15/09/2023
โรคลมพิษ หรือ ผื่นลมพิษ (Urticaria) มีลักษณะเป็นผื่น ปื้นนูนแดงขึ้นมาที่ผิวหนัง มีอาการคัน ผื่นลมพิษขึ้นได้ทั้งร่างกาย แขน ขา เป็นอาการที่พบได้บ่อยในทุกเพศทุกวัย โดยพบมากที่สุดในช่วงอายุ 20-40 ปี อาการมักอยู่ไม่เกิน 24 ชั่วโมง แต่ก็อาจมีผื่นลมพิษขึ้นมาใหม่อีกได้
สาเหตุของโรคลมพิษ
โรคลมพิษ เกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยเมื่อร่างกายมีปฎิกิริยาต่อสารก่อภูมิแพ้ ร่างกายปล่อยสาร “ฮีสตามีน (Histamine)” และสารอื่น ๆ เข้าสู่กระแสเลือดเป็นจำนวนมาก ทำให้หลอดเลือดฝอยขยายตัว มีพลาสมาหรือน้ำเลือดซึมออกมาในผิวหนัง จนทำให้เกิดผื่นนูนแดงที่ผิวหนังขึ้น ลมพิษ อาจเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ ดังนี้
แพ้อาหาร เช่น แพ้อาหารทะเล สารกันบูด
แพ้ยา ปฏิกิริยาการแพ้ยาบางชนิดอาจทำให้เกิดผื่นลมพิษได้
การติดเชื้อ การติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา หรือมีพยาธิ
โรคระบบต่อมไร้ท่อ เช่น โรคต่อมไทรอยด์
แพ้สารที่สัมผัส แพ้ยาง (Iatex) ขนสัตว์ พืช สารเคมีบางชนิด
แพ้พิษแมลง เช่น ปฏิกิริยาที่เกิดจากผึ้ง ต่อต่อย
มะเร็ง เช่น มะเร็งต่อมน้ำเหลือง หรือระบบอื่น ๆ ของร่างกาย
ระบบภูมิคุ้มกันต่อต้านตัวเอง เกิดจากมีภูมิคุ้มกันไปกระตุ้นให้เกิดการ หลั่งสารเคมีบางชนิดออกมาที่ผิวหนัง ทำให้เกิดผื่นลมพิษขึ้น
ประเภทของ โรคลมพิษ
โรคลมพิษแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
1. โรคลมพิษชนิดเฉียบพลัน (Acute urticaria) คือ มีอาการผื่นลมพิษ ไม่เกิน 6 สัปดาห์ มักเกิดจากการแพ้ เช่น แพ้อาหาร แพ้ยา การติดเชื้อในร่างกาย แมลงสัตว์กัดต่อย ฯลฯ มีอาการแน่นหน้าอก, แน่นจมูก, ปวดท้อง, ความดันต่ำ, ปากและตาบวม
2. โรคลมพิษชนิดเรื้อรัง (Chronic urticaria) คือ มีอาการผื่นลมพิษเป็น ๆ หาย ๆ อย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์ และเป็นต่อเนื่องติดต่อกันเกิน 6 สัปดาห์ขึ้นไป ยังไม่พบสาเหตุที่แน่นอนเหมือนลมพิษชนิดเฉียบพลัน อาจเกิดจากความแปรปรวนภายในร่างกาย แต่สิ่งที่สามารถกระตุ้นให้ลมพิษเรื้อรังเป็นมากขึ้น ได้แก่ ยาแอสไพริน, ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์, ยาปฏิชีวนะ เป็นต้น
ลมพิษเรื้อรัง ยังอาจเกิดได้จากสาเหตุอื่น ๆ อีก เช่น การแพ้แสงแดด แพ้ความร้อน ความเย็น เหงื่อ (เช่น เหงื่อหลังจากการออกกำลังกาย) การสัมผัสน้ำ อุณหภูมิในร่างกายสูง หรือการขีดข่วนที่เกิดขึ้นกับผิวหนัง เป็นต้น
อาการโรคลมพิษ
– มีผื่นลมพิษขึ้นบริเวณทั่วร่างกาย ผื่นลมพิษ จะมีลักษณะวงนูนแดง ขนาด และรูปร่างต่างกัน เช่น วงกลม วงรี วงหยัก ไม่มีขุย เนื้อภายในวงจะนูน และซีดกว่าขอบเล็กน้อย อาจเกิดขึ้นได้ที่หน้า ลำตัว แขนขา หรือส่วนอื่น ๆ ของร่างกายก็ได้
– มีอาการคัน หรือแสบร้อนบริเวณผื่นลมพิษ พอเกาตรงไหนก็จะมีผื่นแดงขึ้น
– มีไข้ ลมพิษ ทำให้บางคนอาจมีไข้ขึ้นเล็กน้อย หรือรู้สึกร่างกายร้อนขึ้น
– ผื่นลมพิษ นูนแดงมักจะคงอยู่ไม่นาน ไม่เกิน 24 ชั่วโมง โดยประมาณ 3-4 ชั่วโมง ผื่นนั้นก็จะยุบหายไปโดยไม่มีร่องรอย แต่ก็อาจจะเกิดขึ้นใหม่ได้อีก
โรคลมพิษ รักษาอย่างไรดี ?
หาสาเหตุของโรคลมพิษ ซึ่งส่วนใหญ่ลมพิษ มาจากอาการแพ้บางอย่าง เช่น ถ้าแพ้ยา หรืออาหารชนิดใดชนิดหนึ่ง ก็ให้หยุดยาหรือเลี่ยงการกินอาหารชนิดนั้น ๆ
– กินยาแก้แพ้ หรือ ยาต้านฮีสตามีน (Antihistamine) ถ้ามีอาการลมพิษ ผื่นคัน จากการแพ้ อาการไม่รุนแรงมาก อาจซื้อยาแก้แพ้ หรือ ยาต้านฮีสตามีนจากร้านขายยากินเองได้ เช่น ลอราทาดีน (Loratadine) ซึ่งเป็นกลุ่มยาแก้แพ้ หรือ ยาต้านฮีสตามีนที่ไม่ทำให้ง่วงซึม ออกฤทธิ์ได้ยาวนาน และปลอดภัย บรรเทาอาการคัน อาการแพ้จากสารก่อภูมิแพ้
– ใช้ยาคอร์ติโคสเตอรอยด์ (Corticosteroids) เป็นยาที่แพทย์สั่งให้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นในกรณีที่เป็นลมพิษเฉียบพลันรุนแรง
– ทาคาลาไมน์โลชั่น (calamine lotion) การทาคาลาไมน์โลชั่น ไม่ใช่เพื่อรักษาลมพิษ แต่เพื่อลดอาการคัน เพราะคาลาไมน์เป็นแป้งน้ำผสมเมนทอลเย็น ๆ ใช้ทาบริเวณที่เป็นผื่นลมพิษ แก้คัน ทำให้ไม่แกะ ไม่เกาจนผิวหนังอักเสบ
– ไปพบแพทย์หากมีอาการรุนแรง หากมีอาการอื่น ๆ นอกจากผื่น ลมพิษ เช่น แน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก เสียงแหบ ปวดท้อง มีหน้าบวม ตาบวม ปากบวมอย่างมาก ควรรีบพบแพทย์โดยเร็ว เนื่องจากเป็นอาการแพ้รุนแรง หรือ หากผื่นลมพิษไม่ดีขึ้นใน 24 ชั่วโมง มีอาการปวด อ่อนเพลีย ไม่ตอบสนองต่อยาแก้แพ้ ควรไปพบแพทย์เช่นกัน
วิธีดูแลตัวเอง บรรเทาอาการคัน เมื่อเป็นลมพิษ
ไม่เกาที่ผื่นลมพิษ เพราะอาจจะทำให้เป็นแผล เกิดการติดเชื้อ
ใช้ยาทาบรรเทาอาการคัน เช่น คาลาไมน์โลชั่น เพื่อช่วยบรรเทาอาการคันของ ลมพิษ
ไม่อาบน้ำอุ่น หรือน้ำร้อน เพราะจะทำให้ผิวแห้ง คัน
ประคบด้วยน้ำเย็น น้ำแข็ง หรือ เจลเก็บความเย็น (Cold Pack)
ควรทำความสะอาดผิวหนัง บริเวณที่มีผื่นด้วยน้ำสะอาด หรือน้ำเกลือ แล้วเช็ดให้แห้ง
ทำความสะอาดเสื้อผ้า ที่นอน เครื่องนอน ให้สะอาด
งดใช้สบู่ โลชั่น เครื่องสำอาง ที่มีสารเคมีรุนแรง น้ำหอม
ใช้ยาต้านฮีสตามีน หรือยาแก้แพ้ชนิดที่ไม่ง่วง เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียง
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำให้เพียงพอ
ไม่ควรเครียด หรือวิตกกังวลมากเกินไป
พักผ่อนให้เพียงพอ เมื่อพักผ่อนน้อย ภูมิต้านทานต่ำ ก็อาจทำให้ผื่นลมพิษหายช้า