สถาพรเภสัช อ.กุดชุม จ.ยโสธร

สถาพรเภสัช อ.กุดชุม จ.ยโสธร ติดต่อกล่องข้อความเร็วสุดค่ะ จำหน่ายยาแผนปัจจุบัน แผนโบราณ วิตามิน We are a pharmacy in Kudchum, Yasothorn, Thailand.

We provide a consultation service on medicine and sell a medicines, vitamins and dietary supplements. We welcome all languages speaking, especially English.

24/07/2025

#วิธีสร้างความภาคภูมิในใจตัวเองให้ลูก

~**~**~**~**~**~**~**~**~**~**~**

หรือความรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเอง คือ รู้สึกว่าตัวเองมีความสามารถ ดีพอ มีคุณค่า และเป็นที่รักเป็นที่ต้องการของผู้อื่น

ดังนั้นความรู้สึกนี้จะเกิดขึ้นได้ เด็กต้องได้ "ทำ" อะไรบางอย่าง และได้ "รับรู้" ว่าสิ่งที่เขาทำนั้นเป็นสิ่งที่ดี
ซึ่งทัศนคติและการปฏิบัติตัวของพ่อแม่คือสิ่งที่มีอิทธิพลอย่างมาก

* * * * *

วิธีที่จะช่วยสร้างให้เด็กมี self esteem ที่ดีคือ

1) ให้เด็กได้รับผิดชอบ :
การที่เด็กได้ช่วยเหลือตัวเอง ได้ทำงานที่เหมาะสมกับวัยและทำมันได้สำเร็จ จะทำให้เด็กเกิดความรู้สึกดีว่า ฉันมีความสามารถ
หากเป็นสิ่งที่ยากขึ้น ต้องใช้ความพยายามและความอดทน ก็จะยิ่งเกิดความภาคภูมิใจในตัวเองเมื่อทำได้สำเร็จ
ถ้าเป็นสิ่งที่พ่อแม่ขอให้ช่วย(และได้รับการขอบคุณ) ก็จะทำให้เด็กรู้สึกว่าตัวเองมีความสำคัญ เป็นที่ต้องการ

2) ให้อิสระตัดสินใจเองตามความเหมาะสมแก่วัย
เด็กควรได้รับความไว้วางใจ มีอิสระในการเลือกสิ่งต่างๆด้วยตนเอง โดยผู้ใหญ่คอยแนะนำเมื่อเด็กต้องการและช่วยเหลือในส่วนที่เกินความสามารถ ไม่ใช่เข้าไปจัดการให้ทุกเรื่อง

การได้ฝึกคิดและตัดสินใจ ลองผิดลองถูก จะทำให้เด็กรู้จักรับผิดชอบ สามารถพึ่งตัวเองได้ แก้ปัญหาเป็น ทำให้มีความมั่นใจในตัวเอง เพราะหากผิดพลาด ก็จะเป็นประสบการณ์ที่เด็กควรได้เรียนรู้

เด็กบางคนแทบไม่เคยได้เลือกอะไรเลย ไม่ว่าอาหาร เสื้อผ้า ดนตรี กีฬา การเรียนยันอาชีพ พ่อแม่เลือกให้หมดด้วยความหวังดี แต่มองข้ามความต้องการของตัวเด็ก ซึ่งการเลี้ยงแบบปกป้องมากเกินไป (over protection) จะทำให้เด็กไม่รู้จักตัวเอง ไม่กล้าตัดสินใจเพราะกลัวผิด ในขณะเดียวกันก็เก็บกด ไม่มีความสุขกับสิ่งที่พ่อแม่คิดแทน รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รับการยอมรับ เพราะพ่อแม่ไม่เคยโอเคกับความคิดเห็นของเด็ก

3) รับฟังลูก :
การตั้งใจฟังคือการแสดงออกที่ง่ายและชัดที่สุด ที่เราจะแสดงให้เห็นว่าคนๆนั้นมีความสำคัญหรือมีความหมาย ไม่เพิกเฉยละเลยต่อความคิด ความรู้สึก สิ่งที่ลูกอยากจะบอกเล่า
เคารพความคิดเห็นของเด็ก แม้ว่าเราจะไม่เห็นด้วย สนทนากันอย่างให้เกียรติเฉกเช่นเดียวกับที่เราเคารพให้เกียรติลูกค้าหรือผู้ร่วมงาน

4) ชมเชยเมื่อเด็กทำได้ดี และปลอบใจเมื่อผิดหวัง
ชมเชยเมื่อเด็กทำได้ดี โดยไม่ต้องรอให้ต้องทำได้ดีมากๆหรือดีที่สุด หรือเฉพาะเรื่องใหญ่ๆถึงจะชื่นชมได้ เพื่อที่เด็กจะได้มีความมั่นใจในสิ่งที่ทำ สะสมความรู้สึกดีกับตัวเองว่า “ฉันทำได้”

หากผิดหวังก็คอยปลอบใจ ไม่ตำหนิให้อับอายหรือเปรียบเทียบกับเด็กคนอื่น ทำให้เด็กมีกำลังใจที่จะพัฒนา ไม่รู้สึกว่าตัวเองแย่ที่ทำไม่ได้ ไม่เอาคุณค่าของตัวเองไปผูกโยงกับคะแนนหรือความสำเร็จ
ที่สำคัญคือเด็กจะค่อยๆรู้ว่า สมหวัง-ผิดหวังนั้นเป็นของคู่กัน แม้เขาจะไม่ได้ทำทุกอย่างได้เลิศเลอไปเสียหมด แต่นั่นมันก็ไม่ได้ทำให้พ่อแม่ไม่รักเขา

พ่อแม่บางคนไม่เคยชมเลยเมื่อเด็กได้ที่1 แต่จะว่าเมื่อไม่ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะนอกจากเป็นการปลูกฝังค่านิยมที่ผิดๆว่า เก่งคือดี เด็กจะสงสัยในคุณค่าของตัวเอง และรู้สึกว่าพยายามสักเท่าไหร่ก็ไม่เคยดีพอสักที

สิ่งที่พ่อแม่ควรเน้นคือ เจตนามากกว่าผลลัพธ์ ชื่นชมที่ลูกมีความตั้งใจ มีความพยายาม แทนที่จะไปให้ความสำคัญกับความสำเร็จสุดท้ายเพียงอย่างเดียว

5) ตักเตือนอย่างเหมาะสม
หากเด็กทำไม่ถูก ให้ตักเตือน และบอกว่าที่ถูกควรจะทำยังไง เน้นที่การกระทำไม่ใช่ตัวบุคคล เช่น "แม่ไม่ชอบที่หนูเล่นของเล่นเสร็จแล้วไม่เก็บเข้าที่ เรามาช่วยกันเก็บนะ" แทนที่จะพูดว่า ทำไมเป็นคนไม่มีระเบียบแบบนี้ บลาๆๆ
พูดเป็นเรื่องๆ ไม่ควรบอกซ้ำๆย้ำไปย้ำมา ไม่ตำหนิไปทุกเรื่องเพราะจะทำให้เด็กรู้สึกว่าตัวเองแย่มาก (ในสายตาของพ่อแม่) ทำอะไรก็ผิดไปหมด ไม่ดีสักอย่าง

6) ให้อภัย เมื่อลูกทำผิดพลาด
ไม่ซ้ำเติม แต่ชี้แนะและเป็นกำลังใจ ไม่มีใครทำทุกอย่างถูกต้องเหมาะสมไปเสียหมด แม้แต่ตัวพ่อแม่เองก็ตาม แล้วนับประสาอะไรกับผู้ที่มีประสบการณ์ชีวิตน้อยกว่าเราเป็นสิบปี

* * * * *

ที่พูดมาทั้งหมดนั้นจะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อ พ่อแม่ "ยอมรับ" ในสิ่งที่เด็กเป็น

อย่าลืมว่า ลูกจะ "มองเห็น" ว่าตัวเองเป็นอย่างไร ก็ขึ้นกับภาพที่พ่อแม่ "สะท้อน" อยู่เรื่อยๆ

ไม่ว่าลูกจะเป็นเพศไหน ชอบเพศเดียวกันหรือเพศตรงข้าม มีความสามารถอะไร มีความชอบในด้านไหน ทำอะไรได้ ทำอะไรพลาด
หากพ่อแม่ "พอใจ" เด็กก็จะรู้สึกว่าตัวเองนั้น "ดีพอ"

ซึ่งหากเราได้แสดงออกถึงความรักและความภาคภูมิใจในตัวลูกให้เขารับรู้แล้ว ความรู้สึกว่าตัวเองมีความสามารถ ดีพอ มีคุณค่า และเป็นที่รักเป็นที่ต้องการ ก็จะเกิดขึ้นและสะสมจนเป็นความเข้มแข็งทางจิตใจในที่สุด

~**~**~**~**~**~**~**~**~**~**~**

เครดิตบทความ : หมอคลองหลวง/หมอมีฟ้า
เครดิตภาพ : https://images.app.goo.gl/LsiiLTapzSCkmevq7

24/07/2025

#คู่มือปู่ย่าตายายในยุคที่โลกเปลี่ยนไปแล้ว

โดย นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

*•*•*•*•*•*•*•*•*•*•*•*•*•*•*•*•*•*•

1.เราหมดหน้าที่แล้ว วันนี้เขามีงานทำ มีเงินใช้ มีคู่ชีวิต และมีลูกของตนเอง เขาเป็นผู้ใหญ่ (adult) เราควรถอยออกมา

2.เราเป็นที่พึ่งได้ เป็นที่ปรึกษา เป็นผู้ฟังที่ดี ให้คำแนะนำ ให้ยืมเงินได้ แต่ไม่ควรก้าวก่ายชีวิตหรือการตัดสินใจของพวกเขา ปล่อยเขาทำแล้วรับผลที่ตัวเองทำเสมอ

3.เราไม่ควรคาดหวังให้พวกเขาเลี้ยงดูเรา หรือทำอะไรให้เรา เราควรอยู่ด้วยตนเอง และรอเวลาหมดอายุขัย ความกตัญญูและความเคารพเป็นของบังคับมิได้ เราวางตัวดีก็จะมาเอง

4.หลานจำเป็นต้องมีพ่อแม่เป็นเสาหลัก ไม่ใช่เรา เพราะหลานจะต้องใช้พ่อแม่ไปอีก 20-25 ปีกว่าจะเป็นผู้ใหญ่ (adult) เต็มตัว ดังนั้นอย่าแย่งหลานมา อย่าไปขโมยมานอนด้วย อย่าเสี้ยมสอนหลาน อย่าสปอยล์ และอย่าให้เงินหลานใช้ ทำให้หลานรู้ว่าพ่อแม่คือบุคคลสำคัญอันดับหนึ่ง มิใช่เรา

5.ระลึกเสมอว่าเราจะอยู่อีกไม่นาน ดังนั้นอย่าทำให้หลานเดือดร้อนเมื่อเราตาย หลานต้องมีพ่อแม่ตลอดไป ไม่ใช่มีแต่เรา แล้วไม่มีพ่อแม่

6.อย่าป้อนข้าวหลาน อย่าให้หลานดูหน้าจอ อย่าขู่หลานเล่นสนุก อย่าถามหลานว่ารักใครมากที่สุด อย่าวิพากษ์วิจารณ์พ่อแม่ของเขาเสียๆหายๆต่อหน้าหลานหรือแม้กระทั่งให้หลานฟัง

การกระทำทั้งหมดนี้อาจจะสร้าง “ปัญหาทางจิตเวช” ให้แก่หลานในอนาคต ตอนนั้นเราไม่อยู่พาเขาไปรอคิวที่ รพ เราจะเป็นคนทำแก้วแตกแล้วหนี

*•*•*•*•*•*•*•*•*•*•*•*•*•*•*•*•*•*•
เครดิตภาพ : https://images.app.goo.gl/MiAhaH2LQP6DieCe7

มาเพิ่มเพื่อนกันค่ะ สอบถามและรับข้อมูลโปรฯ ใหม่ๆ 🥰🙏
17/06/2025

มาเพิ่มเพื่อนกันค่ะ สอบถามและรับข้อมูลโปรฯ ใหม่ๆ 🥰🙏

Open the Friends tab in your LINE app, tap the add friends icon inthe top right, select "QR code," and then scan this QR code.

ของเข้าแล้วจ้า     #ชุดตรวจโควิด @ผู้ติดตาม  #ผู้ติดตาม
30/05/2025

ของเข้าแล้วจ้า
#ชุดตรวจโควิด @ผู้ติดตาม #ผู้ติดตาม

28/05/2025

ต้องยอมรับเลยว่าหลายครั้งที่เรามักเข้าใจผิดว่าเวลาท้องเสียแล้วสามารถดื่มน้ำอัดลมผสมเกลือได้ ใครที่เคยทำแบบนี้ต้องอ่าน #อย #ท้องเสีย #น้ำอัดลมผสมเกลือ #ผงน้ำตาลเกลือแร่ #ผงเกลือแร่

สามารถติดตามบทความและข้อมูลอ้างอิงต่อได้ที่..>>https://oryor.com/media/infoGraphic/media_printing/2365

ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารสุขภาพดี ๆ จาก อย. มาเป็นเพื่อนไลน์กับเราได้ที่ TikTok : เพียงแค่คลิก https://www.tiktok.com/

28/05/2025

วันที่ 21 พฤษภาคมของทุกปี เป็นวันที่องค์การสหประชาชาติประกาศให้เป็น "วันชาสากล" (International Tea Day) เพื่อเฉลิมฉลองคุณค่าทางวัฒนธรรม เศรษฐกิจ และสุขภาพของชา เครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดชนิดหนึ่งของโลก สำหรับวันนี้ อย. ขอเสนอเรื่องการใช้สีผสมอาหารในชาปรุงสำเร็จ เพราะเสน่ห์ของ ชา ที่มัดใจใครหลายๆ คนให้หลงใหล คงหนีไม่พ้นเรื่องของรสชาติกับกลิ่นหอมที่ดึงดูดใจ และคงรวมไปถึงสีสันที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้เกิดคำถามตามมาว่า ชาสีสันต่าง ๆ ที่เราดื่มนั้นมันเป็นสีจากธรรมชาติหรือมาจากการเติมแต่งเข้าไป วันนี้ อย. ชวนมาหาคำตอบกัน #อย #วันชาสากล #ผลิตภัณฑ์อาหาร #ชาปรุงสำเร็จกัน #ชา #สีจากธรรมชาติ #สีสัน

สามารถติดตามบทความและข้อมูลอ้างอิงต่อได้ที่..>>https://oryor.com/media/infoGraphic/media_printing/2235

ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารสุขภาพดี ๆ จาก อย. มาเป็นเพื่อนไลน์กับเราได้ที่ TikTok : เพียงแค่คลิก https://www.tiktok.com/

28/05/2025

หลายคนสงสัย “หายจากโควิด-19 แล้ว...บริจาคโลหิตได้ไหม?”
#โควิด19 #บริจาคโลหิต

เพิ่มช่องทางการติดต่อค่ะ มาเป็นเพื่อนกันนะคะ 🥰❤️🔗 https://lin.ee/2kPi05w ผู้ติดตาม 8,529,179คน  #ผู้ติดตาม @ผู้ติดตาม
28/05/2025

เพิ่มช่องทางการติดต่อค่ะ มาเป็นเพื่อนกันนะคะ 🥰❤️
🔗 https://lin.ee/2kPi05w
ผู้ติดตาม 8,529,179คน #ผู้ติดตาม @ผู้ติดตาม

08/05/2025

📊ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 (1 ม.ค. - 7 พ.ค. 68)
ในกราฟแท่งสีส้ม เปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า

กรมควบคุมโรคชี้จำนวนผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มลดลง

08/05/2025

#โควิด19 คาด การแพร่ระบาดเกิดจากช่วงของการรวมกลุ่มของคนเป็นจำนวนมากในช่วงสงกรานต์
🦠 สามารถพบผู้ป่วยได้ตลอดทั้งปี และพบผู้ป่วยตามฤดูฝน ย้ำ ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันส่วนบุคคล
😷 หากจำเป็นต้องเข้าไปในพื้นที่ที่มีคนหมู่มากหรือแออัด สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือบ่อย ๆ หากมีอาการป่วยให้รีบไปพบแพทย์
ที่มา: กองระบาดวิทยา

08/05/2025

UPDATE: 'โรคแอนแทรกซ์' ยันไม่ติดต่อจากคนสู่คน ชี้ช่องทางแพร่เชื้อ 3 ทาง แนะวิธีสังเกตอาการ-ป้องกัน

วันนี้ (7 พ.ค. 68) นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยข้อมูลจากกรมควบคุมโรคเกี่ยวกับโรคแอนแทรกซ์ (Anthrax) ว่าเป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Bacillus anthracis ซึ่งพบได้ทั่วไปในธรรมชาติ เช่น ดินและน้ำ โดยสปอร์ของเชื้อมีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมและสามารถก่อโรคได้นานหลายสิบปี โดยเฉพาะในดินที่มีซากสัตว์ตายด้วยโรคนี้ ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคยืนยันว่ายังไม่มีข้อมูลการติดต่อจากคนสู่คน ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก

รองโฆษกฯ กล่าวว่า สัตว์ที่เป็นพาหะส่วนใหญ่คือ โค กระบือ แพะ และแกะ โดยสัตว์ที่ติดเชื้อจะมีไข้ ซึม ไม่กินอาหาร เจ็บป่วยไม่ทราบสาเหตุและเสียชีวิต การติดเชื้อในคนส่วนใหญ่เกิดจากการสัมผัสโดยตรงกับสัตว์ที่ติดเชื้อ เช่น การชำแหละเนื้อสัตว์ การบริโภคเนื้อสัตว์ดิบหรือปรุงไม่สุก หรือการสัมผัสหนังสัตว์หรือขนสัตว์ที่มีสปอร์ของเชื้อ

เชื้อโรคแอนแทรกซ์สามารถแพร่สู่คนได้ 3 ทาง ได้แก่ ทางแรก คือการสัมผัสจากการชำแหละสัตว์ที่ป่วยตาย โดยสปอร์ของเชื้อเข้าสู่บาดแผลหรือรอยถลอก อาการจะเริ่มแสดงหลังสัมผัสโรคประมาณ 1-7 วันหรือนานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับเชื้อและผู้ได้รับเชื้อ เริ่มจากเป็นตุ่มที่ผิวหนัง ตามด้วยตุ่มน้ำใส และแตกออกเป็นแผลหลุมสีดำคล้ายรอยบุหรี่จี้ หากไม่ได้รับการรักษา เชื้ออาจลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลืองและกระจายไปตามกระแสเลือด ทำให้เกิดภาวะโลหิตเป็นพิษได้ ทางที่สอง คือการรับประทานเนื้อสัตว์ที่ป่วยตายแบบดิบหรือปรุงไม่สุก ซึ่งอาจทำให้ติดเชื้อในทางเดินอาหาร มีอาการไข้สูง ไม่สบายท้อง คลื่นไส้ อาเจียน คล้ายอาการอาหารเป็นพิษ หากไม่ได้รับการรักษา อาจติดเชื้อในกระแสเลือดจนเสียชีวิตได้ และทางที่สาม ซึ่งพบได้น้อยกว่า คือการหายใจเอาสปอร์ของเชื้อเข้าไป โดยเชื้ออาจปนเปื้อนบริเวณที่สัตว์ป่วยหรือเสียชีวิตและคงอยู่ได้นานเป็นเดือนหรือปี ผู้ป่วยจะมีอาการไข้ ปวดเมื่อยตามตัว ไอ หายใจลำบาก หน้าเขียวคล้ำ และอาจเสียชีวิตจากระบบหายใจล้มเหลว

นายอนุกูล กล่าวเพิ่มเติมถึงการป้องกันโรคแอนแทรกซ์ว่า กรมควบคุมโรคแนะนำให้ประชาชนสวมถุงมือในการชำแหละหรือปรุงเนื้อสัตว์ และล้างมือให้สะอาดเพื่อลดการปนเปื้อน ควรปรุงอาหารให้สุกเพื่อทำลายเชื้อแบคทีเรีย และเลือกซื้อเนื้อสัตว์จากแหล่งที่เชื่อถือได้และได้มาตรฐาน หากพบอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ เนื่องจากโรคนี้สามารถรักษาให้หายได้ด้วยยาปฏิชีวนะ ในกรณีที่สัมผัสเชื้อแต่ยังไม่มีอาการป่วย แพทย์อาจให้ยาป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดอาการรุนแรง หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422

#เดอะรีพอร์เตอร์ #โรคแอนแทรกซ์ #กรมควบคุมโรค

ที่อยู่

466 ม. 17 ต. กุดชุม อ. กุดชุม
Kut Chum
35140

เวลาทำการ

จันทร์ 06:00 - 20:00
อังคาร 06:00 - 20:00
พุธ 06:00 - 20:00
พฤหัสบดี 06:00 - 20:00
ศุกร์ 06:00 - 20:00
เสาร์ 06:00 - 20:00
อาทิตย์ 06:00 - 20:00

เบอร์โทรศัพท์

+66 45 789 031

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ สถาพรเภสัช อ.กุดชุม จ.ยโสธรผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram