09/01/2025
#การกินนมวัวมีราคาที่ต้องจ่าย
ทุกการกระทำมีราคาที่ต้องจ่าย มาจากสำนวนภาษาอังกฤษ come at a price
เหมือนกับเพลงของอัสนีวสันต์ ได้อย่าง(ก็ต้อง)เสียอย่าง
นมวัวเป็นแหล่งของโปรตีน แคลเซียม วิตะมินและแร่ธาตุ
นมวัวถูกออกแบบมาสำหรับลูกวัวกินจนอายุ 1 ปีแล้วลูกวัวก็กินอาหารของลูกวัวจนโตเต็มวัย
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกสายพันธุ์ ถูกออกแบบมาให้กินนมแม่ของตัวเอง นาน 1 ปีบ้าง หลายปีบ้าง แล้วแต่สายพันธุ์ หลังจากนั้นก็กินอาหารของสัตว์ชนิดนั้น ลูกช้าง ลูกยีราฟก็กินนมแม่ถึง 1 ปีแล้วก็กินพืช ผัก ธัญพืช ช้างและยีราฟก็สูงดีอยู่
ทำไมมนุษย์เราถึงถูกบอกให้กินนมวัวตลอดชีวิต ลองคิดๆดูก็ตลกดี ไม่มีสัตว์ชนิดใดบนโลกนี้ทานนมตลอดชีวิตค่ะ พอหย่านมแม่ เค้าก็กินอาหารตามธรรมชาติของเค้า
ผู้ผลิตนมวัวบอกเราว่า นมวัวเป็นแหล่งของแคลเซียมชั้นดี ส่วนนมถั่วเหลือง นมพืชอื่นๆว่าถึงมีแคลเซียมแต่ก็ดูดซึมได้ไม่ดี เพราะมีไฟเตทมายับยั้งการดูดซึมแคลเซียม แต่กระบวนการผลิตนมพืชที่มีการแช่น้ำและต้มให้เดือด จะเป็นการลดปริมาณไฟเตทได้ จึงทำให้แคลเซียมก็ดูดซึมไปใช้ได้เหมือนกัน
นมวัวมีแลคโต๊ส ซึ่งพอถึงวัยหย่านม ร่างกายก็ลดการผลิตน้ำย่อยแลคโต๊ส ถ้ายังไปฝืนกินก็ท้องอืด ท้องเสีย ปวดท้อง กรดไหลย้อน บริษัทนมวัวก็รู้ดีว่าบางคนทนไม่ได้ ก็เลยผลิตนม free lactose ออกมาขาย
นมวัวมีโปรตีนโมเลกุลใหญ่มาก ทำให้บางคนแพ้ได้ง่าย แสดงออกทางผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง สิว เซ็บเดิร์ม ทางเดินหายใจเป็นภูมิแพ้ นอนกรน เลือดกำเดาไหล เป็นหวัดบ่อย เป็นหอบหืด ไซนัสอักเสบเรื้อรัง ทางเดินอาหารถ่ายเป็นมูกเลือด แหวะนมบ่อย ปวดท้อง ท้องผูกเรื้อรัง ก็เลยผลิตนมสูตรพิเศษราคาแพงขึ้นมาขาย เป็นโปรตีนที่ขนาดเล็กลง เช่น นูตรามิเยน ไฮคิวเปบติ พูรามิโน นีโอเคท ถ้าลูกอายุต่ำกว่า 1 ปีไม่ได้ทานนมแม่ แล้วมีอาการแพ้ต้องเสียเงินจำนวนมากซื้อนมราคาแพงเหล่านี้มากิน ไม่เช่นนั้นก็ป่วยตลอดทั้งปี
นมวัวมีไขมันอิ่มตัว คอเลสเตอรอลสูงเหมือนกินหมูสามชั้น กินแล้วเป็นโรคอ้วน โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคไขมันสูง ก็เลยมีนมไขมัน 0% ออกมาขาย
นมวัวมีไขมันสูงอยู่แล้ว พอเอามาทำขนมก็มีการเติมน้ำตาล ดังนั้นก็เลยกลายเป็นอาหาร "หวานและมัน" ซึ่งเป็นอาหารสูตรที่ทำให้แก่เร็ว (Aging food) ซึ่งตรงกันข้ามกับอาหารสูตรที่ทำให้แก่ช้า (Anti-aging food) ซึ่งได้แก่ ผัก ผลไม้ ธัญพืช ถั่วชนิดต่างๆ ถั่วเมล็ดแห้ง ถั่วเปลือกแข็ง ถั่วฝัก เมล็ดพืช
อาหารและขนมที่มีนมวัว เช่น เบเกอรี่ ไอศกรีม ขนมเค้ก ยาคูลท์ โยเกิต นมเปรี้ยว ชอคโกแลต ไมโล โอวัลติน โกโก้ พิซซ่า ลาซานญ่า ชีส ชานมไข่มุก กาแฟเย็น กาแฟร้อนใส่นม วิปครีม เหล่านี้ที่จริงแล้ว เข้าข่ายจั๊งค์ฟู้ด หรือ อาหารขยะ กินแล้วเป็นโรคอ้วน โรคเบาหวาน แต่ทำไมเราซึ่งเป็นพ่อแม่ยอมให้ลูกกิน ก็เพราะว่า เราถูกล้างสมองมาตลอดว่า กินนมวัวแล้วจะสูง เราก็เลยยอมให้ลูกกิน แต่กินไปลูกก็ขี้มูกไหลไป นอนกรนไป ไม่สบายบ่อยๆไป เราก็ยังไม่เอะใจว่า เป็นเพราะนมวัวหรือเปล่า
ที่จริงแล้ว ฝรั่งไม่สูงก็มีค่ะ ฝรั่งที่อยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรก็หุ่นเท่าๆกับเราค่ะ อย่างมาราโดน่าก็สูง 165 ซม. แสดงว่านมวัวไม่ใช่สิ่งที่ทำให้สูง นมวัวก็แค่เป็นอาหารชนิดหนึ่ง ในอดีตกาลที่วิทยาการต่างๆยังไม่พัฒนา ไม่ใช่ยุคอุตสาหกรรมแบบปัจจุบัน ที่การผลิตอาหารอุตสาหกรรมมีมากมายกว่าในอดีต ฝรั่งจำเป็นต้องกินนมวัวเป็นแหล่งอาหารของโปรตีน แคลเซียม วิตามินดี เพราะเมืองหนาว อาหารการกินไม่อุดมสมบูรณ์ ไม่เหมือนบ้านเราที่อาหารการกินอุดมสมบูรณ์กว่า มีพืชพรรณธัญญาหารมากมาย หน้าหนาวหาปลากินก็ลำบาก ก็เลยต้องเลี้ยงวัวไว้กินเนื้อและนม ก็เลยเป็นที่มาของการเลือกใช้แหล่งอาหารแบบนั้น ปลูกข้าวไม่ได้ทั้งปี ก็ต้องทำให้แปรรูปเป็นผงๆเก็บไว้ทำขนมปัง ซึ่งแน่นอนสารอาหารสู้ข้าวที่เรากินไม่ได้ แล้วเวลาเอามาทำขนมปังเพื่อไม่ให้แข็งกินไม่ได้ ก็ต้องเติมนู่นนี่นั่น ปรุงรส น้ำตาล เนย ยีสต์ สารกันบูด มีการแปรรูป มีการใช้สารสังเคราะห์ ไม่ธรรมชาติ ฝรั่งเค้าก็เลยมีราคาที่ต้องจ่ายจากการกินขนมปังกันมานาน ทำให้บางคนเกิดปัญหาลำไส้อักเสบเรื้อรังได้
Aging ในเด็ก คือ เป็นหนุ่มสาวก่อนวัย
Aging ในผู้ใหญ่คือ โรคชราจะมาเยือนเร็ว เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคไขมันสูง โรคเส้นเลือดหัวใจตีบ โรคมะเร็ง
อย่างนี้ฝรั่งก็มีภาวะเหล่านี้มากกว่าเราจริงหรือ คำตอบคือ จริงค่ะ สังเกตว่า เด็กฝรั่งจะเป็นสาวเร็วกว่าเด็กเอเชีย ฝรั่งจะมีโรคเหล่านี้นำพวกเรามาก่อน เค้าเลยคิดวิธีรักษาโรคมาก่อนเรา เราก็มาเป็นตามเค้า แต่เดี๋ยวนี้ ฝรั่งก็ลดการกินนมวัวกันไปเยอะแล้ว ก็เลยมีนมทางเลือกออกมามากขึ้นกว่าเดิม
ถ้าใครศึกษาเรื่อง ทำยังไงให้แก่ช้า ก็จะทราบดีว่า อาหารประเภทไหนต้องหลีกเลี่ยง อาหารประเภทไหนควรทานให้มากขึ้น
ถ้าใครมีนมแม่ ให้ลูกทานนมแม่ไปจนลูกหย่านมไปเอง และกินอาหารตามวัย อาหารไทยๆนี่แหล่ะ ผัก ผลไม้ ธัญพืช ถั่วชนิดต่างๆ เนื้อสัตว์ชนิดต่างๆ ถ้าไม่มีนมแม่ อายุต่ำกว่า 1 ขวบป้าหมอแนะนำนมสูตรป้องกันภูมิแพ้ (ปรึกษาแพทย์ว่ายี่ห้อไหน)
ถ้าอายุเกิน 1 ขวบ ถ้าไม่มีนมแม่ ให้ทานนมกล่องได้เลย แนะนำนมถั่วเหลือง นมอัลมอนด์ นมโอ๊ต เลือก"สูตรแคลเซียมสูงน้ำตาลน้อยหรือไม่มีน้ำตาล" ทานแค่วันละ 2-3 กล่อง หรือ "ไม่กินนมอะไรเลยก็ได้" ถ้ากินอาหารประเภทผักใบเขียว ปลาเล็กปลาน้อย เต้าหู้ สาหร่าย กุ้งแห้ง ถั่วชนิดต่างๆ เมล็ดพืชชนิดต่างๆ เป็นประจำอยู่แล้ว เน้นข้าวสารอาหาร 5 หมู่เป็นอาหารหลักค่ะ
บางคนบอกว่านมทางเลือกบางสูตรเช่นนมอัลมอนด์บางยี่ห้อมีน้ำมันผสม ถ้าเลือกได้ก็อย่าเลือกสูตรที่มีน้ำมันผสมค่ะ แต่ถ้าลูกไม่ยอมกินสูตรอื่น เราก็ใช้ได้ค่ะ เพราะว่าปริมาณน้ำมันพืชอยู่ในนมกล่องทางเลือกบางสูตรเหล่านั้น ก็ไม่ได้แตกต่างไปจากน้ำมันพืชที่ผสมอยู่ใน"นมผงดัดแปลงจากนมวัวสำหรับทารก" จากต่างประเทศทุกยี่ห้อในท้องตลาด ลองไปสังเกตข้างกระป๋องนมผงทุกยี่ห้อในซูเปอร์มาร์เก็ตดูได้เลยค่ะ ทุกกระป๋องจะมีน้ำมันพืชผสมอยู่ทั้งสิ้น เช่น น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันดอกทานตะวัน เป็นต้น ดังนั้นถ้าลูกเราไม่กินอาหารไขมันสูงอยู่แล้ว โดยหลีกเลี่ยงน้ำมันในอาหารประเภททอด ผัดและไม่ต้องเติมน้ำมันพืชในอาหารของลูกเหมือนกับที่สมุดสุขภาพแนะนำ เราก็ไม่ต้องกลัวเรื่องน้ำมันเหล่านี้ว่าจะมากเกินไป
สุดท้ายป้าหมออยากบอกว่า ป้าหมอเลิกทานนมวัวมา 20 ปีแล้ว หายจากอาการเสมหะในคอ คัดจมูกน้ำมูกไหล คันคอ เจ็บคอบ่อยๆ สิว เซ็บเดิร์ม ไม่เป็นหวัด ไม่เป็นไข้หวัดใหญ่ ไม่ติด RSV ตรวจวัดความหนาแน่นของกระดูกแข็งแรงมากค่ะ วัดน้ำตาล ไขมันในเลือด ตัวเลขสวยงาม คุมน้ำหนักตัวได้ดีสมวัย แต่นานๆป้าหมอก็กินผลิตภัณฑ์นมวัวแก้อยากซักเดือนละครั้ง แต่กินเสร็จก็กินยาแก้แพ้ตามทันทีค่ะ มิฉะนั้นจะมีเสมหะ คัดจมูก น้ำมูกไหลไปอีก 3 วัน และก็ต้องไปวิ่งสายพานเพื่อเบิร์นพลังงานส่วนเกิน
