช้าก่อนออกนอกบ้าน เพื่อรักษาปริมาณความเข้มข้น 60 มก. ของสารแอนโดรกราโฟไลด์ไว้ในกระแสโลหิตให้ได้ประมาณ 10-12 ชม. ให้เพียงพอต่อการปฏิบัติภารกิจประจำวัน ซึ่งจะไม่เกิดผลข้างเคียงเพราะสกัดเอาสาร AP3 ที่หากทานต่อเนื่องจะทำให้แขนขาอ่อนแรงออกไปแล้ว

เราสามารถใช้การทานเป็น Imune booster ต่อเนื่องเช่นนี้ได้ โดยหยุดรับประทานเฉพาะวันที่พักผ่อนอยู่กับบ้านเท่านั้น

🔺สำหรับเด็กอายุ 7-12 ขวบ น้ำหนักน้อยกว่า 40 กก. ให้รับประทาน 2 แคปซูล/วัน
🔺สตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน

🛎 คำแนะนำสำหรับกรณีสัมผัสผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อโควิด-19 หรือเป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 เองแล้ว

ให้รับประทานวันละ 3/3/3 แคปซูล มื้อเช้า กลางวัน เย็น รวมเป็น 9 แคปซูลต่อวัน ทานต่อเนื่อง 5 วัน 45 แคปซูล ระหว่างรอผลตรวจหรือทานเมื่อทราบผลตรวจแล้วว่าติดโควิด-19 และต้องกักตัวเอง ด้วยเหตุสถานพยาบาลเต็ม รพ.ไม่สามารถรองรับผู้ป่วยได้อีก

ในกรณีที่เป็นผู้ที่รอผลตรวจ แล้วผลตรวจรอบแรกออกเป็น negative ก็ให้กินต่อจนครบ 5 วันตามโดสรักษาที่แนะนำเพื่อรอการตรวจรอบสอง เพราะบางท่านไปตรวจพบเชื้อตอนรอบสอง

หากเราใช้โดสรักษาของกรมการแพทย์แผนไทยฯ ตามนี้ แล้วติดเชื้อ เราก็สามารถหายเป็นปกติได้หากร่างกายแข็งแรง เพราะสารแอนโดรกราโฟไลด์เข้มข้นในแคปซูลสกัดฟ้าทะลายโจรนี้สามารถจะเพิ่มภูมิต้านทานเชื้อให้กับให้ร่างกายได้

สำหรับเด็กอายุ 7-12 ขวบ น้ำหนักน้อยกว่า 40 กก. โดสรักษาให้รับประทานครึ่งหนึ่งของโดสสำหรับผู้ใหญ่ คือที่ 5 แคปซูล/วัน แบ่งเป็น 3 เวลาก่อนอาหาร คือ 2/2/1 แคปซูล.

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันแล้วฟ้าทะลายโจร มีสาร"แอนโดร การ์โฟร์ไลท์" ต้านโควิด19 ไม่ให้เข้าเซลล์ และต้านก.....

อยู่อย่างไรให้อายุทะลุ100ปีมาเรียนรู้กับคุณหมอเฉก หมอเฉก ธนะสิริ
17/04/2021

อยู่อย่างไรให้อายุทะลุ100ปี
มาเรียนรู้กับคุณหมอเฉก หมอเฉก ธนะสิริ

หมอเฉก ปัจจุบันอายุ 94ปี ยังคงแข็งแรง คล่องแคล่ว กระฉับกระเฉง ความจำดี สมองสดใส... มาเผยเคล็ดลับการมีอายุยืน.....

กินน้ำตาล = ?????? คุณรู้มั๊ย?  แต่ละวันคุณกี่น้ำตาลมากแค่ไหน!!เทียบ 4 กรัม= 1 ช้อนชา #ดูแลสุขภาพกันด้วยน่ะค่ะขอบคุณข้อม...
24/01/2021

กินน้ำตาล = ??????

คุณรู้มั๊ย? แต่ละวันคุณกี่น้ำตาลมากแค่ไหน!!

เทียบ 4 กรัม= 1 ช้อนชา
#ดูแลสุขภาพกันด้วยน่ะค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก :Duck / คุณปานเทพ พัวพงษ์พันธ์

“สิ่งศักดิ์สิทธิ์คือลมหายใจ”ณ.ปัจจุบันนี้ มีวิจัยมากมาย รวมถึงคัมภีร์โบราณ ต่างบรรยายสรรพคุณของลมหายใจไว้มากมายมหาศาล โด...
15/01/2021

“สิ่งศักดิ์สิทธิ์คือลมหายใจ”

ณ.ปัจจุบันนี้ มีวิจัยมากมาย รวมถึงคัมภีร์โบราณ ต่างบรรยายสรรพคุณของลมหายใจไว้มากมายมหาศาล โดยที่คนที่นำความลับนี้มาบอกเป็นคนแรกได้แก่ “พระพุทธเจ้า”

ลมหายใจคือสิ่งมหัศจรรย์ที่สุดในตัวเรา

และก็เป็นสิ่งที่ถูกมองข้ามมากที่สุดเช่นกัน

แม้ตัวผมเองก็เช่นกัน เพิ่งจะมาฝึกลมหายใจจนเข้าใจมันจริงๆ เมื่อปลายปีที่แล้วนี่เอง

ลมหายใจเป็นสิ่งที่มีพลังมหาศาล และเป็นเหตุปัจจัยสำคัญที่ทำให้พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงของจักรวาล

ในวันนี้ โลกได้มีวิวัฒนาการกว้างไกลไปมาก เรามาลองดูวิจัยต่างๆที่เกี่ยวกับลมหายใจ เพื่อที่จะให้ทุกคนเห็นคุณค่าของมันอย่างเป็นรูปธรรมกันเถอะ เผื่อใครอยากจะรู้จักการทำงานของกายใจของตนผ่านลมหายใจ นี่อาจจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดแล้วก็ได้ครับ

1 ลมหายใจกำหนดอายุขัย

คุณรู้ไหมครับ ว่าลมหายใจมีความสัมพันธ์โดยตรงกับอัตราการเต้นของหัวใจ

สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิด มีขีดจำกัดของการเต้นของหัวใจอยู่ที่ 1 พันล้านครั้งในชีวิต
หากสัตว์ชนิดไหน หายใจถี่หายใจตื้น มันจะอายุสั้น ส่วนสัตว์ชนิดไหนหายใจช้าหายใจลึก มันจะอายุยืน ฉะนั้นนี่จึงเป็นข้อบ่งชี้ให้คุณประเมินตัวเองได้เลยว่า คุณจะอายุสั้นหรืออายุยืน ก็สามารถรู้ได้จากการฝึกดูลมหายใจนี้เอง

2 หายใจถูกต้องป้องกันและรักษาโรคร้ายได้มากมาย

เมื่อเราฝึกลมหายใจให้ลึกและยาว คุณจะพบว่า โรคต่างๆ ที่เป็นเรื้อรังมานานสามารถหายไปได้เช่น

โรคไมเกรน - ท่านโกเอ็นก้า วิปัสนาจารย์มหาเศรษฐีชาวอินเดียไปรักษาโรคนี้ที่ไหนก็ไม่หาย สุดท้ายก็หายจากการฝึกอานาปานสติ และนั่นก็คือต้นเหตุที่ทำให้การปฏิบัติธรรมสายท่านโกเอ็นก้าเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางไปทั่วโลกเฉกเช่นทุกวันนี้

โรคหัวใจและโรคความดัน - การหายใจลึกและช้าสามารถลดความดันโลหิตลงได้อย่างเห็นผลทันตา และสามารถช่วยผู้ป่วยที่มีอาการหัวใจกำเริบให้อาการดีขึ้นได้หากเค้าสามารถหายใจลึกๆเป็น

โรคเครียดเรื้อรัง - โรคนี้นำมาซึ่งโรคอื่นๆเป็นแพคเกจใหญ่เลย ทั้งนอนไม่หลับ ภูมิคุ้มกันบกพร่อง สารพิษเพิ่มในเลือด

ซึ่งสำหรับวิธีแก้ นพ.แอนดรู ไวล์ แพทย์ชื่อดังเคยกล่าวเอาไว้ว่า “หากจะให้ผมแนะนำเคล็ดลับการมีสุขภาพที่ดีเพียงข้อเดียว ผมจะบอกสั้นๆแค่ว่า จงฝึกหายใจอย่างถูกวิธี”

3 ลมหายใจกับออกซิเจน

ร่างกายคนเราต้องการออกซิเจนในการทำทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งกิน กะพริบตา เคี้ยว ฉะนั้น การหายใจที่ถูกต้องลึกและยาวอจะช่วยบำรุงสมอง รักษาความจำ และชะลอโรคต่างๆ ยิ่งคุณหายใจถูกต้อง ลึกและยาวเท่าไหร่ ออกซิเจนก็จะเข้าสู่ร่างกายคุณได้มากมายมหาศาลเท่านั้น และมันจะทำให้คุณฉลาดมากขึ้น เพราะสมองได้รับออกซิเจนที่เพียงพอ

4 หายใจเป็นทำให้หน้าเด็ก

เมื่อหายใจเป็น หายใจเต็มปอด ออกซิเจนจะไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายอย่างทั่วถึง ทำให้ใบหน้ามีน้ำมีนวล เต่งตึง สดใส อ่อนกว่าวัย และขับสารพิษได้อีกด้วย

5 ลมหายใจเป็นตัวกำหนดระดับความสำเร็จในชีวิต

คุณควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ดีแค่ไหนครับ?
รู้ไหมว่าอากาศที่เราหายใจเข้าไป มีผลต่ออารมณ์โดยตรง

และหากคุณจะฝึกวันนี้ก็ยังไม่สายนะ

หากคุณตื่นเต้น โกรธ กลัว หรือประหม่า ลองฝึกหายใจเข้าออกยาวๆดูครับ เพราะการหายใจลึกๆยาวๆจะทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองส่วนหน้าที่เป็นตัวบริหารและควบคุมอารมณ์ต่างๆโดยตรง

ยิ่งสมองส่วนนี้ยิ่งแข็งแรงมากขึ้นเท่าไหร่ คุณก็จะเป็นอีกคนที่มีสิทธิ์ที่จะควบคุมอารมณ์ของตัวเองและกำหนดชะตาชีวิตใหม่ให้ตัวเองไม่ตกเป็นทาสของความกลัว ความโกรธ ความเกลียดมากขึ้นเท่านั้น

5 สุดท้ายนี้ ลองเอาสิ่งที่ผมทำทุกวันไปฝึกทำดูนะครับ

นั่นก็คือฝึกหายใจเข้าออกให้ยาวๆ แรกๆมันอาจจะอึดอัด ก็ให้ลดการบังคับควบคุมมัน และออกมาดูว่าตอนนี้ธรรมชาติของลมหายใจที่ไม่เคยฝึกมันก็เป็นแบบนี้

ทำไปๆ บอกตัวเองเป็นเชิงสัญลักษณ์เช่น ทุกครั้งที่เห็นวัตถุสีขาว จะกลับมาอยู่กับลมหายใจ และฝึกหายใจยาว

ทำไปสบายๆ สนุกกับมัน สังเกตสิ่งที่ปรากฎขึ้นกับร่างกายและความรู้สึกนึกคิด

ออกมาเป็นผู้รู้ผู้ดู ผู้สังเกตการณ์ซะบ้าง เพราะการเอาแต่ควบคุมทุกอย่างโดยไม่รู้จักธรรมชาติของมันนั้น ทำให้เราเป็นทุกข์มานานเกินไปแล้ว ทีนี้ก็ลองออกมาเป็นผู้ดูเพื่อเห็นความจริงเกี่ยวกับตัวเองดูบ้าง

แล้วคุณก็จะเป็นอีกคนหนึ่ง “ที่หายใจเป็น”

และรู้ด้วยตัวเองกับตากับใจว่า

ไม่มีสมบัติชิ้นไหนจะมีค่ามากไปกว่า

“การหายใจอย่างถูกต้อง”

ศาสตราจารย์ กิตติคุณ นายแพทย์ เกรียง ตั้งสง่า อายุรแพทย์โรคไต อดีตประธานราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย, อดีตนายกสมาค...
06/12/2020

ศาสตราจารย์ กิตติคุณ นายแพทย์ เกรียง ตั้งสง่า อายุรแพทย์โรคไต อดีตประธานราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย, อดีตนายกสมาคมโรคไตแห่งประ​เทศไทย, อาจารย์ดี​เด่นของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย​ และอาจารย์ดี​เด่นแห่งชาติ ระบุถึงข้อเท็จจริง เรื่อง

" กินฉี่ตัวเอง...ดีจริงหรือ? "

กินฉี่ตัวเอง Urophagia หรือ urine therapy มีตำนานความเชื่อมานับพันปี ว่าใช้รักษาโรคบางอย่างได้ รวมไปถึงมะเร็ง แต่เป็นความเชื่อปรัมปรา myth มากกว่าเป็นความจริง(fact)

เมื่อไปค้น จาก google หรือ PubMed ไม่มีหลักฐานทางวิชาการอะไรที่เชื่อถือได้ มา สนับสนุน

>>ในปัสสาวะ นอกจากน้ำแล้วมีอะไรบ้าง ?
ปัสสาวะมีน้ำมากกว่า 95 % โดยน้ำหนัก ที่เหลือเป็นสารต่างๆที่ร่างกายขับออกมา การที่ต้องขับออก เพราะเป็นของเสียที่ร่างกายไม่ต้องการ. และถ้าคั่งค้างในร่างกาย จะเกิดผลเสีย

ส่วนประกอบในปัสสาวะมีสามประเภทใหญ่ๆ

1.ประเภทแรก คือ metabolic waste ที่เกิดจากการเผาผลาญของการสันดาป (metabolism) ในร่างกาย ที่มากที่สุดคือ urea จากการเผาผลาญ สาร protein and amino acid นอกจากนี้ก้อมี acid phosphate , sulphate compounds จากการเผาผลาญโปรตีน ซึ่งมี free H+ ออกมา ทำให้ปัสสาวะเป็นกรด มี Uric acid จากการสลายสารอาหารกลุ่ม purine มี ketone compounds จากการสลายสารพวกไขมัน มี organic acid อีกมากมาย เนื่องจากสารเหล่านี้ มักมีคุณสมบัติเป็นกรด จึงมี free H+ อยู่ และเนื่องจากคนเป็นสัตว์บก terrestrial animals มี antidiuretic hormone คอยดูดน้ำจากไตกลับเข้าสู่ systemic circulation ปัสสาวะจึงมีความเข้มข้นสูงกว่าน้ำพอควร

ถามว่าปัสสาวะมีน้ำถึงกว่า 95% แล้วยังจะถือว่าปัสสาวะมีความเข้มข้นอีกหรือ ? คำตอบก็คือใช่. ถือว่าปัสสาวะเเข้มข้นเพราะสรีระวิทยาของสัตว์บก คือจำเป็นจะต้องเก็บน้ำและเกลือโซเดียมไว้ ในตัวเพื่อให้รักษาปริมาตรของ circulating blood and plasma volume ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ปริมาณของพลาสม่าที่กรองผ่าน glerulus ที่เรียกว่า glomerular filtration rate มีจำนวนถึง 140 ลิตรต่อวัน แต่เรามีน้ำปัสสาวะเพียงหนึ่งถึง 2 ลิตรต่อวัน. แปลว่าอีก 138 ลิตร ของน้ำจะถูก ดูดซึมกลับ reabsorbed at Renal tubules กลับเข้าสู่ systemic circulation แต่ของเสียจากน้ำพลาสมา 140 ลิตร จะมารวมอยู่ในน้ำปัสสาวะ 1-2 ลิตร ดังกล่าวนี้ เหตุนี้ ปัสสาวะจึงมี corrosive action มากพอควร

ความเป็นกรดของปัสาวะ. (มีค่า pH ประมาณ 5 -6.5) หากทานเข้าไปในช่วงท้องว่าง. อาจทำให้เกิดผลเสียต่อเยื่อบุผนังลำคอ หลอดอาหาร กระเพาะอาหารได้อีกด้วย

ลองสังเกตดูผู้ป่วยที่ใส่ผ้าอ้อมที่เปียกชุ่มน้ำปัสสาวะอยู่ตลอด. ไม่ช้าไม่นาน ก็จะเกิดแผลที่บริเวณก้น bed sore ไม่ใช่เพราะเป็นแผลกดทับ อย่างเดียว. แต่เป็นผลจากการกัดกร่อนด้วยปัสสาวะที่หมักหมมในผ้าอ้อมด้วย

ลองพิจารณาดูด้วยตรรกะของหลักการวิวัฒนาการว่า. ธรรมชาติของสิ่งที่มีชีวิตจะพัฒนาไปเพื่อความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์. ในเมื่อสารของเสียในปัสสาวะเหล่านี้เป็นสารที่ธรรมชาติได้วิวัฒนาการมานาน ร่างกายจัดทำระบบเซลล์และเนื้อเยื่อไว้ ให้มาทำหน้าที่กำจัดมันออก(จากร่างกาย) ทางปัสสาวะ แสดงว่าร่างกายไม่ต้องการ. ถ้ามีสะสมมากจะไม่ดี.

ถ้าของเสียในปัสสาวะมันเป็นของดีจริง ธรรมชาติจะไม่ปล่อยทิ้งไปหรอก. ด้วยวิวัฒนาการจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆมาจนเป็นลิงและคน เป็นเวลานับล้านปี. หากว่าของเสียในปัสสาวะมีประโยชน์_ธรรมชาติจะพัฒนาสร้าง ระบบมา reclaim นำกลับเข้ามาใช้ใหม่. แต่นี่ร่างกายขจัดออก แสดงว่าไม่มีประโยชน์

แล้วเราจะเอาปัสสาวะ(ที่มีของเสียผสมอยู่)มาทานเข้าไปใหม่เพื่ออะไร ?

ในคนไข้โรคไตเรื้อรังระยะสุดท้าย. ไตขับของเสียเหล่านี้ไม่ได้. เพราะปัสสาวะน้อยลงมาก ทำให้มีของเสียคั่งในร่างกาย เช่น urea, phosphate organic acid อื่นๆ จนทำให้ร่างกายมีอาการแสดงต่างๆ. .

ภาวะไตวายรุนแรง จนไม่สามารถขับน้ำปัสสาวะออกมา. มีชื่อเรียกว่าภาวะ Uremia เป็นภาษาลาติน แปลตรงตัวว่า การมี urine อยู่ในกระแสเลือด คนไข้กลุ่มนี้ จะเสียชีวิตในที่สุด. เพราะมีการสะสมของของเสีย(ซึ่งควรถูกขับออกทางปัสสาสวะ) มาคั่งอยู่ในกระแสเลือด

2,องค์ประกอบส่วนที่สองที่อาจมี คือยาหรืออนุพันธ์ของยา ที่ทานเข้าไป. ยาชนิดละลายได้่ในน้ำ water-soluble drugs จะถูกขับออกจากร่างกายทางไต

ยาชนิดละลายได้ในสารไขมัน fat-soluble drugs จะถูกขับทางตับ

การทานปัสสาวะ จึงมีโอกาสได้รับ metabolites ของยา กลับเข้าสู่ร่างกายอีก ก็จะมีความเสี่ยงที่จะมีการสะสมของยาอยู่ในร่างกายมากเกิน

ตัวอย่าง เช่น การตรวจยาเสพติด หรือ ยาโด๊ป ก็ตรวจจากปัสสาวะ

3.ปัสสาวะอาจมีเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัสอื่นปนเปื้อนออกมาได้. การดื่มน้ำปัสสาวะจึงมีความเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อโรคเหล่านี้กลับเข้าสู่ร่างกายอีกครั้งหนึ่งซึ่งไม่เป็นผลดีต่อร่างกาย

>>ในปัสสาวะมีสารที่ยังมีประโยชน์อยู่บ้างหรือไม่ ?
..ก็น่าจะมีบ้าง. แต่มีจำนวนน้อย เช่น มีสาร prostaglndin บางจำพวกอยู่ สาร prostaglandin เป็นสารในสกุล fatty acid กลุ่ม arachidonic acid ซึ่งมีลักษณะโครงสร้างจำเพาะ. พบ PG ครั้งแรกจากสารคัดหลังของต่อมลูกหมาก(prostate gland). จึงเรียกชื่อสารกลุ่มนี้ว่า prostaglandin.

นอกจากนี้ ก็มี urokinase ที่มีคุณสมบัติละลายลิ่มเลือดได้ ( fibrinolysis) ฮอร์โมนหลายตัวก็ถูกขับออกทางปัสสาวะ เช่น estradiol , progesterone, erythropoietin แต่อย่างที่อธิบายว่า มีน้อยมาก. ก็ไม่คุ้มที่จะกินปัสสาวะตัวเอง. เพียงเพราะเสียดายฮอร์โมนเหล่านี้_เข้าทำนอง. “ได้ไม่คุ้มเสีย”

สรุป การดื่มน้ำปัสสาวะทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายมากกว่าผลดี. ที่สำคัญคือทำให้มีการสะสมของของเสีย(ซึ่งร่างกายต้องการขจัดทิ้งไปแล้ว)กลับเข้าไปหมุนเวียนเข้าสู่ร่างกายอีกครั้งหนึ่ง

📍พาราเซตามอล ยาพิษสามัญประจำบ้านParacetamol Common Household Poisonous Medicineคนไทยเกือบทุกคน รู้จักยาแก้ปวดลดไข้ ชื่อ ...
24/09/2020

📍พาราเซตามอล ยาพิษสามัญประจำบ้าน

Paracetamol Common Household Poisonous Medicine

คนไทยเกือบทุกคน รู้จักยาแก้ปวดลดไข้ ชื่อ พาราเซตามอล และเข้าใจว่า เป็นยาที่ใช้รักษาโรคได้ เพราะเวลามีไข้ กินแล้วไข้หาย พอมีไข้อีกก็กินอีก จนกลายเป็นความเชื่อว่า เวลามีไข้ต้องกินยาพาราเซตามอล

ปัญหาที่คนไทยไม่รู้ก็คือ ยาพาราเซตามอล มีไว้แค่บรรเทาอาการ ไม่ได้ช่วยให้โรคหาย และยังเป็นยาที่มีอันตราย แม้กินเพียงไม่กี่เม็ด ก็อาจก่อให้เกิดความเป็นพิษต่อตับ และไตได้อย่างรุนแรง

ขนาดสูงสุดของ ยาพาราเซตามอล ที่เคยเป็นที่ยอมรับ คือไม่เกิน 2000- 3000 มิลลิกรัมต่อวัน หรือเท่ากับ พาราเซตามอลขนาด 500 มิลลิกรัม 4-6 เม็ด เนื่องจากเป็นยาที่มีฤทธิ์อ่อน คนส่วนใหญ่ จึงนิยมกินพาราเซตามอลครั้งละสองเม็ด และความที่เป็นยาออกฤทธิ์สั้น จำเป็นต้องกินกันบ่อย ๆ ทุก 4-6 ชั่วโมง ทำให้มีโอกาสที่คนไข้จะได้รับยาในขนาดที่เป็นพิษได้สูง

ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีรายงานต่อเนื่อง ถึงการรับประทานยาพาราเซตามอล ในขนาดที่เข้าใจว่าปลอดภัย แต่ลงเอยด้วยการที่ผู้ป่วยเสียชีวิต ส่งผลให้ องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา ได้สั่งยกเลิก พาราเซตามอล ในขนาด 500 มก และให้ขายเพียงขนาด 325 มก เท่านั้น

ยาที่แพทย์ใช้รักษาพิษของพาราเซตามอล มีชื่อว่า N-acetyl cysteine หรือ แนค (NAC) ในประเทศไทย แนค (NAC) ได้ถูกจดทะเบียนเป็นยาละลายเสมหะ ที่มีชื่อทางการค้าว่า Fluimucil, Naclong, หรือ Flemex AC OD ขนาดที่ใช้คือ 600 มิลลิกรัม ต่อวัน เนื่องจากเป็นยาที่แทบจะไม่มีผลข้างเคียง จึงสามารถกินต่อเนื่องได้ทุกวัน แม้ในคนที่ไม่มีเสมหะก็ตาม

ผู้เขียน จึงขอแนะนำให้คนทุกคน เลี่ยงการใช้ยาพาราเซตามอล โดยไม่จำเป็น ถ้ามีไข้ควรเลือกวิธีเช็ดตัวลดไข้ แต่หากจำเป็นต้องใช้ยาพารา ก็ควรกินแนค (NAC) ร่วมด้วย

เวลาที่คนไข้ที่มีไข้ และมาโรงพยาบาลด้วยปัญหาตับอักเสบ แพทย์ส่วนใหญ่ จะคิดถึงแต่โรคติดเชื้อที่ทำให้เกิดภาวะตับอักเสบ และไม่ได้คิดว่า ตับอักเสบนั้น อาจเป็นผลจากยาพาราเซตามอล

ตัวอย่างเช่น คนที่เป็นโรคไข้เลือดออก คนไข้เหล่านี้จะมีไข้สูงตลอดวัน หลังจากการกินยาพาราเซตามอล ไข้ก็ลดลงไม่มาก สักพักไข้ก็กลับมาสูงอีก ทำให้คนไข้ต้องใช้ยาพาราเซตามอลอยู่เรื่อย ๆ โดยไม่ได้ตระหนักว่า ในคนที่เป็นโรคไข้เลือดออก และตับมีการทำงานที่บกพร่องอยู่แล้ว การใช้ยาพาราเซตามอล แม้เพียงเล็กน้อย อาจทำให้เกิดภาวะตับอักเสบรุนแรงมากขึ้นถึงขั้นเสียชีวิต

ผู้เขียนเคยได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ที่ดูแลผู้ป่วยอายุ 16 ปี รายหนึ่ง ที่มาโรงพยาบาลด้วยโรคไข้เลือดออก มีระดับเอนซัยม์ตับสูงมาก (SGPT > 4000) และอยู่ในสภาพไม่รู้สึกตัว ญาติได้รับแจ้งไปว่าเด็กคงไม่รอดชีวิต หลังจากที่ผู้เขียนไปดูในตอนดึก ก็ได้สั่งการรักษาด้วยการใช้ แนค (NAC) ขนาดสูงหยดทางหลอดเลือด วันรุ่งขึ้น ระดับเอนซัยม์ตับก็ลดลงเกือบ 10 เท่า เด็กเริ่มรู้สึกตัว และกลับบ้านได้ใน 3 วันต่อมา

ไม่เพียงแต่ ยาพาราเซตามอล จะมีพิษต่อตับ แต่ยังมีพิษต่อไตอีกด้วย ผู้เขียนมีคนไข้ทีมาด้วยปัญหาไตวายโดยไม่ทราบสาเหตุ พอซักประวัติก็ทราบว่า คนไข้กินพาราเซตามอลวันละ 1-2 เม็ด เกือบทุกวัน บางรายก็บอกว่า ปวดศีรษะ พอตรวจดูก็พบว่าเป็นความดันโลหิตสูง เมื่อได้ยาลดความดัน อาการปวดศีรษะก็หาย มีอยู่รายหนึ่งที่กินพาราเซตามอลทุกวัน เพราะกินแล้วไม่ปวดไม่เมื่อย ทำงานได้ดี เลยเข้าใจผิดว่าเป็นยาชูกำลัง กินได้ทุกวัน ลงท้ายก็กลายเป็นโรคไตวายเรื้อรัง

ผู้เขียนเคยได้รักษาคนไข้ตั้งครรภ์ 26 สัปดาห์ ที่มาโรงพยาบาลด้วยอาการ ไม่มีปัสสาวะมา 3 วัน ซักประวัติพบว่า ผู้ป่วยมีปัญหาปวดน่องอย่างรุนแรง จึงไปคลินิก ได้ยาฉีดแก้ปวด วันละเข็มติดต่อกันสามวัน หลังจากนั้น ปัสสาวะลดลงจนกระทั่งไม่มีปัสสาวะออก ผู้เขียนจึงได้ให้ NAC ขนาดสูงเข้าทางหลอดเลือด และตามด้วยการล้างไต ภายหลังการล้างไตได้ 3 ชั่วโมง ผู้ป่วยก็เริ่มมีปัสสาวะออกมาเรื่อย ๆ จำนวนมาก และการทำงานของไตก็กลับสู่สภาพปกติ และคลอดบุตรเป็นปกติในสองเดือนถัดมา

ขอย้ำว่า พาราเซตามอล ไม่ใช่ยาวิเศษ แต่เป็นยาที่มีพิษ ไม่ควรคิดว่า จะกินเท่าไรก็มีอันตราย หรือคิดว่า ทุกครั้งที่เป็นไข้ จำเป็นต้องกินยาพาราเซตามอล แนะนำว่าการเช็ดตัวลดไข้ จะปลอดภัยกว่าการใช้ยา เพราะการกินยาพาราเซตามอลพร่ำเพื่อ เพราะเข้าใจว่าช่วยให้หายจากโรค อาจส่งผลให้เราหายไปจากโลกแทนได้ครับ

ดร.นพ. พัฒนา เต็งอำนวย
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรศาสตร์โรคไต

วิธีหลับง่ายหลับลึกของผมดร. สุมิตร คุณานุกรบีซีซี  รุ่น 110. ครุฯ. จุฬาฯ รุ่น 2506 ความรู้และแนวปฏิบัติในการนอนหลับง่ายท...
04/09/2020

วิธีหลับง่ายหลับลึกของผม
ดร. สุมิตร คุณานุกร
บีซีซี รุ่น 110.
ครุฯ. จุฬาฯ รุ่น 2506

ความรู้และแนวปฏิบัติในการนอนหลับง่ายที่จะเขียนนี้ ผมหาและรวบรวมมาเอง ทดลองจนทำได้ ตอนอายุช่วง 21-60 สั่งหลับได้ทันทีและสั่งตื่นได้ตามกำหนด แต่หลังจาก 60 สั่งตื่นไม่ได้ แต่สั่งหลับเร็วยังทำได้มาจนบัดนี้ อายุ76แล้ว

ความรู้ขั้นแรกได้มาตอนอยู่ รร. เตรียมอุดม ผมสมัครเข้าเรียนเพื่อให้ได้เป็นนักธรรมตรีและโท สอบได้ทั้งสองขั้น ความรู้ที่ช่วยเรื่องหลับไวได้มาจากการนั่งสมาธิ ทำจิตให้ว่าง แต่ตอนนั้นการสั่งหลับสั่งตี่นไม่มีอยู่ในใจเลย

ผมได้แรงดลใจให้ฝึกหัดสั่งหลับและตื่น จากเพื่อนของพ่อท่านหนึ่งที่มาเยี่ยมเยียนเสมอ ผมเป็นเด็กต้มและรินน้ำชาให้ท่านทั้งสอง แสนจะเบื่อ ไม่เข้าใจว่าผู้ใหญ่เขาสนุกกันอย่างไร เอาแต่พูดกัน พูดไป หัวเราะไป จิบชาไปไม่เห็นจะสนุกตรงไหน ในที่สุดเบื่อมากๆเข้าก็ทำใจกล้าขอเข้าไปนั่งฟังการสนทนาใกล้ๆ เพื่อนพ่อไม่รังเกียจ ผมจึงได้ฟังผู้ใหญ่คุยกัน รู้เรื่องบ้าง ไม่รู้บ้าง แต่ก็ยังดีกว่าต้องถอยออกไปห่างๆได้แต่เฝ้าชงเฝ้ารินน้ำชา ช่วงนี้ยังไม่เข้าโรงเรียน ตอ.

มีอยู่วันหนึ่งท่านนี้มาเล่าให้พ่อฟังว่าได้รู้จักท่านทูตอินเดียที่มาประชุมที่กรุงเทพฯ แข็งแรงมาก นอนหลังเที่ยงคืนตื่นห้าโมงเช้า ทำงานทั้งวันติดต่อกันทุกวันเป็นเวลาห้าวัน ท่านทูตหลับง่ายและตื่นได้เอง มักงีบเสมอทุกเมื่อที่มีโอกาศ ก่อนจะนั่งรถไปไหนท่านทูตจะถามก่อนว่าเดินทางใช้เวลานานเท่าไร เมื่อรู้แล้วท่านทูตก็จะบอกว่า " ของีบหน่อย พอถึงแล้วจะตื่น" ว่าแล้วก็หลับไป พอจวนถึงที่ก็ตื่นเอง พ่อและเพื่อนต่างทึ่งและไม่รู้ว่าท่านทูตมีวิธีสั่งตัวเองให้หลับเร็วและตื่นเองตามกำหนดได้อย่างไร

นี่คือจุดเริ่มต้น ราวๆปี2503 เด็กชงน้ำชาชื่อสุมิตรก็เริ่มครุ่นคิดหาวิธีสั่งให้หลับไวและตื่นได้เอง

ฉากต่อมาในชีวิตคือสอบเข้าคณะครุศาสตร์ จุฬาฯ อายุ 18
เรียนอยู่ปีหนึ่ง ต้องเรียนวิชาบังคับ "วัฒนธรรม" ทั้งรุ่นประมาณ 220 คนเข้าเรียนชั้นเดียวกันหมด พออาจารย์เดินเข้ามาผมจึงจำได้ว่าท่านคือเพื่อนพ่อที่เล่าเรื่องทูตอินเดีย เพิ่งรู้ตอนนั้นว่าท่านคือพระยาอนุมานราชธน ผมพยายามเข้าถึงตัวท่านเพื่อคารวะ เฮ้อ....ท่านจำเด็กชงน้ำชาไม่ได้ แต่ความคิดอยากสั่งหลับสั่งตื่นได้พรั่งพรูกลับมาอีก หลังจากนั้นผมหัดคิดหัดทำอย่างจริงจัง สองปีต่อมาผมก็สามารถทำได้

วิธีและขั้นตอนมีดังนี้ครับ
1) สำรวมจิตไม่ให้ฟุ้งซ่าน คนเรานอนไม่หลับเพราะพอเอนตัวลงนอนก็คิดโน่นนี่ติดต่อกันไม่ยอมหยุดเป็นชั่วโมงหรือนานกว่านั้น
ตอนเรียนเป็นนักธรรมโท พระท่านเปรียบเทียบดีมาก เห็นภาพและจำมาได้จนบัดนี้ การควบคุมจิตให้นิ่งเปรียบเหมือนเราหยดน้ำลงบนใบบัวแล้วถือก้านใบให้นิ่ง หยดน้ำก็จะกองนิ่งอยู่ตรงแอ่ง หากมือถือก้านใบขยับไปมาหยดน้ำก็ไม่อยู่นิ่ง
ตกลงวิธีแรกคือเอาบริเวณวงกลมหว่างคิ้วทั้งสองเป็นแอ่งกลางใบบัว แล้วเอาจิตเป็นหยดน้ำไปวางอยู่ที่นั่น สั่งใจตัวเองไม่ให้คิดถึงอะไรเลย นี่เสมือนกับการบังคับมือไม่ให้สั่นหรือขยับเพื่อให้หยดน้ำ
อยู่นิ่ง คนฝึกใหม่ๆ จิตจะหนีอยู่ทุกขณะ เฝ้าระวัง พอรู้ตัวว่าแว่บคิดเรื่องโน่นนี่ สั่งตัวเองทันที " หยุดคิด กลับมาอยู่แอ่ง
สงบตามเดิม ทำจิตว่าง ไม่ต้องคิดถึงอะไรทั้งสิ้น" การต่อสู้แบบนี้จะถี่มากตอนหัดใหม่
อย่าลืมนะครับว่า ตอนต้น ผมเรียนให้ทราบแล้วว่าผมใช้เวลาสองปีจึงทำได้ ที่นานเพระผมต้องคิดต้องลองต้องหัดด้วยต้วเอง ผู้อ่านใช้เวลาแค่หกเดือนอย่างมากที่สุดก็คงสั่งหลับได้เพราะมีโค้ช แค่สั่งหลับนะครับ สั่งตื่นได้ตามกำหนดต้องอีกตอน โปรดใช้
นาฬิกาปลุกไปพลางๆก่อน

2) ใช้จิตสำรวจกายเพื่อคลายกล้ามเนื้อทุกส่วน คุณจะนอนท่าไหนก็ได้ ตะแคงซ้าย หรือขวา หรือนอนหงาย เป็นท่าที่นอนหลับได้สบาย ไม่นอนคว่ำนะครับ
-ให้เริ่มจากหน้าผากและหว่างคิ้ว บริเวณนี้จะเกร็งบ่อยโดยไม่รู้ตัวเหมือนคำพูดว่า " หน้านิ่วคิ้วขมวด" แม้เวลาจะนอนก็ยังเกร็ง หลายคน ขณะหลับยังขมวดคิ้วก็มี ไม่เชื่อขอให้ลองแอบมองดูเอง
-กรามทั้งสองปล่อยคลายให้หมดแทนที่จะอยู่ในท่า "ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน"
-โคนลิ้น ปล่อยลงแทนที่จะดันขึ้นติดเพดานคอ
-แก้มทั้งสอง ปล่อยให้ห้อย ไม่ต้องยิ้ม ไม่ต้องปั้นหน้าให้ใคร ถึงเวลานอนแล้ว
หลังจากบริเวณหน้า ขอให้ไล่คลายกล้ามเนื้อลงไปตามลำตัวจนจรดเท้า คลายให้หมดสิ้น

3)ทบทวน ตรวจดูว่า จิตว่างหรือยัง ไม่คิดถึงอะไรเลยนอกจากใช้สำรวจกล้ามเนื้อจากหัวจรดเท้า

4) เพิ่มอีกหนึ่งอย่าง เมื่อคุมทั้งสามขั้นได้แล้ว ขอเพิ่มการหายใจ แทนที่จะหายใจตามปกติ ขอหายใจให้แผ่วที่สุด และระรวยแค่พอประทังชีวิต การหายใจแบบนี้ควบคุมยากและต้องการสมาธิสูง ก็ดี ช่วยยึดใจไม่ให้พล่านไปทางอื่น

ตรวจทบทวน4ขั้นตอนนี้วนไปเวียนมาสักครู่ คุณจะรู้สึกว่าตัวเบาหวิว เสมือนล่องลอยไปคล้ายๆกับอยู่ในภวังค์ ไม่รู้เรื่องอะไรทั้งสิ้น เมื่อเข้าได้ถึงช่วงนี้ ช้าเร็วขึ้นอยู่กับความชำนาญที่คุณค่อยๆพัฒนาขึ้นมา คุณจะหลับไปโดยไม่รู้ตัว

คำแนะนำเพิ่มเติม
1)ฝึกนิสัยหาเรื่องออกกำลังกายให้เหนื่อย แทนที่จะจ้างคนมาทำก็ทำเอง พอถึงเวลานอน ความเหนื่อยจะบังคับให้คุณหลับไวและ หลับปุ๋ย
2)เข้านอนและตื่นเป็นเวลา
การทำเช่นนี้ช่วยให้ร่างกายชินกับการหลับเมื่อถึงเวลา
ขอแนะให้เข้านอนอย่างช้าที่สุดสี่ทุ่ม ตื่นหลังจากนอนได้ 7 ชม. ช่วงจากสี่ทุ่มถึงตีสองเป็นช่วงที่ร่างกายซ่อมแซมความสึกหรอ หลั่งสารเคมีชลอวัย ปร้บให้ร่างกายกลับสู่สภาพสมบูรณ์ พร้อมที่จะตื่นขึ้นมาปฏิบัติภารกิจของวันใหม่
3)หลับลึก การปฏิบัติทั้งสี่ขัอที่กล่าวมาช่วยในการหลับลึกอยู่แล้ว ผู้อ่านทั้งชายและหญิงต้องจัดการอีกเรื่องเพื่อเลี่ยงการตื่นมาฉี่กลางดึก ขอให้หยุดดื่มน้ำสักหนึ่งถึงสองชั่วโมงก่อนนอน ฉี่ให้หมดแล้วเข้านอน หากไม่มีโรคอื่น ควรหลับรวดเดียวตลอดถึงเช้า ท่านชาย หากยังต้องตื่นครั้งหรือสองครั้ง อาจเป็นเพราะต่อมลูกหมากบวม ควรไปปรึกษาแพทย์
4) การปฏิบัติทั้ง4 ขั้นตอนไม่ใช่ของยาก เป็นแค่ทักษะ
ทูตอินเดียทำได้ เด็กชงน้ำชากะโปโลทำได้ ผู้อ่านก็ควรจะทำได้ ขอให้ตั้งใจ เอาจริง ยอมฝึก ไม่ยอมแพ้หรือท้อแท้ง่ายๆ ผมขอรับรองว่าจะคุ้มค่ามหาศาลต่อสุขภาพ ส่งผลให้แต่ละวันสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขอเชียร์และให้กำลังใจนะครับ

สุดท้ายนี้ ผมอยากขอร้องให้ผู้อ่านช่วยส่งต่อเพื่อเป็นประโยชน์แด่ผู้อื่นด้วย ขอบคุณครับ

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ“การนอนหลับยามค่ำคืน”จาก สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทยพ.ย. 25591. การผ่อนคลาย สำคัญกว่า การพยายามนอนหล...
21/06/2020

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ
“การนอนหลับยามค่ำคืน”
จาก
สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย
พ.ย. 2559

1. การผ่อนคลาย สำคัญกว่า
การพยายามนอนหลับ

2. การพักผ่อน กับ การผ่อนคลายไม่เหมือนกัน
เพราะ การพักผ่อนบางอย่าง ไม่ใช่การผ่อนคลาย
แต่อาจเพิ่มความคิด ความเครียด และ ความกดดัน ด้วยซ้ำ
เช่น การพักผ่อนโดยการเล่น ไลน์ หรือ โซเชียลมีเดีย เช่น facebook หลายครั้ง เล่นไปเล่นมา กลับเครียด หรือใจคอไม่สงบ เพราะ เกิด ดราม่า ขึ้นในใจ อย่างมากมาย

3. หลับ หรือ ไม่หลับ ไม่สำคัญ
สิ่งสำคัญคือ การผ่อนคลาย
เมื่อผ่อนคลายทั้งร่างกาย และ จิตใจ
นอนหลับได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ตอนเช้าสามารถสดชื่นได้

4. การนอนหลับ หรือ ไม่หลับ เป็น เรื่องธรรมชาติ (บังคับไม่ได้)
แต่การผ่อนคลาย ร่างกาย และ จิตใจเป็นสิ่งที่เราเลือกได้
และ การผ่อนคลาย เป็นสิ่งสำคัญกับสุขภาพกาย และ สุขภาพใจมากกว่า

5. สิ่งที่เป็นอุปสรรคในการนอน คือ "ความคาดหวัง" ที่จะหลับ
ฝึกรู้ทัน.. และ วางมันลง...
คือ เคล็ดลับของความสุขในยามค่ำคืน 😀
(รวมทั้งเรื่องอื่นๆในชีวิตด้วยค่ะ ^_^)

6. การนอนไม่หลับ ไม่ใช่ หายนะ
การตื่นกลางดึก ก็ไม่ใช่หายนะเช่นกัน
การไม่ผ่อนคลาย ความกดดัน และ การบังคับตัวเองให้หลับ ต่างหากที่เป็น
(เมื่อ ใจ และกาย ผ่อนคลาย ตอนเช้าก็สดชื่นได้ แม้ไม่ได้นอน)

7. การนอนหลับ ไม่ใช่หนทางเดียวที่จะช่วยเยียวยาร่างกายตอนกลางคืน
การผ่อนคลาย การปล่อยวาง ต่างหากที่ช่วย
เมื่อไม่ตั้งใจจะหลับ การหลับที่เป็นธรรมชาติเกิดขึ้นเอง

8. เมื่อไม่กลัว "การนอนไม่หลับ"
ชีวิตก็ง่ายขึ้นเยอะค่ะ
(นอนหลับหรือไม่หลับ จึงไม่เป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้เครียด กังวลอีกต่อไป)

9.สรุป ปัญหา "การนอนไม่หลับ" ไม่ใช่ปัญหา แต่วิธี
"การคิด" และ
"การพยายามที่จะหลับให้ได้” ต่างหากที่เป็นปัญหา

สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย

ยากนะ กับการใช้ชีวิตในยุคเนี้ย!!!..New normalออกนอกบ้านที...ก็ต้องใส่แมสไม่ใส่ก็เสี่ยง... เสี่ยงเชื้อโรค เสี่ยงสังคมรังเ...
26/05/2020

ยากนะ กับการใช้ชีวิตในยุคเนี้ย!!!..New normal
ออกนอกบ้านที...ก็ต้องใส่แมส
ไม่ใส่ก็เสี่ยง... เสี่ยงเชื้อโรค เสี่ยงสังคมรังเกียจ เสี่ยงผิดพรบ. ฯลฯ
ครั้นใส่ก็หายใจยาก อึดอัด หายใจไม่ทั่วท้อง หายใจไม่เต็มปอด😅😅
แถมเจ็บหูจากสายรัด แถมอึดอัดจากแว่นเป็นฝ้า😂😂
วันนี้จะดีกว่ามั๊ย??? ด้วย TDA Herbal Mint
ลดความเบื่อได้ง่ายๆๆ แบบชื่นใจ และ ชุ่มปอด

🍃TDA Herbal Mint เป็น Aroma Therapy ที่มีคุณสมบัติช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย
และเชื้อไวรัสในทางเดินหายใจ และปอด

👍👍จิ๋วแต่แจ๋ว สเปรย์ Mint สารพัดประโยชน์

❌ระงับกลิ่นปาก ( พ่นในปาก / ผสมน้ำบ้วนปาก )
❌แก้วิงเวียนศรีษะ ลดความดัน ( พ่นในอากาศ / สูดดม )
❌แก้เจ็บคอ ฆ่าเชื้อในปาก ( พ่นในคอ )
❌ขับเสมหะ บำรุงเสียง ( พ่นในน้ำดื่ม )
❌แก้ผื่นคัน แมลงสัตว์กัดต่อย ( ทาที่คัน )
❌แก้ปวดข้อ ปวดเข่า ( ทาที่ปวด )
❌แก้นอนกรน ( พ่นในคอ )
❌แก้หวัด ( พ่นในอากาศ )
❌ปรับอากาศ ( พ่นในอากาศ / พ่นใส่ช่องเครื่องปรับอากาศ )
❌แก้ปวดท้อง (หยดลงในน้ำ)
ขนาดบรรจุ : 15 มล.
✔️ราคา 225 บาท ลดพิเศษสำหรับท่านที่พิมพ์ว่า “สนใจ” ใต้โพสต์
✔️...ลดเหลือราคา : 195 บาท...
id line : 0632628995
♻️ส่วนประกอบสำคัญ :
Menthol / Camphor / Mentha Piperta(Peppermint)Oil / Eucalyptus Globulus Oil

ยากนะ  กับการใช้ชีวิตในยุค "โควิด-19" เนี่ย!!!ออกนอกบ้านที...ก็ต้องใส่แมส ไม่ใส่ก็เสี่ยง... เสี่ยงเชื้อโรค เสี่ยงสังคมรั...
23/05/2020

ยากนะ กับการใช้ชีวิตในยุค "โควิด-19" เนี่ย!!!
ออกนอกบ้านที...ก็ต้องใส่แมส
ไม่ใส่ก็เสี่ยง... เสี่ยงเชื้อโรค เสี่ยงสังคมรังเกียจ เสี่ยงผิดพรบ. ฯลฯ
ครั้นใส่ก็หายใจยาก อึดอัด หายใจไม่ทั่วท้อง หายใจไม่เต็มปอด😅😅
แถมเจ็บหูจากสายรัด แถมอึดอัดจากแว่นเป็นฝ้า😂😂
วันนี้จะดีกว่ามั๊ย??? ด้วย TDA Herbal Mint
ลดความเบื่อได้ง่ายๆๆ แบบชื่นใจ และ ชุ่มปอด

🍃TDA Herbal Mint เป็น Aroma Therapy ที่มีคุณสมบัติช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย
และเชื้อไวรัสในทางเดินหายใจ และปอด

👍👍จิ๋วแต่แจ๋ว สเปรย์ Mint สารพัดประโยชน์

❌ระงับกลิ่นปาก ( พ่นในปาก / ผสมน้ำบ้วนปาก )
❌แก้วิงเวียนศรีษะ ลดความดัน ( พ่นในอากาศ / สูดดม )
❌แก้เจ็บคอ ฆ่าเชื้อในปาก ( พ่นในคอ )
❌ขับเสมหะ บำรุงเสียง ( พ่นในน้ำดื่ม )
❌แก้ผื่นคัน แมลงสัตว์กัดต่อย ( ทาที่คัน )
❌แก้ปวดข้อ ปวดเข่า ( ทาที่ปวด )
❌แก้นอนกรน ( พ่นในคอ )
❌แก้หวัด ( พ่นในอากาศ )
❌ปรับอากาศ ( พ่นในอากาศ / พ่นใส่ช่องเครื่องปรับอากาศ )
❌แก้ปวดท้อง (หยดลงในน้ำ)

♻️ส่วนประกอบสำคัญ :
Menthol / Camphor / Mentha Piperta(Peppermint)Oil / Eucalyptus Globulus Oil

ขนาดบรรจุ : 15 มล.
ราคา : 195 บาท

id line : 0632628995

รู้จักกับโควิด-19
23/05/2020

รู้จักกับโควิด-19

ที่อยู่

359/1 ถ. อนรรฆนาค ต. กาฬสินธุ์
Kalasin
46000

เบอร์โทรศัพท์

043-010414

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ แข็งแรงเพื่อลูก ชนะโรค ชะลอวัยผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram