
01/09/2025
ช่วงนี้ผมกำลังหลงไปในโลกชาเขียว
อยากจะเล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟังสักหน่อย ...
ปกติผมเป็นคนที่ชอบดื่มกาแฟ เอาเป็นว่าอย่างน้อยต้องมีวันละแก้ว
ลาเต้เย็น ชิว ชิว
แต่ระยะหลังสังเกตว่าดื่มกาแฟทีไร ทำไมมันรู้สึกปวดท้องแปลกๆ ปวดแบบโรคกระเพาะอาหาร แต่พอหยุดดื่มกาแฟ เอ่ยหายเลย
เป็นเหตุให้ต้องเปลี่ยนวิถี มาดื่มเครื่องดื่มประเภทอื่นบ้าง
นี่เป็นเรื่องราวโดยย่อที่ผมต้องเดินหลงมาอยู่ในโลกชาเขียว
พอเข้ามาดื่มชาเขียว แน่นอนเราก็ต้องหาข้อมูลสักหน่อยว่า เค้าดียังไง ทำไมคนนู้นคนนี้เค้าดื่มกัน มีเรื่องราวของชาเขียวที่เค้าพูดกันมากมาย
ไอ้เราก็ไม่เชื่อซะทีเดียว ต้องศึกษา ไปหาข้อมูลสักหน่อย และผมอยากบอกเลยว่า "ชาเขียว"
นี่สุดยอดเลย มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์สุขภาพขึ้นมาแบบลายตาไปหมด และที่แน่นอนมีประโยชน์ต่อสมองอีกด้วย
วันนี้ผมหมอบิทจะมาเล่าให้ฟัง
ชาเขียว: เครื่องดื่มแห่งภูมิปัญญาที่ช่วยปกป้องสมอง 🧠🌿
ชาเขียว เครื่องดื่มโบราณที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในทวีปเอเชีย ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องดื่มที่ช่วยให้ร่างกายสดชื่นเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยสารประกอบทรงพลังที่เรียกว่า โพลีฟีนอล ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการช่วยดูแลและปกป้องสมองจากโรคทางระบบประสาทที่เสื่อมถอยตามวัย เช่น โรคสมองเสื่อม อัลไซเมอร์ และพาร์กินสัน
________________________________________
สารสำคัญในชาเขียวที่ส่งผลดีต่อสมอง
โพลีฟีนอลในชาเขียวประกอบด้วยอนุพันธ์หลัก 4 ชนิด ได้แก่
epicatechin (EC), epigallocatechin (EGC), epicatechin gallate (ECG), และที่โดดเด่นที่สุดคือ epigallocatechin-3-gallate (EGCG)
ซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์หลักที่พบได้ในปริมาณมากถึง 50-80% ของปริมาณโพลีฟีนอลทั้งหมดในชาเขียว โดย EGCG มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยลดการอักเสบในสมอง และปกป้องเซลล์ประสาทไม่ให้ถูกทำลาย
ขอย้ำสรรพคุณของสาร EGCG (Epigallocatechin gallate) ในชาเขียว ลงลึกอักสักนิด
มีคุณสมบัติในการปกป้องและฟื้นฟูระบบประสาท (Neuroprotective and Neurorescue)
• EGCG ช่วยเพิ่มความอยู่รอดของเซลล์ (cell viability) และลดอนุมูลอิสระ (Reactive Oxygen Species)
• ปกป้องเซลล์จากการทำงานผิดปกติของไมโทคอนเดรีย (mitochondrial dysfunction) และความเสียหายที่เกิดจากสารพิษ
• ช่วยลดการอักเสบและความเสียหายของเซลล์ประสาทในสมอง ซึ่งช่วยชะลอการเกิดอาการของโรค เพิ่มช่วงอายุ และช่วยในเรื่องทักษะการเรียนรู้และความสามารถทางความคิด
• นอกจากจะช่วยปกป้องแล้ว EGCG ยังมีคุณสมบัติในการฟื้นฟูระบบประสาท โดยส่งเสริมการเติบโตของเส้นใยประสาท (neurite growth) ทำให้เป็นสารที่มีศักยภาพในการปรับปรุงโรคที่มีผลต่อระบบประสาท
________________________________________
หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุน
การศึกษาในมนุษย์หลายชิ้นได้แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคชาเขียวกับการเกิดภาวะสมองเสื่อมและโรคพาร์กินสัน นั่นคือ ยิ่งดื่มชาเขียวมากเท่าไหร่ ความเสี่ยงของโรคเหล่านี้ก็จะลดลงเท่านั้น
• โรคสมองเสื่อมและอัลไซเมอร์ : การศึกษาแบบกรณีควบคุมในญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกาพบว่าการดื่มชา 2 แก้วขึ้นไปต่อวันช่วยลดความชุกของภาวะบกพร่องทางสติปัญญาได้ นอกจากนี้ งานวิจัยหลายชิ้นยังชี้ให้เห็นว่าสาร EGCG ในชาเขียวอาจช่วยป้องกันการสะสมของโปรตีนเบต้า-อะไมลอยด์ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคอัลไซเมอร์
• โรคพาร์กินสัน : การศึกษาในผู้ใหญ่ชาวฟินแลนด์กว่า 30,000 คนเป็นเวลา 13 ปี พบว่าผู้ที่ดื่มชา 3 แก้วขึ้นไปต่อวันมีความเสี่ยงเป็นโรคพาร์กินสันลดลง และการศึกษาขนาดใหญ่ในชายกว่า 50,000 คนและหญิงกว่า 80,000 คนเป็นเวลา 20 ปี พบว่าการได้รับ EGCG มีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงของโรคพาร์กินสันที่ลดลงถึง 40%
แม้ว่าผลกระทบนี้จะเด่นชัดเป็นพิเศษในกลุ่มประชากรชาวเอเชีย แต่ก็มีการศึกษาในประชากรชาติตะวันตกที่ให้ผลลัพธ์ไปในทิศทางเดียวกัน การดื่มชาเขียวจึงอาจเป็นอีกหนึ่งวิธีง่ายๆ ที่ช่วยปกป้องและดูแลสุขภาพสมองของเราในระยะยาวครับ 🍵💚
#ชาเขียว
#อัลไซเมอร์
#พาร์กินสัน
#สมอง
#สมองของคุณให้เราดูแล