Balance Life Remedial massage คือ การนวดแก้อาการโดยการวิเค?

02/05/2022

วิธีการนวดรักษาอาการ Tension Headache เบื้องต้น

ลักษณะอาการ 🤕 : Tension Headache คืออาการปวดหัวที่เกิดจากความเครียด ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่มีอาการรุนแรงเหมือนกับอาการปวดหัวไมเกรน ที่จะมีอาการปวดหัว อาเจียนและมีอาการไข้ โดยทั่วไปอาการของ Tension Headache จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับกล้ามเนื้อส่วนบนของร่างกาย คือจะมีอาการปวดหัวเริ่มต้นที่ บริเวณหน้าผาก, ขมับ, บริเวณที่ทัดดอกไม้, ท้ายทอย (ส่วนนี้จะมีอาการตึงมากของกล้ามเนื้อ), จนถึงบริเวณไหล่หรือบ่า ทำให้บางครั้งที่มีอาการปวดหัวมากๆ จะมีอาการชาไปที่ฝ่ามือ เพราะอาการตึงเครียดกล้ามเนื้อบริเวณต้นคอกับบ่า สาเหตุที่ทำให้มีอาการรู้สึกชา เพราะว่ามีจุดกดเจ็บ (Trigger points) บริเวณ ขมับ, ต้นคอกับท้ายทอย, ไหล่, และแขน ทำให้รู้สึกชาที่แขน

📍สาเหตุ : เกิดจากความเครียด, การเครียดสะสม, พักผ่อนไม่เพียงพอ, ดื่มน้ำน้อย, และอาการตึงเครียดของกล้ามเนื้อส่วนบนของร่างกาย

👤 การนวดแก้อาการเบื้องต้น (ด้วยตัวเอง) : ใช้นิ้วโป้งนวดบริเวณที่ขมับไปข้างหน้าและกลับหลัง ประมาณอย่างละ 15 ครั้ง (1-2 นาที) ไล่ไปจนถึงบริเวณที่ทัดดอกไม้ หลังจากนั้นนวดคลึงและกดจุดบริเวณส่วนท้ายทอยของเรา กดค้างไว้ (10-15 วินาที) ต่อมาให้ใช้นิ้วชี้, นิ้วกลาง, และนิ้วนาง กดลงบริเวณบ่า และทำการนวดคลึงบนบ่า ประมาณ 1-2 นาที หลังจากนั้นให้ใช้นิ้วชี้, นิ้วกลาง, และนิ้วนางกดลงที่บ่าและหมุนไหล่พร้อมๆ กัน ประมาณ 2-3 รอบ

✅ คำแนะนำ : เวลานั่งทำงานให้จัดท่านั่งให้อยู่ในลักษณะตัวตรง, ควรลุกจากที่นั่งอย่างน้อยทุกๆ ครึ่งชั่วโมง, ยืดกล้ามเนื้อส่วนบน, ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอต่อวัน (2-3 ลิตรต่อวัน) เพื่อลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ, ใช้ถุงประคบร้อนบริเวณที่มีอาการตึงของกล้ามเนื้อ

แอดมิน
Balance Life Holistic team

ปัญหาที่คนส่วนใหญ่ ยังไม่รู้ เกี่ยวกับ โรคกระดูกทับเส้นประสาท  กับ โรคปวดหลังล่าง (Lower back pain)?  ▶️ อาการเจ็บ หรือ ...
02/05/2022

ปัญหาที่คนส่วนใหญ่ ยังไม่รู้ เกี่ยวกับ โรคกระดูกทับเส้นประสาท กับ โรคปวดหลังล่าง (Lower back pain)?

▶️ อาการเจ็บ หรือ เสียวแปล๊บ ตรงบริเวณหลังล่าง แล้วมีอาการชา ไปถึงที่ปลายเท้า จะมีอาการก็ต่อเมื่อเรายืนเป็นเวลานาน หรือนั่งเป็นเวลานาน ทำให้เกิดอาการข้างตน ซึ่งทำให้หลายคนเข้าใจว่า เกิดจากปัญหาโรคกระดูกทับเส้น

▶️ สาเหตุ ที่เกิดอาการดังกล่าว ก็เพราะเกิดจากทางกายภาพร่างกายของเรา เช่น การทำงาน (ยืน,นั่ง หรือยกของหนัก) เป็นเวลานานมากกว่า 1 ชม. โดยไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอิริยาบท ของร่างกายเราเลย ทำให้เกิดการสะสมปัญหา ✅ ️แล้วเกิดอาการปวด, เสียวแปล๊บที่บริเวณหลังล่าง และมีอาการชาที่ปลายเท้า ทั้ง 2 ข้าง ที่เกิดจากการลงน้ำหนักไปที่ส่วนล่างมาก

▶️ บริเวณที่มีปัญหา คือ ตรงส่วนของหลังล่าง กับ ฝ่าเท้า ทั้ง 2 ข้าง บริเวณหลังล่าง จุดที่เป็นปัญหาและเกิดอาการ คือ ✅️ กล้ามเนื้อหลังล่างจะมีอาการตึง (กล้ามเนื้อหดตัว) ✅ ️ส่วนที่ทำให้เกิดอาการ "เสียวแปล๊บ" คือ ตรงเส้นเอน หลังล่าง ใกล้บริเวณกระดูกล่าง ที่เกิดการอักเสบของเอน ✅️ ส่วนที่เกิดอาการชาปลายเท้า คือ เกิดการส่งผ่านเส้นประสาท (sciatica nerve) ดังนั้น จึงเกิดอาการชาที่ฝ่าเท้า

▶️ ความเชื่อว่าเกิดจาก "โรคกระดูกทับเส้น" แล้วเกิดอาการดังกล่าว จริงแล้วอาการปวด ไม่ได้เกิดจากส่วนกระดูก เพราะถ้ากระดูกเคลื่อนที่ หรือ ผิดรูป เราจะสังเกตุทางกายภาพได้ชัด ว่ากระดูกเคลื่อนที่ผิดรูป เพราะฉะนั้น ก่อนที่จะสันนิษฐานว่าเป็น "โรคกระดูกทับเส้น" เราจะไม่สามารถ ลุก หรือ เดิน ได้เลย ถ้าหากกระดูกเคลื่อน หรือไม่ ก็ต้องทำการ "เอกซเรย์" ดูว่ามีปัญหาที่กระดูก จริงหรือไม่

▶️ โรคกระดูกทับเส้น กับ โรคปวดหลังล่าง (Lower back pain) คือ จริงๆ แล้ว อาการ เสียวแปล๊บ, ก้มไม่ได้ และชาที่ฝ่าเท้า ทั้งสองข้าง เกิดจากโรคปวดหลังล่าง ที่เกิดจาก "ก้อนจุดกดเจ็บ" (Trigger Point) ที่บริเวณหลังล่าง อาการจะหนักหรือเบา ขึ้นอยู่ว่ามีปริมาณก้อนจุดกดเจ็บมากแค่ไหน

▶️ การรักษา คือ
✅️ ต้องทำการนวดกดบริเวณหลังล่าง จนไปถึงขาทั้ง 2 ข้าง แล้วนวดกด "ก้อนจุดกดเจ็บ" ต้องนวดกดเพื่อให้ก้อนนี้สลายหรือลดขนาดลง
✅️ ทำการประคบร้อน วันละ 30 - 45 นาทีทุกวัน เพื่อให้กล้ามเนื้อหลังล่างได้คลายตัวลง และทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวได้ปกติ
✅️ ทำการยืดกล้ามเนื้อ (Stretching) ทำการยืดกล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกาย ไม่ใช่แค่ส่วนหลังล่างเพียงอย่างเดียว เพื่อทำให้ร่างกายเกิดความยืดหยุ่น ทุกวัน เช้า - ก่อนนอน 10 - 15 ทุกวัน
✅️ ดื่มน้ำ ให้ได้อย่างน้อย 2 - 3 ลิตรต่อวัน เพื่อคลายความตึงเค้นกล้ามเนื้อ และเพิ่มความยืดหยุ่นให้แกร่างกาย

ปล. สิ่งแรกที่เราควรทำ คือ สังเกตุร่างกายเรา ว่ามีอาการอะไรเกิดขึ้น เพื่อจะได้บอกกับทางแพทย์ หรือ Therapist ผู้เชี่ยวชาญ ได้วิเคราะห์อาการสาเหตุ เพื่อที่จะทำการรักษาได้อย่างถูกต้อง เพื่อประโยชน์ต่อตัวผู้รักษาได้รับประโยชน์สูงสุด

แอดมิน

Balance Life Holistic Team

30/12/2021

อีกไม่กี่วันก็จะปีใหม่แล้ว ปีที่ผ่านมาพวกเราอาจจะเรื่องราวมากมาย แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่ไม่อยากให้ทุกคนละเลยและอยากให้เป็นหัวข้อของการตั้งเป้าหมายในของทุกๆ ปี ก็คือ เรื่องการดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจให้แข็งแรง เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในชีวิตของเรา

เนื่องจากสถานการณ์โควิด 19 ณ ปัจจุบัน มีอัตราผู้ติดเชื้อสูงเพิ่มขึ้นในทุกๆ วัน ทาง Balance Life เราขออนุญาติหยุดรับเคส ใ...
08/07/2021

เนื่องจากสถานการณ์โควิด 19 ณ ปัจจุบัน มีอัตราผู้ติดเชื้อสูงเพิ่มขึ้นในทุกๆ วัน ทาง Balance Life เราขออนุญาติหยุดรับเคส ในเดือนนี้ก่อนนะครับ เพื่อความปลอดภัยและลดการติดเชื้อของทุกคน ถ้าสถานการณ์เริ่มดีขึ้นทางเราจะแจ้งให้ทราบในการรับเคสอีกครั้งครับ ขอให้ทุกคนรักษาเนื้อรักษาตัว หลีกเลี่ยงการไปพื้นที่แออัด ล้างมือ ใส่แมสทุกครั้งที่ออกจากบ้าน ขอบคุณครับ 🙏

แอดมิน

Balance Life Holistic Team

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=360138385604492&id=106036604348006

🇹🇭 ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 📆
วันพฤหัสบดีที่ 8 กรกฎาคม 2564
รวม 7,058 ราย จำแนกเป็น
ติดเชื้อใหม่ 6,990 ราย
ติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 68 ราย
หายป่วยกลับบ้าน 4,978 ราย
ผู้ป่วยสะสม 279,367 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน)
เสียชีวิต 75 ราย

#ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19
#ศูนย์ข้อมูลCOVID19
#ประเทศไทยต้องชนะ
#ฉีดวัคซีนหยุดเชื้อเพื่อชาติ
ีวิตวิถีใหม่
#สมดุลชีวิตวิถีใหม่

Remedial Massage Therapy (นวดรักษาอาการ) ที่พวกเราเรียนจบตามหลักสูตรภาคบังคับของ สถาบันการสอนนวดรักษา จากประเทศ ออสเตรเล...
23/06/2021

Remedial Massage Therapy (นวดรักษาอาการ) ที่พวกเราเรียนจบตามหลักสูตรภาคบังคับของ สถาบันการสอนนวดรักษา จากประเทศ ออสเตรเลีย ภายใต้หลักสูตรรองรับ จากรัฐบาลประเทศ ออสเตรเลีย

🏥 ซึ่งเราจัดอยู่ในประเภทการรักษาที่เรียกว่า Allied medical ประกอบไปด้วย

1. Chiropractic (การบำบัดจัดกระดูก)
2. Physiological (การบำบัดโดยการทำกายภาพ)
3. Remedial massage (การนวดรักษากล้ามเนื้อ)

หรือ ที่เรียกว่า "การรักษาทางเลือก"

เพราะการรักษาเราต้องมีการวิเคราะห์ปัญหา สาเหตุของอาการและกลุ่มโรค ฉะนั้น การวางแผนรักษาจะต้องมีการตรวจวินิจฉัยอาการ เพื่อที่จะให้ผู้รับการรักษา ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและถูกวิธี ต้องผ่านการตรวจวินิจฉัยก่อนที่จะทำการรักษา

🌐 สมาคมการนวดรักษาที่ออกแบบหลักสูตรและข้อบังคับที่จะต้องผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งทางสมาคมจะมีการประเมินทุกด้านของ Therapist ไม่ว่าจะเป็น 1. ความรู้การรักษา 2. การวิเคราะห์กลุ่มโรค 3. แผนการรักษา ซึ่งทางสมาคม จะให้เราทำแบบทดสอบทุกๆ ปี เพื่อผ่านเกณฑ์มาตรฐานและข้อบังคับเสมอ

✅ สมาคมนวดรักษาอาการ ประเทศออสเตรเลีย

https://www.massagemyotherapy.com.au/Membership/Already-a-Member/Continuing-Professional-Education

▶️ เพราะฉะนั้น นวดรักษาอาการของเราจึงแตกต่าง กับ การนวดประเภทอื่น ที่เราจะต้องทำการวิเคราะห์ปัญหาและสาเหตุ ก่อนที่จะทำการรักษาเสมอ

🪄 ดังนั้น การรักษาจะต้องผ่านการตัดสินใจและแผนการรักษาจาก Therapist เท่านั้น

วันนี้ แอดมิน อยากให้ทุกคนได้ทราบว่า นวดรักษาคือ อะไร มีความสำคัญอย่างไร เพื่อที่จะให้ทุกคนเข้าใจมากขึ้นนะครับ

แอดมิน

Balance Life Holistic Team

16/06/2021

อาการปวดเข่า ( Knee pain ).

- อาการปวดเข่าสามารถจำแนกได้หลายประเภท เช่น อาการปวดเข่าฉับพลัน, อาการปวดเข่าจากอาการบาดเจ็บ, อาการปวดเข่าจากภาวะข้อเข่าเสื่อม, และอาการปวดเข่าเรื้อรัง เป็นต้น

📍อาการปวดเข่าอาจจะไม่ใช่แค่ปัญหาเข่าเสื่อมอย่างที่เราเข้าใจ

➡️ เพราะว่า ข้อเข่า เป็นอวัยวะที่ช่วยให้เราเคลื่อนไหวในทุกท่วงท่าตามกิจกรรมต่างๆ ที่เราได้ทำ ฉะนั้น อาการปวดเข่าอาจเริ่มต้นที่จากน้ำหนักตัวเรา เนื่องจากข้อเข่าทำหน้าที่ในการรับน้ำหนักตัวตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการเดิน ยืน นั่ง หรือการทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ล้วนส่งผลกระทบต่อเราไม่ทางตรงก็ทางอ้อม เช่น การนั่งสมาธิ, การนั่งสวดมนต์, การนั่งยองๆ, การวิ่ง, การกระโดดที่สูง, และการออกกำลังกายหนัก ( การยกเวทที่น้ำหนักมากๆ ) เป็นต้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัย

👨‍🏭 รู้จักข้อเข่า

- ข้อเข่า ประกอบด้วยกระดูกต้นขา กระดูกหน้าแข้ง ลูกสะบ้า นอกจากนี้ยังมีอวัยวะที่สำคัญอย่าง กระดูกอ่อน และน้ำหล่อเลี้ยงข้อเข่าที่ทำหน้าที่รองรับการเคลื่อนไหวของข้อเข่า นอกจากนี้ยังมีเอ็นรอบ ๆ ข้อเข่า เอ็นไขว้หน้า เอ็นไขว้หลังที่อยู่ด้านใน ซึ่งช่วยสร้างความมั่นคงของเข่าและหมอนรองกระดูก ซึ่งเป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่รองรับแรงกระแทกบริเวณเข่า ช่วยดูดซับและกระจายแรงจากน้ำหนักตัว

📋 สาเหตุของการปวดเข่า มีดังนี้

✔️ เส้นเอ็น (Ligament) หากมีการใช้งานซ้ำ ๆ เช่น นักกีฬาที่มีการใช้งานเข่าซ้ำ ๆ อาจส่งผลให้เส้นเอ็นลูกสะบ้าทำงานหนัก ทำให้อักเสบหรือเกิดอุบัติเหตุระหว่างเล่นกีฬาหรือฝึกซ้อม

✔️ กระดูกอ่อน (Cartilage) เป็นสาเหตุที่ทำให้ปวดเข่าได้เช่นกัน ที่พบได้บ่อย เช่น กระดูกอ่อนลูกสะบ้า โดยอาจเป็นร่วมกับเอ็นลูกสะบ้าอักเสบได้ เกิดจากการใช้งานซ้ำ ๆ หรือมีการกระแทกซ้ำ ๆ จนทำให้เกิดการอักเสบหรือสึกหรอขึ้นบริเวณกระดูกอ่อน หรือจากการงอเข่า นั่งยองเป็นประจำ การใช้งานข้อเข่าในการเดินขึ้นลงบันได ร่วมกับกล้ามเนื้อโดยรวมของสะโพกและขาไม่แข็งแรงมากพอ ก็ส่งผลทำให้คนไข้เกิดอาการปวดเข่าได้

✔️ หมอนรองกระดูก (Meniscus) ปัญหาของหมอนรองกระดูกอาจเกิดจากความเสื่อมของเนื้อหมอนรองกระดูกตามการใช้งานตามอายุ หากปล่อยทิ้งไว้ไม่รักษา กระดูกอ่อนเกิดการเสียดสีกันไปเรื่อย ๆ เกิดการสึกหรอไปเรื่อย ๆ กลายเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมได้ ทั้งนี้สาเหตุอื่น ๆ เช่น การหกล้มหรือลื่นไถลผิดท่าอาจจะทำให้หมอนรองกระดูกที่มีความเสื่อมอยู่แล้วฉีกขาดรุนแรงมากขึ้นได้ แต่ในคนที่อายุน้อย ไม่ได้มีปัญหาความเสื่อมของหมอนรองกระดูก หากประสบอุบัติเหตุหรือบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้หมอนรองกระดูกฉีกขาดและมีอาการปวดเข่าได้เช่นกันในทุกเพศทุกวัย

✔️ ภาวะข้อเข่าเสื่อม ก็จะมีอาการปวดเช่นกัน โดยส่วนใหญ่มักจะเริ่มจากปวดด้านในข้อเข่า หากอาการเสื่อมเป็นรุนแรงขึ้นก็จะทำให้ปวดทั่ว ๆ หัวเข่าตามมา ซึ่งสาเหตุข้อเข่าเสื่อมอาจจะเกิดจากมีการบาดเจ็บของส่วนต่าง ๆ ในข้อเข่า เช่น เส้นเอ็น หรือหมอนรองกระดูก และถูกปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษาให้ทันท่วงที

♦️ อาการปวดเข่า

- อาการปวดเข่า ส่วนใหญ่จะซ้อนทับกัน ไม่สามารถบ่งชี้ลักษณะอาการได้โดยตรงจากภายนอก แพทย์จะประเมินอาการของคนไข้และวินิจฉัยจากการซักประวัติและตรวจร่างกายเพิ่มเติมด้วย แต่หากสงสัยการบาดเจ็บรุนแรงในข้อเข่า การทำ MRI ประกอบเพิ่มเติมจะช่วยให้ทราบถึงความรุนแรงและวินิจฉัยอาการได้ตรงตามตำแหน่ง ในกรณีที่คนไข้มีอาการผิดปกติ เช่น

1. มีอาการเจ็บหรือปวดข้อเข่าผิดปกติ ประสบปัญหาในการเหยียดงอของข้อ มีอาการเหยียดไม่สุด งอไม่เข้า การยืนหรือลงน้ำหนักไม่ได้หรือได้ไม่เต็มที่

2. มีอาการปวด บวม ร้อนในตำแหน่งข้อเข่า
เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการอักเสบของเข่า

3. มีอาการปวดเรื้อรังไม่หาย ทานยาสามัญประจำบ้านแล้วไม่ดีขึ้น หรือพักขา ลดการเดินหรือกิจกรรมที่ส่งผลต่อข้อเข่าแล้วไม่ดีขึ้น ควรรีบมาพบแพทย์

Remedial massage treatment for knee pain
การรักษาอาการปวดเข่าของนวดรักษาอาการ

- Trigger point therapy
- Joint mobility
- Lift technique
- Deep tissue massage
- Stretching

✅ ป้องกันอาการปวดเข่า

- การป้องกันอาการปวดเข่าสามารถทำได้โดยการบริหารกล้ามเนื้อให้แข็งแรง คนที่มีน้ำหนักตัวมากควรลดน้ำหนัก หลีกเลี่ยงท่าที่เสี่ยง เช่น งอเข่า นั่งยอง คุกเข่า พับเพียบ ขัดสมาธิเป็นเวลานาน ๆ เป็นต้น

🅿️ ท่าบริหารกล้ามเนื้อบริเวณเข่า มีดังต่อไปนี้

1. ท่าเหยียดขาตรง (Straight Leg Raising) นั่งเก้าอี้ให้หลังตรง ยกขาขึ้น เข่าเหยียดตรงไม่งอ ค้างไว้ นับ 1 – 10 ต่อเซ็ต จะได้การบริหารกล้ามเนื้อต้นขา

2. สควอช (Squat) กางขาสองข้างระดับหัวไหล่ สามารถยกแขนเพื่อบาลานซ์ตัว หลังตรงเกร็งหน้าท้อง หย่อนก้นและย่อเข่าลงมา พยายามให้หัวเข่าไม่เลยเกินปลายเท้า ย่อเข่าลง 90 องศา แต่ในผู้ที่มีอาการปวดเข่าแนะนำให้ย่อเข่าลงเพียง 45 – 60 องศาที่เรียกว่า ฮาร์ฟสควอช (Half Squat) ทำ 10 ครั้งต่อเซ็ต

3. ท่าย่อขา (Lunges) เป็นท่าบริหารโดยการย่อขา เพื่อบริหารกล้ามเนื้อต้นขาและกล้ามเนื้อบริเวณสะโพกคล้ายกับการสควอช แต่ใช้การก้าวมาด้านหน้าและย่อเข่าสลับกัน เป็นต้น

แอดมิน Balance Life Holistic team

Balance Life ช่วงนี้เรารับเคส วันเสาร์  - อาทิตย์ ด้วยนะครับ สามารถ Inbox สอบถามได้ ปรึกษาฟรีครับ
15/06/2021

Balance Life ช่วงนี้เรารับเคส วันเสาร์ - อาทิตย์ ด้วยนะครับ สามารถ Inbox สอบถามได้ ปรึกษาฟรีครับ

อาการปวดหลังเป็นสิ่งที่เราไม่ควรมองข้ามในยุคปัจจุบัน เพราะอาการปวดหลังนอกจากส่งผลกระทบมอาการเจ็บปวดทางด้านร่างกายแล้ว อา...
15/06/2021

อาการปวดหลังเป็นสิ่งที่เราไม่ควรมองข้ามในยุคปัจจุบัน เพราะอาการปวดหลังนอกจากส่งผลกระทบมอาการเจ็บปวดทางด้านร่างกายแล้ว อาการเจ็บปวดเรื้อรังของหลัง ยังสามารถส่งผลกระทบทางด้านจิตใจด้วยเช่นกัน ดูแลรักษาร่างกายของเราให้ดี เพราะสินทรัพย์ที่มีค่าที่สุดคือ ร่างกายของเรา หมั่นดูแลเอาใจใส่กับตรวจสอบสุขภาพร่างกายของเราทุกวัน เพื่อสร้างชีวิตที่ดีให้กับตัวเราและบุคคลรอบข้างครับ

Balance Life Holistic team

อยากรู้ไหมครับ ข้อแตกต่างระหว่าง (ปวดหัว, ไมเกรน) กับ ปวดจากกล้ามเนื้อ อะไร คือ สาเหตุของต้นเหตุ 🙂
14/06/2021

อยากรู้ไหมครับ ข้อแตกต่างระหว่าง (ปวดหัว, ไมเกรน) กับ ปวดจากกล้ามเนื้อ อะไร คือ สาเหตุของต้นเหตุ 🙂

เมื่อวาน พวกเราได้ไปฉีด วัคซีน ป้องกันโควิด เข็มแรกมาเรียบร้อยแล้วนะครับ ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี อย่างน้อยก็ช่วยลดการ...
13/06/2021

เมื่อวาน พวกเราได้ไปฉีด วัคซีน ป้องกันโควิด เข็มแรกมาเรียบร้อยแล้วนะครับ ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี อย่างน้อยก็ช่วยลดการแพร่ระบาด และทำให้บุคลากรทางการแพทย์ทำงานสะดวกและผ่อนคลายมากขึ้น ยังไงก็ต้องรักษามาตรการป้องกันไว้อยู่นะครับ ถึงจะได้รับวัคซีนแล้ว ข่าวดีกำลังจะเกิดขึ้น ถ้าทุกคนช่วยกันนะครับ ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนนะครับ ❤

ที่อยู่

Nai Muang
30000

เวลาทำการ

จันทร์ 09:00 - 18:00
อังคาร 09:00 - 18:00
พุธ 09:00 - 18:00
พฤหัสบดี 09:00 - 18:00
ศุกร์ 09:00 - 06:00

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Balance Lifeผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram

ประเภท