01/05/2025
🦠 ฟังข่าวมา ทำไมแอนแทรกซ์น่ากลัวจัง
ตอบ: ถ้าในมุมการก่อโรคคือ เพราะพิษที่เป็นสกิลหลักของมันล้วนๆ เลยค่ะ
โรคแอนแทรกซ์เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย
Bacillus anthracis ซึ่งสร้างสปอร์ได้
ซึ่งสปอร์เป็นที่ขึ้นชื่อของความ “ทนทาน” อยู่แล้ว
คืออยู่ในแวดล้อมได้ค่อนข้างนานมากๆ
รับมาหลักๆ 3 ทาง
1️⃣ ผิวหนังที่มีแผล ซึ่งแค่ถลอกๆ ก็เข้าได้แล้ว
บางแผลเรามองด้วยตัวเองไม่เห็นด้วยซ้ำ แล้วไปสัมผัสวัว/ศwวัวที่มีเชื้อ
2️⃣ สูดสปอร์เข้าทางเดินหายใจ เข้าถุงลมโดยตรง
3️⃣ กินสปอร์เข้ามาในทางเดินอาหาร
พอมันอยู่ในที่ที่เหมาะสม มันก็จะคลายจากสปอร์
กลายเป็นตัว แล้วเริ่มแบ่งตัว ผลิตพิษ
แอนแทรกซ์เป็นเชื้อที่เก่งทั้งโจมตีและป้องกัน
🛡️การป้องกัน: มีแคปซูลที่คลุมโปรตีนที่ผิวมิด
ทำให้เม็ดเลือดขาวใช้เซนเซอร์มาควานหาไม่เจอ
จับกินได้ช้าลงมากๆ
⚔️ การโจมตี: มีระบบพิษที่อัจฉริยะ ถ้าใครเคยดูหนัง
แนวๆ เทคโนโลยีล้ำๆ ถอดชิ้นประกอบกันเอง
แบบนาโนฯ มันทำนองนั้นเลยค่ะ
ตัวพิษชื่อ Anthrax toxin มีระบบชิ้นส่วนที่ฉลาดมาก
คือ ตัวปลดชนวน (PA) + ตัวดูดน้ำ (EF) และ
ตัวเพชฌฆาตเซลล์ (LF) เล่นงานได้แม้กระทั่งเม็ดเลือดขาว
เมื่อพิษมาเจอกับเซลล์ใดก็ตาม ไม่ว่าจะเป็น
ผิวหนัง, ถุงลม หรือ ทางเดินอาหาร
จะเกิดขั้นตอน อย่างกับอุปกรณ์ไฮเทคดังนี้
1️⃣ ตัวปลดชนวน (Protective antigen) ทำหน้าที่ล่อ
เซนเซอร์ของผิวเซลล์โฮสต์ เมื่อโดนเซนเซอร์ตรวจจับ
โฮสต์จะรีบใช้ “ระบบป้องกัน Furin” ตัดสิ่งที่มาแตะทันที
2️⃣ แต่นั่นคือสิ่งที่เชื้อเตรียมมาแล้ว Furin ได้ตัด PA
หมายว่าให้มันเละไป แต่กลายเป็น ไปช่วยมันประกอบร่าง
PA ที่โดนตัด แยกออกมาเป็นชิ้นส่วนเล็กๆ ชื่อ PA63
3️⃣ PA63 จำนวนมาก ทำตัวอย่างกับเป็นนาโนแมชชีน
เสียบผิวเซลล์ ปึ่กๆๆๆๆ ล้อมกรอบเป็นทรงกระบอก
เปิดรูตรงกลางให้พิษอีก 2 ตัวเข้าไปในเซลล์
4️⃣ แต่โฮสต์ก็ไม่ยอม ถ้าเซลล์นั้นคือเม็ดเลือดขาว
มันก็จะพยายามเว้าจับกินพิษทั้งก้อนนี้เข้ามา
หมายมั่นว่าจะชิงถุงน้ำย่อย มาย่อยพวกนี้ให้เหี้ยน
5️⃣ แต่นั่นคือสิ่งที่แบคทีเรียวางแผนไว้แล้ว เพราะ
การที่ถุงน้ำย่อยจะมาย่อยได้นั้น เซลล์จะต้องทำให้
สิ่งที่จับกินเข้ามาเป็นกรดก่อน และการที่เป็นกรด
นี่แหละ PA63 ที่ทำตัวเป็นประตู จะสามารถ
เปลี่ยนร่างสู่ขั้นสุดท้าย ขยายประตูใหญ่ขึ้น
สุดท้ายพิษหนีออกทางประตู หลบการจับกุมได้
6️⃣ พิษ Edematous factor (EF) วิ่งไปตัดสาร
ให้พลังงานชื่อ ATP ทำให้พลังงานลดลงฮวบๆ
แถมตัดแล้วได้สารชื่อ cAMP กลายเป็นสารสัญญาณ
สั่งให้ทั้งเซลล์เปิดประตูแร่ธาตุมั่วทั้งเซลล์ ไม่ต่าง
กับเซลล์โดน spy ยึดห้องควบคุมแล้ว สุดท้ายเกลือแร่
และน้ำ แพร่เข้าเซลล์จนเซลล์บวม สิ้นสภาพ
7️⃣ แต่ถ้า EF ทำไม่สำเร็จ คราวนี้แหละถึงคิวของ
Lethal factor (LF) มันจะวิ่งไปขวางสัญญาณ
การอยู่รอด (MAPK/ERK) ทำให้เซลล์นั้นไม่สามารถ
สร้างโปรตีนที่ใช้แบ่งตัว และใช้ชีวิตได้เลย
จนในที่สุดต้องบีบให้เซลล์นั้น “ฆ่-าตัวตาย”
แบบ apoptosis
ดังนั้นโดยสรุป พิษที่ออกฤทธิ์อย่างกับเครื่องจักรนี้
ปลิดชีพเซลล์ได้แทบทุกชนิด
☠️ เซลล์หนังกำพร้าที่เป็นจุดที่เชื้อเข้า
⮕ ตา-ยอนาถทั้งหน้าตับ จนมีลักษณะเนื้อตา-ยเป็น
สีดำๆ เรียกว่า รอยบุหรี่จี้ (Eschar) ผิวหนังรอบๆ บวม
เพราะมีชิ้นส่วนพิษ LF ทำให้เซลล์บวม+อักเสบ
☠️ เซลล์ถุงลมที่โดนเชื้อที่สูดเข้า ⮕ ตา-ย เช่นกัน
เปิดปอดอักเสบรุนแรง สารน้ำที่ผนังถุงลม ทะลักเข้ามา
จนขวางการแลกเปลี่ยนแก๊ส การหายใจล้มเหลวไวมาก
☠️ เยื่อบุทางเดินอาหาร ⮕ ตา-ย + อักเสบรุนแรง
จนกระตุ้นระบบประสาท ENS บีบตัวรุนแรง จน
เกิดอาเจียนและท้องเสียแรงมาก
☠️ เม็ดเลือดขาวผู้เป็นความหวัง? ⮕ ตา-ยเช่นกัน
แต่ที่แสบคือ มันไม่ตา-ยทันที เชื้ออาศัยเม็ดเลือดขาว
นี่แหละ เป็นพาหนะเดินทางไปถึงต่อมน้ำเหลือง
เพื่อที่จะเล่นงานที่ศูนย์กลางเลย แล้วแพร่กระจายเข้าเลือด
☠️ สุดท้ายเชื้อสามารถไปวิ่งเล่นในเลือดได้ (Sepsis)
ภูมิคุ้มกันพยายามยกกองทัพมาสู้ แต่ยิ่งสู้ ยิ่งต้องปล่อย
สารก่ออักเสบ หลอดเลือดขยายทั่วร่าง สารน้ำรั่ว
ความดันตก เกิดภาวะช็อก อวัยวะได้เลือดน้อย ทยอย
จากไปทีละชิ้น สุดท้ายเสียชีวิต ยังไม่นับว่าปอดที่
ล้มเหลวแล้ว อวัยวะยิ่งตา-ยไว เพราะขาดออกซิเจน
ป้องกันยังไง
✅ หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ติดเชื้อหรือซากสัตว์
โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีประวัติการระบาด
เช่น วัว ควาย แพะ แกะ
✅ ไม่บริโภคเนื้อสัตว์ที่ไม่ผ่านการปรุงสุก
โดยเฉพาะเนื้อจากสัตว์ที่ตายผิดปกติ
หรือไม่มีแหล่งที่มาชัดเจน
✅ สวมอุปกรณ์ป้องกันเมื่อต้องสัมผัสสัตว์หรือซากสัตว์
เช่น ถุงมือ หน้ากาก เสื้อคลุมกันเปื้อน
✅ ทำลายซากสัตว์ติดเชื้ออย่างถูกวิธี
โดยการเผา หรือฝังลึก พร้อมใช้สารฆ่าเชื้อ
เช่น ฟอร์มาลีนหรือโซเดียมไฮโปคลอไรต์
✅ สังเกตอาการเบื้องต้นของแอนแทรกซ์
เช่น ผื่นดำไม่เจ็บ (cutaneous), ไข้สูง
หายใจลำบากเฉียบพลัน (inhalation) เพื่อรีบพบแพทย์
✅ แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะที่จำเพาะกับเชื้อ
เพื่อลดจำนวนเชื้อให้มากที่สุด และดูแลประคับประคอง
ให้พ้นระยะวิกฤติไปให้ได้ค่ะ