
08/08/2025
ผื่นผิวหนังที่เป็นมานานโปรดอย่าไว้ใจ
คนไข้รายนี้มาด้วยผื่นที่หน้าท้องมา5ปี(ดูรูป) หมอตรวจแล้วให้การวินิจว่าเป็นมะเร็งผิวหนังชนิดBowen's Diseaseและทำการตัดชิ้นเนื้อไปตรวจผลยืนยันว่าเป็นมะเร็งBowen's Diseseดังที่หมอวินิจแัย(ดูรูป)
มะเร็งสความัสเซลชนิดอยู่เฉพาะที่ (Squamous Cell Carcinoma in Situ; SCCIS)
สาเหตุสำคัญ
รังสีอัลตราไวโอเลต (UVR)
การติดเชื้อไวรัส HPV
สารหนู (arsenic)
น้ำมันดิน (tar)
การสัมผัสความร้อนเรื้อรัง (chronic heat exposure)
ผิวหนังอักเสบเรื้อรังจากรังสี (chronic radiation dermatitis)
อาการทางคลินิก (Clinical manifestation)
ส่วนใหญ่ไม่มีอาการ แต่บางรายอาจมีเลือดออกได้
หากมีการเกิดก้อน (nodule) หรือเริ่มมีอาการปวด/กดเจ็บ → อาจบ่งบอกว่ารอยโรคกำลังลุกลามเป็นมะเร็งสความัสเซลชนิดลุกลาม (invasive SCC)
ลักษณะทางผิวหนัง (Skin findings)
รอยโรคมีขอบเขตชัดเจน (sharply demarcated)
พื้นผิวมีเกล็ดลอก (scaling) หรือหนาตัว (hyperkeratotic) อาจเป็นรอยแบน (macule), ตุ่มนูน (papule) หรือปื้น (plaque)
สีชมพูหรือสีแดง อาจมีสะเก็ด (crust) หรือผิวถลอก (erosion)
พบได้ทั้งเดี่ยวหรือหลายตำแหน่ง
ชนิดย่อยและตำแหน่งที่พบบ่อย
Bowen disease: ปื้นสีชมพู/แดง ขอบชัด ผิวมีเกล็ด มักพบที่ผิวหนัง (รูป 1)
Erythroplasia of Queyrat: ปื้นหรือปื้นนูนสีแดงเป็นมัน ขอบชัด มักพบที่ g***s p***s หรือ l***a minora
Bowenoid papulosis: รอยโรค SCCIS บริเวณอวัยวะเพศจาก HPV สีอาจเป็นแดง น้ำตาล แทน หรือดำ พื้นผิวอาจถลอกและมีสะเก็ด
หากปล่อยทิ้งไว้นาน รอยโรคอาจมีขนาดใหญ่ขึ้น มีขอบเป็นวงแหวน (annular) หรือหลายวงซ้อนกัน (polycyclic)
การกระจายตัวของรอยโรค (Distribution)
UVR-induced SCCIS: มักเกิดบนพื้นของ solar keratosis ในผิวที่มีการเสื่อมจากแสงแดดเรื้อรัง (photoaging/dermatoheliosis)
HPV-induced SCCIS: พบมากบริเวณอวัยวะเพศ หรือรอบเล็บ โดยเฉพาะนิ้วหัวแม่มือ หรือตรงใต้เล็บ
X-ray–induced SCCIS: พบในผิวหนังอักเสบเรื้อรังจากรังสี (chronic radiodermatitis)
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ (LABORATORY EXAMINATION)
พยาธิวิทยาทางผิวหนัง (Dermatopathology)
มะเร็งชนิดอยู่เฉพาะที่ (carcinoma in situ) พบการสูญเสียโครงสร้างของหนังกำพร้า (loss of epidermal architecture) และการแยกตัวที่เป็นระเบียบ (regular differentiation)
พบความหลากหลายของรูปร่างเซลล์ keratinocyte (keratinocyte polymorphism)
พบ dyskeratosis ในเซลล์เดี่ยว
อัตราการแบ่งตัวของเซลล์สูง (increased mitotic rate)
มีเซลล์ multinuclear
หนังกำพร้า (epidermis) หนาตัวขึ้น แต่เยื่อฐาน (basement membrane) ยังปกติ
การวินิจฉัยและการวินิจฉัยแยกโรค (DIAGNOSIS AND DIFFERENTIAL DIAGNOSIS)
การวินิจฉัยทางคลินิกยืนยันได้ด้วยผลพยาธิวิทยาทางผิวหนัง
การวินิจฉัยแยกโรค ได้แก่ รอยโรคปื้นสีชมพู-แดงที่ขอบเขตชัดทุกชนิด เช่น
กลากนัมมิวลาร์ (Nummular eczema)
สะเก็ดเงิน (Psoriasis)
Seborrheic keratosis
Solar keratosis
หูดธรรมดา (Verruca vulgaris)
หูดราบ (Verruca plana)
หูดหงอนไก่ (Condyloma acuminatum)
มะเร็งผิวหนังชนิด basal cell carcinoma แบบตื้น (Superficial BCC)
Amelanotic melanoma
โรคเพจเก็ต (Paget disease)
การดำเนินโรคและการพยากรณ์โรค (COURSE AND PROGNOSIS)
หากไม่ได้รับการรักษา SCCIS จะพัฒนาไปเป็นมะเร็งสความัสเซลชนิดลุกลาม (invasive SCC)
ในผู้ป่วย HIV/AIDS อาจหายได้เองหากการรักษาด้วยยาต้านไวรัส (ART) ได้ผลดี
การกระจายไปต่อมน้ำเหลืองสามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่ต้องมีการบุกรุกที่เห็นชัดเจน
การแพร่กระจายจากต่อมน้ำเหลืองสามารถเกิดขึ้นในรูปแบบ metastatic dissemination
การรักษา Squamous Cell Carcinoma in Situ (SCCIS)
1. การใช้ยาทาเคมีบำบัดเฉพาะที่ (Topical chemotherapy)
5-Fluorouracil cream: ทาวันละครั้งหรือวันละ 2 ครั้ง ร่วมกับหรือไม่ร่วมกับการปิดด้วยเทป (tape occlusion) ก็ได้ ให้ผลการรักษาที่ดี
Imiquimod: มีประสิทธิภาพเช่นกัน แต่ทั้ง 5-FU และ Imiquimod ต้องใช้เวลารักษานาน
2. การทำลายด้วยความเย็น (Cryosurgery)
ให้ผลการรักษาสูง
มักต้องทำอย่างเข้มข้นกว่าที่ใช้รักษา solar keratoses
อาจเกิดรอยแผลเป็นตื้น ๆ หลังการรักษา
3. การรักษาด้วยแสงร่วมกับยาที่ไวต่อแสง (Photodynamic therapy; PDT)
ให้ผลดี แต่ใช้เวลานานและทำให้รู้สึกเจ็บขณะทำ
4. การผ่าตัดเอาออก (Surgical excision) รวมถึงการผ่าตัด Mohs micrographic surgery
มีอัตราการหายสูงที่สุด
แต่มีโอกาสเกิดรอยแผลเป็นที่ส่งผลต่อความสวยงามมากที่สุด
ควรทำในรอยโรคที่ไม่สามารถตัดความเป็นไปได้ของการลุกลามออกได้จากการตัดชิ้นเนื้อ (biopsy)