06/07/2025
กระดูกสะโพกหักในผู้สูงวัย ปล่อยไว้อันตราย
กระดูกสะโพกหัก เป็นหนึ่งในภาวะที่พบบ่อยในผู้สูงวัย และเป็นภาวะที่อาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการใช้ชีวิตประจำวัน หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่มีผลเสียต่อการทำกิจวัตรประจำวันต่างๆ หรืออันตรายถึงชีวิตได้ ดังนั้นการทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาการ ปัจจัยเสี่ยง และแนวทางการรักษาจึงเป็นสิ่งสำคัญ
กระดูกสะโพกหัก คืออะไร ?
กระดูกสะโพกหัก คือ การแตกหักของกระดูกบริเวณข้อสะโพก ซึ่งประกอบด้วยกระดูกโคนขา และกระดูกเชิงกราน โดยส่วนใหญ่กระดูกที่หักจะเป็นส่วนหัวของกระดูกโคนขาที่เชื่อมต่อกับเบ้าสะโพก การหักของกระดูกสะโพกอาจเกิดจากอุบัติเหตุที่มีแรงกระแทกสูง หรือการล้มธรรมดาก็ได้ โดยเฉพาะในผู้สูงวัยที่มวลกระดูกลดลงและมีภาวะกระดูกพรุน
กระดูกสะโพกหัก อาการเป็นอย่างไร ?
อาการของกระดูกสะโพกหักอาจแตกต่างกันไปตามความรุนแรงของการบาดเจ็บ แต่โดยทั่วไปแล้ว ผู้ที่มีภาวะนี้จะมีอาการดังต่อไปนี้
ปวดบริเวณสะโพกหรือโคนขาอย่างรุนแรง
ไม่สามารถยืนหรือเดินได้ตามปกติ มีอาการเจ็บมาก
ขาข้างที่ได้รับบาดเจ็บมีลักษณะสั้นลงหรือบิดผิดรูป
บวม ช้ำ หรือมีรอยแดงบริเวณสะโพกหรือต้นขา
มีอาการปวดที่รุนแรงขึ้นเมื่อพยายามขยับขาหรือสะโพก
หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้กระดูกสะโพกหักในผู้สูงวัย
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้กระดูกสะโพกหักในผู้สูงวัย
ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดกระดูกสะโพกหักในผู้สูงวัย ได้แก่
อายุที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเพศหญิง
โรคกระดูกพรุน ทำให้กระดูกเปราะและแตกหักได้ง่าย
การขาดวิตามินดี และแคลเซียม ส่งผลให้กระดูกอ่อนแอลง
ภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรง ทำให้ควบคุมการทรงตัวได้ไม่ดี เพิ่มโอกาสล้ม
การใช้ยาบางชนิด เช่น ยานอนหลับหรือยาลดความดันเลือดที่อาจทำให้เวียนศีรษะและเสี่ยงต่อการล้ม
ภาวะทางสมอง เช่น โรคอัลไซเมอร์ หรือพาร์กินสัน ที่ส่งผลต่อการควบคุมร่างกาย
สิ่งแวดล้อมภายในบ้าน เช่น พื้นลื่น แสงสว่างไม่เพียงพอ หรือขอบพรมที่ทำให้สะดุดล้มได้ง่าย
อาการหลังการล้มที่ควรพบแพทย์ด่วน
อาการหลังการล้มที่ควรพบแพทย์ด่วน
หากผู้สูงวัยล้มและมีอาการเหล่านี้ ควรรีบพบแพทย์ทันที
ปวดสะโพกอย่างรุนแรงและขยับตัวไม่ได้
รู้สึกชาหรืออ่อนแรงบริเวณขาหรือสะโพก
มีรอยฟกช้ำหรือบวมผิดปกติ
เดินหรือยืนไม่ได้หลังจากล้ม
มีภาวะหน้ามืดหรือหมดสติ
หากละเลยอาการเหล่านี้ อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้
แนวทางการรักษากระดูกสะโพกหัก
การรักษากระดูกสะโพกหักมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการและสภาพร่างกายของผู้ป่วย โดยแนวทางการรักษาหลัก ได้แก่
1. การผ่าตัด
ผ่าตัดยึดกระดูก
ผ่าตัดใส่ข้อเทียม
2. การรักษาแบบไม่ผ่าตัด
ในกรณีที่ผู้ป่วยมีภาวะร่างกายไม่แข็งแรงพอสำหรับการผ่าตัด แพทย์อาจใช้ยาบรรเทาอาการปวดและหลีกเลี่ยงการลงน้ำหนักขาที่บาดเจ็บจนกว่ากระดูกจะติด อย่างไรก็ตามสามารถพบภสวะกระดูกไม่ติดหรือผิดรูปได้มาก
การฟื้นฟูหลังการรักษา
หลังการรักษา ผู้ป่วยต้องได้รับการฟื้นฟูเพื่อกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยมีแนวทางสำคัญดังนี้
กายภาพบำบัด เพื่อฟื้นฟูการเคลื่อนไหวและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
ออกกำลังกายเบา ๆ เช่น การเดินหรือยืดเหยียดภายใต้การดูแลของแพทย์
โภชนาการที่เหมาะสม รับประทานอาหารที่มีแคลเซียมและวิตามินดีสูง เช่น นม ปลาเล็กปลาน้อย และผักใบเขียว
ปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมในบ้าน เช่น ติดราวจับในห้องน้ำ ใช้รองเท้ากันลื่น เพื่อลดความเสี่ยงในการล้มซ้ำ
การป้องกันกระดูกสะโพกหัก
ตรวจสุขภาพ เช่น ตรวจสายตาและสภาพเท้า
จัดบ้านให้ปลอดภัย ลดความเสี่ยงการพลัดตกหกล้ม
กินอาหารที่มีวิตามินดีและแคลเซียมอย่างพอเหมาะ
หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
ออกกำลังกายเป็นประจำ
กระดูกสะโพกหัก ในผู้สูงวัยเป็นภาวะที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตและนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง หากมีอาการปวดสะโพกหลังจากการล้ม ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาทันที นอกจากนี้ การป้องกันโดยการเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดโอกาสเกิดภาวะนี้ในผู้สูงวัย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก: https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/article/กระดูกสะโพกหักในผู้สูง/
#สังคมสูงวัย #โจทย์ใหญ่ด้านนโยบาย #โอกาสทางธุรกิจ #ตัวช่วยรักษามะเร็ง #มะเร็งหายได้ #สูงวัย #สูงอายุ #มะเร็ง #คนรักสุขภาพ #ภูมิคุ้มกันบำบัด #ชาวสูงวัย #ให้อายุเป็นเพียงตัวเลข #สูงวัยอย่างไรให้สุขสันต์ #วัยเก๋า #วัยเก๋า #เเรงบันดาลใจ #ข้อมูลมะเร็ง #อาหารเสริม #อาหารเสริมนำเข้า #ข้อมูลสุขภาพ #สูงวัยใส่ใจสุขภาพ #ยาชุด #สูงวัยเตือนภัย #กระดูกสะโพกหักในผู้สูงวัย