ปลาทูลุงแว่น

ปลาทูลุงแว่น ปลาทูสด ปลาทูนึ่ง ปลาทูเค็ม ไส้ปลาทู

11/11/2021

สถานการณ์ขาดแคลนแรงงานกำลังอยู่ในวิกฤต ยังคงต้องการจำนวนเป็นแสน ติดตามรายละเอียดการขั้นตอนการเปิดรับแ....

03/08/2021
29/07/2021

Editor’s Pick: ตอนนี้ทั่วโลกฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ไปแล้วกว่า 3,940 ล้านเข็ม ปัจจุบัน เราสร้างภูมิคุ้มกันโควิดจากการฉีดวัคซีนเข้าไปในร่างกายเท่านั้น แต่ในอนาคต วัคซีนต้านโควิดอาจอยู่ในรูปแบบยาเม็ดสำหรับรับประทาน หรือยาสูดพ่น

ผู้เชี่ยวชาญมองว่า หากวัคซีนต้านโควิดแบบเม็ดหรือสูดพ่นประสบความสำเร็จ จะเป็นการเปลี่ยนเกมการรับมือกับโควิด-19 ครั้งใหญ่ เพราะสามารถจัดเก็บและจัดส่งได้อย่างง่ายดาย แม้ในพื้นที่ทุรกันดารไม่มีไฟฟ้าใช้ รวมถึงไม่ต้องใช้บุคลากรทางการแพทย์ด้วย

◾◾◾
🔴 วัคซีนชนิดผงแห้ง ง่ายเพียงสูดพ่น

นอกจากจะพัฒนาวัคซีนเพื่อให้สามารถรับมือกับไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์ต่างๆ นักวิทยาศาตร์ก็กำลังเร่งพัฒนาวัคซีนในรูปแบบอื่นๆ นอกจากของเหลวที่ฉีดเข้าสู่ร่างกาย เพื่อให้สะดวกต่อการจัดเก็บและขนส่ง รวมทั้งการใช้งานที่ง่ายขึ้น ทั้งแบบฉีดพ่นและแบบรับประทาน

บริษัท Iconovo ผู้ผลิตยาพ่นสำหรับผู้ป่วยหอบหืด และบริษัท ISR ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้านการวิจัยภูมิคุ้มกันในกรุงสตอกโฮล์มของสวีเดน กำลังร่วมมือพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด 'ชนิดผงแห้ง' โดยมีศูนย์วิจัยอยู่ที่เมดิคอน วิลเลจ อุทยานวิทยาศาตร์ที่ใหญ่ที่สุดทางตอนใต้ของประเทศ

โจฮัน วาบอร์ก ซีอีโอของบริษัท Iconovo ระบุว่า การผลิตวัคซีนแบบสูดพ่นทำได้ง่ายและมีราคาถูก เพียงแค่เอาแผ่นพลาสติกเล็ก ๆ ออก จากนั้นเครื่องฉีดก็จะทำงาน เพียงแค่เอาใส่ปากแล้วสูดหายใจเข้าลึก ๆ

◾◾◾
🔴 วัคซีนเปลี่ยนเกม จัดเก็บง่าย ทนความร้อน

วัคซีนต้านโควิดชนิดผงแห้ง ผลิตจากโปรตีนของไวรัสโควิด-19 และสามารถเก็บในอุณหภูมิได้สูงถึง 40 องศาเซลเซียส จะบรรจุในหลอดยาพ่นพลาสติก ที่มีขนาดครึ่งหนึ่งของกล่องไม้ขีดไฟ

ศาสตราจารย์ โอลา วินควิสต์ ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิคุ้มกันวิทยาที่สถานบันโคโรลินสกา หนึ่งในมหาวิทยาลัยการแพทย์ชั้นนำของสวีเดนและเป็นผู้ก่อตั้ง ISR ระบุว่า สิ่งที่เปลี่ยนเกมคือ สามารถแจกจ่ายวัคซีนต้านโควิดแบบผงได้ง่ายมาก เพราะไม่ต้องขนส่งด้วยความเย็น และไม่ต้องใช้บุคลากรทางการแพทย์เหมือนการฉีดวัคซีน

BBC ชี้ว่า นี่คือข้อแตกต่างที่สำคัญ เพราะวัคซีนต้านโควิดที่ได้รับอนุมัติจากองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ในปัจจุบัน ล้วนแต่อยู่ในรูปของเหลว ต้องเก็บในขวดแก้วที่ทนทาน บางชนิดต้องเก็บภายใต้อุณหภูมิที่ต่ำถึง -70 องศาเซลเซียส เพื่อรักษาประสิทธิภาพของวัควีน

ปัจจุบัน ทีมวิจัยกำลังทดสอบวัคซีนต้านโควิดแบบผงกับไวรัสโควิดสายพันธุ์ Beta ที่พบครั้งแรกในแอฟริกาใต้ และ Alpha ที่พบครั้งแรกในสหราชอาณาจักร และเชื่อว่า วัคซีนชนิดนี้จะมีประโยชน์อย่างมาก โดยเฉพาะในทวีปแอฟริกา ซึ่งปัจจุบัน ผลิตวัคซีนเองไม่ได้ และมีสภาพอากาศที่ร้อน รวมถึงการขนส่งไปยังพื้นที่ที่ไม่มีไฟฟ้าเข้าถึง เป็นความท้าทายสำคัญในการจัดเก็บและส่งมอบก่อนที่วัคซีนจะหมดอายุ

ศาสตราจารย์ สเตฟาน สวอร์ทลิง ปีเตอร์สัน ผู้เชี่ยวชาญด้านการเปลี่ยนแปลงสุขภาพโลก สถาบันคาโรลินสกา และ อดีตหัวหน้าฝ่ายสุขภาพของ Unicef ปี 2016-2020 ระบุว่า หากผลิตวัคซีนต้านโควิดชนิดผงได้สำเร็จ จะเป็นการเปิดโอกาสให้พื้นที่ที่เข้าถึงยาก ไม่ว่าจะสำหรับบุคลากรทางการแพทย์หรือผู้ตั้งแคมป์ที่ชอบการผจญภัย เปรียบเทียบความสะดวกว่า เช่นเดียวกับการพกพาอาหาร ‘ฟรีซ ดราย’ หรืออาหารที่ผ่านกระบวนการทำให้แห้งแบบแช่เยือกแข็งนั่นเอง

◾◾◾
🔴 จะได้ใช้เมื่อไหร่? - เปลี่ยนวัคซีนเป็นผงเพื่อการขนส่ง

จนถึงขณะนี้ เพิ่งมีการทดสอบใช้วัคซีนต้านโควิชนิดผงกับหนูเท่านั้น ขณะที่ ISR และ Iconovo ระดมทุนได้มากพอที่จะเริ่มการศึกษาประสิทธิภาพของวัคซีนในมนุษย์ในอีก 2 เดือนข้างหน้า แต่ก็ต้องผ่านการทดสอบว่า วัคซีนดังกล่าวสามารถสร้างภูมิคุ้มกันในระดับเดียวกับวัคซีนต้านโควิดอื่น ๆ ที่ได้รับอนุมัติจากองค์การอนามัยโลกในปัจจุบันหรือไม่

ศาสตราจารย์สตอว์ทลิง ปีเตอร์สัน ระบุว่า นอกจาก Iconovo แล้ว ยังมีบริษัทสตาร์ทอัพที่ชื่อว่า Ziccum ที่กำลังพัฒนาวัคซีนแบบแห้งด้วยเทคโนโลยีเดียวกัน เรียกว่าตามมาติด ๆ "เปรียบเทียบว่าถ้าเป็นการเดินก็ห่างกันเพียง 10 นาที"

Ziccum กำลังทดสอบเทคโนโลยีที่ทำให้วัคซีนของเหลว กลายเป็นผง เพื่อให้ขนส่งและจัดเก็บได้สะดวก พอจะใช้ก็นำวัคซีนผงไปผสมกับน้ำสะอาดที่ฆ่าเชื้อ แล้วนำไปฉีดเข้าร่างกายมนุษย์ด้วยเข็มฉีดยา เหมือนการฉีดวัคซีนในปัจจุบัน

กอรัน คอนราดสัน ซีอีโอของบริษัท Ziccum ระบุว่า เทคโนโลยีดังกล่าว เปิดกว้างสำหรับผลิตวัคซีนแบบฉีดพ่น ไปจนถึงวัคซีนแบบยาเม็ด ซึ่งยังต้องอาศัยการวิจัยและพัฒนาอีกหลายครั้ง แต่โดยหลักการแล้วสามารถทำได้

BBC รายงานว่า บริษัท Janssen ผู้ผลิตวัคซีน Johnson & Johnson แบบเข็มเดียว กำลังดำเนินโครงการนำร่อง เพื่อวิเคราะห์ประสิทธิภาพของวัคซีนแบบแห้งของบริษัท Ziccum

Janssen ไม่ได้ระบุว่า โครงการดังกล่าวเกี่ยวข้องกับโควิดหรือโรคติดเชื้ออื่น ๆ หรือไม่ โฆษกของบริษัทเผยว่า การวิจัยนี้เป็นส่วนหนึ่งในการสำรวจเทคโนโลยีใหม่ ที่มีศักยภาพในการแจกจ่ายวัคซีนในอนาคตเท่านั้น

อิงกริด โครมานน์ โฆษกของ CEPI องค์กรไม่แสวงผลกำไรเพื่อเร่งการพัฒนาวัคซีน ระบุว่า วัคซีนแบบผงยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา และยังมีขั้นตอนอีกมากที่ต้องทำ เช่นการปรับปรุง และขยายกระบวนการผลิต แต่หากทำได้สำเร็จ ก็จะช่วยให้ประชาชนเข้าถึงวัคซีนได้ดีขึ้น ลดการทิ้งวัคซีน และลดต้นทุนของโครงการฉีดวัคซีนด้วย

◾◾◾
🔴 อินเดียกำลังพัฒนาวัคซีนแบบพ่นจมูก

เมื่อเดือนที่แล้ว นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ระบุว่า อินเดียกำลังพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ทางเลือกใหม่ ในรูปแบบสเปรย์พ่นจมูก

การทำงานของวัคซีนชนิดนี้ เป็นการพ่นยาไปยังทางเดินหายใจโดยตรง เพื่อสร้าง "ภูมิคุ้มกันเยื่อเมือก" ในบริเวณที่มีการติดเชื้อไวรัส อย่างเช่นจมูกและช่องปาก จะช่วยลดการติดเชื้อและลดการแพร่กระจายของไวรัสไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกายรวมถึงปอด

วัคซีนดังกล่าว ชื่อว่า BBV154 ริษัท Bharat Biotech เริ่มต้นพัฒนาเมื่อปีที่แล้วและพบว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อในหนูทดลอง

◾◾◾
🔴 ความคืบหน้า วัคซีนต้านโควิดแบบรับประทาน

สำหรับความคืบหน้าของวัคซีนต้านโควิดแบบเม็ดสำหรับรับประทาน ที่ผู้พัฒนา คือ บริษัท Oravax Medical ของสหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาว่า มีกำหนดทดสอบวัคซีนเม็ดทางคลินิกระยะแรก ภายในไตรมาสที่สองของปีนี้

ล่าสุด กำลังทดสอบวัคซีนเม็ดในขั้น ‘พรีคลินิก’ หรือทดลองในสัตว์ทดลองกับโควิดหลายสายพันธุ์รวมถึง Delta ด้วย และกำลังเตรียมพร้อม ที่จะเริ่มการทดลองทางคลินิกครั้งแรกในอิสราเอล ที่โรงพยาบาล อิชิลอฟ กรุงในเทลอาวีฟ หลังได้รับอนุญาตจาก คณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในคน หรือ IRB และจะขยายการทดลองทางคลินิกในประเทศอื่น ๆ ด้วย

ขณะนี้ อยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากกระทรวงสาธารณสุขของอิสราเอลเพื่อเริ่มผลิตกระบวนการผลิต โดยผู้พัฒนาระบุว่า วัคซีนแบบรับประทานได้นี้ แจกจ่ายได้ง่ายและรวดเร็วกว่าการฉีดยา และสามารถรับประทานเองที่บ้านได้ และยังอาจช่วยลดผลข้างเคียงได้อีกด้วย

◾◾◾
🔴 จีนเองก็กำลังพัฒนาวัคซีนแบบสูดพ่น

ช่วงเดือนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของจีนเปิดเผยว่า คณะนักวิจัยกำลังดำเนินการทดลองทางคลินิก ระยะที่ 1 และระยะที่ 2 ของวัคซีนป้องกันโควิด-19 ชนิดสเปรย์พ่นทางจมูก

เซ่า อี้หมิง นักวิจัยประจำศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติจีน กล่าวว่า คณะผู้เชี่ยวชาญจะศึกษาความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีนชนิดสเปรย์ใช้พ่นทางจมูก ซึ่งดัดแปลงจากวัคซีนชนิดฉีดที่มี 'อะดิโนไวรัส' เป็นตัวนำพา และมีวางตลาดแล้วในปัจจุบัน

สำหรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิดสเปรย์ใช้พ่นทางจมูก ร่วมพัฒนาโดยคณะนักวิจัยจากสถาบันการแพทย์ทหาร สังกัดสถาบันวิทยาศาสตร์การทหาร และบริษัท CanSino Biologics ของจีน โดยได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีวัคซีนของจีนด้วย เพื่อใช้ต่อสู้กับโรคโควิด-19 ตั้งแต่แรกเริ่ม เนื่องจากช่วยลดความเสี่ยงจากอาการไม่พึงประสงค์กรณีได้รับวัคซีนแบบฉีด

ส่วนวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิดสเปรย์ฉีดพ่นจมูกอีกขนาน พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยเซี่ยเหมิน, มหาวิทยาลัยฮ่องกง และบริษัท Beijing Wantai Biological Pharmacy เสร็จสิ้นการทดลองทางคลินิก ระยะที่ 1-2 และกำลังทดลองทางคลินิก ระยะที่ 3 ในต่างประเทศ เพื่อประเมินประสิทธิผลเพิ่มเติม

◾◾◾
🔴 วัคซีนทางเลือก 'เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม'

นอกจากวัคซีนแบบผงและแบบเม็ดจะช่วยให้ผู้ที่กลัวเข็มฉีดยา เปลี่ยนใจมารับวัคซีน หรือช่วยให้การจัดเก็บและขนส่งสะดวกง่ายดายแล้ว ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วย เพราะลดการใช้ไฟฟ้าสำหรับตู้แช่เย็นและตู้แช่แข็งในการจัดเก็บและขนส่งวัคซีน
————-
เรื่อง: สุภาพร เอ็ลเดรจ
ภาพ: Danilo Alvesd

#โควิด19 #วัคซีน #วัคซีนแบบพ่น #วัคซีนชนิดเม็ด
#เจาะลึกรอบโลก

ข้อมูลอ้างอิง:
https://www.bbc.com/news/health-57553602
https://finance.yahoo.com/news/oramed-provides-oravax-oral-vaccine-122500625.htmlเมท

26/03/2020

ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในวันนี้ เพื่อควบคุมและป้องกันการแพร่กระจายโรคไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-2019) ทางโรงปลาทูลุงแว่นจะงดให้บริการขายปลาทูทุกตลาดในเขตปราจีนบุรี และนครนายก เพื่อสนองนโยบายรัฐบาลเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรค ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 26 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการประกาศเปลี่ยนแปลงจากรัฐบาล
หากลูกค้าท่านใดสนใจจะสั่งซื้อปลาทู ปลาเค็ม ทางโรงงานปลาทูลุงแว่นจะยังคงให้บริการส่งให้ถึงบ้าน สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดที่มือถือ 0809108815 0894888815 0814379959
ทางโรงงานปลาทูลุงแว่นต้องขอกราบขอบพระคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้การอุดหนุนปลาทูลุงแว่นด้วยดีเสมอมา ด้วยรักและห่วงใย ทีมงานปลาทูลุงแว่น

26/03/2020

04428/260363

26/03/2020
26/03/2020

04427/260363

26/03/2020

04429/260363

26/03/2020

อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปเกือบทั่วทุกภาคของประเทศไทย ยกเว้นภาคใต้ อุณหภูมิจะเริ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีอากาศร้อนถึงร้อนจัด

นาวาอากาศเอก สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยถึงสภาพอากาศโดยรวมของประเทศไทยในช่วงสุดสัปดาห์นี้ว่า วันนี้ 26 มีนาคม2563 เป็นวันสุดท้ายของพายุฤดูร้อน หรือฝนฟ้าอากาศที่ตกอยู่ในหลายพื้นที่ โดยตั้งแต่วันพรุ่งนี้ 27 มีนาคม2563 เป็นต้นไป ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันตก อุณหภูมิจะเริ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีอากาศร้อนถึงร้อนจัด

พร้อมขอให้ประชาชนระมัดระวังการทำกิจกรรมกลางแจ้ง เนื่องจากอากาศที่ร้อนจัดอาจส่งผลกระทบต่อร่างกายได้ ขณะที่ ภาคใต้ จะมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนคลื่นลมในทะเลฝั่งอันดามันและอ่าวไทยคลื่นสูง 1 เมตร ประชาชนสามารถติดตามการพยากรณ์อากาศได้ที่สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยแห่งนี้ และกรมอุตุนิยมวิทยาได้ที่เว็บไซต์ www.tmd.go.th หรือสายด่วน1182

26/03/2020

ปิด โรงปลาทู ตั้งแต่วันนี้ ไปจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้
ร่วมด้วยช่วยกัน

25/03/2020

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี ขอรายงานกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จังหวัดปราจีนบุรี ประจำวันที่ 25 มีนาคม 2563 เวลา 16.00 น. ข้อมูลส่งตรวจหาเชื้อ สะสม 44 ราย ไม่พบเชื้อ 40 ราย รอผลการตรวจ 1 ราย ขณะนี้พบผู้ติดเชื้อ COVID-19 จำนวน 3 ราย

การป้องกันตนเองสำหรับประชาชนทั่วไป ขอให้สร้างสุขอนามัย ยึดหลัก “ลด เลี่ยง ดูแล” คือ

ลดความเสี่ยง ด้วยการล้างมือด้วยน้ำ และสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ให้บ่อยขึ้น หากรู้สึก ไม่สบาย ไอ จาม ให้สวมหน้ากากอนามัย

เลี่ยงการเดินทางไปในพื้นที่ที่มีการระบาดและพื้นที่ที่มีคนหนาแน่น เลี่ยงการใช้มือสัมผัสหน้า

ดูแลสุขภาพตนเองและสังคม ด้วยการกินร้อน ช้อนกลาง ทำตนเองให้แข็งแรง และกักตัว 14 วัน เมื่อเดินทางกลับจากพื้นที่ที่มีการระบาด

สำหรับผู้ที่เดินทางกลับมาจากกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป ให้กักตัวอยู่ในที่พักอาศัย 14 วัน นับจากวันที่กลับมาถึงภูมิลำเนา กรุณาปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ดังต่อไปนี้

ไม่รับประทานอาหารและใช้ภาชนะร่วมกับผู้อื่น
ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดตัว หมอน ผ้าห่ม แก้วน้ำ ช้อนส้อม
ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำและสบู่ นาน 20 วินาที หรือแอลกอฮอล์ 70% ลูบจนมือแห้ง
หลีกเลี่ยงการพูดคุย ใกล้ชิดกับผู้อื่น โดยเฉพาะผู้สูงอายุ และผู้ป่วยเรื้อรัง
หากมีไข้และอาการทางเดินหายใจ ให้สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า และรีบแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่โดยทันที
ประชาชนสามารถประเมินความเสี่ยงก่อนมาโรงพยาบาลต่อการติดเชื้อ COVID-19 ด้วยแบบประเมินออนไลน์โรงพยาบาลราชวิถี https://bit.ly/2x8LLD6 และติดตามสถานการณ์ ข้อมูลข่าวสารได้ทาง เว็บไซต์ https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/ และ“ไทยรู้ สู้โควิด” ทาง Twitter, Facebook, Line official, TikTok และ ChatBot 1422 ทาง ID : -19 หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี 0 3721 1626 ต่อ 120, 108 ในเวลาราชการ

04416/250363

25/03/2020

ข้อกำหนดออกตามมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.บริหารสถานการณ์ราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2563 ฉบับที่ 1

แบบละเอียดอ่านตามภาพ แบบย่ออ่านตรงนี้

1. การห้ามเข้าพื้นที่เสี่ยง

- ห้ามประชาชนเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงหรือสถานที่ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการติดต่อเชื้อโรค โควิด-19

2. การปิดสถานที่ที่เสี่ยงต่อการติดต่อโรค

- พิจารณาสั่งปิดสถานที่ซึ่งมีคนจำนวนมากไปทำกิจกรรมร่วมกันและเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโควิด-19 เป็นการชั่วคราว สั่งปิดสถานที่ดังต่อไปนี้
- สนามมวย, สนามกีฬา, สนามแข่งขัน, สนามเด็กเล่น, สนามม้า ในทุกจังหวัด
- ผับ สถานบริการ สถานที่แสดงมหรสพ สถานที่มีการแสดงหรือการละเล่นสาธารณะ สถานประกอบการอาบ อบ นวด และนวดแผนโบราณ สปา สถานที่ออกกำลังกาย (ฟิตเนส) สถานบันเทิง ตามพระราชบัญญัติสถานบริการ ในพื้นที่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้แก่ นนทบุรี, ปทุมธานี, นครปฐม, สมุทรปราการ และสมุทรสาคร
- สถานที่อื่นนอกจากนี้ เช่น แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ พิพิธภัณฑสถาน ห้องสมุดสาธารณะ ศาสนสถาน สถานีขนส่งหรือโดยสาร ตลาด ห้างสรรพสินค้า

3. การปิดช่องทางเข้ามาในราชอาณาจักร

- ในการใช้ยานพาหนะไม่ว่าจะเป็นอากาศยาน เรือ รถยนต์ หรือพาหนะอื่นใด หรือในการใช้เส้นทางคมนาคมไม่ว่าทางอากาศ ทางน้ำ หรือ ทางบก เพื่อเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบปิดช่องทางเข้าออก ด่าน จุดผ่านแดน หรือ จุดผ่อนปรนตามกฎหมาย

4. การห้ามกักตุนสินค้า

- ห้ามผู้ใดกักตุนสินค้าซึ่งเป็นยา เวชภัณฑ์ อาหาร น้ำดื่ม หรือสินค้าอื่นที่จำเป็นต่อการอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นสินค้าควบคุมตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542

5. การห้ามชุมนุม

- ห้ามมิให้มีการชุมนุม การทำกิจกรรม หรือการมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ในสถานที่แออัดหรือกระทำการดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบ

6. การเสนอข่าว

- ห้ามการเสนอข่าวหรือทำให้แพร่หลายทางสื่อต่างๆ ซึ่งมีข้อความหรือข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด-19 อันไม่เป็นความจริงและอาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว หรือเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารดังกล่าว อันทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสถานการณ์ฉุกเฉิน

7. มาตรการเตรียมรับสถานการณ์

- ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ และผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เป็นผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินทุกมิติในเขตท้องที่ที่ตนรับผิดชอบ
- ให้หน่วยงานของรัฐทุกแห่ง กำหนดและประชาสัมพันธ์เผยแพร่มาตรการเพื่อช่วยเหลือหรือบรรเทาผลกระทบอันเกิดจากการบังคับใช้มาตรการของรัฐต่อประชาชน
- ให้โรงพยาบาล สถานพยาบาลหรือหน่วยงานที่มีหน้าที่และอำนาจในการป้องกันและดูแลรักษาผู้ป่วยทั้งภาครัฐและเอกชน จัดหายา เวชภัณฑ์ เครื่องมือในการตรวจโรค เครื่องช่วยหายใจและอุปกรณ์อื่นๆ รวมทั้งเตรียมหาบุคลากรทางการแพทย์จากแหล่งต่างๆ และเตรียมสถานที่กักกัน สถานที่คุมไว้สังเกต หรือเตียงเพื่อรองรับผู้ป่วยที่อาจเพิ่มขึ้น

8. มาตรการพึงปฏิบัติสำหรับบุคคลบางประเภท

- ให้กลุ่มคนที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคโควิด-19 ได้ง่ายดังต่อไปนี้ อยู่ในเคหสถานหรือบริเวณสถานที่พำนักของตน เพื่อป้องกันตนเองจากการติดเชื้อ
- ผู้สูงอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป
- กลุ่มคนที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคไม่ติดต่อเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน, โรคความดันโลหิตสูง, โรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง, โรคในระบบทางเดินหายใจ, โรคภูมิแพ้
- กลุ่มเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปีลงมา

9. มาตรการเกี่ยวกับการออกนอกราชอาณาจักร

- ให้กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้มงวดในการตรวจลงตราหรือออกวีซ่าหรืออนุญาตให้ชาวต่างประเทศ ซึ่งมิได้มีกิจการงานปกติหรือถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรยังคงอยู่ในราชอาณาจักร

10. มาตรการดูแลความสงบเรียบร้อย

- ในกรุงเทพฯ ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดเวรยามหรือตั้งจุดตรวจตามถนน เส้นทางคมนาคม สถานีขนส่งหรือโดยสาร เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ การก่ออาชญากรรม

11. มาตรการป้องกันโรค

- ให้มีมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนดเพื่อใช้ปฏิบัติเป็นการทั่วไป หรือใช้ในกรณีผ่อนผัน หรือ ยกเว้นการปฏิบัติตามข้อกำหนด

12. นโยบายการยังคงให้เปิดสถานที่ทำการ

- รัฐบาลมีนโยบายให้โรงพยาบาล สถานพยาบาล คลินิกแพทย์รักษาโรค ร้านขายยา ร้านอาหารในส่วนซึ่งมิใช่สถานบันเทิงหรือสถานบริการและแผงจำหน่ายอาหารซึ่งผู้บริโภคซื้อไปบริโภคนอกสถานที่ ยังคงประกอบกิจการต่อไปได้ตามปกติ เพื่อความสะดวกและความเป็นอยู่ตามปกติของประชาชน

13. คำแนะนำเกี่ยวกับการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด

- ในช่วงเวลานี้ประชาชนพึงงดหรือชะลอการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัดในระยะนี้ โดยไม่จำเป็นและควรพักหรือทำงานอยู่ ณ ที่พำนักของตน

14. คำแนะนำในการจัดกิจกรรมอื่นๆ

- การจัดกิจกรรมหรือพิธีการทางสังคมตามประเพณีนิยม เช่น พิธีมงคลสมรส, พิธีเซ่นไหว้บรรพบุรุษ ยังคงจัดได้ตามความเหมาะสม

15. โทษ

- ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม ข้อ 1, 2, 3, 4, 5, 6 ต้องรับโทษตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548

16. การใช้บังคับ

- ข้อกำหนดนี้ให้ใช้บังคับทั่วราชอาณาจักร รวมทั้งพื้นที่ที่อยู่ระหว่างการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ที่มา #วิทยุและโทรทัศน์รัฐสภา
https://www.thairath.co.th/news/local/1803941

04420/250363

18/06/2019
07/06/2019
08/12/2018

นึกถึงปลาทูอร่อย ตัวอวบอ้วนชวนรับประทาน นึกถึงปลาทูลุงแว่น ปลาทูนึ่ง ปลาทูเค็ม ปลาโอเค็ม ปลาตาโตเค็ม ปลาโอเค็ม สด สะอาด ถูกหลักอนามัย ขายปลีกขายส่ง 0894888815. 0809108815

23/11/2018

นึกถึงปลาทูอร่อยตัวอวบอ้วน ชวนรับประทาน นึกถึงปลาทูลุงแว่น จำหน่ายทั้งปลีก และส่ง มีทั้งปลาทูนึ่ง ปลาโอนึ่ง ปลาทูเค็ม ปลาตาโตเค็ม ปลาโอเค็ม วันนี้หาซื้อรับประทานได้ตามตลาดนัดใกล้บ้านคุณ
เส้นประจันตคาม ตลาดนัดคลองถมประจันตคาม ปิงพลาซ่าบ้านโง้ง สวนรัศมี ตลาดนัดนเรศวร
เส้นนครนายก ตลาดนัด จปร. อบต สาริกา. ตลาดนัดวัดอุดม ตลาดนัดแหลมหิน
เส้นศรีมหาโพธิ์ ตลาดนัดศิลาทอง คลองรั้ง โคกขวาง ยูโร่ ถนนคนเดิน

ที่อยู่

104 หมู่. 1 ต. ไม้เค็ด อ. เมือง จ. ปราจีนบุรี
Prachin Buri
25230

เบอร์โทรศัพท์

+66809108815

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ปลาทูลุงแว่นผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์