พัทธ์ศรัณย์ คลินิก

พัทธ์ศรัณย์ คลินิก ตรวจรักษาโรคทางตา ต้อเนื้อ ต้อลม ต้อกระจก ต้อหิน เบาหวานขึ้นตา ตรวจวัดสายตาประกอบแว่นโดยจักษุแพทย์

ตรวจรักษาโรคตา ตาแดง ตากุ้งยิง ต้อเนื้อ ต้อกระจก ต้อหิน เบาหวานขึ้นตา ตรวจวัดสายตาประกอบแว่นโดยจักษุแพทย์

08/09/2021

แจ้งทุกท่านทราบ

พัทธ์ศรัณย์คลินิก ปิดทำการ วันที่ 8 กันยายน 2564
ถึง วันที่ 12 กันยายน 2564

เปิดทำการ วันที่ 15 กันยายน 2564

#พัทธ์ศรัณย์คลินิก

20/08/2021

แจ้งทุกท่านทราบ

พัทธ์ศรัณย์คลินิก ปิดทำการ วันที่ 21 สิงหาคม 2564
ถึง วันที่ 22 สิงหาคม 2564

เปิดทำการ วันที่ 25 สิงหาคม 2564

#พัทธ์ศรัณย์คลินิก

07/08/2021

แจ้งทุกท่านทราบ

พัทธ์ศรัณย์คลินิก ปิดทำการ วันที่ 7 สิงหาคม 2564
ถึง วันที่ 8 สิงหาคม 2564

เปิดทำการ วันที่ 11 สิงหาคม 2564

#พัทธ์ศรัณย์คลินิก

23/07/2021

แจ้งทุกท่านทราบ

พัทธ์ศรัณย์คลินิก ปิดทำการ วันที่ 24 กรกฎาคม 2564
ถึง วันที่ 28 กรกฎาคม 2564

เปิดทำการ วันที่ 29 กรกฎาคม 2564

#พัทธ์ศรัณย์คลินิก

03/06/2021

แจ้งทุกท่านทราบ

พัทธ์ศรัณย์คลินิก ปิดทำการ วันที่ 3 มิถุนายน 2564
ถึง วันที่ 6 มิถุนายน 2564

เปิดทำการ วันที่ 9 มิถุนายน 2564

#พัทธ์ศรัณย์คลินิก

08/05/2021

แจ้งทุกท่านทราบ

พัทธ์ศรัณย์คลินิก ปิดทำการ วันที่ 8 พฤษภาคม 2564
ถึง วันที่ 9 พฤษภาคม 2564

เปิดทำการ วันที่ 12 พฤษภาคม 3564

#พัทธ์ศรัณย์คลินิก

เมื่อลูกมีปัญหาสายตาสาเหตุหลักของสายตาสั้นเกิดจากกรรมพันธุ์ ยิ่งถ้าทั้งคุณพ่อและคุณแม่มีสายตาสั้นด้วยแล้ว ลูกยิ่งมีโอกาส...
27/03/2021

เมื่อลูกมีปัญหาสายตา

สาเหตุหลักของสายตาสั้นเกิดจากกรรมพันธุ์ ยิ่งถ้าทั้งคุณพ่อและคุณแม่มีสายตาสั้นด้วยแล้ว ลูกยิ่งมีโอกาสมากขึ้นที่จะมีปัญหาสายตาเช่นกัน ปัจจุบัน โรงเรียนส่วนใหญ่เริ่มให้ความสำคัญกับปัญหาสายตาในเด็กเล็ก บางแห่งมีการวัดสายตาให้เด็ก ซึ่งมีประโยชน์มาก ทำให้เราทราบปัญหาแต่เนิ่นๆ อาการที่บ่งบอกว่าเด็กเริ่มมีสายตาผิดปกติ เช่น ชอบหยีตาเวลามองกระดาน ต้องเข้าไปดูใกล้ๆ บางคนจดงานผิดเป็นประจำ อาการเหล่านี้เป็นการเตือนผู้ปกครองว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องพาลูกไปตรวจสายตากับจักษุแพทย์ โดยเฉพาะจักษุแพทย์ที่ชำนาญเฉพาะทางเด็กก็จะยิ่งดี

สมัยก่อนคุณพ่อคุณแม่หลายท่านไม่นิยมให้ลูกใส่แว่น เพราะมีความเข้าใจผิดๆ ว่าการใส่แว่นสายตา จะทำให้สายตาสั้นเพิ่มเร็วขึ้น บางคนสายตาสั้นตั้งแต่เด็กๆ ก็พยายามฝืนไม่ใส่แว่นจนทนไม่ไหว มาใส่อีกทีตอนวัยรุ่น ถือว่าใส่แว่นช้าเกินไป ทำให้มีโอกาสเกิดภาวะที่เรียกว่า ตาขี้เกียจ

ภาวะตาขี้เกียจ(Lazy eye) ทางการแพทย์มีศัพท์เฉพาะว่า “Amblyopia” ภาวะนี้หมายถึง ความชัดเต็มที่ในการมองเห็นของตาข้างหนึ่ง จะด้อยกว่าอีกข้างหนึ่ง แม้จะแก้ไขด้วยการใส่แว่นหรือคอนแทคเลนส์แล้วก็ตาม สาเหตุของภาวะนี้เกิดจากการที่มีสายตาผิดปกติ ไม่ว่าจะสั้น ยาว หรือเอียง แล้วไม่ได้รับการแก้ไขด้วยการใส่แว่นตาก่อนอายุ 9 ปี ทำให้พัฒนาการของระบบการรับภาพไม่สมบูรณ์ หากมาแก้ไขหลังจากอายุ 9 ปีไปแล้ว จะเป็นการช้าเกินไป

จึงเรียนขอฝากทุกท่านว่า หากบุตรหลานของท่านเริ่มมีปัญหาสายตา ก็ให้เขาใส่แว่นเถอะค่ะ เพื่อป้องกันภาวะตาขี้เกียจ และประการสำคัญ ควรเข้ารับการตรวจสุขภาพตาเป็นประจำทุกปี

ที่มา : https://www.filtechenterprise.com/17028631

นัดหมายแพทย์เฉพาะทางเพื่อตรวจสุขภาพตาได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 094-5495-469

การตรวจสุขภาพตาประจำปี จำเป็นจริงหรือ??การมองเห็น เป็นการรับรู้ที่สำคัญที่สุดของมนุษย์ การที่คนเราได้รับทราบข่าวสารความเ...
20/03/2021

การตรวจสุขภาพตาประจำปี จำเป็นจริงหรือ??

การมองเห็น เป็นการรับรู้ที่สำคัญที่สุดของมนุษย์ การที่คนเราได้รับทราบข่าวสารความเป็นไปต่างๆที่เกิดขึ้นในโลกส่วนใหญ่เกิดจากการมองเห็นผ่านดวงตาของเรานั่นเอง ดวงตายังเป็นอวัยวะที่เป็นตัวบ่งบอก หรือช่วยให้แพทย์ทราบได้ว่า ท่านมีสุขภาพร่างกายเป็นปกติหรือไม่ เมื่อเข้ารับการตรวจสุขภาพตา จักษุแพทย์จะสามารถตรวจพบอาการเริ่มต้นของโรคที่อาจจะเกิดขึ้น อาทิ ต้อหิน, ต้อกระจก, เบาหวาน ,ความดันโลหิตสูง ทั้งนี้ แพทย์จะพิจารณาถึงปัจจัยอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการรักษา ได้แก่ สภาพเส้นเลือด, ระบบการหายของแผล , รวมถึงสุขภาพทางกายโดยรวม

การเข้ารับการตรวจสุขภาพตาประจำปี ยิ่งเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับเด็กๆ ซึ่งอยู่ในวัยที่มีการเรียนรู้ การปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมต่างๆรอบตัว ในขณะที่การมองเห็นมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เด็กๆ ควรเข้ารับการตรวจสุขภาพตาเมื่ออายุครบ 6 เดือน , 3 ปี และทุกๆปีหลังจากเริ่มเข้าเรียน เพื่อให้มั่นใจว่า การพัฒนาด้านการมองเห็นของเราเป็นไปอย่างปกติ ปัญหาการหรือความยากลำบากในการมองเห็น ไม่เพียงทำให้ความสามารถในการเรียนรู้เป็นไปอย่างเชื่องช้า และยังส่งผลต่อการทำกิจกรรมและทักษะทางสังคมอีกด้วย

ดวงตาของท่านมีการเปลี่ยนแปลงตลอดชีวิตก็ว่าได้ และการเปลี่ยนแปลงบางอย่างอาจเกิดขึ้นโดยที่ท่านอาจไม่ทันรู้ตัว แต่สามาถก่อให้เกิดปัญหาต่างๆตามมาภายหลังได้ หากไม่ได้รับการตรวจพบตั้งแต่เนิ่นๆ

ที่มา : https://www.filtechenterprise.com/17014742

นัดหมายแพทย์เฉพาะทางเพื่อตรวจสุขภาพตาได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 094-5495-469

26/02/2021

แจ้งทุกท่านทราบ

พัทธ์ศรัณย์คลินิก ปิดทำการ วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2564
ถึง วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564

เปิดทำการ วันที่ 3 มีนาคม 2564

#พัทธ์ศรัณย์คลินิก

11/02/2021

แจ้งทุกท่านทราบ

พัทธ์ศรัณย์คลินิก ปิดทำการ วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564
ถึง วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2564

เปิดทำการ วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564

#พัทธ์ศรัณย์คลินิก

สารปนเปื้อนต่อดวงตาหากท่านเป็นผู้ชื่นชอบการว่ายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นในสระว่ายน้ำหรือในทะเล ดวงตาของท่านจะต้องสัมผัสโดยตรงกับน...
17/01/2021

สารปนเปื้อนต่อดวงตา

หากท่านเป็นผู้ชื่นชอบการว่ายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นในสระว่ายน้ำหรือในทะเล ดวงตาของท่านจะต้องสัมผัสโดยตรงกับน้ำซึ่งอาจสะอาดหรือสกปรกก็ได้ หากท่านมั่นใจว่าน้ำสะอาดก็ไม่จำเป็นต้องเป็นกังวลอะไร อย่างไรก็ตามหากน้ำไม่สะอาด หรือมีการปนเปื้อนด้วยสารใดๆ ก็ตามหรือท่านมีอาการระคายเคืองตา วิธีที่แก้ปัญหาที่ดี่สุด คือ การลืมตาในน้ำสะอาด หรือล้างตาด้วยน้ำสะอาด ยิ่งท่านสามารถล้างสารปนเปื้อนออกจากดวงตาได้เร็วเท่าไร และมากเท่าไร ดวงตาของท่านก็จะได้รับอันตรายน้อยลงเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เมื่อท่านทำตามขั้นตอนดังกล่าวแล้วยังมีอาการระคายเคืองตาอยู่ หรือมีอาการพร่ามัว ควรไปพบจักษุแพทย์โดยทันที

การล้างตา

ดวงตาเป็นอวัยวะที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องสัมผัสกับ ฝุ่น ควัน และแสงแดด ซึ่งมักก่อให้เกิดอาการคัน ระคายเคืองและแสบตา เพื่อบรรเทาอาการเหล่านี้ คนส่วนใหญ่จะใช้น้ำยาล้างตาซึ่งอ้างสรรพคุณว่าสามารถล้างฝุ่นผงออกจากดวงตาได้

ในความเป็นจริงแล้ว การล้างตาไม่ใช้สิ่งจำเป็นเนื่องจากดวงตาของเราผลิตน้ำตาตามธรรมชาติ เพื่อป้องกันและหล่อลื่นดวงตา ซึ่งน้ำตาจะชะล้างเอาวัตถุแปลกปลอม และเศษผงออกจากดวงตา และช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันดวงตาจากเชื้อโรค การใช้น้ำยาล้างตาเป็นประจำอย่างต่อเนื่องจะทำให้ดวงตาสูญเสียสิ่งเหล่านี้ไป และไม่ทำให้สุขภาพตาดีขึ้นแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม หากรู้สึกเหมือนมีอะไรอยู่ในตา อาจจะใช้น้ำสะอาดล้าง ตาได้ แต่หากมีวัตถุแปลกปลอมหรือสารเคมีเข้าตา ควรไปพบจักษุแพทย์ทันที

ที่มา :: http://www.lasikthai.com/cms.php?ref=do:read/id:56

นัดหมายแพทย์เฉพาะทางเพื่อตรวจสุขภาพตาได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 094-5495-469

คอมพิวเตอร์เป็นสาเหตุของโรควุ้นตาเสื่อม ได้อย่างไร         โดยปกติแล้วสายตาจะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามอายุ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ป...
09/01/2021

คอมพิวเตอร์เป็นสาเหตุของโรควุ้นตาเสื่อม ได้อย่างไร

โดยปกติแล้วสายตาจะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามอายุ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 40 ปี ขึ้นไป ยกเว้นผู้ที่เพ่งสายตามากๆ และใช้ติดต่อกันครั้งละนานๆ เช่น ช่างเจียระไนเพชรพลอย อาจมีโอกาสเกิดเร็วขึ้น แต่ในระยะหลังกลับพบโรคนี้ในวัยหนุ่มสาวคนทำงานออฟฟิศกันมากขึ้นจนน่าตกใจ เรียกได้ว่า โรควุ้นในตาเสื่อม เป็นหนึ่งในโรค Office syndrome และยังมีคนอีกจำนวนไม่น้อยจากหลากหลายอาชีพที่เป็นโรคนี้ และยังเกิดก่อนวัยอันควรอีกด้วย โดยมีสาเหตุมาจากการใช้สายตามากเกินไป หรือเพ่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน โทรศัพท์มือถือ รวมถึงการดูโทรทัศน์ด้วย ซึ่งการเพ่งสายตาติดต่อกันเป็นเวลานานๆ ไม่ว่าจะเพื่อการทำงาน การศึกษา ความบันเทิง เล่นอินเตอร์เน็ต สืบค้นข้อมูล อ่านข้อมูลบนจอ แชต เล่นไลน์ หรือเล่นเกมก็ตามจะก่อให้เกิดปัญหากับดวงตาทั้งสิ้น หากมีการใช้งานอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ ก็จะทำให้สายตาเสียและนำไปสู่ “โรควุ้นตาเสื่อม” รวมทั้งพฤติกรรมและวิธีการใช้งานดังนี้

1. การเพ่งหน้าจอคอมพิวเตอร์นานเกินไป ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม เล่นเน็ต อ่านไดอารี่ อ่านบทความ อ่านหนังสือ หรืออ่านอะไรก็ตามที่อยู่บนจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นการมองตัวหนังสือที่แขวนลอยอยู่บนจอ เพราะตัวหนังสือบนจอคอมพิวเตอร์นั้นมีลักษณะเป็นจุดๆ ประกอบกัน ขอบของตัวหนังสือไม่ชัด โฟกัสไม่แน่นอน สมองจะสับสนในการปรับระยะโฟกัส กล้ามเนื้อลูกตาต้องทำงานหนัก

2. การเลื่อนตัวหนังสือและแถบบรรทัด จะต้องใช้เมาส์คลิ้ก ลากแถบด้านข้างเพื่อเลื่อนบรรทัดขึ้นลง โดยมีลักษณะการเลื่อนแบบกระตุกๆ

3. การก้มๆ เงยๆ มองแป้นพิมพ์ และมองจอคอมพิวเตอร์กลับไปกลับมาลูกตาปรับโฟกัสบ่อยเกินไป

4. การปรับจอภาพที่มีแสงสว่างจ้าเกินไปโดยไม่รู้ตัว เช่น การเปิดโปรแกรม Word ในการทำพิมพ์เอกสาร ตัวหนังสือจะเป็นสีดำ และพื้นเป็นสีขาว สีพื้นที่สว่างนี้เอง หากใช้งานติดต่อเป็นเวลานานจะทำให้ตาเกิดอาการแพ้แสง ซึ่งมีอาการคล้ายๆ กับการเปิดทีวีดูในห้องมืดๆ เป็นประจำ

5. การใช้จอภาพคอมพิวเตอร์ที่มีความกว้างมากเกินไป ซึ่งสายตาคนเรานั้นมีระยะการมองตัวอักษร ที่ 1ฟุต (12นิ้ว) แต่จอคอมพิวเตอร์สมัยใหม่กลับมีความกว้าง 17 นิ้ว, 19 นิ้ว หรือมากกว่านั้นซึ่งมีขนาดกว้างเกินระยะกวาดสายตาที่ต้องมองจากขอบหนึ่งไปสู่อีกขอบหนึ่ง การอ่านหนังสือบนจอเพียง 1 ชั่วโมง ลูกตาจะต้องทำงานปรับโฟกัส กลับไปกลับมา เป็นพันๆ ครั้ง หากใช้งานติดต่อกันนานๆ ก็จะทำให้สายตาเสียได้

การป้องกัน
1. ไม่ควรใช้สายตาจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็นเวลานาน ควรพักสายตาประมาณ 15 – 20 นาที ต่อการใช้งาน 1 – 2 ชั่วโมง
2. ไม่ควรอ่านหนังสือผ่านจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ควรอ่านจากแผ่นกระดาษ ระยะห่างระหว่างลูกตากับตัวหนังสือ จะคงที่แน่นอน ขอบตัวหนังสือคมชัดทำให้สมองกะระยะโฟกัสได้ถูกต้องแน่นอน กล้ามเนื้อและประสาทจะได้ทำงานคงที่
3. ต้องหมั่นสังเกตอาการของโรคและระวังตัวเองอยู่เสมอ หากมีอาการผิดปกติให้พบจักษุแพทย์ทันที

ที่มา : https://www.ops.go.th/main/index.php/knowledge-base/article-pr/413-2017-09-04-03-43-22

นัดหมายแพทย์เฉพาะทางเพื่อตรวจสุขภาพตาได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 094-5495-469

ที่อยู่

168 อาคารพาณิชย์ หมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี ถนนรังสิต-ปทุมธานี ต. ประชาธิปัตย์ อ. ธัญบุรี
Rangsit
12130

เวลาทำการ

พุธ 16:00 - 20:00
พฤหัสบดี 16:00 - 20:00
ศุกร์ 16:00 - 20:00
เสาร์ 09:00 - 20:00
อาทิตย์ 10:00 - 20:00

เบอร์โทรศัพท์

02-9584259

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ พัทธ์ศรัณย์ คลินิกผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram