Child Space Clinic คลินิกสุขภาพจิตเด็กและพัฒนาการ by SMIND

Child Space Clinic คลินิกสุขภาพจิตเด็กและพัฒนาการ by SMIND คลินิกสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่น กระตุ้นพัฒนาการ ปรับพฤติกรรม ฝึกพูด ฝึกทักษะด้านการเรียนรู้ โดยทีมจิตแพทย์เด็กและผู้เชี่ยวชาญในเครือ SMIND

👨‍👧 หลายบ้านอาจยังรู้สึกว่า “หน้าที่ดูแลลูก” เป็นเรื่องของแม่มากกว่า แต่รู้ไหมคะว่า... เมื่อคุณพ่อมีส่วนร่วมในการเลี้ยงด...
20/07/2025

👨‍👧 หลายบ้านอาจยังรู้สึกว่า “หน้าที่ดูแลลูก” เป็นเรื่องของแม่มากกว่า

แต่รู้ไหมคะว่า...
เมื่อคุณพ่อมีส่วนร่วมในการเลี้ยงดูลูกอย่างสม่ำเสมอ
สมองและพัฒนาการของลูกจะเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดยิ่งกว่าที่คิด

💡 งานวิจัยจาก National Institute of Child Health and Human Development (NICHD) พบว่า
เด็กที่ได้รับการเลี้ยงดูจากพ่อแม่ที่มีความผูกพันและตอบสนองทางอารมณ์อย่างอบอุ่น
จะมีพัฒนาการทางภาษา สติปัญญา ทักษะการเรียนรู้ และการควบคุมอารมณ์ดีกว่าเด็กทั่วไป

🧠 พ่อช่วยส่งเสริม “พัฒนาการทางสติปัญญา” อย่างไร?
• เด็กที่ได้เล่น พูดคุยกับพ่อบ่อย ๆ จะมี พัฒนาการด้านภาษา
และการคิดวิเคราะห์ที่ดีขึ้น
เพราะพ่อมักใช้คำศัพท์หลากหลายและชวนคุยในมุมมองใหม่ ๆ
ซึ่งลูกจะได้รับมุมมองที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น
• การเล่นที่ใช้พละกำลัง เช่น เล่นโยนบอล ปีนป่าย
ช่วยพัฒนา EF (Executive Function) – ทักษะควบคุมตัวเอง วางแผน และแก้ปัญหา
รวมถึงทักษะความคล่องแคล่วทางด้านร่างกายอีกด้วย

💛 พ่อมีผลกับ “ความมั่นคงทางอารมณ์” ของลูก
• การที่พ่อกอดลูก รับฟัง และเล่นด้วยอย่างใส่ใจ ทำให้เด็กมี ความรู้สึกปลอดภัย
• ส่งผลให้ อารมณ์นิ่งกว่า ไม่ขี้โวยวาย ไม่หวาดระแวง

พ่อ = “ฐานที่มั่น” อีกรูปแบบหนึ่งของลูก
โดยเฉพาะเมื่อพ่อให้เวลาด้วยการเล่น ไม่ใช่แค่สั่งหรือดุ

🤝 พ่อส่งผลต่อ “ทักษะการเข้าสังคม” อย่างไร?
• การที่ลูกได้เห็นพ่อพูดจาสุภาพกับคนอื่น ฟังคนอื่นพูดจบ
ทำให้เด็ก เรียนรู้การเข้าสังคมโดยไม่ต้องสอนตรง ๆ
• พ่อมักชวนเล่นแบบแข่งขันหรือมีกติกา → ฝึกการ “แพ้-ชนะ”
และการ “ควบคุมอารมณ์เมื่อเสียเปรียบ”

✅การเลี้ยงลูกคือภารกิจของทั้งครอบครัว
บทบาทของพ่ออาจไม่ต้องยิ่งใหญ่มากมาย แต่ต้อง “สม่ำเสมอ”
ไม่ว่าคุณพ่อจะอุ้ม เปลี่ยนผ้าอ้อม อ่านนิทาน หรือพาลูกไปเดินเล่น —
ทุกอย่าง “มีผลต่อพัฒนาทางกายและใจของลูก” ทั้งสิ้น

🧡 ที่ Child Space เราเชื่อว่า การเลี้ยงลูก “ร่วมกัน” ยังเป็นกุญแจสำคัญ
ของความสัมพันธ์ในครอบครัว
เด็กจะรู้สึกปลอดภัย อบอุ่น และไว้ใจคนรอบตัวมากขึ้น
เมื่อลูกรู้ว่า “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พ่อกับแม่อยู่ตรงนี้เสมอ”

📍 หากคุณสังเกตว่าลูกมีพัฒนาการที่ควรประเมิน
หรืออยากเรียนรู้วิธีดูแลลูกให้เหมาะกับช่วงวัยของเขา
เรามีทีมผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมช่วยเหลืออย่างเข้าใจ
📩 ทักแชตมาพูดคุยกับเราได้เลยค่ะ
📞 095-336-9375
LINE:
Child Space – พื้นที่เติบโตอย่างปลอดภัยของเด็กและครอบครัว
-----------------------------------------------------
อ้างอิง
Cabrera, N. J., Fitzgerald, H. E., Bradley, R. H., & Roggman, L. (2014). The ecology of father-child relationships: An expanded model. Journal of Family Theory & Review, 6(4), 336–354. https://doi.org/10.1111/jftr.12054

Sarkadi, A., Kristiansson, R., Oberklaid, F., & Bremberg, S. (2008). Fathers’ involvement and children’s developmental outcomes: A systematic review of longitudinal studies. Acta Paediatrica, 97(2), 153–158. https://doi.org/10.1111/j.1651-2227.2007.00572.x

Cabrera, N. J., Shannon, J. D., & Tamis‐LeMonda, C. (2007). Fathers’ influence on their children’s cognitive and emotional development: From toddlers to pre‐K. Applied Development Science, 11(4), 208–213. https://doi.org/10.1080/10888690701762100

Lamb, M. E. (2010). The role of the father in child development (5th ed.). Hoboken, NJ: Wiley.

Yogman, M., Garfield, C. F., & Committee on Psychosocial Aspects of Child and Family Health. (2016). Fathers’ roles in the care and development of their children: The role of pediatricians. Pediatrics, 138(1), e20161128. https://doi.org/10.1542/peds.2016-1128

บางทีลูกไม่ได้งอแง... เขาแค่กำลังขอให้เรารับฟังมีคุณแม่ท่านหนึ่งแชร์เรื่องของลูกหลังย้ายโรงเรียนใหม่ตอนแรกคิดว่าเป็นแค่ก...
17/07/2025

บางทีลูกไม่ได้งอแง...
เขาแค่กำลังขอให้เรารับฟัง

มีคุณแม่ท่านหนึ่งแชร์เรื่องของลูกหลังย้ายโรงเรียนใหม่
ตอนแรกคิดว่าเป็นแค่การปรับตัว
แต่ลูกเริ่มร้องไห้บ่อย ไม่อยากไปโรงเรียน ขอให้แม่อยู่เฝ้า
ทุกเช้าเต็มไปด้วยน้ำตาและความอึดอัด

แม่พยายามให้ลูก “อดทน”
พยายามให้เวลาเพื่อปรับตัว
แต่สุดท้ายลูกพูดออกมาว่า...

“หนูโดนแกล้งทุกวันเลยแม่ หนูไม่อยากไปแล้ว…”

ตอนนั้นแม่ถึงได้รู้ว่า สิ่งที่คิดว่า “ปกติ”
อาจเป็น “สัญญาณขอความช่วยเหลือ” ที่ลูกส่งมาตลอด
และเมื่อความเครียดสะสมมากขึ้น
ลูกต้องได้รับการดูแลจากจิตแพทย์เพื่อช่วยให้ใจดีขึ้น

💭 ในฐานะพ่อแม่ เราอาจไม่ได้ผิดที่มองไม่เห็น
แต่อยากชวนตั้งคำถามเบาๆ ว่า...
• เราใส่ใจความเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ของลูกพอไหม?
• เราให้พื้นที่ปลอดภัยที่เขากล้าพูด “ความรู้สึกจริงๆ” แล้วหรือยัง?

บางที แค่ได้ฟังอย่างเข้าใจ
ก็ช่วยให้เขารู้ว่า… เขาไม่ได้อยู่คนเดียว

🧠 ที่ ChildSpace เรามีทีมจิตแพทย์และนักจิตวิทยา
พร้อมช่วยดูแลใจของลูกคุณอย่างอ่อนโยน
เพื่อให้เด็กทุกคนเติบโตในสภาพแวดล้อมที่เข้าใจเขาจริงๆ
========================================
ทักแชทเพื่อสอบถามหรือปรึกษาได้ที่
📲 LINE
📞 095-336-9375

#สัญญาณที่ไม่ควรมองข้าม #สุขภาพใจของลูกสำคัญ
#สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้ลูก

11/07/2025

บางคนมองว่าเด็กคนนี้เรียนรู้ช้า… แต่ครูการศึกษาพิเศษมองว่า
“เขาแค่ต้องการ ‘วิธีเรียนรู้’ ที่เหมาะกับตัวเอง”

ทุกคนมีศักยภาพในแบบของตัวเอง แค่ต้องมีคนที่มองเห็น 💛
มารู้จักครูการศึกษาพิเศษกันค่ะว่า �คือใคร? ช่วยอะไรเด็กได้บ้าง?
#ครูการศึกษาพิเศษ #เข้าใจเด็ก

คลินิกเปิดบริการ
จันทร์-ศุกร์ 13:00-20:00 น.
เสาร์-อาทิตย์ 10:00-20:00 น.
หยุดทุกวันอังคาร
สอบถามและปรึกษาได้เลยที่
📲 LINE
📞 095-336-9375

✏️ ลูกอ่านหนังสือไม่ออก เขียนช้า เริ่มเกลียดการเรียนไม่ใช่แค่เรื่อง “ขี้เกียจ” แต่อาจคือ “ความเจ็บปวดที่อธิบายไม่ได้” ขอ...
08/07/2025

✏️ ลูกอ่านหนังสือไม่ออก เขียนช้า เริ่มเกลียดการเรียน
ไม่ใช่แค่เรื่อง “ขี้เกียจ” แต่อาจคือ
“ความเจ็บปวดที่อธิบายไม่ได้” ของเด็กคนหนึ่ง

เคยไหมคะ ที่ลูก…
• ทำการบ้านช้าเป็นชั่วโมง
• อ่านหนังสือผิดทุกบรรทัด
• ลายมือไม่เป็นระเบียบ อ่านเองยังลำบาก

แล้วเริ่มพูดว่า…
“หนูไม่อยากเรียนแล้ว”
“ทำไมหนูไม่เก่งเหมือนคนอื่น”
“ครูบอกว่าเพื่อนเขียนเสร็จกันหมดแล้ว เหลือหนูคนเดียว”

🧠 จากมุมมองจิตวิทยาการเรียนรู้

เด็กที่มีปัญหาด้านการอ่าน เขียน คิดเลข หรือการจัดลำดับความคิด
อาจมีภาวะที่เรียกว่า Specific Learning Disorder (SLD)
ซึ่งพบได้ประมาณ 5–15% ของเด็กวัยเรียนทั่วโลก (APA, 2022)
แต่หลายคนไม่เคยได้รับการประเมินอย่างถูกต้อง เพราะถูกมองว่า “ช้า” หรือ “ไม่ตั้งใจ”
SLD มีหลายรูปแบบ เช่น:
• Dyslexia (บกพร่องด้านการอ่าน) → อ่านผิด, อ่านช้า, อ่านข้ามคำ
• Dysgraphia (บกพร่องด้านการเขียน) → เขียนช้า, ลายมือไม่สม่ำเสมอ, เจ็บมือ
• Dyscalculia (บกพร่องด้านคณิตศาสตร์) → บวก ลบ คูณ หารยาก, จัดลำดับตัวเลขไม่ถูก

❗ แล้วปัญหานี้ส่งผลอย่างไร?
เด็กที่พยายามเท่าไหร่ก็ไม่สำเร็จ
จะค่อย ๆ สูญเสีย ความมั่นใจในตัวเอง
และเสี่ยงพัฒนาเป็นภาวะ กลัวการเรียน (school refusal) หรือ วิตกกังวลในห้องเรียน ในอนาคต
ยิ่งมีคนเปรียบเทียบ ดุ หรือเร่งให้เก่งขึ้นไว ๆ
ยิ่งทำให้เด็ก ไม่อยากเข้าใกล้การเรียนรู้ เลย

✅ แล้วพ่อแม่ควรทำอย่างไร?
1. หยุดใช้คำว่า “ขี้เกียจ”
เพราะเบื้องหลังความขี้เกียจ อาจคือ “เด็กที่ไม่ไหว แต่ไม่รู้จะพูดยังไง”

2. สังเกตพฤติกรรมอย่างใจเย็น
• ลูกอ่านแล้วเข้าใจไหม? หรือท่องแต่ไม่เข้าใจ
• เขียนตามคำบอกได้ไหม? หรือกลัวแม้แต่จะเริ่ม
• บ่นว่าปวดมือ? เขียนไม่ทันเพื่อน?

3. ทำความเข้าใจลูกเพื่อให้เขารู้สึกปลอดภัย และไม่กดดัน
บางครั้งที่ลูกเราพยายามอย่างเต็มที่แล้วแต่ก็ไม่ทันเพื่อนสักที อาจจะทำให้รู้สึกด้อย
และเสียความมั่นใจการที่ลูกกล้าที่จะบอกโดยมีพ่อแม่ที่เข้าใจและพยายามไปพร้อมเขา
เข้าใจว่าที่เขาทำไม่ได้เป็นเพราะเขาไม่ทันและอาจจะช้ากว่าคนอื่นไปบ้างก็ไม่เป็นไร
จะทำให้ลูกมีกำลังใจและพร้อมที่จะเรียนรู้และพัฒนาตามศักยภาพที่เขามี

4. เปิดใจรับการประเมินแบบเฉพาะบุคคล
เพราะ SLD ไม่ใช่โรค
แต่คือความแตกต่างในการประมวลผลข้อมูลของสมอง
ที่จะเข้าใจได้ผ่านการประเมินที่ถูกต้อง และจะสามารถทำให้เราออกแบบการเรียนรู้ที่เหมาะสม
ส่งเสริมและพัฒนาทักษะของลูกเราได้อย่างเหมาะสม

👩‍🏫 บริการที่ Child Space ช่วยได้
📌 บริการประเมินทักษะทางวิชาการ
โดยนักจิตวิทยาการศึกษา
เพื่อประเมินระดับทักษะการอ่าน การเขียน และคำนวณ
เปรียบเทียบกับช่วงวัย พร้อมสังเคราะห์ข้อมูลจากหลายมิติ

📌 ครูการศึกษาพิเศษ
ให้การสอนเสริมแบบเฉพาะบุคคล (Individualized Learning)
ฝึกทักษะพื้นฐานผ่านวิธีที่ลูกเรียนรู้ได้ดีที่สุด
โดยไม่เร่ง ไม่เปรียบเทียบ แต่ช่วยให้เขาค่อย ๆ กลับมาเรียนได้ทันเพื่อน และภูมิใจในตัวเองอีกครั้ง

📌 ทีมดูแลร่วม (นักกิจกรรมบำบัด/จิตแพทย์เด็ก)
ในกรณีที่มีปัญหาด้านอารมณ์ร่วมด้วย เช่น วิตกกังวล ไม่อยากไปโรงเรียน สมาธิสั้น ฯลฯ

💬 เพราะในโลกของเด็กคนหนึ่ง...
การ “อ่านไม่ออก” อาจไม่เจ็บเท่า “รู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพอ”
และไม่มีอะไรสำคัญไปกว่า
การมีใครสักคนเข้าใจ...ก่อนจะเสียใจว่า “รู้งี้พาไปดูตั้งแต่แรก”

📍 Child Space – เราพร้อมเป็นพื้นที่ที่เชื่อในศักยภาพของลูกคุณ
และเดินไปพร้อมกับครอบครัวโดยไม่ตัดสิน
📩 ทักมาปรึกษาเรื่องการประเมินทักษะทางวิชาการ หรือเรียนกับครูการศึกษาพิเศษ
เรายินดีตอบทุกคำถามค่ะ

#ลูกเกลียดการเรียน
#ปัญหาการเรียนรู้

#ครูการศึกษาพิเศษ

พฤติกรรมของลูกเปลี่ยนไป...แค่ช่วงวัยหรือสัญญาณที่ไม่ควรมองข้าม?พ่อแม่หลายคนรู้สึกได้ว่าลูก “ไม่เหมือนเดิม”แต่กลับลังเลที...
05/07/2025

พฤติกรรมของลูกเปลี่ยนไป...แค่ช่วงวัยหรือสัญญาณที่ไม่ควรมองข้าม?

พ่อแม่หลายคนรู้สึกได้ว่าลูก “ไม่เหมือนเดิม”
แต่กลับลังเลที่จะขอคำปรึกษา เพราะกลัวว่าจะคิดมากไป
ความจริงคือ...
การเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรม คือหนึ่งในสัญญาณสำคัญ
ที่ใช้บ่งบอกปัญหาด้านพัฒนาการ อารมณ์ หรือสุขภาพจิตของเด็ก
📌 Child Space จึงขอชวนคุณเช็กสัญญาณผ่าน Checklist พฤติกรรมต้องสังเกต แยกตามช่วงวัย
เพื่อไม่ให้สิ่งที่เริ่มจากเล็กน้อย…กลายเป็นปัญหาเรื้อรังในอนาคต

เพราะพฤติกรรมคือภาษาของใจ…
อย่ารอให้ลูกพูดออกมาเอง
แต่ขอให้เราเป็นผู้เริ่มต้น “ฟัง” ให้ทันก่อนจะสาย
📍 Child Space มีทีมสหวิชาชีพ
ที่พร้อมประเมินอย่างรอบด้าน ทั้งพัฒนาการ อารมณ์ พฤติกรรม และความสัมพันธ์ในครอบครัว
📩 ทักแชตเพื่อสอบถามเพิ่มเติม
📍 Child Space – พื้นที่เติบโตอย่างปลอดภัยของเด็กและครอบครัว

References
1.Erikson EH. Identity: Youth and Crisis. New York: Norton; 1968.
2.Diamond A. Executive functions. Annu Rev Psychol. 2013;64:135–168.
3.World Health Organization. Adolescent mental health. 2021. Available from: https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/adolescent-mental-health
4.American Psychiatric Association. Diagnostic and statistical manual of mental disorders. 5th ed., text rev. Washington, DC: APA; 2022.
5.Center on the Developing Child at Harvard University. From Best Practices to Breakthrough Impacts. Cambridge, MA: Harvard University; 2016.
6.Stapinski LA, Araya R, Heron J, Montgomery AA, Stallard P. Peer victimization during adolescence and risk for anxiety disorders in adulthood: A prospective cohort study. Depress Anxiety. 2014;31(7):574–582.

🎁 “รางวัล” กับ “สินบน” ต่างกันยังไง?ใช้ให้ถูก...ลูกมีวินัย ใช้ผิด...ลูกติดเงื่อนไขหลายครั้งที่พ่อแม่อยากให้ลูกทำตามข้อตก...
01/07/2025

🎁 “รางวัล” กับ “สินบน” ต่างกันยังไง?
ใช้ให้ถูก...ลูกมีวินัย ใช้ผิด...ลูกติดเงื่อนไข

หลายครั้งที่พ่อแม่อยากให้ลูกทำตามข้อตกลง
เลยใช้วิธี “ถ้าทำได้ จะให้ของเล่นนะ” หรือ
“ทำการบ้านเสร็จ แม่จะให้ขนม”

แต่รู้ไหมคะว่า…
การใช้ “ของตอบแทน” มี 2 แบบ แต่ให้ผลต่างกันคนละขั้ว
หนึ่งคือ รางวัลที่เสริมแรงพฤติกรรมดี
แต่อีกหนึ่ง…คือ สินบนที่ลูกทำเพราะอยากได้
ไม่ใช่เพราะเข้าใจ

📚 หลักจิตวิทยาพฤติกรรม: Reinforcement
ทฤษฎีของ B.F. Skinner (1953) กล่าวว่า
การเสริมแรงเชิงบวก (positive reinforcement)
จะช่วยให้พฤติกรรมดี เกิดซ้ำได้อย่างยั่งยืน
แต่ต้องเป็น “รางวัลที่เหมาะสม”
เช่น
✅ ชมทันทีเมื่อทำดี
✅ ให้รางวัลเล็ก ๆ ที่เชื่อมกับความพยายาม
✅ สร้างระบบความเข้าใจร่วม ไม่ใช่แค่ผลลัพธ์

🧠 แล้ว “สินบน” คืออะไร?
คือของที่ยื่นให้เพื่อ บังคับให้เด็กทำบางอย่างทันที
โดยที่พฤติกรรมยังไม่เกิด หรือไม่ได้เข้าใจเหตุผล เช่น…
❌ “หยุดร้องเดี๋ยวนี้ เดี๋ยวซื้อของเล่นให้”
❌ “กินข้าวเถอะ เดี๋ยวแม่ให้ดูมือถือ”
แบบนี้…เด็กอาจยอม “ทำตาม”
แต่ไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมต้องกินข้าว หรือควบคุมอารมณ์

✨ ใช้รางวัลให้ลูกมีวินัย ต้องทำยังไง?
✔ รางวัล = สิ่งที่เสริมความพยายาม ไม่ใช่ปิดปากความไม่พอใจ
✔ ชมในสิ่งที่ควบคุมได้ เช่น “แม่เห็นลูกพยายามนั่งทำจนจบเลยนะ”
✔ ไม่ต้องรางวัลใหญ่ แค่คำพูดที่อบอุ่นก็เสริมแรงได้มากแล้ว
✔ ค่อย ๆ ลดของตอบแทนทางวัตถุ แล้วแทนด้วยความภาคภูมิใจ

💛 พฤติกรรมที่ยั่งยืน = พฤติกรรมที่เกิดจากความเข้าใจ ไม่ใช่แค่การแลกเปลี่ยน

ถ้าคุณอยากรู้ว่าระบบ “รางวัล–การสื่อสาร–ข้อตกลงในบ้าน” ควรจัดอย่างไรให้เหมาะกับลูก
นักจิตวิทยาเด็ก และนักกิจกรรมบำบัดของเรา
พร้อมช่วยวางแผนให้คุณสร้างวินัยอย่างเข้าใจ ไม่ใช่กดดัน

📩 ทัก Child Space ได้เลย
📍 Child Space – พื้นที่เติบโตอย่างปลอดภัยของเด็ก
และครอบครัว

#รางวัลไม่ใช่สินบน #วินัยเชิงบวก ่างเข้าใจ

💬 “ลูกพูดช้า...แต่ทำไมหลายคนบอกให้รอ เดี๋ยวก็พูดเอง?”ถ้าคุณคือพ่อแม่ที่กำลังรู้สึกว่า “ลูกยังไม่พูดเหมือนเด็กคนอื่น” “บา...
29/06/2025

💬 “ลูกพูดช้า...แต่ทำไมหลายคนบอกให้รอ
เดี๋ยวก็พูดเอง?”

ถ้าคุณคือพ่อแม่ที่กำลังรู้สึกว่า
“ลูกยังไม่พูดเหมือนเด็กคนอื่น”
“บางวันเหมือนจะเริ่มพูด แต่ก็เงียบอีก”
“หรือว่าลูกเราช้าไปจริง ๆ?
แล้วคนรอบตัวก็บอกให้คุณ “รอไปก่อน เดี๋ยวก็พูดได้เอง”
📍คำว่า “รอ” นั้น บางครั้งก็เหมาะ
แต่ในหลายกรณี…
“การรอ” กลับทำให้เราพลาดช่วงเวลาทอง
ของการพัฒนาทักษะทางภาษาไปโดยไม่รู้ตัว

🧠 เพราะการสื่อสารคือรากฐานของชีวิต
เด็กที่มีความล่าช้าทางภาษาในวัยก่อน 3 ปี
หากไม่ได้รับการดูแล อาจส่งผลต่อความสามารถ
ในการเรียนรู้
การเข้าสังคม และสุขภาพจิตในระยะยาว

🧩 พูดช้าแบบ “พอรอได้” VS พูดช้าแบบ “ควรประเมิน”

✅ พูดช้าที่ อาจรอได้
มีพัฒนาการด้านอื่นดี เช่น เข้าใจคำสั่ง เล่นสมมุติได้
ใช้ภาษาท่าทางได้ เช่น พยักหน้า ชี้ ขอ
มีความพยายามออกเสียงหรือเลียนแบบ
เรียกชื่อแล้วหัน หรือตอบสนองทางสังคมดี
คำศัพท์ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

❗ พูดช้าที่ ควรประเมิน
ไม่เข้าใจคำสั่งง่าย ๆ แม้อายุ 2 ขวบขึ้นไป
ไม่สบตา ไม่ชี้ ไม่พยายามสื่อสาร
เงียบ ไม่เลียนเสียง พูดแล้วหยุดไป
เรียกแล้วไม่หัน ไม่ตอบสนองคนรอบข้าง
คำศัพท์น้อยลง หรือหยุดพัฒนาไปเฉย ๆ

💡 ถ้าสงสัย อย่ารอจนลูกเสียโอกาส
เพราะในบางกรณี “การพูดช้า”
อาจไม่ใช่แค่ “พัฒนาการช้าทั่วไป”
แต่คือสัญญาณของ
– ภาวะบกพร่องด้านภาษา (Developmental Language disorder)
– ความผิดปกติทางการสื่อสาร (Communication Disorder)
– หรือภาวะออทิสติก
✨ ทางที่ดีที่สุด ไม่ใช่การรอ...แต่คือการรู้ให้เร็ว
ว่าลูกต้องการความช่วยเหลือแบบไหน
เพราะยิ่งรู้เร็ว ยิ่งช่วยได้มาก และง่ายกว่าในระยะยาว

👩‍⚕️ ที่ Child Space เรามีทีมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง
• นักอรรถบำบัด (นักฝึกพูดเด็ก)
• นักกิจกรรมบำบัดด้านพัฒนาการ
• นักจิตวิทยาเด็กและครอบครัว

เราช่วยประเมินอย่างละเอียด และออกแบบการฝึก
ให้เหมาะกับลูกของคุณแบบเฉพาะบุคคล
📍 หากคุณลังเลว่าควรรอ หรือควรเริ่มดูแล
ให้เราช่วยฟังและประเมินอย่างเข้าใจค่ะ
📩 ทักข้อความเพื่อขอคำแนะนำ
📍 Child Space – พื้นที่เติบโตอย่างปลอดภัย
ของเด็กและครอบครัว
———————
#ลูกพูดช้า
#ประเมินพัฒนาการเด็ก
#ฝึกพูดเด็ก
#นักฝึกพูด

———————
อ้างอิง
American Academy of Pediatrics. Identifying infants and young children with developmental disorders in the medical home: An algorithm for developmental surveillance and screening. Pediatrics. 2020;145(1):e20193449.

💬 ลูกไม่เข้าสังคม ใช้เวลาทั้งวันอยู่กับของเล่นคนเดียว แค่ชอบอยู่คนเดียว หรือกำลังส่งสัญญาณภาวะออทิสติก?เคยรู้สึกไหมคะว่า...
27/06/2025

💬 ลูกไม่เข้าสังคม ใช้เวลาทั้งวันอยู่กับของเล่น
คนเดียว แค่ชอบอยู่คนเดียว
หรือกำลังส่งสัญญาณภาวะออทิสติก?

เคยรู้สึกไหมคะว่า…
ลูกดู “อยู่ได้ทั้งวันโดยไม่สนใจใคร”
เรียกชื่อแล้วไม่หัน ชวนคุยก็ไม่ตอบ
ชอบเล่นของเล่นแบบเดิม ๆ ซ้ำ ๆ เป็นชั่วโมง

แล้วในใจเราก็เริ่มตั้งคำถามว่า...
นี่คือลูกเป็นเด็กเงียบ หรือกำลังส่งสัญญาณอะไร
บางอย่างที่เรามองข้ามไป?

👀 วิธีสังเกตง่าย ๆ ที่พ่อแม่เริ่มดูได้จากที่บ้าน
✅ ลูกมักไม่สบตาเวลาคุยด้วย
✅ ไม่พยายามเรียกร้องความสนใจ หรือแบ่งปัน
สิ่งที่สนใจ
✅ ไม่เข้าใจการเล่นแบบมีปฏิสัมพันธ์ เช่น ผลัดกัน หรือเล่นสมมุติ
✅ มีภาษาหรือพฤติกรรมที่ช้ากว่าช่วงวัย
✅ แสดงความสนใจจำกัด หรือเล่นแบบเดิมซ้ำ ๆ นานมาก

🧠 พฤติกรรมเหล่านี้ ไม่ได้แปลว่าลูกผิดปกติทันที
แต่ถ้าเกิดร่วมกันหลายข้อ และต่อเนื่องนานเกิน 1–2 เดือน
การพบผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจประเมินพัฒนาการอย่างละเอียด
จะช่วยให้ลูกได้รับการสนับสนุนที่เหมาะสมตั้งแต่เนิ่น ๆ

💛 ที่ Child Space เราเชื่อว่า
เด็กทุกคนมีศักยภาพของตัวเอง และสิ่งที่สำคัญที่สุด...คือการเข้าใจลูกก่อนตัดสิน
📍 หากคุณกำลังลังเลใจว่า “ลูกเป็นเด็กชอบอยู่คนเดียว หรือมีภาวะออทิสติก”
เราพร้อมเดินไปกับคุณและลูกอย่างไม่ตัดสิน
📩 ทักข้อความเพื่อขอคำแนะนำเรื่องการประเมินพัฒนาการ
📍 Child Space – พื้นที่เติบโตอย่างปลอดภัยของเด็กและครอบครัว
——————
คลินิกเปิดบริการ
จันทร์-ศุกร์ 13:00-20:00 น.
เสาร์-อาทิตย์ 10:00-20:00 น.
หยุดทุกวันอังคาร
สอบถามและปรึกษาได้เลยที่
📲 LINE
📞 095-336-9375
📍 พิกัด : ถนน ศรีจันทร์ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น
——————
#ลูกไม่เข้าสังคม
#พัฒนาการเด็ก
#เข้าใจออทิสติก
#สังเกตลูกอย่างเข้าใจ

“เตรียมความพร้อมให้ลูกก่อนเข้าโรงเรียน” ต้องเริ่มจากอะไร ? Child Space เข้าใจดีว่าการเตรียมตัวลูกก่อนเข้าโรงเรียนเป็นเรื...
25/06/2025

“เตรียมความพร้อมให้ลูกก่อนเข้าโรงเรียน”
ต้องเริ่มจากอะไร ?

Child Space เข้าใจดีว่าการเตรียมตัวลูกก่อนเข้าโรงเรียนเป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ให้ความสำคัญ
สิ่งสำคัญที่นอกเหนือจากการอ่านออกเขียนได้...
คือการจัดการตัวเองได้ อยู่กับเพื่อนได้
และกล้าแยกจากพ่อแม่อย่างมั่นใจ

✅ ฝึก EF: เรียนรู้ตามลำดับ จัดของเองได้ มีสมาธินานขึ้น
🤝 ฝึกทักษะสังคม: รอคิวได้ แพ้ได้ ขอโทษเป็น
💛 ฝึกความมั่นคงทางใจ: ค่อย ๆ แยกจากพ่อแม่โดยไม่ต้องร้องไห้ทุกเช้า

เพราะ “ความพร้อมทางใจ” เริ่มได้ที่บ้าน
ไม่ใช่การเร่งให้ลูกโต แต่คือการค่อย ๆ ประคอง
เตรียมพร้อมให้ลูกรู้สึกมั่นคง ปลอดภัย เพื่อการเรียนรู้
และเติบโตในอนาคต

วันนี้ Child Space มีเทคนิคดีๆมาฝากคุณพ่อคุณแม่
ที่จะช่วยเตรียมความพร้อมให้ลูกๆของเรา ก้าวเข้าโรงเรียนด้วยความมั่นใจ ฝึกได้ทุกระดับชั้น จะเป็นอย่างไร
ไปเรียนรู้พร้อมๆกันเลยค่ะ 😊

#เลี้ยงลูกอย่างเข้าใจ #ทักษะการเข้าสังคม #เตรียมความพร้อมให้ลูกก่อนไปโรงเรียน

23/06/2025

ถ้าเคยมีช่วงที่
“ทะเลาะกับลูกบ่อยขึ้น”
“ลูกเริ่มไม่ค่อยอยากคุยด้วย”
หรือ “รู้สึกว่าคุยกันไม่เข้าใจเหมือนเมื่อก่อน”

อาจไม่ใช่เพราะเราทำอะไรผิด
แต่อาจเป็นเพราะเขากำลังอยู่ในช่วงวัยที่
หัวใจกำลังวุ่นวายพอๆ กับฮอร์โมน

คลิปนี้ชวนพ่อแม่มาทำความเข้าใจวัยรุ่นให้มากขึ้น
ทั้งเรื่องร่างกาย อารมณ์ และวิธีสร้างความสัมพันธ์ที่เขา “ยอมเปิดใจ”

ลองดูคลิปนี้นะครับ เผื่อวันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้น
ของการเข้าใจกันมากขึ้น 🧠💬


#เลี้ยงลูกด้วยความเข้าใจ
#นักจิตวิทยา
#สุขภาพจิตวัยรุ่น

🧠 เมื่อลูกไม่ยอมพูดในที่สาธารณะ:Selective Mutism หรือแค่ “ขี้อาย” ตามวัย?คุณพ่อคุณแม่เคยไหมคะ? อยู่บ้านพูดเก่ง สนุกสนาน ...
20/06/2025

🧠 เมื่อลูกไม่ยอมพูดในที่สาธารณะ:
Selective Mutism หรือแค่ “ขี้อาย” ตามวัย?

คุณพ่อคุณแม่เคยไหมคะ?
อยู่บ้านพูดเก่ง สนุกสนาน
แต่พอไปโรงเรียน หรืออยู่กับคนแปลกหน้า...กลับไม่ยอมพูดแม้แต่คำเดียว

เด็กบางคนเพียงแค่เขินเมื่อต้องเจอคนใหม่
แต่บางกรณี พฤติกรรม “ไม่พูด” อาจไม่ใช่แค่ “นิสัย”
แต่อาจเป็นสัญญาณของภาวะที่เรียกว่า
Selective Mutism (การไม่พูดเฉพาะสถานการณ์)
ซึ่งต้องได้รับการช่วยเหลืออย่างถูกต้อง

🔍 แยกให้ออก: ขี้อายปกติ vs Selective Mutism
เด็กขี้อายแบบปกติ
• จะพูดคุยบ้างเมื่อเริ่มคุ้นเคย
• มีพัฒนาการการพูดตามวัย
• สามารถแสดงท่าทาง สบตา และสื่อสารทางอื่นได้
• อารมณ์โดยรวมผ่อนคลายเมื่ออยู่ในที่ใหม่
Selective Mutism
• พูดได้ดีที่บ้าน แต่ไม่พูดเลยที่โรงเรียน/สถานที่สาธารณะ
• มักมาพร้อมอาการวิตกกังวล เช่น กลัวสายตาคนอื่น, กลัวทำผิด
• บางครั้งดูเหมือน “ดื้อ” แต่จริง ๆ “พูดไม่ออก”

⚠️หากปล่อยไว้โดยไม่ดูแล…
ภาวะ Selective Mutism ไม่ได้หายไปเองเสมอไป
หากไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างเหมาะสม
อาจนำไปสู่ผลกระทบต่อเนื่องในระยะยาว เช่น:
• ความมั่นใจลดลงเรื่อย ๆ เพราะรู้สึกผิดทุกครั้ง
ที่พูดไม่ได้
• หลีกเลี่ยงสังคม ไม่กล้าสื่อสารแม้กระทั่งในวัยรุ่น
• เสียโอกาสทางการเรียน เพราะไม่กล้าถาม-ตอบ
ในห้องเรียน
• เกิดภาวะวิตกกังวลเรื้อรัง หรือพัฒนาต่อไปเป็น
โรคทางอารมณ์ในอนาคต

👩‍⚕️ ภาวะนี้ไม่ใช่แค่เรื่องนิสัย
Selective Mutism คือภาวะที่สามารถรักษา
และฟื้นฟูได้
แต่ยิ่งเริ่มเร็ว ยิ่งช่วยให้เด็กกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
ที่ Child Space เรามีทีมผู้เชี่ยวชาญ
ทั้งจิตแพทย์เด็ก นักจิตวิทยา นักบำบัดด้านการพูด
ที่จะร่วมกันดูแลและออกแบบแผนฟื้นฟูที่เหมาะกับเด็กแต่ละคนอย่างอ่อนโยน

📍หากคุณสงสัยว่าลูกกำลังเผชิญปัญหานี้
หรืออยากประเมินพัฒนาการด้านการพูดและอารมณ์
สามารถเข้ารับคำปรึกษากับทีมของเราได้เลยค่ะ
📩 ทักข้อความเพื่อสอบถามรายละเอียด
📍 ที่ Child Space – พื้นที่เติบโตอย่างปลอดภัย
ของเด็กและครอบครัว
-------------
คลินิกเปิดบริการ
จันทร์-ศุกร์ 13:00-20:00 น.
เสาร์-อาทิตย์ 10:00-20:00 น.
หยุดทุกวันอังคาร
สอบถามและปรึกษาได้เลยที่
📲 LINE
📞 095-336-9375
📍 พิกัด : ถนน ศรีจันทร์ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น
https://maps.app.goo.gl/htufdyEFBE2eiHzG

#พัฒนาการเด็ก #จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น

💬 “ถ้าจะลองคุยกับนักจิตวิทยาออนไลน์...ต้องเตรียมตัวยังไง?”จะเล่าอะไร? ถ้าพูดไม่เก่งล่ะ? เขาจะเข้าใจเราไหม?หลายคนอยากเริ่...
18/06/2025

💬 “ถ้าจะลองคุยกับนักจิตวิทยาออนไลน์...
ต้องเตรียมตัวยังไง?”
จะเล่าอะไร? ถ้าพูดไม่เก่งล่ะ? เขาจะเข้าใจเราไหม?

หลายคนอยากเริ่ม “ดูแลใจตัวเอง”
แต่พอถึงจุดจะกดนัด…กลับลังเล
เพราะไม่เคยลอง และไม่รู้ว่ามันจะ “โอเคไหม”

🧠 ถ้าคุณกำลังมีคำถามพวกนี้ในหัว...
❓ “คุยครั้งแรกต้องพูดอะไรบ้าง?”
– แค่เล่าว่า “ช่วงนี้รู้สึกยังไง” ก็พอแล้วค่ะ
– ไม่ต้องเล่าให้ครบทุกเรื่อง
– นักจิตวิทยาจะช่วยพาคุณค่อย ๆ ปะติดปะต่อเรื่องราวเอง

❓ “ถ้าเราเงียบ...เขาจะว่าไหม?”
– ไม่เลยค่ะ บางช่วงที่เงียบ คือตัวเรากำลังฟังตัวเองอยู่
– นักจิตวิทยาไม่เร่ง ไม่กดดัน และเข้าใจว่าความเงียบก็มีความหมาย

❓ “คุยออนไลน์จะเข้าใจน้อยกว่าคุยตัวจริงไหม?”
– บรรยากาศอาจต่างกันบ้าง แต่ความเข้าใจและความใส่ใจเหมือนเดิม
– เหมาะกับคนที่ยังไม่สะดวกเดินทาง / ยังไม่พร้อมเผชิญหน้าตรง ๆ
– เราใช้แพลตฟอร์มปลอดภัย เป็นส่วนตัว 100%

❓ “คุยกับเพื่อนได้อยู่แล้ว...ทำไมต้องคุยกับนักจิต?”
– เพราะเพื่อนคือคนที่รักเรา
– แต่นักจิตคือคนที่เข้าใจกลไกของใจ และช่วยให้คุณเห็นสิ่งที่คุณมองไม่ออก
– และที่สำคัญ: สิ่งที่คุณพูดจะถูกเก็บเป็นความลับอย่างเคร่งครัด

❓ “ถ้าไม่แน่ใจว่าตัวเองมีปัญหาหรือเปล่า จะคุยอะไรดี?”
– แค่คุณรู้สึกว่า “ใจมันไม่เหมือนเดิม”
– หรือมีบางเรื่องที่ “วนในหัวตลอดเวลา”
– นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะเริ่มพูดคุย

👩‍⚕️ Child Space เปิดให้คุณเข้าถึง
“นักจิตวิทยาออนไลน์” ได้ง่าย ๆ
ด้วยบริการ “ปรึกษาใจเบา”
– วางเรื่องหนักไว้กับเรา รับใจเบาเบากลับไป
🕒 คุยแบบ 1:1 เป็นส่วนตัว
⏳ ระยะเวลา 30 นาที
💬 ราคา 800 บาท
📍 ไม่ต้องมีใบส่งตัว ไม่ต้องป่วย เรารับฟังอย่างไม่ตัดสิน

💛 ไม่ต้องพร้อม ไม่ต้องเก่ง
แค่ “กล้าที่จะดูแลใจตัวเอง” แค่นั้นก็พอแล้ว

📩 ทักข้อความเพื่อจองคิว
📍 Child Space – พื้นที่ปลอดภัยของใจคุณ

#ปรึกษาใจเบา
#เริ่มต้นคุยกับนักจิต
#นักจิตวิทยา
#คุยออนไลน์ได้เลย
#ไม่ต้องป่วยถึงจะดูแลใจ

ที่อยู่

Child Space คลินิกจิตเวชเด็กและวัยรุ่น
Khon Kaen
40000

เวลาทำการ

จันทร์ 04:00 - 20:00
พุธ 04:00 - 20:00
พฤหัสบดี 04:00 - 20:00
ศุกร์ 04:00 - 20:00
เสาร์ 10:00 - 20:00
อาทิตย์ 10:00 - 20:00

เบอร์โทรศัพท์

+66959927928

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Child Space Clinic คลินิกสุขภาพจิตเด็กและพัฒนาการ by SMINDผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์