𝗛𝗲𝗮𝗹𝘁𝗵 𝗶𝘀 𝗪𝗲𝗮𝗹𝘁𝗵

𝗛𝗲𝗮𝗹𝘁𝗵 𝗶𝘀 𝗪𝗲𝗮𝗹𝘁𝗵 ที่ปรึกษาทางการเงิน และ ประกันชีวิ?

11/08/2025
08/06/2025

คุณไม่ได้ขี้เกียจ…คุณแค่ “หมดโดปามีน” แบบไม่รู้ตัว

มีใครเคยรู้สึกมั้ย?
ตื่นมาก็ยังเหนื่อย…
มีสิ่งที่ต้องทำแต่ไม่มีแรงแม้แต่จะเริ่ม
ความรู้สึกว่า “ไม่มีไฟ” มันไม่ใช่เรื่องจิตใจเสมอไป

ช่วงนี้เบ้นทำงานหนักไปหน่อย แอบรู้สึก เหนื่อยเบาๆ(ที่เริ่มจะไม่เบาแล้ว5555) ก่อนนอนไปนั่งหาคลิปแนว Neuroscience ดูอยากเข้าใจร่างกายเรามากขึ้น จนไปเจอคลิปนี้

[Why You’re Always Tired & Unmotivated! Andrew Huberman/The Diary of a CEO]

Andrew Huberman นักประสาทวิทยาระดับโลกจาก Stanford พูดในคลิปว่า
“การที่คุณรู้สึกเหนื่อย ไม่ใช่เพราะคุณขี้เกียจ
แต่เพราะสมองของคุณกำลังล้าจากการใช้ dopamine เกินขีดจำกัดโดยไม่รู้ตัว”
------------------------------
🧠 เหนื่อยเพราะ "พีคเกิน – พังไว" ทุกครั้งที่คุณ…

ทำงานหนักตลอดวัน ,ใช้คาเฟอีนกระตุ้นตัวเองหลายแก้ว

ดูมือถือทันทีหลังตื่นนอน ,กินของหวานตอนบ่ายเพื่อเอาแรง

สมองของคุณกำลังถูกกระตุ้นให้โดปามีนพุ่งสูง (dopamine peak)
แล้วร่วงลงอย่างแรง (dopamine crash)

นี่ไม่ใช่แค่เหนื่อย…แต่มันคือการหมดไฟแบบลึก จนรู้สึกว่า “ชีวิตไม่มีแรงขับ”
----------------------------
🔄 Andrew แนะนำ [6] วิธี “รีเซ็ตสมอง” ที่ไม่ต้องพึ่งยา ไม่ต้องฝืนใจ

[1] NSDR หรือ Yoga Nidra
หลับตา ฟังเสียงไกด์ ทำ body scan 10-30 นาที

Andrew บอกว่า สามารถเพิ่ม dopamine ได้ถึง 60% แบบธรรมชาติ
(อันนี้เบ้นพึ่งรุ้จักครั้งแรกเลย ว้าวมากก)

[2] ออกไปรับแดดเช้า
แสงธรรมชาติหลังตื่น 5-10 นาที

กระตุ้น cortisol ให้ตื่นตัวทั้งวัน (แม้วันครึ้ม)

[3] พักจากพฤติกรรมเร่งโดปามีน
งดคาเฟอีนเยอะๆ / ของหวาน / เกม / doomscroll 30 วัน

สมองจะกลับมารับรส "ความสุขธรรมดา" ได้อีกครั้ง

[4] กินของจริง ไม่กินของปลอม (Process food กำลังมาแรงเรื่องนี้)
ลดอาหารแปรรูป น้ำตาลสูง

เพิ่มโปรตีน ผัก ผลไม้ ไขมันดี

[5] ขยับตัวทันทีหลังตื่น ยืด เดินสั้นๆ
เดิน ขยับเบาๆ กระตุ้น norepinephrine และ adrenaline

สมองปลุกตัวเองโดยไม่ต้องใช้พลังบังคับ

[6] ดื่มน้ำทันที 16–32 ออนซ์หลังตื่น
เวลาเราเหนื่อยๆลองหาน้ำดื่มตามดู
เพราะสมองเราอ่อนล้าอาจจะแค่เพราะ "ขาดน้ำ"
///////////////////
ข้อควรระวัง ที่ Andrew Huberman บอกว่าเป็นจุดที่ต้องระวังคือ

ถ้าเรายังฝืนใช้ pre-workout เพื่อจะได้ลุกไปยิม
ถ้ายังนั่งเครียดหน้าคอมโดยไม่หยุดพัก
ถ้ายังคิดว่า "ฉันต้องฮึบอีกนิด" ทั้งที่ร่างกายเริ่มพัง

คุณอาจไม่ได้ใช้วินัยสร้างความสำเร็จ
แต่กำลังใช้สารเคมีผลาญชีวิต

Burnout ไม่ได้เกิดจากการทำงานหนัก
แต่มันเกิดจาก "ทำโดยไม่มีการฟื้นตัว"
----------------------------
🎯 สรุปแบบลงดาบ
พลังงานในชีวิต = วงจรของการฟื้น-และ-ใช้
ความล้า และการหมดไฟ ไม่ใช่ศัตรูของคุณ
แต่มันเป็นสัญญาณเตือนว่า คุณลืมเติมพลังให้สมอง

เราต้องเรียนรู้ที่จะ พักให้เป็น พอๆ กับที่เราลงมือทำ
และเมื่อคุณควบคุมวงจร dopamine ได้
คุณจะไม่ต้องวิ่งหนี burnout…เพราะคุณจะไม่เข้าใกล้มันอีกเลย

ผมหวังว่าเรื่องนี้จะช่วยสร้างวันของคุณค้าบบ

01/06/2025

Gen Y–Z เสี่ยงมะเร็งพุ่ง!
พฤติกรรมรายวัน เร่งเชื้อให้โตเร็ว 🦠🚨
งานวิจัยจาก BMJ Oncology ปี 2023 พบว่า อัตรามะเร็งในคนอายุต่ำกว่า 50 ปีทั่วโลก เพิ่มขึ้น 79% ในช่วงปี 1990–2019 โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Y และ Gen Z ที่พบมะเร็งเร็วขึ้นกว่ารุ่นพ่อแม่

⚠ มะเร็งที่พบมากขึ้นในคนรุ่นใหม่
มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก
เสี่ยงเพิ่ม 2 เท่าในคนที่เกิดปี 1990 เทียบกับรุ่นก่อน พฤติกรรมกิน-อยู่มีผลโดยตรง

มะเร็งตับ / ท่อน้ำดี
พบมากในผู้ชายไทย วัย 30 ปีขึ้นไป เสี่ยงจากอาหารดิบ แอลกอฮอล์ และไวรัสตับอักเสบ

มะเร็งเต้านม / ปากมดลูก
พบบ่อยขึ้นในผู้หญิงวัยทำงาน โดยเฉพาะกลุ่มอายุน้อยกว่า 50 ปี

สรุป
มะเร็งไม่ใช่โรคของคนแก่เสมอไปอีกต่อไป วันนี้ Gen Y และ Gen Z กำลังเป็นเป้าหมายใหม่ของโรคร้ายนี้
แต่ข่าวดีคือ... เราลดความเสี่ยงได้ หากเริ่มปรับพฤติกรรมตั้งแต่วันนี้
🙏🏻ขอบคุณข้อมูลจาก BMJ oncology
ข้อมูลเพิ่มเติม https://bit.ly/44KHuDW
#ชีวิตติดรีวิว #ชีวิตติดโปร

23/05/2025

🌪️ รู้จัก "ภาวะเครียดออกซิเดชั่น"
(Oxidative Stress)
ภัยจาก 'อนุมูลอิสระ' ที่ทำร้ายสุขภาพ

หลายคนอาจไม่เคยได้ยินคำว่า "ภาวะเครียดออกซิเดชั่น" หรือ Oxidative Stress (ออกซิเดทีฟ สเตรส) มาก่อน แต่อันที่จริงแล้วมันเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่เกี่ยวข้องกับ “ความเสื่อมของเซลล์” และเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาสุขภาพหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นโรคเบาหวาน หัวใจ มะเร็ง ไปจนถึงโรคทางสมองอย่างอัลไซเมอร์ และพาร์กินสัน 😰

ถ้าคุณกำลังหาวิธีดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากโรคเรื้อรัง และยืดอายุเซลล์ให้แข็งแรง วันนี้เรามาเข้าใจเจ้า “ออกซิเดทีฟ สเตรส” ไปด้วยกันค่ะ พร้อมทั้งแนวทางง่ายๆ ที่สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันค่ะ 💚

🔬 Oxidative Stress คืออะไร?
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า ร่างกายของเราสร้าง “อนุมูลอิสระ” (Free Radicals) ขึ้นเองจากกระบวนการเผาผลาญพลังงานเพื่อให้เราใช้ชีวิตได้ปกติ แต่ในขณะเดียวกัน “อนุมูลอิสระ” ก็เหมือน "เศษขยะระดับเซลล์" ที่มีความไม่สมดุลทางโครงสร้าง มันจะพยายามแย่งอิเล็กตรอนจากเซลล์ดีๆ เพื่อเติมเต็มตัวเอง

เมื่อร่างกายมีอนุมูลอิสระมากเกินไป จนสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกายรับมือไม่ไหว จะเกิดเป็นภาวะที่เรียกว่า "Oxidative Stress" ซึ่งกระตุ้นให้เกิด
▪️ การอักเสบในระดับเซลล์
▪️ การทำลายโปรตีน และ DNA
▪️ การเสื่อมสภาพของเยื่อหุ้มเซลล์
▪️ ความผิดปกติของระบบภายในร่างกาย

ภาวะนี้ถ้าเกิดขึ้นต่อเนื่องนานๆ ก็จะเป็นจุดเริ่มต้นของโรคร้ายแรงต่างๆ นั่นเองค่ะ และสิ่งที่น่ากังวลคือ ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิด Oxidative Stress นั้นมาจากสิ่งรอบตัวที่เราเผชิญในทุกวัน เช่น
▪️ ควันบุหรี่ และมลพิษในอากาศ
▪️ แสงแดดและรังสียูวี
▪️ อาหารแปรรูป น้ำตาลสูง และไขมันทรานส์
▪️ สารเคมีจากเครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด
▪️ ความเครียดสะสม
▪️ การพักผ่อนไม่เพียงพอ

🧬 Oxidative Stress มีผลต่อร่างกายอย่างไร?
เมื่อร่างกายเกิด Oxidative Stress บ่อยครั้งจนสะสม จะนำไปสู่โรคเรื้อรังหลายอย่างที่เราอาจคาดไม่ถึง เช่น
▪️ โรคเบาหวานและภาวะแทรกซ้อน
▪️ ความดันโลหิตสูง
▪️ หลอดเลือดตีบ
▪️ โรคหัวใจ
▪️ มะเร็งหลายชนิด
▪️ โรคสมองเสื่อม เช่น อัลไซเมอร์ และพาร์กินสัน
▪️ ผิวพรรณเสื่อมโทรม แก่ก่อนวัย
นอกจากนี้ยังมีการศึกษาพบว่า Oxidative Stress มีความเกี่ยวข้องกับการเกิด โรคหลอดเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis) และอาจเป็นกลไกเบื้องหลังของภาวะเสื่อมอื่นๆ ที่เราไม่ทันได้สังเกต เช่น ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ หรือการซ่อมแซมร่างกายที่ช้าลง

💪 วิธีรับมือกับ Oxidative Stress
1️⃣ หยุดพฤติกรรมเสี่ยงที่สร้างอนุมูลอิสระ
เริ่มต้นจากการลดหรือหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เรารู้ว่าไม่ดีต่อร่างกาย เช่น
▪️ งดสูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงควันบุหรี่
▪️ ดื่มแอลกอฮอล์ให้น้อยลง
▪️ เลี่ยงอาหารทอด อาหารแปรรูป น้ำตาลสูง และไขมันไม่ดี
▪️ หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเคมีโดยไม่จำเป็น
▪️ ใช้ครีมกันแดดและหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด
▪️ หมั่นสวมหน้ากากอนามัยหรือติดตั้งเครื่องฟอกอากาศในบ้านเพื่อลดมลพิษ

2️⃣ เติมสารต้านอนุมูลอิสระให้เพียงพอ
สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) คือฮีโร่ที่ช่วย “หยุดวงจรความเสียหายของเซลล์” โดยสามารถพบได้จากอาหารที่เราทานเป็นประจำ เช่น
▪️ วิตามิน C – ฝรั่ง ส้ม มะขามป้อม
▪️ วิตามิน E – ถั่ว น้ำมันมะกอก
▪️ วิตามิน A และ B – ไข่แดง ตับ เมล็ดพืช
▪️ สังกะสี (Zinc) – อาหารทะเล ถั่วเมล็ดแห้ง
▪️ ลูทีน – ผักใบเขียวเข้ม เช่น คะน้า ผักโขม
▪️ เบต้าแคโรทีน – แครอท ฟักทอง ผักใบเขียว
▪️ ไลโคปีน – มะเขือเทศ แตงโม
▪️ ฟลาโวนอยด์และโพลีฟีนอล – ดาร์กช็อกโกแลต ชาเขียว องุ่นแดง เบอร์รี่
▪️ สมุนไพร – กระเทียม หอมใหญ่ ขิง
หรือให้หมั่นเลือกทานผักและผลไม้หลากสีทุกวัน เป็นวิธีที่ง่ายและปลอดภัยที่สุดในการเสริมสารต้านอนุมูลอิสระให้เพียงพอในแต่ละวันค่ะ

3️⃣ ปรับไลฟ์สไตล์ให้ส่งเสริมสุขภาพ
▪️ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง
▪️ พักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 7-8 ชั่วโมง
▪️ ฝึกจัดการความเครียด เช่น ทำสมาธิ โยคะ เดินเล่นในธรรมชาติ
▪️ ดื่มน้ำสะอาดวันละ 6-8 แก้ว
▪️ หลีกเลี่ยงการนอนดึก หรือทำงานหนักติดต่อกันนานๆ
▪️ อยู่ใกล้ธรรมชาติ หรือหาเวลาทำสิ่งที่ตัวเองรัก เพื่อเติมพลังใจให้สมดุล

จะเห็นได้ว่า แม้ Oxidative Stress จะเป็นกระบวนการตามธรรมชาติของร่างกาย แต่เราสามารถจัดการและควบคุมมันได้ด้วย “การปรับไลฟ์สไตล์” ทั้งการกิน นอน ออกกำลังกาย และการจัดการอารมณ์ เพราะเมื่อเซลล์แข็งแรงจากภายใน เราก็จะมีสุขภาพที่ดีขึ้นและลดความเสี่ยงโรคเรื้อรังได้เป็นอย่างมากค่ะ 💚

อ้างอิง:
https://www.pobpad.com/oxidative-stress-ตัวการของปัญหาสุขภาพ
http://www.medi.co.th/news_detail71.php?q_id=1121

#ภาวะเครียด ิถีชีวิตที่ยั่งยืน

16/05/2025
📌
07/04/2025

📌

ในฐานะเป็นหมอสูติ มา 17 ปี ขอแวะมาเตือนอีก 5 ข้อ📌

1. ตรวจให้รู้ ไม่มีอาการ แค่ “เฝ้าดู” อย่านอยด์!! เพราะในชีวิตมีเรื่องอื่นให้เครียด ให้กังวล มากกว่าเรื่องเนื้องอก ติดเชื้อ HPV อีกเยอะ!!

เครียด ภูมิจะตก เชื้อจะไม่หาย!! นอยด์มากเครียดมากกับเนื้องอก (ทั้งที่โอกาสมะเร็งมันน้อยมาก) ระวังจะเป็นมะเร็งจริงๆ!!

เครียด ภูมิตก มันเพิ่มมะเร็ง!! และอาจจะไม่ใช่แค่มะเร็งที่มดลูกด้วย ภูมิตก “เพิ่มมะเร็งทั้งร่าง” !!! 😱

2. ตรวจเจอโรค จะรักษา ไม่รักษา ผ่าไม่ผ่า เราเลือกได้!! มนุษย์คือ “ผู้เลือก“ ทุกคนมีความคิด มึความเชื่อของตัวเอง ชีวิตชั้นชั้นเลือกเอง ชั้นรู้จักตัวเองดีสุด!! แต่ แค่ต้องรู้จักธรรมชาติของโรคที่เป็น อย่างถ่องแท้!! และ “ยอมรับผล” ที่คุณเป็นผู้เลือกเองแล้ว🔥

3. และหลายครั้ง บางคนพูดว่า “ รู้งี๊ ” เลือกรักษามาตั้งนานแล้ว ที่ผ่านมา ทนปวดจะเป็นจะตาย ลางานตลอด เพื่อ!!?? กลัวกินยาฮอร์โมน เพราะกลัวมันก่อมะเร็ง กลัวนู่นนี่มาตั้งนาน !!

รู้เอาไว้ ถ้าคุณเลือกหมอรักษาที่คุณไว้ใจแล้ว เชื่อเถอะ เค้าไม่มีทางสั่งยาที่อันตราย ที่มันจะก่อมะเร็ง ให้คนไข้ของเค้า!! ทุกคนรักษาใช้ยาอ้างอิงตามงานวิจัย!!📌

4. และหลายคนที่ปวดจะเป็นจะตาย เมนส์ท่วมจนเลือดจาง ใช้ยาไม่ได้ผล จนเพลีย ง่วง ไร้เรี่ยวแรง ไร้พลังชีวิต สมองเบลอตลอด

ผ่าเสร็จ จับมือบอกหมอ “มันแค่นี้เองเหรอหมอ” รู้งี๊ “หนูผ่ามานานแล้ว” 😂

5. ประโยคที่ว่า หมอผู้หญิง ตรวจเจ็บกว่าหมอผู้ชาย!! ไม่เป็นความจริงค่ะ 55555 หมอออยืนยัน!! มันขึ้นกับตรวจกับใคร!! และขึ้นกับคุณด้วย!! บางคนหนีบเกร็ง ตรวจยังไงก็เจ็บที่รัก!! หรือถ้าคุณมีโรคอยู่ โดยเฉพาะ อักเสบ พังผืด เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ตรวจเสร็จ ยังไงก็ปวด จริงงงง!!

#ร๊ากกกกกกก♥️
#หมอออ

💊
23/03/2025

💊

😵‍💫🧠มองกลางคืนไม่ค่อยชัด ผมร่วงเป็นกอบเป็นกำ ปวดหัว ปวดเมื่อย เหนื่อยล้าไม่หาย… ถ้ามีอาการแบบนี้ อาจไม่ใช่แค่เหนื่อย แต่ร่างกายอาจกำลัง “ขาดวิตามิน” อยู่ก็ได้นะ! และถ้าปล่อยไว้นาน ๆ อาจส่งผลต่อสุขภาพระยะยาวได้ ลองเช็กตัวเองหน่อย! กินอาหารเสริมวิตามินให้ครบ หรือถ้าไม่แน่ใจ ปรึกษาคุณหมอไว้ก่อนก็ดี 🩺💙

อ้างอิงข้อมูล
https://bit.ly/41eFJg7
https://bit.ly/4gzVgvm

#ตัวตึง
#ตาพร่า #ผมร่วง #ปวดเมื่อย #ผิวแห้ง #เป็นผื่น #ขาดวิตามิน #วิตามินเสริม

📌
18/03/2025

📌

09/03/2025

🗺️สรุปแผนผังสมองจุดที่เสียหายจากโรคซึมเศร้า พร้อมกับแสดงให้เห็นด้วยค่ะว่า จุดนั้นใช้สารสื่อประสาทอะไร

สมองไม่ใช่ถังใส่สารสื่อประสาทว่าอะไรสูงอะไรต่ำ แต่สมองคือถนนที่ยั้วเยี้ยดั่งถนนกรุงเทพ แต่ละถนนใช้สารสื่อประสาทไม่เหมือนกันค่ะ

และนี่คือตำแหน่งมีการเสียหายในโรคซึมเศร้า และจะกลับมาถ้าได้รับการรักษา ไล่จากซ้ายไปขวาตามภาพ

1️⃣ PFC (Prefrontal cortex) - สมองส่วนตรรกะ ตัดสินใจ ยับยั้งยั่งชั่งใจ

สารประสาทที่ต่ำลง: Serotonin(S), Noradrenaline(N) , Dopamine(D)

ผล: เสียความสามารถในการจดจ่อ, รู้สึกไร้กำลังในการทำอะไร, อารมณ์เศร้า, รู้สึกไร้ค่า อยากติดสินใจจบชีวิต

____________________

2️⃣ BF - Basal forebrain: ประสานงานช่วยเรื่องการจดจ่อ, การเรียนรูั, ตื่นตัว, อารมณ์

สารประสาทที่ต่ำลง: N, S, D, Acetylcholine (จุดเด่นของตำแหน่งนี้)

ผล: เสริมจุดอื่น - ความจำแย่ลง, จดจ่อน้อยลง, ความกระฉับกระเฉงลดลง

____________________

3️⃣ S (Striatum) + NA (Nucleus accumbens) - ศูนย์ความสนใจ และความสุขจากทำสิ่งที่ชอบ

สารประสาทที่ต่ำลง: S, D (Dopamine เป็นตัวหลัก)

ผล: ตัวหลักในการเกิดภาวะสิ้นยินดี (Anhedonia), เลิกสนใจสิ่งที่ชอบทำ (Loss of interest), รู้สึกอ่อนเพลีย กำลังเชิงกายภาพลดลงจริงๆ

____________________

4️⃣ A - Amygdala - ศูนย์แปลผล/รับรู้เรื่องอารมณ์ โดยเฉพาะอารมณ์เชิงลบ

สารประสาทที่ต่ำลง: N, S, D

ผล: ตัวหลักในการเกิดอารมณ์เศร้า (Depressive mood), รู้สึกไร้ค่า, เพิ่มความรู้สึกอยากปลิดชีพตัวเอง

____________________

5️⃣ H - Hypothalamus: ดูแลเรื่องสัญชาตญาณ การหิว/อิ่ม, หลับตื่น

สารประสาทที่ต่ำลง: N, S, D

ผล: ตัวหลักในการเกิดการนอนไม่หลับ หรือหลับมากขึ้น, ทำให้หิวมากขึ้น (มักมาตอนอาการคงที่), หิวน้อยลงจนไม่อยากกินอะไร (ช่วงกำเริบรุนแรง)

____________________

6️⃣ T - Thalamus: ศูนย์ประสานงานวงจรทั้งสมอง

สารประสาทที่ต่ำลง: N, S, D

ผล: เสริมความรุนแรงส่วนอื่นๆ

____________________

7️⃣ NT - Neurotransmitter center: ศูนย์วงจรระบบเซลล์ประสาทที่สร้างสารสื่อประสาทจำเพาะ เช่น

ศูนย์ Serotonin (Raphe nucleus)
ศูนย์ Noradrenaline (Locus ceruleus)
ศูนย์ Dopamine (Ventral tegmentum area)

ผล: เสริมอาการข้ออื่นๆ หรืออาจจะมองเป็นต้นตอของอาการในข้ออื่นก็ได้ค่ะ เพราะจริงๆ มันเป็นจุดต้นกำเนิดของเซลล์ประสาท ให้ใยประสาทไปกระตุ้นส่วนข้างบนหลายจุด

____________________

8️⃣ C - Cerebellum: ศูนย์ปนะสานงานการเคลือนไหว

สารประสาทที่ต่ำลง: N, S

ผล: อาการอ่อนล้า ไม่มีแรงในการทำอะไร

____________________

ดังนั้นโรคซึมเศร้า มันไม่ใช่แค่อารมณ์เศร้า แต่หลายจุดในสมองนั้นพังจริง เซลล์ประสาทแต่ละจุด สร้างสารสื่อประสาทได้น้อยลง อาการเลยเกิดสารพัด

แต่แต่ละคนเกิดแต่ละจุดไม่เท่ากันค่ะ ที่เหมือนกันคือ หากรักษาบริหารสุขภาพจิตโดยนักจิตบำบัด และกินยาสม่ำเสมอ เซลล์ประสาทจะกลับมาแตกแขนงใหม่ และทำงานได้เหมือนเดิม

เป็นกำลังใจให้ค่ะ

ที่อยู่

Rangsit
12130

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ 𝗛𝗲𝗮𝗹𝘁𝗵 𝗶𝘀 𝗪𝗲𝗮𝗹𝘁𝗵ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram