
24/05/2025
🌻ว่าด้วยเรื่องการกิน....✌️✌️
#ความเข้าใจผิดเรื่องยาลดกรด #พร้อมแนวทางฟื้นฟู
ยาลดกรด นี่คือโศกนาฏกรรมที่เงียบงันของคนเป็นกรดไหลย้อนในประเทศไทย
และมันไม่ใช่เพราะโรคมันร้ายแรงถึงขนาดนั้น แต่เพราะ “ความเข้าใจผิดที่ฝังลึก” ต่างหากที่ทำให้คนจำนวนมากติดอยู่ในวังวนของโรคนี้อย่างไม่มีวันฟื้น
หลายคนเข้าใจว่า “กรดไหลย้อน คือ กรดมากเกินไป”
แต่จริง ๆ แล้ว... คนส่วนใหญ่ที่เป็นกรดไหลย้อน เกิดจากน้ำย่อยไม่พอ รวมถึงความผิดปกติของระบบประสาทอัตโนมัติ
ทำให้ลำไส้อ่อนแรง กระเพาะบีบตัวผิดปกติ อาหารไม่ย่อย แล้วก็ก่อให้เกิดแก๊ส บูด หมัก คั่ง ย้อนขึ้นมา
แต่คนไข้ถูกจูงไปทางเดียว คือ “กินยาลดกรด”
พออาการยังไม่ดีขึ้น หมอก็เพิ่มขนาดยา
จากวันละ 2 ครั้ง - เป็น 3 ครั้ง - จนกลายเป็น “จิบทุกชั่วโมง”
กินจนร่างกายไม่รู้จักความหิว ไม่รู้จักการย่อย
บางคนกินจนถึงจุดที่ “กลัวอาหารทุกชนิด”
ข้าวก็ไม่กล้ากิน เพราะกลัวมันจะย่อยไม่ได้แล้วจะไหลย้อนอีก
มันสะเทือนใจครับ...
เพราะนี่คือการที่ระบบย่อย ซึ่งเป็นระบบพื้นฐานที่สุดของร่างกาย
ถูกทำให้หยุดทำงานด้วย "ความเข้าใจผิด" แบบเป็นระบบ
ความเข้าใจผิดนี้ฝังอยู่ในสังคมเรานานมากแล้ว
ใครเป็นกรดไหลย้อน หมอให้ยาลดกรดก่อนเป็นลำดับแรก
ไม่เคยเช็กเลยว่าคนคนนั้น
- เคี้ยวอาหารดีไหม
- กินเร็วเกินไหม
- ลำไส้ขยับตัวเป็นปกติหรือเปล่า
- ระบบประสาทอัตโนมัติแปรปรวนเพราะนอนไม่พอ เครียดจัด หรือใช้ชีวิตผิดจังหวะหรือเปล่า
สุดท้ายพอกดกรดไปเรื่อย ๆ ก็เลยไปกด “ไฟชีวิต” ของระบบย่อยทั้งก้อน
พอไม่มีกรด อาหารก็ย่อยไม่ได้
พอย่อยไม่ได้ ของเสียก็หมักหมม
พอของเสียหมักหมม ลำไส้ก็พัง
พอลำไส้พัง ก็ดูดซึมไม่ได้
พอดูดซึมไม่ได้ ก็ผอม ซีด เหนื่อย กลัวอาหาร น้ำหนักลด กินอะไรไม่ลง
ร่างกายทรุดลงทุกวัน แล้วก็บอกตัวเองว่า "เป็นเพราะกรดไหลย้อน"
แต่จริง ๆ แล้ว มันคือ
เพราะเราดับไฟย่อยเอง ด้วยความไม่รู้ และเพราะไม่มีใครบอกทางออกที่แท้จริง
ที่น่าเศร้าคือ หลายคนพร้อมจะดูแลตัวเอง
แต่อยู่ในระบบที่มีแค่ “ยา” เป็นคำตอบ
ไม่มีใครพูดถึงเรื่องพฤติกรรม
ไม่มีใครอธิบายเรื่องจังหวะการกิน การย่อย การเดินหลังอาหาร การเคี้ยวให้ละเอียด
ไม่มีใครบอกว่า ระบบประสาทอัตโนมัติที่เสียสมดุล ก็ฟื้นได้ ถ้าเรารู้จังหวะชีวิตที่ควรเดิน
มันถึงเวลาที่ต้องพูดเรื่องนี้กันอย่างจริงจังครับ
เพื่อปลดปล่อยผู้ป่วยออกจากความเข้าใจผิด
เพื่อให้เขารู้ว่า “เราฟื้นได้”
และไม่ต้องจิบยาทุกชั่วโมงไปตลอดชีวิต
__________________
แนวทางฟื้นฟูแบบแบ่งระดับ สำหรับผู้ที่มีอาการกรดไหลย้อน ทั้งที่ยังพอกินได้ กินได้น้อย และคนที่ติดยาลดกรดเรื้อรัง ซึ่งจะอิงกับหลักฟื้นฟูระบบย่อย - ลำไส้ - ระบบประสาทอัตโนมัติ โดยไม่เร่ง ไม่รุนแรง ปลอดภัย และทำได้จริง
กลุ่มที่ 1 ยังกินอาหารได้ แต่มีอาการแน่น อืด เรอ เปรี้ยว เจ็บคอ
เป้าหมายคือ...
- ฟื้นน้ำย่อยโดยไม่เร่ง
- ลดแก๊สเก่า
- กระตุ้นลำไส้ให้เคลื่อนไหวดี
- เลิกพึ่งยาลดกรดแบบพึ่งพิง
สิ่งที่ควรทำคือ...
1. เริ่มวันด้วยน้ำอุ่น + เดินเบา ๆ 10 - 15 นาที
จะช่วยปลุกระบบประสาทพาราซิมพาเทติก ให้ระบบย่อยทำงาน
2. เคี้ยวอาหารให้ละเอียดมาก ๆ
20 - 30 ครั้งต่อคำ ช่วยย่อยครึ่งหนึ่งได้ตั้งแต่ปาก
3. มื้ออาหารให้เล็กลง แต่ถี่ขึ้น
ทานวันละ 4–5 มื้อเล็ก ๆ ไม่กินอิ่มเกิน
4. งดน้ำเย็น น้ำหวาน ของหวาน ผลไม้ นมวัว กลูเตน ของทอด
พวกนี้ก่อเมือกร้าย ก่อกรด ก่อแก๊สทั้งนั้น
5. หลังอาหารเดินช้า ๆ 15 - 30 นาที
ไม่นอน ไม่นั่งหลังงอ ช่วยไม่ให้กรดย้อนกลับ
6. ใช้น้ำสมุนไพรอ่อน ๆ จิบระหว่างวัน
เช่น “ต้มยำไซเดอร์เจือจาง” ช่วยขับลม ลดแก๊ส ช่วยย่อย
7. ขับถ่ายให้ได้ทุกวัน
ถ้าไม่ถ่าย ร่างกายจะวนพิษกลับขึ้นมาทางกระเพาะและคอ
_________________
กลุ่มที่ 2 เริ่มกินอะไรไม่ลง กินแล้วจุก เรอบ่อย กลัวอาหาร
เป้าหมายคือ...
- สร้างความไว้วางใจใหม่ให้ระบบย่อย
- ให้ของเหลวที่ย่อยง่าย ผ่านง่าย
- ช่วยให้ร่างกายรู้สึก “ปลอดภัย”
สิ่งที่ควรทำคือ...
1. เปลี่ยนจากอาหารแข็ง เป็นน้ำซุป + ข้าวหุงนิ่มๆ
เช่น ซุปฟัก ซุปผักหวาน ซุปฟักทอง ซุปปลา ไม่ปรุงจัด ไม่มันจัด ไม่หวาน (งดข้าวต้ม เพราะจะลงสู่ลำไส้เร็ว เกิดแก็ส ท้องอืด)
2. ใช้สูตร “จิบ - รอ - เดิน”
คือ จิบซุปเล็กน้อย แล้วพัก 5 นาที แล้วเดินเบา ๆ
แล้วค่อยจิบซ้ำอีกรอบ ทำแบบนี้แทนการนั่งกินทีเดียวจบ
3. จิบน้ำสมุนไพรอ่อน ๆ เช่น น้ำต้มยำไซเดอร์ โดยให้ชง1ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำ1.5ลิตร จิบกินทุกครึ่งชั่วโมง
4. หายใจลึกวันละ 3 รอบ (รอบละ 10 ลมหายใจ)
เช้า หลังเที่ยง ก่อนนอน เพื่อลดการตื่นตัวของระบบประสาทซิมพาเทติก
5. นวดกดสันหลัง
ช่วยกันไม่ให้กรดย้อนง่าย
6. ไม่กินอาหารแข็ง ไม่กินผลไม้เปลือกแข็ง ไม่กินผักแข็งๆ ไม่กินของหมักแรง ๆ ไม่กินถั่วเปลือกแข็ง
เพราะลำไส้ยังไม่พร้อมรับ
_____________
กลุ่มที่ 3 ติดยาลดกรดเรื้อรัง จิบเกือบทุกชั่วโมง อยากเลิกแต่กลัว
เป้าหมายคือ...
- ปลดออกจากการพึ่งยาแบบค่อยเป็นค่อยไป
- ฟื้นระบบย่อยจากฐาน
- สร้างความมั่นคงทางใจและประสาทอัตโนมัติ
สิ่งที่ควรทำคือ...
1. ไม่เลิกยาทันที แต่ “เลื่อนเวลา” ทีละ 30 - 60 นาทีทุก 2 - 3 วัน
เช่น เดิมจิบทุก 2 ชม. ก็ค่อย ๆ เป็นทุก 2.5 ชม. หรือทุก 3 ชม. ปรับแบบนี้เรื่อย ๆ
ร่างกายจะได้ค่อย ๆ เรียนรู้ว่ามันอยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งตลอดเวลา
2. เสริม น้ำต้มยำไซเดอร์ หรือชุดงามไส้
เพื่อช่วยระบายแก๊ส ลดแรงดันจากล่างขึ้นบน
3. เปลี่ยนอาหารแข็งเป็น “อาหารย่อยง่ายเคี้ยวละเอียด”
- ข้าวสวยนุ่ม + ฟัก + ไข่ตุ๋น + ปลาต้มเปื่อย
- ซุปผักราก เช่น ฟักทอง แครอท หัวไชเท้า
4. งดสิ่งกระตุ้นการไหลย้อนทั้งหมดเด็ดขาด
- กาแฟ ชา ช็อกโกแลต นมวัว และผลิตภัณฑ์จากนมวัว
- แป้งขาว น้ำตาล ผลไม้ ของหมักดองจัด อาหารสเผ็ด รสเปรี้ยว
5. สร้างกิจวัตรซ้ำเดิมทุกวัน
ตื่น นอน เดิน กิน ให้เป็นเวลา
ช่วยปรับระบบประสาทอัตโนมัติให้รู้สึก “ปลอดภัย”
6. ไม่ใช้หมอนสูงมาก แต่นอนพิงหลังเบา ๆ
เพราะหมอนสูงเกินจะกดคอ ทำให้จุกมากกว่าเดิม
เสริมท้าย...
จำไว้นะ...ยิ่งอาการหนัก ใจยิ่งต้องเบา
การจะออกจากวังวนของกรดไหลย้อนที่ซับซ้อนไม่ใช่เรื่องวันสองวัน
แต่ทุกคนที่ฟื้นได้ ล้วนเริ่มจาก “เชื่อว่าร่างกายฟื้นได้”
เมื่อให้โอกาสมันพัก ให้โอกาสมันย่อย ให้โอกาสมันหายใจ
มันจะค่อย ๆ กลับมา เหมือนดินแตกระแหงที่ได้รับน้ำ
ร่างกายเราฟื้นตัวได้ครับ ถ้าไม่เร่ง ไม่กด แต่ “ดูแลให้ตรงจุด”
การกินยาลดกรดเรื่อย ๆ มันคือทางลง
แต่การฟื้นระบบย่อยจากพื้นฐาน คือทางขึ้นที่ยั่งยืน
ด้วยรักจากอาจาน.
บทความเพิ่มเติม
https://www.facebook.com/share/p/1BHqrHrccK/