ICU Pharmastore

25/11/2024

ขอปิดกิจการครับ ขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่สนับสนุนด้วยดีเสมอมาครับ
ขอบคุณครับ

19/03/2024

ถ้าผู้ใหญ่ที่บ้านมีอาการดังนี้ หรือเราสังเกตตัวเราแล้วมีอาการแบบนี้ ให้ไปพบแพทย์ด่วนนะคะ

"ปากเบี้ยว แขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก พูดไม่ชัด"
อาการดังกล่าวเป็นสัญญาณของโรคหลอดเลือดสมองซึ่งเป็นอาการที่ต้องรีบส่งตัวไปโรงพยาบาลโดยเร็ว

โรคหลอดเลือดสมอง เป็นโรคที่เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับต้นๆของทั่วโลก ซึ่งสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคนี้นั้นคือ โรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง หากควบคุมระดับน้ำตาล ความดันโลหิตและไขมันในเลือดได้ไม่ดีก็อาจจะทำให้ความเสี่ยงนั้นเพิ่มมากขึ้น

โรคหลอดเลือดสมองแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆคือ
1. หลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองลดลง พบได้ประมาณ 90%
2. หลอดเลือดสมองแตก พบได้ประมาณ 10% และมักจะรุนแรงกว่าชนิดแรก

อาการแสดงของโรคสามารถจำตัวย่อไว้เลยครับว่า "BEFAST"
B= balance มีการสูญเสียการทรงตัว บ้านหมุน เวียนหัว
E= eyes ตามัว มองไม่เห็น เห็นภาพซ้อน
F= face ปากเบี้ยว หน้าเบี้ยว ข้างใดข้างหนึ่ง
A=arm แขน ขา อ่อนแรงข้างใดข้างหนึ่ง
S=speech พูดไม่ชัด พูดลำบาก
T=time เวลา หากมีอาการดังกล่าวต้องรีบส่งโรงพยาบาลทันที

โรคนี้อาการจะเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน หากมีอาการแล้วต้องรีบส่งโรคพยาบาลทันที เนื่องจากหากส่งโรงพยาบาลเร็วโอกาสที่ผู้ป่วยจะรอด หรือโอกาสการเกิดความพิการจะลดลง

อย่าลืมนะครับมีอาการดังกล่าวควรไปพบแพทย์นะ อย่ามัวแต่มานั่งพิมพ์ไลน์บ่น รีบไปโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุดครับ

18/03/2024

#เพชรสังฆาต ปวดข้อ ปวดเข่า ต้องลองค่ะ

🦴ปวดข้อ ปวดเข่า กระดูกพรุน เสริมกระดูกและข้อให้แข็งแรงด้วย “เพชรสังฆาต”

📌เพชรสังฆาต หรือ ร้อยข้อต่อกระดูก ตามลักษณะของเถา คือเป็นข้อปล้องคล้ายกระดูก หมอยาพื้นบ้านทั้งอินเดีย และไทย มีการใช้เพื่อการดูแลผู้ที่กระดูกแตกหัก และแก้ปวดข้อมายาวนาน ในภาษาอังกฤษมีชื่อเรียกว่า “Bone Setter” ล้วนมีความหมายเกี่ยวข้องกับกระดูกทั้งสิ้น

📌 โดยปกติคนเราจะมีกระบวนการสร้างและสลายของกระดูกที่สมดุล แต่เมื่อถึงจุดหนึ่ง จะเริ่มมีการสลายมากกว่าการสร้าง ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง เช่น อายุ โรคประจำตัว ยาบางชนิด รวมถึงปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ และอุบัติเหตุ

✅เพชรสังฆาต ทางเลือกเพื่อการดูแลกระดูก
นอกจากการใช้เพชรสังฆาตเพื่อรักษาริดสีดวงทวารแล้ว ยังมีงานวิจัยหลายฉบับที่สนับสนุนภูมิปัญญาการใช้เพชรสังฆาตดูแลกระดูกในอดีต โดยพบฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของเพชรสังฆาต ดังนี้
• ฤทธิ์ต้านการอักเสบ
• ฤทธิ์ลดปวด
• ฤทธิ์กระตุ้นหลอดเลือดดำให้มีความตึงตัวเพิ่มขึ้น (รักษาริดสีดวงทวาร)
• ฤทธิ์ต้านการเกิดสภาวะกระดูกพรุน ช่วยชะลอการสลายกระดูก
• กระตุ้นการสร้างเซลล์ออสเตโอบลาสต์ (Osteoblast) (สร้างกระดูก)
• ฤทธิ์ต้านมะเร็งกระดูก (ในหลอดทดลอง)

การศึกษาวิจัย

- งานวิจัยในสตรีวัยหมดประจำเดือนที่มีภาวะกระดูกบาง เพชรสังฆาต 1,600 มิลลิกรัมต่อวัน เป็นระยะเวลา 6 เดือน ช่วยชะลอการสูญเสียมวลกระดูก โดยพบว่ากระดูกสันหลังส่วนเอว (L1-L4) มีมวลกระดูกเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้ใช้เพชรสังฆาต และยังพบสารบ่งชี้การสลายกระดูก (CTX) มีค่าคงที่ (หากค่านี้เพิ่มขึ้น แสดงว่ามีการสลายกระดูกมาก)

- การศึกษาในผู้ป่วยกระดูกขากรรไกรหัก 60 คน ให้ได้รับผงยาเพชรสังฆาต 500 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง
เทียบกับกลุ่มควบคุม โดยทั้ง 2 กลุ่มได้รับการรักษาแผนปัจจุบันเหมือนกัน ผลการศึกษาพบว่ากลุ่มที่ได้รับผงเพชรสังฆาต มีอาการปวดและบวมน้อยกว่า และ ยังพบแคลเซียมกับฟอสฟอรัสในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในสัปดาห์ที่ 3

- การศึกษาในหลอดทดลอง พบว่า เพชรสังฆาต ช่วยเพิ่มการแบ่งตัวของเซลล์ที่ช่วยสร้างกระดูก (osteoblast) เพิ่มโปรตีนในเซลล์กระดูก เช่น bone matrix proteins , Osteocalcin (โปรตีนที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการสะสมเกลือแร่) ทำให้เพิ่มการสร้างเซลล์กระดูก

- การศึกษาในสัตว์ทดลอง พบว่า สารสกัดจากเอทานอลจากต้นเพชรสังฆาตมีผลเพิ่มมวลกระดูกได้ไม่ต่างกับยารักษากระดูกพรุนแผนปัจจุบัน Raloxifen [ยากลุ่ม Selective Estrogen Receptor Modulator (SERM)] เนื่องจากสารไฟโตเอสโตรเจนที่พบตามธรรมชาติของเพชรสังฆาต มีผลจับกับตัวรับเอสโตรเจนที่กระดูก ทำให้เกิดการยับยั้งการดูดกลับของแคลเซียมจากกระดูก ซึ่งสามารถป้องกันภาวะกระดูกพรุนในหนูขาวที่ตัดรังไข่ออก เพื่อจำลองสภาวะหญิงวัยทองได้

💊วิธีรับประทาน
👉รูปแบบแคปซูล : เพชรสังฆาตแคปซูล ครั้งละ 2 แคปซูล หลังอาหารเช้า-เย็น (วันละ 1,600 มก.) ต่อเนื่อง 6 เดือน (สำหรับภาวะกระดูกบาง)
👉รูปแบบเถาสด (ทำใช้เองแบบพื้นบ้าน) : เถาเพชรสังฆาต ล้างสะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็กขนาด 1 ข้อนิ้วกลาง ยัดใส่ในกล้วยน้ำว้า รับประทานวันละ 2-3 ครั้ง หลังอาหาร (บำรุงกระดูก / รักษาริดสีดวงทวาร) หรือใช้เนื้อมะขามเปียกหุ้มแล้วกลืน
👉ยาลูกกลอน : เพชรสังฆาตหั่นตากแห้ง บดเป็นผงละเอียด คลุกกับน้ำมะขามเปียก ทำเป็นลูกกลอนขนาดเท่าปลายนิ้วก้อย รับประทานครั้งละ 5 เม็ด วันละ 3 ครั้ง 10-15 วัน (รักษาริดสีดวงทวาร)

⛔ข้อควรระวัง
- เพชรสังฆาตมีแคลเซียมออกซาเลทสูง ไม่ควรสัมผัส หรือรับประทานโดยตรง จะทำให้ระคายเคือง กรณีคันหรือระคายผิว ให้นำน้ำมะนาว หรือน้ำมะขามเปียกถู แล้วล้างน้ำให้สะอาด หาโลชั่นทาทับ
- ไม่แนะนำสำหรับผู้ที่มีปัญหานิ่วในไต ตั้งครรภ์ ให้นมบุตร โรคตับ และไตวาย

📄อ้างอิง
1. https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/22639499/
2. https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/35523116/
3. หนังสือบันทึกของแผ่นดิน ๖ สมุนไพรท้องไส้ ในวิถี ASEAN โดย ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร
4. https://www.thaihealth.or.th/เพชรสังฆาตเพิ่มมวลกระด/
5. Ayurvedic Pharmacopoeial Plant Drugs: Expanded Therapeutics ; C.P.Khare (2016). เข้าถึงได้จาก
https://books.google.co.th/books?id=MSbSCgAAQBAJ&pg=PA171...
6. https://biomedpharmajournal.org/.../anticancer-activity.../

**************************
คลินิกแพทย์แผนไทยออนไลน์: https://lin.ee/E5weKTc
สถาบันการแพทย์แผนไทย: https://sites.google.com/view/abhthaimed
ปรึกษาสุขภาพ ☎ 037-211289 , 087-5820597

04/03/2024

พอดีช่วงนี้เห็นหลายๆคนรีวิว เรื่องผิวกระจก ต้องใช้ เลยนำสรุปคร่าวๆ มาให้อ่านกันค่ะ ว่ากลไกคืออะไร ช่วงเรื่องผิวเรายังไง (ขอบคุณข้อมูลจากเพจ Hello skin by หมอผิวหนัง ค่ะ )
สตรีมีครรภ์และให้นมบุตร ห้ามใช้นะคะ
🔴เมื่อพูดถึง คงแทบจะรู้จักกันหมด เพราะมีการนำมาใช้ในวงการสกินแคร์บำรุงผิวมานานตั้งแต่ปี ค.ศ. 1984 ซึ่ง Retinol ไม่ได้ถูกจัดเป็นยา สามารถหาซื้อได้เอง เป็นตัวที่ถูกนำมาผสมในสกินแคร์ over-the-counter อย่างแพร่หลาย
🔴 Retinol จะถูกเปลี่ยนเป็น Retinoic acid ก่อนออกฤทธิ์ที่ผิว ทำให้ประสิทธิภาพน้อยกว่าการทากรดวิตามินเอโดยตรง (เพราะไม่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงก่อนออกฤทธิ์)
1. Retinol มีข้อมูลว่าช่วยเรื่อง กระตุ้นให้มีการสร้างคอลลาเจนที่ผิวได้เช่นกัน แต่มีผลข้างเคียงเรื่องการแดงและระคายเคืองน้อยกว่า retinoic acid
2. Retinol ช่วยยับยั้ง UV induction of MMP และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวได้ดีในผิวที่เสื่อมจากการถูกแดด แต่ประสิทธิภาพอาจไม่เท่ายา Retinoic acid
3. ในปี 2000 มีงานวิจัยพบว่า หลังการทา 1% Retinol นาน 7 วัน ส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงผิว ได้แก่ เอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการทำลายคอลลาเจน มีปริมาณลดลง ได้แก่ MMP, collagenase.
🔴 #คำแนะนำสำหรับผู้เริ่มใช้ retinol skincare
1. ล้างหน้าให้สะอาดด้วย gentle cleanser แนะนำเลี่ยงการสครับผิวในช่วงที่ใช้เรตินอล
2. เริ่มทาบาง ๆ เว้นบริเวณที่ระคายเคืองง่าย เช่น รอบตา รอบปาก ซอกจมูก
3. เริ่มที่ความเข้มข้นต่ำก่อน เช่น 0.2% ซึ่งเป็นความเข้มข้นต่ำที่เห็นผล และค่อย ๆ เพิ่ม
4. เริ่มปริมาณน้อย pea-sized ประมาณถั่วลันเตาทั่วหน้า
5. เริ่มความถี่ต่ำ เช่น 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ และค่อยเพิ่มถี่ขึ้นหากไม่มีการระคายเคือง เช่น วันเว้นวัน ทุกวัน
6. ใช้ moisturizer ที่เสริมความแข็งแรงผิว อาจใช้ Sandwich Technique (Moisturizer – Retinol serum – Moisturizer) จะช่วยลดการระคายเคืองได้
7. ใช้ครีมกันแดดร่วมด้วยเสมอ
‼️ ส่วนตัวแนะนำให้ทาเฉพาะก่อนนอน ค่ะ ‼️
❌ เลี่ยงการใช้ Retinol ในช่วงที่ออกแดดจัด, ผิวอักเสบ มีแผล
❌ หยุดใช้เมื่อมีการระคายเคือง แสบ แดง ลอก
❌ ควรเลี่ยงการใช้ Retinol ในหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร

19/02/2024

#สตรีวัยทอง ถั่วเหลืองสามารถช่วยลดอาการในสตรีวัยทองได้อย่างไร

ผลิตภัณฑ์ถั่วเหลืองมีประโยชน์มากมาย โดยเฉพาะกับสตรีวัยทองอย่างเราควรเลือกผลิตภัณฑ์ถั่วเหลืองเป็นทางเลือกในการดูแลสุขภาพ วันนี้ อย. มีความรู้ดีๆมาให้ติดตามกัน #อย #ผลิตภัณฑ์ถั่วเหลือง #สตรีวัยทอง #ผู้สูงอายุ "สูงวัย สุขภาพดี กับ อย."


สามารถติดตามบทความและข้อมูลอ้างอิงต่อได้ที่..>>https://oryor.com/media/infoGraphic/media_printing/2192

ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารสุขภาพดี ๆ จาก อย. มาเป็นเพื่อนไลน์กับเราได้ที่ Line : เพียงแค่คลิก https://line.me/R/ti/p/Hik9-DvLsP

18/02/2024

หนึ่งในประโยชน์ที่แอดมินก็ยัง ว้าววว !!
#โพรไบโอติกส์
ช่วยทำให้อารมณ์ดีขึ้น และเพิ่มความจำได้

รายละเอียดในคอมเมนท์นะคะ

15/02/2024

หลายๆท่านคงเคยได้ยินคำว่า มาเยอะพอสมควร
แต่ยัง ไม่ค่อยเข้าใจ ว่า มันคือ อะไร ต่างกันอย่างไร มาดูกันค่ะ

ง่ายๆคือ คือ จุลินทรีย์ชนิดดีในร่างกายที่ช่วยรักษาสมดุลในร่างกาย ทำให้ร่างกายเราแข็งแรง 🦠
ส่วน คือ สารอาหารที่เป็นอาหารให้จุลินทรีย์ในลำไส้ของเรา เป็นพวกกลุ่มใยอาหาร ไฟเบอร์ต่างๆ 🍅🧄🧅

ดังนั้น เราจึงควรรับประทาน ทั้ง Probiotics และ Prebiotics ร่วมกันค่ะ

คราวหน้าจะนำประโยชน์ของ Prebiotics และ Probiotics มาให้อ่านกันนะคะ 🥰

11/02/2024

รางจืด "ราชาของการแก้พิษ" สามารถนำมาเป็นตัวช่วยในการเลิกยาบ้า ได้นะคะ

รายละเอียดในคอมเม้นค่ะ

08/02/2024

สังเกตอาการเด็กๆเบื้องต้นได้นะคะ
ถ้ามีอาการเยอะ แนะนำให้ไปโรงพยาบาลนะคะ

โนโรไวรัส (Norovirus) สาเหตุการอักเสบติดเชื้อของระบบทางเดินอาหาร ที่พบได้บ่อยในเด็ก

กรมการแพทย์ โดยสถาบันสุขภาพเด็กเด็กแห่งชาติมหาราชินี แนะผู้ปกครองหมั่นดูแลสุขภาพอนามัยเด็ก ๆ หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ รับประทานอาหารปรุงสดใหม่ สุก สะอาด เพื่อช่วยลดการอักเสบติดเชื้อของระบบทางเดินอาหาร

แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โนโรไวรัส (Norovirus) เป็นไวรัสที่ทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อของระบบทางเดินอาหาร ที่พบได้บ่อยในเด็ก เชื้อนี้มีความสามารถที่จะแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว แม้ได้รับเชื้อในปริมาณเพียงเล็กน้อย เนื่องจากสามารถอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้เป็นเวลานาน และทนต่อความร้อนและน้ำยาฆ่าเชื้อต่าง ๆได้ดี หลังจากได้รับเชื้อ มักจะมีอาการภายใน 12-48 ชั่วโมง อาการแสดงของโรคที่พบได้บ่อย คลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายเป็นน้ำ ปวดท้อง อาจมีไข้ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามตัว และอาจมีภาวะขาดน้ำที่อาจเกิดในผู้ป่วยเด็กเล็ก หรือผู้สูงอายุ ส่วนใหญ่จะหายได้เองภายใน 1-3 วัน สถานการณ์ในสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี พบมีจำนวนมากขึ้นในช่วงเดือนธันวาคม 2566 และมกราคม 2567 ที่ผ่านมา แต่ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยนอก มีจำนวนไม่มากนักที่มีอาการรุนแรงจนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล อย่างไรก็ตามการรายงานอาจจะต่ำกว่าความเป็นจริง เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการตรวจหาเชื้อมีราคาค่อนข้างสูงถึงครั้งละ 500 บาท จึงไม่ได้ส่งตรวจในผู้ป่วยทุกราย ยกเว้นในรายที่ต้องนอนโรงพยาบาล หรือมีความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายเพื่อใช้ในการแยกโรคเป็นหลัก

นายแพทย์อัครฐาน จิตนุยานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันยังไม่มียาหรือการรักษาเฉพาะเจาะจง แต่เป็นการดูแลตามอาการที่เกิดขึ้น และส่วนใหญ่อาการต่าง ๆ จะดีขึ้นได้ในเวลา 3-4 วัน ในรายที่อาการไม่รุนแรง ให้ดื่มน้ำเกลือแร่ ในกรณีที่อาเจียนและท้องเสีย ให้ทานอาหารอ่อนๆ ร่วมกับให้ยาแก้อาเจียน ยาแก้ปวดท้อง ตามอาการ ในรายที่มีภาวะขาดสารน้ำค่อนข้างมาก หรือมีอาเจียน ปวดท้อง และถ่ายตลอด อาจเกิดอันตรายจากการขาดน้ำ ส่งผลให้เกิภาวะทำให้ช็อค ความดันโลหิตต่ำ และเสียชีวิตได้ ควรพิจารณาให้เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล ให้น้ำเกลือทางหลอดเลือด และติดตามดูอาการอย่างใกล้ชิด ผู้ป่วยที่จะมีโอกาสเกิดอันตรายจากการขาดน้ำได้แก่ ผู้ป่วยเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว วิธีการป้องกัน ในสถานศึกษาหรือในศูนย์เด็กเล็กแนะนำให้หมั่นรักษาสุขอนามัยด้วยการล้างมือด้วยน้ำและสบู่ ทำความสะอาดพื้นหรือสิ่งแวดล้อม โดยโซเดียมไฮโปคลอไรด์ ไม่ควรใช้ 70% แอลกอฮอล์ เนื่องจากเป็นเชื้อไวรัสไม่มีเปลือกหุ้ม และมีคุณสมบัติที่ทนทานต่อการฆ่าเชื้อด้วยแอลกอฮอล์ กรณีที่มีเด็กป่วย แนะนำให้แยกตัวเพื่อรักษาอาการที่บ้านเป็นเวลา 48 ชั่วโมงหลังจากอาการดีขึ้นเป็นปกติ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อ หากอาการไม่ดีขึ้น ควรพามาพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยต่อไป
*********************************************************
#กรมการแพทย์ #สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี #โนโรไวรัส (Norovirus) สาเหตุการอักเสบติดเชื้อของระบบทางเดินอาหาร ที่พบได้บ่อยในเด็ก
-ขอขอบคุณ-
7 กุมภาพันธ์ 2567

31/01/2024

แม๊ !!! ถ้าลูก #เลือดกำเดาไหล ให้ #บีบจมูกแล้วก้มหน้า นะคะ
ห้าม !!! เงยหน้านะคะ

ขอแชร์ความรู้ดีๆจากคุณหมอแอม ค่า

29/01/2024

ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงนะคะ
เด็กๆจะมีน้ำมูก ไอกันเยอะค่ะ
ขอแชร์ความรู้จากคุณหมอแอมให้อ่านกันนะคะ
#ไอ #ไอไม่หาย

กินยาแก้ไอหมดเป็นสิบๆขวดก็ไม่หายนะจ๊ะถ้ากินไม่ถูก !!!

📌 ยาแก้ไอหลักๆมี 2 แบบ คือ สำหรับไอแห้งๆ กับไอมีเสมหะ

👉ไอแห้ง >>> ยาจะกดการไอ (ข้างขวดจะเขียนประมาณว่า บรรเทา/ลดอาการไอ)

👉ไอเสมหะ >>> ยาจะช่วยละลายเสมหะ เรียกง่ายๆคือ ลดความเหนียวข้นของเสมหะ ช่วยให้น้องไออกได้ง่ายขึ้น แต่ไม่ได้ลดปริมาณ >>> เพราะฉะนั้นต้องหาสาเหตุที่ลูกมีเสมหะไม่หาย และรักษาสาเหตุด้วย

**ในเด็กเล็ก ถ้าไอมีเสมหะ อย่ากินยาไอแห้ง (กดการไอ) นะคะ (แม้ลูกจะไอเยอะ) เพราะเด็กเล็กๆ ไอเอาเสมหะออกไม่เก่ง ถ้าเราไปให้ยากดการไอ จะยิ่งทำให้ลูกไอเอาเสมหะไม่ออก ยิ่งรู้สึกเสมหะพันคอหนักขึ้นไปอี้กกกก

🍂🍂🍂🍂🍂

📌สาเหตุที่ทำให้ลูกไอนานไม่หายสักที (เรียงจากสาเหตุที่หมอเจอบ่อยๆนะคะ)

1. แม่ไม่กล้าล้างจมูกให้ลูก
บางทีน้ำมูกไม่ไหลมาข้างหน้า แต่อาจไหลลงคอไปด้านหลัง โดยเฉพาะเวลาลูกหลับ น้ำมูกจะไหลลงคอเป็นน้ำตกลงไปเรื่อยๆ พอตื่นเช้ามาจะเห็นเลยว่า ลูกมักมีเสมหะ ครืดคราดมากช่วงเช้า ใครเป็นแบบนี้ .. ล้างจมูกก่อนนอนด้วยนะคะ

(ซึ่งหมอเจอแบบนี้เยอะมาก --- พอหมอส่องคอจะเห็นน้ำมูกไหลลงหลังคอจ๊อกๆ (post nasal drip) --- ล้างจมูก ทานยาลดน้ำมูกก็ดีขึ้นได้ค่ะ หลังจากที่กินแต่ยาแก้ไอมานานไม่หาย

2. หลอดลมไว / ภูมิแพ้
เด็กบางคน เคยติดเชื้อบ่อยๆ หรืออยู่ในที่ๆมีฝุ่น ควัน บุหรี่ หรือเคมีนานๆ ทำให้ทางเดินหายใจอ่อนแอ อักเสบเรื้อรัง หรือเด็กที่เป็นภูมิแพ้หลอดลม ทำให้ป่วยง่าย ป่วยบ่อย ป่วยทีก็อาหารหนักกว่าคนอื่น ไม่สบายทีก็ไอนาน ทำให้ไอเรื้อรังไม้หาย ต้องแก้โดยลดสิ่งรบกวนหลอดลม + ใช้ยาขยายหลอดลม / ยาแก้แพ้ช่วยได้ค่ะ

หมอเคยเจอเคสตอนอยู่ต่างจังหวัด น้องหอบบ่อยมาก ข้างบ้านทำอาชีพเผาขยะ คุณแม่พาไปอยู่ทุ่งนากับคุณยาย เดือนเดียวหายเลย 🥹

3. หลังหายจากหวัด ก็ไอนานมาก ไม่หายซักที อันนี้เรียกว่า post viral bronchitis หรือหลอดลมอักเสบ หลังการติดเชื้อไวรัสใดๆได้หมดค่ะ จะไอรำคาญ ไอป๊องแป๊ง น้ำมูกไม่เยอะ อันนี้แนะนำควรตรวจก่อนว่าไม่เป็นอย่างอื่น ถึงเข้ากับภาวะนี้ เพราะภาวะนี้รักษาตามอาการค่ะ

4. ติดเชื้อบางอย่างที่ทำให้ไอเรื้อรัง ถ้าลูกไอเด่น ไอนาน ไอตลอด (โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการระบาดของบางโรค เช่น ไอกรน วัณโรค) แนะนำพบแพทย์ เพื่อให้ตรวจวินิจฉัย เพราะหากติดเชื้อที่ไอเรื้อรังเหล่านี้ต้องให้ยาฆ่าเชื้อที่เหมาะสมกับเชื้อที่เป็น

5. ภาวะอื่นๆเช่น กรดไหลย้อน / สำลัก โรคประจำตัวปอดหรือหัวใจบางอย่าง

ดังนั้น !!! ถ้าลูกไอเรื้อรัง
👉 เช็คสาเหตุ
👉 กินยาให้ถูกกับการไอและสาเหตุด้วยนะคะ

🍂🍂🍂🍂🍂🍂

ปล. เด็กที่ไอแล้วอ้วก เพราะ ...

เด็กๆ ขากเสมหะไม่เป็น เวลาไอ บางคนเลยจะไอๆๆๆแล้วอ้วกออก สังเกตได้ว่ากองอ้วกจะมีมูกเหนียวๆปน ถ้าเป็นทรงนี้คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องตกใจ เหมือนการขากเสมหะของเด็ก แต่นั่นแปลว่าลูกมีเสมหะเยอะหรือเหนียว ต้องทานยาละลายเสมหะและดื่มน้ำให้เพียงพอ งดของเย็นของกรอบของเค็มค่ะ***

# อย่าลืมสังเกตฉลากยาข้างกล่องกันนะคะ
# ใครกำลังป่วย ขอให้หายไวๆทุกคนค่ะ
# ด้วยรักและห่วงใย
พญ. พรนิภา ศรีประเสริฐ (หมอแอม)

26/01/2024

ปัจจุบันคุณผู้หญิงหันมารับประทาน #คอลลาเจน กันมากขึ้น
หลายๆคนยังไม่ทราบว่าคอลลาเจน ช่วยอะไรบ้าง
รูปนี้ค่อนข้างจะสรุปครบเลย
ลองอ่านกันนะคะ 🥰