Dr Sunisa Thajai Health is the treasure that people should seek in life, not status or money.

👉มะเร็งปากมดลูก เกิดจาก ไวรัส ไม่ใช่ กรรมพันธุ์มะเร็งปากมดลูก เป็นหนึ่งในมะเร็งเพียงไม่กี่ชนิดที่สามารถ ป้องกันได้โรคมะเ...
10/07/2025

👉มะเร็งปากมดลูก เกิดจาก ไวรัส ไม่ใช่ กรรมพันธุ์
มะเร็งปากมดลูก เป็นหนึ่งในมะเร็งเพียงไม่กี่ชนิดที่สามารถ ป้องกันได้
โรคมะเร็งปากมดลูก ไม่แสดงอาการจนกว่าโรคจะพัฒนาจนร้ายแรง
แต่หากตรวจพบเร็ว จะมีโอกาสรักษาให้หายสูงถึงร้อยละ 98 ซึ่งวิธีการป้องกันไม่ยากเลย...
สาเหตุหลักของมะเร็งปากมดลูก เกิดจากเชื้อ HPV
เชื้อ Human Papilloma virus หรือ “HPV” เป็นต้นเหตุสำคัญของการเกิดมะเร็งปากมดลูก มีประมาณ 14 สายพันธุ์ ที่มีความเสี่ยงสูงในการก่อมะเร็งปากมดลูก โดยสายพันธุ์ 16 และ 18 เป็นสาเหตุให้เกิดมะเร็งปากมดลูกได้มากที่สุดถึง 70% และมีโอกาสพัฒนาเป็นมะเร็งปากมดลูกได้ มากกว่าคนที่ไม่ติดเชื้อ HPV ถึง 35 เท่า
เราติดเชื้อ HPV จากที่ไหนบ้าง
การติดเชื้อ HPV ที่พบบ่อย คือ การสัมผัสทางผิวหนัง เพราะฉะนั้นเพศสัมพันธ์จึงเป็นสาเหตุสำคัญทำให้ติดเชื้อ HPV บริเวณปากมดลูก และอวัยวะเพศส่วนอื่นๆ รวมทั้งทวารหนัก อย่างไรก็ตาม การติดเชื้อ HPV เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ง่าย และเป็นเรื่องธรรมดาสามัญซึ่ง 80% ของผู้หญิงเคยมีเชื้อ หรือกำลังมีเชื้อ HPV อยู่ในร่างกายโดยไม่รู้ตัว ถ้าร่างกายแข็งแรงเชื้อ HPV จะถูกกำจัดออกไปได้เอง แต่ถ้าร่างกายอ่อนแอการติดเชื้อดังกล่าวอาจพัฒนากลายไปเป็นเซลล์มะเร็งได้
ดังนั้นเมื่อเราป้องกันไวรัส HPV ได้ ก็เท่ากับป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้

“มะเร็งปากมดลูก”เป็นมะเร็งที่พบได้บ่อยเป็นอันดับ 2 ของผู้หญิง และทำให้เสียชีวิตมากถึง 14 คนต่อวัน แต่ระยะก่อนมะเร็ง เราส...
05/07/2025

“มะเร็งปากมดลูก”
เป็นมะเร็งที่พบได้บ่อยเป็นอันดับ 2 ของผู้หญิง และทำให้เสียชีวิตมากถึง 14 คนต่อวัน
แต่ระยะก่อนมะเร็ง เราสามารถตรวจพบได้ เพื่อหาทางป้องกัน ดูแลรักษาที่เหมาะสม และลดความรุนแรงของโรค นอกจากนี้เรายังสามารถฉีดวัคซีนป้องกันเพื่อลดโอกาสการเกิดโรคได้อีกด้วยค่ะ
อาการของมะเร็งปากมดลูก
ในระยะเริ่มแรกมักไม่ปรากฏให้เห็นชัด แต่สามารถตรวจพบได้โดยการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก เมื่ออาการเริ่มรุนแรงอาจมีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด มีเลือดออกขณะมีเพศสัมพันธ์ หรือมีตกขาวผิดปกติ
สาเหตุมะเร็งปากมดลูก
มะเร็งปากมดลูก เกิดจากการติดเชื้อไวรัส HPV สายพันธุ์เสี่ยงสูง โดยสายพันธุ์ที่พบได้บ่อยที่สุดได้แก่ สายพันธุ์ 16 และ 18 ซึ่งมาจากการมีเพศสัมพันธ์
ป้องกันอย่างไร?
"มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งไม่กี่ชนิดที่สามารถป้องกันได้" นอกจากการรับวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกแล้ว ผู้หญิงทุกคนควรเข้ารับการตรวจมะเร็งปากมดลูกอย่างสม่ำเสมอปีละครั้งในการตรวจโดยวิธี Pap smear และ Liquid base cytology และแนะนำให้ตรวจทุก 3 ปี ถ้าใช้วิธีการตรวจหาเชื้อ HPV
โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์แล้ว ส่วนผู้หญิงที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ ควรเริ่มตรวจเมื่ออายุ 30 ปีขึ้นไปค่ะ
ส่วนการตรวจภายในเพื่อหาโรคทางนรีเวช ยังแนะนำให้ตรวจทุกปีเหมือนเดิม การตรวจคัดกรองไม่มีความน่ากลัวใดๆเลยค่า เมื่อเทียบกับอาการของโรคมะเร็งปากมดลูกและความทรมานจากการรักษา การตรวจคัดกรองจึงเป็นการป้องกันและรักษาที่ดีที่สุดในทุกช่วงเวลานะคะ

วันที่ 11 มิถุนายน 2568 นายสมหมาย  คำพิชิต สาธารณสุขอำเภอเชียงยืน เป็นประธาน เปิดโครงการการอบรมเชิงปฏิบัติการสร้างการรับ...
11/06/2025

วันที่ 11 มิถุนายน 2568 นายสมหมาย คำพิชิต สาธารณสุขอำเภอเชียงยืน เป็นประธาน เปิดโครงการการอบรมเชิงปฏิบัติการสร้างการรับรู้สิทธิ เรื่อง มะเร็งปากมดลูก และมีนางสราญจิต อินศร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม ร่วมพบปะกับผู้เข้าร่วมประชุม โดยมีกลุ่มเป้าหมาย คือ แกนนำอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับอำเภอหรือตำบล จำนวน 85 คน ณ วัดกลางเชียงยืน อำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม

ทำไมสังคมสูงวัย น่าเป็นกังวล📌ผมเคยแชร์เรื่อง “Physical resilience”หรือความสามารถในการ bounce back คือกลับมา ทำสิ่งต่าง ๆ...
03/06/2025

ทำไมสังคมสูงวัย น่าเป็นกังวล
📌ผมเคยแชร์เรื่อง “Physical resilience”
หรือความสามารถในการ bounce back คือกลับมา ทำสิ่งต่าง ๆ มีฟังก์ชัน (การทำงานของร่างกาย) ได้ปกติหลังจากป่วยเป็นโรคใดโรคหนึ่ง
สิ่งที่เป็นสัญญาณของการขาดความสามารถนี้ที่พบได้เยอะคือภาวะ “frailty” (เปราะบาง) นึกภาพคนหง่อม ๆ ผอมแห้ง แค่ลุกเดินก็ลำบาก เข้าโรงพยาบาลทีก็ทรุด เกิดภาวะพึ่งพิง ติดบ้าน ติดเตียง
ทางหนึ่งที่จะทำให้ร่างกายมี physical resilience คือเวลาเจออาการป่วยทีแล้วไม่ทรุดคือต้องทำให้มันมี “ต้นทุนสำรอง” (reserve) ซึ่งหนีไม่พ้นเรื่องของการออกกำลังกายเพื่อสร้างความแข็งแรง ความฟิต
เมื่อไม่นานมานี้มีโอกาสได้เจอเคสวัย 80+ มาปรึกษาว่าจะทำอย่างไรให้สามารถกลับไปทำกิจกรรมต่างๆ ดังเดิมได้ เพราะก่อนหน้านี้ไม่กี่ปี ยังสามารถเดินเหินคล่องแคล่ว ขึ้นบันได้ 2-3 ชั้นสบาย แม้จะแทบไม่ค่อยออกกำลังกายเป็นเรื่องเป็นราว (เรียกว่าไม่ชอบ หรือเกลียดเลย) แต่ที่รักษาความสามารถของร่างกายไว้ได้ ก็ด้วยเพราะเป็นคนที่ขยับอยู่ตลอด "Physically Active"
แต่เมื่อป่วยด้วยโรคะมะเร็งและต้องรับเคมีบำบัด ทำให้มีภาวะ "ขาดกิจกรรมทางกาย (Physical Inactivity)" ในช่วงไม่กี่เดือนก็ซูบผอมลง พลังงานลดลง ช่วยเหลือตัวเองได้ลดลง จนตอนนี้โรคมะเร็งรักษาหายแล้ว แต่ความสามารถเดิมที่เคยทำก็ยังไม่กลับมา เดินก็ยังต้องใช้ไม้เท้าช่วย
ผมถามว่า "แล้วช่วงที่ผ่านมาไม่มีการกายภาพบำบัด/ออกกำลังกายใดๆ เลยหรอ" คำตอบก็คือ "ใช่"
แต่ตัวคนไข้และญาติคิดว่า มันต้องไม่ใช่แบบนี้ น่าจะมีวิธีทำให้ตัวเองกลับมาได้ ก็เลยหาทางแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง
🩺ซึ่งเคสลักษณะนี้พบได้บ่อยเป็นปกติ โรงพยาบาลส่วนใหญ่ หรืออย่างเคสนี้ก็มาจากโรงเรียนแพทย์ ถูก "ถาโถม" ด้วยคลื่นคนป่วย
ด้วยลักษณะวิชาชีพ ความคาดหวัง เวลาที่จำกัด ทรัพยากรที่จำกัด ฯลฯ ของทั้งโรงพยาบาล และคนไข้เอง การรักษาก็ต้องมุ่งเน้นที่การรักษาจัดการ "โรค"
สิ่งที่ไม่ถูกนิยามว่าเป็น "โรค" เช่น ความไม่ฟิต ความไม่แข็งแรงก็มักจะถูกละเลย ไม่ได้จัดการ (ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจได้)
ผมก็แค่โชคดี อยู่ในเซตติ้งที่มีโอกาสจัดการเรื่องนี้ (และก็แน่นอน ไม่ใช่ทุกคนจะเข้าถึงบริการลักษณะนี้ได้)
เรารักษาโรคได้ดี (ด้วยค่าใช้จ่ายมากมาย) เราช่วยชีวิตคนได้ เรายืดอายุคนได้ แต่ภาระของโรงพยาบาล และสาธารณสุข หรือแม้แต่ภาระของตัวคนไข้ครอบครัวกลับเพิ่มขึ้น
อย่างหลายๆ เคส รวมถึงเคสนี้ จากเดิมก็ไม่ต้องมีคนคอยดูแล นี่ก็ต้องจ้างคนดูแล ครอบครัวอาจจะต้องสละเวลามาดูแลมากขึ้น กระทบหลายๆมิติ ไม่ว่าจะการงาน การเงิน อารมณ์/ความเครียด หรือแม้กระทั่งความสัมพันธ์ได้
สาธารณสุขพูดถึงการส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรคมานาน แต่เราไม่เคยจริงจังกับมันสักที สำหรับผมมันก็เหมือน "ภาวะโลกร้อน" กว่าเราจะขยับตัวทำอะไรได้ บางทีก็อาจจะไม่ทันการ
ซ้ำร้าย บางทีก็ยังส่งเสริมอะไรที่เห็นตำตาอยู่ว่ามันไม่ช่วย หรือว่ามันไม่พอ
อย่างเคสนี้ก็เป็นตัวอย่าง ว่าถ้าเราอายุยืนมากๆ แค่ "การขยับ" ไม่พอรักษาสมรรถภาพร่างกายและความสามารถในการช่วยเหลือตัวเองแน่ มันต้อง "ออกกำลังกาย" เป็นเรื่องราว เอาตัวชี้วัดสมรรถภาพมาชี้ชัดไปเลย
❓ตอนนี้สภาพร่างกายของสูงวัยส่วนใหญ่เป็นอย่างไร ?
ลองเอาข้อมูลเชิงบรรทัดฐาน (Normative Data) มากาง ผู้ชายวัย 60-69 ควรทำ Push up อย่างน้อยสัก 5 ที ส่วนผู้หญิง Knee Push Up ขอแค่สัก 2 ที ซึ่งผมการันตีได้เลยว่ามีไม่ถึง 5% (บางคนแค่ 30 ก็อาจจะตกเกณฑ์ของวัย 60 ไปแล้ว)
ถ้าเรายังปล่อยสภาพนี้ต่อไป ที่สังคมมีแต่จะมีผู้สูงวัยเพิ่ม คนป่วยเพิ่ม คนทำงานลดลง เศรษฐกิจถอยหลังลง
ใครจะเป็นคนแบกภาระนี้ ?

ทำไมปัจจุบันผู้หญิงจึงเป็นโรค PCOS (ถุงน้ำในรังไข่หลายใบ) กันมากขึ้น?PCOS (Polycystic O***y Syndrome) เป็นภาวะที่รังไข่ม...
03/06/2025

ทำไมปัจจุบันผู้หญิงจึงเป็นโรค PCOS (ถุงน้ำในรังไข่หลายใบ) กันมากขึ้น?
PCOS (Polycystic O***y Syndrome) เป็นภาวะที่รังไข่มีถุงน้ำเล็กๆ หลายใบ ส่งผลให้ฮอร์โมนไม่สมดุล ประจำเดือนผิดปกติ ไข่ไม่ตก และมีโอกาสมีบุตรยาก
สาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงเป็น PCOS มากขึ้นในปัจจุบัน
1. อาหารและโภชนาการที่เปลี่ยนไป
• อาหารที่มีน้ำตาลสูง แป้งขัดขาว และไขมันทรานส์มากขึ้น
• อาหารแปรรูปและฟาสต์ฟู้ดที่มีสารเคมีและฮอร์โมนปะปน
• การขาดสารอาหารที่จำเป็น เช่น วิตามิน D, โอเมก้า 3 และสังกะสี
2. ภาวะดื้ออินซูลิน (Insulin Resistance)
• น้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตสูงทำให้ร่างกายต้องผลิตอินซูลินมากขึ้น
• เมื่อร่างกายดื้อต่ออินซูลิน จะกระตุ้นให้รังไข่ผลิตฮอร์โมนเพศชายมากขึ้น ทำให้ไข่ไม่ตกและเกิดถุงน้ำในรังไข่
3. ความเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอ
• ความเครียดกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งคอร์ติซอล (ฮอร์โมนเครียด) ซึ่งไปรบกวนฮอร์โมนเพศ
• นอนไม่พอส่งผลต่อระบบเผาผลาญ ทำให้ฮอร์โมนแปรปรวน
4. สารเคมีและฮอร์โมนรบกวนในสิ่งแวดล้อม
• สาร BPA จากพลาสติก ยาฆ่าแมลง และฮอร์โมนที่ตกค้างในอาหาร
• เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีสารเคมีรบกวนฮอร์โมน
5. การออกกำลังกายน้อยลง
• ไลฟ์สไตล์ที่นั่งทำงานนานๆ ขาดการเคลื่อนไหว
• การออกกำลังกายน้อยทำให้ฮอร์โมนไม่สมดุลและไข่ไม่ตก
แนวทางแก้ไขและฟื้นฟูร่างกายจาก PCOS
• ปรับอาหารให้สมดุล ลดน้ำตาล แป้งขัดขาว อาหารแปรรูป และเน้นอาหารที่ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน เช่น ผักใบเขียว ถั่ว ไขมันดี (อะโวคาโด น้ำมันมะกอก)
• ปรับระดับอินซูลินและน้ำตาลในเลือด ลดของหวานและอาหารที่ทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งสูง และกินอาหารที่มีไฟเบอร์สูง เช่น ข้าวกล้อง ถั่ว ธัญพืช
• ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ควรออกกำลังกาย 3-5 ครั้ง/สัปดาห์ เช่น เดินเร็ว โยคะ เวทเทรนนิ่ง
• ลดความเครียดและนอนให้เพียงพอ ฝึกสมาธิ หายใจลึกๆ และทำกิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลาย นอนหลับให้ได้อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อคืน
• หลีกเลี่ยงสารเคมีที่รบกวนฮอร์โมน ใช้ขวดแก้วแทนขวดพลาสติก หลีกเลี่ยงพลาสติกที่โดนความร้อน และเลือกใช้เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ปลอดภัย
• เสริมสมุนไพรและสารอาหารที่ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน เช่น ฮับบาตุชเชาดะ น้ำมันเมล็ดองุ่น ที่อาจช่วยลดภาวะดื้ออินซูลินและปรับสมดุลฮอร์โมน
PCOS ไม่ใช่โรคที่รักษาไม่หาย หากปรับพฤติกรรม ดูแลอาหาร และออกกำลังกายอย่างเหมาะสม ร่างกายสามารถกลับมาสมดุลและไข่ตกเป็นปกติได้อีกครั้ง!
ฮัสบีย์คลินิกการแพทย์แผนไทยหาดใหญ่
ปรึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับท้องยาก

📣 ท้องยาก !! เพราะเป็น ซีสต์หรือ เนื้องอก รู้ไหมแตกต่างกันอย่างไร?ปัญหาของผู้หญิงเราที่เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์คงหนีไม...
03/06/2025

📣 ท้องยาก !! เพราะเป็น ซีสต์หรือ เนื้องอก รู้ไหมแตกต่างกันอย่างไร?
ปัญหาของผู้หญิงเราที่เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์คงหนีไม่พ้น #ซีสต์ กับ #เนื้องอก บางครั้งก็เกิดความสับสนว่าทั้งสองอย่างนี้เหมือนกันหรือปล่าว หรือแบบไหนร้ายแรงและอันตรายกว่ากัน เราไปหาคำตอบพร้อมกันเลยค่ะ
• ซีสต์ (Cyst) คือถุงน้ำที่เกิดขึ้นบนเนื้อเยื่อตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย มีลักษณะคล้ายถุงหรือเม็ดแคปซูลที่อยู่ติดกัน โดยภายในซีสต์มักบรรจุของเหลว ของแข็งกึ่งของเหลว หรืออากาศไว้ โดยมีทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ และมักค่อย ๆ ขึ้น ซีสต์ที่ขึ้นบนผิวหนังจะมีลักษณะนูน ส่วนซีสต์ที่ขึ้นใต้ผิวหนังอาจจะคลำได้เป็นก้อน และซีสต์ที่ขึ้นที่อวัยวะภายใน อาจไม่ปรากฏอาการใด ๆ ทำให้ผู้ป่วยไม่รู้สึกว่ามีซีสต์ขึ้นมาภายในร่างกายตัวเอง
นอกจากนี้ ซีสต์ที่ขึ้นตามร่างกายจะไม่ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเจ็บปวดและไม่ทำให้เกิดอาการรุนแรงหากซีสต์นั้นไม่ได้ติดเชื้อ มีขนาดใหญ่ หรือขึ้นในบริเวณที่ไวต่อความรู้สึกเนื่องจากซีสต์สามารถขึ้นได้ทุกส่วนของเนื้อเยื่อตามร่างกาย ซีสต์จึงมีกว่าร้อยชนิด
ซีสต์เจอได้บ่อยๆ ไม่มีอันตราย ส่วนใหญ่จะถือขนาดที่ต้องรักษาคือขนาด 5 ซ.ม. หากมีขนาดเล็กๆ ไม่ต้องไปทำอะไร เพียงแต่ตรวจติดตามดูขนาดเป็นระยะ
• สำหรับซีสต์ที่เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์ของเพศหญิงได้แก่
1. ถุงน้ำรังไข่ (Ovarian Cyst/Adnexal Cysts) คือ ของเหลวที่สะสมอยู่ภายในหรือบนพื้นผิวของรังไข่ โดยถุงน้ำรังไข่มีหลายประเภท ที่พบได้ทั่วไปคือถุงน้ำรังไข่ธรรมดา (Functional Cyst) ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ซีสต์ถุงน้ำที่รังไข่ (Follicle Cyst) และซีสต์ถุงน้ำคอร์ปัสลูเทียม (Corpus Luteum Cyst)
(1) ซีสต์ถุงน้ำที่รังไข่ (Follicle Cyst)
ช่วงที่ผู้หญิงเกิดรอบเดือนนั้น ไข่จะเจริญขึ้นในถุงน้ำซึ่งเรียกว่าฟอลลิเคิล โดยถุงน้ำนี้อยู่ภายในรังไข่ ส่วนใหญ่แล้ว ถุงน้ำจะแตกออกและปล่อยไข่ออกมา แต่หากถุงน้ำไม่แตกออกมา ของเหลวที่อยู่ภายในถุงน้ำจะก่อตัวเป็นซีสต์ภายในรังไข่
(2) ซีสต์ถุงน้ำคอร์ปัสลูเทียม (Corpus Luteum Cyst)
ปกติแล้ว ถุงน้ำมักละลายหลังจากที่ปล่อยไข่ออกมา แต่หากถุงน้ำไม่ละลายและถุงน้ำไม่เปิดออก จะเกิดการสะสมของเหลวภายในถุงน้ำ ก่อให้เกิดซีสต์ถุงน้ำคอร์ปัสลูเทียม
นอกจากนี้ยังมีถุงน้ำรังไข่ชนิดอื่นอีก ได่แก่
2. ถุงน้ำรังไข่เดอร์มอยด์ (Dermoid Cyst)
คือ ซีสต์ที่มีการเติบโตเหมือนถุงน้ำ โดยขึ้นที่รังไข่ ภายในซีสต์จะมีเส้นขน ไขมัน และเนื้อเยื่ออื่น ๆ
3. ถุงน้ำเนื้องอกซีสตาดีโนมา (Cystadenoma)
คือ ซีสต์ที่ไม่เจริญกลายเป็นมะเร็ง มักขึ้นที่เนื้อเยื่อรังไข่
4. เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriomas) หรือช็อกโกแลตซีส
คือ เซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกที่เจริญภายนอกมดลูกและเกาะติดตรงรังไข่ ทำให้กลายเป็นซีสต์ ช็อกโกแลตซีสต์ส่วนใหญ่มีขนาดเล็กและไม่ค่อยเป็นอันตราย ผู้ป่วยแต่ละคนจะมีอาการมากน้อยไม่เท่ากัน เริ่มตั้งแต่ไม่มีความผิดปกติใด ๆ แสดงอาการเพียงเล็กน้อย หรือรุนแรง เช่นปวดอุ้งเชิงกราน หรือปวดประจำเดือนมาก
ดังนั้นซีสต์ส่วนใหญ่ไม่เป็นอันตราย แต่ผู้หญิงบางคนที่เป็นถุงน้ำรังไข่หลายใบ (Polycystic O***y Syndrome) หรือ ช็อกโกแลตซีสต์ หรือ เดอมอยด์ซีสต์ หากปล่อยไว้ไม่ได้รับการรักษา
ภาวะดังกล่าวสามารถก่อให้เกิดภาวะมีบุตรยาก (Infertility) ตามมาได้
• เนื้องอก (Tumor) คือ เนื้อเยื่อที่มีการแบ่งตัวและเจริญเติบโตผิดปกติ ซึ่งอาจเป็นเพียงเนื้อเยื่องอกเพิ่มขึ้นมา หรืออาจหมายถึงเนื้อร้ายที่เป็นเซลล์มะเร็งก็ได้
สำหรับเนื้องอกที่เป็นภัยร้ายสำหรับผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ได้แก่ "เนื้องอกมดลูก"
เนื้องอกมดลูก เป็นเนื้องอกชนิดหนึ่งซึ่งพบได้บ่อยในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ เป็นเนื้องอกที่เกิดขึ้นที่ตัวมดลูกเป็นส่วนใหญ่ เป็นโรคหนึ่งที่พบได้บ่อยในระบบอวัยวะสืบพันธุ์สตรี ซึ่งจะพบได้ในช่วงอายุ 30 – 50 ปี โดยมากผู้หญิงที่มีเนื้องอกในกล้ามเนื้อมดลูกอาจมีอาการเหล่านี้
- มีอาการปวดประจำเดือนมากขึ้น
- บางทีไม่มีประจำเดือนแต่ก็รู้สึกปวดท้องคล้ายปวดประจำเดือนอยู่ตลอดเวลา
- อาการประจำเดือนมามากผิดปกติ
- ถ้าเนื้องอกมดลูกมีขนาดใหญ่ อาจจะไปกดทับกระเพาะปัสสาวะ ก็จะทำให้มีอาการปัสสาวะบ่อย
- ถ้าเนื้องอกมดลูกไปกดทับบริเวณลำไส้ตรง ก็อาจทำให้ท้องผูก
- บางรายก็จะมาด้วยอาการมีลูกยาก ซึ่งเนื้องอกมดลูกจะไปขัดขวางการฝังตัวของตัวอ่อน
- เนื้องอกมดลูกสามารถพัฒนากลายไปเป็นมะเร็งได้ อย่างไรก็ตามสามารถผ่าตัดโดยวิธีการส่องกล้องได้ค่ะ
แม่ๆทุกคนต้องหมั่นสังเกตความผิดปกติและตรวจภายในเป็นประจำทุกปีนะคะ ยิ่งวางแผนจะมีลูกต้องตรวจให้ละเอียดเพื่อจะได้รักษาได้ทันท่วงทีและมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ต่อไปอย่างปลอดภัยค่ะ

ใครยังไม่กินข้าว หรือกำลังกินข้าว ผ่านโพสต์นี้ไปก่อนนวันนี้จะมาเล่าเรื่องหนึ่งที่นิสาเคยเจอตกขาวกลิ่นแรง เหม็นมากนอกจากเ...
03/06/2025

ใครยังไม่กินข้าว หรือกำลังกินข้าว ผ่านโพสต์นี้ไปก่อนน
วันนี้จะมาเล่าเรื่องหนึ่งที่นิสาเคยเจอ
ตกขาวกลิ่นแรง เหม็นมาก
นอกจากเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย ยังมาจากเชื้อพยาธิช่องคลอดได้อีกนะ โดยอาจติดจากของที่ใช้ร่วมกับผู้ที่ติดเชื้อ(แต่น้อย)
ส่วนใหญ่มาจากการติดในการมีเพศสัมพันธ์
ผู้ชายที่มีเชื้อส่วนใหญ่มักจะไม่แสดงอาการใดๆเลยค่ะ
แต่ถ้าผู้หญิงติดเชื้อจะมีอาการหนักมาก เช่น แสบ คัน กลิ่นเหม็นเค็ม เหม็นเน่า ตกขาวสีเขียวเป็นฟอง
นิสาเคยเจอคนไข้คนหนึ่ง มาหาหลายครั้ง แก้ไขกันอยู่นาน
คนไข้มาหาด้วยอาการตกขาวหนัก เป็นทุกครั้งที่มี พสพ.กับแฟน
ไปหาหมอใช้ยาปฏิชีวะหลายรอบ ทั้งกินทั้งสอดหายก็กลับมาเป็นใหม่
ใส่ถุงยางก็แล้ว อะไรก็แล้ว ก็ยังเป็น
สืบไปสืบมา ผู้ชายเป็นริดซี่ด้วย
ทำให้ตอนมี พสพ.มีน้ำคัดหลั่งออกมา ติดค่ะ แม้ใส่ถุง
สุดท้าย คนไข้คนนั้นก็หายจากอาการนั้น
นิสาถามว่า หายได้ยังไง
คนไข้บอกว่า เปลี่ยนแฟนค่ะ เพราะผู้ชายเค้าไม่ให้ความร่วมมือในการไปตรวจรักษา
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ควรร่วมมือกัน
ไม่ใช่แค่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่ต้องเป็นผู้แบกรับไว้
ผู้หญิงรักษาหาย ผู้ชายมีเชื้อ ผู้หญิงก็ติดใหม่
ผู้ชายอาจปล่อยชิล เพราะตัวเองไม่ได้แสดงอาการอะไร
แต่ผู้หญิงที่ต้องรับศึกหนัก ทั้งความเจ็บปวด และความเสียหายพื้นผิวเยื่อบุช่องคลอด
ถ้าผู้หญิงมีการติดเชื้อบ่อยๆ โอกาสเสี่ยงอีกหลายโรคค่ะ
รักผู้หญิง อย่าลืมรักและดูแลช่องคลอดผู้หญิงด้วยนะคะ
ส่วนพวกเราสาวๆ ก็อย่าลืมดูแลตัวเองให้มาก
หากเลือกได้ เลือกคู่ที่เค้ารัก และพร้อมปรับ เพื่อให้กันและกันมีสุขภาพกายใจที่ดีค่ะ

🥗 แนะนำ! เมนูอาหารสำหรับคนท้อง ไตรมาส1🤰อาหารการกินมีเป็นส่วนสำคัญในการสร้างเสริมความแข็งแรงและการเจริญเติบโตให้กับลูกน้อ...
01/06/2025

🥗 แนะนำ! เมนูอาหารสำหรับคนท้อง ไตรมาส1
🤰อาหารการกินมีเป็นส่วนสำคัญในการสร้างเสริมความแข็งแรงและการเจริญเติบโตให้กับลูกน้อยและสุขภาพของคุณแม่
ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์จนถึงวันคลอดเลยน้า คุณแม่ควรเลือกอาหารที่มีประโยชน์และเหมาะกับความต้องของแต่ละไตรมาส
แอดมีเมนูอาหารสำหรับคนท้องไตรมาส 1 มาฝากไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีเมนูอะไรบ้าง👇

🎗️ มะเร็งปากมดลูก… โรคร้ายใกล้ตัว ภัยเงียบของผู้หญิงรู้หรือไม่? 📌 มากกว่า 99% ของผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูก มีสาเหตุจาก การติ...
01/06/2025

🎗️ มะเร็งปากมดลูก… โรคร้ายใกล้ตัว ภัยเงียบของผู้หญิง
รู้หรือไม่? 📌 มากกว่า 99% ของผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูก มีสาเหตุจาก การติดเชื้อไวรัส HPV (Human Papillomavirus) ซึ่งกำลังแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง
🔬 เชื้อ HPV ติดต่อได้ง่าย!
▪️ ผ่านการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน
▪️ ติดต่อได้แม้ไม่มีอาการ
▪️ บางรายเชื้ออยู่ในร่างกายนานนับปีโดยไม่รู้ตัว
💉 วิธีป้องกันมะเร็งปากมดลูกที่ดีที่สุด
✅ ฉีดวัคซีน HPV ตั้งแต่อายุ 9 ปีขึ้นไป
✅ ตรวจคัดกรอง Pap Smear / Thin Prep เป็นประจำ
✅ ตรวจหาเชื้อ HPV ร่วมด้วยในกลุ่มเสี่ยง

💥ตรวจภายใน ลดความเสี่ยง มะเร็งปากมดลูก“มะเร็งปากมดลูก” ภัยร้ายที่คุกคามสตรีทั่วโลก แนะหมั่นสังเกตความผิดปกติและตรวจคัดกร...
01/06/2025

💥ตรวจภายใน ลดความเสี่ยง มะเร็งปากมดลูก
“มะเร็งปากมดลูก” ภัยร้ายที่คุกคามสตรีทั่วโลก แนะหมั่นสังเกตความผิดปกติและตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอ สาเหตุหลักเกิดจากการติดเชื้อ HPV
การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกจึงเป็นกระบวนการที่ช่วยให้ตรวจพบเร็วและรับการรักษาได้อย่างทันท่วงทีตั้งแต่ก่อนจะเกิดมะเร็งระยะแรกๆ
การป้องกันมะเร็งปากมดลูก
🩺 ตรวจคัดกรองหาเชื้อ HPV สม่ำเสมอ
💉 ฉีดวัคซีนป้องกัน HPV ได้ โดยวัคซีนสามารถฉีดป้องกันได้ตั้งแต่อายุ 9 ปีขึ้นไป

ระวัง! พฤติกรรมแบบนี้ มะเร็งปากมดลูกชอบมากมะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับ 2 ซึ่ง น่ากลัวตรงที่ช่วงแรก ๆ เราไ...
01/06/2025

ระวัง! พฤติกรรมแบบนี้ มะเร็งปากมดลูกชอบมาก
มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับ 2 ซึ่ง น่ากลัวตรงที่ช่วงแรก ๆ เราไม่มีทางรู้เลยว่าเราเป็นอยู่ เพราะมันไม่แสดงอาการอะไรออกมาเลยทางเดียวที่ช่วยเราได้คือ ต้องสังเกตพฤติกรรมตัวเองและดูแลตัวเองให้ดี ถ้าคุณมีพฤติกรรมแบบนี้ ระวังไว้นะ โอกาสเสี่ยงสูงเลย
1. มีคู่นอนหลายคน
อันนี้ออกตัวก่อนนะว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของรสนิยม และผมก็ไม่ได้ว่าใครนะ การมีคู่นอนหลายคนเพิ่มความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ HPV ซึ่งเป็นตัวการหลักของมะเร็งปากมดลูกเลย เชื้อ HPV นี่แหละที่ป้องกันด้วยถุงยางก็เอาไม่อยู่ 100% เพราะงั้นถ้าลดความเสี่ยงได้ ก็ดีกับเราที่สุด
2. มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อย
ถ้าเริ่มเร็วเกินไป ก็เสี่ยงติดเชื้อ HPV ง่ายขึ้น เพราะร่างกายยังไม่มีภูมิคุ้มกันที่ดีพอ ทางที่ดี ถ้ายังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ ให้รีบไปฉีดวัคซีน HPV ก่อนเลย จะช่วยป้องกันได้ดีกว่าคนที่เคยมีเพศสัมพันธ์แล้ว สามารถฉีดได้ตั้งแต่ 9 ปี เลยนะ และฉีดได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงเลยนะ
3. ภูมิคุ้มกันไม่ค่อยดี
คนที่ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น คนป่วย HIV คนที่กินยากดภูมิ หรือเปลี่ยนอวัยวะ อันนี้ต้องระวังหนักมาก เพราะถ้าติดเชื้อ HPV แล้ว ร่างกายกำจัดเชื้อออกไปเองไม่ได้ เสี่ยงมะเร็งปากมดลูกสูงมาก
4. ไม่ฉีดวัคซีน ไม่ตรวจ HPV
ถ้าจะลดความเสี่ยงแบบจริงจังที่สุดคือ ต้องฉีดวัคซีน HPV เลยนะ ช่วยป้องกันได้ถึง 95% แถมตอนนี้ยังมีชุดตรวจ HPV ที่ตรวจเองได้ที่บ้านอีก คือสะดวกมาก ใครที่มีเพศสัมพันธ์แล้ว ควรตรวจ 3 หลังมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก หรืออายุ 25+ ควรตรวจทุก 3 ปี ป้องกันไว้ก่อนดีที่สุด
อย่าลืมนะ มะเร็งปากมดลูกป้องกันได้ ลองดูตัวเองว่ามีพฤติกรรมเสี่ยงพวกนี้มั้ย ถ้ามี แนะนำรีบตรวจหาเชื้อ HPV และฉีดวัคซีน นะครับ มะเร็งปากมดลูกป้องกันได้ถ้าทำ 2 อย่างนี้ ใครมีคำถามหรือสงสัยคอมเมนต์ได้เลยนะครับ

😰ปวดท้องน้อย เสี่ยงโรคอะไรได้บ้าง❓ใครเคยมีอาการเคยปวดท้องน้อยบ้างไหมคะ? หากไม่นับรวมการปวดท้องประจำเดือนที่สาวๆ คุ้นเคยก...
29/05/2025

😰ปวดท้องน้อย เสี่ยงโรคอะไรได้บ้าง❓
ใครเคยมีอาการเคยปวดท้องน้อยบ้างไหมคะ? หากไม่นับรวมการปวดท้องประจำเดือนที่สาวๆ คุ้นเคยกัน อาการเช่นนี้อาจเป็นสัญญาณของโรคบางอย่างก็เป็นได้ โดยมีทั้งสาเหตุที่อาจไม่รุนแรงมากและหายได้เอง แต่บางสาเหตุก็อาจรุนแรงและเป็นอันตรายถึงชีวิตหากไม่ได้รับการรักษา มาดูกันว่าอาการปวดท้องน้อยนั้นบ่งบอกอะไรกับเราได้บ้างค่ะ
1. ท้องผูก 🚽
ท้องผูกเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย เกิดจากการทำงานของระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายที่ไม่ปกติ สาเหตุหลักๆ มาจากการกินอาหารที่ไม่มีไฟเบอร์เพียงพอ ดื่มน้ำน้อย ใช้ยาบางชนิด ขาดการออกกำลังกาย หรือความเครียด อาการท้องผูกอาจทำให้คุณรู้สึกไม่สบายและปวดท้องน้อยเรื้อรัง
2. ลำไส้แปรปรวน 🌀
ลำไส้แปรปรวนหรือ IBS เป็นอีกหนึ่งโรคที่ทำให้ปวดท้องน้อยได้ อาจเกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อลำไส้ผิดปกติ การติดเชื้อ หรือความไม่สมดุลของเชื้อจุลินทรีย์ในลำไส้ อาการที่พบบ่อยได้แก่ ปวดเกร็งท้องน้อย ท้องอืด ท้องเสีย หรือท้องผูก
3. ไส้ติ่งอักเสบ 🚑
ไส้ติ่งอักเสบเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน อาการปวดมักเริ่มที่รอบสะดือแล้วเคลื่อนไปที่ด้านขวาล่างของท้อง มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย หรือมีไข้ต่ำ ๆ หากไม่รักษาอาจเสี่ยงต่อการไส้ติ่งแตก ซึ่งอันตรายถึงชีวิต
4. เยื่อบุช่องท้องอักเสบ 🦠
การอักเสบของเยื่อบุช่องท้องเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ทำให้ปวดท้องน้อยอย่างรุนแรง ท้องอืด มีไข้ คลื่นไส้ อาเจียน และรู้สึกอ่อนเพลีย หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษาอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
5. อุ้งเชิงกรานอักเสบ 🚻
ภาวะนี้เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียในอวัยวะสืบพันธุ์ เช่น มดลูก ท่อนำไข่ หรือรังไข่ สาเหตุหลักมาจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้รับการรักษา อาการปวดท้องน้อย เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ และตกขาวผิดปกติโดยเฉพาะสีเหลืองและสีเขียว ควรได้รับการรักษาเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ค่ะ
6. เนื้องอกมดลูก 🌸
เนื้องอกมดลูกเป็นกลุ่มเซลล์ที่เจริญเติบโตอย่างผิดปกติในมดลูก ส่วนใหญ่จะไม่กลายเป็นมะเร็ง แต่บางรายอาจมีอาการแน่นท้อง ปวดท้องน้อย ประจำเดือนมามากผิดปกติ ปัสสาวะบ่อย ท้องผูก และริดสีดวงทวาร ซึ่งขึ้นอยู่กับตำแหน่ง ขนาด และจำนวนของเนื้องอกมดลูกที่พบในผู้ป่วยแต่ละคน
7. ถุงน้ำในรังไข่ 💧
ถุงน้ำในรังไข่หรือซีสต์มักเกี่ยวข้องกับการมีประจำเดือนหรือปัญหาสุขภาพอื่นๆ บางครั้งไม่มีอาการ แต่เมื่อถุงน้ำมีขนาดใหญ่ขึ้นอาจทำให้มีอาการปวดแปลบหรือปวดตื้อบริเวณท้องน้อยหรือเชิงกรานข้างใดข้างหนึ่ง และมีอาการท้องอืด หากถุงน้ำแตกอาจส่งผลให้ปวดท้องน้อยอย่างเฉียบพลัน
8. เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ 🍂
เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่เป็นภาวะที่เยื่อบุผนังมดลูกเติบโตนอกโพรงมดลูก เช่น รังไข่ ท่อนำไข่ เนื้อเยื่อเชิงกราน กระเพาะปัสสาวะ หรือลำไส้ตรง ทำให้ปวดท้องน้อยช่วงก่อนหรือระหว่างมีประจำเดือน เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ เจ็บขณะขับถ่ายหรือปัสสาวะ มีเลือดออกระหว่างรอบประจำเดือน ประจำเดือนมามากผิดปกติ หรือมีปัญหามีบุตรยาก
9. การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ 🚰
การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียในระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น กระเพาะปัสสาวะ ท่อปัสสาวะ กรวยไต หรือไต ทำให้เจ็บหรือแสบร้อนขณะปัสสาวะ ปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ ปัสสาวะเป็นสีขุ่น ปัสสาวะปนเลือด และปวดท้องน้อย
10. ไส้เลื่อน ⚙️
ไส้เลื่อนเกิดจากลำไส้ส่วนหนึ่งเคลื่อนออกมาจากช่องท้องผ่านทางผนังหน้าท้องที่มีรูเปิดผิดปกติ หรือผนังช่องท้องที่อ่อนแอ ไส้เลื่อนมีหลายประเภท ประเภทที่พบบ่อยคือไส้เลื่อนที่ขาหนีบ ทำให้เกิดก้อนตุงและปวดหน่วงบริเวณที่เป็นไส้เลื่อน นอกจากนี้ อาจมีอาการปวดหน่วงหรือปวดแปลบบริเวณที่เป็นไส้เลื่อนด้วย ต้องได้รับการผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหา
11. ต่อมลูกหมากอักเสบ 🔵
ต่อมลูกหมากอักเสบเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เล็ดลอดเข้าไปยังต่อมลูกหมากผ่านทางท่อปัสสาวะ ทำให้เกิดการอักเสบของต่อมลูกหมาก ส่งผลให้มีอาการปวดอวัยวะเพศและบริเวณโดยรอบ เช่น ท้องน้อย และขาหนีบ เจ็บแสบขณะปัสสาวะ ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะขุ่น หรือปัสสาวะเป็นเลือด
📌แนวทางดูแลตนเองเมื่อปวดท้องน้อย:
หากคุณมีอาการปวดท้องน้อยเพียงเล็กน้อย ก็สามารถดูแลตัวเองได้ด้วยการดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อป้องกันท้องผูก อาบน้ำอุ่นและประคบร้อน งดสูบบุหรี่ และรับประทานยาแก้ปวด เช่น ยาพาราเซตามอล และยาไอบูโพรเฟน หากอาการไม่ดีขึ้น ปวดรุนแรงขึ้น หรือมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น มีไข้ คลื่นไส้ อาเจียน ปัสสาวะลำบาก ปัสสาวะมีกลิ่นเหม็นหรือมีเลือดปน ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจและรักษาทันทีค่ะ
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยให้คุณเข้าใจถึงสาเหตุและการดูแลอาการปวดท้องน้อยได้อย่างถูกต้องนะคะ 💖

ที่อยู่

Phra Nakhon

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Dr Sunisa Thajaiผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

ประเภท