Joelcann.shop

27/01/2023

สารแอนโทไซยานินช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดหลังอาหารได้อย่างไร

ปัจจุบันมีการศึกษาวิจัยค้นพบทางการแพทย์แล้วว่า สารแอนโทไซยานินที่พบมากในผลไม้ตระกูลเบอรี่มีคุณสมบัติทางการแพทยืที่ช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ เพราะว่า

สารแอนโทไซยานินเข้าไปออกฤทธิ์ในกระบวนการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ดังนี้

1. สารแอนโทไซยานินมีคุณสมบัติยับยั้งเอนไซม์แอลฟ่า-อะไมเลส (alpha-amylase inhibitor) บริเวณช่องปาก ซึ่งเอนไซม์นี้ปกติจะทำหน้าที่ในการย่อยแป้งหรือข้าวที่เรากินเข้าไปให้เปลี่ยนเป็นสารโมเลกุลที่เล็ก ซึ่งจะกลายเป็นน้ำตาลต่อไป

2. สารแอนโทไซยานิน มีคุณสมบัติในการยับยั้งเอนไซม์แอลฟ่า-อะไมเลส (alpha-amylase inhibitor) และ เอนไซม์แอลฟ่า-กลูโคซิเดส (alpha-glucosidase inhibitor) ซึ่งจะเปลี่ยนแป้งหรือข้าวที่เรากินให้เป็นน้ำตาล เพื่อดูดซึมเข้าสู่เลือด

3. สารแอนโทไซยานิน มีคุณสมบัติในการป้องกันหรือขัดขวางช่องทางการลำเลียงน้ำตาลเข้าสู่เลือด ผ่านช่องทางที่เรียกว่า Glucose transporter type 1 (GLUT1) จึงทำให้ช่วยลดการนำน้ำตาลเข้าสู่เลือดได้

4. สารแอนโทไซยานิน มีคุณสมบัติในการป้องกันหรือขัดขวางช่องทางการลำเลียงน้ำตาลเข้าสู่เลือด ผ่านช่องทางที่เรียกว่า Glucose transporter type 2 (GLUT2) จึงทำให้ช่วยลดการนำน้ำตาลเข้าสู่เลือดได้

5. สารแอนโทไซยานิน มีคุณสมบัติในการป้องกันหรือขัดขวางช่องทางการลำเลียงน้ำตาลเข้าสู่เลือด ผ่านช่องทางที่เรียกว่า Sodium dependent glucose transporter 1 (SGLT1) จึงช่วยลดการนำเข้าน้ำตาลกลูโคสเข้าสู่ร่างกาย

ซึ่งจากข้อมูลที่ทำการศึกษาจึงมีการนำสารแอนโทไซยานินมาใช้ในทางการแพทย์มากยิ่งขึ้น เพื่อดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่ต้องการดูแลระดับน้ำตาลในเลือด หรือ ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ได้ซักที

และนอกจากนี้ผลไม้ตระกูลเบอรี่ ยังเป็นผลไม้ที่เป็นที่นิยมรับประทานในผู้ป่วยที่มีปัญหาในการควบคุมระดับน้ำตาล เพราะอุดมไปด้วยสารแอนโทไซยานิน นั่นเอง

แต่ถ้าไม่สะดวกหรือสามารถรับประทานผลไม้ตระกูลเบอรี่ได้เป็นประจำ ก็สามารถเลือกใช้ในผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปต่างๆ เช่น ผลิตภัณฑ์ตามภาพประกอบ เป็นต้น

ซึ่งอุดมไปด้วยผลไม้ตระกูลเบอรี่ และ สารออกฤทธิ์ทีมีคุณสมบัติในการช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

สอบถามเพื่อขอคำแนะนำในการดูแลตัวเองได้ครับ หรือ สั่งซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้ครับ
สอบถามราคาพิเศษโปรโมชั่นได้เลยครับ ก่อนหมดเขต

อย่าปล่อยให้น้ำตาลเกินควบคุม เพราะนั่นหมายถึง โรคแทรกซ้อนที่เบาหวานจะทำลายร่างกาย กำลังรุนแรงขึ้นเรื่อยไป เช่น ตา สมอง หัวใจ เส้นประสาท ไต เป็นต้น

27/01/2023

เรสเวราทรอล กับงานวิจัยที่พบว่าช่วยดูแลสุขภาพที่เกี่ยวกับโรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง ได้ 6 โรค

ปัจจุบันการศึกษาวิจัยถึงสรรพคุณของสารเรสเวราทรอลพบถึงประโยชน์ทางการแพทย์มากยิ่งขึ้น ไม่เพียงแค่ในระบบหัวใจและหลอดเลือดเท่านั้น

แต่ยังพบถึงสรรพคุณในการช่วยรักษาผู้ป่วยที่ป่วยเกี่ยวกับการแพ้ระบบภูมิคุ้มกันตัวเอง หรือ ระบบภูมิคุ้มกันที่ทำงานมากกว่าปกติ

ซึ่งในทางการแพทย์ เรียกโรคเหล่านี้ว่า Autoimmune Disease

และในภาพประกอบจะพบว่า

สารเรสเวราทรอล เข้าไปยับยั้งหรือแก้ไขกลไกของระบบภูมิคุ้มกัน หรือ ความผิดปกติของเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดต่างๆ ที่นำไปสู่การกระตุ้นให้เกิดโรคทั้ง 6 โรค ได้แก่

1. โรคเบาหวานชนิดที่ 1 (Type 1 Diabetes)

2. โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis)

3. โรครูมาตอยด์ (Rheumatoid arthritis)

4. โรคลำไส้อักเสบ ชนิด IBD (Inflammatory bowel disease) (IBD)

5. โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ชนิด ALS (Amyotrophic Lateral Sclerosis) (ALS)

6. โรคพุ่มพวง หรือ SLE หรือ โรคเอสแอลอี (Systemiclupus erythematosus)

ดังนั้น ผู้ป่วยโรคดังกล่าว ถ้ากำลังหาตัวช่วยในการช่วยรักษาหรือควบคุมอาการของโรคที่กำลังเป็นอยู่ สารเรสเวราทรอล จึงเป็นสารอาหารที่มีคุณสมบัติทางยา ที่มีการศึกษาวิจัยค้นพบ

และ สามารถอธิบายได้อย่างชัดเจน ในการเข้าไปช่วยให้โรคหรืออาการของโรคถูกยับยั้งหรือบรรเทาผ่านกลไกต่างๆ ตามภาพประกอบ

อย่าปล่อยให้โรคเหล่านี้เรื้อรัง เพราะการแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง เปรียบเสมือนระเบิดเวลาที่มันสามารถลุกลามไปทำลายทุกๆอวัยวะต่างๆของร่างกายได้ ไม่ต่างจากโรคมะเร็ง นั่นเอง

สั่งซื้อสารเรสเวราทรอล เพื่อช่วยผู้ป่วยในการร่วมดูแลสุขภาพเกี่ยวกับโรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง ทั้ง 6 โรคดังกล่าวได้ สั่งซื้อได้เลยที่เพจนี้ หรือ ที่ไลน์ Pharmalogger

27/01/2023

เสี่ยงเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด หาอะไรบำรุงดี ที่เหมาะสม?

ระบบหลอดเลือด เปรียบเสมือนท่อน้ำ ที่คอยส่งน้ำไปหล่อเลี้ยงยังสถานที่ต่างๆ ดังนั้น ถ้าท่อน้ำเกิดการชำรุดเสียหาย รั่ว เกิดสนิม ย่อมทำให้เกิดปัญหาต่อการใช้น้ำปลายทางได้

แต่ท่อน้ำชำรุด แตก เกิดสนิม หรือ อุดตัน เราสามารถซ่อมแซ่ม แก้ไข เปลี่ยนท่อน้ำได้แบบสบายๆ แต่ถ้าเป็นเส้นเลือด แค่อุดตันไม่ถึง นาที ก็ทำให้ตายได้ ต่างจาก ท่อน้ำ

ดังนั้น ผู้ที่มีความเสี่ยง หรือ มีปัญหาเกี่ยวกับระบบหลอดเลือด เช่น

โรคเบาหวาน

โรคความดันโลหิตสูง

ภาวะไขมันในเลือดสูง

ชอบทานอาหารหวาน

ชอบทานน้ำอัดลม

ชอบทานเหล้า เบียร์

สูบบุหรี่เป็นประจำ

หรือ แม้แต่ผู้ที่มีประวัติ ญาติสายตรงเสียชีวิตด้วยโรคหลอดเลือดหัวใจ

คนเหล่านี้ นอกจากต้องดูแล หรือ รักษาตามแนวทางการแพทย์แล้ว การเลือกรับประทานสารอาหารที่มีการศึกษาว่า มีคุณสมบัติว่าช่วยดูแล ระบบหลอดเลือด ก็สำคัญไม่น้อยกว่ากันด้วย

จากภาพประกอบ จะพบว่า

สารแอนโทไซยานิน สามารถดูแลและปกป้อง ระบบหลอดเลือดได้ในทุกๆขั้นตอน ของการจะนำไปสู่การทำให้หลอดเลือดเกิดการชำรุดเสียหาย จนนำไปสู่การตีบ แตก ตัน นั่นเอง

โดยทุกๆ ขั้นตอน ตั้งแต่ 1 -12 กลไกในรูปภาพประกอบเราจะเห็นว่า

สารแอนโทไซยานิน จึงเป็นหนึ่งสารอาหารที่เหมาะสม สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงดังกล่าวข้างต้น ที่จะเกิดโรคระบบหลอดเลือดของหัวใจเกิดขึ้น นั่นเอง

การเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ เปรียบเสมือน ท่อน้ำที่แตก หรือ ตัน แต่ ต่างกันตรงที่ ถ้าท่อน้ำแตกหรือตัน เรามีเวลาเป็นวัน เป็นชั่วโมง ในการซ่อมหรือเปลี่ยนได้

แต่ถ้าหลอดเลือด แค่ช้าเพียงเสี้ยววินาที นั่นหมายถึงว่า ชีวิตนี้ได้ตายไปแล้ว นั่นเอง

และที่สำคัญ หลายครั้ง เราไม่มีทางรู้ว่า หลอดเลือดเรา ชำรุด หรือ ไม่ชำรุด แต่ที่แน่ๆ เรารู้ว่า เราเสี่ยง และ ต้องควรทานสารอาหารที่เหมาะสมอย่าง สารแอนโทไซยานินไว้ดูแลหลอดเลือดอย่างสม่ำเสมอ นั่นเอง

สนใจสารอาหารที่อุดมไปด้วยสารแอนโทไซยานิน ทักสอบถามได้ครับ หรือ ที่ไลน์ Pharmalogger ครับ

หลอดเลือดก็เหมือนอวัยวะอื่นๆ เราดูแลบำรุงให้แข็งแรงได้ ถ้าเราเข้าใจและใส่ใจ

27/01/2023

น้ำตาลในเลือดสูง ทำลายหลอดเลือดได้อย่างไร?

ผู้ป่วยโรคเบาหวาน มักจะมีหลอดเลือดที่ถูกทำลายจากการที่มีระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งหลายท่านอาจจะคิดว่า ไขมัน คือ ตัวการร้ายที่ทำลายเส้นเลือดให้ตีบแตกตัน แต่ความจริง

น้ำตาลที่อยู่ในหลอดเลือด นั่นอันตรายกว่ามากๆ เพราะไขมัน เมื่อไรก็ตามที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเป็นไขมันที่คุ้มคลั่ง (oxidize LDL) ก็แทบจะไม่ทำลายหลอดเลือดเลย

แต่สำหรับน้ำตาลแล้ว ถ้าปล่อยให้ค้างอยู่ในหลอดเลือดที่สูงกว่าระดับที่มาตรฐานนานๆ รับรองว่า เส้นเลือดพังแน่ๆ

ตามรูปภาพประกอบ จากการศึกษาวิจัย พบกลไกการทำลายหลอดเลือด โดยเฉพาะในผู้ป่วยโรคเบาหวาน ที่สำคัญ ดังนี้

หลอดเลือดทั้งเล็กและใหญ่ที่มีน้ำตาลกลูโคสสูงสัมผัสอยู่เป็นระยะเวลานาน จะทำให้น้ำตาลเกิดปฎิกิริยากับหลอดเลือด

ซึ่งปฏิกิริยานั้น เรียกว่า Advanced Glycation End Product หรือ AGE ตามรูปภาพประกอบ
และผลของปฏิกิริยานี้ จะทำให้น้ำตาลกับโปรตีนเกิดปฏิกิริยากันเกิดเป็นของเสีย แล้วสามารถทำลายทุกๆเนื้อเยื่อได้ เช่น ผิวหนังที่แก่ เหี่ยวย่น

แต่ในกรณีนี้ คือการทำลายหลอดเลือด ซึ่งหมายถึง ทุกๆหลอดเลือดถูกทำลายได้หมด
ถ้ายังปล่อยให้น้ำตาลในเลือดสูง โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเบาหวานที่คุมน้ำตาลไม่ได้

ฉะนั้น โรคเบาหวาน จึงไม่ใช่แค่โรคที่ต้องควบคุมน้ำตาลให้ได้เท่านั้น แต่ต้องเป็นการป้องกันและยับยั้งการเกิดการทำลายหลอดเลือดด้วย นั่นเอง

สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน หรือ แม้แต่คนที่ชอบทานอาหารหวานๆ ชานมไข่มุก ขนมหวาน เค้ก น้ำหวาน น้ำอัดลม

ควรเริ่มดูแลเส้นเลือดในทุกๆวัน และจงมองว่า หลอดเลือดก็เหมือนร่างกาย หรือ ผิวพรรรที่ต้องการสารอาหารไปบำรุงและชำระสารพิษที่เกิดขึ้นในทุกๆวันเช่นกันครับ

สั่งซื้อสารแอนโทไซยานินและสารเรสเวราทรอลในการป้องกันหลอดเลือดไม่ให้ถูกน้ำตาลทำลายได้เลยครับ

ทักสั่งซื้อได้ที่เพจนี้ หรือที่ไลน์ Pharmalogger ได้เลยครับ

27/01/2023

อืดท้อง แน่นท้อง รักษาแบบโรคกระเพาะอาหารแล้วก็ไม่หาย อาจกลายเป็นมะเร็งตับได้

อาการอืดท้อง แน่นท้อง ของหลายคนอาจเป็เพียงแค่การเจ็บป่วยเพียงเล็กน้อย ที่เป็นแค่โรคกระเพาะอาหาร กินยาหรือปรับอาหารการกิน ก็อาจดีขึ้นและหาย

แต่สำหรับหลายๆคน กินยาก็แล้ว ปรับการทานอาหารก็แล้ว ก็ยังมีอาการอืดท้อง แน่นท้อง อาหารไม่ย่อย วนไปวนมา ยาเกี่ยวกับโรคกระเพาะอาหาร ก็หมดไปหลายขวด หลายแผง ก็ยังไม่ดีขึ้นหรืออาการหายไป

นั่นเป็นเพราะ

อาการอืดท้อง แน่นท้อง เหล่านี้ เป็นสัญญานเตือนล่วงหน้าแบบกลายๆที่กำลังส่งลางร้ายบอกว่า ตับกำลังจะเจอเข้ากับเซลล์มะเร็ง

ดังนั้น ผู้ที่มีอาการอืดท้อง แน่นท้อง อาหารไม่ย่อย กินอะไรเข้าไปนิดหน่อยก็อืด ก็แน่น โดยเฉพาะ อาหารพวกเนื้อสัตว์ ให้คิดไว้ว่า อาจหมายถึง ตับที่ผิดปกติ และส่งผลร้ายถึง การเป็นมะเร็งตับ ในช่วงแรก ก็ได้

การเลือกดูแลสุขภาพ และ รักษษอาการเหล่านี้ จึงต้องอย่าชะล่าใจ ควรดูแลตั้งแต่เนิ่นๆ ที่มีอาการเหล่านี้เกิดขึ้น

และ แน่นอน หลายท่านเลือกดูแลสุขภาพของตัวเองก่อนด้วยการเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ ปรับอาหารที่รับประทาน รวมทั้ง การเลือกสารอาหารที่พบในพืชสมุนไพร หรือ ผักผลไม้ ที่มีสรรพคุณในการบำรุงดูแลตับ

ซึ่งหนึ่งในสารอาหารที่มีสรรพคุณในการดูแลเซลล์ตับ รวมทั้ง มะเร็งตับ ที่มีการศึกษาทางการแพทย์ ก็คือ สารสกัด EGCG ที่พบในชาเขียว หรือชื่อเต็มว่า Epigallocatechin-3-gallate

จากภาพประกอบ เราจะพบว่า สาร EGCG มีคุณสมบัติในการช่วยป้องกันและรักษาเซลล์มะเร็งที่ตับได้ ตั้งแต่

การเริ่มเกิดขึ้นของเซลล์มะเร็งที่ตับ การเพิ่มจำนวนของเซลล์มะเร็งที่ตับ รวมทั้ง การกระจายตัวของเซลล์มะเร็งที่ตับไปยังอวัยวะอื่นๆ ผ่านกลไกการออกฤทธิ์ต่างๆ ในร่างกาย ตามประกอบ

สารสกัด EGCG จึงเป็นที่นิยมหรือหนึ่งในทางเลือก ของการดูแลเซลลืตับ สำหรับผู้ที่มีอาการอืดท้อง แน่นท้อง อาหารไม่ย่อย ที่รักษษแบบโรคกระเพาะอาหารแล้วก็ไม่หาย

รวมทั้งผู้ที่มีความเสี่ยงการเกิดโรคตับ เช่น ดื่มเบียร์ ดื่มแอลกอฮอร์ เป็นประจำ ชอบรับประทานอาหารสุกๆดิบๆ ผู้ที่มีประวัติญาติป่วยด้วยมะเร็งตับ รวมทั้งผู้ที่ป่วยด้วยไวรัสตับอักเสบ นั่นเอง

ดังนั้น อาการอืดท้อง แน่นท้อง อาหารไม่ย่อย จึงไม่ใช่ แค่เกี่ยวกับกระเพาะอาหาร หรือ ลำไส้ เท่านั้น จึงต้องดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม

หรือ ถ้าท่านไหนสนใจ สูตรสารอาหารที่มีสารสกัด EGCG ไปดูแลสุขภาพ สามารถทักสอบถามและเล่าอาการที่เป็นให้ฟังได้ ที่ข้อความ.ในเพจนี้ หรือ ที่ไลน์ Pharmalogger ครับ

ทักสอบถามได้เลยครับ

21/01/2023

07/01/2023

กัญชา ออกฤทธิ์ที่ไหนบ้างในร่างกาย

หลายคนสอบถามผมมาว่า โรคนั้นโรคนี้ นอกจากมะเร็งแล้ว กัญชา ช่วยโรคอะไรได้บ้าง

ก็ถ้าว่ากันเข้าใจง่ายๆ ไม่ต้องคำศัพท์แพทย์มากมาย ก็ตามรูปภาพประกอบครับ

กัญชา ออกฤทธิ์ ในระบบ Endocannabinoid ซึ่งเป็นระบบใหญ่ในร่างกายที่พึ่งมีการค้นพบ และอาจนำไปสู่การล้มล้างทฤษฎีเก่าๆทางการแพทย์

คุณอาจกินกัญชาเม็ดเดียว แล้วโรคหลายๆอย่างดีขึ้น โดยไม่ต้องแบกกระสอบยาอีกต่อไป

นี่ละคือ สิ่งที่วงการแพทย์และวิทยาศาสตร์ตื่นเต้นกันมาก

แต่ก็นั่นละ มันก็กระทบกับอุตสาหกรรมธุรกิจยาเคมีเช่นกัน

ไม่ใช่แค่เมืองไทย ในต่างประเทศก็มีบุคลากรการแพทย์แบ่งเป็น 2 ฝ่ายเช่นกัน ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย

แต่สำหรับผม ก็ในเมื่อข้อเท็จจริงมันจะมีประโยชน์ต่อผู้ป่วยหรือคนทั่วไปในการป้องกันโรค แล้วจะกลัวการนำมาใช้ทำไม

เราคงไม่กลัวมีด จนไม่กล้าหยิบมาหั่นเนื้ออร่อยๆเข้าปากหรอกนะ

กัญชา มีประโยชน์มากกว่าโทษ เราต้องส่งเสริมให้มีการนำไปใช้ให้เกิดคุณมากกว่าโทษ

ให้ไปอยู่ในมือคนที่เห็นประโยชน์ต่อคนในประเทศชาติ ไม่งั้นก็เหมือนเอาประเทศชาติไปอยู่ในมือคนบริหารไม่เป็นแบบปัจจุบันนี่ละ

มันก็จะเละตุ้มเปะ เละตุ้มเปะ

More Science Less Marketing

ภก.พงษ์ศักดิ์ สง่าศรี

07/01/2023