ดีคอนแทค พลัส D-Contact Plus

ดีคอนแทค พลัส D-Contact Plus ต้อเนื้อ ต้อกระจก ต้อลม ต้อหิน วุ้นในตาเสื่อม สายตาพล่ามัว แสบตา เคืองตา น้ำตาไหล

ต้อเนื้อ ต้อกระจก ต้อลม ต้อหิน วุ้นในตาเสื่อม สายตาพล่ามัว แสบตา เคืองตา ใช้ยาหยอดาตลอด

ลูกค้าทานดีคอนแทคเอ็กซ์ไป 2 กล่องจุดดำๆหายไปแล้ว ดีใจกับลูกค้าด้วยครับ #วุ้นในตาเสื่อม  #วุ้นในตาเสื่อม  #ดีคอนแทคเอ็กซ์...
25/02/2025

ลูกค้าทานดีคอนแทคเอ็กซ์ไป 2 กล่องจุดดำๆหายไปแล้ว ดีใจกับลูกค้าด้วยครับ

#วุ้นในตาเสื่อม #วุ้นในตาเสื่อม #ดีคอนแทคเอ็กซ์ #แก้ปัญหาสายตา #มีจุดดำๆลอยไปลอยมา

โรคและปัญหาทางตาของผู้สูงวัย โรคและปัญหาทางตาที่มักเกิดขึ้นในผู้สูงอายุ มีดังนี้1) สายตาสูงวัยหรือสายตายาวตามอายุสายตาสู...
12/05/2024

โรคและปัญหาทางตาของผู้สูงวัย

โรคและปัญหาทางตาที่มักเกิดขึ้นในผู้สูงอายุ มีดังนี้

1) สายตาสูงวัยหรือสายตายาวตามอายุ

สายตาสูงวัย หรือสายตายาวตามอายุ (Presbyopia) คนทั่วไปมักเข้าใจผิดว่าเป็นสายตายาว แต่แท้จริงเป็นการเสื่อมสภาพตามอายุ เกิดกับทุกคนที่อายุประมาณ 40 ปีขึ้นไปจากการที่เลนส์แก้วตาขาดความยืดหยุ่น กล้ามเนื้อในตาที่ช่วยปรับกำลังของตาในการมองใกล้ทำงานแย่ลง ทำให้ต้องใส่แว่นตาเวลามองใกล้ เพื่อปรับเปลี่ยนกำลังรวมแสงให้เพิ่มขึ้นเมื่ออยากมองใกล้

สายตาสูงวัยเกิดได้กับทุกคน ทั้งกับคนที่เดิมสายตาปกติ สายตาสั้น สายตายาว และสายตาเอียง แก้ไขโดยการใช้เลนส์ที่มีกำลังรวมแสงมากขึ้น ในผู้มีสายตาปกติ แต่มีสายตาสูงวัยเมื่ออายุมากขึ้น แก้โดยใส่แว่นสำหรับการมองใกล้ (มองไกลไม่ต้องใส่) หรือจะใส่เลนส์ชัดหลายระยะ เพื่อการมองเห็นได้ทั้งไกลและใกล้ ในผู้ที่มีสายตาสั้น ยาว เอียงอยู่เดิมแล้วมีสายตาสูงวัย จะต้องมีการปรับค่าแว่น จากเดิมก่อนมีสายตาสูงวัย จะมีแว่นอันเดียว มองไกลได้ และเพ่งมองใกล้ได้เอง พอมีสายตาสูงวัย ต้องเปลี่ยนเป็นแว่นหลายระยะ (Progressive Glasses) หรือ 2 ระยะ (Bifocal Glasses) เพื่อให้มองได้ทั้งไกลและใกล้ หรือเดิมใส่คอนแทคเลนส์แก้สายตาสั้น ยาว เอียง มองได้ชัดทั้งไกลและใกล้ เมื่อมีสายตาสูงวัยร่วมด้วย ถ้าจะมองใกล้จะต้องใส่แว่นสายตายาว (กำลังเป็นบวก) เพื่อให้มองใกล้ได้ หรือต้องมีการปรับค่าคอนแทคเลนส์ หรือเปลี่ยนชนิดคอนแทคเลนส์เป็นชัดหลายระยะ หรืออาจแก้ไขด้วย FemtoLASIK แก้สายตายาวตามอายุ (FemtoLASIK with presbyond) ถ้าไม่อยากใส่แว่นหรือคอนแทคเลนส์

2) ต้อกระจก (Cataract)

ต้อกระจก (Cataract) เกิดขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น ทำให้เลนส์แก้วตาแข็งและขุ่นขึ้น สายตาจึงมัวลง จะเร็วหรือช้า มากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับระดับและตำแหน่งของความขุ่นฝ้าในเนื้อเลนส์ ถ้าเป็นต้อกระจกบริเวณขอบรอบนอก ผู้ป่วยจะยังมีสายตาที่คมชัดเป็นปกติ แต่ถ้าเป็นบริเวณตรงกลางเนื้อเลนส์จะรบกวนสายตามาก อาการที่พบได้บ่อยของต้อกระจก ได้แก่ สายตามัวหรือเห็นภาพซ้อน จะมัวเหมือนมีฝ้าหรือหมอกบัง ตาสู้แสงไม่ได้ ทำให้มีปัญหาในการขับขี่ยานพาหนะโดยเฉพาะกลางคืน เห็นสีผิดไปจากเดิม ต้องเปลี่ยนแว่นสายตาบ่อย ๆ ต้อกระจกบางชนิดทำให้สายตาสั้นมากขึ้นมาก ๆ ได้

ต้อกระจกส่วนใหญ่ที่เกิดตามวัยจะเป็นมากขึ้นตามอายุที่มากขึ้น สายตาจะมัวลงเรื่อย ๆ การผ่าตัดสลายต้อกระจกเป็นวิธีการรักษา จะทำเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับความจำเป็นในการใช้สายตาของผู้ป่วย ปัจจุบันการผ่าตัดใช้เครื่องสลายต้อ แผลผ่าตัดเล็ก ผ่าตัดรวดเร็วโดยใช้ยาชาเฉพาะที่ และไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล หลังสลายต้อแพทย์จะใช้เลนส์แก้วตาเทียมแทนที่ ซึ่งเลนส์มีหลายแบบให้เลือกตามความต้องการในการใช้งานของแต่ละบุคคล

ถ้าต้อกระจกสุกแล้วจำเป็นต้องผ่าตัดโดยเร็ว เพราะถ้าปล่อยไว้นอกจากจะเกิดอาการปวดตาอย่างรุนแรงแล้ว อาจเกิดต้อหินแทรกซ้อนได้ ปัจจุบันแนะนำให้ตรวจตาเป็นระยะ ๆ เมื่อเข้าสู่วัยที่มากขึ้น ทำให้รักษาได้ทันท่วงที หรือตั้งแต่เป็นระยะแรก ไม่ต้องรอต้อสุกจนเกิดปัญหารุนแรง

3) ต้อหิน

ต้อหิน (Glaucoma) เกิดจากความเสื่อมของเส้นประสาทตา ส่งผลให้สูญเสียการมองเห็นได้ในที่สุด ส่วนใหญ่มีความดันลูกตาสูง ซึ่งอาการที่สามารถสังเกตได้ คือ หากเป็นต้อหินแบบเฉียบพลัน จะปวดตา ตามัวลง และเห็นรุ้งรอบดวงไฟ อาจมีอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วยได้ เนื่องจากความดันตาสูงมาก ในกรณีที่เป็นต้อหินชนิดรุนแรงเฉียบพลัน รักษาโดยการใช้ยาหยอดตาและยารับประทานเพื่อลดความดันในลูกตา บางรายจำเป็นต้องรักษาโดยใช้แสงเลเซอร์และการผ่าตัด ความน่าสนใจของโรคต้อหิน คือ ผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยไม่มีอาการเลย เหมือนภัยเงียบค่อย ๆ ทำลายเส้นประสาท โดยไม่มีอาการเตือนล่วงหน้า ต้อหินเฉียบพลันพบบ่อยในคนเอเชียและปัจจุบันพบในคนอายุน้อย (เช่น เริ่มตั้งแต่อายุ 30 กว่า ๆ) เพิ่มมากขึ้น และพบมากขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น

4) น้ำวุ้นตาเสื่อม

น้ำวุ้นตาเสื่อม (Vitreous Floaters) เกิดจากวุ้นตาที่มีลักษณะเป็นเจลหนืดใสเหมือนวุ้นอยู่ภายในส่วนหลังของลูกตาโดยอยู่ติดกับจอประสาทตาที่ล้อมรอบมันอยู่เสื่อมลง เมื่อวุ้นตาเสื่อม (Vitreous Degeneration) น้ำวุ้นในตามีการเปลี่ยนสภาพ บางส่วนจะกลายเป็นของเหลวและบางส่วนจับเป็นก้อนหรือเป็นเส้นเหมือนหยากไย่ และวุ้นตาอาจจะหดตัวลอกออกจากผิวจอประสาทตา ทำให้มองเห็นเป็นเงาดำ จุดเล็ก ๆ เส้น ๆ วง ๆ หรือเส้นหยากไย่ลอยไปลอยมา ขยับไปมาได้ตามการกลอกตา หรือมีแสงวาบคล้ายฟ้าแลบหรือแสงแฟลชจากกล้องถ่ายรูป ความน่าสนใจคือสาเหตุของโรคมักเกิดจากความเสื่อมตามวัย พบมากในคนที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป และกลุ่มสายตาสั้น แต่ปัจจุบันผู้ที่เป็นโรคนี้อายุน้อยลงเรื่อย ๆ หากปล่อยทิ้งไว้ไม่เข้ารับการรักษาอาจร้ายแรงถึงขั้นจอประสาทตาฉีกขาด หลุดลอก และสูญเสียการมองเห็นถาวรได้ ดังนั้นจึงควรตรวจคัดกรองเมื่อมีอาการดังกล่าว และจำเป็นต้องได้รับการตรวจจากจักษุแพทย์โดยเร็วว่ามีจอประสาทตาฉีกขาด หรือเป็นรู หรือหลุดลอกหรือไม่ ถ้ามีต้องรักษาต่อไป เช่น ถ้ามีรอยฉีกหรือรูที่จอตาจะรักษาด้วยการใช้เลเซอร์ แต่ถ้าพบมีจอตาหลุดลอกก็ต้องรักษาด้วยการผ่าตัด 5) จุดรับภาพเสื่อมตามวัย

จุดรับภาพเสื่อมตามวัย (Age – Related Macular Degeneration : AMD) เกิดจากจุดรับภาพบริเวณกลางจอประสาทตาเสื่อม มักเป็นไปตามวัย พบมากในผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป มีความร้ายแรงถึงขั้นสูญเสียการมองเห็น อาการที่สังเกตได้คือ มองภาพไม่ชัด มองเห็นบิดเบี้ยว ตาพร่ามัว มีจุดดำหรือเงาตรงกลางภาพ ซึ่งจอประสาทตาเสื่อมเป็นโรคที่ต้องรีบทำการรักษากับจักษุแพทย์โดยเร็วเพื่อรักษาและช่วยควบคุมไม่ให้การมองเห็นแย่ลงจนรบกวนคุณภาพชีวิต ที่น่าสนใจคือ ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาจอประสาทตาเสื่อมให้หายขาด การป้องกันดูแลที่ดีที่สุดคือ การตรวจคัดกรองและรักษาดูแลดวงตา เลี่ยงแดดจ้า ทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายเป็นประจำ ควบคุมน้ำหนัก งดสูบบุหรี่ จะช่วยชะลอความเสื่อมที่อาจเกิดขึ้นได้


6) เบาหวานขึ้นตา

เบาหวานขึ้นตา (Diabetic Retinopathy) เป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นจากโรคเบาหวาน พบในผู้ป่วยเบาหวาน โดยมีสาเหตุจากการที่น้ำตาลในเลือดสูง ทำให้หลอดเลือดและระบบประสาทเสื่อมลง ส่งผลให้ชั้นจอประสาทในลูกตาเกิดความเสื่อม ถ้าทิ้งไว้ไม่ได้รับการรักษาจะทำให้ตามัวและตาบอดได้ ความน่าสนใจของโรคนี้คือ ผู้ป่วยเบาหวานบางคนไม่เคยตรวจตาจึงไม่ทราบว่าการมองเห็นแต่ละข้างเป็นอย่างไร เพราะโดยรวม 2 ข้างยังมองยังเห็นอยู่ แต่อาจมีด้านหนึ่งที่แย่กว่าแล้ว และบางคนรู้สึกว่ามองเห็นโดยรวมยังปกติจึงไม่มาพบจักษุแพทย์ ทำให้บางครั้งรักษาช้าเกินไปและตาบอดได้ในที่สุด (โดยทั่วไปผู้ป่วยเบาหวานต้องตรวจอย่างน้อยปีละครั้ง หรือบ่อยกว่านั้นถ้าเริ่มมีเบาหวานขึ้นตา) ซึ่งการตรวจคัดกรองและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ รวมถึงควบคุมโรคเบาหวานให้ดีจะช่วยลดความเสียหายและความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นได้กับตาและอวัยวะอื่น ๆ ซึ่งเบาหวานขึ้นตามีความรุนแรงแตกต่างกัน ถ้าเริ่มเข้าขั้นรุนแรง จักษุแพทย์สามารถยิงเลเซอร์ช่วยชะลอปัญหาเบาหวานขึ้นตาได้ หรืออาจมีการฉีดยาเข้าน้ำวุ้นตาเพื่อรักษาจุดรับภาพบวมจากเบาหวานขึ้นตาได้ การรักษาขึ้นอยู่กับระยะความรุนแรงของโรค ถ้าเป็นมากมีเลือดออกหรือจอตาหลุดลอกอาจต้องผ่าตัด

7) ตาแห้ง

ตาแห้ง (Dry Eyes) เป็นโรคตาที่พบได้บ่อยในกลุ่มสูงวัยและในวัยทำงาน มีอาการไม่สบายตา ระคายเคือง เหมือนมีสิ่งแปลกปลอมในตา แสบตาหรืออาจน้ำตาไหลมากได้ เกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การทำงานผิดปกติของต่อมไขมันที่เปลือกตา (Meibomian Gland Dysfunction) การใส่คอนแทคเลนส์ การใช้หน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์นาน ๆ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน หรือโรคและการรับประทานยาบางชนิด พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย หากปล่อยไว้ไม่ได้รักษาอาจทำให้การมองเห็นมัวลง มีการอักเสบของเยื่อบุตาหรือกระจกตา สามารถตรวจวินิจฉัยได้โดยการตรวจตาอย่างละเอียดจากจักษุแพทย์ รวมทั้งอาจมีวัดปริมาณและคุณภาพของน้ำตา การรักษาตาแห้งขึ้นกับสาเหตุ มักต้องใช้น้ำตาเทียมร่วมด้วย ปรับพฤติกรรมการใช้งาน หรือประคบอุ่น นวด และทำความสะอาดเปลือกตากรณีมีเปลือกตาผิดปกติ

ต้อเนื้อ ต้อลม

ต้อเนื้อ (Pterygium) คือ ความเสื่อมสภาพของเยื่อบุตา ทำให้มีเนื้อเยื่อผิดปกติเป็นเยื่อสีแดงยื่นเข้าไปในตาดำเป็นรูปสามเหลี่ยม ค่อย ๆ ลุกลาม ถ้าเป็นมากใกล้หรือบังปิดรูม่านตา การมองเห็นจะผิดปกติ มีสายตาเอียงมากขึ้นหรือตามัวลงมาก ต้อเนื้อพบบริเวณหัวตามากกว่าหางตา โรคนี้มีความสัมพันธ์กับแสงแดด แสงอัลตราไวโอเลต ทำให้เยื่อบุตาเสื่อมสภาพลง พบบ่อยในเขตร้อนและผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง พบเจอทั้งแสงแดด ลม ฝุ่น ควัน ทราย พบมากในผู้ที่มีอายุ 30 – 35 ปี ซึ่งอาการที่เกิดขึ้นคือ ตาแดง ระคายเคือง ไม่สบายตา ถ้าเป็นมากจะเห็นภาพไม่ชัด

ส่วนต้อลม (Pinguecula) คือ การเสื่อมสภาพเช่นเดียวกับต้อเนื้อ แต่ยังไม่ลุกลามเข้าตาดำเป็นอยู่บริเวณเยื่อบุตาเท่านั้น จึงมีอาการแค่ระคายเคือง แต่ตาไม่มัวลง ถ้าเป็นรุนแรงยื่นเข้าตาดำจะกลายเป็นต้อเนื้อ โรคตาต่าง ๆ ที่กล่าวมาเป็นโรคที่อาจเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุได้เสมอ การตรวจคัดกรองความเสี่ยงเกี่ยวกับโรคตาช่วยให้ดูแลรักษาได้ทันท่วงทีและป้องกันการสูญเสียดวงตา โดยเฉพาะผู้สูงวัยแนะนำให้ตรวจคัดกรองโรคตาเป็นประจำทุกปีเพื่อดูว่ามีภาวะผิดปกติที่ควรรักษาหรือไม่ ซึ่งการตรวจคัดกรองดวงตา ไม่เพียงช่วยให้ค้นพบความผิดปกติของดวงตาในระยะเริ่มแรก แต่ยังช่วยให้ค้นพบโรคเกี่ยวกับดวงตาในขณะที่ยังไม่แสดงอาการ โดยเฉพาะในผู้สูงวัยที่ต้องพบกับความเสื่อมของตาตามวัย

นอกจากนี้ในคนทุกช่วงวัยอาจมีความผิดปกติทางตาแตกต่างกัน เช่น ปัญหาสายตาในเด็ก ตาเข ตาเหล่ หรือในวัยเรียนวัยทำงาน เช่น สายตาล้า ตาแห้ง หรือการมองเห็นผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นสายตาสั้น ยาว เอียง หรือในกลุ่มอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไปก็จะมีสายตายาวตามอายุ (Presbyopia) การดูแลสุขภาพตาและตรวจตาเป็นระยะ ทำให้รู้ก่อนและแก้ไขปัญหาก่อนจะสายเกินไป ช่วยให้มองเห็นโลกได้ชัดเจนไปอีกนาน

กว่า 15 ปีที่ลูกค้าไว้วางใจกับผลิตภัณฑ์  #ดีคอนแทคเอ็กซ์  สอบถามสั่งซื้อ 089-1194897LineID:https://lin.ee/HuJfD6Shttps:/...
21/02/2024

กว่า 15 ปีที่ลูกค้าไว้วางใจกับผลิตภัณฑ์ #ดีคอนแทคเอ็กซ์

สอบถามสั่งซื้อ 089-1194897
LineID:
https://lin.ee/HuJfD6S
https://lin.ee/HuJfD6S

5 สัญญาณที่บ่งบอกว่า คุณเสี่ยงเป็น "ต้อลม" #ต้อลม
09/11/2023

5 สัญญาณที่บ่งบอกว่า คุณเสี่ยงเป็น "ต้อลม"

#ต้อลม

 #อาการของเบาหวานขึ้นตาในระยะแรกของภาวะเบาหวานขึ้นตาอาจจะยังไม่พบอาการหรือความผิดปกติใด ๆ แต่เมื่อมีความรุนแรงมากขึ้น อา...
21/10/2023

#อาการของเบาหวานขึ้นตา
ในระยะแรกของภาวะเบาหวานขึ้นตาอาจจะยังไม่พบอาการหรือความผิดปกติใด ๆ แต่เมื่อ
มีความรุนแรงมากขึ้น อาจพบอาการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการมองเห็นได้ เช่น มองเห็นจุดหรือเส้นสีดำคล้ายหยากไย่ลอยไปมา ตามัว วิสัยทัศน์การมองเห็นแย่ลง สายตาไม่คงที่ แยกแยะสีได้ยากขึ้น หรือสูญเสียการมองเห็น เป็นต้น ซึ่งการดูแลและจัดการกับโรคเบาหวานอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการสูญเสียการมองเห็นได้
ผู้ป่วยเบาหวานควรไปพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจตาเป็นประจำทุกปีถึงแม้ว่าการมองเห็นจะยังคงเป็นปกติก็ตาม รวมถึงในผู้ที่กำลังตั้งครรภ์เพราะการตั้งครรภ์ออาจทำให้อาการต่าง ๆ ของเบาหวานขึ้นตารุนแรงขึ้นได้ และควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วนหากพบว่ามีปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็นอย่างฉับพลัน
#สาเหตุของเบาหวานขึ้นตา
เบาหวานขึ้นตามีสาเหตุมาจากระดับน้ำตาลในเลือดที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นเวลานาน ส่งผลให้เส้นเลือดฝอยที่ไปหล่อเลี้ยงจอตาอุดตัน และทำให้เกิดการสร้างเส้นเลือดใหม่ขึ้นเพื่อทดแทนเส้นเลือดเก่าที่ได้รับความเสียหาย แต่เส้นเลือดใหม่เหล่านี้ไม่ได้รับการพัฒนาอย่างเหมาะสม ทำให้เลือดหรือสารน้ำอื่น ๆ รั่วไหลเข้าเรตินาได้
ทั้งนี้ผู้ป่วยเบาหวานสามารถเกิดภาวะเบาหวานขึ้นตาได้ อีกทั้งยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่เพิ่มความเสี่ยงให้เกิดภาวะเบาหวานขึ้นตา เช่น ระยะเวลาของการเป็นโรคเบาหวาน ยิ่งเป็นนานก็ยิ่งมีความเสี่ยงสูง การไม่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ หรือมีพฤติกรรมการสูบบุหรี่ เป็นต้น
ภาวะเบาหวานขึ้นตาอาจแบ่งได้หลายแบบ แต่ในที่นี้แบ่งเป็น 2 ชนิด ได้แก่
เบาหวานขึ้นตาระยะเริ่มแรก หรือระยะที่ยังไม่มีเส้นเลือดเกิดใหม่ (Nonproliferative Diabetic Retinopathy: NPDR) เป็นระยะที่ผนังของเส้นเลือดที่จอตาไม่แข็งแรง ส่งผลให้เส้นเลือดโป่งขึ้น อาจทำให้เลือดหรือของเหลวรั่วออกมาในจอตา และเส้นเลือดใหญ่ที่จอตาจะเริ่มขยายตัวใหญ่ขึ้นผิดปกติ รวมถึงเส้นใยประสาทของจอตาและจุดภาพชัด (Macula) อาจเริ่มมีอาการบวม ในระยะเริ่มแรกอาจมีอาการเพียงเล็กน้อย แต่หากมีการอุดตันของเส้นเลือดที่เพิ่มมากขึ้น อาจทำให้มีอาการรุนแรงได้
เบาหวานขึ้นตาระยะก้าวหน้า หรือระยะที่มีเส้นเลือดเกิดใหม่ (Proliferative Diabetic Retinopathy: PDR) เป็นระยะที่เส้นเลือดเกิดการอุดตันจนเลือดไม่สามารถไหลเวียนได้ตามปกติ ทำให้เกิดการสร้างเส้นเลือดใหม่ขึ้นมาทดแทน ซึ่งเส้นเลือดที่สร้างขึ้นใหม่เหล่านี้อาจไม่ได้พัฒนาอย่างเหมาะสม ทำให้มีเลือดรั่วซึมออกมาที่บริเวณวุ้นตา และอาจทำให้เกิดแผลเป็นซึ่งเป็นสาเหตุให้จอตาลอกออกจากด้านหลังของดวงตา หรือถ้าหากเส้นเลือดใหม่ที่เกิดขึ้นไปแทรกแซงการระบายน้ำออกจากลูกตา ส่งผลให้ความดันตาสูงขึ้น เกิดความเสียหายต่อเส้นประสาทที่ทำหน้าที่ส่งภาพจากดวงตาไปยังสมอง และเป็นสาเหตุให้เกิดโรคต้อหินได้
การวินิจฉัยเบาหวานขึ้นตา
วิธีที่ดีที่สุดสำหรับการวินิจฉัยภาวะเบาหวานขึ้นตา คือ การตรวจโดยขยายม่านตา (Dilated Eye Exam) ซึ่งแพทย์จะหยดน้ำยาเพื่อขยายรูม่านตาให้กว้างขึ้น แล้วตรวจหาความผิดปกติที่เกิดขึ้น เช่น ความผิดปกติของเส้นเลือดในดวงตา การอุดตันของเส้นเลือด อาการบวมของจอตา แผลเป็นหรือเส้นเลือดที่สร้างขึ้นใหม่ เลือดที่รั่วออกมาบริเวณวุ้นตา จอตาลอก หรือความผิดปกติของประสาทตา เป็นต้น หลังการตรวจผู้ป่วยอาจมีอาการตามัวเป็นเวลา 4-6 ชั่วโมง ไม่ควรขับขี่ยานพาหนะด้วยตนเองในช่วงเวลาดังกล่าว ควรพาญาติไปด้วยเพื่อความปลอดภัย รวมถึงอาจมีการตรวจอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น ตรวจสายตา ความดันตา หลักฐานการเกิดต้อกระจก รวมถึงการตรวจจอประสาทตาโดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
การตรวจจอประสาทตาโดยการฉีดสี (Fluorescein Angiography) แพทย์จะฉีดสีเข้าเส้นเลือดที่บริเวณแขน เพื่อให้สีเข้าสู่กระแสเลือดและไหลไปที่ดวงตา จากนั้นแพทย์จะถ่ายภาพภายในดวงตาเพื่อตรวจหาเส้นเลือดที่มีการอุดตัน รั่วซึม หรือเส้นเลือดที่แตก
การสแกนจอประสาทตา (Optical Coherence Tomography) โดยจะแสดงภาพตัดขวางเพื่อแสดงให้เห็นความหนาของจอตา ซึ่งช่วยให้แพทย์วินิจฉัยได้ว่ามีการรั่วซึมของเลือดหรือของเหลวเข้าสู่บริเวณจอตาหรือไม่ นอกจากการสแกนจอประสาทตาจะช่วยวินิจฉัยสาเหตุของการเกิดโรคแล้ว ยังช่วยตรวจสอบประสิทธิภาพของการรักษาได้อีกด้วย
การรักษาเบาหวานขึ้นตา
การรักษามีจุดประสงค์เพื่อชะลอหรือยับยั้งอาการต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น โดยวิธีการรักษาจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรงของอาการ โดยวิธีรักษาแต่ละวิธีจะมีลักษณะดังต่อไปนี้
การรักษาเบาหวานขึ้นตาระยะเริ่มแรก ซึ่งเป็นระยะที่ยังไม่มีเส้นเลือดเกิดใหม่ หากมีอาการเพียงเล็กน้อยจนถึงอาการในระดับปานกลาง อาจยังไม่จำเป็นต้องรักษาในทันที แต่แพทย์จะคอยสังเกตอาการหรือความผิดปกติของดวงตาอย่างใกล้ชิด ในระยะนี้ผู้ป่วยอาจต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดเพื่อยับยั้งไม่ให้อาการลุกลาม
การรักษาเบาหวานขึ้นตาระยะก้าวหน้า ซึ่งเป็นระยะที่มีเส้นเลือดเกิดใหม่ ในระยะนี้ผู้ป่วยอาจต้องรักษาด้วยเลเซอร์หรือผ่าตัด ซึ่งวิธีการก็จะแตกต่างกันออกไปโดยขึ้นอยู่กับแต่ละปัญหาของจอตา ได้แก่
การรักษาด้วยแสงเลเซอร์ มี 2 แบบ คือ
Focal Laser จะช่วยชะลอหรือยับยั้งการรั่วซึมของเลือดและของเหลวในดวงตา หากผู้ป่วยมีอาการตามัวหรือมองไม่ชัดที่เป็นผลมาจากภาวะเบาหวานขึ้นตา การรักษาด้วยวิธีนี้อาจไม่ช่วยให้อาการเหล่านี้หายไป แต่อาจช่วยลดโอกาสของอาการตามัวหรือมองไม่ชัด ไม่ให้มีอาการที่รุนแรงกว่าเดิม
Scatter Laser จะช่วยหดกระชับเส้นเลือดที่มีความโป่งผิดปกติ โดยจะยิงเลเซอร์ที่จอตา ยกเว้นบริเวณจุดภาพชัด หลังการรักษาด้วยวิธีนี้อาจส่งผลต่อการมองเห็น รวมถึงการมองเห็นในตอนกลางคืนของผู้ป่วย
การผ่าตัดวุ้นตา (Vitrectomy) เพื่อนำเลือดออกจากวุ้นตาและกำจัดแผลเป็นที่บริเวณจอตา การผ่าตัดวุ้นตาไม่ได้เป็นการรักษา เป็นเพียงการชะลอหรือยับยั้งอาการ ซึ่งจะยังคงมีโอกาสเกิดความเสียหายต่อจอตาและสูญเสียการมองเห็นได้อยู่
#ดูแลสายตา #ต้อหิน​ #ต้อเนื้อ​ #ตาพร่ามัว​ #วุ้นในตาเสื่อม​ #ต้อกระจก​ #ต้อลม #ต้อหิน #วุ้นในตาเสื่อม #ดึคอนแทคเอ็กซ์ #ต้อกระจก #สายตาพล่ามัว #เบาหวานขึ้นตา

👁ต้อกระจก คือ ภาวะที่เลนส์แก้วตาขุ่น ทำให้แสงผ่านเลนส์เข้าไปยังจอประสาทตาได้น้อยลง หรือบางครั้งการขุ่นนั้นก็อาจก่อให้เกิ...
26/08/2023

👁ต้อกระจก คือ ภาวะที่เลนส์แก้วตาขุ่น ทำให้แสงผ่านเลนส์เข้าไปยังจอประสาทตาได้น้อยลง หรือบางครั้งการขุ่นนั้นก็อาจก่อให้เกิดการหักเหแสงที่ผิดปกติและไปโฟกัสผิดที่ ทำให้จอประสาทตารับแสงได้ไม่เต็มที่ ผู้ป่วยจึงมักมีอาการสายตาพร่ามัว โดยไม่มีอาการอักเสบหรือเจ็บปวดใดๆ และยิ่งเลนส์แก้วตาขุ่นมากยิ่งขึ้น การมองเห็นก็จะยิ่งลดน้อยลงเรื่อยๆ โดยอาการอาจรุนแรงไม่เท่ากัน แต่มักเกิดขึ้นอย่างช้าๆ ดั งนั้น กว่าสายตาของผู้ป่วยจะขุ่นมัวจนรู้สึกได้ อาจต้องใช้เวลานานหลายเดือน หรือหลายปี
⚠️อาการแสดงของโรคต้อกระจก⚠️
- เห็นภาพซ้อน
- เห็นวงรอบแสงไฟ
- เห็นฝ้าขุ่นขาวตรงกลางรูม่านตา
- เห็นภาพไม่ชัด เวลาอ่านหนังสือต้องใช้แสงสว่างจ้า
⚠️ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคต้อกระจก⚠️
เพราะอายุเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด ทำให้มักพบมากในผู้ที่อายุเกิน 60 ปี และยังมีปัจจัยร่วมอื่นๆ เช่น โรคเบาหวาน ติดสุรา การโดนแดดมากๆ สูบบุหรี่ การติดเชื้อที่ตาเรื้อรัง และได้รับอุบัติเหตุ
⚠️แนวทางการรักษาต้อกระจก⚠️
ในระยะที่เพิ่งเริ่มเป็น อาการยังไม่รุนแรงมาก แพทย์จะใช้วิธีการติดตามอาการเป็นระยะ
การรักษาด้วยการผ่าตัดต้อกระจก คือการนำเลนส์แก้วตาที่เสื่อมออก โดยมีการทำ 2 วิธี คือ

👉ผ่าตัดแบบไม่เปิดแผล คือ การสลายต้อแบบอัลตร้าซาวด์ โดยการไปสลายต้อกระจกเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วดูดออก วิธีนี้จะทำให้แผลมีขนาดเล็ก ประมาณ 2.5 มม. ไม่ต้องเย็บแผล หายเร็ว และใช้เวลาเพียง 15-30 นาที เหมาะสำหรับเลนส์ต้อกระจกที่อยู่ในระยะนิ่มหรือแข็งปานกลาง
👉ผ่าตัดแบบเปิดแผล คือ การผ่าตัดเปิดแผลใหญ่และนำเลนส์ที่เสื่อมออกมาทั้งชิ้นและเย็บแผล ใช้เวลา 30 นาที-1ชั่วโมง ซึ่งเหมาะสำหรับเลนส์ต้อกระจกแบบแข็งมากและสุกมาก
ซึ่งทั้ง 2 วิธี คนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บ ทั้งนี้จะมีการใช้วิธีหยอดยาชา และฉีดยาชาที่ผิวเปลือกตาก่อนทำการผ่าตัด และในบางรายที่คนไข้ไม่ให้ความร่วมมือหรือกลัว แนะนำให้ดมยาสลบก่อนทำผ่าตัด
⚠️คำแนะนำเพิ่มเติม⚠️
ให้ความสำคัญกับการถนอมดวงตา โดยการหลีกเลี่ยงแดดจ้า ฝุ่นละออง ควัน มลพิษต่างๆ อาจใส่แว่นกันแดด ก็สามารถปกป้องดวงตาจากมลพิษต่างๆได้ ตลอดจนการดูแลควบคุมโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน และการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
✅ข้อดีของการผ่าตัดต้อกระจก✅
- เพื่อให้การมองเห็นดีขึ้นและทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น
- ในบางรายที่มีโรคทางจอประสาทตา เมื่อผ่าตัดตาแล้วจะทำให้การักษาจอประสาทตาได้ผลดีขึ้น
⚠️ผลเสียที่จะเกิดขึ้น...หากไม่รับการผ่าตัดต้อกระจก⚠️
- ตามัวลงเรื่อยๆ ทำให้คุณภาพชีวิตแย่ลง
- ไม่สามารถรักษาโรคในจอประสาทตาได้ เช่น ภาวะจอประสาทตาหลุดลอก มีพังผืดที่จอประสาทตา, เลือดออกในตาหรือเกิดภาวะเบาหวานขึ้นตา

****ควรศึกษาข้อมูลให้ดีเเละเข้าไปปรึกษาแพทย์หากมีอการดังกล่าว****
------------------------------------------------------------------------
cr.ข้อมูลวิชาการส่วนหนึ่งจาก : phyathai. c o m
------------------------------------------------------------------------

ป้องกันและชะลอการเกิดโรคดวงตาทุกชนิด ด้วย ' ดีคอนแทค เอ็กซ์ ' วันละ 1 เม็ด
เพราะดวงตามีคู่เดียวจึงไม่ควรละเลย รีบดูแลดวงตาของคุณก่อนที่จะสายไปนะคะ💛✨

------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------
📍ปรึกษา / สอบถาม / สั่งซื้อสินค้า
📞โทร : 089-1194897
ปรึกษาวิธีการทาน 👇🏻คลิ๊กที่นี่เพื่อสอบถาม👇🏻
แอดไลน์ 👉 https://lin.ee/HuJfD6S
🙏🏻ส่งสติ๊กเกอร์หรือข้อความทักทายเรามาได้เลยค่ะ🙏🏻
--------------------------------------------------------
สั่งซื้อออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่นี่ 🛒
D-CONTACT X ดี คอนแทค เอ็กซ์
📲โทร 089-1194897
-------------------------------------------------------
#ดีคอนแทค #ดีคอนแคเอ็กซ์ #ต้อกระจก #สายตาพร่ามัว #ต้อเนื้อ #วุ้นในตาเสื่อม

สัญญาณอันตราย “โรคตา”👁️ที่ผู้สูงอายุควรระวัง⚠️❌1.ต้อหิน❌2.ต้อกระจก❌3.จุดภาพชัดที่จอตาเสื่อม❌4.ภาวะเบาหวานขึ้นจอตา❌4.ภาวะ...
16/05/2023

สัญญาณอันตราย “โรคตา”👁️
ที่ผู้สูงอายุควรระวัง⚠️

❌1.ต้อหิน

❌2.ต้อกระจก

❌3.จุดภาพชัดที่จอตาเสื่อม

❌4.ภาวะเบาหวานขึ้นจอตา

❌4.ภาวะสายตายาวสูงอายุ

💡มีปัญหาเรื่องดวงตาให้ “D-Contact X”
ดูแลคุณนะคะ 😊

สั่งซื้อวันนี้ได้แล้วที่ทาง DNW Platform
สั่งซื้อสินค้า 👇👇👇👇
D-CONTACT X ดี คอนแทค เอ็กซ์ https://share.dnwplatform.com/eVkr

📲 089-1194897

#โรคตา #ต้อหิน #ต้อกระจก #ต้อลม #ต้อเนื้อ #วุ้นในตาเสื่อม #เบาหวานขึ้นตา #ดีคอนแทคเอ็กซ์

👀ตาพร่ามัว...แค่สายตาสั้น หรือเสี่ยง "ต้อกระจก" กันแน่ ⚠️📍ต้อกระจก โรคตาที่พบได้บ่อยในกลุ่มผู้สูงอายุ มีสาเหตุมาจากการเส...
26/04/2023

👀ตาพร่ามัว...แค่สายตาสั้น
หรือเสี่ยง "ต้อกระจก" กันแน่ ⚠️

📍ต้อกระจก โรคตาที่พบได้บ่อยในกลุ่มผู้สูงอายุ มีสาเหตุมาจากการเสื่อมสภาพของเลนส์ตา ทำให้สายตาค่อยๆ มัวลงอย่างช้าๆ และมักไม่มีอาการปวดตา! ซึ่งนับว่าเป็นภัยเงียบที่น่ากลัวของโรคต้อกระจก เพราะผู้ป่วยมักปล่อยไว้นานด้วยความเข้าใจผิดคิดว่าไม่ใช่เรื่องร้ายแรง จนอาการตามัวเพิ่มมากขึ้นและทำให้ตาบอดในที่สุด!!

👁️ดูแลดวงตาของคุณตั้งแต่วันนี้ด้วย D-Contact X ผลิตภัณฑ์ที่ดูแลดวงของคุณแบบครบวงจร บำรุง ฟื้นฟู ปกป้อง ดวงตาอันมีค่าของคุณ

✨รับประกันโดย เขาทราย แกแล็คซี่ 👍🏻

#ดีคอนแทคเอ็กซ์ #ตาพร่ามัว #ต้อกระจก #สายตาสั้น

ที่อยู่

Pak Kret
11120

เบอร์โทรศัพท์

+66979998073

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ดีคอนแทค พลัส D-Contact Plusผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง ดีคอนแทค พลัส D-Contact Plus:

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram

ดีคอนแทค พลัส บำรุงสายตา

๋👀D-CONTACT PLUS ดีคอนแทค พลัส (ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร)

ชนิดเม็ด รับประทานง่าย 1 กล่อง 30 เม็ด

เลขที่ อย. 10-1-15456-5-0019

เหมาะสำหรับบุคคลที่มีอาการดังนี้