Sexygrandmom

10/08/2021

เทคนิคฝึกลูกกินผัก

เมื่อลูกอายุ 6 เดือนก็ถึงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่จะเริ่มฝึกให้ลูกกินอาหารทดแทนนม โดยในช่วงแรก ควรเริ่มจากให้ลูกกินอาหารที่ทำให้แพ้ได้น้อย เช่น ข้าวครูดหรือข้าวตุ๋น แต่เมื่อลูกกินข้าวตุ๋นได้แล้ว ขั้นต่อไปก็ฝึกให้กินผักและผลไม้สด ซึ่งบ่อยครั้งมักเริ่มจากการกินกล้วยน้ำว้าครูด เพราะเป็นผลไม้ที่หาได้ง่าย ราคาไม่แพง (แม้ว่าในยุคปี พ.ศ. 2559 จะประสบปัญหากล้วยมีผลผลิตน้อยและราคาแพง) แต่ก็มีหลายความเห็นแนะนำว่าควรเริ่มฝึกจากผักก่อน เพราะผลไม้มักมีรสหวานและอาจทำให้ลูกปฏิเสธผักที่มีรสชาติสู้ผลไม้ไม่ได้

- ผักประเภทแรกๆ ที่ฝึกให้เด็กกิน ควรเป็นผักที่มีรสหวาน (ของผัก) คือ ผักชนิดที่กินหัว หรือราก เช่น มันฝรั่ง แครอต มันเทศ ซึ่งเวลานำผักกลุ่มนี้มาบดให้ลูกกิน ก็มีเนื้อละเอียดกินง่าย
- จากนั้นจึงเริ่มฝึกให้กินผักประเภทที่ 2 คือ ฟักทอง ฟักเขียว น้ำเต้า แตงกวา
- แล้วค่อยเริ่มผักใบที่รสชาติดี กินง่าย เช่น ตำลึง ผักบุ้ง หรือผักใบเขียวอื่นๆ
เทคนิคฝึกลูกกินผัก
ควรเตรียมอาหารเองทุกครั้ง เพื่อให้ลูกได้กินอาหารที่มีรสชาติอร่อย ในขณะเดียวกันยังได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ ไม่ควรปรุงอาหารครั้งละมากๆ แล้วนำมาป้อนลูกภายหลังหรือป้อนด้วยอาหารสำเร็จรูป
1. ควรเลือกผักตามฤดูกาลมาประกอบอาหารให้ลูก เพื่อให้ผักมีรสชาติดีและมีสารอาหาร
2. ควรล้างและขัดถูผักให้สะอาด ปอกเปลือก แกะเมล็ด แล้วจึงบดให้ลูกกิน
4. อาจปรุงผักด้วยการนึ่ง ต้ม หรือย่าง และอาจทำน้ำผักเพื่อเติมลงในอาหารบดสำหรับทารก
5. ซื้อผักที่มีสีแตกต่างกัน เพื่อให้ลูกได้รับสารอาหารหลากหลายและครบถ้วน
6. ป้อนลูกด้วยอาหารที่มีรสชาติและผิว
อ่านเพิ่เมเติมที่ https://new.camri.go.th/infographic/174
#แกรนด์มัมวาไรตี้

สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ ความสุขของเด็ก ความสุขของครอบครัว คือความสุขของเรา

08/08/2021

30 เมนูอาหารคีโตแบบประหยัด ทำเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน ลดน้ำหนักได้ ไม่ต้องจ่ายแพง

อยากกินคีโต แต่ติดที่ราคาแพงซะเหลือเกิน ไม่ต้องกังวลค่ะ เพราะวันนี้เรามีไอเดีย เมนูคีโตแบบประหยัด ทำเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน มาฝากสายคีโต (ketogenic Diet) ที่อยากประหยัดเงินในกระเป๋ากันแล้ว!

หลายๆ คนอาจจะเข้าใจว่าอาหารคีโตนั้นราคาสูง ซึ่งจริงๆ แล้วที่ราคาสูงนั้นเป็นเพราะเครื่องปรุงซะส่วนใหญ่ค่ะ และโดยส่วนใหญ่เมนูขนมมักจะแพงกว่าเมนูอาหารปกติ ซึ่่งหากเราลดการใส่เครื่องปรุงได้ ก็จะช่วยประหยัดค่าวัตถุดิบไปได้เยอะทีเดียวค่ะ เพราะวัตถุดิบในการทำอาหารคีโตนั้นก็ไม่ได้สูงเกินไปเมื่อเทียบกับอาหารทั่วไปหรืออาหารคลีน ฉะนั้นหากลดการใส่เครื่องปรุงได้ ก็จะช่วยประหยัดเงิน ทั้งยังช่วยให้การลดน้ำหนักเห็นผลเร็วขึ้นกว่าเดิมอีกด้วยนะ!

เครื่องปรุงคีโตที่จำเป็น
สารแทนความหวาน : น้ำตาลอิริทริทอล, น้ำตาลหล่อฮั่งก๊วย, หญ้าหวาน
น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น
น้ำมันมะกอก
เกลือหิมาลายัน
น้ำปลาแท้
หากอยากให้การลดน้ำหนักได้ผลเร็ว แค่ใส่เครื่องปรุงน้อยๆ ก็ช่วยได้นะคะ อาหารคีโตส่วนมากแนะนำให้ปรุงอาหารด้วยเกลือชมพู และน้ำปลาแท้ก็พอ!



เมนูคีโตแบบประหยัด ช่วยลดน้ำหนักดี!


สำหรับเมนูบางเมนูที่เรานำมาฝาก ก็กินง่ายๆ คู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดคีโตเลยค่ะ ซึ่งใครที่ยังไม่รู้จะทำน้ำจิ้มยังไง ก็ทำตามสูตรนี้ได้เลย!

สูตรน้ำจิ้มซีฟู้ดคีโต

อ่านเพิ่มเติมที่ https://women.trueid.net/detail/1gkodZLnAGpg

#แกรนด์มัมวาไรตี้

     อยากกินคีโต แต่ติดที่ราคาแพงซะเหลือเกิน ไม่ต้องกังวลค่ะ เพราะวันนี้เรามีไอเดีย เมนูคีโตแบบประหยั...

06/08/2021

ลูกขาดความมั่นในตนเอง มักจะมีอาการไม่กล้าเผชิญกับสิ่งแปลกๆ ใหม่ๆ หรือทำสิ่งใดๆ ที่ท้าทาย เพราะกลัวความล้มเหลวหรือกลัวทำให้คนอื่นผิดหวัง สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวถ่วงในการประสบความสำเร็จในอนาคตของลูกต่อไป

เมื่อลูกเป็นเด็กไม่มีความมั่นใจ ไม่มีความนับถือในตัวเอง พ่อแม่หลายคนคงไม่อยากเห็นลูกเป็นเช่นนั้นแน่นอน เมื่อคุณเห็นว่าลูกขาดความเชื่อมั่น คุณต้องหาวิธีดึงความเชื่อมั่นในตัวเองของลูกออกมาให้ได้ โดยใช้วิธีการต่างๆเหล่านี้

วิธีช่วยทำให้ลูกเป็นเด็กที่มีความมั่นใจในตัวเอง
1. รับรู้ความรู้สึกของลูก
หากลูกของคุณเหมือนมีปัญหาอะไรในใจ คุณควรพร้อมจะรับรู้และพร้อมแชร์ความรู้สึกนั้นๆกับลูกด้วยค่ะ

2. ช่วยเปิดความคิดความเชื่อมั่นให้กับลูก
เด็กบางคนอาจจะมีความเชื่อมั่นบางอย่างที่เป็นสิ่งที่ไม่ควร หรือไม่สามารถทำให้เป็นไปตามนั้นได้ คุณควรเปิดความคิด หรือ ช่วยสร้างความเชื่อมั่นแบบใหม่ให้ลูกเดินไปในทางที่ดีขึ้นได้

3. ห้ามเปรียบเทียบเด็ดขาด
การเปรียบเทียบความดีของเด็กแต่ละคนเป็นเรื่องเลวร้ายมาก เด็กจะขาดความเชื่อมั่นและการนับถือตัวเองทันที

4. สอนลูกคิดบวก
พยายามสอนความคิดเชิงบวกให้ลูก ถ้าลูกเชื่อมั่นว่าลูกสามารถเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่างให้ดีขึ้นได้ หรือ เชื่อว่าตัวลูกสามารถช่วยเหลือคนอื่นได้ ก็จะทำให้ลูกมีความเชื่อมั่นในตัวเองได้ค่ะ

5. กล่าวคำชื่นชม
อ่านเพิ่มเติมที่ https://new.camri.go.th/infographic/196
#แกรนด์มัมวาไรตี้

สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ ความสุขของเด็ก ความสุขของครอบครัว คือความสุขของเรา

04/08/2021

สูตรสเปรย์เลมอน ฉบับDIY บำรุงเส้นผมให้ดูเงางาม ลดปัญหารังแค

สำหรับสาว ๆ หรือหนุ่ม ๆ คนไหนที่กำลังประสบกับปัญหาเส้นผมแลดูแห้งกร้าน แลดูขาดชีวิตชีวาไม่เงาดังเคย ทั้งยังมีปัญหารังแคกวนใจ บทความนี้ Hello คุณหมอ จึงมี สูตรสเปรย์เลมอน ที่ทุกคนสามารถทำใช้ได้เองง่าย ๆ มาฝากกันค่ะ นอกจากจะทำให้คุณประหยัดทรัพย์ในกระเป๋าแล้ว ยังเป็นการบำรุงเส้นผมที่คุณสามารถทำเองได้อย่างสะดวกปลอดภัยอีกด้วย

ประโยชน์ของการใช้ สเปรย์เลมอน บำรุงเส้นผม
นอกเหนือจากการนำมาเพิ่มรสชาติของอาหาร หรือเครื่องดื่มแล้ว เลมอนยังมีคุณสมบัติที่ค่อนข้างเพียงพอในการนำมาบำรุงเส้นผมของเรา ในด้านของการเพิ่มความเงางาม ลดความมัน และกำจัดรังแคบนหนังศีรษะของเราได้อีกด้วย

เป็นที่ทราบกันดีว่าเลมอน มีกรดบางชนิด และวิตามินซีสูงอยู่ภายใน โดยเฉพาะกรดซิตริก (Citric acid) นี้ ที่มีบทบาทหน้าที่ในการช่วยดูดซึมน้ำมันส่วนเกินบนหนังศีรษะของคุณที่มากเกินไปได้ พร้อมทั้งยังอาจสามารถแก้ไขปัญหาในเรื่องของรังแค และบรรเทาอาการหนังศีรษะอักเสบ เพื่อให้เส้นผมของคุณดูมีสุขภาพที่ดีขึ้น

ที่สำคัญยังอาจทำให้เส้นผม ปลายผมของคุณดูเงางาม ลดอาการผมแตกปลาย แห้งเสีย ยิ่งคุณเผชิญกับแสงแดดเมื่อไรแล้วละก็ ยิ่งอาจทำให้เส้นผมของคุณเงางามน่ามองมากขึ้นกว่าเดิมเลยทีเดียว

สูตรสเปรย์เลมอน
คุณสามารถเปลี่ยนน้ำเลมอนธรรมดา ให้กลายเป็นสเปรย์เลมอนบำรุงผมได้ด้วยขั้นตอนการทำง่าย ๆ ดังนี้

ส่วนผสมในการทำ สเปรย์เลมอน
เลมอน 1 ลูก
น้ำมันหอมระเหย (กลิ่นตามความชอบ)
น้ำเปล่าสะอาด 2 ถ้วย
แอลกอฮอล์ที่ทำมาจากเมล็ดพันธุ์พืช เช่น เมล็ดข้าว 2-3 ช้อนโต๊ะ
ขั้นตอนการทำสเปรย์เลมอน
1. คั้นน้ำเลมอนผสมกับน้ำสะอาด 2 ถ้วย แล้วนำไปอุ่นด้วยไฟปานกลาง จนปริมาณน้ำระเหยออก หรือลดลงครึ่งหนึ่งจากปริมาณเดิม

อ่านเพิ่มเติมที่ https://women.trueid.net/detail/6L07G1oe5jlP
#แกรนด์มัมวาไรตี้

สำหรับสาว ๆ หรือหนุ่ม ๆ คนไหนที่กำลังประสบกับปัญหาเส้นผมแลดูแห้งกร้าน แลดูขาดชีวิตชีวาไม่เงาดังเคย ทั้งย...

01/08/2021

10 ท่าออกกำลังกายลดต้นขา บอกลาขาใหญ่ กระชับต้นขา เบิร์นไขมัน

ใครที่มีขาใหญ่ ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ ได้เวลาบอกลาขาใหญ่ ด้วย 10 ท่าออกกำลังกายลดต้นขาที่เราเอามาฝากวันนี้กันเลยค่ะ เรียกได้ว่าท่าเหล่านี้เป็นท่าที่จะช่วยเผาผลาญไขมันบริเวณต้าขาได้ดี ช่วยกระชับขา ทำให้ขาดูเล็กลง อยากมีขาเล็กก็มีได้ ไม่ยากอีกต่อไป ด้วยท่าออกกำลังกาย 10 ท่านี้เลยค่ะ!

อ่านเพิ่มเติมที่ https://women.trueid.net/detail/r5oqMNGxqDYy
#แกรนด์มัมวาไรตี้

     ใครที่มีขาใหญ่ ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ ได้เวลาบอกลาขาใหญ่ ด้วย 10 ท่าออกกำลังกายลดต้นขาที่เราเอามาฝาก...

29/07/2021

7 วิธีดูแลสุขภาพจิต หลังเผชิญภาวะความโศกเศร้า
1. ยอมรับความจริง
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจว่าเหตุการณ์โศกเศร้าที่เผชิญอยู่เป็นความจริง เกิดขึ้นจริง ๆ และไม่ควรปิดกั้นการแสดงออกถึงความรู้สึกเศร้าโศก ทว่าก็ควรแสดงออกอย่างเหมาะสม พร้อมทั้งควรพูดคุยกับคนรอบข้าง เพื่อสร้างกำลังใจและแรงจูงใจซึ่งกันและกัน ประคับประคองความรู้สึกให้ผ่านพ้นความเศร้าไปให้ได้

2. อยู่อย่างมีสติ
จงดำเนินชีวิตอยู่ด้วยความมีสติ หมั่นสังเกตปฏิกิริยาทางจิตใจและพฤติกรรมของตัวเองและคนรอบข้างให้ดี หากมีอาการคิดวนเวียน วิตกกังวล ไม่อยากพบเจอใคร หมกมุ่นกับความคิดของตัวเอง นอนไม่หลับ ฝันร้าย หรือมีพฤติกรรมแปลก ๆ เช่น เริ่มพูดพึมพำกับตัวเอง เห็นภาพหลอน หูแว่ว หรือมีความคิดว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่ ควรรีบมาพบจิตแพทย์

3. ระบายความรู้สึกออกมาบ้าง
การได้ระบายความเศร้าโศกเสียใจหรือความรู้สึกหม่น ๆ ในใจให้กับคนรอบข้างและคนใกล้ชิดบ้างจะช่วยให้ความรู้สึกเศร้าผ่อนคลายลงบ้างไม่มากก็น้อย นอกจากนี้การได้ปรับทุกข์ซึ่งกันและกันยังจะช่วยให้ต่างฝ่ายต่างเยียวยาจิตใจซึ่งกันและกันด้วยความเข้าอกเข้าใจอีกด้วย

4. พาตัวเองออกจากสิ่งที่ทำให้รู้สึกเศร้า

อ่านเพิ่มเติมที่ https://new.camri.go.th/infographic/173
#แกรนด์มัมวาไรตี้

สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ ความสุขของเด็ก ความสุขของครอบครัว คือความสุขของเรา

27/07/2021

6 วิธีดูแลใจ เด็ก วัยรุ่น ครอบครัว ในสถานการณ์ COVID-19 สำหรับบุคลากรสาธารณสุข

#แกรนด์มัมวาไรตี้

25/07/2021

เจาะลึก 7 แบบแหวนเพชร แหวนแต่งงานสุดฮิต เลือกอย่างไรให้ตรงใจ
ผู้หญิงยุคใหม่รักอิสระ มองหาคนข้างกายที่เคมีตรงกัน ถ้าไม่คลิกก็ยังไม่ตกลงปลงใจ นี่ละมังที่ทำให้สาวๆ เป็นโสดมากขึ้น อยากทำอะไรก็ทำเอง และถ้าอยากมีแหวนเพชรสักวง ก็ให้รางวัลตัวเองด้วยการซื้อใส่เอง ไม่ต้องชะเง้อรอให้ชายหนุ่มซื้อให้

Mind Set เรื่องการซื้อแหวนเพชรใส่เองดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติของสาวยุคนี้ไปแล้ว ไม่มีใครซื้อให้ไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าแหวนมีมากมายหลายแบบ จะเลือกแบบไหนดี ยิ่งได้ยินคำศัพท์แปลกๆ เกี่ยวกับการฝังเพชร ยิ่งงงเข้าไปใหญ่

บทความจาก ร้านเพชรอโบฟไดมอนด์ (ABOVE DIAMOND) ตอนนี้ก็เลยจะมาไขข้อข้องใจให้สาวๆ รู้ชัดๆ ว่าแหวนเพชรแบบไหนที่เป็นที่นิยมกัน แต่ละแบบมีหน้าตาเป็นอย่างไร มีข้อดีข้อเสียอย่างไร มาเริ่มกันเลยดีกว่า

อ่านเพิ่มเติมที่ https://women.trueid.net/detail/3mxbadapEZR6
#แกรนด์มัมวาไรตี้

     ผู้หญิงยุคใหม่รักอิสระ มองหาคนข้างกายที่เคมีตรงกัน ถ้าไม่คลิกก็ยังไม่ตกลงปลงใจ นี่ละมังที่ทำให้....

23/07/2021

3 วิธีรักษาเส้นเลือดขอด ทำได้ด้วยตัวเองแบบง่ายๆ ไม่ต้องพึ่งยา

เส้นเลือดขอด คือ ภาวะที่มีการทำงานบกพร่องเรื้อรังที่เส้นเลือดดำ ทำให้เส้นเลือดดำสูญเสียความยืดหยุ่นและลิ้นที่กั้นเพื่อไม่ให้เลือดไหลย้อนกลับมีการทำงานผิดปกติ ซึ่งหากลิ้นที่กั้นเลือดทำงานผิดปกติแล้วก็จะส่งผลให้เส้นเลือดมีการขยายตัว ปูดโปนขึ้นจนกลายเป็นเส้นเลือดขอดตามมา

สำหรับปัญหาเส้นเลือดขอดนอกจากจะทำให้ผิวบริเวณที่เป็นมีลักษณะไม่สวยงามแล้ว อาจจะทำให้เรามีความรู้สึกปวดเมื่อยที่บริเวณนั้นๆ ได้ด้วย เช่น หากเป็นเส้นเลือดขอดที่บริเวณขา ก็อาจจะส่งผลให้รู้สึกปวดเมื่อย อ่อนล้า บวม และเมื่อปล่อยไปนานๆ อาจจะทำให้เกิดการอักเสบที่บริเวณเส้นเลือดดำ ทำให้เส้นเลือดดำเป็นแผลค่ะ

สาเหตุของโรคเส้นเลือดขอด
เส้นเลือดขอดเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุทั้งมาจาก

1. กรรมพันธุ์

2. อายุที่มากขึ้นจึงทำให้ความยืดหยุ่นในเส้นเลือดมีน้อยลง

3. หญิงตั้งครรภ์หรือหญิงที่มีการทานยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมก็มีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคเส้นเลือดขอดได้

4. นั่งท่าเดิมนานๆ ยืนหรือเดินนานๆ อาชีพที่ต้องใส่ส้นสูงแล้วต้องยืนหรือเดินทั้งวัน ก็ส่งผลให้เกิดโรคเส้นเลือดขอดได้

5. ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน ทำให้ระบบไหลเวียนเลือดในร่างกายไม่ค่อยดี

6. ผู้ที่สูบบุหรี่



3 วิธีรักษาเส้นเลือดขอดด้วยตัวเองแบบง่ายๆ


1. ปรับพฤติกรรม
สำหรับคนที่น้ำหนักเกินก็พยายามลดน้ำหนัก ส่วนคนที่มีปัญหาเส้นเลือดขอดจากการยืนนานๆ เดินทั้งวันหรือนั่งทั้งวัน ก็แนะนำให้เปลี่ยนท่าทางบ้าง หากนั่งทั้งวันก็ให้ลุกขึ้นมาเดินไปเดินมาบ้าง ส่วนคนที่ต้องเดินหรือยืนนานๆ ก็ให้หาเวลานั่งพักบ้าง พยายามเลี่ยงการใส่ส้นสูงที่สูงจนเกินไปก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเส้นเลือดขอดได้



2. บริหารร่างกาย
ยกขาหรือเท้าขึ้นสูงอย่างน้อยให้เท่ากับระดับของหัวใจ ค้างไว้ 30 นาที วันละ 4 ครั้ง แต่สำหรับคนที่ไม่มีเวลาก็ให้ทำตอนก่อนนอนก็ได้ค่ะ วิธีนี้ก็จะช่วยลดบวมได้ด้วย โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์ที่มีอาการขาบวมเท้าบวมค่ะ

3. ใส่ถุงน่องทางการแพทย์
ถุงน่องทางการแพทย์หรือถุงน่องประคองหลอดเลือดดำ ถุงน่องชนิดนี้จะช่วยลดความดันของหลอดเลือดดำที่ขา ลดการไหลย้อนของเลือด และช่วยเพิ่มความสมดุลของหลอดเลือดค่ะ โดยก่อนที่จะใส่ถุงน่องชนิดนี้ เราจะต้องไปพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ประเมินก่อน
อ่านเพิ่มเติมที่
https://women.trueid.net/detail/dZNwb9xjwkD8x
#แกรนด์มัมวาไรตี้

ติดตามเรื่องราวสำหรับผู้หญิง สุขภาพ ออกกำลังกาย ลดน้ำหนัก ความงาม เครื่องสำอาง ทรงผม สไตล์การแต่งตัว ความ....

21/07/2021

พ่อแม่ดูแลใจตนเองอย่างไร เมื่อลูกถูกทำร้าย

อ่านเพิ่มเติมที่ https://new.camri.go.th/infographic/225

#แกรนด์มัมวาไรตี้

สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ ความสุขของเด็ก ความสุขของครอบครัว คือความสุขของเรา

20/07/2021

เช็ก 10 ข้อ คุณเป็นคน "ไม่พอใจในตัวเอง" หรือเปล่า?

ทำอย่างไร หากเราเป็นหนึ่งในคนที่ไม่เคยพอใจในตัวเองเลย ส่งผลต่อสุขภาพของเรามากน้อยแค่ไหน
ผศ. พญ.ทานตะวัน อวิรุทธ์วรกุล ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า การรู้สึกไม่ค่อยดีกับตนเอง ไม่ชอบตนเอง ไม่ค่อยภูมิใจในตนเอง ขาดความเชื่อมั่น ความศรัทธา ไม่เห็นคุณค่าหรือเคารพตนเองเลย นับเป็นลักษณะของผู้ที่มีภาวะ “ความพึงพอใจในตนเองต่ำ” ซึ่งจะสามารถแสดงออกได้หลายรูปแบบ

ความรู้สึก “ไม่พอใจในตัวเอง” และผลกระทบต่อสุขภาพ
ผู้ที่ไม่พอใจในตัวเอง หรือมีความพึงพอใจในตัวเองต่ำ (low self-esteem) อาจส่งผลให้

มีปัญหาในความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง เก็บความรู้สึกแย่ๆ ของตัวเองเอาไว้ จนอาจมีปัญหาร้ายแรงตามมาในภายหลัง
เก็บตัว หลีกเลี่ยงการมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น
ไม่ชอบตัวเอง ดูถูกตัวเอง สุขภาพจิตย่ำแย่
กลัวการเริ่มต้นใหม่ ขาดความสามารถในการเริ่มอะไรใหม่ๆ
ไม่กล้าตัดสินใจ กลัวพลาด
อดดันตัวเองและคนรอบข้างให้มีความสมบูรณ์แบบอยู่ตลอดเวลา
เสี่ยงมีพฤติกรรมที่ทำร้ายตัวเอง เช่น ติดยาเสพติด ติดแอลกอฮอล์ มีความผิดปกติในการรับประทานอาหาร บางรายอาจคิดทำร้ายตัวเองได้
เช็ก 10 ข้อ คุณเป็นคน "ไม่พอใจในตัวเอง" หรือเปล่า?
1.อ่อนไหวกับคำพูด และคำวิจารณ์ของคนอื่นมากเกินไป ทนไม่ได้กับคำติ และวิจารณ์ในแง่ลบ จนแสดงอารมณ์โกรธ เสียใจ อาละวาดอย่างชัดเจน
2.เซนซิทีฟมาก จิตตกง่าย เสียใจง่ายกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ
3.กลัวการเข้าสังคม มองโลกในแง่ร้าย กลัวการถูกปฏิเสธจนไม่กล้าคุย หรือเข้าหาใคร หรืออาจะเป็นไปในทางตรงกันข้าม คือตั้งตัวเป็นศัตรูกับคนอื่น
4.เรียกร้องความสนใจจากคนอื่นอยู่ตลอดเวลา เช็กเรตติ้ง/ความนิยมของตัวเองอยู่ตลอด
5.วิตกกังวล และกระวนกระวายใจง่าย ขากความเชื่อมั่นใจตัวเอง
6.ย้ำคิดย้ำทำมากเกินไป เพราะไม่มั่นใจ กลัวทำผิดพลาด
7.ไม่กล้าลงมือ หรือจัดการทำอะไรด้วยตัวเองคนเดียว เพราะกลัวทำพลาด
8.ชอบวางอำนาจ สั่งให้คนอื่นทำงานให้ เพื่อเพิ่มความรู้สึกที่สามารถข่มคนอื่น มีอำนาจเหนือคนอื่นเอาไว้
9.พยายามหาข้อแก้ตัว หรือหาเหตุผลเข้าข้างตัวเอง เพื่อไม่ให้คนอื่นเห็นข้อบกพร่องของตัวเอง
10.ไม่กล้าปฏิเสธคนอื่น เอาใจคนอื่นมากเกินไปจนลืมดูความรู้สึกของตัวเอง เพราะกลัวคนอื่นไม่รัก หรือไม่สามารถเข้าสังคมกับคนอื่นๆ ได้
หากเป็นคนไม่พอใจในตัวเอง ควรทำอย่างไร?
การเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเองไม่ใช่เรื่องยาก มีคำแนะนำให้ลองทำตามง่ายๆ ดังนี้

1.คิดกับตัวเองในแง่บวกมาขึ้น ไม่ดูถูกตัวเองจนเกินไป เมื่อทำพลาดอย่าโทษตัวเองมากเกินไป เสียใจแล้วตัดใจให้จบ เพื่อเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
2.มองหาข้อดี/จุดแข็งของตัวเอง หากคิดไม่ออกจริงๆ ให้ลองถามคนรอบข้าง
3.กล้าปฏิเสธคนอื่นบ้าง โดยเฉพาะในสิ่งที่ไม่ต้องการ เรื่องที่ไม่อยากพูด ไม่อยากทำจริงๆ
4.เพิ่มความสุขให้ตัวเอง ด้วยการมองหาสิ่งชอบ และหาเวลาทำสิ่งนั้นๆ
5.พูดคุยกับคนอื่น

อ่านเพิ่มhttps://www.sanook.com/health/28997/
#แกรนด์มัมวาไรตี้

ทำอย่างไร หากเราเป็นหนึ่งในคนที่ไม่เคยพอใจในตัวเองเลย ส่งผลต่อสุขภาพของเรามากน้อยแค่ไหน

18/07/2021

5 อาหารที่ทานแล้วหน้าเด็ก ... แก่ช้า หน้าใส ไม่มีใครกล้าเรียกว่าป้า !!

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดสำหรับผู้หญิงอย่างเรา นั่นก็คือริ้วรอย ผิวเหี่ยว หน้าแก่ก่อนวัย ถึงจะรู้อยู่แก่ใจว่าทุกอย่างจะต้องเปลี่ยนไปตามธรรมชาติ แต่ก็ขอยื้อเวลาไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะไม่มีผู้หญิงคนไหนที่อยากจะหน้าโทรมหน้าแก่ใช่มั้ยล่ะ

ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหันมาดูแลตัวเอง ด้วยการเลือกทานอาหารที่ดีกับสุขภาพและผิวพรรณ โดยเฉพาะอาหารที่ทานแล้วช่วยให้หน้าเด็ก ช่วยชะลอวัย ทำให้เรายังดูอ่อนเยาว์ เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้เราสามารถยื้อเวลาโดยไม่ต้องไปพึ่งโบท็อกซ์ได้แล้ว ซึ่งอาหารที่ช่วยให้หน้าเด็กแถมช่วยทำให้แก่ช้า มีดังนี้ค่ะ !!

5 อาหารช่วยชะลอวัยให้หน้าใสปิ๊ง


1. มะละกอ
มะละกอถือเป็นผลไม้ที่หาง่าย ช่วยขับถ่ายได้ดี ในมะละกอมีสารที่ชื่อว่าแคโรทีนอยด์ เป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ช่วยทำให้ผิวของเราสวยขึ้นและแข็งแรงขึ้น นอกนี้ในมะละกอยังมีสารไลโคปีนซึ่งสามารถช่วยบำรุงร่างกาย และช่วยบำรุงผิวได้อีกทางค่ะ



2. บล็อคโคลี่
บล็อคโคลี่ ถือว่าเป็นผักที่กินง่าย มีวิตามินสูงมากและมีโปรตีนด้วย แถมช่วยชะลอวัยได้อย่างยอดเยี่ยม เนื่องจากเป็นผักที่มีวิตามินซีและโปรตีนค่อนข้างเยอะ ซึ่งสารอาหารทั้ง 2 ชนิดนี้สามารถเข้าไปบำรุงผิวได้โดยตรง ดังนั้นการกินบล็อคโคลี่เป็นกระจำ จึงสามารถช่วยชะลอวัยและบำรุงผิวให้หน้าใส ผิวใสได้ค่ะ



3. ควินัว
อ่านเพิ่มเติมที่ https://women.trueid.net/detail/je59zb3klyae
#แกรนด์มัมวาไรตี้

     สิ่งที่น่ากลัวที่สุดสำหรับผู้หญิงอย่างเรา นั่นก็คือริ้วรอย ผิวเหี่ยว หน้าแก่ก่อนวัย ถึงจะรู้อยู่...

15/07/2021

สูตรลดน้ำหนักเร่งด่วน 2 สัปดาห์ด้วย ไข่ต้ม น้ำหนักลด แบบไม่ต้องอด!

เชื่อว่าสาวๆ หลายคน บางครั้งก็ต้องมีเหตุให้ ลดน้ำหนักเร่งด่วน ไหนจะงานแต่งเพื่อน ไหนจะปาร์ตี้ที่ออฟฟิศ อยากใส่ชุดให้สวยก็ต้องรีบเร่งลดน้ำหนักอย่างไว แต่การกินยาลดน้ำหนักหรือการอดอาหารไม่ใช่ทางออกที่ดีสักเท่าไหร่ค่ะสาวๆ เพราะนั่นไม่เพียงทำให้น้ำหนักลดอย่างอันตรายแล้ว ยังอาจเกิดโรคอื่นๆ ตามมาด้วย! ฉะนั้นวันนี้เราจึงมีสูตรลดน้ำหนักเร่งด่วน ที่จะช่วยให้สาวๆ ผอมทันใจใน 2 สัปดาห์ แบบที่ไม่อันตราย มาให้สาวๆ ได้ลองทำกันค่ะ ซึ่งสูตรนี้จะเน้นการกินไข่ต้มเป็นหลักค่ะ ใครอยากผอมเร็วผอมไว มาลองทำกันค่า

*แต่แนะนำว่าอย่าได้ใช้สูตรนี้นานเกินไปค่ะ แนะนำสำหรับสาวที่อยากลดแบบเร่งด่วนเท่านั้น!*


อ่านเพิ่มเติมที่ https://women.trueid.net/detail/lnNxnvpK7rl
#แกรนด์มัมวาไรตี้

     เชื่อว่าสาวๆ หลายคน บางครั้งก็ต้องมีเหตุให้ ลดน้ำหนักเร่งด่วน ไหนจะงานแต่งเพื่อน ไหนจะปาร์ตี้ที่.....

13/07/2021

พ่อแม่ดูแลใจตนเองอย่างไร เมื่อลูกถูกทำร้าย

อ่านเพิ่มเตืมที่ https://new.camri.go.th/infographic/225
#แกรนด์มัมวาไรตี้

สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ ความสุขของเด็ก ความสุขของครอบครัว คือความสุขของเรา

11/07/2021

แพ้ "นมวัว" กินอะไรแทนได้บ้าง?

อาการแพ้นม แบบเฉียบพลัน มักเกิดขึ้นหลังจากดื่มนมภายใน 15 นาที – 2 ชั่วโมง โดยมีอาการที่แตกต่างกันไป เช่น มีผื่นคัน ขึ้นตามผิวหนัง ลมพิษ ปากบวม ลิ้นบวม หายใจลำบาก ปวดท้อง หรืออาเจียน
ถ้ารู้ว่าตัวเองแพ้ ให้งดดื่มนมวัวและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมวัวทุกชนิดอย่างน้อย 3-6 เดือนถึง 1 ปี แล้วลองกลับมาดื่มอีกครั้ง
นมมีโปรตีนและแคลเซียมสูง หากต้องการรับประทานอาหารอื่นเพื่อทดแทนการดื่มนมควรเลือก อาหารที่มีโปรตีน เช่น ไข่ เนื้อสัตว์ หรือถั่วเมล็ดแห้ง หรืออาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น ปลาตัวเล็ก เต้าหู้ก้อน บรอกโคลี ผักกวางตุ้ง เป็นต้น
พญ. ธนิศา ขวัญบุญบำเพ็ญ กุมารแพทย์ด้านโภชนาการเด็ก โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช ศรีนครินทร์ ระบุว่า นมวัวเป็นแหล่งของโปรตีนและแคลเซียม มีประโยชน์กับคนทุกเพศ ทุกวัย แต่ก็พบว่าผู้บริโภคนมวัวบางกลุ่มจะมีอาการแพ้ ซึ่งสาเหตุหลักมักเป็นการแพ้โปรตีนจากนมวัว (cow’s milk allergy) ในปัจจุบันโรคแพ้นมวัวพบได้บ่อยและมีอาการแสดงหลากหลายรูปแบบ ซึ่งปฏิกิริยาในการแพ้นมวัวอาจเกิดจากกระบวนการทำงานของแอนติบอดี้ IgE mediated หรือ non IgE mediated หรืออาจเกิดจากทั้ง 2 อย่างร่วมกันได้ โดยสาเหตุอาจเกิดจากการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันตั้งแต่ในช่วงตั้งครรภ์ นอกจากนี้ยังพบโรคแพ้นมวัวได้บ่อยในช่วงวัยทารกอันอาจเกิดจากระบบการย่อยอาหารของทารกที่ยังไม่พัฒนาอย่างเต็มที่

ประวัติที่น่าสงสัยว่าแพ้นมวัว
1. มีโรคภูมิแพ้ของบุคคลในครอบครัว
2. มีอาการที่แสดงหลังจากเด็กดื่มนมวัว เช่น มีผื่นลมพิษ ปากบวมตาบวม ถ่ายมูกเลือด หายใจติดขัดดังครืดคราด หรือผื่นแพ้ผิวหนังที่มีอาการปานกลางถึงรุนแรง
3. มีประวัติว่าแม่ดื่มนมวัวในช่วง

อ่านเพิ่มเติมที่ https://www.sanook.com/health/28961/
#แกรนด์มัมวาไรตี้

นมมีประโยชน์ แต่ถ้าใครกินนมวัวไม่ได้ ก็มีทางเลือกอื่นๆ ให้ได้กินทดแทนกันได้

09/07/2021

4 สาเหตุที่อาจทำให้ "หลับๆ ตื่นๆ" ตอนกลางคืน

เชื่อว่าหลายคนที่กำลังนอนหลับพักผ่อนในตอนกลางคืน จะต้องเคยรู้สึกอารมณ์เสียกันบ้างแน่ๆ ถ้าอยู่ดีๆ ตัวเองจะต้องมาตื่นในกลางดึกทั้งๆ ที่ยังไม่เช้าด้วยซ้ำ ยิ่งใครที่นอนหลับยากๆ อยู่แล้ว และต้องมาตื่นกลางดึกแบบนี้ก็คงต้องกลับไปตั้งใจหลับใหม่ หรือไม่บางคนตื่นแล้วอาจจะต้องตื่นเลย เพราะจะให้นอนต่อก็คงจะนอนไม่หลับจนถึงเช้า หรือหลับต่อยาก

รู้ไหมว่าการที่มีอาการหลับๆ ตื่นๆ จะส่งผลให้เรานอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ รวมถึงเกิดผลเสียต่อสุขภาพได้อีกด้วย ทีม INN ได้หาสาเหตุเบื้องต้นที่ทำให้เรามีอาการหลับๆ ตื่นๆ หรือชอบตื่นกลางดึกบ่อยๆ มาฝากกัน

4 สาเหตุที่อาจทำให้ "หลับๆ ตื่นๆ " ตอนกลางคืน

ความเครียด
แน่นอนว่าความเครียดเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้มีอาการหลับๆ ตื่นๆ เพราะคุณอาจจะมีความกังวลต่างๆ ที่ทำให้เกิดความเครียดสะสมจนทำให้ร่างกายรู้สึกอ่อนล้าแบบไม่รู้ตัว นอกจากความเครียดแล้วยังรวมถึงความรู้สึกวิตกกังวลในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องงาน เพราะฉะนั้นอยากแนะนำให้ลดความกังวลในจิตใจให้ลดลง เมื่อความกังวลและความเครียดนั้นค่อยๆ จางลงไปจะทำให้คุณนอนหลับสนิทได้มากขึ้น

อาการเจ็บป่วย
เมื่อคุณไม่สบาย ปวดท้อง ปวดตามเนื้อตัว เป็นโรคเกี่ยวกับการนอนหลับ มีปัญหาเรื่องระบบการหายใจ มีอาการไอ หรือมีอาการเจ็บป่วยต่างๆ อยู่นั้น แน่นอนว่าอาการเหล่านี้สามารถไปรบกวนคุณตอนคุณหลับโดยที่คุณไม่รู้ตัว เพราะฉะนั้นอยากแนะนำให้ควรรีบหาวิธีแก้ไขหรือพบแพทย์เพื่อรักษา ไม่อย่างงั้นคุณก็จะต้องมาหลับๆ ตื่นๆ กลางคืนอยู่แบบนี้ ซึ่งมันไม่ดีต่อร่างกายของคุณแน่ๆ

สิ่งแวดล้อม
อ่านเพิ่มเติมที่ https://www.sanook.com/health/28569/

#แกรนด์มัมวาไรตี้

ใครที่กำลังประสบปัญหาหลับไม่สนิท หลับๆ ตื่นๆ ในตอนกลางคืน ลองเช็กดูว่ามีพฤติกรรม หรือมีสาเหตุมาจากสิ่งเ....

07/07/2021

3 วิธีเลือกเวย์โปรตีน เลือกอย่างไรให้ช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อ เร่งเผาผลาญ ลดน้ำหนักได้แบบปลอดภัย
เวย์โปรตีน คือโปรตีนชนิดหนึ่งที่ร่างกายของเราต้องการ ซึ่งร่างกายก็สามารถนำโปรตีนชนิดนี้ไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ รวมถึงยังสามารถลดน้ำหนักได้ด้วยค่ะ ซึ่งโปรตีนส่วนมากก็มีอยู่ในอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ซึ่งการกินเวย์โปรตีนก็สามารถช่วยเพิ่มในกรณีที่ร่างกายรับโปรตีนไม่เพียงพอได้เช่นกัน

แล้วโปรตีนสามารถช่วยลดน้ำหนักได้อย่างไร เนื่องจากโปรตีนเป็นส่วนสำคัญในการสร้างกล้ามเนื้อค่ะ โปรตีนมีส่วนช่วยลดน้ำหนักได้โดยจะเข้าไปเสริมกล้ามเนื้อ ทำให้ร่างกายเกิดการเร่งการเผาผลาญไขมัน โดยเฉพาะในกลุ่มของคนที่ออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง ยิ่งต้องการโปรตีนมากกว่าคนปกติเป็นพิเศษซึ่งการทานโปรตีนให้ได้ปริมาณที่ร่างกายเราต้องการต่อวัน ถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างลำบาก ดังนั้นเวย์โปรตีนก็เลยเป็นเหมือนทางเลือกนึง ที่จะมาช่วยเสริมโปรตีนให้กับร่างกายได้ วันนี้เราเลยจะมาแนะนำ 3 วิธีเลือกกินเวย์โปรตีน ว่าจะต้องเลือกกินอย่างไร ให้สามารถลดน้ำหนักได้ค่ะ

3 วิธีเลือกกินเวย์โปรตีนเพื่อลดน้ำหนัก


1. ดูที่ปริมาณโปรตีน
ในกลุ่มคนที่ต้องการลดน้ำหนัก อย่างแรกที่ควรดูก่อนที่จะเลือกเวย์โปรตีนสักยี่ห้อ นั่นก็คือปริมาณของโปรตีนในเวย์โปรตีนควรจะต้องมากพอ เพราะถ้ามีน้อย ร่างกายก็จะได้รับโปรตีนน้อยลงไปด้วยและทำให้การลดน้ำหนักของเราได้ผลน้อยตามไปด้วยค่ะ



2. เลือกแบบที่มีไขมันน้อย
เวย์โปรตีนที่มีปริมาณโปรตีนมากแต่ไขมันน้อยคือเวย์โปรตีนที่เราควรเลือกกินเพื่อการลดน้ำหนักค่ะ โดยให้เราเลือกเวย์โปรตีนแบบ Concentrate เวย์โปรตีน Isolate ซึ่งเวย์โปรตีนแบบนี้จะมีการตัดน้ำตาลและไขมันบางส่วนออกไปแล้วค่ะ



3. เลือกแบบที่มีกรดอะมิโนกลุ่ม BCCAs

อ่านพเื่มเติมที่ https://women.trueid.net/detail/EDeJp34e3eKx
#แกรนด์มัมวาไรตี้

     เวย์โปรตีน คือโปรตีนชนิดหนึ่งที่ร่างกายของเราต้องการ ซึ่งร่างกายก็สามารถนำโปรตีนชนิดนี้ไปซ่อมแ.....

06/07/2021

วิธีทำพิซซ่าปังแผ่น อร่อยบ้านๆ ด้วยขั้นตอนง่ายๆ

พิซซ่าหน้าอะไรอร่อยที่สุด คำตอบคือ หน้าที่เต็มไปด้วยของโปรดของเรานั่นเอง ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบพิซซ่าไส้กรอกและปูอัดพร้อมชีสบึ้มๆ เหมือนเรา เชิญตามมาทางนี้ เรามีวิธีทำพิซซ่าหน้าไส้กรอกแบบง่ายๆ อาศัยวัตถุดิบบ้านๆ อร่อยได้แบบไม่ต้องนวดแป้งเอง แค่หันมาใช้ขนมปังแผ่นที่หาซื้อได้จากร้านสะดวกซื้อ แถมซอสก็ง่ายสุดๆ จนอยากให้ลองทำดู จะทำง่ายแค่ไหนไปชมกัน

วัตถุดิบพิซซ่าปังแผ่น
ขนมปังแผ่น
ไส้กรอก/ปูอัด
มอสซาเรลลาชีส
ซอสมะเขือเทศ
ซอสหอยนางรม
ออริกาโน่
เนย

วิธีทำพิซซ่าปังแผ่น

อ่านเพิ่มเติมที่ https://www.sanook.com/women/177109/
#แกรนด์มัมวาไรตี้

มีวิธีทำพิซซ่าหน้าไส้กรอกแบบง่ายๆ อาศัยวัตถุดิบบ้านๆ อร่อยได้แบบไม่ต้องนวดแป้งเอง แค่หันมาใช้ขนมปังแผ่...

04/07/2021

5 สิ่งที่คุณควรทำเมื่อขาดแรงบันดาลใจ

คุณอาจจะพบเจอแรงบันดาลใจได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง อ่านหนังสือ ฟังเพลง หรือคุยกับใครสักคน แต่แรงบันดาลใจนั้นมันไม่ได้มาหาเราตลอดหรอกนะ บางครั้งคุณอาจจะรู้สึกว่าตอนนี้ไม่มีจิตใจจะทำอะไรเลย มันทำให้ชีวิตของคุณเชื่องช้าลงกว่าที่ควรจะเป็น เพราะแรงบันดาลใจนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ และก้าวไปข้างหน้าได้

ถ้าคุณรู้สึกว่าตัวเองกำลังขาดแรงบันดาลใจ เรามีวิธีง่ายๆ มาแนะนำคุณ สำหรับเรียกแรงบันดาลใจกลับมาอีกครั้ง

1. ทำสมาธิ
การทำสมาธินั้นมีผลต่อภาวะทางจิต มันช่วยให้เราสามารทบทวนอารมณ์ต่างๆ ได้ เช่นความโกรธ ความเกลียด หรือแม้แต่ความรัก ในทางจิตวิทยาแล้วมีการค้นพบว่าการทำสมาธิจะช่วยลดความวิตกกังวล และทำให้อารมณ์เรามั่นคงขึ้น

แม้ว่าการทำสมาธิจะไม่ได้เป็นบ่อเกิดของแรงบันดาลใจโดยตรง แต่มันจะช่วยให้ร่างกายและจิตใจของคุณพร้อม และแข็งแรง เพราะทุกวันนี้ผู้คนมักจะต้องเจอกับอาการทางจิตที่คอยรบกวนพวกเขาอยู่ตลอดเวลา และเมื่อต้องเจออะไรแบบนั้น มันก็ยากที่จะหาแรงบันดาลใจ

คุณสามารถเริ่มฝึกสมาธิได้เลยในทันที แม้ว่าคุณจะเป็นแค่ผู้เริ่มต้น แต่มันจะเห็นผลได้ทันตาเลยล่ะ คุณจะรู้สึกสงบและผ่อนคลายมากขึ้น และไม่แน่ว่าแรงบันดาลใจที่หายไปก็อาจจะกลับมาอีกครั้ง

2. หยุดใช้โซเชียลมีเดีย
หยุดการใช้โซเชียลมีเดียทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นในโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะให้ตัวคุณเองได้พักผ่อนบ้าง จำไว้ว่าเมื่อครั้งในอดีตที่ยังไม่มีโทรศัพท์มือถือ ผู้คนก็ยังมีวิธีการตั้งมากมายในการผ่อนคลาย หรือเล่นสนุก บางทีอาจจะเป็นการคุยกับเพื่อน หรือออกไปเดินเล่น

มีผลการวิจัยพบว่า คนที่ใช้อุปกรณ์เท่าที่จำเป็นนั้นสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทุกวันนี้สื่อดิจิตอลนั้นมีผลต่อเรามากเกินไป และส่วนมากก็จะเป็นในทางลบ การหยุดใช้มักสักพักจะช่วยให้คุณคิด หรือหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้น

3. ทำชีวิตให้ช้าลงบ้าง
ทุกวันนี้ เป็นเรื่องปกติไปแล้วที่ผู้คนมักจะเร่งรีบทำสิ่งต่างๆ ให้เสร็จ จนพวกเขาไม่มีเวลาให้ร่างกายกับสมองได้พักผ่อน ในทางสุขภาพแล้ว คนเราควรมีเวลาพักผ่อนจากงานที่เหมาะสม เพื่อเป็นการฟื้นฟูสมองนั่นเอง

เรามักจะคิดอะไรไม่ออกเวลาที่เหนื่อยล้ามากๆ และนั่นเป็นสัญญาณว่าคุณควรจะหยุดพักสักระยะหนึ่ง เราต้องตระหนักไว้เสมอว่าถ้าเราไม่ยอมพัก ร่างกายและจิตใจก็จะไม่มีเวลาในการฟื้นฟู และนั่นหมายความว่าเราจะไม่สามารถหาแรงบันดาลใจได้เลย

4. ปาฏิหาริย์แห่งดนตรี
ดนตรีนั้นมีผลทั้งต่อสมองและหัวใจ เพราะเวลาคุณฟังดนตรี โดยเฉพาะเพลงที่คุณชื่นชอบ มันจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณผ่อนคลาย

อ่านเพิ่มเติมที่ https://sumrej.com/5-things-you-must-do-when-you-lack-inspiration-3-2020-2/

#แกรนด์มัมวาไรตี้

คุณอาจจะพบเจอแรงบันดาลใจได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน ไม่ว่า […]

02/07/2021

ลูกทะเลาะกัน กับ วิธีจัดการปัญหาเมื่อลูกทะเลาะกัน
ลูกทะเลาะกัน บ้านที่มีลูกมากกว่าหนึ่งคน มักเจอปัญหาลูกๆทะเลาะกัน เช่น งอนกัน โกรธเคือง มีปากมีเสียงกัน หรือมากกว่านั้นคือลงมือตีกันและใช้คำหยาบคายต่อกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวลใจไม่น้อยเลยที่เดียว วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับดีๆ เพื่อเป็นแนวทางในการเลี้ยงดูลูกที่ไม่เพียงช่วยให้ลูกได้เรียนรู้ทักษะทางสังคมและฝึกฝนให้ลูกรู้วิธีในการจัดการตัวเองเมื่อเจอกับปัญหาความขัดแย้ง แต่ยังช่วยให้คุณไม่ต้องทนกับการทะเลาะหรือโต้เถียงกันเองของลูก ๆ ได้อีกด้วย

1. ตั้งกฎ “ไม่ทะเลาะกัน”
ซึ่งเป็นหนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุด และคุณสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการเลี้ยงลูกได้โดยการตั้งกฎพื้นฐานสำหรับการประพฤติตัวของลูก คุณรู้จักกฎ “ปฏิบัติต่อคนอื่นเช่นเดียวกับที่คุณอยากให้คนอื่นปฏิบัติต่อคุณ” หรือไม่ คุณสามารถที่จะตั้งกฎของคุณที่คล้ายกับกฎต่าง ๆ

2. ให้ความสนใจพวกเขา (ไม่ใช่ในขณะที่พวกเขากำลังทะเลาะกัน)
เด็กที่รู้สึกถึงความรัก การดูแล และความเอาใจใส่ที่เพียงพอจากพ่อแม่นั้นมักจะทะเลาะกันน้อยกว่า ไม่ว่าจะอยู่ในรถหรืออยู่ที่บ้าน คุณก็ควรให้ความสนใจพวกเขาอยู่เสมอ ก็อย่างที่รู้กันว่าเด็กทะเลาะกันเพื่อเรียกร้องความสนใจจากคุณ (ถึงแม้ว่าคุณอาจไม่ให้พวกเขา) หากคุณมีลูกมากกว่าหนึ่งคน คุณควรเป็นหนึ่งใน “แก๊งค์” ของพวกเขา และแบ่งเวลาเพื่อเล่นเป็นเพื่อนลูกโดยไม่ได้ทำตัวเป็นพ่อหรือแม่สักพัก และมันอาจจะดีกว่าด้วยหากคุณสามารถที่จะให้เวลาและความใส่ใจกับลูกแต่ละคน บอกรักเขาเสมอ กอดเขาให้มากเท่าที่คุณมีโอกาส

3. สอนให้ลูกสื่อสารได้อย่างเหมาะสม
จงจำไว้ว่าความขัดแย้งเกิดขึ้นจากขาดการสื่อสารที่เหมาะสม หรือขาดการสื่อสารกัน การสื่อสารกันได้อย่างเหมาะสมเป็นคุณสมบัติของผู้นำที่ดี แม้กระทั่งในหมู่เด็กด้วยกัน เขาจะแสดงความเป็นตัวเขาเอง เด็กสามารถโน้มน้าวและชักจูงพี่หรือน้องให้ออกจากสถานการณ์ความขัดแย้งได้ การที่เขาไม่สามารถแสดงความเป็นตัวเองออกมาได้จะทำให้เขาเกิดความหงุดหงิดและทะเลาะกับคนอื่นได้

4. สอนให้เด็กรู้จักเห็นใจคนอื่น
การสอนนี้เป็นการสอนให้ลูกคุณมี “ความรู้สึก” เมื่อลูกพูดว่า “หนูเกลียดพี่” คุณควรอธิบายให้เขาฟังว่าการเกลียดนั้นแตกต่างจาก “ความโกรธ” คุณอาจบอกลูกว่า “ลูกไม่ได้เกลียดพี่หรอก ลูกรักพี่ แต่ลูกแค่โกรธพี่ที่เขาแย่งของเล่นลูกเท่านั้นเอง” นี่เป็นวิธีการแสดงออกถึงความเห็นอกเห็นใจในความรู้สึกของลูกน้อย ลูกจะรู้สึกขอบคุณที่คุณเข้าใจว่าเขารู้สึกอย่างไร และนี่จะกลายเป็นพื้นฐานในการพัฒนาความเห็นอกเห็นใจของลูกที่มีต่อคนอื่น

คุณอาจอธิบายให้ลูกฟังว่าเด็กคนอื่นรู้สึกอย่างไร “แม่คิดว่าเขาคงรู้สึกแย่มากแน่ ๆ เลย เพราะเขาร้องไห้ด้วย มันคงจะดีถ้ามีใครปลอบใจเขา” และหากลูกคุณสามารถที่จะปลอบใจคนอื่นได้ นั่นแสดงว่าเขาสามารถหยุดคิดทบทวนได้เมื่อเขารู้สึกว่าอยากจะทำร้ายคนอื่น

5. อย่าเข้าไปยุ่ง

อ่านเพิ่มเติมที่ https://new.camri.go.th/infographic/141

#แกรนด์มัมวาไรตี้

สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ ความสุขของเด็ก ความสุขของครอบครัว คือความสุขของเรา

30/06/2021

รู้ทันและเตรียมพร้อม “ก่อนฉีด” วัคซีน “COVID-19” พร้อมเผยประสิทธิภาพและผลข้างเคียง

อ่านเพิ่มเติมที่ https://www.naturebiotec.com/ban_covid/

#แกรนด์มัมวาไรตี้

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ในปัจจุบันการระบาดของ COVID-19 ในประ …

28/06/2021

4 เคล็ดลับที่ช่วย “ปลดล็อกศักยภาพ” ในตัวคุณได้

สมองของเราเปรียบเสมือนซูเปอร์คอมพิวเตอร์ มันซับซ้อนกว่าคอมพิวเตอร์อื่น ๆ ที่มนุษย์เคยสร้าง และการบริหารให้สมองมีประสิทธิภาพสูงขึ้นจะช่วยให้แนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน เนื่องจากมันจะเป็นตัวควบคุมตัวคุณเอง มันเป็นหน่วยสั่งการที่เกี่ยวข้องและควบคุมทุกอย่างที่คุณทำ กำหนดความคิด ความรู้สึก และการกระทำของคุณ

แปลให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ หากสมองของคุณกำลังทำงานดีมาก ๆ คุณจะทำทุก ๆ อย่างได้อย่างมีศักยภาพมากขึ้น เนื่องจากสมองของคุณเป็นตัวควบคุมทุกอย่าง ดังนั้น เมื่อคุณลองให้สมองได้เปลี่ยนวิธีคิดและการกระทำใหม่ ๆ ให้เหมาะสม ก็เหมือนคุณกำลังปลดล๊อกศักยภาพของคุณได้สำเร็จ โดย จิม โรห์น นักพูดสร้างแรงบันดาลใจและนักเขียนชาวอเมริกันผู้ล่วงลับ เขาเชื่อว่ามนุษย์เรามีศักยภาพอันไรขีดจำกัดและได้เผยคำแนะนำว่าเคล็ดลับในการปลดล๊อกศักยภาพตัวเอง 4 ข้อ ซึ่งถ้าคุณปลดล๊อกมันได้…คุณจะพัฒนาไปได้ไกลยิ่งกว่าเดิมอย่างแน่นอน มาชมกันเลย

1. จงเปลี่ยนความเชื่อของคุณ
หลาย ๆ คนไม่เชื่อว่าตัวเองสามารถเรียนรู้ และเป็นคนที่ “ฉลาด” ได้ และเมื่อคุณไม่เชื่อว่าคุณทำได้ คุณก็จะไม่มีวันทำได้ เพราะฉะนั้น จงปรับเปลี่ยนความเชื่อของคุณซะใหม่! มันขึ้นอยู่กับคุณว่าคุณจะเปลี่ยนไหม แต่เมื่อคุณตัดสินใจที่จะเปลี่ยน คุณก็จะได้เปิดโลกใบใหม่ด้วยเช่นกัน หมั่นหาข้อมูลที่จะทำให้คุณเปลี่ยนความเชื่อเดิม ๆ เหล่านั้น เพราะความจริงก็คือ “คุณมีสติปัญญาที่พร้อมเรียนรู้สิ่งที่เกินเข้าใจอยู่เสมออยู่แล้ว” คุณต้องเชื่อแบบนี้ และเมื่อคุณเชื่อแบบนี้ คุณก็จะปลดล็อกศักยภาพที่ซ่อนอยู่ในตัวคุณได้

2. จงหาความรู้ให้ตรงจุด
สิ่งที่คอยปิดกั้นผู้คนจากการเรียนรู้ก็คือการที่พวกเขาไม่เลือกหรือไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องเรียนรู้ ความรู้มาจากประสบการณ์ หนังสือ ผู้คน และ “แหล่งให้ความรู้” อื่น ๆ เราต้องหาความสำคัญจากความรู้ให้ได้

เพราะฉะนั้น หาความรู้ให้ตรงจุด! สิ่งที่ไม่ใช่ความจริงเป็นสิ่งที่ไร้ความหมาย โรห์นมักได้ยินเด็ก ๆ พูดว่า “ฉันอ่านมาจากหนังสือ” แต่มันคือความจริง…จริงหรือ? เพียงเพราะมีคนพูดหรือเขียนไว้ ไม่ได้แปลว่ามันจะเป็นความจริงเสมอไป ในฐานะผู้เรียน คุณควรหาความรู้ที่เหมาะสมและถูกต้อง ไม่ใช่เพียงแค่ข้อมูลหรือความคิดเห็น มันเป็นหน้าที่ของคุณที่จะค้นหาข้อมูลและความรู้ แล้วก็ทดสอบมัน หลังจากนั้นก็ไตร่ตรองให้ดีว่ามันคือความจริงไหม และสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตคุณเพื่อช่วยให้คุณประสบความสำเร็จได้ไหม คุณต้องวัดและตวงหาความจริงจากสิ่งที่คุณเรียนรู้มา และเมื่อคุณทำแบบนั้น คุณก็จะปลดล็อกศักยภาพที่ซ่อนอยู่ในตัวคุณได้

3. จงกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้
คนบางคนแทบจะไม่มีความสนใจในการเรียนรู้เลย พวกเขาอาจจะขี้เกียจ หรือไม่เห็นข้อดีที่ได้จากการเรียนรู้ พวกเขาไม่มีความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้อยู่ในตัว
อ่านเพิ่มเติมที่ https://sumrej.com/4-keys-to-unlock-the-power-of-your-mind/

#แกรนด์มัมวาไรตี้

สมองของเราเปรียบเสมือนซูเปอร์คอมพิวเตอร์ มันซับซ้อนกว่า […]