24/09/2025
📌 ว่าด้วยเรื่อง “แสง” กับ “ไมโตคอนเดรีย”‼️
การจะเข้าใจว่า “ไมโทคอนเดรียต้องการแสงแดดช่วงไหน” ต้องมองไปที่ cytochrome c oxidase (Complex IV) ซึ่งเป็นโปรตีนหลักใน electron transport chain (ETC) ของไมโทคอนเดรีย
จากงานวิจัย photobiomodulation บอกตรงกันว่า:
________________________________________
🌈 Light Spectrum ที่กระตุ้น Cytochrome ในไมโทคอนเดรีย
1. Red Light (620–680 nm)
o Cytochrome c oxidase มี chromophore ที่ดูดซับช่วงแสงแดงได้ดี
o ช่วยกระตุ้นการปลดปล่อยไนตริกออกไซด์ (NO) ออกจากเอนไซม์ → เปิดทางให้ออกซิเจนเข้ามาจับได้มากขึ้น
o ผลคือ: เพิ่ม electron transport → เพิ่มการสร้าง ATP
2. Near-Infrared (NIR, 800–1000 nm)
o เจาะลึกเข้าสู่เนื้อเยื่อได้มากกว่าแสงแดง
o ทำงานกับ copper center ของ cytochrome c oxidase
o ลด oxidative stress, กระตุ้น biophotons และช่วยให้ mitochondrial membrane potential ฟื้นตัว
3. Blue Light (450–480 nm) (ควรใช้ “ช่วงเช้า = พอดี”)
o Blue light ตอนเช้าเข้าตาผ่าน OPN4 (melanopsin) และ OPN5 (neuropsin) → ตั้ง circadian rhythm
o มีบทบาทต่อ POMC pathway และฮอร์โมน แต่ถ้าได้รับมากเกินไป (โดยเฉพาะจากจอมือถือ/LED กลางคืน) → ทำลายไมโทคอนเดรียแทน
4. UV (280–315 nm: UVB)
o ไม่ได้กระตุ้น cytochrome ตรง ๆ แต่กระตุ้น การสร้างวิตามิน D + nitric oxide + endorphin ที่ downstream ไปช่วย ETC
o UV ยังช่วย restructuring น้ำรอบ ๆ ไมโทคอนเดรีย (EZ water) → โปรตอน flow ดีขึ้น
________________________________________
🔗 เชื่อมโยงกับ Cytochrome Complex IV
• Cytochrome c oxidase มี heme a และ heme a3 + copper centers ที่ทำหน้าที่เป็น chromophores → ดูดซับ red และ near-infrared ได้ตรง ๆ
• ผลคือเพิ่ม electron tunneling → ลดการรั่วไหลของอิเล็กตรอน (ลด ROS) → เพิ่ม ATP
• งานวิจัยเรียกว่า photobiomodulation หรือ low-level light therapy (LLLT)
________________________________________
✅ สรุปสั้น ๆ
• Red (620–680 nm) → กระตุ้น ETC โดยตรง
• Near-Infrared (800–1000 nm) → เจาะลึกถึงไมโทคอนเดรีย ฟื้น membrane potential
• Blue (450–480 nm) → ใช้เป็นสัญญาณ circadian ผ่านตา
• UVB (280–315 nm) → ช่วยวิตามิน D, nitric oxide, EZ water → indirect support
________________________________________
✨ ภาพรวม :
“ไมโทคอนเดรียไม่ได้ต้องการอาหารเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องการ ‘โค้ดจากแสง’ — โดยเฉพาะแสงแดงและอินฟราเรดที่ปลุกให้ cytochrome c oxidase เดินเครื่องเต็มกำลัง แสงเช้าและ UVB เป็นเหมือนสวิตช์ตั้งเวลา ส่วน red/NIR คือเชื้อเพลิงตรงที่เข้าไปเติมพลังให้โรงไฟฟ้าชีวิต”