26/10/2025
ปวดสะบักเรื้อรัง...นวดเท่าไหร่ก็ไม่หาย จริงๆ แล้วต้นเหตุอาจมาจาก “กระดูกคอ” ของคุณ
ปวดสะบักมาก ปวดมาก
นี่คือคำกล่าวของ ‘คนไข้วัย 30 ปี’ ที่สะท้อนถึงปัญหาที่หลายคนกำลังเผชิญอยู่ อาการปวดตึงบริเวณคอ บ่า ไหล่ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาการปวดร้าวลึกๆ บริเวณ “สะบัก” (บริเวณระหว่างกระดูกสันหลังกับขอบไหล่ด้านใน) เป็นกลุ่มอาการยอดฮิตที่มักถูกเหมารวมว่าเป็น “ออฟฟิศซินโดรม” หรือ “กล้ามเนื้ออักเสบ” ธรรมดา
แต่ในความเป็นจริงแล้ว บ่อยครั้งที่ต้นตอของปัญหาไม่ได้อยู่ที่กล้ามเนื้อสะบักโดยตรง แต่อยู่ที่ “กระดูกคอ” ของเรานี่เอง วันนี้จะมาไขปริศนาให้ฟังว่า...ทำไมปัญหาที่คอ ถึงส่งสัญญาณปวดไปที่สะบักได้?
ทำความรู้จัก “กระดูกคอเสื่อม” ภาวะที่เกิดกับเราทุกคน
กระดูกคอของเรามี 7 ข้อ (C1-C7) ระหว่างแต่ละข้อจะมี “หมอนรองกระดูก” ทำหน้าที่เหมือนโช้คอัพ คอยรับแรงกระแทกและทำให้คอเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ เมื่อเราอายุมากขึ้น ประกอบกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน เช่น การก้มหน้าเล่นมือถือ การนั่งทำงานในท่าที่ไม่ถูกต้องเป็นเวลานาน ความเสื่อมก็เริ่มมาเยือนครับ
“โรคกระดูกคอเสื่อม” (Cervical Spondylosis) ไม่ใช่โรคที่น่ากลัว แต่เป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงตามวัย ซึ่งจะเกิดการเปลี่ยนแปลงหลักๆ คือ:
- หมอนรองกระดูกบางลง: สูญเสียน้ำ ทำให้ความยืดหยุ่นลดลง
- มีกระดูกงอก (Bone Spurs): ร่างกายพยายามสร้างกระดูกขึ้นมาเพื่อเพิ่มความมั่นคงให้กับข้อต่อที่เริ่มหลวม
- เอ็นยึดข้อหนาตัวขึ้น: เพื่อพยุงข้อต่อที่เสื่อม
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ทำให้ช่องว่างที่เส้นประสาทวิ่งผ่านแคบลง และนี่คือจุดเริ่มต้นของปัญหาครับ
ไขปริศนา: ทำไม “คอ” เสื่อม ถึง “ปวด” ที่สะบัก?
เพื่อให้เข้าใจง่ายที่สุด ลองนึกภาพตามนะครับ...
เส้นประสาทที่ออกมาจากกระดูกคอ ก็เปรียบเสมือน “สายไฟ” ที่วิ่งออกมาจากแผงควบคุมหลัก (ไขสันหลัง) เพื่อไปเลี้ยงกล้ามเนื้อและรับความรู้สึกในบริเวณต่างๆ ทั้งบ่า, ไหล่, สะบัก, แขน, ไปจนถึงปลายนิ้ว
เมื่อกระดูกคองอก หรือหมอนรองกระดูกโป่งออกมาเบียด “ต้นทางของสายไฟ” (รากประสาท) ที่บริเวณคอ...แม้จะเบียดเพียงเล็กน้อย ก็เป็นการรบกวนการส่งสัญญาณไฟฟ้าได้แล้ว
สมองของเราซึ่งเป็นศูนย์กลางควบคุม จะตีความสัญญาณที่ผิดเพี้ยนนี้ว่า “ความเจ็บปวด” และแสดงอาการออกมาที่ “ปลายทาง” ของสายไฟเส้นนั้นๆ ซึ่งเส้นประสาทที่ออกมาจากกระดูกคอระดับที่ 5, 6, 7 (C5, C6, C7) มักจะส่งแขนงไปเลี้ยงกล้ามเนื้อบริเวณสะบักพอดี
ดังนั้น จึงไม่แปลกเลยที่ต้นเหตุอยู่ที่คอ แต่เรากลับรู้สึกปวดร้าวลึกๆ หรือปวดตึงเหมือนมีใครมาขยำอยู่ที่สะบักตลอดเวลา นี่คือลักษณะของ “อาการปวดร้าว (Referred Pain)” ที่เกิดจากเส้นประสาทถูกรบกวนนั่นเองครับ
อาการแบบไหนที่บ่งชี้ว่า...อาการปวดสะบักของคุณอาจมาจากคอ?
- ลักษณะการปวด: เป็นอาการปวดตื้อๆ ลึกๆ ที่สะบักหรือบ่า อาจเป็นข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้
- อาการสัมพันธ์กับท่าทางของคอ: อาการปวดที่สะบักจะ เป็นมากขึ้น เมื่อคุณแหงนคอ, ก้มคอค้างไว้นานๆ, หรือหันคอไปทางด้านที่ปวด
- มีอาการอื่นที่คอร่วมด้วย: เช่น รู้สึกปวดตึงที่ต้นคอ, คอขยับได้ไม่เต็มที่, หรือมีเสียงกรอบแกรบเวลาหันคอ
- อาจมีอาการร้าวไปที่อื่น: บางรายอาจมีอาการปวดร้าวไปที่หัวไหล่, ต้นแขน หรืออาจมีอาการชาหรืออ่อนแรงที่แขนและมือร่วมด้วย หากเส้นประสาทถูกกดทับมากขึ้น
- ปวดศีรษะ: อาจมีอาการปวดศีรษะบริเวณท้ายทอย ร้าวขึ้นไปที่กระบอกตา ซึ่งเป็นอาการปวดศีรษะที่มีต้นเหตุมาจากคอ (Cervicogenic Headache)
เมื่อมาพบนักกายภาพบำบัด ต้องตรวจอะไรบ้าง?
เมื่อสงสัยว่าอาการปวดสะบักของคุณมาจากปัญหาที่คอ การวินิจฉัยจะเริ่มจาก:
1. การซักประวัติและตรวจร่างกายอย่างละเอียด: หมอจะสอบถามลักษณะอาการปวด, ท่าทางที่กระตุ้นให้ปวด และทำการตรวจร่างกาย โดยจะมีการขยับคอในท่าต่างๆ เพื่อดูว่าสามารถกระตุ้นให้เกิดอาการปวดร้าวลงสะบักได้หรือไม่ (special Tests) รวมถึงการตรวจกำลังกล้ามเนื้อและระบบประสาทของแขนและมือ
2. ขอดูผลการเอกซเรย์ (X-ray): เพื่อดูโครงสร้างโดยรวมของกระดูกคอ จะเห็นช่องว่างระหว่างข้อที่แคบลง, ภาวะกระดูกงอก, หรือความไม่มั่นคงของข้อต่อ
แนวทางการรักษา: ข่าวดีคือส่วนใหญ่ “ไม่ต้องผ่าตัด”
หัวใจสำคัญของการรักษาคือการลดการอักเสบของเส้นประสาทและปรับโครงสร้างการใช้งานให้ถูกต้อง ซึ่งมากกว่า 90% ของผู้ป่วยสามารถดีขึ้นได้ด้วยการรักษาแบบประคับประคองครับ
- 1. การปรับพฤติกรรม (สำคัญที่สุด!):
- จัดท่าทางการทำงานให้ถูกต้อง: ปรับระดับจอคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในระดับสายตา ไม่ต้องก้มหรือเงย, นั่งหลังตรงชิดพนักพิง, มีที่วางแขนเพื่อลดภาระบ่า
- หลีกเลี่ยงท่าทางที่กระตุ้นอาการ: เช่น การก้มหน้าเล่นมือถือเป็นเวลานาน, การนอนผิดท่า
- พักการใช้งาน: ทุกๆ 30-60 นาที ควรลุกขึ้นยืดเส้นยืดสาย เปลี่ยนอิริยาบถ
- 2. การทำกายภาพบำบัด: โดยมีเป้าหมายเพื่อ:
- ลดปวดและอักเสบ: ด้วยเครื่องมือทางกายภาพ เช่น การประคบร้อน, อัลตราซาวด์, หรือการกระตุ้นไฟฟ้า
-ดึงกระดูกคอด้วยเครื่องดึงคอ เพื่อลดการกดของกระดูกคอ
- ยืดกล้ามเนื้อ: คลายกล้ามเนื้อคอและบ่าที่ตึงเกร็ง
- เพิ่มความแข็งแรง: บริหารเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของ “กล้ามเนื้อชั้นลึก” บริเวณคอและสะบัก เพื่อสร้างความมั่นคงให้กระดูกคอในระยะยาว
หากคุณกำลังเผชิญกับอาการปวดสะบักเรื้อรังที่รักษากี่ครั้งก็ไม่หาย ลองสังเกตอาการตัวเองดูนะครับว่ามีความสัมพันธ์กับคอหรือไม่ การวินิจฉัยที่ถูกต้องคือจุดเริ่มต้นของการรักษาที่มีถูกต้องตรงจุด
มากกว่า 90% สามารถรักษาได้ ไม่ต้องผ่าตัด
ปรึกษาที่ สหคลินิกนครนายกและกายภาพบำบัด
🚨โทร.0863182912
-การรักษากายภาพบำบัดโดยนักกายภาพบำบัดเปิดบริการวันจันทร์ถึงวันศุกร์เวลา 17.00-20.00น. และเสาร์อาทิตย์เวลา09.00-12.00 น.
-ฝังเข็มโดยแพทย์แผนจีน บริการวันจันทร์,วันพุธ เวลา17.00-20.00น.และวันอาทิตย์เวลา09.00-12.00 น.
🏥โลเกชั่น:https://maps.app.goo.gl/acnXiFePcwody5np8?g_st=al
ฆสพ.เลขที่1/68
#ปวดคอ #ปวดสะบัก #กระดูกคอเสื่อม #ออฟฟิศซินโดรม #ปวดบ่า #ปวดคอร้าวลงแขน #หมอนรองกระดูกคอเสื่อม