22/04/2025
👩🏻⚕️ "ยา" แม้จะมีประโยชน์ในการช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ แต่ก็ส่งผลเสียต่อร่างกาย ดังนั้น ผู้ใช้ควรเพิ่มความปลอดภัยอีกขั้น ด้วยการอ่าน "ฉลากยา" ให้ละเอียดก่อนทุกครั้ง และหากมีข้อสงสัยให้สอบถามแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อให้ยาทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและลดผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้น
"ฉลากยา" บอกอะไรเราบ้าง? มีอะไรบ้างที่เราจำเป็นต้องเช็ก?
✅ เช็กชื่อบนซองยาทุกครั้ง
เวลาไปโรงพยาบาลมักได้รับยาที่แบ่งใส่ซองยาแยกมาต่างหาก ซึ่งผู้รับยาควรเช็กชื่อ-นามสกุล ว่าใช่ยาของตนเองหรือไม่ เพื่อเช็กว่ายาที่ได้รับถูกต้อง
✅ จดจำชื่อยา/ชื่อสามัญทางยา/ชื่อทางการค้า (ยี่ห้อ)
หลายคนมักจำชื่อยี่ห้อได้มากกว่า ซึ่งอาจจำได้จากโฆษณา เพื่อความปลอดภัย ควรจำชื่อสามัญทางยา เพื่อป้องกันการได้รับยาที่ซ้ำซ้อนและหลีกเลี่ยงการได้รับยาที่ตนเองแพ้
✅ เลขทะเบียนตำรับยา (Reg. No.)
เป็นการยืนยันว่ายานั้นได้ผ่านการตรวจสอบว่ามีผลในการรักษาได้จริงและได้รับการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้ว
✅ วันผลิต (MFG/MFD) และวันหมดอายุ (EXP/EXD)
ตรวจสอบวันหมดอายุทุกครั้ง เพื่อป้องกันการทานยาที่หมดอายุและเสื่อมสภาพ
✅ ปริมาณยา
ทานยาตามปริมาณที่แพทย์หรือเภสัชกรจ่ายยา หรือดูปริมาณการทานยาที่ฉลาก ทั้งนี้ ยาบางประเภทมีทั้งแบบที่ต้องทานจนหมดหรือหยุดทานเมื่อหายดีแล้ว
✅ วิธีการเก็บรักษา
ควรเก็บรักษายาตามที่ฉลากระบุ เพื่อป้องกันไม่ให้ยาเสื่อมสภาพและคงคุณภาพได้ตามเดิม
✅ คำเตือน
ผู้ใช้ยาควรปฏิบัติตามคำเตือน ข้อห้ามใช้ ข้อควรระวัง เพื่อป้องกันอันตรายจากการใช้ยาและผลข้างเคียง
✅ สังเกตประเภทของยาตามตัวหนังสือสีแดง
ยาบางประเภทมีระบุเป็นตัวหนังสือสีแดงเกี่ยวกับตัวยา เช่น ยาอันตราย, ยาใช้เฉพาะที่, ยาใช้ภายนอก, ยาควบคุมพิเศษ เพื่อป้องกันอันตรายหากใช้ยาผิดที่
✅ ชื่อและสถานที่ตั้งผู้ผลิต
หากเกิดปัญหาเกี่ยวกับยา จะได้รู้แหล่งที่มาเพื่อติดต่อร้องเรียนได้ถูกจุด
ปรึกษาการใช้ยาหรือทานยาให้ถูกต้องกับเภสัชกร ได้ที่ ร้านขายยาองค์การเภสัชกรรม ทุกสาขา
ข้อมูลอ้างอิง : สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
#องค์การเภสัชกรรม #ร้านยาองค์การเภสัชกรรม