The Mental Health Journey จิตคิดสมองสร้าง

The Mental Health Journey จิตคิดสมองสร้าง สามนักจิตวิทยาบำบัดในวัย 50, 60, และ 70 ที่สะสมประสบการณ์จิตวิทยาการปรึกษามากกว่า 20ปีที่ไทยและตปท. Expertise in child, youth, and family.

Focusing on nature based therapy, art therapy, cognitive behaviour therapy, and mindfulness. เชี่ยวชาญทางด้านจิตวิทยาเด็ก วัยรุ่น และครอบครัว เน้นทางด้านธรรมชาติบำบัด ศิลปะบำบัด ความคิดและพฤติกรรมบำบัด และสัมมาสติ

21/11/2023
01/11/2023

ตามคำเรียกร้องค่ะ 2 ว่าด้วยเรืี่อง Intrinsic motivation แรงบันดาลใจจากภายใน สร้างได้อย่างไร พ่อแม่ต้องทำอย่างไรให้ลูกมีสิ่งนี้ มาฟังกันค่ะ

24/10/2023

*Trophy Child ประเด็นร้อนในสังคมไทยตอนนี้ คุณคือผู้ปกครองที่เลี้ยงลูกให้เป็น Trophy Child หรือไม่?Trophy child คืออะไร? มาฟังคำแนะนำสำหรับพ่อแม่ที่อยากให้ลูกเก่งมีทักษะ ความกดดันที่จะต้องเก่งคือภัยเงียบที่ร้ายแรงที่พ่อแม่หลายคนคาดไม่ถึง

17/10/2023

มาฟัง Journey ของเกศนี บรูม กับเส้นทางการเป็นนักจิตบำบัดที่แคนาดากันค่ะ

15/10/2023

เส้นทางการทำงานด้านจิตวิทยาคลินิคของอาจารย์มโนรถ ที่มาที่เป็นอย่างไรบ้าง มาฟังกันค่ะ

26/09/2023

มาฟังjourneyของดร.เสรี ในฐานะอาจาร์ยภาควิชาจิตวิทยาการปรีกษาและนักจิตวิทยาคลีนิกกันค่ะ

15/09/2023

มาฟังที่มาที่ไปของชื่อเพจกันค่ะ

ขออนุญาตประชาสัมพันธ์ครับ.....เชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมสัมมนา ระหว่างวันที่ 16 – 23 เดือนกันยายน 2566 ส่วนใหญ่จัดช่วงบ่ายขอ...
13/09/2023

ขออนุญาตประชาสัมพันธ์ครับ.....เชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมสัมมนา ระหว่างวันที่ 16 – 23 เดือนกันยายน 2566 ส่วนใหญ่จัดช่วงบ่ายของแต่ละวัน เป็น Webinar Series – (ไม่มีค่าลงทะเบียน) ได้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาการปรึกษา 31 ท่านจากหลายประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
สำหรับวันที่ 21 กันยายน 2566 ระหว่างเวลา 14:00 – 16:00 น. (เวลาประเทศไทย) วิทยากรผู้เชี่ยวชาญไทยจะนำเสนอการเสวนาเป็นภาษาไทย มีล่ามอาสาสมัครแปลภาษาอังกฤษให้
เนื้อหาของการเสวนาใน webinar series มีประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การนำไปใช้ และการพัฒนาจิตวิทยาการปรึกษาในแต่ละประเทศ ที่เชื่อมโยงถึงองค์ความรู้ความเข้าใจที่แตกต่างไปของแต่ละแห่ง และวัฒนธรรมที่แตกต่าง การบูรณาการกับแนวปฏิบัติของภูมิปัญญาท้องถิ่น ศาสนา และบริบทเฉพาะของแต่ละประเทศในแถวเอเซียตะวันออกเฉียงใต้
วันแรกจะเป็นการเปิด ตามด้วย Workshop 5 ครั้งในวันถัดไป และพิธีปิดในวันสุดท้าย

รายละเอียดของโปรแกรม Webinar series:
https://drive.google.com/file/d/1Y_p1fZ6EDmaS8QYyMzEo7G_oVDYdMwxZ/view?fbclid=IwAR31QnfZGOfOHKqPvC_T9e5j31ZHp6tob17GfFdUaY6GVUO2xvvhAXgmxDk

ลิ้งค์สำหรับลงทะเบียนเข้าร่วม:
https://suss.au1.qualtrics.com/jfe/form/SV_6fHRkJOFG6tPYIS?fbclid=IwAR10pQvSaFntcuD0Fo2WujFNr5Q6arw0ate1T4GGTYBn-KEIiu3A-Fp_s7c

มาทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างนักจิตวิทยากับจิตแพทย์กันนะครับ        ดูสิครับว่าการเป็นนักจิตวิทยาในบ้านนี้เมืองนี้ เร...
10/09/2023

มาทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างนักจิตวิทยากับจิตแพทย์กันนะครับ

ดูสิครับว่าการเป็นนักจิตวิทยาในบ้านนี้เมืองนี้ เราต้องสตรองขนาดไหน ทั้งนี้เพราะเจตคติที่ว่าการไปพบนักจิตวิทยาสำหรับบางท่านแล้วเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะน่าอาย ไม่สามารถเปิดเผยให้ใครทราบได้ นั่นก็เพราะมีความเชื่อต่อ ๆ กันมาว่า การไปพบนักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์นั้น ต้องเป็นคนบ้า แม้ว่าจิตวิทยาและจิตเวชของไทยจะพัฒนาไปมากขนาดไหน แต่คนรุ่นเก่าหรือคนทุกรุ่นบางคนก็ยังไม่เปิดรับเรื่องที่ว่าการไปพบนักจิตวิทยาเป็นเรื่องปกติ ดังนั้น การทำความรู้จักนักจิตวิทยาและจิตแพทย์จึงเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญยิ่งที่จะเปิดมุมมองใหม่ต่อบุคคลที่ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุขภาพจิต เพื่อเสริมสร้างสุขภาพจิตให้กับทุกคนอย่างครอบคลุม มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล สืบไป
ความแตกต่างระหว่างนักจิตวิทยาและจิตแพทย์มีดังนี้
งานหลักของเหล่านักจิตวิทยา มี 4 ภารกิจ
1. ตรวจวินิจฉัยทางจิตวิทยาโดยการใช้เครื่องมือทดสอบจิตวิทยาที่เป็นมาตรฐาน ร่วมกับการสังเกตพฤติกรรม และการสัมภาษณ์ วิเคราะห์ และแปลผลการทดสอบส่งต่อให้นักจิตบำบัด และจิตแพทย์เพื่อวางแผนการบำบัดรักษาผู้ป่วยต่อไปค่ะ
2. บำบัดรักษาทางจิตวิทยา ซึ่งเป็นวิธีการบำบัดรักษาที่ไม่ต้องใช้ยา เช่น การให้การปรึกษาทั้งแบบรายบุคคลและแบบกลุ่ม การทำจิตบำบัด ครอบครัวบำบัด เป็นต้น
3. ศึกษา ค้นคว้า วิจัยทางจิตวิทยาในสาขาที่ปฏิบัติงาน เพื่อนำผลการศึกษา/วิจัย มาใช้ประโยชน์ในการสร้างเครื่องมือทางจิตวิทยาใหม่ หรือสร้างเครื่องมือเป็นของตนเองเพื่อลดต้นทุนค่าลิขสิทธิ์ในการใช้ของต่างประเทศหรือการนำองค์ความรู้ใหม่มาใช้ในการพัฒนางาน เป็นต้น
4. ปฏิบัติงานส่งเสริมสุขภาพจิตชุมชน และป้องกันโรคเกี่ยวข้องกับการเผยแพร่ความรู้ทางจิตวิทยาในรูปแบบการสอน การฝึกอบรม เพื่อให้คนทั่วไปมีความรู้เรื่องสุขภาพจิตที่ถูกต้อง เหมาะสม และสามารถนำไปดูแลตัวเองและคนรอบข้างได้

ในขณะที่ จิตแพทย์สามารถวินิจฉัยและรักษาอาการทางจิตเวชด้วยยาได้ สามารถให้ผู้ป่วยเข้ารับการตรวจต่าง ๆ เช่น การตรวจเลือด การตรวจทางรังสีวิทยา นอกจากนั้นยังสามารถวินิจฉัยให้ผู้ป่วยใช้คลื่นไฟฟ้ากระตุ้นสมอง ได้อีกด้วย ในขณะที่นักจิตวิทยาไม่สามารถสั่งจ่ายยาหรือวินิจฉัยอาการทางการแพทย์ได้

อ้างอิง https://www.istrong.co/single-post/psychologist

06/09/2023

จากเพจลูกพลังแห่งรักของพ่อแม่ มาเป็นเพจ The Mental Health Journey แอดมินยังเป็นคนเดืม แต่เพิ่มสมาชิกอีกสองท่าน มาฟังที่มาที่ไปของแอดมินทั้งสามท่านกันค่ะ

ความเศร้าโศกและความสูญเสีย (Grief & Loss)ขออธิบายเรื่องความเศร้าโศกและความสูญเสีย (Grief & Loss) ให้เข้าใจ และเป็นแนวทาง...
22/08/2023

ความเศร้าโศกและความสูญเสีย (Grief & Loss)
ขออธิบายเรื่องความเศร้าโศกและความสูญเสีย (Grief & Loss) ให้เข้าใจ และเป็นแนวทางในการช่วยเหลือผู้ประสบกับเหตุการณ์ดังกล่าว ตามนี้นะคะ
คนที่สูญเสียคนรัก ครอบครัว พ่อ แม่ ลูก เหมือนคนที่ยืนอยู่ในทะเล โดนคลื่นสาดใส่ลูกแล้วลูกเล่า บางทีก็โดนคลื่นใหญ่กระแทกเข้าอย่างแรง บางทีคลื่นก็เล็กเปียกแค่เท้า แต่คลื่นก็ไม่เคยหยุดสาด
ช่วงแรกของการสูญเสียจะเป็นช่วงของการปฏิเสธ ไม่ยอมรับความจริง ความคิดจะวนเวียนแค่ว่า “มันไม่จริง มันไม่ได้เกิดขึ้น” ระรอกของอารมณ์จะวนเวียนอยู่กับการร้องให้ปล่อยโฮ พร่ำเพ้อ น้ำตาไหล ไปจนถึงเหม่อลอย นิ่งแต่ไม่มีสติ สิ่งที่จะเกิดกับร่างกายคือ นอนไม่หลับ บางทีร่างกายอาจจะเหนื่อยล้า เคลื่อนไหวไม่ได้ แต่สมองตื่น ดูเหมือนนอนแต่ไม่หลับ ไม่อยากรับประทานอาหาร ถ้าไม่กินและนอนติดต่อกันเป็นเวลานาน ร่างกายอาจจะสูญเสียการควบคุมร่างการอย่างเฉียบพลันหรืออาการน็อคได้
แนวทางในการให้ความช่วยเหลือ ทั้งนี้ แต่ละคนมีปฏิกิริยาต่อความเศร้าโศกและความสูญเสียแตกต่างกัน สิ่งที่สำคัญที่สุดซึ่งเราจะช่วยเหลือเพื่อน ๆ ของเราได้คือ เราต้องเข้าใจความรู้สึก ต้องอ่านอารมณ์ ความคิด และร่างกายของเขา ณ ตอนนั้นให้ออกว่าเขาโดนคลื่นของความสูญเสียลูกไหนสาดใส่อยู่
1. ช่วงการปฏิเสธ (denial) เป็นช่วงที่บางคนจะมีอาการในระยะเวลาสั้น ๆ แต่บางคนอาจจะนานเป็นเดือน ๆ สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดคือการแสดงความรักและห่วงใย โดยการใช้สัมผัส เช่น จับมือ กอด บางทีเราไม่จำเป็นที่จะต้องพูดอะไร แค่กอดก็ช่วยได้ คนที่กำลังเศร้าโศกต้องการการพูดเพื่อปลดปล่อยทางอารมณ์และความคิด ดังนั้น จึงเราจึงควรรับฟังอย่างใส่ใจและเข้าใจ โดยไม่ขัดระหว่างที่เขากำลังพูด ให้เพื่อนได้ระบายความโศกเศร้าที่เป็นประโยชน์ต่อตนเอง (Healthy grief) ออกมาให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อันถือว่าเป็นการสร้างพื้นที่ปลอดภัย (Create safe space) พยายามหาโอกาสให้เพื่อนได้พักผ่อน หลับ กิน ดื่มน้ำ เพราะร่างกายต้องใช้พลังอย่างหนักในการรับมือกับปฏิกริยาทางอารมณ์ จิตใจ และความคิด ในช่วงของการเศร้าโศก เพราะฉะนั้น ความจำเป็นขั้นแรกของใจและกายคือการได้พักผ่อน เนื่องจากความคิดที่วนเวียนอยู่กับความสูญเสีย สมองจึงอยู่ในขั้นภาวะวิกฤต (Stage of crisis) ร่างกายจะไม่สามารถนอนอย่างปกติเป็นเวลานานได้ แต่จะสร้างโหมดของการเอาชีวิตรอด (Create survival mode) โดยการงีบ เผลอหลับ ช่วงนี้จึงเป็นช่วงที่สำคัญมาก ถ้าเพื่อนหลับ ปล่อยให้เขาได้หลับ ในหลาย ๆ กรณี อาจต้องใช้ยานอนหลับ
2. ช่วงเข้าสู่การรับรู้ว่าความสูญเสียเกิดขึ้นจริง (Contemplating the Loss) เป็นช่วงที่อารมณ์และความคิดจะวนเวียนและขึ้น ๆ ลง ๆ เหมือนเลข 8 แบบแนวขวาง คล้ายเครื่องหมายของความไม่มีที่สิ้นสุด (Infinity) อารมณ์จะมีทั้งโกรธ เศร้า รู้สึกผิด สิ้นหวัง มีการตัดพ้อไปจนถึงปฏิกิริยาแบบฮิสทีเรีย (Hysterical reaction) อันเป็นการแสดงออกเกินกว่าเหตุ เช่น หัวเราะเกินจริง ฟูมฟายแบบไม่มีเหตุผล หรือเหม่อลอย (Absent minded) ระยะเวลาของช่วงนี้คืออาจนานเป็นปี ๆ ในบางกรณีอาจจะตลอดชีวิต จึงเรียกว่าเส้นทางของความเศร้าโศก (Journey of grief) ซึ่งจะเกิดขึ้นไปพร้อม ๆ กับเส้นทางของการเยียวยา (Journey of healing)
การให้ความช่วยเหลือในช่วงนี้มีความสำคัญมาก ที่ต้องมีความสม่ำเสมอ และการเยียวยาทางจิตใจจึงต้องใช้เวลานาน ในช่วงนี้ใจต้องหาที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ รวมทั้งการหาความหมายในชีวิต ส่วนการช่วยเหลือทางกาย ให้พาไปทำกิจกรรม เช่น เดินเล่น ทำกิจกรรมผ่อนคลายอารมณ์ นั่งสมาธิ เพื่อช่วยทำให้ร่างกายได้เติมออกซิเจนที่สมบูรณ์มากขึ้น ซึ่งเป็นอาหารให้กับทุกอวัยวะและการหมุนเวียนของเลือด ซึ่งจะช่วยให้นอนได้หลับและมีสติดีขึ้นได้ นอกจากนี้ยังมีการไปเยี่ยม ทำอาหารไปให้ ช่วยทำความสะอาด หรือแบ่งเบาภาระของเพื่อนก็เป็นสิ่งที่ดีและทำได้ตลอดเวลา สุดท้าย ใช้เวลาทุกวันอย่างมีค่า บอกรัก ขอบคุณ ขอโทษ ให้อภัย ยิ้ม หัวเราะ กอด คนที่รัก เพราะเราไม่รู้ว่าจะมีเวลาแบบนี้ให้กันและกันได้นานแค่ไหน
หวังว่าคงเป็นประโยชน์นะคะ ช่วยแชร์กันไปค่ะ
หมายเหตุ : ข้อเขียนนี้เป็นไปตามประสบการณ์ในการดูแลช่วยเหลือเพื่อน และประสบการณ์ในการบำบัดclientsในบางกรณีของผู้เขียนเองเท่านั้น

19/08/2023

เวลาที่เรามีความรู้สึกเครียดหรือไม่สบายใจและมีคนแนะนำให้เราไปพบนักจิตวิทยาการปรึกษา (Psychological Counselor) นักจิตวิทยาคลินิค (Clinical Psychologist) หรือจิตแพทย์ (Psychiatrist) ก็ตาม สิ่งแรกที่มักจะเกิดขึ้นในความคิดของคน ๆ นั้นคือเราไม่ได้บ้าหรือไม่ได้มีอาการทางจิต โปรดจงพิจารณาไว้นะครับว่า การที่เรามีความรู้สึกเครียดหรือไม่สบายใจ ไม่ได้หมายความว่าเราเป็นบ้าหรือผิดปกติทางจิตนะครับ เพราะความผิดปกติทางจิตไม่ได้เป็นกันง่าย ๆ แต่ถ้าเรารู้สึกไม่สบายใจมาก ๆ หรือเครียดอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ๆ และไม่ยอมไปพบบุคลากรด้านสุขภาพจิต เราอาจมีแนวโน้มที่จะเกิดความผิดปกติทางจิตหรือเป็นบ้าได้ครับ

สวัสดีค่ะเพจลูกพลังแห่งรักของพ่อแม่ได้ปรับเปลี่ยนมาเป็นเพจจิตคิดสมองสร้าง และมีแอดมินเพจที่มากประสบการณ์ทางด้านจิตวิทยาก...
11/06/2023

สวัสดีค่ะเพจลูกพลังแห่งรักของพ่อแม่ได้ปรับเปลี่ยนมาเป็นเพจจิตคิดสมองสร้าง และมีแอดมินเพจที่มากประสบการณ์ทางด้านจิตวิทยาการปรึกษามากกว่า 20 ปี ด้วยวัย 50, 60, และ 70 ปี ที่พร้อมจะแบ่งปันประสบการณ์และองค์ความรู้ทางด้านจิตวิทยาให้กับนิสิตนักศึกษาและบุคคลทั่วไป ทางเพจขอแนะนำแอดมินทั้งสามท่านตามนี้เลยค่ะ

ที่อยู่

Phra Nakhon

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ The Mental Health Journey จิตคิดสมองสร้างผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง The Mental Health Journey จิตคิดสมองสร้าง:

แชร์