หมอผดุงศักดิ์ ฝากครรภ์ MFM ระยอง

หมอผดุงศักดิ์ ฝากครรภ์ MFM ระยอง ข้อมูลการติดต่อ, แผนที่และเส้นทาง,แบบฟอร์มการติดต่อ,เวลาเปิดและปิด, การบริการ,การให้คะแนนความพอใจในการบริการ,รูปภาพทั้งหมด,วิดีโอทั้งหมดและข่าวสารจาก หมอผดุงศักดิ์ ฝากครรภ์ MFM ระยอง, คลินิกสำหรับมารดา, ถ.สุขุมวิท ตรงข้ามโรงเรียนวัดป่าประดู่, Rayong.

เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ (MFM)
บริการฝากครรภ์ ดูแลระหว่างตั้งครรภ์และหลังคลอด ให้คำปรึกษา ตรวจคัดกรองความผิดปกติของโครโมโซมทารก เจาะเลือด เจาะน้ำคร่ำ ฉีดวัคซีน ตรวจภายใน
อัลตราซาวด์ดูความสมบูรณ์ทางโครงสร้าง สุขภาพทารก ดูภาพ 3 มิติและ4มิติ

26/08/2025
17/08/2025

เมื่อเข้าสู่ระยะเจ็บครรภ์คลอด ปากมดลูกจะค่อย ๆ เปิดจากศูนย์ไปจนถึงสิบเซนติเมตรเพื่อให้ทารกผ่านออกมาได้ การตรวจภายในทำให้นิ้วมือสามารถกะประมาณขนาดของการเปิดได้ โดยแต่ละระยะมีลักษณะเฉพาะดังนี้

1 เซนติเมตร
ปากมดลูกเพิ่งเริ่มเปิด สามารถสอดปลายนิ้วเดียวเข้าไปได้เพียงเล็กน้อย ยังถือว่าเป็นระยะเริ่มต้นของการเจ็บครรภ์ (latent phase)

2 เซนติเมตร
การเปิดมากขึ้นจนพอสอดนิ้วสองนิ้วเข้าได้ แต่ยังเบียดกันแน่น ถือว่ายังอยู่ในระยะเจ็บครรภ์ระยะแฝง

3 เซนติเมตร
ปากมดลูกเปิดกว้างขึ้นจนใส่นิ้วสองนิ้วได้สะดวกขึ้น แต่กางออกได้ไม่มากนัก ในบางแนวทางถือเป็นจุดเริ่มของ active phase แล้ว

4 เซนติเมตร
นิ้วสองนิ้วสามารถกางออกได้พอสมควร แสดงว่าปากมดลูกเริ่มเข้าสู่ระยะที่จะเปิดเพิ่มเร็วขึ้นอย่างชัดเจน

5 เซนติเมตร
สองนิ้วสามารถกางออกได้เต็มที่ เท่ากับความกว้างของนิ้วชี้และนิ้วกลาง ระยะนี้เป็นช่วง active phase ที่การเปิดจะก้าวหน้าเร็วขึ้น

6 เซนติเมตร
การเปิดกว้างเกินกว่าการกางนิ้วสองนิ้วสุด ๆ ต้องอาศัยการกะด้วยประสบการณ์ ระยะนี้บ่งบอกว่าการคลอดก้าวหน้าไปมาก

7 เซนติเมตร
ช่องเปิดกว้างชัดเจนเกินสองนิ้วและมากกว่าครึ่งของการเปิดทั้งหมด อยู่ในช่วง active phase ปลาย ๆ ทารกเริ่มเคลื่อนต่ำลงมา

8 เซนติเมตร
ปากมดลูกเปิดกว้างมาก เกือบเต็มรอบวง เหลือเพียงขอบบาง ๆ เป็นระยะ transition phase ใกล้เข้าสู่การเบ่งคลอด

9 เซนติเมตร
เกือบเปิดหมด เหลือเพียงขอบเล็ก ๆ รอบศีรษะทารก ระยะนี้มักเจ็บถี่และรุนแรง เป็นช่วงสุดท้ายก่อนเข้าสู่การเบ่ง

10 เซนติเมตร
ปากมดลูกเปิดหมด ไม่มีขอบเหลือแล้ว ถือว่า fully dilated ทารกพร้อมเคลื่อนผ่านช่องคลอดเข้าสู่ระยะเบ่ง

•••••••••

เมื่อตรวจเสร็จ ไม่น่ามีหมอหรือพยาบาลเอานิ้วไปทาบกับไม้บรรทัดครับ #เป็นการประมาณ จากประสบการณ์และฝึกกางนิ้วกับปากมดลูกจำลองครับ

คำแนะนำสำหรับการกินธาตุเหล็กเสริมระหว่างตั้งครรภ์ครับ
13/08/2025

คำแนะนำสำหรับการกินธาตุเหล็กเสริมระหว่างตั้งครรภ์ครับ

สรุปเวลาที่ดีที่สุดในการกินยาบำรุงเลือด (ธาตุเหล็ก) สำหรับคนท้อง



1. เวลาที่ควรกิน
• ตอนท้องว่าง (เช่น ก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง หรือหลังอาหารอย่างน้อย 2 ชั่วโมง) จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีที่สุด
• หากกินตอนท้องว่างแล้วมีอาการคลื่นไส้ อาจปรับเป็น หลังกินอาหารเบาๆ เพื่อช่วยลดอาการข้างเคียง



2. สิ่งที่ช่วยเพิ่มการดูดซึม
• กินร่วมกับ วิตามินซี เช่น น้ำส้ม น้ำฝรั่ง หรือผลไม้รสเปรี้ยว
• ดื่มน้ำตามมากพอ เพื่อป้องกันอาการท้องผูก



3. สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงในช่วงใกล้เวลากินยา
• นมและผลิตภัณฑ์นม (แคลเซียมขัดขวางการดูดซึม)
• ชา กาแฟ น้ำอัดลม (แทนนินและคาเฟอีนลดการดูดซึม)
• อาหารที่มีไฟเบอร์สูงในปริมาณมากทันทีหลังทานยา



4. เคล็ดลับปฏิบัติจริงสำหรับคนท้อง
• ตัวเลือกที่ 1 (เหมาะกับคนไม่แพ้ท้องมาก): กินทันทีหลังตื่นนอน กับน้ำส้ม หรือน้ำเปล่า + วิตามินซี แล้วรอ 1 ชั่วโมงค่อยกินมื้อเช้า
• ตัวเลือกที่ 2 (เหมาะกับคนแพ้ท้อง): กินก่อนนอน หลังอาหารเย็นอย่างน้อย 2 ชั่วโมง เพื่อให้ท้องว่างและลดโอกาสคลื่นไส้

08/08/2025

คลินิกปิดวันที่ 11 สิงหาคม 2568
ขออภัยในความไม่สะดวก

📌📌ทำไมหญิงตั้งครรภ์ต้องกินโฟลิค📌📌💊Folate คือ คำที่ใช้เรียกทั้งโฟเลต(Folate)ที่มีอยู่ในอาหารตามธรรมชาติ และกรดโฟลิค(Folic...
01/08/2025

📌📌ทำไมหญิงตั้งครรภ์ต้องกินโฟลิค📌📌

💊Folate คือ คำที่ใช้เรียกทั้งโฟเลต(Folate)ที่มีอยู่ในอาหารตามธรรมชาติ และกรดโฟลิค(Folic acid)ที่อยู่ในรูปแบบของวิตามินเสริม

😊โฟเลตมีความสำคัญในการสร้างกรดนิวคลีอิค เม็ดเลือดแดง และช่วยเสริมสร้างการพัฒนาของตัวอ่อนและรก หากหญิงตั้งครรภ์มีภาวะพร่องกรดโฟลิคจะเป็นสาเหตุทำให้ทารกเกิดภาวะหลอดประสาทไม่ปิด(Neural tube defects, NTDs) และความพิการแต่กำเนิดอื่นๆของทารกตามมาได้

📌ดังนั้น ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์ของอเมริกา (ACOG) แนะนำว่า ผู้หญิงที่วางแผนจะตั้งครรภ์ควรได้รับกรดโฟลิค 400 ไมโครกรัมต่อวัน 1เดือนก่อนการตั้งครรภ์และกินต่อจนถึงอายุครรภ์ 12 สัปดาห์ เพื่อลดความเสี่ยงการเกิด NTDs

📌หากหญิงตั้งครรภ์ที่เคยมีบุตรเป็น NTD มาแล้วจัดเป็นกลุ่มความเสี่ยงสูง ควรกินกรดโฟลิคเพิ่มเป็น 4 มิลลิกรัมต่อวัน เป็นเวลา 3 เดือนก่อนการตั้งครรภ์และกินต่อเนื่องจนอายุครรภ์ 12 สัปดาห์ โดยจะลดความเสี่ยงลงได้ร้อยละ 70
📌โฟลิคที่ในรูปแบบอาหารเสริมที่มีขายทั่วไป ส่วนใหญ่จะมีโฟลิคไม่เกิน 800 ไมโครกรัมซึ่งเพียงพอต่อหญิงที่วางแผนตั้งครรภ์ แต่จะไม่เพียงพอต่อกลุ่มความเสี่ยงสูง

ติดต่อสอบถาม
โทร. 061-921-9899
Line id: pdclinic899
https://maps.app.goo.gl/rrY8SzodhHhTaVt27...
https://www.facebook.com/share/1CMiKsu8xV/?mibextid=wwXIfr

26/07/2025

คลินิกปิดวันที่ 28 ก.ค.

ขออภัยในความไม่สะดวก

📌📌อัลตราซาวด์ไตรมาส 2 หมอซาวด์ดูอะไรบ้าง📌📌ISUOG practice guidelines ปี 2022 แนะนำการตรวจดังนี้ประเมินอายุครรภ์และน้ำหนัก...
19/07/2025

📌📌อัลตราซาวด์ไตรมาส 2 หมอซาวด์ดูอะไรบ้าง📌📌

ISUOG practice guidelines ปี 2022 แนะนำการตรวจดังนี้

ประเมินอายุครรภ์และน้ำหนักทารก โดยวัด BPD – ขนาดความกว้างศีรษะ, HC – เส้นรอบวงศีรษะ, AC – เส้นรอบท้อง, FL – ความยาวกระดูกต้นขา

😁😁Anatomical survey โครงสร้างและอวัยวะของทารก

• ศีรษะและสมอง - ขนาด รูปร่าง ความสมบูรณ์ และ ความหนาแน่นของกระดูก ,cavum septi pellucidi, choroid plexus, midline falx, thalami, lateral ventricle, cerebellum, cisterna magna, nuchal fold
• ใบหน้า - ตาทั้ง2ข้าง กระดูกสันจมูก ริมฝีปากบน
• คอ - ไม่มีก้อน เช่น cystic hygroma
• ทรวงอกและหัวใจ - ขนาด ตำแหน่ง การบีบตัว จังหวะการเต้นของหัวใจ หัวใจ 4 ห้อง ทางเปิดของหัวใจไปเส้นเลือดต่างๆ ไม่มีใส้เลื่อนกระบังลม
• ท้อง – กระเพาะอาหารอยู่ด้านซ้าย ไม่มีลำไส้ขยายตัว ถุงน้ำดีอยู่ทางด้านขวา มีไต 2 ข้าง ลักษณะกระเพาะปัสสาวะ ลักษณะสายสะดือที่ต่อเข้าช่องท้อง
• โครงกระดูก – กระดูกสันหลังไม่มีรอยแหว่งหรือรูเปิด ไม่มีก้อน มีแขนมือ มีขาเท้า และข้อต่อต่างๆอยู่ในลักษณะปกติ
• รก – ตำแหน่งรก มีรกเกาะใกล้ปากมดลูก(รกเกาะต่ำ)หรือไม่
• สายสะดือ – มีเส้นเลือด 3 เส้น (เลือดแดง 2 เส้น เลือดดำ 1 เส้น)
• เพศ - ลักษณะปกติของเพศชายและหญิง
• ปากมดลูก - วัดความยาวปากมดลูก

📌โดยการอัลตราซาวด์จะมีรายละเอียดในแต่ละอวัยวะอีกซึ่งต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและความชำนาญในการวัดอย่างมาก

📌ดังนั้น การอัลตราซาวด์ในช่วงไตรมาส 2 นี้มีความสำคัญมาก จึงต้องใช้เวลาอัลตราซาวด์ต่อครั้งค่อนข้างนานเพราะมีปัจจัยหลายอย่างที่อาจทำให้เห็นอวัยวะนั้นไม่ชัด เช่น ทารกคว่ำตัวอาจทำให้เห็นโครงสร้างหัวใจไม่ชัด เป็นต้น

ติดต่อสอบถาม
โทร. 061-921-9899
Line id: pdclinic899
https://maps.app.goo.gl/rrY8SzodhHhTaVt27...
https://www.facebook.com/share/1CMiKsu8xV/?mibextid=wwXIfr

หญิงตั้งครรภ์มีความเสี่ยงหลายอย่างหมอขอชื่นชมและเป็นกำลังใจให้คุณแม่ทุกท่านครับ
12/07/2025

หญิงตั้งครรภ์มีความเสี่ยงหลายอย่าง

หมอขอชื่นชมและเป็นกำลังใจให้คุณแม่ทุกท่านครับ

🩸 “ทุกการคลอดมีความเสี่ยงตายที่ต้องจ่าย” — ความจริงที่ไม่มีใครอยากได้ยิน

“แค่คลอดลูก จะตายได้ยังไง?”
หลายคนอาจเคยคิดแบบนี้ เพราะการคลอดดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้ทุกวัน
แต่ความจริงคือ ทุกครั้งที่ผู้หญิงคนหนึ่งขึ้นเตียงคลอด คือการเอาชีวิตไปวางไว้บนความเสี่ยง
หนึ่งในภัยเงียบที่รุนแรงและฉับพลันที่สุดก็คือ ภาวะน้ำคร่ำอุดตันในปอด หรือ Amniotic Fluid Embolism (AFE)

😰 AFE คืออะไร?

AFE คือภาวะที่ “เศษน้ำคร่ำ” — ซึ่งอาจมีชิ้นส่วนเซลล์ของทารก เยื่อบุ ขนอ่อน หรือไขมันจากน้ำคร่ำ — หลุดเข้าสู่กระแสเลือดของแม่ แล้วไปกระตุ้นปฏิกิริยารุนแรงในร่างกาย บางครั้งก็ไปอุดหลอดเลือดในปอดโดยตรง
ภายในไม่กี่นาที คุณแม่อาจหายใจไม่ออก ความดันตก หัวใจหยุดเต้น เลือดออกไม่หยุด และเสียชีวิตทันทีบนเตียงคลอด

📉 เกิดบ่อยไหม?

แม้จะหายากมาก — ประมาณ 1 ใน 40,000 ถึง 60,000 การคลอด — แต่ความรุนแรงของมันคือสิ่งที่ทำให้ AFE เป็น “ฝันร้ายขั้นสุดของการคลอด”
อัตราการเสียชีวิตของแม่สูงถึง 30–60% และคนที่รอดชีวิตก็มีโอกาสสูงที่จะมีภาวะแทรกซ้อนทางสมองหรือระบบไหลเวียนโลหิต

AFE คือเหตุการณ์ที่เกิดเร็ว ไม่เตือนล่วงหน้า และไม่มีใครคาดเดาได้
คุณแม่บางคนเพิ่งยิ้มถ่ายรูปรอเจอลูก แต่กลับกลายเป็นร่างไร้วิญญาณในเวลาไม่ถึงสิบนาที

⚠️ อะไรทำให้เสี่ยง?

ถึงแม้ยังไม่สามารถอธิบายสาเหตุที่ชัดเจนได้ 100% แต่มีปัจจัยที่พบร่วมบ่อย เช่น:
• คุณแม่อายุมากกว่า 35 ปี
• การเร่งคลอดหรือกระตุ้นมดลูก
• ภาวะแทรกซ้อนของรก เช่น รกลอกตัวก่อนกำหนด
• การคลอดแฝด หรือทารกตัวใหญ่
• การผ่าคลอดหรือคลอดที่มีแผลฉีกขาดมาก

แต่ที่น่ากลัวคือ… AFE ก็สามารถเกิดได้ แม้ในคุณแม่ที่ไม่มีปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้เลย

🛡️ ป้องกันได้ไหม?

คำตอบคือ… ยังไม่มีวิธีป้องกันโดยตรง
เพราะไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าใครจะเป็น และจะเกิดเมื่อไร
สิ่งเดียวที่ช่วยได้คือ ระบบแพทย์ที่พร้อมรับมือทันที — มีทีมช่วยชีวิต มี ICU มีธนาคารเลือด มีทีมวิสัญญี และมีการสื่อสารที่รวดเร็วแม่นยำ

🚨 ถ้าเป็นขึ้นมาแล้วจะเป็นยังไง?

มันคือสถานการณ์ “นาทีเป็นนาทีตาย”
คุณแม่อาจเริ่มรู้สึกหายใจไม่ออก ความดันตก หน้าซีด ตัวเย็น แล้วหมดสติ
บางรายหัวใจหยุดเต้นทันที ต้องทำ CPR
หากหัวใจกลับมาแล้ว ยังต้องเจอกับปัญหาเลือดออกไม่หยุดจากภาวะ DIC
และแม้จะรอด… ก็อาจมีภาวะสมองขาดออกซิเจนที่ส่งผลถาวร

🤰🏻 เราในฐานะคนรอบตัวควรทำอะไร?
• เคารพและเข้าใจว่า “การคลอดลูกคือภารกิจเสี่ยงชีวิต ไม่ใช่เรื่องธรรมดา”
• เลือกสถานพยาบาลที่มีความพร้อมรับมือเหตุฉุกเฉิน
• สนับสนุนระบบสาธารณสุขที่มีคุณภาพ และบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ
• อย่ามองข้ามความเหนื่อย ความเสี่ยง และภาระที่ผู้หญิงต้องเผชิญเมื่อตั้งครรภ์และคลอดลูก

🧠 เรื่องนี้ ไม่ใช่เพื่อให้คุณกลัว แต่เพื่อให้คุณ “รู้” ว่าชีวิตผู้หญิงทุกคนที่กำลังคลอดลูก…มีค่า และต้องการระบบที่พร้อมดูแลทุกลมหายใจ

“เพราะบางครั้ง การได้ยินเสียงร้องแรกของลูก อาจต้องแลกกับเสียงหายใจสุดท้ายของคนที่เพิ่งเป็นแม่…” ครับ

08/07/2025

สิ่งที่คุณแม่ควรรู้ก่อนตัดสินใจตรวจ NIPT

ในยุคที่เทคโนโลยีทางการแพทย์ล้ำหน้า การตรวจคัดกรองพันธุกรรมของทารกในครรภ์โดยไม่ต้องเจาะถุงน้ำคร่ำ หรือที่เรียกว่า NIPT (Non-Invasive Prenatal Testing) เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุณแม่หลายคนสนใจ เพราะตรวจจาก เลือดของแม่เพียงเล็กน้อย แต่สามารถให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับสุขภาพทางพันธุกรรมของลูกน้อยได้

แต่ก่อนตัดสินใจตรวจ NIPT คุณแม่ควรทำความเข้าใจหลายเรื่องให้ชัดเจน ทั้งเรื่องของ “ตรวจอะไรได้บ้าง” “ตรวจแม่นยำแค่ไหน” “ตรวจได้เมื่อไหร่” และ “ตรวจแล้วต้องทำอะไรต่อ” เพื่อให้การตัดสินใจเป็นไปอย่างเหมาะสม

••••••••

NIPT ตรวจหาอะไรได้บ้าง?

NIPT ออกแบบมาเพื่อตรวจหา ความผิดปกติของจำนวนโครโมโซมหลัก ๆ ที่พบได้บ่อยในทารก ได้แก่
• กลุ่มอาการดาวน์ (Trisomy 21)
• Trisomy 18 (Edwards syndrome)
• Trisomy 13 (Patau syndrome)

นอกจากนี้ แพ็กเกจบางรายการยังสามารถตรวจโครโมโซมเพศ (X, Y) และความผิดปกติที่เกิดจากการขาดหายของชิ้นส่วนเล็ก ๆ ของโครโมโซม (microdeletions) ได้อีกด้วย เช่น DiGeorge syndrome หรือ Cri-du-chat syndrome (แต่ในส่วนที่บริการฟรีนี้เชื่อว่ายังไม่มีการตรวจเพิ่มเติมฟรีในกลุ่ม microdeletions นะครับ)

อย่างไรก็ตาม NIPT ไม่สามารถตรวจหาทุกโรคหรือความผิดปกติทางพันธุกรรมได้ทั้งหมด และมีข้อจำกัดที่ควรทราบ เช่น
• ไม่สามารถตรวจหากลุ่มอาการ ออทิสติก (Autism Spectrum Disorder) ได้
• ไม่สามารถตรวจหาความผิดปกติของ พัฒนาการทางสมองหรือสติปัญญา ในทุกๆอย่างได้
• ไม่สามารถตรวจหาโรคเลือด เช่น ธาลัสซีเมีย ได้ในการบริการปัจจุบันเพราะต้องแยกตรวจต่างหากโดยการตรวจเลือดพ่อแม่

••••••••

ความแม่นยำของการตรวจ NIPT

การตรวจ NIPT มีความแม่นยำสูงมาก โดยเฉพาะในโรคที่เกี่ยวกับจำนวนโครโมโซมผิดปกติ เช่น
• ความแม่นยำในการตรวจ Trisomy 21 (ดาวน์ซินโดรม) สูงกว่า 99%
• Trisomy 18 และ 13 มีความแม่นยำประมาณ 90–97%

แต่ถึงแม้จะมีความแม่นยำสูง NIPT ก็ยังไม่ใช่การวินิจฉัย (diagnostic test) หากผลตรวจออกมาว่าผิดปกติ แพทย์จะพิจารณาแนะนำให้คุณแม่ ยืนยันผลด้วยการเจาะน้ำคร่ำหรือเก็บเนื้อเยื่อจากรก เพื่อให้ได้ผลที่แน่นอนก่อนตัดสินใจเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ครับ

••••••••

ตรวจ NIPT ได้เมื่อไหร่?

NIPT สามารถเริ่มตรวจได้ตั้งแต่อายุครรภ์ 10 สัปดาห์ขึ้นไป เพราะช่วงนี้ cfDNA จากทารกจะเริ่มมีปริมาณมากพอในเลือดคนท้องให้วิเคราะห์ได้อย่างแม่นยำ

การตรวจเร็วเกินไป (ก่อน 10 สัปดาห์) อาจทำให้ได้ผลที่ไม่สามารถวิเคราะห์ได้ชัดเจน (เรียกว่า “no-call”) ซึ่งต้องตรวจซ้ำ ดังนั้นอย่ารีบร้อนนะครับ รอให้อายุครรภ์เหมาะสมก่อนครับ

••••••••

ใครบ้างที่อาจได้ผลตรวจที่ไม่แม่นยำ?

แม้การตรวจจะปลอดภัยและให้ผลแม่นยำสูง แต่ก็มีบางปัจจัยที่อาจทำให้ผลตรวจ NIPT ไม่ชัดเจนหรือคลาดเคลื่อนได้ เช่น
• คุณแม่ที่มี น้ำหนักตัวมาก (BMI สูง) อาจมี cfDNA จากทารกในกระแสเลือดต่ำกว่าปกติ
• ตั้งครรภ์แฝด โดยเฉพาะแฝดต่างเพศ อาจทำให้การวิเคราะห์สับสน การตั้งครรภ์แฝดที่ตัวอ่อนหยุดเติบโตก็อาจทำให้ผลไม่แม่นได้
• คนท้องเคยได้รับการ ปลูกถ่ายอวัยวะหรือปลูกถ่ายสเต็มเซลล์
• เคยเป็นหรือกำลังเป็นหรือกำลังรักษา โรคมะเร็งบางชนิด
• เพิ่งได้รับ การให้เลือดหรือผลิตภัณฑ์เลือดจากผู้อื่น

ในกรณีเหล่านี้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนตรวจ เพราะอาจจำเป็นต้องเลือกวิธีอื่นที่แม่นยำกว่า เช่น การเจาะน้ำคร่ำครับ

••••••••

ต้องตรวจ NIPT ทุกคนหรือไม่?

NIPT เป็น “การตรวจคัดกรองระดับสูง” (advanced screening) แนะนำให้ทำกับคนท้องที่มีโอกาสและหลังการคุยอย่างเข้าใจถึงข้อดีข้อจำกัดในทุกคนก่อนตัดสินใจเสมอ

สรุป: NIPT เหมาะกับใคร และควรตรวจหรือไม่?

NIPT เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคุณแม่ที่ต้องการตรวจคัดกรองความผิดปกติของโครโมโซมในครรภ์โดยไม่เสี่ยงกับการเจาะน้ำคร่ำ แต่ต้องเข้าใจว่า:

• ไม่ได้ตรวจได้ทุกโรค
• ไม่ได้ตรวจโครโมโซมทุกคู่ และไม่ได้ตรวจลึกลงไปในทุกตำแหน่งของ gene การตรวจนี้เป็นการตรวจร่องรอยของ cell free DNA ของรกที่เข้ามาวนเวียบในเลือดคนท้อง บางกรณีรกที่ผิดปกติเด็กในท้องอาจไม่ได้ผิดปกติด้วยก็ได้นะ
• ไม่ได้แทนการตรวจธาลัสซีเมีย อัลตราซาวด์ หรือการตรวจวินิจฉัย
• หากผลผิดปกติ ต้องตรวจยืนยันต่อก่อนตัดสินใจทำอะไรต่อกับการตั้งท้อง

••••••••

ฝากช่วยกันส่งข่าวดีเรื่อง “บริการฟรี” ที่กำลังจะมา และช่วยกันประชาสัมพันธ์ถึงข้อดีและข้อจำกัดเหล่านี้ล่วงหน้ากันนะครับ

เป็นเรื่องดีกว่าไม่ได้ตรวจอะไรเลย แต่การตรวจนี้ไม่ได้แทนทุกอย่างและยังบอกอะไรไม่ได้อีกหลายๆอย่างครับ

เวลาทำการคลินิก เดือนกรกฎาคมจันทร์ - ศุกร์ เวลา 16.40 - 20.00 น.เสาร์ เวลา 9.00-15.00 น.ปิดวันอาทิตย์*****ปิดวันที่ 10 แ...
01/07/2025

เวลาทำการคลินิก เดือนกรกฎาคม
จันทร์ - ศุกร์ เวลา 16.40 - 20.00 น.
เสาร์ เวลา 9.00-15.00 น.
ปิดวันอาทิตย์
*****ปิดวันที่ 10 และ 11 กรกฎาคม*****

ติดต่อสอบถาม
โทร. 061-921-9899
Line id: pdclinic899
https://maps.app.goo.gl/rrY8SzodhHhTaVt27...
https://www.facebook.com/share/1CMiKsu8xV/?mibextid=wwXIfr

ที่อยู่

ถ.สุขุมวิท ตรงข้ามโรงเรียนวัดป่าประดู่
Rayong
21000

เวลาทำการ

จันทร์ 16:40 - 20:00
อังคาร 16:40 - 20:00
พุธ 16:40 - 20:00
พฤหัสบดี 16:40 - 20:00
ศุกร์ 16:40 - 20:00
เสาร์ 09:00 - 15:00

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ หมอผดุงศักดิ์ ฝากครรภ์ MFM ระยองผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram