บ้านยาสามพี่น้อง

บ้านยาสามพี่น้อง จำหน่ายยา วิตามิน อาหารเสริม เวชภัณฑ์ เวชสำอางค์ และให้คำปรึกษาเรื่องยาโดยเภสัชกร

เมื่อสมุนไพรกัญชา มีประกาศเปลี่ยนแปลงสถานะทางกฏหมาย มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง ภาพและข้อมูลจาก กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปั...
08/08/2025

เมื่อสมุนไพรกัญชา มีประกาศเปลี่ยนแปลงสถานะทางกฏหมาย มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง
ภาพและข้อมูลจาก
กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญา การแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย🌿

เมื่อสมุนไพรกัญชา มีประกาศเปลี่ยนแปลงสถานะทางกฏหมาย มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง
ภาพและข้อมูลจาก กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญา การแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย ค่ะ

อย.เตือนภัยผลิตภัณฑ์ "สมุนไพรจีนหยอดหู" อ้างรักษาหูอื้อ หูตึง หูดับ ลมออกหู หูอักเสบ ประสาทหูเสื่อม หยอดหูปลอดภัยเพียง 2...
08/08/2025

อย.เตือนภัยผลิตภัณฑ์ "สมุนไพรจีนหยอดหู" อ้างรักษาหูอื้อ หูตึง หูดับ ลมออกหู หูอักเสบ ประสาทหูเสื่อม หยอดหูปลอดภัยเพียง 2-3 หยด ได้ยินชัดเจน เพิ่งเป็นหรือเป็นมานาน ก็หาย!! ตรวจสอบแล้วพบว่าผลิตภัณฑ์ไม่ได้รับอนุญาตจาก อย. และมีการโฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณของอาหารอันเป็นเท็จ อย่าหลงเชื่อ อาจจะเสียเงินเปล่า และเสียโอกาสในการรักษา

อย.เตือนภัยผลิตภัณฑ์ "สมุนไพรจีนหยอดหู" อ้างรักษาหูอื้อ หูตึง หูดับ ลมออกหู หูอักเสบ ประสาทหูเสื่อม หยอดหูปลอดภัยเพียง 2-3 หยด ได้ยินชัดเจน เพิ่งเป็นหรือเป็นมานาน ก็หาย!! ตรวจสอบแล้วพบว่าผลิตภัณฑ์ไม่ได้รับอนุญาตจาก อย. และมีการโฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณของอาหารอันเป็นเท็จ อย่าหลงเชื่อ อาจจะเสียเงินเปล่า และเสียโอกาสในการรักษา #อย #ผลิตภัณฑ์สมุนไพร #สมุนไพรจีนหยอดหู #อ้างรักษาหูอื้อ #อ้างรักษาหูตึง #อ้างรักษาหูดับ #อ้างรักษาลมออกหู #อ้างรักษาหูอักเสบ #อ้างรักษาประสาทหูเสื่อม #โฆษณาสรรพคุณของอาหารอันเป็นเท็จ #ผลิตภัณฑ์ไม่ได้รับอนุญาต

สามารถติดตามผลิตภัณฑ์สุขภาพผิดกฏหมายและอ่านข้อมูลอ้างอิงต่อได้ที่..>https://oryor.com/media/illegalProduct/media_news/3263

ไม่อยากพลาดข้อมูลดี ๆ อีกเพียบ เข้าไปกดติดตามช่อง TikTok ได้ที่ https://www.tiktok.com/

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับตรวจเลือดหาสารเสพติดตรวจเลือดหาสารเสพติดได้กี่ชนิดตรวจสารเสพติดในเลือดสามารถหาสารเสพเสพติดประเภทสาร...
08/08/2025

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับตรวจเลือดหาสารเสพติด

ตรวจเลือดหาสารเสพติดได้กี่ชนิด

ตรวจสารเสพติดในเลือดสามารถหาสารเสพเสพติดประเภทสารกระตุ้นประสาท (Stimulants) หรือเรียกใน กลุ่มแอมเฟตามีน (Amphetamine-type stimulants – ATS) ประกออบไปด้วยสารเสพติด 7 ชนิด ได้แก่
1. แอมเฟตามีน / Amphetamine
2. เมทแอมเฟตามีน / Methamphetamine เช่น ยาบ้า และยาไอซ์
3. เอ็มดีเอ็มเอ (เอ็คซ์ตาซี,ยาอี) / M**A
4. เอ็มดีเอ (ยาเลิฟ) / MDA
5. อีเฟดรีน / Ephedrine
6. เฟนเทอร์มีน / Phentermine
7. ซูโดอีเฟดรีน / Pseudoephedrine

ข้อดีและข้อเสียการตรวจสารเสพติดในเลือด
ข้อดี
- ผลตรวจแม่นยำ แม้ว่าสารจะมีปริมาณน้อยมากในตัวอย่างที่เก็บมาก็สามารถตรวจพบได้

- สามารถตรวจหาได้ในขณะนั้น

- มีความปลอดภัยสูง ไม่ต้องสัมผัสอุปกรณ์เก็บตัวอย่างด้วยตัวเอง

- สะดวก สามารถตรวจได้ที่คลินิกในพื้นที่ มีความรวดเร็วในการเก็บตัวอย่าง ไม่ต้องงดน้ำ งดอาหาร หรือเตรียมตัวเป็นพิเศษ เมื่อเปรียบเทียบกับวิธีการอื่นๆ

ข้อเสีย
- ราคาค่อนข้างสูง กว่าการตรวจปัสสาวะ

- เจ็บตัว เนื่องจากต้องเจาะเลือดตรวจ

- ต้องตรวจโดยบุคลกรทางการแพทย์เท่านั้น ตรวจเองไม่ได้

- ใช้เวลาในการวิเคราะห์ผลนาน ประมาณ 10 วัน

สารเสพติดอยู่ในเลือดนานแค่ไหน
ระยะเวลาที่สารเสพติดอยู่ในเลือด ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเภทของสารที่ใช้ ปริมาณการใช้ ความถี่ในการใช้ อายุ น้ำหนัก และระบบการเผาผลาญของแต่ละคน เช่น

- แอมเฟตามีน ประมาณ 12 ชั่วโมง
- เมทแอมเฟตามีน ประมาณ 1-3 วัน
- เอ็มดีเอ็มเอ ประมาณ 1-2 วัน

ตรวจสารเสพติดในเลือด โดยการเจาะเลือดหาสารเสพติด รอผลกี่วัน ตรวจหาสารเสพติดได้กี่ชนิด ข้อดี-ข้อเสีย ความแ...

“โรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (Myasthenia Gravis)”
08/08/2025

“โรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (Myasthenia Gravis)”

ช่วงนี้โรค ไข้ดินหรือโรคเมลิออยด์ กำลังระบาดเอา   “คู่มือโรคเมลิออยด์ 2564“โดยกรมควบคุมโรค  มาฝากคร่าhttps://klb.ddc.mop...
07/08/2025

ช่วงนี้โรค ไข้ดินหรือโรคเมลิออยด์ กำลังระบาด
เอา “คู่มือโรคเมลิออยด์ 2564“โดยกรมควบคุมโรค มาฝากคร่า
https://klb.ddc.moph.go.th/dataentry/handbook/form/129

ระวัง ! ยา ..กับ.. อาหาร ตีกัน !! ต้องระวัง ยา Levodopa กินร่วมกับ อาหารที่มีโปรตีนสูงๆ
07/08/2025

ระวัง !
ยา ..กับ.. อาหาร ตีกัน !!
ต้องระวัง ยา Levodopa กินร่วมกับ อาหารที่มีโปรตีนสูงๆ

ระวัง !
ยา ..กับ.. อาหาร ตีกัน !!
ต้องระวัง ยา Levodopa กินร่วมกับ อาหารที่มีโปรตีนสูงๆ

💊💥🥛. . .🥴

ยกตัวอย่าง 1 คู่ที่พบว่าตีกัน และผู้ป่วย หรือผู้ดูแลคนไข้ไม่รู้ นั่นคือ
ยา Levodopa (ยารักษาโรค Parkinson) ตีกับอาหารที่มีโปรตีนสูงๆ หรือ พวกผลิตภัณฑ์ ONS ย่อมาจาก Oral Nutrition Supplements จัดเป็นอาหารสูตรครบถ้วนทางการแพทย์ที่มีปริมาณสารอาหารเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย สามารถใช้ทดแทนมื้ออาหารได้ หรืออาจเรียกว่า ''Medical food - อาหารทางการแพทย์"

เพราะ ? . .
ยาลีโวโดปาจะถูกดูดซึมบริเวณลำไส้เล็ก เป็นยาที่ดูดซึมได้ดีเมื่อท้องว่าง … ถ้ากินยาพร้อมกับอาหารที่มีโปรตีนสูงๆ อาจเกิดการตีกันระหว่างยา กับ อาหารที่มีโปรตีนสูงๆ หรือ พวก ONS = Oral Nutrition Supplements คืออาหารทางการแพทย์ที่มีโปรตีนสูง เมื่อกินร่วมกับยา Levodopa เพราะ ทั้งคู่ใช้ช่องทางในการแพร่ผ่านเข้าสู่สมองช่องเดียวกัน จึงทำให้ประสิทธิภาพยาลีโวโด้ป้าลดลงเพราะโดนอนุพันธ์ของโปรตีนขนาดสูงแย่งกันเข้า จึงอาจทำให้อาการของผู้ป่วย Parkinson แย่ลง เพราะระดับยาที่ออกฤทธิ์ลดลง เมื่อให้กินยา Levodopa ร่วมกับ อาหารที่มีโปรตีนสูงๆ

วิธีแก้ไข ? . .
เพื่อให้ยาลีโวโดปาสามารถดูดซึมได้เต็มที่ โดยทั่วไปยานี้จะออกฤทธิ์หลังรับประทานภายใน 30 นาที และฤทธิ์ของยาจะอยู่ได้นานประมาณ 4 ชั่วโมง จึงควรทำดังนี้
1. หลีกเลี่ยงรับประทานยาพร้อมอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น นม ถั่ว และน้ำเต้าหู้ เป็นต้น
2. ควรรับประทานยาตอนท้องว่าง คือก่อนรับประทานอาหาร 30-60 นาที
3. หรือกินหลังรับประทานอาหาร 2 ชั่วโมง

นอกจากยา "Levodopa" ที่ตีกันกับ "อาหารที่มีโปรตีนสูงๆแล้ว" ยังมีรายการยาอื่นๆอีกที่ตีกันกับอาหารอย่าง "นม" ได้ เช่น
1. ยาปฏิชีวนะกลุ่ม Tetracyclines เช่น
- Doxycycline
-Tetracycline
เพราะ นมจะรบกวนการดูดซึมของยา เพราะแคลเซียมในนมจับกับตัวยา ทำให้ยาไม่ถูกดูดซึม
2. ยาปฏิชีวนะกลุ่ม Fluoroquinolones เช่น
- Ciprofloxacin
- Levofloxacin
- Norfloxacin
- Ofloxacin เป็นต้น
เพราะมีปฏิกิริยากับแคลเซียม แมกนีเซียม หรือเหล็กในนมและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทำให้ดูดซึมได้น้อยลง
3. ยา Bisphosphonates สำหรับโรคกระดูกพรุน เช่น
- Alendronate
เพราะ ต้องกินตอนท้องว่างและห้ามกินร่วมกับอาหารหรือนม เพราะจะทำให้ดูดซึมไม่ได้เลย
4. ยารักษาวัณโรคบางชนิด เช่น
- Isoniazid
เพราะการดูดซึมของยาอาจลดลงเมื่อรับประทานพร้อมอาหาร โดยเฉพาะอาหารที่มีไขมันหรือโปรตีนสูง รวมถึงนม
5. แร่ธาตุ เช่น
- ธาตุเหล็ก (Iron supplements) เช่น Ferrous sulfate เป็นต้น
เพราะการดื่มนมหรือทานแคลเซียมพร้อมกันจะขัดขวางการดูดซึมของธาตุเหล็ก
6. ยารักษาต่อมไทรอยด์ (Thyroid hormone) เช่น
- Levothyroxine
เพราะหลีกเลี่ยงการกินพร้อมนมหรืออาหารที่มีแคลเซียม เพราะแคลเซียมจะรบกวนการดูดซึมยา

_________________________
____________________
______________
__________
_____
_

☺️🙏

ขอบคุณความรู้ดีๆจาก "เภสัชโป้"
เภสัชกรจิรพงษ์ แม้นจริง
เภสัชกรปฏิบัติการร้านยาศรีด่านเภสัช จ.สมุทรปราการ
เพจเฟสบุ๊คร้าน . . ศรีด่านเภสัช

ข้อมูลบางส่วนอ้างอิงมาจาก . .
Contin M et al. (1991). Levodopa absorption and gastric emptying in Parkinson’s disease patients on chronic Levodopa therapy. Clin Neuropharmacol.

#คนแก่
#สังคมผู้สูงอายุ
#ปรึกษาเภสัชกร
#เข้าร้านยามองหาเภสัชกร
#ศรีด่านเภสัช

Ketoconazole Shampoo กลไกการออกฤทธิ์และประสิทธิภาพในการรักษาเกลื้อนที่ตัวเกลื้อนที่ตัวคืออะไร    เกลื้อนที่ตัว (Tinea ve...
07/08/2025

Ketoconazole Shampoo กลไกการออกฤทธิ์และประสิทธิภาพในการรักษาเกลื้อนที่ตัว
เกลื้อนที่ตัวคืออะไร
เกลื้อนที่ตัว (Tinea versicolor หรือ Pityriasis versicolor) เป็นโรคผิวหนังจากการติดเชื้อรากลุ่ม Malassezia ซึ่งปกติเป็นเชื้อราแฝงที่พบบนผิวหนังของมนุษย์โดยไม่ก่อโรค แต่ภายใต้สภาวะที่เอื้อต่อการเจริญเติบโต เช่น อากาศร้อนและชื้น เชื้อรานี้อาจเพิ่มจำนวนผิดปกติและก่อให้เกิดการติดเชื้อบริเวณผิวหนังลำตัว
ลักษณะทางคลินิกที่พบบ่อย คือ ผื่นราบมีขอบเขตชัด รูปร่างไม่แน่นอน สีขาว น้ำตาล หรือชมพูอ่อน มีขุยบาง ๆ บนผิว มักพบบริเวณหน้าอก หลัง หัวไหล่ และหน้าท้อง อาจมีอาการคันเล็กน้อย แต่โดยทั่วไปผู้ป่วยมักวิตกกังวลในเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอมากกว่าอาการคัน
กลไกการออกฤทธิ์ของ Ketoconazole Shampoo
Ketoconazole เป็นยาต้านเชื้อรากลุ่ม imidazole ซึ่งออกฤทธิ์โดยการยับยั้งเอนไซม์ lanosterol 14-α-demethylase ที่จำเป็นต่อกระบวนการสังเคราะห์ ergosterol ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของผนังเซลล์เชื้อรา การยับยั้งการสร้าง ergosterol ทำให้โครงสร้างและการทำงานขอเยื่อหุ้มเซลล์เชื้อราบกพร่อง ส่งผลให้เยื่อหุ้มเซลล์รั่ว/เปราะ เกิดการรั่วไหลของสารภายในเซลล์ และนำไปสู่การตายของเชื้อราในที่สุด
คำแนะนำการใช้ Ketoconazole Shampoo สำหรับประชาชน
เพื่อให้การรักษาโรคเกลื้อนที่ตัวได้ผลอย่างเต็มประสิทธิภาพ ควรปฏิบัติตามวิธีการใช้ Ketoconazole Shampoo ดังนี้
1. เขย่าขวดก่อนใช้ เพื่อให้ตัวยากระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ
2. เทแชมพูลงบนฝ่ามือ ปริมาณประมาณเท่าเหรียญ 10 บาท
3. ฟอกบริเวณที่เป็นผื่น ให้ครอบคลุมทั้งรอยโรคและผิวหนังรอบข้างประมาณ 2–3 เซนติเมตร
4. ทิ้งไว้ 5 นาที เพื่อให้ตัวยาซึมเข้าสู่ผิวหนังอย่างมีประสิทธิภาพ จากนั้นจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด
5. ใช้วันละครั้ง ติดต่อกันเป็นเวลา 3 วัน
ในกรณีที่มีประวัติโรคกลับมาเป็นซ้ำบ่อย อาจใช้เพื่อป้องกันโดยการสระสัปดาห์ละครั้ง
เคล็ดลับเสริมการดูแลผิว :
- สวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี
- อาบน้ำทันทีหลังเหงื่อออก
- หลีกเลี่ยงการใช้ครีมหรือผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวชื้นอบในบริเวณที่เคยเป็นผื่น เพื่อลดความเสี่ยงที่เชื้อราจะกลับมาเจริญเติบโตเร็ว
ความปลอดภัยและผลข้างเคียงของ Ketoconazole Shampoo
โดยทั่วไป Ketoconazole shampoo ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่มี ความปลอดภัยสูง และสามารถใช้ได้ในประชากรหลากหลายกลุ่ม อย่างไรก็ตาม อาจพบ ผลข้างเคียงบางประการ ในผู้ใช้บางราย เช่น
- ความรู้สึกระคายเคืองผิว แสบร้อนเล็กน้อย หรือคัน ระหว่างการใช้
- ผมอาจแห้งหรือเปลี่ยนสัมผัสได้ในบางราย
- อาการแพ้เฉพาะที่ เช่น ผื่นแดงหรือลอกอย่างรุนแรง ซึ่งพบได้น้อยมาก
Ketoconazole ในรูปแบบแชมพูมีการดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดน้อยมากจนไม่มีนัยสำคัญทางคลินิก จึง สามารถใช้ได้ในเด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป หากมีความจำเป็น แต่ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเริ่มใช้ยา
- หลีกเลี่ยงสัมผัสตาและเยื่อบุ หากเข้าตาให้ล้างออกทันที
การป้องกันการกลับเป็นซ้ำ
โรคเกลื้อนมีแนวโน้มกลับมาเป็นซ้ำได้ง่าย เนื่องจากเชื้อ Malassezia ยังคงอาศัยอยู่บนผิวหนังตามธรรมชาติ แม้จะรักษาให้หายแล้วก็ตาม เพื่อป้องกันการกำเริบใหม่ แนะนำให้
- ใช้ Ketoconazole shampoo เช่น สัปดาห์ละครั้ง เป็นการรักษาแบบประคับประคอง (maintenance therapy)
- ใช้หลังการออกกำลังกายหนักหรือเหงื่อออกมาก เพื่อช่วยลดการเพิ่มจำนวนของเชื้อราบนผิวหนัง
การปฏิบัติตามแนวทางเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดอัตราการกลับเป็นซ้ำและคงสภาพผิวให้ดูเรียบเนียนสม่ำเสมอได้ในระยะยาว
สรุป
Ketoconazole 2 % shampoo ออกฤทธิ์โดยยับยั้งเอนไซม์ lanosterol 14-α-demethylase ทำให้กระบวนการสร้าง ergosterol องค์ประกอบสำคัญของเยื่อหุ้มเซลล์เชื้อราหยุดชะงัก ส่งผลให้เยื่อหุ้มเซลล์สูญเสียความเสถียร เชื้อ Malassezia จึงหยุดเจริญและตายในที่สุด
หลักฐานทางคลินิกคุณภาพดี แสดงให้เห็นว่า Ketoconazole 2 % shampoo มี ประสิทธิภาพสูง ปลอดภัย และใช้งานสะดวก อาการไม่พึงประสงค์ส่วนใหญ่เป็นเพียงการระคายเคืองผิวเล็กน้อย
ด้วยคุณสมบัติดังกล่าว Ketoconazole 2 % shampoo จึงได้รับการแนะนำให้เป็นทางเลือกแรกในการรักษาโรคเกลื้อนที่ตัว โดยเฉพาะกรณีโรคไม่รุนแรงหรือจำกัดบริเวณในผู้ป่วยส่วนใหญ่
เอกสารอ้างอิง
1. Leung AKC, Barankin B, Lam JM, Hon KL, Leong KF. Tinea versicolor: an updated review. Drugs Context. 2022;11:2022-9-2.
2. Elewski BE, Hughey LC, et al. Tinea (pityriasis) versicolor. UpToDate. Waltham (MA): UpToDate Inc.; 2025.
3. Gupta AK, Foley KA. Ketoconazole: spectrum and mechanisms of action. J Cutan Med Surg. 2023;27(1):1-9.
4. Lange DS, Richards HM, Guarnieri J, Crounse R, Robins P, Chandler D, et al. Ketoconazole 2 % shampoo in the treatment of tinea versicolor: a multicenter, randomized, double-blind, placebo-controlled trial. J Am Acad Dermatol. 1998;39(6):944-50.
5. Ketoconazole 2 % shampoo in pityriasis versicolor: an open trial. Indian J Dermatol Venereol Leprol. 2003;69(4):287-8.
6. Shirvani S, Nasimi M, Nazemi MJ, et al. Comparison of the efficacy of 2 % ketoconazole shampoo versus 2 % climbazole shampoo among pityriasis versicolor patients. Iran J Dermatol. 2024;27(2):75-80.
7. ClinicalTrials.gov. Mycological efficacy, safety, recurrence and cost-effectiveness of selenium sulfide 1.8 % vs ketoconazole 2 % shampoo. Identifier NCT04007237. Updated 2024.
8. ClinicalTrials.gov. Therapeutic equivalence and safety of two ketoconazole 2 % shampoo formulations. Identifier NCT06305637. Updated 2025.
9. Kwan V. What you need to know about ketoconazole shampoo. Verywell Health. 2023.

Ketoconazole Shampoo กลไกการออกฤทธิ์และประสิทธิภาพในการรักษาเกลื้อนที่ตัว

เกลื้อนที่ตัวคืออะไร
เกลื้อนที่ตัว (Tinea versicolor หรือ Pityriasis versicolor) เป็นโรคผิวหนังจากการติดเชื้อรากลุ่ม Malassezia ซึ่งปกติเป็นเชื้อราแฝงที่พบบนผิวหนังของมนุษย์โดยไม่ก่อโรค แต่ภายใต้สภาวะที่เอื้อต่อการเจริญเติบโต เช่น อากาศร้อนและชื้น เชื้อรานี้อาจเพิ่มจำนวนผิดปกติและก่อให้เกิดการติดเชื้อบริเวณผิวหนังลำตัว
ลักษณะทางคลินิกที่พบบ่อย คือ ผื่นราบมีขอบเขตชัด รูปร่างไม่แน่นอน สีขาว น้ำตาล หรือชมพูอ่อน มีขุยบาง ๆ บนผิว มักพบบริเวณหน้าอก หลัง หัวไหล่ และหน้าท้อง อาจมีอาการคันเล็กน้อย แต่โดยทั่วไปผู้ป่วยมักวิตกกังวลในเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอมากกว่าอาการคัน

กลไกการออกฤทธิ์ของ Ketoconazole Shampoo
Ketoconazole เป็นยาต้านเชื้อรากลุ่ม imidazole ซึ่งออกฤทธิ์โดยการยับยั้งเอนไซม์ lanosterol 14-α-demethylase ที่จำเป็นต่อกระบวนการสังเคราะห์ ergosterol ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของผนังเซลล์เชื้อรา การยับยั้งการสร้าง ergosterol ทำให้โครงสร้างและการทำงานขอเยื่อหุ้มเซลล์เชื้อราบกพร่อง ส่งผลให้เยื่อหุ้มเซลล์รั่ว/เปราะ เกิดการรั่วไหลของสารภายในเซลล์ และนำไปสู่การตายของเชื้อราในที่สุด

คำแนะนำการใช้ Ketoconazole Shampoo สำหรับประชาชน
เพื่อให้การรักษาโรคเกลื้อนที่ตัวได้ผลอย่างเต็มประสิทธิภาพ ควรปฏิบัติตามวิธีการใช้ Ketoconazole Shampoo ดังนี้
1. เขย่าขวดก่อนใช้ เพื่อให้ตัวยากระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ
2. เทแชมพูลงบนฝ่ามือ ปริมาณประมาณเท่าเหรียญ 10 บาท
3. ฟอกบริเวณที่เป็นผื่น ให้ครอบคลุมทั้งรอยโรคและผิวหนังรอบข้างประมาณ 2–3 เซนติเมตร
4. ทิ้งไว้ 5 นาที เพื่อให้ตัวยาซึมเข้าสู่ผิวหนังอย่างมีประสิทธิภาพ จากนั้นจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด
5. ใช้วันละครั้ง ติดต่อกันเป็นเวลา 3 วัน
ในกรณีที่มีประวัติโรคกลับมาเป็นซ้ำบ่อย อาจใช้เพื่อป้องกันโดยการสระสัปดาห์ละครั้ง
เคล็ดลับเสริมการดูแลผิว :
- สวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี
- อาบน้ำทันทีหลังเหงื่อออก
- หลีกเลี่ยงการใช้ครีมหรือผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวชื้นอบในบริเวณที่เคยเป็นผื่น เพื่อลดความเสี่ยงที่เชื้อราจะกลับมาเจริญเติบโตเร็ว

ความปลอดภัยและผลข้างเคียงของ Ketoconazole Shampoo
โดยทั่วไป Ketoconazole shampoo ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่มี ความปลอดภัยสูง และสามารถใช้ได้ในประชากรหลากหลายกลุ่ม อย่างไรก็ตาม อาจพบ ผลข้างเคียงบางประการ ในผู้ใช้บางราย เช่น
- ความรู้สึกระคายเคืองผิว แสบร้อนเล็กน้อย หรือคัน ระหว่างการใช้
- ผมอาจแห้งหรือเปลี่ยนสัมผัสได้ในบางราย
- อาการแพ้เฉพาะที่ เช่น ผื่นแดงหรือลอกอย่างรุนแรง ซึ่งพบได้น้อยมาก
Ketoconazole ในรูปแบบแชมพูมีการดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดน้อยมากจนไม่มีนัยสำคัญทางคลินิก จึง สามารถใช้ได้ในเด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป หากมีความจำเป็น แต่ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเริ่มใช้ยา
- หลีกเลี่ยงสัมผัสตาและเยื่อบุ หากเข้าตาให้ล้างออกทันที

การป้องกันการกลับเป็นซ้ำ
โรคเกลื้อนมีแนวโน้มกลับมาเป็นซ้ำได้ง่าย เนื่องจากเชื้อ Malassezia ยังคงอาศัยอยู่บนผิวหนังตามธรรมชาติ แม้จะรักษาให้หายแล้วก็ตาม เพื่อป้องกันการกำเริบใหม่ แนะนำให้
- ใช้ Ketoconazole shampoo เช่น สัปดาห์ละครั้ง เป็นการรักษาแบบประคับประคอง (maintenance therapy)
- ใช้หลังการออกกำลังกายหนักหรือเหงื่อออกมาก เพื่อช่วยลดการเพิ่มจำนวนของเชื้อราบนผิวหนัง
การปฏิบัติตามแนวทางเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดอัตราการกลับเป็นซ้ำและคงสภาพผิวให้ดูเรียบเนียนสม่ำเสมอได้ในระยะยาว

สรุป
Ketoconazole 2 % shampoo ออกฤทธิ์โดยยับยั้งเอนไซม์ lanosterol 14-α-demethylase ทำให้กระบวนการสร้าง ergosterol องค์ประกอบสำคัญของเยื่อหุ้มเซลล์เชื้อราหยุดชะงัก ส่งผลให้เยื่อหุ้มเซลล์สูญเสียความเสถียร เชื้อ Malassezia จึงหยุดเจริญและตายในที่สุด
หลักฐานทางคลินิกคุณภาพดี แสดงให้เห็นว่า Ketoconazole 2 % shampoo มี ประสิทธิภาพสูง ปลอดภัย และใช้งานสะดวก อาการไม่พึงประสงค์ส่วนใหญ่เป็นเพียงการระคายเคืองผิวเล็กน้อย
ด้วยคุณสมบัติดังกล่าว Ketoconazole 2 % shampoo จึงได้รับการแนะนำให้เป็นทางเลือกแรกในการรักษาโรคเกลื้อนที่ตัว โดยเฉพาะกรณีโรคไม่รุนแรงหรือจำกัดบริเวณในผู้ป่วยส่วนใหญ่

เอกสารอ้างอิง

1. Leung AKC, Barankin B, Lam JM, Hon KL, Leong KF. Tinea versicolor: an updated review. Drugs Context. 2022;11:2022-9-2.
2. Elewski BE, Hughey LC, et al. Tinea (pityriasis) versicolor. UpToDate. Waltham (MA): UpToDate Inc.; 2025.
3. Gupta AK, Foley KA. Ketoconazole: spectrum and mechanisms of action. J Cutan Med Surg. 2023;27(1):1-9.
4. Lange DS, Richards HM, Guarnieri J, Crounse R, Robins P, Chandler D, et al. Ketoconazole 2 % shampoo in the treatment of tinea versicolor: a multicenter, randomized, double-blind, placebo-controlled trial. J Am Acad Dermatol. 1998;39(6):944-50.
5. Ketoconazole 2 % shampoo in pityriasis versicolor: an open trial. Indian J Dermatol Venereol Leprol. 2003;69(4):287-8.
6. Shirvani S, Nasimi M, Nazemi MJ, et al. Comparison of the efficacy of 2 % ketoconazole shampoo versus 2 % climbazole shampoo among pityriasis versicolor patients. Iran J Dermatol. 2024;27(2):75-80.
7. ClinicalTrials.gov. Mycological efficacy, safety, recurrence and cost-effectiveness of selenium sulfide 1.8 % vs ketoconazole 2 % shampoo. Identifier NCT04007237. Updated 2024.
8. ClinicalTrials.gov. Therapeutic equivalence and safety of two ketoconazole 2 % shampoo formulations. Identifier NCT06305637. Updated 2025.
9. Kwan V. What you need to know about ketoconazole shampoo. Verywell Health. 2023.

โรคมาลาเรีย
07/08/2025

โรคมาลาเรีย

เห็นมีข่าวทหารเริ่มเป็นมาลาเรีย ผมจะขอเล่าเรื่องราวของ โรคมาลาเรีย ให้ฟังนะครับ
จุดเริ่มต้นของโรคนี้ เริ่มจากเชื้อโรคที่ตัวมันเล็กมากๆ เล็กจนไม่เห็นด้วยตาเปล่า เชื้อนี้ก็คือ พลาสโมเดียม (Plasmodium) ซึ่งเป็นปรสิตเซลล์เดียว หรือที่เราเรียกว่า‘โปรโตซัว’นั่นเองครับ
โปรโตซัวตัวนี้มีหลายสายพันธุ์ แต่ตัวที่ร้ายกาจและสร้างปัญหาให้กับแถบบ้านเรามากที่สุด คือ พลาสโมเดียม ฟัลซิปารัม (Plasmodium falciparum) และ พลาสโมเดียม ไวแวกซ์ (Plasmodium vivax) เชื้อพวกนี้มีการเจริญเติบโตแปลงร่างได้หลายระยะ แต่ละระยะก็จะมีชื่อเรียกเฉพาะของมัน
การเดินทางของมาลาเรีย: จากยุงสู่คน
เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นที่ ยุงก้นปล่องตัวเมีย ไม่ใช่ยุงธรรมดาที่กัดเราทั่วไปนะครับ แต่เป็นยุงได้รับเชื้อมาลาเรียมาก่อน ยุงตัวนี้เปรียบเสมือนพาหนะที่จะนำผู้ร้ายเข้ามาในร่างกายของเรา
พอยุงก้นปล่องตัวเมียที่ติดเชื้อกัดเรา มันจะปล่อยผู้ร้ายตัวจิ๋ว หรือที่เรียกว่า สปอโรซอยต์ (Sporozoite) เข้าไปในกระแสเลือดของเราโดยตรง สปอโรซอยต์เหล่านี้จะเดินทางอย่างรวดเร็วไปยังเป้าหมายแรก นั่นก็คือ “ตับ” ครับ
ภารกิจแรกของผู้ร้าย: ยึดครองตับ
พอสปอโรซอยต์ไปถึงตับ มันก็จะเข้าไปซ่อนตัวและขยายพันธุ์อย่างเงียบๆ ภายในเซลล์ตับ ช่วงนี้ผู้ป่วยจะยังไม่มีอาการใดๆ เลยครับ เปรียบเหมือนผู้ร้ายกำลังซ่องสุมกำลังพลอยู่ภายในบ้านอย่างลับๆ ใช้เวลาประมาณ 7-10 วันในการขยายพันธุ์ พอได้กำลังพลมากพอแล้ว ผู้ร้ายที่ขยายพันธุ์แล้วซึ่งเราเรียกว่า มีโรซอยต์ (Merozoite) ก็จะออกจากตับและเข้าสู่กระแสเลือดอีกครั้ง เพื่อเดินทางไปสู่เป้าหมายต่อไป
การจู่โจมครั้งใหญ่: โจมตีเม็ดเลือดแดง
นี่คือช่วงที่โรคจะแสดงอาการออกมาให้เราเห็นอย่างชัดเจนครับ
เมื่อมีโรซอยต์เข้าสู่กระแสเลือด มันจะมุ่งหน้าไปยังเป้าหมายที่สำคัญที่สุด นั่นคือ เม็ดเลือดแดง ของเรา มีโรซอยต์จะบุกเข้าไปในเม็ดเลือดแดงและขยายพันธุ์อย่างรวดเร็ว ทำให้เม็ดเลือดแดงแตกออกและปล่อยมีโรซอยต์ตัวใหม่ๆ ออกมาเพื่อบุกเม็ดเลือดแดงอื่นๆ ต่อไป
การที่เม็ดเลือดแดงจำนวนมากถูกทำลายและแตกออกพร้อมๆ กันนี้เอง ทำให้เกิดอาการสำคัญของโรคมาลาเรีย คือ ไข้สูง หนาวสั่น และเหงื่อออก ซึ่งมักจะเกิดขึ้นเป็นรอบๆ ทุกๆ 2-3 วัน ขึ้นอยู่กับชนิดของเชื้อมาลาเรีย
ทำไมถึงไข้สูง หนาวสั่น? เพราะเมื่อเม็ดเลือดแดงแตก ร่างกายจะหลั่งสารกระตุ้นการอักเสบออกมา ทำให้มีไข้และหนาวสั่นคล้ายกับอาการไข้หวัดใหญ่
ทำไมถึงซีด? เพราะเมื่อเม็ดเลือดแดงถูกทำลายไปเรื่อยๆ ทำให้ร่างกายมีภาวะโลหิตจาง ทำให้ผู้ป่วยมีอาการซีด อ่อนเพลีย และเหนื่อยง่าย
ความอันตรายที่แตกต่างกัน
มาลาเรียที่เกิดจากเชื้อ P. falciparum ถือว่าอันตรายที่สุด เพราะเชื้อชนิดนี้ชอบทำลายเม็ดเลือดแดงทุกช่วงอายุ ทำให้เกิดภาวะโลหิตจางอย่างรุนแรง และที่น่ากลัวกว่านั้นคือ เม็ดเลือดแดงที่ติดเชื้อจะเหนียวและเกาะติดกัน ทำให้ไปอุดตันตามเส้นเลือดเล็กๆ ในอวัยวะสำคัญต่างๆ เช่น สมอง ไต หรือปอด มาลาเรียขึ้นสมอง จึงเป็นภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายที่สุดและอาจทำให้เสียชีวิตได้
ส่วนมาลาเรียจากเชื้อ P. vivax ถึงแม้จะอันตรายน้อยกว่า แต่ก็มีลักษณะพิเศษคือเชื้อบางส่วนสามารถไปซ่อนตัวอยู่ในตับได้นานเป็นเดือนเป็นปี และเมื่อมีโอกาสที่ร่างกายอ่อนแอลง เชื้อก็จะกลับมาโจมตีเม็ดเลือดแดงอีกครั้ง ทำให้เกิด ไข้มาลาเรียกำเริบ ได้ครับ
เหตุผลหลักที่ทหารตามแนวชายแดนมีความเสี่ยงติดเชื้อมาลาเรียสูงมาจาก 3 ปัจจัย คือ:
ทำเลที่ตั้ง: พื้นที่ชายแดนโดยเฉพาะในเขตจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ จันทบุรี และตราด ซึ่งมีพรมแดนติดกับกัมพูชา เป็นป่าเขา มีแหล่งน้ำ เหมาะแก่การแพร่พันธุ์ของ ยุงก้นปล่อง ซึ่งเป็นพาหะของโรค
ลักษณะงาน: ทหารต้องปฏิบัติงานในพื้นที่เปิดโล่งช่วงพลบค่ำและรุ่งสาง ซึ่งเป็นเวลาที่ยุงออกหากิน ทำให้ถูกยุงกัดได้ง่าย
ที่พักอาศัย: ที่พักอาจเป็นค่ายชั่วคราวและมีสิ่งป้องกันยุงไม่เพียงพอ เช่น ไม่มีมุ้งกันยุง ทำให้มีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อขณะพักผ่อน
การหลีกเลี่ยงในการเป็นมาลาเรียที่ดีที่สุดก็คือ “การป้องกันไม่ให้ยุงกัด” นั่นเองครับ

ข้อควรระวัง ในการใช้ยาเหน็บริดสีดวงทวาร (hemorrhoidal suppository)ยาเหน็บริดสีดวงทวาร มักประกอบด้วยตัวยาหลายชนิด เช่น hy...
07/08/2025

ข้อควรระวัง ในการใช้ยาเหน็บริดสีดวงทวาร (hemorrhoidal suppository)
ยาเหน็บริดสีดวงทวาร มักประกอบด้วยตัวยาหลายชนิด เช่น hydrocortisone, phenylephrine, lidocaine และสารสมานผิวอื่น ๆ ซึ่งออกฤทธิ์ร่วมกันเพื่อลดอาการปวด คัน บวม หรือมีเลือดออกจากโรคริดสีดวงทวาร อย่างไรก็ตาม หากใช้ยาโดยไม่เหมาะสม อาจส่งผลกระทบต่อเยื่อบุทวารหนัก หรือก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่อระบบร่างกายโดยรวมได้

ข้อควรระวัง ในการใช้ยาเหน็บริดสีดวงทวาร (hemorrhoidal suppository)

ยาเหน็บริดสีดวงทวาร มักประกอบด้วยตัวยาหลายชนิด เช่น hydrocortisone, phenylephrine, lidocaine และสารสมานผิวอื่น ๆ ซึ่งออกฤทธิ์ร่วมกันเพื่อลดอาการปวด คัน บวม หรือมีเลือดออกจากโรคริดสีดวงทวาร อย่างไรก็ตาม หากใช้ยาโดยไม่เหมาะสม อาจส่งผลกระทบต่อเยื่อบุทวารหนัก หรือก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่อระบบร่างกายโดยรวมได้

1. ควรตรวจสอบก่อนใช้ยาเหน็บริดสีดวงทวาร
- ผู้ใช้ควรอ่านฉลากยาอย่างละเอียด เพื่อศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับส่วนประกอบของยา ข้อห้ามใช้ และวันหมดอายุ
- หลีกเลี่ยงการใช้ทันทีในกรณีที่มีอาการเลือดออกสด มีหนอง หรือสงสัยภาวะมะเร็งลำไส้ใหญ่ โดยควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาในทุกกรณี
- แนะนำว่าในผู้ที่มีภาวะเฉพาะ เช่น เด็ก สตรีตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร ผู้ป่วยโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง หรือเบาหวาน ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาเหน็บชนิดนี้

2. แนวทางการเก็บรักษายาเหน็บริดสีดวงทวาร
- ควรเก็บยาในอุณหภูมิต่ำกว่า 25 °C หรือในตู้เย็น หากมีระบุไว้บนฉลาก เพื่อป้องกันการละลายของยา
- หลีกเลี่ยงการเก็บยาในที่ที่มีแสงแดดส่องถึงหรือมีความร้อนสูง และควรเก็บยาให้พ้นมือเด็ก เพื่อความปลอดภัยในการใช้ยา

3. การเตรียมตัวและวิธีใส่ยาเหน็บริดสีดวงทวารอย่างปลอดภัย
- ก่อนใช้ยา ควรล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำ แล้วสวมถุงมือหรือปลอกนิ้วชนิดใช้แล้วทิ้งเพื่อความถูกสุขลักษณะ
- แนะนำให้นอนในท่าตะแคงซ้าย งอสะโพกและเข่า (left lateral position) หรือท่า knee‑chest เพื่อให้ทวารหนักอยู่ในแนวตรงกับสะดือ
- ชโลมปลายยาเล็กน้อยด้วยสารหล่อลื่นชนิดละลายน้ำ (water-based lubricant)
- จากนั้น ค่อย ๆ ดันปลายมนของยาเข้าสู่ทวารหนักตามแนวตรงไปยังสะดือ ลึกประมาณ 3–4 นิ้ว (ในผู้ใหญ่) โดยหลีกเลี่ยงการดันยาผ่านก้อนอุจจาระ
- เมื่อเหน็บยาเรียบร้อยแล้ว ควรหนีบก้นไว้ประมาณ 2–3 นาที จากนั้นนอนนิ่งพักอย่างน้อย 15 นาที และหลีกเลี่ยงการเบ่งถ่ายหรือออกกำลังกายอย่างหนักภายใน 1 ชั่วโมงหลังการเหน็บยา

4. การจำกัดระยะเวลาและความถี่ในการใช้ยาเหน็บริดสีดวงทวาร
- ตำรับยาที่มีส่วนผสมของ corticosteroid เช่น hydrocortisone suppository ไม่ควรใช้ติดต่อกันเกิน 7 วัน เนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการฝ่อของเยื่อบุทวารหนัก (mucosal atrophy) และการดูดซึมของยาเข้าสู่กระแสเลือด ซึ่งอาจกดการทำงานของระบบ HPA axis ได้ โดยเฉพาะในเด็กและผู้สูงอายุ
- ส่วนตำรับที่มี phenylephrine อาจกระตุ้นให้หัวใจเต้นเร็วหรือความดันโลหิตสูงขึ้น ผู้ที่มีโรคหัวใจหรือใช้ยากลุ่ม MAOI (monoamine oxidase inhibitors) ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาในกลุ่มนี้

5. ผลข้างเคียงที่ควรหยุดใช้ยาและรีบพบแพทย์
- ควรหยุดใช้ยาเหน็บริดสีดวงทวารและปรึกษาแพทย์ทันที หากมีอาการดังต่อไปนี้
- แสบร้อน คัน ปวดเพิ่มขึ้น บวม ผิวหนังบริเวณทวารหนักถลอก
- มีเลือดออกหรือมีมูกปนเลือดจากทวารหนัก
- มีไข้ หนาวสั่น หรืออาการไม่ดีขึ้นภายใน 7 วันหลังเริ่มใช้ยา
- มีอาการใจสั่น ปวดศีรษะรุนแรง หรือความดันโลหิตสูงผิดปกติ โดยเฉพาะในกรณีที่ใช้ยาที่มีฤทธิ์หดหลอดเลือด (vasoconstrictor)

6. ปฏิสัมพันธ์กับโรคประจำตัวและยาอื่น
- Phenylephrine อาจทำให้ความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้น จึงควรใช้ด้วยความระมัดระวังในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง
- Corticosteroid อาจส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในผู้ป่วยเบาหวาน ควรเฝ้าระวังระดับน้ำตาลอย่างใกล้ชิด
- ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาเหน็บชนิดต่าง ๆ พร้อมกันหลายชนิดในช่วงเวลาเดียวกัน เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการระคายเคืองหรือทำลายเยื่อบุทวารหนัก

7. แนวทางการทิ้งยาที่ไม่ได้ใช้งาน
- ห้ามทิ้งลงในโถส้วมหรือท่อระบายน้ำ เพราะอาจก่อให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม

สรุป
- การใช้ยาเหน็บริดสีดวงทวารอย่างถูกวิธี ภายใต้ระยะเวลาที่เหมาะสม พร้อมกับการสังเกตอาการผิดปกติอย่างใกล้ชิด จะช่วยลดความเสี่ยงจากการใช้ยาและเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา
- หากมีข้อสงสัย ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาเสมอ

เอกสารอ้างอิง
1. Lohsiriwat V. Hemorrhoids: from basic pathophysiology to clinical management. World J Gastroenterol. 2012;18(17):2009-17.
2. Sun Z, Migaly J. Review of hemorrhoid disease: presentation and treatment. Clin Colon Re**al Surg. 2016;29(1):22-9.
3. Mott T, Latimer K, Edwards C. Hemorrhoids: diagnosis and treatment options. Am Fam Physician. 2018;97(3):172-9.
4. Healthline Editorial Team. Re**al suppository: positions, tips, side effects. Healthline. 2019.
5. Wisconsin Technical College System. Checklist for re**al medication administration. Nursing Skills. 2023.
6. American Society of Health-System Pharmacists. Re**al suppositories. SafeMedication.org. 2022.
7. Medscape Drugs & Diseases. Hemorrhoids – treatment & management. Medscape. 2022.
8. Cleveland Clinic. Phenylephrine re**al suppository. Cleveland Clinic. 2025.
9. Dhar S, Seth J, Parikh D. Systemic side effects of topical corticosteroids. Indian J Dermatol. 2014;59(5):460-4.
10. Cohee MW, Hurff A, Gazewood JD. Benign anore**al conditions: evaluation and management. Am Fam Physician. 2020;101(1):24-33.

องค์การอนามัยโลกได้ให้คำจำกัดความของโรคนอนไม่หลับ (insomnia disorders) ว่าคนที่เป็นโรคนี้จะมีปัญหาเรื่องความต่อเนื่องของ...
07/08/2025

องค์การอนามัยโลกได้ให้คำจำกัดความของโรคนอนไม่หลับ (insomnia disorders) ว่าคนที่เป็นโรคนี้จะมีปัญหาเรื่องความต่อเนื่องของการนอนหลับ รวมทั้งการเริ่มเข้านอน ระยะเวลาการนอนหลับ ภาพรวมการนอนหลับและ คุณภาพการนอนหลับ โดยเกิดขึ้นทั้งๆ ที่มีโอกาสและสถานการณ์เพียงพอที่จะให้นอนหลับได้ ส่งผลให้เกิดความบกพร่องบางอย่างในช่วงกลางวัน (daytime impairment) ซึ่งมักพบอาการอ่อนเพลียไปทั่ว อารมณ์เสีย หรือหงุดหงิดง่าย และ cognitive impairment
การวินิจฉัยและดูแลรักษาโรคนอนไม่หลับในประเทศไทย สำหรับผู้ใหญ่พ.ศ. 2568
https://drive.google.com/.../1xEyOAv5Xx1OCJByLc1wDjY.../view

ยาถ่ายพยาธิ คือ ยาที่ใช้สำหรับกำจัดพยาธิ ซึ่งพยาธิมีหลายชนิดดังนี้1. พยาธิตัวกลม (Nematodes) รูปร่างทรงกระบอก หัวท้ายเรี...
07/08/2025

ยาถ่ายพยาธิ คือ ยาที่ใช้สำหรับกำจัดพยาธิ ซึ่งพยาธิมีหลายชนิดดังนี้

1. พยาธิตัวกลม (Nematodes) รูปร่างทรงกระบอก หัวท้ายเรียวแหลม ลำตัวไม่แบ่งเป็นปล้อง ๆ เช่น พยาธิเข็มหมุด พยาธิไส้เดือนกลม พยาธิเส้นด้าย พยาธิปากขอ พยาธิตัวจี๊ด พยาธิแส้ม้า

2. พยาธิตัวแบน (Cestodes หรือ Tapeworm) ลำตัวแบน แบ่งเป็นปล้อง ๆ เช่น พยาธิตืดหมู พยาธิตืดวัว

3. พยาธิใบไม้ (Trematodes หรือ Fluke) ลำตัวแบน ไม่แบ่งเป็นปล้อง ๆ เช่น พยาธิใบไม้ในตับ พยาธิใบไม้ในเลือด

ยาถ่ายพยาธิที่นิยมใช้ในปัจจุบัน ได้แก่

1. อัลเบนดาโซล (Albendazole) ใช้ถ่ายพยาธิไส้เดือน พยาธิเส้นด้าย พยาธิปากขอ พยาธิแส้ม้า พยาธิตัวตืด พยาธิตัวจี๊ด ใช้รักษาโรคพยาธิใบไม้ตับ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยานี้กับสตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร สำหรับผู้ที่มีประวัติการชักหรือเป็นโรคตับ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา

ผลข้างเคียง ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ ปวดมวนท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดินหรือแพ้ยา

2. มีเบนดาโซล (Mebendazole) ใช้ถ่ายพยาธิตัวกลม (เส้นด้าย ไส้เดือน ปากขอ แส้ม้า) ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยานี้กับสตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร ห้ามใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี และผู้ที่เป็นโรคตับ

ผลข้างเคียง ปวดท้อง ท้องเดิน พบภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำชั่วคราว

3. นิโคลซาไมด์ (Niclosamide) ใช้ถ่ายพยาธิตัวตืด โดยเคี้ยวให้ละเอียดแล้วกลืน ให้กินยาตอนท้องว่าง หลังจากกินยานี้แล้ว 2 ชั่วโมง ให้กินยาระบายตามเข้าไปเพื่อถ่ายพยาธิและไข่พยาธิออกให้หมด

ผลข้างเคียง คลื่นไส้ ปวดท้อง ท้องเดิน

4. พลาซิควอนเทล (Praziquantel) ใช้รักษาโรคพยาธิใบไม้ในตับ และพยาธิตัวตืด ควรรับประทานยานี้พร้อมอาหาร แต่ห้ามใช้กับเด็กอายุต่ำกว่า 4 ปี

ผลข้างเคียง ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ ปวดท้อง อาเจียน ผื่นคัน ง่วงนอน

5.ไอเวอร์เมคติน (Ivermectin) ใช้รักษาพยาธิสตรองจิลอยด์ สเตอร์โคราลิส (Strongyloides Stercoralis) รวมถึงการรักษาพยาธิเท้าช้าง ห้ามใช้กับสตรีมีครรภ์ หญิงให้นมบุตร และเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี
ผลข้างเคียง ไข้ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดกล้ามเนื้อ ผื่นคัน ต่อมน้ำเหลืองอักเสบ ควรปรึกษาแพทย์หากใช้ยานี้พร้อมกับยาวาร์ฟาริน

ขนาดและระยะเวลาในการกินยาแต่ละรายการจะมีความแตกต่างกันไปในโรคพยาธิแต่ละชนิด ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนกินยา รวมทั้งศึกษาฉลากและเอกสารกำกับยาพร้อมทั้งปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างถูกต้องครบถ้วนทุกครั้ง





ข้อมุลอ้างอิง :

https://ccpe.pharmacycouncil.org/showfile.php?file=539
http://clmjournal.org/_fileupload/journal/62-4-7.pdf

ยาถ่ายพยาธิ - รายละเอียดของยา - พบแพทย์ (pobpad.com)

https://oryor.com/อย/detail/media_printing/1887

ยาถ่ายพยาธิตัวกลม มีเบนดาโซล – กองยา (moph.go.th)

พราซิควอนเทล (Praziquantel) ยาฆ่าพยาธิใบไม้ตับ (drug03422.blogspot.com)

aeeeb3deb15e3e9339acc8a779c6dd70.pdf (moph.go.th)

PIL_Ivermectin_tablets_6mg_Nov-61.pdf (moph.go.th)

ถึงเวลาเลิกโลกสวย เพราะโลกจริงมันมีมุมที่โหดร้ายท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ด้านมนุษยธรรม กรณี การขอเข้ามารับการรักษาพยา...
04/08/2025

ถึงเวลาเลิกโลกสวย เพราะโลกจริงมันมีมุมที่โหดร้าย

ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ด้านมนุษยธรรม กรณี การขอเข้ามารับการรักษาพยาบาล ของทหาร และพลเรือนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุ ปะทะ ไทย-กัมพูชา
แอดเชื่อว่า หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า ที่ผ่านมา ไทยเรารับรักษา ต่างด้าว เพื่อมนุษยธรรม เป็นรายจ่ายที่สูงมากๆ ..เอาเฉพาะกัมพูชาประเทศเดียว เราเสียงบประมาณไปถึง 277 ล้านบาท ซึ่งก็มาจากเงินภาษีของคนไทย !
จรรยาบรรณของบุคลากรทางการแพทย์เรา ไม่ปฏิเสธคนไข้ เรารักษาให้โดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ชนชั้น ดูแลอย่างดี
ทั้งๆที่รพ.รัฐไทย หลายๆ รพ.เองก็ขาดสภาพคล่อง ขาดทุน เพราะแบกรับค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพของคนไทยที่สูงขึ้นอยู่แล้ว .. หลายๆ รพ.ไม่พอจ่ายค่ายา จ่ายค่าตอบแทนบุคลากรช้า ค้างจ่าย อุปกรณ์ทางการแพทย์ไม่เพียงพอ...
#อนุสัญญาเจนีวาคืออะไร?
เป็นข้อตกลงสากลที่หลายประเทศร่วมลงนาม (รวมถึง ไทย และ กัมพูชา) เพื่อจำกัดความรุนแรงในสงคราม โดยเฉพาะการ คุ้มครองพลเรือนและผู้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการรบ
✅ กัมพูชาให้สัตยาบันในอนุสัญญาทั้ง 4 ฉบับมาตั้งแต่ปี 1958
ซึ่งหมายความว่า ต้องไม่กระทำการใดๆ ที่เป็นอันตรายต่อพลเรือน หรือโครงสร้างที่ไม่เกี่ยวกับการทหาร แต่ เหตุการณ์ล่าสุด ระหว่างวันที่ 24–28 กรกฎาคม 2568
กัมพูชา ยิงจรวด BM-21 (ระบบจรวดหลายลำกล้อง) เข้ามาในเขตไทย:
❌️โรงพยาบาลของไทย 2 แห่งถูกยิงจนเสียหาย
เสียหาย 245 ล้านบาท
❌️ร้านสะดวกซื้อ บ้านเรือน และชุมชนพลเรือน ถูกลูกหลง
มีผู้เสียชีวิตหลายราย รวมทั้งเด็ก
🛑 การกระทำนี้ เข้าข่ายละเมิดอนุสัญญาเจนีวา อย่างร้ายแรง เพราะเป็นการโจมตีเป้าหมายที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทหาร ความเสียหายประเมินค่าไม่ได้
#ไทยได้รับความเสียหายโดยตรงทั้งชีวิตทรัพย์สินและโรงพยาบาล
ถึงเวลา ที่ต้องปฏิรูป ระบบการช่วยเหลือต่างด้าวด้านการดูแลสุขภาพ อย่างจริงจังหรือยัง ?
ท่านคิดยังไงกับเรื่องนี้ ? คอมเม้นต์มาคุยกันค่ะ
Cr.ภาพและข้อมูล Hfocus ลงวันที่ 16/6/68

ที่อยู่

603/37 ถนนพระองค์ขาว
Phitsanulok
65000

เวลาทำการ

จันทร์ 09:00 - 20:30
อังคาร 09:00 - 20:30
พุธ 09:00 - 20:30
พฤหัสบดี 09:00 - 20:30
ศุกร์ 09:00 - 20:30
เสาร์ 09:00 - 20:30
อาทิตย์ 09:00 - 20:30

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ บ้านยาสามพี่น้องผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง บ้านยาสามพี่น้อง:

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram