03/04/2025
"ทำร้อยรอดหนึ่ง" คำเปรียบเทียบที่สะท้อนถึงความสำเร็จของกลุ่ม "สตาร์ทอัพ" ที่ไม่เกินจริง คำถามที่น่าสนใจคือ ทำไมธุรกิจสตาร์ทอัพ ถึงประสบความสำเร็จได้ยาก แล้วอะไรกันแน่ที่มีส่วนสำคัญที่ทำให้สตาร์ทอัพส่วนใหญ่ "ล้มเหลว" โดยผลจากการรวบรวมสถิติของ "CB Insights" ที่วิเคราะห์จากสตาร์ทอัพ 111 ราย โดยปรากฏข้อมูลที่ให้ว่าสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้สตาร์ทอัพไม่ประสบความสำเร็จ มีดังนี้
1. ไม่ตรงกับความต้องการของตลาด 42%
สาเหตุที่พบมากที่สุดคือ สตาร์ทอัพที่ไม่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ไม่มีตลาดรองรับ หรือไม่เป็นที่ต้องการของตลาด หรือบางครั้งไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในตลาดได้ใหญ่พอที่จะให้บริการในระดับสากล ทำให้เมื่อจำเป็นต้องปรับสเกลที่ใหญ่ขึ้นทำให้ไม่สามารถไปต่อได้ แม้จะมีดีในมิติอื่นๆ ก็ตาม
2. เงินไม่พอ หรือขาดเงินทุน 29%
เงินและเวลาเป็นสิ่งที่มีจำกัดสำหรับสตาร์ทอัพ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องตัดสินใจอย่างรอบคอบ เพราะหลายครั้งเงินถูกใช้ไปโดยไม่ได้ประโยชน์กลับมา ทำให้การหมุนเวียนเงินในกิจการไม่มีประสิทธิภาพ และเมื่อไม่สามารถเพิ่มทุนได้แล้ว ก็จะนำสู่ความล้มเหลวในที่สุด
3. ขาดทีมที่เหมาะสม 23%
ไม่ว่าธุรกิจไหนๆ ก็ต้องการ "ทีมที่ใช่" สตาร์ทอัพก็เช่นกัน ทีมที่มีความหลากหลายและมีทักษะที่แตกต่างกันมีความสำคัญต่อความสำเร็จของกิจการ ซึ่งหลายครั้งที่ทีมไม่แข็งแกร่งพอ ก็เป็นส่วนที่ทำให้ธุรกิจไปต่อไม่ได้อย่างน่าเสียดาย
4. สู้คู่แข่งไม่ได้ 19%
แม้สตาร์ทอัพมักจะมีเป้าหมายเพื่อแก้เพนพอยต์ที่เกิดขึ้นกับผู้บริโภค และไม่ได้ทำผลิตภัณฑ์เพื่อแข่งขันในตลาดที่มีอยู่เดิมมากนัก แต่เมื่อตลาดขยายตัวมากขึ้น การไม่ศึกษาหรือสนใจคู่แข่งเลย ก็มีส่วนทำให้เกิดความล้มเหลวได้
5. ราคาและต้นทุน 19%
เมื่อแกะกรณีศึกษาเบื้องหลังของความล้มเหลวของสตาร์ทอัพ พบว่า "ราคา" เป็นศาสตร์มืดอย่างหนึ่งที่ทำให้สตาร์ทอัพล้มเหลว ความยากในการตั้งราคาหรือต้นทุนให้ไม่สูงหรือต่ำเกินไป หากไม่สามารถหาความสมดุลในเรื่องนี้ได้ก็มีส่วนให้ไปไม่รอด
6. ผลิตภัณฑ์ยังไม่ดีพอ 17%
ยังไม่ดีพอ ณ ที่นี้ ไม่ได้หมายถึงแค่คุณสมบัติการใช้งานเท่านั้น แต่ถ้าไม่ผลิตภัณฑ์ไม่เป็นมิตรกับผู้ใช้ก็มีส่วนทำให้ไม่ได้รับความนิยมเช่นกัน
7. ขาดโมเดลธุรกิจที่ดี 17%
รูปแบบการทำธุรกิจเป็นเรื่องสำคัญมาก หากสตาร์ทอัพยึดติดอยู่กับการทำธุรกิจที่อาจเติบโตได้ยากเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง หรือทำเงินไม่ได้จริง จะมีส่วนทำให้นักลงทุนเกิดความลังเล ที่อาจทำให้ขาดเงินทุนมาต่อยอดและไม่ประสบความสำเร็จ
8. การตลาดไม่ดี 14%
สตาร์ทอัพทำผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ดีอย่างเดียวไม่พอ ถ้าขาดองค์ความรู้ในการทำการตลาด ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย หรือไม่สามารถครองผู้บริโภคในระยะยาว ก็มีโอกาสพังได้ไม่ยากเช่นกัน
9. จังหวะ เวลา ยังไม่เหมาะสม 13%
จังหวะเวลาในการปล่อยผลิตภัณฑ์สู่ตลาดเป็นจุดเปลี่ยนให้สตาร์ทอัพปังหรือพังได้เลยทีเดียว แม้ผลิตภัณฑ์จะดีแต่มาก่อนกาล ออกมาเร็วเกินไปจนทำให้ลูกค้ารู้สึกว่ายังไม่จำเป็นในตอนนี้ก็อาจทำให้จุดติดได้ยาก ขณะเดียวกันถ้ามาช้าไป ทำให้แข่งขันยาก และเสียโอกาสในการเปิดตลาด
10. โฟกัสไม่มากพอ 13%
การทำธุรกิจจำเป็นต้องใช้เวลาในการบ่มเพาะ และต้องโฟกัสอย่างจริงจัง ผู้ประกอบการที่ล้มเหลวมักจะขาดการโฟกัสที่ดี เปลี่ยนไปมา ไม่มั่นคง ไม่แน่วแน่ ไม่ชัดเจน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญทำให้ธุรกิจล้มเหลว
#มหิดล
-----------------------------
ติดตามข่าวสารและกิจกรรมของ iNT ได้ที่ :
Website : https://int.mahidol.ac.th/
FB : https://www.facebook.com/int.accelerate
TikTok : https://www.tiktok.com/
โทร : 02-849-6420