โชติเวช

โชติเวช โชติเวช ร้านขายยา และ อาหารสัตว์เลี? สนใจสินค้าตัวไหนสอบถามได้เลยจ้า

🌻ว่าด้วยเรื่องการกิน....✌️✌️
24/05/2025

🌻ว่าด้วยเรื่องการกิน....✌️✌️

#ความเข้าใจผิดเรื่องยาลดกรด #พร้อมแนวทางฟื้นฟู
ยาลดกรด นี่คือโศกนาฏกรรมที่เงียบงันของคนเป็นกรดไหลย้อนในประเทศไทย
และมันไม่ใช่เพราะโรคมันร้ายแรงถึงขนาดนั้น แต่เพราะ “ความเข้าใจผิดที่ฝังลึก” ต่างหากที่ทำให้คนจำนวนมากติดอยู่ในวังวนของโรคนี้อย่างไม่มีวันฟื้น

หลายคนเข้าใจว่า “กรดไหลย้อน คือ กรดมากเกินไป”
แต่จริง ๆ แล้ว... คนส่วนใหญ่ที่เป็นกรดไหลย้อน เกิดจากน้ำย่อยไม่พอ รวมถึงความผิดปกติของระบบประสาทอัตโนมัติ
ทำให้ลำไส้อ่อนแรง กระเพาะบีบตัวผิดปกติ อาหารไม่ย่อย แล้วก็ก่อให้เกิดแก๊ส บูด หมัก คั่ง ย้อนขึ้นมา

แต่คนไข้ถูกจูงไปทางเดียว คือ “กินยาลดกรด”
พออาการยังไม่ดีขึ้น หมอก็เพิ่มขนาดยา
จากวันละ 2 ครั้ง - เป็น 3 ครั้ง - จนกลายเป็น “จิบทุกชั่วโมง”
กินจนร่างกายไม่รู้จักความหิว ไม่รู้จักการย่อย
บางคนกินจนถึงจุดที่ “กลัวอาหารทุกชนิด”
ข้าวก็ไม่กล้ากิน เพราะกลัวมันจะย่อยไม่ได้แล้วจะไหลย้อนอีก

มันสะเทือนใจครับ...
เพราะนี่คือการที่ระบบย่อย ซึ่งเป็นระบบพื้นฐานที่สุดของร่างกาย
ถูกทำให้หยุดทำงานด้วย "ความเข้าใจผิด" แบบเป็นระบบ

ความเข้าใจผิดนี้ฝังอยู่ในสังคมเรานานมากแล้ว
ใครเป็นกรดไหลย้อน หมอให้ยาลดกรดก่อนเป็นลำดับแรก
ไม่เคยเช็กเลยว่าคนคนนั้น
- เคี้ยวอาหารดีไหม
- กินเร็วเกินไหม
- ลำไส้ขยับตัวเป็นปกติหรือเปล่า
- ระบบประสาทอัตโนมัติแปรปรวนเพราะนอนไม่พอ เครียดจัด หรือใช้ชีวิตผิดจังหวะหรือเปล่า

สุดท้ายพอกดกรดไปเรื่อย ๆ ก็เลยไปกด “ไฟชีวิต” ของระบบย่อยทั้งก้อน
พอไม่มีกรด อาหารก็ย่อยไม่ได้
พอย่อยไม่ได้ ของเสียก็หมักหมม
พอของเสียหมักหมม ลำไส้ก็พัง
พอลำไส้พัง ก็ดูดซึมไม่ได้
พอดูดซึมไม่ได้ ก็ผอม ซีด เหนื่อย กลัวอาหาร น้ำหนักลด กินอะไรไม่ลง
ร่างกายทรุดลงทุกวัน แล้วก็บอกตัวเองว่า "เป็นเพราะกรดไหลย้อน"

แต่จริง ๆ แล้ว มันคือ
เพราะเราดับไฟย่อยเอง ด้วยความไม่รู้ และเพราะไม่มีใครบอกทางออกที่แท้จริง

ที่น่าเศร้าคือ หลายคนพร้อมจะดูแลตัวเอง
แต่อยู่ในระบบที่มีแค่ “ยา” เป็นคำตอบ
ไม่มีใครพูดถึงเรื่องพฤติกรรม
ไม่มีใครอธิบายเรื่องจังหวะการกิน การย่อย การเดินหลังอาหาร การเคี้ยวให้ละเอียด
ไม่มีใครบอกว่า ระบบประสาทอัตโนมัติที่เสียสมดุล ก็ฟื้นได้ ถ้าเรารู้จังหวะชีวิตที่ควรเดิน

มันถึงเวลาที่ต้องพูดเรื่องนี้กันอย่างจริงจังครับ
เพื่อปลดปล่อยผู้ป่วยออกจากความเข้าใจผิด
เพื่อให้เขารู้ว่า “เราฟื้นได้”
และไม่ต้องจิบยาทุกชั่วโมงไปตลอดชีวิต

__________________

แนวทางฟื้นฟูแบบแบ่งระดับ สำหรับผู้ที่มีอาการกรดไหลย้อน ทั้งที่ยังพอกินได้ กินได้น้อย และคนที่ติดยาลดกรดเรื้อรัง ซึ่งจะอิงกับหลักฟื้นฟูระบบย่อย - ลำไส้ - ระบบประสาทอัตโนมัติ โดยไม่เร่ง ไม่รุนแรง ปลอดภัย และทำได้จริง

กลุ่มที่ 1 ยังกินอาหารได้ แต่มีอาการแน่น อืด เรอ เปรี้ยว เจ็บคอ

เป้าหมายคือ...

- ฟื้นน้ำย่อยโดยไม่เร่ง

- ลดแก๊สเก่า

- กระตุ้นลำไส้ให้เคลื่อนไหวดี

- เลิกพึ่งยาลดกรดแบบพึ่งพิง

สิ่งที่ควรทำคือ...

1. เริ่มวันด้วยน้ำอุ่น + เดินเบา ๆ 10 - 15 นาที
จะช่วยปลุกระบบประสาทพาราซิมพาเทติก ให้ระบบย่อยทำงาน

2. เคี้ยวอาหารให้ละเอียดมาก ๆ
20 - 30 ครั้งต่อคำ ช่วยย่อยครึ่งหนึ่งได้ตั้งแต่ปาก

3. มื้ออาหารให้เล็กลง แต่ถี่ขึ้น
ทานวันละ 4–5 มื้อเล็ก ๆ ไม่กินอิ่มเกิน

4. งดน้ำเย็น น้ำหวาน ของหวาน ผลไม้ นมวัว กลูเตน ของทอด
พวกนี้ก่อเมือกร้าย ก่อกรด ก่อแก๊สทั้งนั้น

5. หลังอาหารเดินช้า ๆ 15 - 30 นาที
ไม่นอน ไม่นั่งหลังงอ ช่วยไม่ให้กรดย้อนกลับ

6. ใช้น้ำสมุนไพรอ่อน ๆ จิบระหว่างวัน
เช่น “ต้มยำไซเดอร์เจือจาง” ช่วยขับลม ลดแก๊ส ช่วยย่อย

7. ขับถ่ายให้ได้ทุกวัน
ถ้าไม่ถ่าย ร่างกายจะวนพิษกลับขึ้นมาทางกระเพาะและคอ

_________________

กลุ่มที่ 2 เริ่มกินอะไรไม่ลง กินแล้วจุก เรอบ่อย กลัวอาหาร

เป้าหมายคือ...

- สร้างความไว้วางใจใหม่ให้ระบบย่อย

- ให้ของเหลวที่ย่อยง่าย ผ่านง่าย

- ช่วยให้ร่างกายรู้สึก “ปลอดภัย”

สิ่งที่ควรทำคือ...

1. เปลี่ยนจากอาหารแข็ง เป็นน้ำซุป + ข้าวหุงนิ่มๆ
เช่น ซุปฟัก ซุปผักหวาน ซุปฟักทอง ซุปปลา ไม่ปรุงจัด ไม่มันจัด ไม่หวาน (งดข้าวต้ม เพราะจะลงสู่ลำไส้เร็ว เกิดแก็ส ท้องอืด)

2. ใช้สูตร “จิบ - รอ - เดิน”
คือ จิบซุปเล็กน้อย แล้วพัก 5 นาที แล้วเดินเบา ๆ
แล้วค่อยจิบซ้ำอีกรอบ ทำแบบนี้แทนการนั่งกินทีเดียวจบ

3. จิบน้ำสมุนไพรอ่อน ๆ เช่น น้ำต้มยำไซเดอร์ โดยให้ชง1ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำ1.5ลิตร จิบกินทุกครึ่งชั่วโมง

4. หายใจลึกวันละ 3 รอบ (รอบละ 10 ลมหายใจ)
เช้า หลังเที่ยง ก่อนนอน เพื่อลดการตื่นตัวของระบบประสาทซิมพาเทติก

5. นวดกดสันหลัง
ช่วยกันไม่ให้กรดย้อนง่าย

6. ไม่กินอาหารแข็ง ไม่กินผลไม้เปลือกแข็ง ไม่กินผักแข็งๆ ไม่กินของหมักแรง ๆ ไม่กินถั่วเปลือกแข็ง
เพราะลำไส้ยังไม่พร้อมรับ

_____________

กลุ่มที่ 3 ติดยาลดกรดเรื้อรัง จิบเกือบทุกชั่วโมง อยากเลิกแต่กลัว

เป้าหมายคือ...

- ปลดออกจากการพึ่งยาแบบค่อยเป็นค่อยไป

- ฟื้นระบบย่อยจากฐาน

- สร้างความมั่นคงทางใจและประสาทอัตโนมัติ

สิ่งที่ควรทำคือ...

1. ไม่เลิกยาทันที แต่ “เลื่อนเวลา” ทีละ 30 - 60 นาทีทุก 2 - 3 วัน
เช่น เดิมจิบทุก 2 ชม. ก็ค่อย ๆ เป็นทุก 2.5 ชม. หรือทุก 3 ชม. ปรับแบบนี้เรื่อย ๆ
ร่างกายจะได้ค่อย ๆ เรียนรู้ว่ามันอยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งตลอดเวลา

2. เสริม น้ำต้มยำไซเดอร์ หรือชุดงามไส้
เพื่อช่วยระบายแก๊ส ลดแรงดันจากล่างขึ้นบน

3. เปลี่ยนอาหารแข็งเป็น “อาหารย่อยง่ายเคี้ยวละเอียด”
- ข้าวสวยนุ่ม + ฟัก + ไข่ตุ๋น + ปลาต้มเปื่อย
- ซุปผักราก เช่น ฟักทอง แครอท หัวไชเท้า

4. งดสิ่งกระตุ้นการไหลย้อนทั้งหมดเด็ดขาด
- กาแฟ ชา ช็อกโกแลต นมวัว และผลิตภัณฑ์จากนมวัว
- แป้งขาว น้ำตาล ผลไม้ ของหมักดองจัด อาหารสเผ็ด รสเปรี้ยว

5. สร้างกิจวัตรซ้ำเดิมทุกวัน
ตื่น นอน เดิน กิน ให้เป็นเวลา
ช่วยปรับระบบประสาทอัตโนมัติให้รู้สึก “ปลอดภัย”

6. ไม่ใช้หมอนสูงมาก แต่นอนพิงหลังเบา ๆ
เพราะหมอนสูงเกินจะกดคอ ทำให้จุกมากกว่าเดิม

เสริมท้าย...

จำไว้นะ...ยิ่งอาการหนัก ใจยิ่งต้องเบา

การจะออกจากวังวนของกรดไหลย้อนที่ซับซ้อนไม่ใช่เรื่องวันสองวัน
แต่ทุกคนที่ฟื้นได้ ล้วนเริ่มจาก “เชื่อว่าร่างกายฟื้นได้”
เมื่อให้โอกาสมันพัก ให้โอกาสมันย่อย ให้โอกาสมันหายใจ
มันจะค่อย ๆ กลับมา เหมือนดินแตกระแหงที่ได้รับน้ำ

ร่างกายเราฟื้นตัวได้ครับ ถ้าไม่เร่ง ไม่กด แต่ “ดูแลให้ตรงจุด”
การกินยาลดกรดเรื่อย ๆ มันคือทางลง
แต่การฟื้นระบบย่อยจากพื้นฐาน คือทางขึ้นที่ยั่งยืน

ด้วยรักจากอาจาน.

บทความเพิ่มเติม
https://www.facebook.com/share/p/1BHqrHrccK/

🌵ช่วงนี้เราจะได้ยินคำว่า สโตรก กันบ่อย  🌵จนทำให้เราเกิดความกลัว วิตกกังวล🌵ลองฟังคลิปนี้...กันนะคะ
23/04/2025

🌵ช่วงนี้เราจะได้ยินคำว่า สโตรก กันบ่อย
🌵จนทำให้เราเกิดความกลัว วิตกกังวล
🌵ลองฟังคลิปนี้...กันนะคะ

ใบคูน แก้อัมพฤกษ์อัมพาต เกี่ยวกับสมอง รักษาอัมพาตของกล้ามเนื้อบนใบหน้า หน้าเบี้ยวปากเบี้ยว แก้เส้นเอ็นพิการ ต้มน้ำรับประ...
23/04/2025

ใบคูน แก้อัมพฤกษ์อัมพาต เกี่ยวกับสมอง รักษาอัมพาตของกล้ามเนื้อบนใบหน้า หน้าเบี้ยวปากเบี้ยว แก้เส้นเอ็นพิการ ต้มน้ำรับประทาน ใบสดหรือตากแห้ง ใช้เป็นยาถ่ายพยาธิผิวหนังได้ตำพอกแก้ปวดข้อ หรือต้มน้ำดื่ม
วิธีต้ม
ใช้ใบ 5ใบ น้ำ 3 แก้ว ต้ม 10 นาที
กิน เช้า เย็น ครั้งละแก้วพอ
วิธีตำพอก
ตำทาถูนวดแก้ปวดข้อ และแก้กล้ามเนื้อบนใบหน้าเป็นอัมพาตครึ่งชีกโรคปากเบี้ยว
โขลกพอกหรือคั้นเอาน้ำทารักษาโรคกลาก เกลื้อน แก้ไข้รูมาติก
Cr:เกษตรไทบ้าน

🌸คนทุกคนเกิดมาเพื่อเป็นอะไรสักอย่าง(ที่ต้องเป็นให้ดีที่สุด)🌸จนวันหนึ่ง...จะสามารถแยกแยะและค้นพบว่า"ความถนัด"ของเราคืออะไ...
06/04/2025

🌸คนทุกคน
เกิดมาเพื่อเป็นอะไรสักอย่าง
(ที่ต้องเป็นให้ดีที่สุด)

🌸จนวันหนึ่ง...
จะสามารถแยกแยะและค้นพบว่า"ความถนัด"ของเราคืออะไร
ในการค้นหานั้นไม่ใช่แค่เราจะเจออะไรแล้วเราก็ทำแล้วก็ผ่านไป
พอมีสิ่งใหม่ให้ทำ ให้เจอ เราก็ทำไป
โดยที่ไม่มีเวลาเก็บรายละเอียดที่เกิดขึ้นระหว่างการทำ
โดยไม่รู้ว่าจริงๆแล้ว สิ่งที่จำเป็นที่สุดคือ"การใส่ใจ"

🌸เราอาจจะกำลังค้นพบ
🌸ความเป็นอัจฉริยะที่แท้จริงของเรา
🌸และเราอาจจะเกิดมาเพื่อที่จะทำมันจริงๆ

Cr:ลูกปัด All Little Things

วันนี้ พุธที่28เมษายน2568🪴ขอนำเสนอคำว่า"มะนาว"🍋‍🟩มะนาว ช่วยทำความสะอาดตับ มีวิตามินซีสูงช่วยล้างพิษทำให้เลือดสะอาด และช่...
02/04/2025

วันนี้ พุธที่28เมษายน2568
🪴ขอนำเสนอคำว่า"มะนาว"
🍋‍🟩มะนาว ช่วยทำความสะอาดตับ มีวิตามินซีสูงช่วยล้างพิษทำให้เลือดสะอาด และช่วยล้างพิษในลำไส้ได้ด้วย
ดังนั้น..ร้อนเดือดทะลุองศาแบบนี้ ให้น้ำมะนาวปรับสมดุลร่างกายกันดีกว่า

28มีนาคม2568เวลา13.20น.วันที่ควรจดจำ"แผ่นดินไหว"🍃ชีวิตเปลี่ยน🍂คนเรามักลืมไปว่าตัวเองจะต้องตาย🍃จึงไปยึดมั่นถือมั่นกับสิ่ง...
01/04/2025

28มีนาคม2568เวลา13.20น.
วันที่ควรจดจำ"แผ่นดินไหว"

🍃ชีวิตเปลี่ยน
🍂คนเรามักลืมไปว่าตัวเองจะต้องตาย
🍃จึงไปยึดมั่นถือมั่นกับสิ่งต่างๆมากมาย
🍂เวลาใครทำอะไรไม่ถูกใจก็เกลียดโกรธอย่างหัวปักหัวปรำ
🍃แต่ถึงจะโกรธเกลียดแค่ไหน
ไม่ช้าก็เร็วเราและเขาก็ต้องตายจากกัน
🌼ฉะนั้นจะโกรธกันไปทำไม
..สุดท้าย...
"เรา..ก็..เอา..อะไร..ไป..ไม่ได้..สัก..อย่าง"
💖มีเพียงเมตตาให้กับสรรพสิ่งบนโลกใบนี้💖

21/07/2024

"เดิน" ต้าน 5 โรคฮิต💕💕
1. โรคซึมเศร้า : การเดินช่วยกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนเอ็นโดรฟิน
ทำให้ร่างกายเรามีความสุข ลดภาวะหดหู่ได้และโรคซึมเศร้าได้
2. โรคเบาหวาน : เดินวันละ 30 นาที และควบคุมอาหาร ช่วยลดความเสี่ยงโรคเบาหวานประเภท 2 ได้มากถึงร้อยละ 60
3. โรคหัวใจ : เดินเพียงวันละ 30 นาที สามารถลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจได้มากถึง ร้อยละ50
4. โรคสมองเสื่อม : การเดิน 9.6-14.4กม./สัปดาห์ สามารถช่วยปรับปรุงสมองและลดอาการหลงลืมได้
5. โรคปวดข้อ : การเดินช่วยบริหารกลไกข้อต่อทุกส่วนในร่างกาย

🌿สนใจใช้ยาสมุนไพร สามารถปรึกษาแพทย์แผนไทยได้ที่
ทิพยเวช​ คลินิกการแพทย์แผนไทยประยุกต์
☎️ โทร. 084-3322586,082-7508148

16/07/2024

อย่าเสียสมาธิกับเรื่องไม่สร้างรอยยักของสมอง

1 เพราะมีคนมาถามมาคุย “เรื่องอาณาจักรผู้เฒ่าเต่า“
- ผมเลยเอามาเล่าในที่แจ้ง
- เป็นเรื่องเลย (มูลนิธิการกุศลจดหมายมาขอบริจาค เพื่อนฝูงเพื่อนเก่าบางท่านสี่สิบปีไม่ได้คุยกันเลยโทรมาขอยืมเงิน)
- ผมต้องโพสสารภาพตามตรงว่า (ตอนนี้ผมจนมากผมเป็นคนไม่โกหกผมพูดแต่ความจริงตรงๆ (ผมไม่มีเงินบริจาคหรือช่วยเหลือใครได้เลยในตอนนี้ครับ)

2 เพื่อเตือนสติตนเองให้มีหลักคิด ”ผมนำกรอบคิดคน 4 ประเภท มาเล่า“
๑ คนฉลาด ตนเองดีสังคมดี (ทำมาหากิน)
๒ คนโง่ ตนเองแย่สังคมพลอยแย่ตาม (ติดพนัน ติดยาเาพติด)
๓ คนดี ช่วยคนอื่นจนตนเองแย่ (พ่อพระแม่พระทั้งหลาย)
๔ คนเลว ตนเองดีแต่สังคมแย่ (โกงบ้านกินเมือง)

- ผมจัดอยูในประเภท“คนฉลาด” (ตนเองดีและช่วยสังคมดี)
- แต่ผมไม่ใช่ประเภท“คนดี” (คนดีที่มีจิตกุศลช่วยเหลือคนอื่น จนตัวเองเดือดร้อน เนื่องจากผมแก่แล้วขอเลือกไม่เดือดร้อนเพราะความใจดีครับ)

3 กลับถึงพัทลุงผมดีใจมากที่ได้เจอเพื่อนเก่า (ผมกลับจากธุดงค์เดือนกว่า ผมเจอเจ้าตูบเพื่อนเก่าที่เคยมาอาศัยนอนที่โรงงาน)
- สุนัขเพศเมีย(กลางคืนมาขออาศัยนอนที่โรงงานเช้าก็จากไป) แฟนเขาอยู่บ้านตรงข้าม จนน้องตั้งครรภ์ ผมไปค้าขายต่างประเทศกลับมาเธอวิ่งมาหาผมจะบอกผมว่าเธอคลอดแล้ว (ผมยังไม่เคยเห็นลูกของหลอนเลย)
- บังเอิญเจ้าของหมาตัวผู้ย้ายบ้าน น้องหมา(คงเสียใจ) ก็เลยไม่ได้มาโรงงานนานหลายปี
- ผมกลับจากธุดงค์ครั้งนี้ได้เจอเพื่อนเก่าอีกครั้ง (ฟันฟางร่วง กินได้ไม่มาก) ผมขอความช่วยเหลือจากพนักงานให้ช่วยเป็นธุระจัดหาอาหารอ่อนๆมาให้น้องเขากิน (ผมคิดว่าเราคงเจอกันอีกไม่กี่ปี คงต้องจากกันไม่หมาก็ผมครับ)

4 ผมเสียสมาธิกับเรื่องไม่เป็นเรื่องไปหลายวัน
- วันนี้มีผู้ป่วยมาปรึกษาเยอะ (รอผมกลับมา) ตอนนี้ผมมีสมาธิกับเรื่องป่วยไข้แล้วครับ
- และถือเป็นกฤษ์ดีที่เพื่อนเก่า(เจ้าตูบสุนัขเพศเมีย) กลับมาทักทายกันอีกครั้ง น่าจะเป็นสัญญาณว่า “น้องเขาจะมาสั่งลาสั่งเสีย“ (ผมดูจากสภาพร่างกายน้องเขานะครับ”)

5 ต่อแต่นี้พวกเรามาสนใจเรื่องสุขภาพกันดีกว่านะครับ ขอบคุณมากครับ

หมอบวร จันทร์โภคาไพบูลย์

❤️เพิ่มเติมความใส่ใจเล็กๆให้กับตัวเองกัน☺️
22/06/2024

❤️เพิ่มเติมความใส่ใจเล็กๆให้กับตัวเองกัน☺️

ไขมันเลว ไขมันไม่ดี (LDL-Low Density Lipoprotein) คืออะไร
แล้วมันมาจากไหน หากมีเยอะมันส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร ⁉️

❤️สนใจใช้ยาสมุนไพร หรือต้องการปรึกษาปัญหาสุขภาพ และแนวทางการฟื้นฟูอาการต่างๆ สามารถทักข้อความมาปรึกษาหมอได้เลยนะคะ
☎️โทร. 084-3322586,082-7508148
📥ข้อความ m.me/TippayavejClinic
📩 LINE ID: https://lin.ee/lpCR6Xz หรือพิมพ์ (มี @ด้วยนะคะ)
______________________________________________________________

(Low Density Lipoprotein) หรือไขมันชนิดไม่ดี (ไขมันเลว)
❓ แล้ว LDL ทำหน้าที่อะไร ❓
LDL ทำหน้าที่เป็นตัวนำคอลเลสเตอรอลจากตับเข้าสู่กระแสเลือด เมื่อเซลล์ในร่างกายใช้คอลเลสเตอรอลที่ต้องการไปแล้ว คอลเลสเตอรอลที่เหลืออยู่ในเลือด จะพอกอยู่บริเวณผนังหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดแข็ง ตีบ นานวันเข้าอาจเกิดลิ่มเลือดได้ ผลที่ตามมาคือทำให้การไหลเวียนเลือดทำงานได้น้อยลง ส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจ สมอง ไต ลดลง และอาจนำไปสู่โรคหัวใจขาดเลือด อัมพฤกษ์อัมพาต ความดันโลหิตสูง ไตวาย ได้
❓ LDL มาจากไหนกัน 👩‍⚕️
LDL มาจากอาหาร 2 กลุ่ม คือ
1. อาหารจำพวกที่มีไขมันอิ่มตัว เช่น นม เนย ชีส ไอศกรีม คุ้กกี้ น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว
2. อาหารจำพวกที่มีไขมันไม่อิ่มตัว เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันมะกอก ครีมเทียม ขนมกรุบกรอบ
❓ ระดับ LDL ในร่างกายเท่าใดจึงจะพอดี 👩‍⚕️
- ต่ำกว่า 100 mg/dl ถือว่า พอดี
- 100 – 129 mg/dl ถือว่า เกินพอดี
- 130 – 159 mg/dl ถือว่า สูงคาบเส้น
- 160 – 189 mg/dl ถือว่า สูง
- มากกว่า 190 mg/dl ถือว่า สูงมาก
❓ ทำอย่างไรไขมัน LDL ในร่างกายถึงจะลด 👩‍⚕️
1. ปรับพฤติกรรมการรับประทานยาอาหาร เลี่ยงอาหารทอด อาหารมัน อาหารแปรรูป ขนมกรุบกรอบ เบเกอรี่
2. ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ วันละ 1.8 – 2 ลิตร
3. ออกกำลังกายเป็นประจำสัปดาห์ละ 3 - 5 ครั้ง ครั้งละ 30 – 45 นาที

#ทิพยเวช #สมุนไพร #ยาสมุนไพร #สูตรยา #สูตรสมุนไพร #สุขภาพดี #สุขภาพดีจากภายใน #สุขสวัสดิ์ #พระประแดง #ไขมัน #ไขมันเลว
📍ทิพยเวชคลินิกการแพทย์แผนไทยประยุกต์
ซ.สุขสวัสดิ์ 70 อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ
▶ แผนที่ https://goo.gl/maps/tbJE9DbcdeMXk6j18
▶ วันเวลาทำการ เปิดทุกวัน เวลา 9.00 น.-18.00 น.
▶ ให้บริการ ตรวจ รักษา และจ่ายยาด้วยสมุนไพรด้วยหมอด้านแพทย์แผนไทยที่มีใบประกอบวิชาชีพโดยตรง
⭐ หากสนใจเข้ารับการรักษา รบกวนแจ้งนัดล่วงหน้า เพื่อความสะดวกในการให้บริการนะคะ ⭐

🎯ข้อเสื่อม ปวดข้อ...🌼ดูแลได้ด้วยน้ำมันงาดำ🌼📢สนใจสินค้า...ทางร้านมีจำหน่ายนะคะ
21/06/2024

🎯ข้อเสื่อม ปวดข้อ...
🌼ดูแลได้ด้วยน้ำมันงาดำ🌼

📢สนใจสินค้า...ทางร้านมีจำหน่ายนะคะ

Check out ยอดน้ำผึ้ง7829⚛️☸️🌪️'s post on LINE VOOM.

☀️🌞🌤️ อากาศร้อนกับอาการแพ้เหงื่อ...                 ...🥹🥹🥹...
21/06/2024

☀️🌞🌤️ อากาศร้อนกับอาการแพ้เหงื่อ...
...🥹🥹🥹...

#โรคแพ้เหงื่อตัวเอง

โรคแพ้เหงื่อตัวเอง หรือ cholinergic urticaria
เป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่พบได้บ่อย เกิดจากปฏิกิริยาภูมิแพ้ของร่างกายต่อเหงื่อของตัวเอง ผู้ป่วยจะมีอาการผื่นคัน บวม แดง นูน เป็นตุ่มคล้ายลมพิษ หลังจากออกกำลังกาย
อาบน้ำอุ่น หรืออยู่ในที่ร้อนอบอ้าว สาเหตุที่แน่ชัดของโรคแพ้เหงื่อตัวเองยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคนี้ ได้แก่

พันธุกรรม ประมาณ 50% ของผู้ป่วยโรคแพ้เหงื่อตัวเองมีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคภูมิแพ้

ปัจจัยกระตุ้น
เหงื่อ อากาศร้อน ออกกำลังกาย อาหารรสจัด ความเครียด

โรคอื่นๆ
บางครั้งโรคแพ้เหงื่อตัวเองอาจเกิดร่วมกับโรคอื่นๆ เช่น โรคไทรอยด์ โรค SLE

อาการที่พบบ่อยของโรคแพ้เหงื่อตัวเองคือ

- ผื่นคัน บวม แดง นูน เป็นตุ่มคล้ายลมพิษ
- มักเกิดหลังจากออกกำลังกาย อาบน้ำอุ่น หรืออยู่ในที่ร้อนอบอ้าว
- ตุ่มมักมีขนาดเล็ก 2-4 มิลลิเมตร
- อาจมีอาการแสบร้อน
- ในรายที่รุนแรงอาจมีอาการหายใจลำบาก
- อาการมักหายไปเองภายใน 1-2 ชั่วโมง

**การวินิจฉัย**

แพทย์จะวินิจฉัยโรคแพ้เหงื่อตัวเองโดยอาศัยประวัติอาการ
การตรวจร่างกาย และการทดสอบทางผิวหนัง
เช่น การทดสอบการเสียดสีผิวหนัง (skin prick test)
การทดสอบการออกกำลังกาย (exercise challenge test)

การรักษาโรคแพ้เหงื่อตัวเองมีวัตถุประสงค์
เพื่อลดอาการคัน บรรเทาผื่น และป้องกันการเกิดผื่น
วิธีการรักษา ได้แก่

* หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น : หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก อาบน้ำอุ่น อยู่ในที่ร้อนอบอ้าว
* ยารับประทาน : ยาแก้แพ้ ยาต้านฮีสตามีน ยาสเตียรอยด์
* การฉีดยา ในรายที่มีอาการรุนแรง
* การรักษาด้วยแสง UVB
* การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต : ลดน้ำหนัก สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี
* ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรรมเพื่อความปลอดภัย

ภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญของโรคแพ้เหงื่อตัวเองคือ
อาการบวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น และลำคอ อาจทำให้หายใจลำบาก ช็อก ในรายที่รุนแรงมาก

**การป้องกัน**

**โรคแพ้เหงื่อตัวเองเป็นโรคผิวหนังที่พบได้บ่อย
แม้ว่าจะไม่ใช่อาการร้ายแรง แต่ก็สร้างความรำคาญไม่น้อย
เพราะฉะนั้นการดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี และการปรึกษาแพทย์ จะช่วยควบคุมอาการ และป้องกันภาวะแทรกซ้อนได้ดียิ่งขึ้น

#กรมอนามัย #สาสุขชัวร์
#ข่าวจริง #ข่าวปลอม #บ่าวบิดเบือน #ข่าวเสี่ยงต่อสุขภาพ
#กรมอนามัยกระทรวงสาธารณสุข
#กรมอนามัยส่งเสริมให้คนไทยสุขภาพดี

18/06/2024

ที่อยู่

Lat Yao

เวลาทำการ

จันทร์ 08:00 - 18:00
อังคาร 08:00 - 18:00
พุธ 08:00 - 18:00
พฤหัสบดี 08:00 - 18:00
ศุกร์ 08:00 - 18:00
เสาร์ 08:00 - 18:00
อาทิตย์ 08:00 - 18:00

เบอร์โทรศัพท์

+6656271162

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ โชติเวชผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง โชติเวช:

แชร์