เปลี่ยน

เปลี่ยน จิตวิทยา
ฝึกอบรม
การเรียนรู้

การฝึก “การวางแผน” ให้กับเด็กๆ ตั้งแต่เล็กถือเป็นหนึ่งในทักษะชีวิตสำคัญ (life skill) ที่มีผลระยะยาวต่อความสำเร็จ ความมั่...
04/08/2025

การฝึก “การวางแผน” ให้กับเด็กๆ ตั้งแต่เล็กถือเป็นหนึ่งในทักษะชีวิตสำคัญ (life skill) ที่มีผลระยะยาวต่อความสำเร็จ ความมั่นคงทางอารมณ์ และความสามารถในการจัดการชีวิตของพวกเขาในอนาคต
____________________________________*_*________________________________
🌟 ผลดีของการฝึกการวางแผนให้เด็กในอนาคต
เสริมสร้างความรับผิดชอบ
เด็กจะเรียนรู้ว่าการกระทำของเขามีผลตามมา และจะต้องเตรียมตัวให้พร้อม

1.เพิ่มทักษะการแก้ปัญหา
-----การวางแผนช่วยให้เด็กมองเห็นทางเลือกต่างๆ และเลือกทางที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหา
2.ลดความเครียดและความวิตกกังวล
-----เมื่อมีแผน เด็กจะรู้ว่าจะทำอะไรก่อนหลัง ทำให้ไม่รู้สึกวุ่นวายหรือสับสน
3.ส่งเสริมการควบคุมตนเอง (Self-Regulation)
-----เด็กจะฝึกการยับยั้งใจตนเอง (inhibition) และจัดลำดับความสำคัญ
4.เพิ่มโอกาสสำเร็จทางการเรียนและชีวิตการทำงาน
-----ทักษะการวางแผนเป็นรากฐานของการตั้งเป้าหมายและการบรรลุเป้าหมาย (goal setting and achievement)
_____________________________________________________________________
📚 ทฤษฎีทางจิตวิทยาที่สนับสนุน
_____________________________________________________________________
Executive Function Theory
📚โดยเฉพาะ “Planning” เป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของ Executive Functions
📚อธิบายว่าเด็กที่มีทักษะวางแผนจะสามารถตั้งเป้าหมาย ย่อยเป้าหมาย และควบคุมตนเองได้ดี
_____________________________________________________________________
Vygotsky’s Sociocultural Theory
📚การฝึกวางแผนสามารถทำได้ผ่านการ “scaffolding” คือการช่วยเหลือจากผู้ใหญ่แล้วค่อยๆ ปล่อยให้เด็กวางแผนเอง
📚ส่งเสริม “Zone of Proximal Development” ซึ่งเป็นช่วงที่เด็กสามารถพัฒนาได้เร็วที่สุดเมื่อมีผู้ช่วย
_____________________________________________________________________
Self-Determination Theory (Deci & Ryan)

📚การฝึกวางแผนช่วยให้เด็กมี “autonomy” หรือความรู้สึกว่าตนเองควบคุมชีวิตตนเองได้
📚เพิ่มแรงจูงใจภายใน (intrinsic motivation)
_____________________________________________________________________
✅ กิจกรรมฝึกวางแผนที่เหมาะกับเด็ก
👦เกมจัดลำดับภาพเหตุการณ์
👦ทำ To-do list ประจำวัน
👦วางแผนจัดวันเกิดหรืองานกลุ่ม
👦กิจกรรมจำลองชีวิตจริง (เช่น วางแผนไปทัศนศึกษา)
_____________________________________________________________________
#สถานบันฝึกอบรม ดร.เอก เทรนนิ่ง (Dr.Ake Training)
#กิจกรรมเด็ก
#การฝึกวินัยเด็ก
#การพัฒนาเด็ก
#การจัดการอารมณ์อย่างเป็นระบบ
#จิตวิทยาพัฒนามนุษย์
Kids Skills
Kids Skills
https://mksamart.com/
https://web.facebook.com/profile.php?id=100063542378512

ส่งเสริมลูกๆ เพื่อให้เขาได้กล้าแสดงตัวตนอย่างมีพลังและสร้างสรรค์________________________________________________________...
04/08/2025

ส่งเสริมลูกๆ เพื่อให้เขาได้กล้าแสดงตัวตนอย่างมีพลังและสร้างสรรค์
_________________________________________________________________
การส่งเสริม ความกล้าแสดงออก (Assertiveness) ให้กับเด็ก ๆ ไม่เพียงแต่เป็นการพัฒนาทักษะส่วนบุคคลเท่านั้น แต่ยังเป็นการเปิดโอกาสให้เด็กสามารถเติบโตอย่างมั่นใจในสังคมที่มีความหลากหลาย ซึ่งสามารถสร้างโอกาสได้หลายด้าน

🌟 โอกาสที่เกิดจากการกล้าแสดงออกของเด็ก
1.โอกาสในการสื่อสารและสร้างความสัมพันธ์ที่ดี
เด็กที่กล้าแสดงออกจะสามารถสื่อสารความคิด ความรู้สึก และความต้องการของตนได้อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นพื้นฐานของการสร้างมิตรภาพและความร่วมมือที่ดี
2.โอกาสในการเรียนรู้และแสดงศักยภาพในห้องเรียน เด็กกล้าแสดงออกจะกล้าตั้งคำถาม แสดงความคิดเห็น หรือแสดงผลงาน ซึ่งเปิดโอกาสให้ครูเห็นศักยภาพของเขา และให้การสนับสนุนที่เหมาะสม
3.โอกาสในการเป็นผู้นำ เด็กที่กล้าแสดงออกมักมีแนวโน้มได้รับบทบาทผู้นำในกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งในระดับโรงเรียนและชุมชน
4.โอกาสในการป้องกันตนเองจากการถูกเอาเปรียบ การกล้าแสดงออกช่วยให้เด็กสามารถปฏิเสธหรือหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัย เช่น การกลั่นแกล้งหรือการล่อลวง
5.โอกาสในการเติบโตทางอารมณ์และจิตใจ เด็กจะรู้สึกมีคุณค่าในตนเอง (self-worth) และมีความมั่นคงทางอารมณ์มากขึ้นเมื่อสามารถแสดงตัวตนได้อย่างเป็นธรรมชาติ
_____________________________________________________________________
ทฤษฎีทางจิตวิทยา
ทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคมของ Bandura (Social Learning Theory)

เด็กเรียนรู้พฤติกรรมการกล้าแสดงออกผ่านการสังเกต การเลียนแบบแบบอย่าง (modeling) เช่น พ่อแม่ ครู หรือเพื่อน ๆ ที่กล้าแสดงออก

แนวทาง: ใช้กิจกรรมกลุ่มที่มีการสาธิตพฤติกรรมกล้าแสดงออกและเปิดโอกาสให้เด็กได้ฝึกปฏิบัติจริง
_____________________________________________________________________
ทฤษฎีพัฒนาการทางจิตสังคมของ Erikson

ระยะ "Initiative vs Guilt" (วัย 3–6 ปี): เด็กต้องการริเริ่มและกล้าแสดงออก หากได้รับการสนับสนุนจะส่งผลต่อความมั่นใจในตนเอง

แนวทาง : สนับสนุนให้เด็กได้ริเริ่มกิจกรรมหรือแสดงความคิดเห็นโดยไม่ตำหนิ

✅ วิธีส่งเสริมความกล้าแสดงออกให้เด็ก
จัดกิจกรรมกลุ่ม เช่น การแสดงละครซ้อมสถานการณ์ (Role Play)

👉ฝึกให้เด็กพูดหน้าชั้นเรียนเป็นประจำ

👉ตั้งคำถามเปิดเพื่อให้เด็กฝึกคิดและตอบ

👉เสริมแรงทางบวก เช่น คำชมเชยเมื่อเด็กกล้าแสดงออก

👉ฝึกทักษะการปฏิเสธอย่างสุภาพและมั่นใจ
_______________________________________________________________
#สถานบันฝึกอบรม ดร.เอก เทรนนิ่ง (Dr.Ake Training)
#กิจกรรมเด็ก
#การฝึกวินัยเด็ก
#การพัฒนาเด็ก
#การจัดการอารมณ์อย่างเป็นระบบ
#จิตวิทยาพัฒนามนุษย์
Kids Skills
Kids Skills
https://mksamart.com/
https://web.facebook.com/profile.php?id=100063542378512

01/08/2025

ขอสดุดีเหล่าทหารกล้า

เชื่อว่าทุกคนเคยถูกตั้งคำถามว่า "โตขึ้นอยากเป็นอะไร ? "________________________หลายคนอาจจะตอบเพราะตามเพื่อนบ้าง หรือตอบเ...
11/07/2025

เชื่อว่าทุกคนเคยถูกตั้งคำถามว่า "โตขึ้นอยากเป็นอะไร ? "
________________________
หลายคนอาจจะตอบเพราะตามเพื่อนบ้าง หรือตอบเพราะเห็นเป็นภาพจำจากสื่อออนไลน์อื่นๆ แต่อาจจะตอบเพราะชอบเป็นทุนอยู่แล้ว แต่พอโตขึ้นความฝันนั้นก็ค่อยๆ แปรเปลี่ยนหายไปเรื่อยๆ หากกลับมาตอบคำถามนี้อีกครั้งคงจะไม่ใช่คำตอบเดิมแล้ว
________________________
🙋‍♂️ ผู้ปกครองอาจจะยินดีกับคำตอบนั้น แต่ไม่ได้จริงจังอะไรมากนัก เพราะนั่นเป็นการตั้งคำถามสำหรับเด็กๆ แต่ถ้าหากเป็นเรื่องที่น่าส่งเสริมก็อาจจะเป็นสิ่งที่เขาชอบขึ้นมาจริงๆ และมีความถนัดในด้านนั้นก็ได้ เราเองก็อาจจะมีการส่งเสริมแบบค่อยเป็นค่อยไปบ้าง
________________________
คำถามคือ จะทำอย่างไร เพื่อไม่ให้เขาละทิ้งเป้าหมายของตนเอง
________________________
การที่เด็กๆ จะไม่ละทิ้งเป้าหมาย ต้องอาศัยการส่งเสริมจากทั้งตัวเขาเอง ครอบครัว โรงเรียน และสภาพแวดล้อมโดยรอบ ซึ่งสามารถทำได้ด้วยวิธีการ คือ

✅ 1. ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนและเหมาะสมกับวัย
เป้าหมายต้อง มีความหมาย และ เป็นไปได้ สำหรับเด็ก เช่น “อยากวาดรูปเก่ง” มากกว่าแค่ “อยากเป็นศิลปิน”
ใช้เทคนิค SMART Goal:
- S = ชัดเจน
- M = วัดผลได้
- A = ทำได้จริง
- R = สอดคล้องกับความสนใจ
- T = มีกรอบเวลา
✅ 2. ให้เด็กมีส่วนร่วมในการตั้งเป้าหมายของตนเอง
- ให้เขาได้เลือกหรือปรับเป้าหมายเอง จะช่วยให้เกิด “เจ้าของเป้าหมาย” (ownership)
- เด็กจะรู้สึกมีอิสระและรับผิดชอบมากขึ้น
✅ 3. เสริมแรงบวกและให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง
- ชื่นชมความพยายาม ไม่ใช่แค่ผลลัพธ์ เช่น “หนูฝึกวาดทุกวัน เก่งมากเลย”
- ให้รางวัลเล็กน้อยเมื่อบรรลุเป้าหมายย่อย เช่น สติ๊กเกอร์ คำชม หรือเวลาพักผ่อนพิเศษ
✅ 4. แบ่งเป้าหมายใหญ่ให้เป็นขั้นตอนเล็กๆ
- เด็กจะไม่รู้สึกว่ามัน “ยากเกินไป” หรือ “ไกลเกินฝัน”
- เช่น จาก “อยากว่ายน้ำเก่ง” → “ว่ายให้ครบ 5 รอบ” → “ฝึกท่ากบให้ถูกต้อง”
✅ 5. สอนให้เข้าใจเรื่อง “อุปสรรคคือส่วนหนึ่งของความสำเร็จ”
- ใช้เรื่องราวจากชีวิตจริงของบุคคลต้นแบบ (เช่น นักกีฬา ศิลปิน) เพื่อเป็นแรงบันดาลใจ
- ให้เด็กเรียนรู้จากความผิดพลาด และไม่ท้อแท้เมื่อมีปัญหา
✅ 6. เป็นแบบอย่างที่ดี
- ผู้ปกครองหรือครูควรมีเป้าหมายของตัวเอง และแสดงให้เห็นถึงความพยายามในการบรรลุเป้าหมายนั้น

✅ 7. ติดตามและทบทวนเป้าหมายอย่างสม่ำเสมอ
- เช่น เช็กเป็นรายสัปดาห์หรือรายเดือนว่าก้าวหน้าแค่ไหน ต้องปรับอะไรบ้าง
- ให้เด็กเขียน “สมุดเป้าหมาย” หรือทำ “บอร์ดแรงบันดาลใจ”
✅ 8. สภาพแวดล้อมต้องสนับสนุน
- สร้างพื้นที่หรือเวลาสำหรับการทำกิจกรรมที่เกี่ยวกับเป้าหมาย
- สนับสนุนอุปกรณ์ เครื่องมือ หรือข้อมูลที่จำเป็น
_________________________________________________________
ทฤษฎีที่น่าสนใจเพื่อส่งเสริมให้เกิดความมุ่งมั่นในเป้าหมาย
_________________________________________________________
ทฤษฎีการเสริมแรง (Reinforcement Theory) – B.F. Skinner
แนวคิดหลัก:
* พฤติกรรมที่ได้รับ “ผลลัพธ์เชิงบวก” มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นซ้ำ
* พฤติกรรมที่ตามมาด้วย “ผลลัพธ์เชิงลบหรือไม่มีรางวัล” จะลดลง

ตัวอย่างการใช้:
- เมื่อเด็กพยายามทำตามเป้าหมาย ควรให้ คำชม รางวัล หรือการยอมรับ (Positive Reinforcement)
- เช่น “เก่งมากที่ฝึกซ้อมทุกวัน พรุ่งนี้พ่อจะพาไปสวนสนุก”
______________________________
#สถานบันฝึกอบรม ดร.เอก เทรนนิ่ง (Dr.Ake Training)
#กิจกรรมเด็ก
#การฝึกวินัยเด็ก
#การพัฒนาเด็ก
#การจัดการอารมณ์อย่างเป็นระบบ
#จิตวิทยาพัฒนามนุษย์
Kids Skills
Kids Skills
https://mksamart.com/
https://web.facebook.com/profile.php?id=100063542378512

การฝึกวินัยให้กับเด็กในยุคปัจจุบันมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เด็กต้องเติบโตท่ามกลางเทคโนโล...
07/07/2025

การฝึกวินัยให้กับเด็กในยุคปัจจุบันมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เด็กต้องเติบโตท่ามกลางเทคโนโลยี ข้อมูลที่หลั่งไหล และความท้าทายใหม่ ๆ การมีวินัยจึงเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาทักษะชีวิตที่จำเป็น
__________________________________________________......ความสำคัญของการฝึกวินัยในเด็กยุคปัจจุบัน.......
__________________________________________________
1.สร้างความรับผิดชอบในตนเอง
- เด็กที่มีวินัยจะรู้จักหน้าที่ของตนเอง สามารถจัดการกับเวลาและงานที่ได้รับมอบหมายได้ดี

2.ส่งเสริมทักษะการควบคุมตนเอง (Self-regulation)
- เด็กจะสามารถควบคุมอารมณ์ ความต้องการ และพฤติกรรมให้อยู่ในกรอบที่เหมาะสม

3.เตรียมความพร้อมสู่สังคมและการเรียนรู้ในอนาคต
- วินัยช่วยให้เด็กเข้าใจกฎเกณฑ์ รู้จักเคารพผู้อื่น และทำงานร่วมกับคนอื่นได้อย่างราบรื่น

4.ลดพฤติกรรมเสี่ยงและปัญหาพฤติกรรม
- เด็กที่มีวินัยมีแนวโน้มจะหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเบี่ยงเบน เช่น ความรุนแรง หรือการใช้สารเสพติด

5.ส่งเสริมการตัดสินใจอย่างมีเหตุผล
- เด็กที่มีวินัยมักมีความอดทน รู้จักไตร่ตรอง และไม่ตัดสินใจด้วยอารมณ์
___________________________
🧐 ทฤษฎีจิตวิทยาที่น่าสนใจ
___________________________
✍️ทฤษฎีการเรียนรู้ของ Bandura (Social Learning Theory)
เด็กเรียนรู้พฤติกรรมผ่านการเลียนแบบและการสังเกต
✍️ทฤษฎีการเสริมแรงของ Skinner (Operant Conditioning)
พฤติกรรมที่ได้รับการเสริมแรงจะมีแนวโน้มเกิดขึ้นบ่อยขึ้น
✍️ทฤษฎีพัฒนาการของ Erikson
ช่วงวัยเด็กเป็นช่วงสำคัญในการสร้างความรู้สึก “ฉันทำได้” ซึ่งสัมพันธ์กับการฝึกวินัย
________________________________
#สถานบันฝึกอบรม ดร.เอก เทรนนิ่ง (Dr.Ake Training)
#กิจกรรมเด็ก
#การฝึกวินัยเด็ก
#การพัฒนาเด็ก
#การจัดการอารมณ์อย่างเป็นระบบ
#จิตวิทยาพัฒนามนุษย์
Kids Skills
Kids Skills
https://mksamart.com/
https://web.facebook.com/profile.php?id=100063542378512

การฝึกเด็กให้สามารถ "รับมือกับอนาคต" เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะอนาคตเต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลงที่คาดเดาไม่ได้ ทั้งด้านเ...
07/07/2025

การฝึกเด็กให้สามารถ "รับมือกับอนาคต" เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะอนาคตเต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลงที่คาดเดาไม่ได้ ทั้งด้านเทคโนโลยี สภาพสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม การเตรียมความพร้อมให้เด็กตั้งแต่วัยเยาว์จึงเป็น “การลงทุนในชีวิต” ที่มีคุณค่ามหาศาล โดยมีเหตุผลสำคัญ คือ
________________________________________________
✅ ความสำคัญของการฝึกเด็กให้รับมือกับอนาคต
________________________________________________
1. พัฒนา “ทักษะชีวิต” (Life Skills) ที่จำเป็น
- เด็กจะเรียนรู้การคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหา การสื่อสาร และความยืดหยุ่น
- ช่วยให้สามารถปรับตัวได้ในทุกสถานการณ์ เช่น การเปลี่ยนอาชีพ เทคโนโลยีใหม่ หรือสถานการณ์โลก

2. สร้างความมั่นใจในตนเอง
- เมื่อเด็กผ่านการฝึกคิด วางแผน และรับผิดชอบ เขาจะเกิดความเชื่อมั่นว่า “เขารับมือได้” กับปัญหาที่อาจเกิดขึ้น

3. ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม
- เด็กที่ถูกฝึกให้ตั้งคำถาม คิดนอกกรอบ มีแนวโน้มจะเป็นผู้สร้างสิ่งใหม่ ๆ ได้ในอนาคต

4. สร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจ (Resilience)
- ช่วยให้เด็กไม่ย่อท้อต่อความล้มเหลว และสามารถลุกขึ้นสู้ใหม่ได้อย่างเข้มแข็ง

5. ปลูกฝังการตัดสินใจอย่างมีจริยธรรม
- ท่ามกลางกระแสข้อมูล ความเชื่อ หรือค่านิยมที่หลากหลาย เด็กต้องฝึกคิดอย่างมีวิจารณญาณและมีจริยธรรม

6. เตรียมพร้อมสู่การเป็นพลเมืองโลก (Global Citizenship)
- ในโลกยุคใหม่ เด็กต้องเข้าใจความหลากหลาย เห็นอกเห็นใจผู้อื่น และรู้บทบาทของตนในระดับสากล
__________________________________
🧐 ทฤษฎีที่น่าสนใจ
__________________________________
ทฤษฎีพัฒนาการของ Erik Erikson
– ระยะของการพัฒนาอัตลักษณ์และการเตรียมความพร้อมเพื่ออนาคตอยู่ในวัยรุ่น
– หากฝึกฝนได้ดี เด็กจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มั่นคงและมีเป้าหมายในชีวิต
______________________________________________________
#สถานบันฝึกอบรม ดร.เอก เทรนนิ่ง (Dr.Ake Training)
#กิจกรรมเด็ก
#การพัฒนาเด็ก
#การจัดการอารมณ์อย่างเป็นระบบ
#จิตวิทยาพัฒนามนุษย์
Kids Skills
Kids Skills
https://mksamart.com/
https://web.facebook.com/profile.php?id=100063542378512

เมื่อสังเกตเห็นว่าลูกไม่มีความสนุกเบื่ออาหาร หรือหงุดหงิดง่าย ขาดระเบียบวินัย___________________________________________...
05/07/2025

เมื่อสังเกตเห็นว่าลูกไม่มีความสนุก
เบื่ออาหาร หรือหงุดหงิดง่าย ขาดระเบียบวินัย
____________________________________________
เมื่อลูกมีอารมณ์หงุดหงิด เบื่อหน่าย หรือขาดวินัย พ่อแม่ควรตั้งคำถามในลักษณะที่ช่วยให้ลูก รู้เท่าทันอารมณ์ของตนเอง (emotional awareness) และ สามารถสะท้อนความคิดและความรู้สึกของตนเองได้ (self-reflection) ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในการพัฒนา วินัยในตนเอง (self-discipline) และ ความสามารถในการควบคุมอารมณ์ (emotional regulation)
____________________________________
* วิธีตั้งคำถามที่ช่วยให้ได้ “คำตอบที่เป็นจริง” จากลูก:
ควรถามแบบ เปิด (Open-ended questions) และใช้ น้ำเสียงสงบ ไม่ตัดสิน
____________________________________
ทฤษฎีจิตวิทยาที่น่าสนใจ
____________________________________
* พัฒนาด้วยทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคม Bandura (Social Learning Theory)
-🙂 เด็กเรียนรู้พฤติกรรมผ่านการเลียนแบบแบบอย่าง (เช่น พ่อแม่ที่ควบคุมอารมณ์อย่างมีเหตุผล)
-🙂การพูดคุยด้วยความเข้าใจเป็น แบบอย่างของการสื่อสารเชิงบวก
________________________________-___
#การพัฒนาเด็ก
#การพัฒนาการเรียนรู้ของเด็ก
#จิตวิทยาเด็กและวัยรุ่น
#สถานบันฝึกอบรม ดร.เอก เทรนนิ่ง (Dr.Ake Training)
#กิจกรรมเด็ก
#การพัฒนาเด็ก
#การจัดการอารมณ์อย่างเป็นระบบ
#จิตวิทยาพัฒนามนุษย์
Kids Skills
Kids Skills
#การพัฒนาบุคลากรในองค์กรแบบครบวงจร
ติดตามได้ที่ https://mksamart.com/
หรือเพจ https://web.facebook.com/profile.php?id=100063542378512

การฝึกให้เด็กรู้จัก วางแผนการรับมือกับอารมณ์ของตนเองและผู้อื่น เป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมากต่อการพัฒนา “ทักษะชีวิต” แล...
03/07/2025

การฝึกให้เด็กรู้จัก วางแผนการรับมือกับอารมณ์ของตนเองและผู้อื่น เป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมากต่อการพัฒนา “ทักษะชีวิต” และ “ความฉลาดทางอารมณ์ (EQ)” ซึ่งเป็นรากฐานของความสัมพันธ์ที่ดี การเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ และการดำรงชีวิตอย่างมีความสุขในระยะยาว
✅ความสำคัญของการฝึกวางแผนการรับมือกับอารมณ์
1.พัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ (EQ)
ช่วยให้เด็กเข้าใจและจัดการอารมณ์ของตนเองได้ดีขึ้น เช่น รู้จักสงบสติอารมณ์เมื่อโกรธ ไม่ระเบิดอารมณ์ใส่ผู้อื่น
2.ส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดี
เมื่อเด็กรู้จักเข้าใจอารมณ์ผู้อื่น จะมีความเห็นอกเห็นใจ (Empathy) และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อน ครอบครัว และครูได้
3.เสริมความมั่นใจและการตัดสินใจ
การวางแผนช่วยให้เด็กไม่ตัดสินใจด้วยอารมณ์ชั่ววูบ แต่รู้จักคิด วิเคราะห์ และเลือกทางแก้ปัญหาอย่างมีเหตุผล
4.ป้องกันปัญหาพฤติกรรม
เช่น ความก้าวร้าว ดื้อรั้น ขาดสมาธิ หรือเก็บกดอารมณ์ เพราะเด็กสามารถแสดงออกและจัดการกับความรู้สึกอย่างเหมาะสม
✅ ทฤษฎีและแนวคิดที่เกี่ยวข้อง
ทฤษฎีความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence Theory)
📌 โดย Daniel Goleman (1995)
แบ่ง EQ เป็น 5 ด้านหลัก ได้แก่:
1.การตระหนักรู้ในอารมณ์ของตนเอง (Self-awareness)
2.การควบคุมอารมณ์ตนเอง (Self-regulation)
3.การมีแรงจูงใจในตนเอง (Motivation)
4.การเห็นใจผู้อื่น (Empathy)
5.ทักษะทางสังคม (Social skills)

*เด็กที่พัฒนา EQ จะสามารถควบคุมอารมณ์และเข้าใจผู้อื่นได้ดีกว่า ช่วยในการวางแผนจัดการอารมณ์ในสถานการณ์ต่างๆ
#สถานบันฝึกอบรม ดร.เอก เทรนนิ่ง (Dr.Ake Training)
#กิจกรรมเด็ก
#การพัฒนาเด็ก
#การจัดการอารมณ์อย่างเป็นระบบ
#จิตวิทยาพัฒนามนุษย์
Kids Skills
Kids Skills
https://mksamart.com/
https://web.facebook.com/profile.php?id=100063542378512

"การเรียนรู้สำหรับเด็กๆ ควรควบคู่ไปกับอะไร ?"...........การส่งเสริมการเรียนรู้ให้กับลูกในวัยเด็กเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ...
18/06/2025

"การเรียนรู้สำหรับเด็กๆ ควรควบคู่ไปกับอะไร ?"...........การส่งเสริมการเรียนรู้ให้กับลูกในวัยเด็กเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นช่วงเวลาที่สมองของเด็กมีการเจริญเติบโตและพัฒนาอย่างรวดเร็วที่สุดในชีวิต โดยเฉพาะในช่วง 0-6 ปี ซึ่งเรียกว่า "ช่วงทองของการพัฒนา" (Critical Period) การส่งเสริมที่ดีในช่วงนี้จะวางรากฐานที่มั่นคงต่อการเรียนรู้ ทักษะชีวิต และพัฒนาการด้านต่าง ๆ ในอนาคต

❖ ความสำคัญของการส่งเสริมการเรียนรู้ในวัยเด็ก
กระตุ้นการพัฒนาสมอง

เซลล์สมองของเด็กจะเชื่อมโยงกันอย่างรวดเร็วเมื่อได้รับประสบการณ์ที่เหมาะสม เช่น การเล่น การพูดคุย การอ่านหนังสือ

ช่วยพัฒนา EF (Executive Function) เช่น การควบคุมอารมณ์ การวางแผน ความจำใช้งาน

*ส่งเสริมทักษะทางสังคมและอารมณ์*

- การเรียนรู้ร่วมกับผู้อื่นช่วยให้เด็กรู้จักการรอคอย การแบ่งปัน และการเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
- เด็กที่ได้รับการพัฒนาอารมณ์ที่ดีจะเรียนรู้ได้ดีขึ้น มีแรงจูงใจ และความมั่นใจ

*ปลูกฝังนิสัยรักการเรียนรู้*

- เมื่อเด็กมีประสบการณ์ที่ดีเกี่ยวกับการเรียนรู้ในวัยต้น จะมีทัศนคติเชิงบวกต่อการเรียนในระยะยาว

❖ ควรส่งเสริมในช่วงอายุใด
ช่วงอายุ แนวทางส่งเสริม
0-2 ปี ส่งเสริมผ่านการพูดคุย การกอด การเล่นง่าย ๆ เช่น กล่องของ เล่น การฟังเพลง
2-4 ปี เริ่มมีจินตนาการ ใช้เกมสร้างสรรค์ การเล่านิทาน การวาดรูป
4-6 ปี เสริมทักษะพื้นฐานด้านภาษา คณิตศาสตร์ ความคิดสร้างสรรค์ และการเข้าสังคม
6 ปีขึ้นไป พัฒนาแนวคิดที่ซับซ้อนขึ้น เรียนรู้ผ่านกิจกรรมจริง การแก้ปัญหา และการตั้งเป้าหมาย

❖ ควรพัฒนาด้านอารมณ์ไปพร้อมกับการเรียนรู้หรือไม่?
ควรอย่างยิ่ง เพราะสมองส่วนที่เกี่ยวกับอารมณ์ (amygdala) และการตัดสินใจ (prefrontal cortex) ทำงานเชื่อมโยงกัน การพัฒนาอารมณ์ควบคู่กับการเรียนรู้มีข้อดีคือ :
- เด็กเรียนรู้ได้ดีขึ้นเมื่อรู้สึกปลอดภัยและมีความสุข
- ลดพฤติกรรมก้าวร้าวหรือต่อต้าน
- สร้าง “ภูมิคุ้มกันทางใจ” ต่อความเครียดในอนาคต
.....งานวิจัยจาก Harvard University ระบุว่า "ทักษะทางอารมณ์และสังคมในวัยเด็ก ส่งผลต่อความสำเร็จในชีวิตอย่างมีนัยสำคัญ"

🔑 สรุป
1.เริ่มส่งเสริมตั้งแต่แรกเกิด โดยเน้นการเล่น การพูดคุย และการตอบสนองทางอารมณ์
2.การเรียนรู้และอารมณ์ต้องไปคู่กัน เพื่อสร้างพื้นฐานที่มั่นคงทั้งด้านสติปัญญาและจิตใจ
3.ผู้ปกครองควรมีบทบาทเป็น "โค้ช" ไม่ใช่ "ผู้บังคับบัญชา" เพื่อส่งเสริมการเติบโตที่สมดุล

การส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็กๆ เป็นสิ่งสำคัญ เมื่อเกิดการส่งเสริมตั้งแต่เริ่มต้นก็จะทำให้เด็กเกิดเห็นปมเด่นของตนเอง และเลือกทางที่ถนัดของตนเองได้อย่างมีความสุข
#สถานบันฝึกอบรม ดร.เอก เทรนนิ่ง (Dr.Ake Training)
#กิจกรรมเด็ก
#การพัฒนาเด็ก
#การส่งเสริมเด็กด้วยการทำงานเป็นทีม
#จิตวิทยาพัฒนามนุษย์
#จิตวิทยาเพื่อการสืบทอดธุรกิจ
Kids Skills
Kids Skills
https://mksamart.com/
https://web.facebook.com/profile.php?id=100063542378512

"รอยยิ้มที่จางหาย"       ภาวะซึมเศร้าเป็นภัยเงียบที่ไม่เลือกวัยใดๆ แต่ผู้ที่ถูกเลือกมักจะเป็นผู้ที่ตกอยู่สถานการณ์ที่เป็...
17/06/2025

"รอยยิ้มที่จางหาย"
ภาวะซึมเศร้าเป็นภัยเงียบที่ไม่เลือกวัยใดๆ แต่ผู้ที่ถูกเลือกมักจะเป็นผู้ที่ตกอยู่สถานการณ์ที่เป็นวังวนแนวคิดด้านลบกับตนเอง หัวใจที่ไร้พลังจะถูกครอบงำได้โดยง่าย เพราะถูกแนวคิดจะถูกเสริมแรงด้วยพลังงานด้านลบเสมอ ดังนั้นทั้งตัวเราเองและคนรอบข้างจึงต้องหมั่นสังเกตทั้งร่างกายและจิตใจ การสื่อสาร การเป็นอยู่ ทุกสิ่งนั้นล้วนสำคัญและแสดงให้เห็นได้ เพียงแค่เราต้องใส่ใจมากขึ้นเท่านั้นเอง
วันนี้ "เปลี่ยน" จะช่วยให้คุณรู้จักวิธีในการสังเกตและการดูแลคนรอบข้างไม่ให้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้ากันครับ

การสังเกตว่าคนที่เรารักอาจกำลังตกอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อ โรคซึมเศร้า และการดูแลหรือสื่อสารกับเขาอย่างเข้าใจนั้น เป็นเรื่องสำคัญและละเอียดอ่อนมาก ทั้งในเชิงพฤติกรรม อารมณ์ และการสนับสนุนทางจิตวิทยา

🔍 สัญญาณเตือนว่าเขาอาจกำลังเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้า
(สังเกตพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่องนานกว่า 2 สัปดาห์)

การสังเกตอารมณ์
- ดูเศร้าซึม หงุดหงิดง่าย ไม่มีความสุข
- แสดงออกถึงความรู้สึกสิ้นหวัง ไร้ค่า

การสังเกตพฤติกรรม
- แยกตัว ไม่อยากพบปะคนอื่น
- นอนมากหรือน้อยผิดปกติ
- เบื่ออาหารหรือกินมากเกินไป
- สนใจในสิ่งที่เคยชอบน้อยลง

การสังเกตแนวความคิด
- พูดถึงการตาย หรืออยากหายไป
- มองโลกในแง่ร้ายตลอดเวลา

การสังเกตร่างกาย
- เหนื่อยง่าย ปวดหัว หรือปวดท้องโดยไม่ทราบสาเหตุ
- เคลื่อนไหวช้าลง หรือไม่กระตือรือร้น

วิธีป้องกันภาวะซึมเศร้า (แนวทางจิตวิทยา)
การเสริมพลังทางใจ (Empowerment)
- สนับสนุนให้เขารู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า เช่น การยกย่องจุดแข็ง
- ใช้แนวทาง Positive Psychology ช่วยส่งเสริมมุมมองเชิงบวก

การจัดการความเครียด
- สอนเทคนิคผ่อนคลาย เช่น การหายใจลึก การฝึกสติ (Mindfulness)
- ใช้ Cognitive Behavioral Therapy (CBT) เพื่อช่วยจัดการความคิดลบ

ส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดี
- ให้ความรัก ความเข้าใจ และเวลา
- ทำกิจกรรมร่วมกันเพื่อเสริมสร้างความผูกพัน

💬 หากเขาเป็นซึมเศร้าแล้ว ควรสื่อสารหรือดูแลอย่างไร
วิธีสื่อสาร
- ฟังอย่างตั้งใจ โดยไม่ตัดสิน เช่น "ฉันอยู่ตรงนี้นะ ถ้าเธออยากเล่า"
- ใช้คำพูดอ่อนโยน เช่น “ไม่เป็นไรเลยที่รู้สึกแบบนี้”
- อย่าบังคับให้เขา "สู้ๆ" หรือ "อย่าคิดมาก" เพราะอาจทำให้รู้สึกว่าตนเองผิดปกติ

การสนับสนุน
- ชวนไปพบผู้เชี่ยวชาญ เช่น นักจิตวิทยาหรือนักจิตบำบัด
- อยู่เคียงข้างแม้เขาจะปฏิเสธ ไม่ละทิ้งความสัมพันธ์
- ดูแลกิจวัตรเบื้องต้น เช่น การกิน นอน ออกกำลังกาย

🛑 ข้อควรระวัง
หากเขาแสดงพฤติกรรมเสี่ยงต่อการทำร้ายตัวเองหรือพูดถึงความตาย ควรรีบนำส่งสถานพยาบาลทันที หรือปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต (เช่น 1323 ในประเทศไทย)....ลองสังเกตคนรอบข้างที่เรารักหรือใกล้ชิดดูนะครับ เพราะภาวะซึมเศร้าคือภัยเงียบที่ไม่บอกเราโดยตรงเหมือนอาการเป็นไข้ ปวดหัวตัวร้อน แต่ต้องรับรู้ด้วยความรู้สึกความเข้าใจและใส่ใจ....เพื่อเด็กๆ และคนที่เรารัก
#สถานบันฝึกอบรม ดร.เอก เทรนนิ่ง (Dr.Ake Training)
#กิจกรรมเด็ก
#การพัฒนาเด็ก
#การส่งเสริมเด็กด้วยการทำงานเป็นทีม
#จิตวิทยาพัฒนามนุษย์
Kids Skills
Kids Skills
https://mksamart.com/
https://web.facebook.com/profile.php?id=100063542378512

ในวัยเด็กคุณเคยเป็นมั๊ย ? กับการมีแนวคิดหรือการเผชิญสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้า เช่น ในห้องเรียน แต่ไม่กล้าแสดงออกหรือพูดต่อ...
17/06/2025

ในวัยเด็กคุณเคยเป็นมั๊ย ? กับการมีแนวคิดหรือการเผชิญสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้า เช่น ในห้องเรียน แต่ไม่กล้าแสดงออกหรือพูดต่อหน้าผู้อื่น เพราะกลัวว่าสิ่งที่พูดออกไปนั้นจะผิดและไม่ได้รับการยอมรับจากผู้อื่น
วันนี้ "เปลี่ยน" มีวิธีที่จะช่วยส่งเสริมให้เด็กๆ ของเรากล้าแสดงออกถึงแนวคิดที่เขามีได้อย่างมั่นใจและเพิ่มพลังทางบวกให้เขามากขึ้น

หากเด็กมีแนวคิดของตัวเองแต่ไม่กล้าแสดงออก วิธีในการส่งเสริมให้เขากล้าแสดงออกสามารถทำได้โดยอิงจาก ทฤษฎีจิตวิทยาการเสริมแรง (Reinforcement Theory) ของ B.F. Skinner และทฤษฎีอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น ทฤษฎีความต้องการของ Maslow, ทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคมของ Bandura โดยสามารถนำมาใช้ในการเสริมแรงพฤติกรรมและสร้างความมั่นใจให้เด็กได้อย่างเหมาะสม

🔑 วิธีการเสริมแรงให้เด็กกล้าแสดงออก
ต่อไปนี้คือแนวทางที่สอดคล้องกับทฤษฎีจิตวิทยา:

1. ใช้การเสริมแรงทางบวก (Positive Reinforcement) – ตามทฤษฎีของ Skinner
✅ แนวคิด : การให้รางวัลหรือคำชมเมื่อเด็กกล้าแสดงออก จะทำให้พฤติกรรมนั้นเกิดซ้ำ
✅ ตัวอย่างวิธี : เมื่อเด็กกล้าพูดแสดงความคิดเห็น แม้เพียงเล็กน้อย ให้กล่าวชมเชยอย่างจริงใจ เช่น
.....“ครูชอบความคิดของหนูนะ”
......ให้ “ดาวความกล้า” หรือสิ่งเล็กๆ เป็นแรงจูงใจ
......จัดพื้นที่ปลอดภัยให้เด็กได้พูด เช่น วงพูดกลุ่มย่อย

2. สร้างสภาพแวดล้อมทางอารมณ์ที่ปลอดภัย (Emotional Safety)
✅ อิงจาก : ทฤษฎีความต้องการของ Maslow – “ความรู้สึกปลอดภัย” เป็นพื้นฐานก่อนที่เด็กจะกล้าแสดงออก
✅ วิธี :
......ไม่ตัดสินหรือวิจารณ์ความคิดของเด็กอย่างรุนแรง
......ใช้กิจกรรมเขียนความคิดเห็นลงในกระดาษก่อน แล้วจึงค่อยแชร์ในกลุ่ม

3. แบบอย่างที่ดี (Modeling) – จากทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคมของ Bandura
✅ แนวคิด : เด็กเรียนรู้จากการสังเกตผู้อื่น
✅ วิธี :
......ให้เพื่อนในกลุ่มที่กล้าแสดงออกเล่าความคิด แล้วให้เด็กที่ไม่กล้าได้เห็นว่าการแสดงออกไม่ได้มีผลเสีย
......ครูหรือพ่อแม่แสดงออกอย่างเปิดใจ ยอมรับความแตกต่าง

4. การเสริมแรงทางสังคม (Social Reinforcement)
✅ วิธี :
......ใช้การยิ้ม พยักหน้า ฟังอย่างตั้งใจ
......ชวนเด็กเล่าไอเดียกับเพื่อนที่ไว้ใจทีละน้อย ก่อนค่อยๆ ขยับไปสู่การเล่าหน้าห้อง

5. การสะท้อนความรู้สึก (Reflective Listening)
✅ แนวคิด : เด็กจะรู้สึกว่าความคิดเขามีคุณค่า
✅ วิธี :
......เมื่อเด็กแสดงความคิดแม้เบาๆ ให้พูดสะท้อน เช่น “หนูคิดว่า...ใช่ไหมคะ? ครูว่ามันน่าสนใจนะ” .....ลองปรับและนำไปใช้กับเด็กๆ ของเราดูนะครับ โดยการพิจารณาถึงสถานการณ์หรือการเรียนรู้ที่เหมาะสมต่อการพัฒนาสำหรับเขา เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ได้ไวและง่ายขึ้น ซึ่งจะทำให้เขาอยากที่จะกล้าแสดงออกถึงสิ่งที่เขากำลังคิดอยู่ และเราก็สามารถที่จะเดินทางร่วมไปพร้อมๆ กับแนวคิดที่เขามีด้วยการให้เหตุผลที่ดี และมีการยืดหยุ่นร่วมด้วย
#สถานบันฝึกอบรม ดร.เอก เทรนนิ่ง (Dr.Ake Training)
#กิจกรรมเด็ก
#การพัฒนาเด็ก
#การส่งเสริมเด็กด้วยการทำงานเป็นทีม
Kids Skills
Kids Skills
https://mksamart.com/
https://web.facebook.com/profile.php?id=100063542378512
🙂หากต้องการที่จะพัฒนาเด็กๆ ให้เติบโตได้อย่างมั่นคง เรายินดีให้คำปรึกษาและพัฒนาไปพร้อมๆ กันครับ

ที่อยู่

183 ซ. ปรีดีพนมยงค์ 46 ถ. สุขุมวิท 71 แขวงคลองตันเหนือ กรุงเทพมหานคร
Kalasin
10110

เบอร์โทรศัพท์

+66632342160

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ เปลี่ยนผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง เปลี่ยน:

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram