27/11/2023
ก่อนจะฉีดยา ต้องพยายามถาม หมอหรือพยาบาล ว่า ยาชื่ออะไร มีสรรพคุณอะไร มีผลข้างเคียงอะไร ... ยาเป็นสารเคมี เข้าร่างกายก็ส่งผลกระทบต่างๆ ทั้งทางดี และทางไม่ดี ครับ
จากโพสของเพจ หมอขอบ่นหน่อยนะ ที่เขาเล่าเรื่องคนไข้มักมาขอหมอที่ รพ ฉีดยาให้เวลาป่วย เพราะตอนไปคลินิคแล้วไม่ว่าป่วยห่าอะไรหมอก็ฉีดยาให้ประจำ จนคนไข้เข้าใจกันทั่วบ้านทั่วเมืองว่า ไม่สบายเป็นหวัดหรือเป็นห่าไรก็ตาม ต้องฉีดยาเสมอถึงจะดี มีคนถามมาว่า ไอ้ยาที่ว่าพวกนั้นมันมีไรมั่ง เห็นหมอในโพสนั้นพูดอยู่สามชื่อ
ประกอบด้วยสามตัวนี้ครับ lincomycin dexamethasone และ diclofenac เด๋วว่ารายละเอียดทีละตัวนะ
lincomycin เป็นยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งคนไทยเรียกผิดเป็นยาแก้อักเสบกัน ตัวนี้เป็นยาฆ่าเชื้อกลุ่มลินโคซาไมด์ ปัจจุบันไม่ค่อยมีที่ใช้ละ เพราะมีตัวที่ดีกว่าให้ใช้เยอะ ที่ยังใช้อยู่คือใช้ในการรักษาโรคติดเชื้อไมโครพลาสม่า กับปรสิตบางชนิด และแน่นอนว่า ไม่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้ เพราะมันคือยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียไง แหม่
ดังนั้นคนที่เป็นหวัด ไปหาหมอที่คลินิค แล้วหมอฉีดยาตัวนี้ให้ มันไม่ช่วยฆ่าเชื้อหรือทำให้หายหวัดแต่ประการใดนะจ๊ะ
dexamethasone ตัวนี้เป็นสเตียรอยด์ที่มีใช้แพร่หลายในการแพทย์ปัจจุบัน ใช้ได้หลายโรคมาก ไม่ว่าจะโรคหอบหืด ภูมิแพ้ โรครูมาตอยด์ โรคที่เกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกัน บลาๆๆๆๆ ทีนี้สมัยก่อน มันมีคนเอาไปใช้เป็นยาฉีดเพื่อลดไข้ด้วย แต่ทุกวันนี้เราไม่แนะนำแล้ว โดยเฉพาะคนที่มีไข้แบบยังไม่รู้สาเหตุว่าเป็นไข้จากอะไร เพราะยาตัวนี้ถ้าใช้ไม่ระวัง ใช้พร่ำเพรื่อจะมีผลข้างเคียงเยอะ และมันอาจไปกดภูมิคุ้มกันได้ ปรกติหมอที่จ่ายยาตัวนี้ให้คนไข้เพื่อรักษาโรคต่างๆ เขาจะระวังเรื่องผลข้างเคียงกันมาก และจะเตือนคนไข้เสมอว่ายาตัวนี้จะเกิดผลข้างเคียงอะไรได้บ้าง ถ้ามีอาการใดควรรีบมาหาหมอ แต่คนที่ไปคลินิคมักถูกฉีดตัวนี้ให้ โดยไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองได้ยาอะไรเข้าไป แถมคนไข้ก็ยืนดีด้วยนึกว่าได้ยาลดไข้แรงๆเข้าไป
สองตัวนี้เป็นสิ่งที่เรียกว่าวัฒนธรรมลินโค่-เด็กซ่า ที่หมอรุ่นก่อนที่เปิดคลินิคมักเอาไปฉีดให้คนไข้แบบสูตรสำเร็จเลย แบบคนไข้มาคลินิคปุ๊บ บอกหมอ หมอผมไม่สบายฉีดยาให้ผมหน่อย หมอจัดให้เลยสองตัว แล้วหลังๆมีเสริมไปอีกตัวคือ
diclofenac อันนี้เป็นยาแก้อักเสบกลุ่ม NSAIDs ก็แบบที่แดกกันเวลาปวดกล้ามเนื้อปวดเอ็นอะไรพวกนั้น แต่ตัวนี้ก็ผลข้างเคียงเยอะเช่นกัน ถ้าใช้ต้องระวังผลข้างเคียง เช่น เลือดออกในกระเพาะ ไตวาย บลาๆ แต่มันเป็นตัวที่คนไทยนิยมใช้ลดไข้ตัวนึงเพราะคิดว่าลดไข้ได้แรง แต่ข่าวร้ายคือบ้านเราเนี่ยไข้เลือดออกระบาดทุกปี ทุกภาค ทุกฤดู ถ้าคุณป่วยเป็นไข้เลือดออก แล้วขอให้หมอฉีดยา แล้วหมอจัดตัวนี้ให้ เกิดคุณเป็นไข้เลือดออกขึ้นมา เตรียมตัวเลือดออกตามอวัยวะต่างๆจนตายได้เลย
ซึ่งไอ้เรื่องนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น ration drug use กระทรวงสาธารณสุข กรมต่างๆ เขาก็พยายามที่จะประชาสัมพันธ์ให้เลิกใช้กันทั้งหมอและคนไข้ แต่เนื่องจากค่านิยมที่ว่า คนไข้ป่วย หมอต้องฉีดยาให้ คนไข้ถึงจะคิดว่าเป็นหมอเก่ง และหมอที่เปิดคลินิค ก็ตอบสนองความต้องการให้คนไข้เพื่อดึงดูดให้คนไข้ติดใจและมาใช้บริการคลินิคตัวเองเยอะๆ ทำให้วัฒนธรรมการใช้ยาแปลกๆแบบนี้ที่ควรจะสูญหายไปนานแล้ว ยังสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน แม้ว่าไอ้สูตรสามมหัศจรรย์นี้ จะสร้างผลเสียให้กับคนไข้มากกว่าผลดีมากมายก็ตาม
ก็ฝากถึงคนไข้ ถ้าคุณป่วยเป็นโรคภัยไข้เจ็บอะไรพวกนี้ อย่าคิดว่า หมอจ่ายยายิ่งเยอะ แปลว่าหมอยิ่งเก่งเสมอไป หมอที่เก่งจริงๆคือหมอที่ให้ยาเท่าที่คนไข้จำเป็นต้องใช้เท่านั้น และโรคแบบพวกไข้หวัด ท้องเสีย ส่วนมาก แทบไม่จำเป็นต้องให้ยาอะไร แค่คำแนะนำจากหมอ กับยาแก้ไอ ยาลดน้ำมูก ยาอมแก้เจ็บคอ กับคำแนะนำในการดูแลตัวเองเยอะๆ ก็พอแล้ว
แต่ส่วนมากหมอที่ทำแบบนั้นถ้าเปิดคลินิคไม่มีใครไปใช้บริการหรอก เพราะคนไข้จะด่าว่าหมอห่วย ถถถถถถ