เลดี้แอน มาร์กาเรต

เลดี้แอน มาร์กาเรต นวดหน้าเรียว เหลาหน้าเรียว ดูแลสุข? ดูแลปรับปรุงรูปหน้าด้วยปลายนิ้ว โดยไม่ใช้เครื่องมือ

24/08/2023
07/09/2022

เพราะต่อให้ ‘มีทรัพย์’
มากมายอลังการแค่ไหน
ครอบครองสิ่งที่ใครต่อใครอยากได้ไว้เพียงใด
ในที่สุดคุณจะรู้สึกเฉยๆ
ไม่นึกยินดียินร้ายกับชีวิต
หรือกระทั่งรู้สึกว่าชีวิตเหี่ยวเฉา น่าเบื่อหน่าย
ถ้าหาก ‘ขาดจริงๆ’ อยู่สิ่งเดียว
คือความพอใจจะตื่นขึ้นมาทำอะไรสักอย่าง

การตื่นนอนในแต่ละเช้า
หมายถึงการหยุดฝัน
หมายถึงการหลุดพ้นจากสภาพหลับไหลไร้ชีวิตชีวา
หมายถึงการอยากใช้ร่างกายเคลื่อนไหวจับต้องสิ่งต่างๆ
หมายถึงการลุกขึ้นมาเดินทางสู่จุดหมายกันต่ออีกก้าว
หมายถึงการโต้ตอบกับโลกภายนอกได้สอดคล้อง
หมายถึงการหวนกลับมามีสติรู้ตัวว่าจะอยู่ไปเพื่ออะไร

แต่ความหมายของ ‘การตื่นจากสภาพหลับไหล’
จะหายไปทั้งหมดไม่เหลือเลย
หากลืมตาขึ้นมาแล้ว
มีแต่การเปลี่ยนจาก ‘ฝันกลางคืน’ เป็น ‘ฝันกลางวัน’
มีแต่การลุกจากที่นอนอย่างเซื่องซึม
มีแต่การเคลื่อนไหวคล้ายหุ่นยนต์ที่ถูกลากไป
มีแต่การออกอ่าวอย่างไม่รู้จะล่องเรื่อยไปไหนดี
มีแต่การโต้ตอบกับโลกภายนอกแบบงงๆ
มีแต่การขาดสติ เหม่อลอยกับชีวิตทั้งชีวิต

ถ้าชีวิต
คือการ ‘ไม่มีแก่ใจ’
ที่จะตื่นขึ้นมาทำอะไรสักอย่าง
ยิ่งนานคุณจะยิ่งรู้สึก ‘ไม่มีอะไรสักอย่าง’
ชีวิตจะเหมือนไม่ใช่ชีวิต
แต่เหมือนฝันงงๆอยู่ตลอดเวลา
ทั้งยามหลับและยามตื่น
และนั่นก็สะท้อนว่า
คุณใช้ชีวิตแบบเล่นๆเกินไป
ปล่อยให้ชีวิตไหลไปสู่ความตายเอาเอง
ไม่มองให้ดีว่าก่อนตายอยากได้อะไร
ต้องมุ่งไปทางไหนเพื่อให้ ‘ได้ทำ’ อะไร
ที่น่าพอใจระหว่างมีชีวิตเสียบ้าง!

27/12/2021
22/12/2021
22/11/2021
12/09/2021

การจัดสวนด้วยหิน เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่ได้รับความนิยมเป็ […]

28/07/2021
10/07/2021
20/06/2021

ใครๆก็ฝึกสติในชีวิตประจำวันได้เพราะมันง่ายมาก!!!
พศิน อินทรวงค์

1. ขณะที่ไม่ได้ใช้ความคิด ให้พยายามเอาจิตมาจับที่ลมหายใจ ให้รับรู้อยู่ที่โพรงจมูก เหมือนนายทวารเฝ้าประตู ถ้ามีลมเข้า ให้รู้เหมือนคนเฝ้าประตูที่รู้ว่ามีใครเข้ามา ถ้ามีลมออก ให้รู้เหมือนคนเฝ้าประตู รู้ว่ามีคนออกไป ให้ทำเพียงเท่านี้ แค่รู้อยู่ที่โพรงจมูก ไม่ต้องตามไปลมหายใจเข้าไป รู้อยู่ที่โพรงจมูกเท่านั้น รู้ไปเรื่อยๆ เราสามารถทำเช่นนี้ได้ทุกเวลาที่ไม่ได้ใช้ความคิด ว่างๆ ให้ทำ นั่งรออยู่ว่างๆ ให้ทำ เดินไปไหนมาไหน ให้ทำ เพราะนี่คือสิ่งที่เรียกว่า "การภาวนา" และเป็นการภาวนาที่พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญ การภาวนานี้ทำได้ง่ายมาก และไม่เกี่ยวอะไรกับวัด คนอยู่ในวันอาจไม่ได้ทำ คนอยู่นอกวัดอาจทำมันอยู่ตลอดเวลาก็ได้

2. ขณะที่รู้ลมอยู่ที่โพรงจมูก เมื่อเกิดความคิด พูดง่ายๆ ว่าเมื่อคิด จะคิดอะไรก็ตาม คิดนินทา คิดอิจฉา คิดเบื่อ คิดเซ็ง คิดเรื่องงาน คิดเรื่องบุญ คิดเรื่องบาป คิดถึงสิ่งลามก คิดถึงสิ่งดีงาม ทั้งหมดเรียกรวมๆ ว่าคิด ซึ่งมีค่าเท่ากันทั้งหมดไม่ว่าคิดดีหรือคิดร้าย รวมความแล้วมันคือความคิด ให้กำหนดรู้เพียงผ่านๆ ว่า "จิตไหลไปคิดนะ" หรือจะกำหนดว่า "คิดหนอๆ" ก็ได้ เมื่อรู้สึกตัวว่าคิด ก็ดึงกลับมาที่ลมใหม่ จะคิดอะไรก็ช่างมัน แค่รู้ว่าคิด แล้วดึงกลับมาที่ลม ห้ามไปนั่งจัดการกับความคิดเด็ดขาดเพราะนั้นไม่ใช่หน้าที่ของเรา ไม่ต้องไปตั้งคำถามว่าทำไมฉันจึงคิด ทำไมฉันจึงฟุ้งซ่าน อย่าไปสนใจความคิด แค่รู้ แค่ดู แค่เห็น ไม่ต้องวิเคราะห์ ตัดสินใดๆ แล้วกลับมาอยู่กับลมหายใจตนเองลูกเดียว เกิดอะไรขึ้นก็ตาม กลับมารู้ลมหายใจลูกเดียว

3. เวลาทำงานที่ต้องใช้สมาธิ หรือทำสิ่งใดที่ต้องใช้สมาธิ ให้หยุดภาวนา แล้วอยู่กับสิ่งที่ต้องทำตรงหน้าไป ทำงานให้เต็มที่ ทำหน้าที่ให้เต็มที ไม่ต้องสนใจกับการภาวนา แต่ให้สนใจอยู่กับสิ่งที่ทำตรงหน้า

4. เมื่อทำสิ่งใดที่ไม่ต้องใช้สมาธิมากนัก พูดง่ายๆ ว่าขณะที่ทำสิ่งไร้สาระอยู่ เช่นเดิน รอรถประจำทาง เข้าห้องน้ำ นั่งดูโทรทัศน์ ให้พยายามตามรู้ลมหายใจไปเรื่อยๆ แบบเบาๆ ระหว่างที่ทำสิ่งเหล่านี้ กึ่งหนึ่งให้รู้ลม กึ่งหนึ่งก็ทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าไป

5. ช่วงแรกๆ ของการฝึกฝน เราไม่มีวันอยู่กับลมหายใจได้ ย้ำว่าเราจะอยู่กับลมหายใจไม่ได้ทันที และจะไม่มีวันที่จิตสงบได้ง่ายๆ ความฟุ้งซ่านคือเรื่องปกติ ความสงสัยคือเรื่องปกติ ความกังวลต่างๆ คือเรื่องปกติ ดังนั้น เราต้องตัดความลังเลสงสัยให้หมด เมื่อความคิดเหล่านี้เกิดขึ้น แค่เพียงรู้ว่ามันเกิดขึ้น สังเกตว่ามันดับไป เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป สังเกตไปเรื่อยๆ แล้วพยายามดึงจิตกลับมาที่ลมหายใจ ถ้ามันไหลไปคิดอีก ก็สังเกตแล้วดึงกลับมาอีก ทำเพียงเท่านี้ รับรู้ว่าเกิดอารมณ์ หรือความรู้สึกขึ้นมา แล้วดึงจิตกลับมาที่ลมหายใจ มันจะเกิดอาการดึงไปดึงมาอยู่อย่างนี้ตลอดเวลา คือไหลไปคิด เราดึงกลับ แล้วก็ไหลไปคิดอีก แล้วเราก็ดึงกลับมาอีก ให้ทำไปเรื่อยๆ จนเกิดความชำนาญ ความสงบ ความเข้มแข็งในจิตใจก็จะมีมากขึ้นเป็นลำดับ เมื่อมีความสงบเป็นฐานกำลังของใจแล้ว สติปัญญาจะเกิดขึ้นมาเอง สติปัญญาตัวนี้สามารถรู้ทันกิเลสก็ได้ ตัดกิเลสก็ได้ หรือจะใช้ไปทำงานทำการก็ได้ทั้งนั้น

ป.ล. ขอให้ลองคิดตาม คิดแล้วลองทำตาม จะเห็นได้ว่า การภาวนาเป็นเรื่องที่ทำง่ายมาก และทำได้ตลอดเวลา ใครๆ ก็สามารถภาวนาในชีวิตประจำวันได้ทั้งนั้น สิ่งเหล่านี้ควรทำให้ชำนาญ จนกลายเป็นสัญชาติญาณ แล้วสิ่งดีงามก็จะเกิดขึ้นในชีวิตมากขึ้นๆ ที่สำคัญจะต้องไม่แยกการภาวนาออกจากชีวิต แต่ต้องหลอมทั้งการภาวนาและการใช้ชีวิตให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ทำเองก่อน แล้วสอนคนรอบข้าง ถ่ายทอดแนวความคิดนี้ไปเรื่อยๆ แล้วสังคมของเราก็จะกลายเป็นสังคมที่น่าอยู่ เพราะทุกคนมีกิเลสน้อย มีความเมตตาสูง เป็นคนมีคุณภาพ และเป็นคนดีที่มีสติปัญญาอย่างแท้จริง!!!

***ติดต่อ พศิน อินทรวงค์***
วิทยากร/บรรยาย/หนังสือ/บทความ
https://www.facebook.com/talktopasin2013
***ติดตามช่องยูทูป***
พศิน อินทรวงค์ - Pasin Intarawong
https://www.youtube.com/channel/UCccGJ9suemcJiF6WQqxUuGQ

12/02/2021

บ้านช่องรก
เป็นนรกชนิดหนึ่ง
ความรกรุงรังของบ้าน
ไม่ใช่ความบังเอิญ
แต่ไหลมาจากใจที่ดูดาย
มักง่าย ขี้เกียจจัดแจงสะสาง

บ้านเรือนร้อนเป็นไฟ
จากโทสะของคนอยู่อาศัย
เป็นนรกขุมหนึ่ง
เสียงทะเลาะด่าทอบ๊งเบ๊ง
ไม่ได้ดังขึ้นเองลอยๆจากอากาศ
แต่ไหลมาจากใจร้อนๆ
ขาดเมตตาต่อกัน

บ้านช่องเป็นระเบียบ
เทียบได้กับวิมานหลังหนึ่ง
ความเป็นระเบียบเรียบร้อยสบายตา
ไม่ใช่ความบังเอิญ
แต่ไหลมาจากใจที่มีวินัย
ไม่ขี้เกียจเก็บกวาดเช็ดถู

บ้านเรือนเย็นเหมือนน้ำ
จากการรินเมตตาปรานีให้กัน
เป็นสวรรค์ชั้นหนึ่ง
ซึ่งรัศมีสว่างแห่งความการุณย์
หาใช่สายลมแสงแดดที่ฉายเอง
แต่ต้องแผ่ผายมาจากใจที่สบายจริง
จากการรู้จักเห็นแก่ผู้อื่น
เห็นแก่ใจที่สบายของคนร่วมบ้าน
มากกว่าใจที่มักง่ายของตัวเอง

ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน
อะไรๆไหลมาจากใจ
บ้านไหนมีแต่ใจเย็นๆ
ก็เห็นด้วยตาเปล่าว่าเหมือนสวรรค์
บ้านไหนมีแต่ใจร้อนๆ
ก็ร้อนผ่าวราวนรกตั้งแต่นึกถึง

ส่วนบ้านไหนมีทั้งใจร้อน
และใจเย็นระคนกัน
ก็ผันผวนปรวนแปร เอาแน่ไม่ได้
วันไหนฝ่ายเย็นชนะก็เหมือนวิมานดิน
วันไหนฝ่ายร้อนได้ชัยก็กลายเป็นถิ่นปีศาจ

เมื่อถามตัวเองว่า
นึกถึงบ้านแล้วนึกถึงอะไร
หากนึกถึงสวรรค์
ก็ควรนึกยินดี
มีแก่ใจรักษาไว้
แต่หากบอกตัวเองว่า
นึกถึงบ้านแล้วนึกถึงนรก
ก็ควรตกลงกับตัวเองให้เด็ดขาดว่า
ความร้อนจะเริ่มจากใจใคร
ไม่เป็นไร
ขอให้จบลงที่ใจเย็นๆของเราเอง
ทำไว้ในใจว่า
เราเย็นได้คนหนึ่ง
ก็เหมือนได้น้ำขึ้นมาบ่อหนึ่ง
ในนรกแห่งความแห้งแล้งนี้
หรือกระทั่งได้แสงฉายขึ้นมา
ที่ปลายอุโมงค์นรกบ้างแล้ว!

10/02/2021

ที่อยู่

Muang Nontha Buri

เวลาทำการ

จันทร์ 09:00 - 20:00
อังคาร 09:00 - 20:00
พุธ 09:00 - 20:00
พฤหัสบดี 09:00 - 20:00
ศุกร์ 09:00 - 20:00
เสาร์ 09:00 - 20:00
อาทิตย์ 09:00 - 20:00

เบอร์โทรศัพท์

0869071122

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ เลดี้แอน มาร์กาเรตผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram

ประเภท