คลินิกหมอเริงฤทธิ์-หมอสุดารัตน์

คลินิกหมอเริงฤทธิ์-หมอสุดารัตน์ รักษาโรคทางอายุรกรรม โรคทางตา หู

10/08/2025

เปิดทำการ
วันพุธ13สิงหาคม2568
เวลา​ 07.30 น.

24/03/2025
23/03/2025
20/03/2025

“มาเตรียมตัว
เตรียมใจรับกับความแก่
ความเจ็บ ความตายดีกว่า
แล้วใจจะไม่ทุกข์”

29/06/2563
#คติธรรม
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต

17/03/2025
อาจารย์บอกเล่าข้อมูลที่ดีมากๆ อยากให้ทุกท่านอ่านค่ะ
04/01/2025

อาจารย์บอกเล่าข้อมูลที่ดีมากๆ อยากให้ทุกท่านอ่านค่ะ

ยาแก้ปวดแรงฤทธิ์ แต่มีพิษต่อหัวใจและสมอง

ในชีวิตนี้ใครไม่เคยปวดบ้างครับ ปวดหัว ปวดเข่า หลัง ข้อ กระดูก ต่างๆ นานา
รวมทั้งปวดประจำเดือน ในผู้หญิง

ร้อยทั้งร้อยเคยทานยาแก้ปวดมาทั้งนั้น ซึ่งก็บรรเทาเบาบาง หรือไม่ก็หายปวดเป็นปลิดทิ้ง (ทั้งนี้ไม่รวมปวดหัวใจเนื่องจากอกหัก)

ทำให้ต้องหันมาพึ่งยาแก้ปวดกันเป็นประจำ

หนำซ้ำบางรายยังไม่ทันปวด ทานไว้ก่อนเผื่อปวด และนี่เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ต้องมีศูนย์ต่างๆตามโรงพยาบาล ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ศูนย์ปวดท้องอาเจียนเป็นเลือด ส่องกล้อง กลืนแคปซูล ถ่ายภาพจิ๋ว

และที่เราชอบมองข้ามไป คือ ไตวายครับ ยาแก้ปวดประดามีทำให้ ไตวายได้ ต้องล้างไต ฟอกเลือดกันเป็นแถว
ใน ค.ศ.2004 เป็นที่ฮือฮากันทั่วโลกเมื่อยาแก้ปวดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAID หรือ Non-Steroidal Anti-Inflammatory Drug) และออกฤทธิ์เฉพาะเจาะจงโดยยับยั้ง Cyclo-Oxygenase-2 (COX- 2 Inhibitor) ที่ชื่อว่า Vioxx (Rofecoxib) ถูกพบว่าทำให้เกิดคนตายจากหัวใจวายมากมาย

จนทำให้บริษัทต้องถอนยาออกจากตลาด และถูกฟ้องร้องกันทั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา

ยาในกลุ่มนี้ยังมีอีกหลายตัวและอยู่ในตลาดของประเทศไทย ซึ่งก็มีคำเตือนกันมาตลอดว่ายากลุ่มนี้อาจจะไม่จริงที่ไม่กัดกระเพาะ

ดังนั้นจะเห็นได้ว่าเมื่อได้รับยากลุ่มนี้ก็มักจะได้แถมยาป้องกันโรคกระเพาะตามกันมาด้วย และก็มีผลต่อไตเช่นเดียวกัน

นอกจากนั้นผลข้างเคียงในการทำให้เกิดหัวใจวายก็ยังเกิดขึ้นได้ ยาในกลุ่มนี้นอกจาก Vioxx ที่ถอนจากตลาดไปแล้ว ได้แก่ Celebrex (Celecoxib) Arcoxia (Etoricoxib) Dynastat (Parecoxib) ยาในกลุ่ม NSAID และไม่ได้มีฤทธิ์เจาะจงต่อ COX-2 อย่างกลุ่มที่กล่าวข้างต้นมีหลายตัวเช่น Voltaren (Diclofenac) Indocid (Indomethacin) Clinoril (Sulindac) (Phenylbutazone) Ponstan (Mefenamic acid) Mobic (Meloxicam) Feldene (Piroxicam) Brufen (Ibuprofen) Naprosyn (Naproxen) Aspirin (Acetylsalicylic acid) (Nimesulide)

ในประเทศไทยยาเหล่านี้มีหลายชื่อทางการค้า ถึงแม้จะเป็นยาตัวเดียวกัน ถ้าผลิตจากต่างบริษัทกัน ซื่อในวงเล็บคือชื่อสามัญ

ดังนั้น เวลาใช้ต้องถามคนขายหรือเภสัชกรให้แน่ชัดว่า ซ้ำซ้อนกับยาที่ใช้อยู่หรือเปล่า

ยาในกลุ่ม NSAID ทั้งที่เจาะจงและที่ไม่เจาะจงกับ COX-2 นี้ เวลาใช้ต้องระวังหรือใช้ไม่ได้ในคนที่มีตับและไตไม่สมบูรณ์ด้วยโดยเฉพาะที่อยู่ในขั้นรุนแรง

เรื่องที่น่าตกใจเกี่ยวกับยาแก้ปวดกลับมาเป็นประเด็นอีกครั้ง เมื่อมีการตอกย้ำอันตรายที่กลัวกันให้เห็นกันได้ชัดเจนถนัดถนี่ยิ่งขึ้น

รายงานนี้มาจากมหาวิทยาลัย Bern ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในวารสารการแพทย์ของอังกฤษ (British Medical Journal) ในวันที่ 11 มกราคม 2011 โดย นายแพทย์ Sven Trelle และคณะ โดยมีนายแพทย์ Peter JÜni เป็นผู้นำคณะ
(และรายงานหลังจากนี้จนกระทั่งถึงปัจจุบันได้ผลลัพธ์ในลักษณะเดียวกันทั้งสิ้น)

ทางคณะทำการรวบรวมวิเคราะห์การศึกษาเกี่ยวกับยา NSAID ทั้งหมด 31 ชิ้น ซึ่งมีการติดตามผลกระทบหรือผลข้างเคียงต่อสุขภาพในผู้ป่วย 116,429 ราย

ที่ใช้ยา Naproxen Ibuprofen Diclofenac Celecoxib Etoricoxib Lumiracoxib Rofecoxib

ผลจากการวิเคราะห์พบความเสี่ยงเพิ่มขึ้นหลายเท่าต่อการเกิดโรคเส้นเลือดหัวใจ เส้นเลือดสมองตีบ และการเสียชีวิตที่เกี่ยวกับระบบหัวใจและเส้นเลือดทั้งหมด (ซึ่งรวมหัวใจล้มเหลว จากกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแอลง หัวใจเต้นผิดปกติ ลิ่มเลือดอุดเส้นเลือดในปอดเข้าไปด้วย) ความเสี่ยงต่อการเกิดเส้นเลือดหัวใจตีบเรียงลำดับจากอันตรายมากมาหาน้อย ได้แก่

Rofecoxib (ถอนจากตลาดทั่วโลกตั้งแต่ปี 2004)(2.12เท่า) Lumiracoxib (2 เท่า) Ibuprofen (1.61 เท่า) Celecoxib (1.35 เท่า) Naproxen และ Diclofenac (0.82 เท่า) Etoricoxib (0.75 เท่า) เมื่อประเมินความเสี่ยงต่อการเกิดอัมพฤกษ์หรือเส้นเลือดสมองตีบ ที่ลดหลั่นกันมาจากสูงไปหาต่ำ ได้แก่ Ibuprofen (3.36 เท่า) Diclofenac (2.86 เท่า) Lumiracoxib (2.81 เท่า) Etoricoxib (2.67 เท่า) Naproxen (1.76 เท่า) Celeloxib (1.12 เท่า) และ Rofelcoxib (1.07 เท่า)

และเมื่อรวมความเสี่ยงอันเกี่ยวเนื่องกับระบบหัวใจและเส้นเลือดทั้งหมด ตัวที่อันตรายที่สุด คือ Etoricoxib หรือ ชื่อการค้าคือ Arcoxia (4.07เท่า) Diclofenac หรือ Voltaren (3.98 เท่า) Ibuprofen หรือ Brufen (2.39 เท่า) Celecoxib หรือ Celebrex (2.07 เท่า) Lumiracoxib (1.89 เท่า) Rofecoxib หรือ Vioxx (1.58 เท่า) และ Naproxen หรือ Naprosyn (0.98 เท่า)

ทั้งนี้จะเห็นว่า ยาแก้ปวดไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม NSAID ชนิดออกฤทธิ์ เจาะจงหรือไม่เจาะจงกับ COX-2 ไม่มีกลุ่มใดหรือตัวใดปลอดภัยเลย โดยที่ถ้าไม่ทำให้เส้นเลือดหัวใจตีบก็เกิดเป็นอัมพฤกษ์จากเส้นเลือดสมองแทน หรือไม่ก็มีผลทางอ้อมต่อการตายอันเกี่ยวเนื่องกับระบบเหล่านี้

ถ้าตัด Rofecoxib ไป (เพราะไม่มีจำหน่ายแล้ว) Lumiracoxib คือยาอันตรายสุดต่อเส้นเลือดหัวใจ (2 เท่า) Ibuprofen เสี่ยงสูงสุดต่ออัมพฤกษ์ (3.36 เท่า) ตามด้วย Diclofenac (2.86 เท่า) Etoricoxib เสี่ยงสูงสุดต่อการตายทั้งหมดอันเกี่ยวเนื่องกับระบบหัวใจเส้นเลือด (4.07) ตามด้วย Diclofenac (3.98)

การที่ความเสี่ยงต่อโรคต่างๆที่กล่าวมาไม่มีความเจาะจงกับกลุ่มที่ออกฤทธิ์ต่อ COX-2 หรือไม่ อาจเป็นเครื่องแสดงว่ามีกลไกอื่นๆอีกที่ต้องทำการศึกษาต่อ เช่น ผลของยาแต่ละตัวต่อ prostacyclin thromboxane A2 ต่อการทำงานของหลอดเลือด และการสร้าง Nitric oxide ซึ่งมีผลต่อการหดขยายเส้นเลือด ผลต่อความดันโลหิต ต่อไต และการเก็บและขับน้ำและเกลือแร่จากร่างกาย

ในประเทศสหรัฐเองมีการวิเคราะห์ว่าคนไข้ที่ไปพบแพทย์ มีไม่ต่ำกว่า 5% ที่จะได้รับยาแก้ปวด แก้อักเสบเหล่านี้ ถ้ากลับย้อนดูในประเทศไทยน่าจะมีมากกว่านี้ ทั้งนี้ เพราะเป็นที่เคยมือของแพทย์ที่จะสั่งยาแก้ปวดให้คนไข้ที่มาด้วยอาการปวดเมื่อย ปวดข้อ กระดูก ปวดเข่า ปวดหัว

และมิหนำซ้ำ ยาเหล่านี้สามารถซื้อหาได้ทั่วไป และนี่เป็นบทเรียนอีกหนึ่งตัวอย่างที่ต้องพิจารณาให้ถ่องแท้ว่าต้องใช้ยาเมื่อมีความจำเป็น ยาที่ใช้เป็นการรักษาที่ต้นตอหรือสาเหตุ หรือเพียงเพื่อบรรเทาอาการ ยามีผลข้างเคียงหรือแทรกซ้อนอะไรบ้าง และคุ้มหรือไม่ที่จะนำมาใช้ รวมทั้งยามีผลขัดฤทธิ์เสริมฤทธิ์กับยาตัวอื่นที่คนไข้ใช้อยู่ประจำหรือไม่
ยาแก้ปวดจึงเป็นยาที่เพียบพร้อมมีอันตรายต่อกระเพาะ หลอดอาหาร กรดไหลย้อน ไต ตับ หัวใจ สมอง นึกถึงยาแก้ปวดเมื่อไหร่นึกถึง ICU ด้วยนะครับ

ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก
มหาวิทยาลัยรังสิต

รูปจากพินเทอเรส

10/12/2024

😢เตือนภัย___ อีกรอบ

❌ ไข้สูง = กินยาลดไข้สูง

อันตรายอาจถึงชีวิต เด็กและผู้ใหญ่

ช่วงนี้โรคไข้เลือดออกเริ่มระบาด

อาการไข้เลือดออก

ผู้ป่วยจะมีไข้สูงส่วนใหญ่ไข้ 2-7วัน
ยาลดไข้ที่ควรกินคือ พาราเซตามอล เท่านั้น

ส่วน
ยาลดไข้สูง__
คือ ยากลุ่ม NSAIDs ห้ามกิน

ห้ามกิน อันตราย

ทั้งชนิดน้ำในเด็ก/เม็ดในผู้ใหญ่
ควรหลีกเลี่ยง
_กรณีมีไข้อย่างเดียว
และสงสัยไข้เลือดออก....

เพราะทำให้เลือดออกในทางเดินอาหาร
ตายได้

เพราะ ยาไข้สูง
ส่วนใหญ่คือกลุ่ม NSAIDs
อาจทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหาร
เป็นแผลที่กระเพาะอาหาร
และเลือดออกในระบบทางเดินอาหารได้ ไตวาย
และเสียชีวิตได้

เพราะไข้เลือดออกมีเกล็ดเลือดต่ำได้
ยิ่งได้ยาลดไข้สูง
เป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้เสียชีวิต

ตามประสบการณ์ที่เจอ

พ่อแม่ผู้ปกครอง
บางท่านเข้าใจผิดเยอะมากๆ

เวลามีไข้
❌จะเลือกใช้ยาลดไข้สูง_เป็นตัวแรก

❌ห้ามเด็ดขาดครับ

ซึ่งส่วนใหญ่เป็นยากลุ่ม NSAIDs
ซึ่งระคายเคืองกระเพาะอาหาร
มีผลข้างเคียงได้ ปวดท้อง เลือดออกในทางเดินอาหาร
ไตวาย ได้

ยาไข้สูง

อันตรายในไข้เลือดออก

จำไว้ครับๆๆๆๆๆๆ

ย้ำหลายรอบๆๆๆ

เวลามีไข้ สำคัญสุด
คือ เช็ดตัวระบายความร้อน อาบน้ำอุ่น/ก็อก_ก็ได้
ไม่ก็จับแช่ในอ่างอาบน้ำ กะละมัง

ความเข้าใจที่ว่า มีไข้ ห้ามจับอาบน้ำหรือเช็ดตัว เป็นเรื่องผิด

จริงๆสามารถอาบน้ำได้
ไข้จะลงและต้องกินยาพาราเซตามอลร่วมด้วย

มีคนถามเยอะเรื่องแผ่นแปะหน้าผากช่วยได้ไหม

แอดตอบ_ได้ แต่ไม่ดี 100% คิดง่ายๆ เวลากองไฟลุกท่วมหัว_แล้วใช้น้ำพรมแล้วไฟจะดับหมดไม่ได้ สู้จับเช็ดตัวดีสุด

ดังนั้น ถ้ามีไข้ดีสุดคือ จับเด็กแก้ผ้า ปิดแอร์ เช็ดตัวด้วยผ้าอย่างน้อย 3-4ผื่น เช็ดผิวหนังเข้าหาหัวใจ อย่างน้อย 10-20 นาที

ผ้าที่ไม่ได้เช็ดก็วางไว้ตามซอกคอ ซอกรักแร้ ซอกขาหนีบ บริเวณที่มีเส้นเลือดขนาดใหญ่ จะได้ระบายความร้อน

ส่วนยาไข้สูง อาจใช้ในบางกรณี แต่ควรสั่งจ่ายโดยแพทย์
เช่น เด็กมีคนไข้สูงทั้งเช็ดตัว กินยาพาราเซตามอล ก็ไม่ลง
และไข้ขึ้นมาใหม่ไม่ถึง4ชม.
หรือมีประวัติเคยชักจากไข้สูง
ส่วนใหญ่จะจ่ายกรณีที่ไม่สงสัยไข้เลือดออก

ซึ่งยังกินยาพาราเซตามอลไม่ได้ และเด็กมีประวัติไข้แล้วชัก อาจจะให้กินได้ แต่ต้องกินหลังอาหารและทานน้ำมากๆ
ควรอยู่ในคำแนะนำของแพทย์

ส่วนใหญ่จะไม่แนะนำถ้ายังสงสัยไข้เลือดออก

หมอจะไม่สั่งจ่ายเด็ดขาด

✅จำไว้

ไข้เลือดออกไม่ถูกกับยาลดไข้สูง

ไข้อย่างเดียว และไข้สูงเกิน 2 วันไม่ดีขึ้น ควรพบแพทย์

อาการที่สงสัยไข้เลือดออกคือ

ไข้ ไม่ไอไม่มีน้ำมูก
ปวด 4 ที่ ศีรษะ กระบอกตา กล้ามเนื้อ กระดูก
อาจมีอาเจียน กินอาการไม่ได้ เบื่อ คลื่นไส้
อาจมีจุดเลือดออก หรือ อาการเลือดออก
และผื่นแดง

สรุป

✅ มีไข้ อาบน้ำ เช็ดตัว กินพาราเซตามอล ก็พอ

Infectious ง่ายนิดเดียว

10/07/2024

😢เตือนภัย___ อันตรายอาจถึงชีวิต เด็กและผู้ใหญ่

ช่วงนี้โรคไข้เลือดออกเริ่มระบาด

อาการไข้เลือดออก

ผู้ป่วยจะมีไข้สูงส่วนใหญ่ไข้ 2-7วัน
ยาลดไข้ที่ควรกินคือ พาราเซตามอล เท่านั้น

ส่วน
ยาลดไข้สูง__
คือ ยากลุ่ม NSAIDs ห้ามกิน

ห้ามกิน อันตราย

ทั้งชนิดน้ำในเด็ก/เม็ดในผู้ใหญ่
ควรหลีกเลี่ยง_กรณีมีไข้อย่างเดียว
และสงสัยไข้เลือดออก....

เพราะทำให้เลือดออกในทางเดินอาหาร
ตายได้

เพราะ ยาไข้สูง
ส่วนใหญ่คือกลุ่ม NSAIDs
อาจทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหาร
เป็นแผลที่กระเพาะอาหาร
และเลือดออกในระบบทางเดินอาหารได้ ไตวาย และเสียชีวิตได้

เพราะไข้เลือดออกมีเกล็ดเลือดต่ำได้ ยิ่งได้ยาลดไข้สูง
เป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้เสียชีวิต

ตามประสบการณ์ที่เจอ

พ่อแม่ผู้ปกครอง
บางท่านเข้าใจผิดเยอะมากๆ
เวลามีไข้
จะเลือกใช้ยาลดไข้สูง_เป็นตัวแรก

ห้ามเด็ดขาดครับ

ซึ่งส่วนใหญ่เป็นยากลุ่ม NSAIDs
ซึ่งระคายเคืองกระเพาะอาหาร
มีผลข้างเคียงได้ ปวดท้อง เลือดออกในทางเดินอาหาร ไตวาย ได้

ยาไข้สูง

อันตรายในไข้เลือดออก

จำไว้ครับ

ย้ำหลายรอบ

เวลามีไข้ สำคัญสุด
คือ เช็ดตัวระบายความร้อน อาบน้ำอุ่น/ก็อก_ก็ได้
ไม่ก็จับแช่ในอ่างอาบน้ำ กะละมัง

ความเข้าใจที่ว่า มีไข้ ห้ามจับอาบน้ำหรือเช็ดตัว เป็นเรื่องผิด

จริงๆสามารถอาบน้ำได้
ไข้จะลงและต้องกินยาพาราเซตามอลร่วมด้วย

มีคนถามเยอะเรื่องแผ่นแปะหน้าผากช่วยได้ไหม

แอดตอบ_ได้ แต่ไม่ดี 100% คิดง่ายๆ เวลากองไฟลุกท่วมหัว_แล้วใช้น้ำพรมแล้วไฟจะดับหมดไม่ได้ สู้จับเช็ดตัวดีสุด

ดังนั้น ถ้ามีไข้ดีสุดคือ จับเด็กแก้ผ้า ปิดแอร์ เช็ดตัวด้วยผ้าอย่างน้อย 3-4ผื่น เช็ดผิวหนังเข้าหาหัวใจ อย่างน้อย 10-20 นาที

ผ้าที่ไม่ได้เช็ดก็วางไว้ตามซอกคอ ซอกรักแร้ ซอกขาหนีบ บริเวณที่มีเส้นเลือดขนาดใหญ่ จะได้ระบายความร้อน

ส่วนยาไข้สูง อาจใช้ในบางกรณี แต่ควรสั่งจ่ายโดยแพทย์ เช่น เด็กมีคนไข้สูงทั้งเช็ดตัว กินยาพาราเซตามอล ก็ไม่ลง และไข้ขึ้นมาใหม่ไม่ถึง4ชม. หรือมีประวัติเคยชักจากไข้สูง ส่วนใหญ่จะจ่ายกรณีที่ไม่สงสัยไข้เลือดออก

ซึ่งยังกินยาพาราเซตามอลไม่ได้ และเด็กมีประวัติไข้แล้วชัก อาจจะให้กินได้ แต่ต้องกินหลังอาหารและทานน้ำมากๆ ควรอยู่ในคำแนะนำของแพทย์

ส่วนใหญ่จะไม่แนะนำถ้ายังสงสัยไข้เลือดออก

หมอจะไม่สั่งจ่ายเด็ดขาด

จำไว้

ไข้เลือดออกไม่ถูกกับยาลดไข้สูง

ไข้อย่างเดียว และไข้สูงเกิน 2 วันไม่ดีขึ้น ควรพบแพทย์

อาการที่สงสัยไข้เลือดออกคือ

ไข้ ไม่ไอไม่มีน้ำมูก
ปวด 4 ที่ ศีรษะ กระบอกตา กล้ามเนื้อ กระดูก
อาจมีอาเจียน กินอาการไม่ได้ เบื่อ คลื่นไส้
อาจมีจุดเลือดออก หรือ อาการเลือดออก
และผื่นแดง

สรุป

มีไข้ อาบน้ำ เช็ดตัว กินพาราเซตามอล ก็พอ

Infectious ง่ายนิดเดียว

30/12/2023

หยุดทำการ 30,31,1

เปิดทำการ 2 มกราคม 2567

21/08/2023
08/12/2021
👹ปริมาณเชื้อโควิด-19ที่มากับสารคดีหลั่ง⛑
14/01/2021

👹ปริมาณเชื้อโควิด-19ที่มากับสารคดีหลั่ง⛑

ที่อยู่

69 ถ. เทศบาล1 ต. ทางเกวียน
Klaeng
21110

เวลาทำการ

จันทร์ 07:30 - 08:20
17:00 - 20:00
อังคาร 07:30 - 08:20
17:00 - 20:00
พุธ 07:30 - 08:20
17:00 - 20:00
พฤหัสบดี 07:30 - 08:20
17:00 - 20:00
ศุกร์ 07:30 - 08:20
17:00 - 20:00
เสาร์ 08:00 - 12:00
17:00 - 20:00
อาทิตย์ 08:00 - 12:00

เบอร์โทรศัพท์

+6638671529

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ คลินิกหมอเริงฤทธิ์-หมอสุดารัตน์ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง คลินิกหมอเริงฤทธิ์-หมอสุดารัตน์:

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram

(คลินิกแพทย์ศรันจพนต์-แพทย์ศรันญพัชร์)

คลินิกหมอเริงฤทธิ์-หมอสุดารัตน์ โรคทางอายุรกรรมส่วนใหญ่ใช้ยาในการรักษาเป็นหลัก ในปัจจุบันได้แบ่งสาขาย่อยออกไปตามระบบอวัยวะต่างๆ เช่น ระบบประสาท ระบบทางเดินอาหาร ระบบไต ระบบหัวใจและหลอดเลือด ระบบต่อมไร้ท่อ ระบบทางเดินหายใจ คลินิกอายุรกรรมให้การดูแลในเชิงเชื่อมโยงระบบต่างๆ แบบองค์รวม คล้ายกับเป็นแพทย์ประจำตัว ประจำครอบครัว ตั้งแต่เริ่มเจ็บป่วย โดยให้การดูแลแบบองค์รวมจากสุขภาพกาย สู่สุขภาพใจ จากศรีษะจรดเท้า จากการรักษาสู่การพยายามป้องกัน เพื่อลดการเกิดโรคหรือโรคแทรกซ้อนจากแนวคิดข้างต้น คลินิกอายุรกรรม

📦 แฟนเพจคลินิก : https://goo.gl/PbqMCe 📪 ช่องทางการติดต่อ Inbox : https://goo.gl/DnhYjA 📲 ช่องทางการติดต่อมือถือ : 0624495465 #คุณเอื้อ 📧 ช่องทางการติดต่อไลน์ : https://goo.gl/e8xJvZ --- #คลินิก #คลินิกสามย่าน #คลินิกแกลง #คลินิกหมอสุดารัตน์ #คลินิกหมอเริงฤทธิ์ #คลินิกอำเภอแกลง #คลินิกโรคไต #หาหมอแกลง#คลินิกตลาดสามย่าน #คลินิกหมออายุรกรรม #คลินิกโรคตา #ตัดแว่นตา #ต้อกระจก #คลีนิคตา #คลินิกตาสามย่าน