เครื่องดื่มน้ำสมุนไพรผสมน้ำผลไม้ A-Mixx Plus ส่วนผสมที่ลงตัวเพื่อคุณ

เครื่องดื่มน้ำสมุนไพรผสมน้ำผลไม้ A-Mixx Plus ส่วนผสมที่ลงตัวเพื่อคุณ นวัตกรรมใหม่ล่าสุด ผสมผสานน้ำสมุนไพรและน้ำผลไม้เข้าด้วยกัน ช่วยให้การดูแลสุขภาพองค์รวมได้ดีที่สุด

ของดีที่ต้องทาน
27/08/2025

ของดีที่ต้องทาน

29/10/2023
ลูทีนดีต่อดวงตา มีประโยชน์ต่อสุขภาพจริงหรือ ?    ลูทีนเป็นสารอาหารในอันดับต้น ๆ ที่เชื่อกันว่ามีส่วนช่วยบำรุงสุขภาพดวงตา...
15/10/2023

ลูทีนดีต่อดวงตา มีประโยชน์ต่อสุขภาพจริงหรือ ?

ลูทีนเป็นสารอาหารในอันดับต้น ๆ ที่เชื่อกันว่ามีส่วนช่วยบำรุงสุขภาพดวงตาและป้องกันโรคตาบางชนิด เช่น โรคจอประสาทตาเสื่อม โรคต้อกระจก หรือแม้แต่ปัญหาสุขภาพอื่น ๆ อย่างโรคหัวใจ เบาหวานชนิดที่ 2 มะเร็งเต้านม หรือมะเร็งลำไส้ แต่คุณประโยชน์เหล่านี้เชื่อถือได้จริงหรือไม่ ทางวิทยาศาสตร์มีความเห็นว่าอย่างไรบ้าง ?

ลูทีน

ลูทีนเป็นสารอาหารในกลุ่มเดียวกับเบต้าแคโรทีนและวิตามินเอที่พบได้มากในผักและผลไม้หลายชนิด เช่น ผักปวยเล้ง บร็อคโคลี่ คะน้า ข้าวโพด กีวี่ องุ่น ส้ม เป็นต้น เชื่อกันว่าการกินผักผลไม้เหล่านี้จะช่วยให้ได้รับประโยชน์จากลูทีนนานาประการ นอกจากนี้ หลายคนยังนิยมกินอาหารเสริมหรือวิตามินรวมที่มีลูทีนเป็นส่วนประกอบเพื่อสรรพคุณทางยา ซึ่งปรากฏผลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์หลายชิ้นที่ชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ด้านสุขภาพของลูทีนในแง่มุมต่าง ๆ ดังนี้

บำรุงสายตา เนื่องจากลูทีนเป็นสารแคโรทีนอยด์ชนิดสำคัญที่มีอยู่ในจอประสาทตาของมนุษย์ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าเม็ดสีจอประสาทตา มีหน้าที่กรองแสงและป้องกันดวงตาจากแสงแดดหรือคลื่นแสงพลังงานสูงอย่างรังสีอัลตราไวโอเลต นักวิจัยหลายคนจึงเชื่อว่าเป็นสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างการมองเห็นและบำรุงสุขภาพดวงตา โดยเฉพาะแก้วตาและจอประสาทตา งานวิจัยชิ้นหนึ่งพิสูจน์ข้อสันนิษฐานนี้โดยแบ่งผู้ป่วยโรคจอประสาทตาเสื่อมในระยะแรกออกเป็น 4 กลุ่ม แต่ละกลุ่มได้รับอาหารเสริมแตกต่างกันไปเป็นระยะเวลา 2 ปี ได้แก่ ลูทีน 10 มิลลิกรัม ลูทีน 20 มิลลิกรัม ลูทีนและซีแซนทีน หรือไม่ได้กินอาหารเสริมชนิดใดทั้งสิ้น ผลการตรวจสุขภาพดวงตาหลังจากนั้นพบว่าผู้ที่กินลูทีนทั้ง 2 กลุ่ม มีจำนวนเม็ดสีในจอประสาทตาเพิ่มขึ้น รวมทั้งจอตามีความไวต่อแสงมากขึ้นพอ ๆ กัน การบริโภคอาหารเสริมลูทีนวันละ 10 มิลลิกรัม ติดต่อกันเป็นเวลานานจึงอาจเป็นทางเลือกหนึ่งของการรักษาโรคจอประสาทตาเสื่อมในระยะแรก

การศึกษาทางวิทยาศาสตร์บางชิ้นยังชี้ให้เห็นว่าปริมาณลูทีนและซีแซนทีนในดวงตาส่งผลต่อประสิทธิภาพการมองเห็นของคนเรา การได้รับสารอาหารดังกล่าวในปริมาณมากจึงอาจช่วยให้มองเห็นได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในที่มืดสลัว ดังปรากฏในงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ให้คนขับรถที่มีสุขภาพดีกินอาหารเสริมลูทีนวันละ 20 มิลลิกรัมแล้ววัดปริมาณเม็ดสีในจอตาและประสิทธิภาพในการมองเห็น ผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่ากลุ่มที่กินลูทีนมีระดับเม็ดสีในจอประสาทตามากขึ้นและมีคะแนนการประเมินความคมชัดและความสว่างในการมองเห็นเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้กินลูทีน จึงกล่าวได้ว่าลูทีนอาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็นในที่มืดและส่งผลให้ขับรถตอนกลางคืนได้ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม การศึกษาในด้านนี้โดยเฉพาะเจาะจงกับลูทีนนั้นถือว่ายังมีจำนวนน้อย งานวิจัยหลายชิ้นทดลองโดยใช้อาหารเสริมลูทีนผสมกับอาหารเสริมชนิดอื่นที่อาจมีส่วนช่วยเสริมสร้างสุขภาพดวงตาเช่นกัน เช่น วิตามินซี วิตามินอี เป็นต้น ปัจจุบันจึงไม่อาจระบุได้อย่างชัดเจนว่าลูทีนมีสรรพคุณช่วยในการมองเห็นและบำรุงดวงตามากน้อยเพียงใด

นอกจากนี้ การบริโภคอาหารเสริมลูทีนร่วมกับโอเมก้า 3 อาจไม่ได้ช่วยบรรเทาอาการของโรคจอประสาทตาเสื่อม ดังปรากฏในงานวิจัยชิ้นหนึ่งว่าการกินอาหารเสริมลูทีนและซีแซนทีนร่วมกับกรดไขมันโอเมก้า 3 ไม่ได้ช่วยลดความเสี่ยงต่อการกำเริบของโรคจอประสาทตาเสื่อมแต่อย่างใด เช่นเดียวกับงานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งที่พบว่าการกินอาหารเสริมลูทีนร่วมกับกรดโอเมก้า 3 ติดต่อกัน 6 เดือนไม่ช่วยให้ผู้ป่วยที่เคยเป็นโรคจอประสาทตาเสื่อมมาก่อนมีการมองเห็นที่ดีขึ้น โดยสันนิษฐานว่ากรดโอเมก้า 3 จะไปลดประสิทธิภาพของลูทีนในการเสริมสร้างการมองเห็นและการบรรเทาอาการของโรคดังกล่าว

ช่วยเรื่องความจำ นอกจากจะได้ชื่อว่าเป็นวิตามินบำรุงสายตาแล้ว ลูทีนยังขึ้นชื่อเรื่องการบำรุงสมองและเสริมสร้างความจำ โดยเชื่อกันว่าอาจช่วยให้ผู้สูงอายุเสี่ยงความจำเสื่อมน้อยลง งานวิจัยชิ้นหนึ่งแบ่งผู้หญิงที่อยู่ในช่วงอายุ 60-80 ปี จำนวน 49 ราย ออกเป็น 4 กลุ่ม โดยให้แต่ละกลุ่มกินอาหารเสริมต่างชนิดกัน ได้แก่ กรดไขมัน DHA 800 มิลลิกรัม/วัน ลูทีน 12 มิลลิกรัม/วัน กรดไขมัน DHA และลูทีน หรือไม่ได้กินอาหารเสริมใด ๆ เป็นเวลา 4 เดือน พร้อมเข้ารับการทดสอบความจำและการเรียนรู้ ผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่ากลุ่มที่กินลูทีน กรดไขมัน DHA และกลุ่มที่กินทั้งกรดไขมัน DHA และลูทีน มีคะแนนความสามารถด้านการใช้ภาษาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่กลุ่มที่กินทั้ง 2 อย่างมีคะแนนด้านความจำและการเรียนรู้มากขึ้นด้วย จึงอาจกล่าวได้ว่าการได้รับกรดไขมัน DHA ควบคู่อาหารเสริมลูทีนช่วยให้ผู้สูงอายุมีความจำดีขึ้นได้

นอกจากนี้ ลูทีนอาจช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุได้ โดยมีการทบทวนงานวิจัยที่ผ่านมาแล้วพบว่าผลการศึกษาหลายชิ้นชี้ให้เห็นว่าปริมาณลูทีนในสมองนั้นส่งผลต่อความจำของผู้สูงอายุ ผู้สูงอายุที่มีปริมาณลูทีนในสมองน้อยลงมีแนวโน้มที่จะมีภาวะความจำเสื่อมไปตามวัยมากขึ้น อีกทั้งการลดลงของสารชนิดนี้อาจมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคอัลไซเมอร์ เนื่องจากพบว่าผู้ป่วยโรคนี้มีสารลูทีนในสมองลดลงอย่างเห็นได้ชัด

อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษาบางชิ้นโต้แย้งว่าการกินอาหารเสริมลูทีนนั้นอาจไม่ส่งผลต่อประสิทธิภาพความจำ ดังปรากฏในงานวิจัยที่ทดสอบประสิทธิภาพด้านการส่งเสริมความทรงจำของลูทีนในผู้ป่วยโรคจอประสาทตาเสื่อม ผลลัพธ์เผยให้เห็นว่าผู้ป่วยที่กินอาหารเสริมลูทีนวันละ 10 มิลลิกรัม เป็นเวลา 5 ปี ไม่ได้มีความสามารถในการจำเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้กินอาหารเสริมลูทีน

เสริมสร้างสุขภาพหัวใจ หนึ่งในคุณประโยชน์ของลูทีนที่ได้รับการกล่าวอ้างคือป้องกันปัญหาสุขภาพหัวใจ โดยหลายคนเชื่อว่าอาหารเสริมลูทีนอาจช่วยบรรเทาอาการป่วยของโรคหลอดเลือดแดงแข็งได้ งานวิจัยหนึ่งจึงทดลองให้ผู้ป่วยโรคนี้กินอาหารเสริมลูทีนวันละ 20 มิลลิกรัม ติดต่อกัน 3 เดือน ผลปรากฏว่าลูทีนช่วยลดอาการอักเสบในร่างกายและช่วยควบคุมระดับไขมันในเลือด ซึ่งเหล่านี้อาจเป็นปัจจัยสำคัญในการควบคุมอาการของโรคหลอดเลือดแดงแข็ง

อย่างไรก็ตาม ยังไม่ปรากฏข้อสรุปเกี่ยวกับสรรพคุณของอาหารเสริมลูทีนในการรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดแดงแข็ง เนื่องจากมีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลต่ออาการของโรค อีกทั้งมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งชี้ว่าอาหารเสริมชนิดอื่นอาจมีประสิทธิภาพในการรักษาโรคนี้มากกว่า หลังจากที่พบว่าผู้ป่วยโรคหลอดเลือดแดงแข็งที่ได้กินอาหารเสริมลูทีนวันละ 20 มิลลิกรัม ร่วมกับไลโคปีนปริมาณ 20 มิลลิกรัมนั้น มีอาการป่วยดีขึ้นกว่าผู้ที่รับประทานอาหารเสริมลูทีนเพียงอย่างเดียว

บำรุงผิวพรรณ ลูทีนเป็นสารแคโรทีนอยด์ชนิดหนึ่งซึ่งมีคุณสมบัติช่วยกรองแสงสีฟ้าและปกป้องผิวจากคลื่นแสงพลังงานสูง จึงมีความเชื่อว่าหากรับประทานอาหารเสริมหรือผักผลไม้ที่อุดมไปด้วยลูทีนจะช่วยบำรุงผิวให้กระจ่างใสและมีสุขภาพดียิ่งขึ้น ประเด็นนี้มีการศึกษากับผู้ที่มีผิวแห้งจำนวน 50 ราย โดยแบ่งให้ผู้เข้าร่วมการทดลองกลุ่มหนึ่งกินอาหารเสริมลูทีน 10 กรัม ร่วมกับซีแซนทีน 2 กรัม เป็นเวลาติดต่อกัน 12 สัปดาห์ ส่วนอีกกลุ่มไม่ได้กินอาหารเสริมดังกล่าว ซึ่งผลพบว่าผู้ที่กินอาหารเสริมลูทีนร่วมกับซีแซนทีน มีผิวเรียบเนียนและกระจ่างใสมากขึ้นเมื่อเทียบกับอีกกลุ่มหนึ่ง

แม้ลูทีนอาจมีส่วนช่วยบำรุงผิวพรรณได้ แต่การได้รับสารอาหารดังกล่าวมากเกินไปอาจทำให้ผิวมีสีออกเหลือง จึงควรจำกัดปริมาณการรับประทานผักและผลไม้ที่มีลูทีนสูงให้เหมาะสม โดยรวมกับอาหารเสริมลูทีนแล้วไม่เกินวันละ 20 มิลลิกรัม เพื่อให้ได้ทั้งประโยชน์ปลอดภัยในคราวเดียวกัน

กินลูทีนอย่างไรให้ปลอดภัยและได้ประโยชน์

ควรรับประทานอาหารเสริมลูทีนไม่เกินวันละประมาณ 7-15 มิลลิกรัม
สตรีมีครรภ์และผู้ที่ให้นมบุตรควรเลี่ยงการบริโภคอาหารเสริมลูทีน แต่รับประทานผักหรือผลไม้ที่อุดมไปด้วยลูทีนแทน
ผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของเซลล์เยื่อเมือกที่สร้างสารคัดหลั่งหรือโรคซิสติก ไฟโบรซิส (Cystic Fibrosis) ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้อาหารเสริมลูทีน เนื่องจากร่างกายของผู้ป่วยอาจดูดซึมสารแคโรทีนอยด์ได้น้อยและส่งผลให้มีระดับลูทีนในเลือดต่ำได้

ที่อยู่

รัตนาธิเบศร์
Nonthaburi
11110

เบอร์โทรศัพท์

+66620957794

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ เครื่องดื่มน้ำสมุนไพรผสมน้ำผลไม้ A-Mixx Plus ส่วนผสมที่ลงตัวเพื่อคุณผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram