โรคไต ไตวาย ไตเสื่อม ทางออกของไตระยะ 4-5 ดีไทด์ dtide

โรคไต ไตวาย ไตเสื่อม ทางออกของไตระยะ 4-5 ดีไทด์ dtide ทางออกของโรคไตระยะ 4-5 ต้องระวัง อาจเสียใจภายหลัง ในเมื่อเรายังดูแลได้ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

ขึ้น 15 ค่ำเดือน 8 วันอาสาฬหบูชา 🙏🏻🙏🏻🙏🏻
10/07/2025

ขึ้น 15 ค่ำเดือน 8 วันอาสาฬหบูชา 🙏🏻🙏🏻🙏🏻

08/07/2025

ทางออกของไตระยะ 4-5 #ไม่อยากฟอกไต ปัสสาวะบ่อย ตัวบวม ปวดหลัง เบื่ออาหาร ปรึกษาฟรี!! ยินดีดูแลค่ะ

03/07/2025
"แน่นหน้าอก" 😰สัญญาณอันตรายหรือไม่⁉️เมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์? 🫀"แน่นหน้าอก" เป็นอาการที่หลายคนอาจเคยเผชิญและเป็นห่วงว่าจะเก...
27/06/2025

"แน่นหน้าอก" 😰
สัญญาณอันตรายหรือไม่⁉️
เมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์? 🫀
"แน่นหน้าอก" เป็นอาการที่หลายคนอาจเคยเผชิญและเป็นห่วงว่าจะเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจหรือไม่ แต่ความจริงแล้วอาการนี้อาจเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุค่ะ ไม่ว่าจะเป็นความเครียด โรคในทางเดินหายใจ ระบบย่อยอาหาร หรือแม้แต่โรคอื่นๆ ที่ไม่คาดคิด เรามาดูกันค่ะว่าอาการแน่นหน้าอกนั้นมีสาเหตุมาจากอะไรได้บ้าง และเมื่อไหร่ที่ควรไปพบแพทย์ค่ะ 🧐🚑
💓สาเหตุของอาการแน่นหน้าอก
1️⃣ โรคปอดและการติดเชื้อ: ได้แก่ โรคหืด, โควิด-19, โรคหลอดลมอักเสบ, โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง, ปอดบวม, ปอดรั่ว, และความดันหลอดเลือดปอดสูง โดยมีอาการต่างกันดังนี้:
- โรคหืด: อาการแน่นหน้าอก, ไอ, หายใจลำบาก, หายใจมีเสียงหวีด
- โควิด-19: ไอ, มีไข้, อ่อนเพลีย, หายใจลำบาก, เจ็บหรือแน่นหน้าอก
- โรคหลอดลมอักเสบ: ไอมีเสมหะเรื้อรัง, แน่นหน้าอก, หายใจลำบาก, หายใจมีเสียงหวีด
- โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง: หายใจลำบาก, หายใจมีเสียงหวีด, แน่นหน้าอก, ไอเรื้อรัง
- ปอดบวม: เจ็บหรือแน่นหน้าอก, ไอ, อ่อนเพลีย
- ปอดรั่ว: เจ็บแปลบหรือแน่นหน้าอก, หายใจหอบถี่, หัวใจเต้นเร็ว, ผิวเขียวคล้ำ
- ความดันหลอดเลือดปอดสูง: หายใจลำบาก, เจ็บหรือแน่นหน้าอก, อ่อนเพลีย, เวียนศีรษะ, เป็นลม
2️⃣ โรคหัวใจ: รวมถึงโรคหลอดเลือดหัวใจ, เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ, และหัวใจวาย โดยมีอาการต่างกันดังนี้:
- โรคหลอดเลือดหัวใจ: เจ็บหรือแน่นหน้าอกหลังกิจกรรมหรือเครียด, หายใจลำบาก
- เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ: เจ็บแปลบ, แน่นหน้าอก, อาการลามไปหัวไหล่ซ้าย, หายใจลำบากเมื่อนอนราบ
- หัวใจวาย: หายใจลำบากหลังกิจกรรม, เหนื่อยง่าย, หัวใจเต้นเร็ว, บวมที่ขาและเท้า, เจ็บหน้าอก
3️⃣ ระบบทางเดินอาหาร: เช่น กรดไหลย้อน, แผลในกระเพาะอาหาร, ไส้เลื่อนกระบังลม, และความผิดปกติของหลอดอาหาร โดยมีอาการต่างกันดังนี้:
- กรดไหลย้อน: แสบร้อนอก, เรอเปรี้ยว, กลืนลำบาก, เจ็บหรือแน่นหน้าอก
- แผลในกระเพาะอาหาร: ปวดท้อง, แสบท้อง, ปวดบีบรัด, แน่นหน้าอก
- ไส้เลื่อนกระบังลม: คล้ายกรดไหลย้อน, กลืนลำบาก, ปวดท้อง, เจ็บหน้าอก
- ความผิดปกติของหลอดอาหาร: อาการแน่นหน้าอกจากกล้ามเนื้อหลอดอาหารทำงานผิดปกติ
4️⃣ ความเครียดและวิตกกังวล: ซึ่งทำให้ร่างกายตอบสนองด้วยกลไกต่อสู้หรือหนี ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้นและอาจส่งผลให้เกิดอาการแน่นหน้าอก
5️⃣ ปัญหากล้ามเนื้อและกระดูก: ได้แก่ กล้ามเนื้อฉีกบริเวณซี่โครง, กระดูกซี่โครงหัก, และภาวะกระดูกอ่อนซี่โครงอักเสบ โดยมีอาการต่างกันดังนี้:
- กล้ามเนื้อฉีกบริเวณซี่โครง: หากมีอาการรุนแรงอาจทำให้รู้สึกเจ็บหน้าอกขณะหายใจ
- กระดูกซี่โครงหัก: เจ็บปวดอย่างรุนแรงบริเวณหน้าอก
- ภาวะกระดูกอ่อนซี่โครงอักเสบ: แน่นหน้าอก, อาการแย่ลงเมื่อหายใจเข้าลึกๆ หรือขยับตัว
🚨 แน่นหน้าอกแบบใดควรรีบไปพบแพทย์?
- เกิดอาการแน่นหน้าอกอย่างเฉียบพลันโดยไม่ทราบสาเหตุ
- มีอาการเจ็บหน้าอกลามไปที่ไหล่ แขน หลัง คอ หรือกราม เหงื่อออก เวียนศีรษะ หายใจลำบาก
จะเห็นได้ว่าอาการแน่นหน้าอกอาจเกิดจากอาการเจ็บป่วยต่างๆ ได้มากมาย ทั้งที่เป็นอันตรายและไม่เป็นอันตราย แต่หากเราเข้าใจสัญญาณที่ร่างกายส่งมาและไม่ประมาท ก็จะช่วยให้เราไปพบแพทย์ได้ทันท่วงที ดูแลสุขภาพกันให้ดีนะคะ 💖👩‍⚕️🏥
#แน่นหน้าอก #โรคปอด #โรคหัวใจ #กรดไหลย้อน #ปอดอักเสบ #มะเร็งปอด #วัณโรค #ไอจามเรื้อรัง #หอบหืด #ภูมิแพ้ #ไอเรื้อรัง #เสมหะ #ดีพอตของแท้
#ดีพอตคุณเปิ้ล #สุขภาพดีกับคุณเปิ้ล

24/06/2025
💦 นิ่วในทางเดินปัสสาวะ อันตรายใกล้ตัวที่ควรระวัง ⚠️❗ อาการเหล่านี้เสี่ยงโรคนิ่วในทางเดินปัสสาวะ▪️ ปวดรุนแรงบริเวณเอวด้าน...
23/06/2025

💦 นิ่วในทางเดินปัสสาวะ อันตรายใกล้ตัวที่ควรระวัง ⚠️
❗ อาการเหล่านี้เสี่ยงโรคนิ่วในทางเดินปัสสาวะ
▪️ ปวดรุนแรงบริเวณเอวด้านหลัง
▪️ ปัสสาวะเจ็บ
▪️ สีปัสสาวะเปลี่ยน
▪️ คลื่นไส้ อาเจียน มีไข้
📌 การมีนิ่วในทางเดินปัสสาวะหรือนิ่วในไต ส่วนหนึ่งเกิดจากมีแคลเซียมในปัสสาวะมากผิดปกติ หากแคลเซียมขับออกมาในทางเดินปัสสาวะมากเกินไปจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผลึกของนิ่วได้ 😥
✅️ ควรดื่มน้ำให้มากจะช่วยลดโอกาสการตกตะกอนของสารก่อนิ่ว
✅️ คุมปริมาณการรับประทานเนื้อสัตว์
✅️ ควรรับประทานวิตามิน K2 เพราะเมื่อรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมหรืออาหารเสริมแคลเซียมเข้าไป วิตามิน K2 จะนำแคลเซียมไปที่กระดูก แต่หากขาดวิตามิน K2 แคลเซียมจะไปที่กระดูกไม่ได้ก็จะมีแคลเซียมหลงเหลือขับออกมาทางปัสสาวะก็จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดนิ่วมากขึ้น
✅️ ควรรับประทานผักให้มากขึ้นเพื่อให้ได้วิตามิน K1 แล้วอาศัยจุลินทรีย์ในทางเดินอาหารเปลี่ยนวิตามิน K1 เป็นวิตามิน K2
#โรคนิ่ว #นิ่วทางเดินปัสสาวะ #โรคไต #ไตเสื่อม #ไตวาย #ไตอักเสบ #ไตวายเรื้อรัง #ดีไทด์ของแท้

19/06/2025

ฉันได้รับการแสดงความรู้สึกมากกว่า 50 รายการบนโพสต์ของฉันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว! ขอบคุณทุกคนสำหรับการสนับสนุน! 🎉

5 โรคร้าย อันดับต้นๆที่คร่าชีวิตคนไทย มีอะไรบ้าง?
16/06/2025

5 โรคร้าย อันดับต้นๆที่คร่าชีวิตคนไทย มีอะไรบ้าง?

✅️อาการของโรคไตในแต่ละระยะ: เข้าใจเพื่อดูแลสุขภาพ🫁โรคไตเป็นโรคที่ค่อยๆ พัฒนาขึ้น โดยอาจไม่มีอาการในระยะเริ่มต้น ทำให้หลา...
15/06/2025

✅️อาการของโรคไตในแต่ละระยะ:
เข้าใจเพื่อดูแลสุขภาพ

🫁โรคไตเป็นโรคที่ค่อยๆ พัฒนาขึ้น โดยอาจไม่มีอาการในระยะเริ่มต้น ทำให้หลายคนไม่รู้ตัวว่าป่วย จนกระทั่งโรคเข้าสู่ระยะที่รุนแรงแล้ว จึงเริ่มมีอาการให้สังเกตเห็นชัดเจน

📍อาการของโรคไตในแต่ละระยะ

🫁ระยะเริ่มต้น:

▫️ไม่มีอาการ: ในระยะนี้ ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะไม่มีอาการผิดปกติใดๆ จึงมักไม่รู้ตัวว่าเป็นโรคไต
▫️ตรวจพบโดยบังเอิญ: อาการอาจถูกตรวจพบโดยบังเอิญจากการตรวจสุขภาพประจำปี เช่น การตรวจปัสสาวะหรือเลือด

🫁ระยะกลาง:

▫️ปัสสาวะผิดปกติ: ปัสสาวะมีฟอง ปริมาณปัสสาวะเปลี่ยนแปลงไป อาจปัสสาวะบ่อยขึ้นหรือลดลง
▫️ความดันโลหิตสูง: ไตมีส่วนช่วยในการควบคุมความดันโลหิต เมื่อไตทำงานผิดปกติ ความดันโลหิตจึงอาจสูงขึ้น
▫️อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย: ร่างกายขาดพลังงานเนื่องจากไตไม่สามารถกรองของเสียออกจากร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
▫️บวม: โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า ขา และเท้า
▫️คัน: ผิวหนังคันเนื่องจากมีสารพิษสะสมในร่างกาย

🫁ระยะสุดท้าย:

▫️อาการรุนแรงขึ้น: อาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นในระยะกลางจะรุนแรงมากขึ้น
▫️คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร: เนื่องจากมีสารพิษสะสมในร่างกาย
▫️หายใจลำบาก: เกิดจากของเหลวคั่งในปอด
▫️ปวดเมื่อยตามตัว: โดยเฉพาะบริเวณกระดูก
▫️ภาวะโลหิตจาง: ร่างกายขาดเม็ดเลือดแดง ทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย

📌ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคไต

▪️เบาหวาน: เป็นสาเหตุสำคัญของโรคไตเรื้อรัง
▪️ความดันโลหิตสูง: ทำให้หลอดเลือดในไตเสื่อมสภาพ
▪️โรคทางพันธุกรรม: เช่น โรคไตพॉลิซิสติก
▪️การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ: หากปล่อยทิ้งไว้ไม่รักษา อาจนำไปสู่การอักเสบของไต
▪️การใช้ยาบางชนิด: เช่น ยาแก้ปวด ยาลดไข้ หากใช้ในระยะยาวและไม่ถูกวิธี อาจเป็นอันตรายต่อไต

📍การป้องกันและรักษาโรคไต

✔️ตรวจสุขภาพเป็นประจำ: เพื่อตรวจหาภาวะแทรกซ้อนก่อนที่จะสายเกินไป
✔️ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด: สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
✔️ควบคุมความดันโลหิต: ด้วยการทานยาและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
✔️รับประทานอาหารที่มีประโยชน์: ลดปริมาณโซเดียม โปรตีน และฟอสฟอรัส
✔️ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: ช่วยควบคุมน้ำหนักและลดความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ
✔️ดื่มน้ำให้เพียงพอ: ช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย

#โรคไต #ไตวาย #ไตอักเสบ #ไตวายเฉียบพลัน #ไตเสื่อม #ดีไทด์ #ฉี่บ่อย #ฉี่เป็นฟอง #ปวดหลัง

เช็คด่วน 5 สัญญาณเตือนว่าคุณกำลังเป็น  #โรคไต
14/06/2025

เช็คด่วน 5 สัญญาณเตือนว่าคุณกำลังเป็น #โรคไต

13/06/2025

ที่อยู่

Bangkok

เบอร์โทรศัพท์

+66649695988

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ โรคไต ไตวาย ไตเสื่อม ทางออกของไตระยะ 4-5 ดีไทด์ dtideผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง โรคไต ไตวาย ไตเสื่อม ทางออกของไตระยะ 4-5 ดีไทด์ dtide:

แชร์