06/06/2025
ฝังเข็มกับหมอฝ้ายคำที่คังเล่อฝู คนไข้จะต้องรู้สึก มีอาการ ตื้อ ตึง ตึ๊ด หน่วง ช๊อต หรือกระตุกที่เรียกว่าเต๋อชี่นะคะถึงจะได้ผลดี ฝังเข็มแล้วไม่รู้สึกแสดงว่าหมอฝ้ายตัวปลอมน๊า😊
EP51**得气 (เต๋อชี่)⚡️คืออะไรในมุมแพทย์จีน?
📍ปล. เนื้อหาบทความนี้เหมาะสำหรับแพทย์แผนจีนหรือ บุคคลทั่วไปที่มีองค์ความรู้ทางการแพทย์แผนจีนระดับกลาง
การตอบสนองของการฝังเข็มคืออะไร?
ทำไมบางครั้งถึงต้องมีความรู้สึกที่แตกต่างกันเวลาฝังเข็ม อาการเหล่านั้นแสดงออกถึงอะไร?
วันนี้หมอพามารู้จักเชิงลึกกันครับ🥳
🔬 得气 (Dé Qì) ไม่ใช่แค่ “ความรู้สึก” แต่คือปฏิกิริยา “ชี่ของร่างกายตอบสนองกับพลังของเข็ม” เป็นการเชื่อมต่อเปิดเชื่อมต่อระหว่างชี่–เส้นลมปราณ–และอวัยวะภายใน
👨⚕️ในมุมแพทย์จีน: ใช้คำว่า “针下有感”、“针感” หรือ “气至病所”
หมายถึงชี่เริ่มเคลื่อนไปยังตำแหน่งเป้าหมายที่ต้องการรักษา
โดยมักจะมีความรู้สึก
⚡️针下沉、紧、重、涩、有拉扯感 (เข็มเหมือนถูกดูด ถูกต้าน หนืด)
🍀或有微跳,如鱼吞钩 (มีจังหวะเต้นเบาๆ คล้ายปลากินเบ็ด)
☯️☯️☯️
คำเปรียบเปรยสุดคลาสสิกของ得气(เต๋อชี่)ที่แพทย์จีนคุ้นเคย คือ
🐟 “得气如鱼吞钩” – ชี่มาเหมือนปลากินเบ็ด?
คำเปรียบเทียบนี้ ไม่ได้เกิดจากการมโนขึ้นเองนะครับ แต่มีที่มาจากคัมภีร์แพทย์จีนโบราณแท้ ๆ
โดยเฉพาะใน《灵枢经》 ซึ่งถือเป็นหัวใจของศาสตร์การฝังเข็มเลย
📖 อ้างอิงจาก《灵枢·官针》 (บทที่ว่าด้วยตำแหน่งและปฏิกิริยาเข็ม)
「刺之有道,气至而有效,犹鱼之吞钩然。」
“การฝังเข็มที่ถูกหลัก เมื่อชี่มาถึง จึงจะได้ผล เหมือนกับปลาที่งับเบ็ด”
คำว่า 鱼吞钩 (ปลากินเบ็ด) ถูกใช้เพื่ออธิบายว่า เมื่อชี่มาถึงเข็ม
โดยหมอผู้ฝังจะรู้สึกถึงการ “ดึงกลับของพลัง” จากในร่างกายผู้ป่วย เหมือนปลาที่ฮุบเบ็ดแล้ว “ดึงกลับ” จนรู้สึกต้านในมืออย่างชัดเจน ดังนั้นอาจต้องมีประสบการณ์ในการตกปลาด้วยนะครับ555
🪝 ทำไมถึงต้องเปรียบกับ “ปลากินเบ็ด”?
1. ปลาจะไม่กินเบ็ดทันที – เช่นเดียวกับการฝังเข็ม ชี่ไม่มาตั้งแต่แรก ต้องมีจังหวะ ต้องรอ
2. เมื่อปลากินเบ็ด = มีแรงต้าน – เช่นเดียวกับเมื่อชี่มาถึง หมอจะรู้สึก “เข็มถูกดูด–หนืด–หนัก–ต้าน” (沉、紧、涩)
3. ปลากินเบ็ดแล้ววิ่ง – เช่นเดียวกับเมื่อ得气ดี จะมี “ชี่เคลื่อนผ่านเส้นลมปราณ” (气行经脉) จะเกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า:
「气至病所,如风行草偃」
“ชี่มาถึงที่ป่วย เหมือนสายลมพัดจนหญ้าเอน” จาก《灵枢·九针论》
เมื่อชี่มาถึง → หญ้าก็เอน = ร่างกายตอบสนอง
🔍 ส่วนคัมภีร์อื่น ๆ ที่กล่าวถึง 得气 และการรับรู้จากมือหมอ
《灵枢·五味论》
「以手按之,如物之有得而坚,乃可发针。」
“เมื่อใช้มือกดลงไป หากรู้สึกแน่นและมั่น เหมือนจับของมีแรงต้าน แสดงว่าชี่มาแล้ว สามารถฝังรักษาได้”
🧲 ความแน่นมั่นที่นิ้วสัมผัสได้ คือสัญญาณของชี่เริ่มรวมตัวใต้ผิว ร่างกายแสดงแรงต้านกลับมาเล็กน้อย
🧠 เชื่อมโยงกับการตึงตัวของพังผืด การไหลเวียนเลือด และการตอบสนองของระบบประสาท
《灵枢·终始》 กล่าวอีกว่า:
「针之要,在于得气,得气即止。」
“หัวใจของการฝังเข็ม อยู่ที่การได้ชี่ เมื่อได้แล้วจึงหยุดเล็ม”
(สื่อว่าไม่ต้องฝังซ้ำ หาก得气แล้ว)
เป็นประโยคสำคัญที่ย้ำแก่นแท้ของศาสตร์ฝังเข็มในคัมภีร์ หลิงซู ซึ่งบอกเราว่า เป้าหมายของการฝังเข็มไม่ใช่การแทงลึกหรือทำซ้ำหลายครั้ง แต่คือ “การเรียกชี่ให้มาตอบสนอง” แล้วหยุดเพื่อให้ร่างกายได้ทำหน้าที่ของมัน
“即止” หมายถึง ให้หยุดการกระตุ้นต่อทันที — ไม่ฝังเพิ่ม ไม่เล็มเพิ่ม
เพราะเมื่อชี่ตอบสนองแล้ว ระบบในร่างกายจะดำเนินการเองตามธรรมชาติ
ฝังเข็มจนเกิด “得气” เทียบได้กับการกระตุ้น afferent nerve endings ที่ส่งสัญญาณเข้า CNS (central nervous system) และเกิดผลทางระบบอัตโนมัติ เช่น การหลั่งสารบรรเทาปวด หลอดเลือดขยายตัว หรือมีการเปลี่ยนแปลงสภาพกล้ามเนื้อพังพืด
🧬 เมื่อร่างกายเริ่มตอบสนองแล้ว การฝังซ้ำหรือกระตุ้นซ้ำทันทีอาจ รบกวนกลไกตามธรรมชาติ และทำให้การปรับสมดุลชี่ไม่ราบรื่น
☯️☯️☯️☯️
🎯 ในศาสตร์แพทย์จีนโบราณ
“得气” คือ สัญญาณว่าชี่ของอวัยวะและเส้นลมปราณตอบสนองต่อการกระตุ้นแล้ว
หากฝังเข็มโดยไม่มี得气 = เป็นแค่การเจาะผิว ไม่ได้เข้าสู่ระบบพลังของร่างกาย
จึงมีคำกล่าวว่า:
「不识得气,徒劳针刺。」
“ไม่เข้าใจ得气 ก็เสียแรงฝังเปล่า”
ปรมาจารย์และอาจารย์ร่วมสมัยพูดถึง “得气” อย่างไร?
1. 董景昌 (ต่ง จิ่งชาง) — ผู้ก่อตั้งศาสตร์董氏奇穴针灸
「得气是针灸的灵魂,不得气,等于无针。」
“得气คือจิตวิญญาณของการฝังเข็ม ถ้าไม่มี得气 ก็เหมือนไม่ได้ฝังเลย”
🔍 อ. ต่งย้ำเสมอว่า
ศาสตร์ตงชื่อมุ่งให้เข็มถึง “ชี่” อย่างแม่นยำในระดับมิลลิเมตร
โดยใช้การวินิจฉัยร่วมกับการเคลื่อนมือ สังเกตการรั้งของกล้ามเนื้อและพลังใต้ผิวอย่างละเอียด ซึ่งทั้งหมดนี้ยึด “得气” เป็นจุดเริ่มต้นของการตัดสินใจว่า “เข็มนี้รักษาได้หรือยัง”
2. 程凯 教授 (เฉิง ไค่) – อาจารย์ใหญ่ฝังเข็ม มหาวิทยาลัยการแพทย์จีนปักกิ่ง
「得气是机体对针刺刺激的整体反应,是治疗生效的前提。」
“得气 คือการตอบสนองทั้งร่างกายต่อการฝังเข็ม เป็นเงื่อนไขเบื้องต้นของผลการรักษา”
🔍 อ.เฉิงมอง得气ในมุมผสมผสานกับระบบประสาทอัตโนมัติและกลไกสมอง
โดยเขาชี้ว่าปฏิกิริยาเหล่านี้ไม่ใช่แค่รู้สึก แต่คือการ “เปิดการสื่อสารของสมอง–ไขสันหลัง–เส้นลมปราณ” อย่างพร้อมเพรียง
✨ “得气ดี = ปลดล็อก neuroplasticity”
✨ “得气แรง = ระงับความเจ็บผ่าน descending modulation”
3. หลี่ซานฉาย (李三才) — หมอหลวงราชวงศ์หมิง
「得气为刺法之大要,不知得气之理,虽巧手百通,终难奏功。」
“得气คือแก่นของการฝัง หากไม่เข้าใจแม้จะมือฉมังเพียงใด ก็ยากจะสำเร็จผล”
จากตำรา《针灸大成》
🔍 อ.หลี่เปรียบ得气ว่า “เป็นคำตอบที่ร่างกายมอบให้เมื่อฝังเข็มได้ถูกต้องตามหลักฟ้า–ดิน–คน”
การไม่มี得气 คือ “ไม่มีเสียงตอบกลับจากร่างกาย” = การรักษาไม่มีพลัง
4. ศ. หลี่ไฮ่ซาน (李海山) – แพทย์จีนระดับโลกจากเซี่ยงไฮ้
「病人有‘酸、麻、胀、重’四感,医生有‘紧、涩、沉、拉’四觉,即为得气。」
“เมื่อคนไข้มี 4 ความรู้สึก: เมื่อย ชา แน่น หนัก และหมอรู้สึกแน่น หนืด ลึก ถูกดึง นั่นคือ得气แท้”
🔍 ศ.หลี่พัฒนาแนวคิดนี้ในการอบรมแพทย์รุ่นใหม่ โดยใช้ 模型ฝึก (โมเดลจำลอง) + การฝึกจับ “น้ำหนัก” ด้วยนิ้วมือ เพื่อรู้จักการรอและตอบสนองต่อ得气อย่างเป็นธรรมชาติ
5. หวังจวิ้นหมิน (王隽民) – ศาสตราจารย์ผู้พัฒนาหลัก “Pain–Qi–Resonance”
「得气就是针刺信息传入中枢,引发全身气机共振的开始。」
“得气 คือการส่งสัญญาณของเข็มเข้าสู่ศูนย์กลางระบบประสาท และเริ่มต้นการสั่นสะเทือนของระบบชี่ทั้งร่างกาย”
🔍 ศ.หวังเน้นว่า得气ไม่ใช่แค่ในเส้นลมปราณนั้น ๆ แต่คือ “สัญญาณเริ่มต้นของการสื่อสารทั่วทั้งตัว”
โดยเฉพาะในโรคเรื้อรัง เขาให้ความสำคัญกับ得气มากกว่าการใช้ยาหรือเทคนิคอื่นใด
👉 “得气ดี = สมองรับรู้ = ร่างกายฟื้นฟูได้”
☯️☯️☯️
แล้ว 得气 กับผลลัพธ์ของการรักษาสัมพันธ์กันอย่างไร ยิ่งรู้สึก…ยิ่งหายไว จริงหรือ?
ในโลกของแพทย์จีน มีประโยคอมตะที่หมอรุ่นเก่า ๆ พูดกันเสมอว่า
“得气 จึงได้ผล…ไม่ได้ชี่ ก็ไร้ผล”
แต่ในโลกของวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ เราอยากรู้ให้ลึกขึ้นว่า…
จริงไหม? มีงานวิจัยอะไรสนับสนุนบ้าง?
🎯 คำตอบสั้น ๆ:
“ใช่…แต่ไม่ใช่เสมอไป”
โดยเฉพาะถ้าเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท–กล้ามเนื้อ–อารมณ์ “得气” จะยิ่งสำคัญมาก
🔬 งานวิจัยที่สนับสนุน
🔸 1. โรคปวด (เช่น ปวดข้อ, ปวดประจำเดือน)
🟢พบว่าคนที่ฝังเข็มแล้วมี “得气 ชัดเจน” จะรู้สึกปวดลดลงเร็วกว่า
🔵การวัดความรุนแรงของชี่ (เช่น ความรู้สึกตึง, หน่วง, ลึก) มีความสัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงของ Cortical Pain Matrix → คือ สมองส่วนควบคุมความเจ็บปวดทำงานเปลี่ยนตามระดับ得气
🧪 งานวิจัยจีน: ผู้หญิงที่ปวดประจำเดือน หากฝังเข็มแล้ว得气ไว จะรู้สึกปวดน้อยลงในเวลาไม่ถึง 10 นาที
🔸 2. โรคหลอดเลือดสมอง (อัมพฤกษ์–อัมพาต)
🟠ในช่วงฟื้นฟูหลัง Stroke หากฝังเข็มให้得气 จะช่วยให้ “ระบบควบคุมการเคลื่อนไหว” กลับมาทำงานได้ดีขึ้น
🟢นักวิจัยใช้ fMRI พบว่าเมื่อเกิด得气 จะกระตุ้นสมองบริเวณ motor cortex + cerebellum ที่ใช้ควบคุมการเคลื่อนไหว
🧠 ทำให้ผู้ป่วยบางคนขยับมือหรือขาได้เร็วขึ้นหลังฝังเข็มเพียงไม่กี่ครั้ง
🔸 3. ระบบย่อยอาหาร
🔬งานวิจัยพบว่า การฝังเข็มให้得气 บริเวณจุดที่กระตุ้นม้ามและกระเพาะอาหาร เช่น Zusanli (ST36)
→ จะเพิ่มการบีบตัวของลำไส้ กระตุ้นระบบขับถ่าย และลดอาการแน่นท้อง
🔵มีการวัดการไหลเวียนเลือดของระบบทางเดินอาหารแล้วพบว่า得气ทำให้เลือดไปเลี้ยงดีขึ้น
🥣 ผู้ป่วย “กระเพาะทำงานช้า” หรือ “ลำไส้แปรปรวน” ได้ผลชัดเจนกว่ากลุ่มไม่รู้สึกอะไร
🔸 4. โรคซึมเศร้า–วิตกกังวล
🔬งานวิจัยในผู้ป่วยซึมเศร้าพบว่า กลุ่มที่ได้รับฝังเข็มแล้วเกิด得气 มีการทำงานของสมองส่วน anterior cingulate และ insula ดีขึ้น
→ ซึ่งเป็นสมองที่เกี่ยวข้องกับ “อารมณ์–ความเครียด”
🌿 แพทย์จีนบางรายจึงใช้เข็มกระตุ้น得气 เพื่อให้เกิด “การรีเซตอารมณ์ผ่านระบบประสาท”
❗ แล้วถ้าไม่รู้สึกอะไรเลย…จะได้ผลไหม?
ยังพอมีโอกาสได้ผลครับ โดยเฉพาะในกรณี:
🟠 ฝังเข็มรักษาระบบฮอร์โมน หรือเมตาบอลิซึม (ไม่พึ่งพาแค่ระบบประสาท)
🟢ใช้เทคนิค ฝังเข็มไฟฟ้า (electroacupuncture) ซึ่งอาจกระตุ้นได้แม้ผู้ป่วยไม่รู้สึกแรง
แต่หลายงานวิจัยสรุปว่า🤔
“得气เร็ว + ชัดเจน” = ได้ผลเร็วกว่า / ยาวนานกว่า
#หมอแมนแพทย์แผนจีน
#ความรู้สึกของการฝังเข็ม
#เต๋อชี่