
21/08/2025
เคสคนดัง ๆ อายุน้อยที่เป็นสโตรก—มีอะไรบอกเรา?
✨ แม้ยังไม่มีอาการ ก็อย่าละเลยการตรวจสุขภาพและใส่ใจพฤติกรรมประจำวัน
เพราะสิ่งเหล่านี้อาจเป็น “ระเบิดเวลา” ที่เรามองไม่เห็น
อะไรคือต้นเหตุ!!! คิดก่อนไปโทษ การไม่ออกกำลังกาย!!
เราขอส่งกำลังใจให้กับผู้ที่ประสบเหตุ และครอบครัวทุกท่าน
และอยากชวนทุกคนหันมาดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้
คำว่า “Residual Risk” คืออะไร (ทำไมเหมือนไม่มีอะไร แต่ยังเสี่ยง)
คือความเสี่ยง ที่ยังเหลืออยู่ แม้ไม่มีหลอดเลือดตีบอุดตันชัด ๆ หรือแม้คุม LDL ได้ดีแล้ว สาเหตุที่พบบ่อยได้แก่
• การอักเสบเรื้อรัง (เช่น วัดด้วย hs-CRP หรือตามหลักฐานอื่น ๆ )
• ไขมันอนุภาคเล็กที่เป็นตัวพา—apoB / Lp(a) และไตรกลีเซอไรด์สูง
• ภาวะเมตาบอลิก/ดื้อต่ออินซูลิน, ความดันสูง, การนอนผิดปกติ/หยุดหายใจขณะหลับ ฯลฯ
งานวิจัยระยะยาวในผู้หญิงอเมริกันเกือบ 28,000 คนชี้ว่า วัดร่วมกัน 3 ตัว: hs-CRP + LDL-C + Lp(a) ทำนายความเสี่ยงหัวใจ–หลอดเลือด ยาว 30 ปี ได้ดีกว่าใช้ตัวเดียว (ยืนยันบทบาท “การอักเสบ” และ Lp(a) ที่มักไม่ถูกตรวจ)
รีวิวร่วมสมัยก็ย้ำว่า “ความเสี่ยงส่วนที่เหลือ” มักอยู่ใน การอักเสบ และ ไลโปโปรตีนที่ใส่ apoB/Lp(a) ซึ่งเรา ตรวจและแก้ได้ ด้วยยา + พฤติกรรมสุขภาพที่เหมาะสม. 
แต่คำถามที่ยังไม่มีหารแก้คือ ระยะเวลาคนคนนั้นมีภาวะดังกล่าว ซึ่งจะทำให้เกิดการสะสมและการเสื่อมของเส้นเลือดที่ปัจจุบันย้อนกลับไม่ได้
⸻
ตัวเลขที่ถามมา: “หัวใจวาย/สโตรก” ทั้งที่เส้นเลือด “ยังไม่ตันชัด”
หัวใจวาย (MI) แบบหลอดเลือดโคโรนารีไม่อุดตัน
• มีงานวิจัยเจอประมาณ 5–10% ของ MI ทั้งหมด (ภาพรวมเฉลี่ยราว ~6%); พบในคนอายุน้อยและผู้หญิงมากกว่า ต้องสืบหาสาเหตุ ด้วยการตรวจเฉพาะทาง.   
สโตรกแบบไม่มีตำแหน่งตันชัดเจน
• กลุ่ม ESUS/cryptogenic (เส้นเลือดตีบจากลิ่มเลือด/ที่มาไม่ชัด): ประมาณ 1 ใน 6 ของสโตรกทั้งหมด (~17%; บางงาน 9–25%).   
• คราบพลัคคาโรติดที่ยัง “ไม่ตีบมาก” (