หมอยุ้ยเลสิค-เลนส์เสริม-ต้อกระจก

หมอยุ้ยเลสิค-เลนส์เสริม-ต้อกระจก LASIK, ICL, cataract, pterygium(ต้อเนื้อ), โรคกระจกตา โดยหมอกระจกตา พญ. วัธนีย์ ศรีพวาทกุล (หมอยุ้ย)

02/11/2025

ขมิบตาทำยังไง

อย่าเผลอพูดผิดนะ หมอตาต๊กกะใจ 😳
ขยิบ หรือกระพริบ ได้ แต่ไม่ต้องขมิบไปด้วย

Radial keratotomy (RK) รุ่นพี่ของเลสิก ที่ไม่ได้ไปต่อ คนไข้อายุ 75 มาปรึกษาเรื่องเคืองตา 1 สัปดาห์ แต่หมอเห็นว่าตามัวเยอ...
02/11/2025

Radial keratotomy (RK)

รุ่นพี่ของเลสิก ที่ไม่ได้ไปต่อ

คนไข้อายุ 75 มาปรึกษาเรื่องเคืองตา 1 สัปดาห์ แต่หมอเห็นว่าตามัวเยอะจัง (VA 20/200) ค่าสายตาจากใบวัดแว่น auto ขึ้นยาวเอียงเยอะ ความโค้งกระจกตาแบนแบบคนสายตาสั้นเยอะทำเลสิกไปแล้ว

รวมๆแล้วรู้สึกแปลกๆ


ตรวจตาปุ๊บ หายสงสัย

ตาคนไข้สองข้างมีแผลกรีดกระจกตาแบบ RK 8 แฉก (ปกติแล้วเห็นแต่ในหนังสือเรียน)

RK เป็นวิธีผ่าตัดแก้ไขสายตาที่โด่งดังในช่วงปีคศ 1990 คิดค้นโดยหมอตาชาวรัสเซีย มีทำในไทยช่วงหนึ่งด้วย

หลักคิดคือ กรีดกระจกตาเพื่อให้ความโค้งของกระจกตาแบนลง แก้ไขสายตาสั้นได้


แรกเริ่ม คงไม่ได้มีคุณหมอท่านไหนคิดถึงว่าลองกรีดกระจกตาดูดีกว่า น่าจะแก้สายตาสั้นได้ แต่เริ่มมาจากมีคนไข้อุบัติเหตุโดนกระจกบาดที่ตาแล้ว เกิดเป็นแผลเป็นที่กระจกตา

หลังแผลกระจกตาหายคนไข้มองเห็นชัดขึ้น สายตาสั้นที่เคยมีหายไป หมอตาที่ตรวจเลยได้ไอเดียคิดต่อ เป็นการกรีดกระจกตา ลองกรีดหลายๆแบบ จนได้แบบที่ให้ผลดี คือกรีดตามแนวรัศมี


วิธีทำคือ ใช้ใบมีดแบบที่กำหนดความลึกได้ กรีดกระจกตาลึก 90% ของความหนา (ลึกเกือบทะลุ) กรีดในแนวรัศมี เป็นแฉกไปถึงรอยต่อระหว่างกระจกตากับตาขาว(limbus) เว้นตรงกลาง

จำนวนแฉกมีตั้งแต่ 4-24 แฉก (😳) ที่เจอบ่อยคือ 6 และ 8 แฉก

หมอเองไม่เคยเจอแบบ 24 แฉก คิดแล้วก็เสียว กระจกตาอ่อนแอพร้อมปริออกแน่นอน

สมัยนั้น คงมีว่าสายตาสั้นเท่านี้ กรีดกี่เส้น ค่าสายตาจะเหลือเท่าไหร่ เป็น 0 เลยเปล่า


แต่ผลระยะยาว ค่าสายตาไม่คงที่ กระจกตาที่อ่อนแอ แบนลงไปเรื่อยๆ

จากสายตาสั้น หลังทำเป็นใกล้ 0 ตรวจติดตามต่อกลายเป็นยาว (ที่ไม่ใช่ยาวตามวัย) แม้เพิ่งทำไปไม่กี่ปี มีเอียงเพิ่มด้วย แสงกระจายตอนกลางคืนก็เยอะ เพราะความโค้งกระจกตาผิดรูป

ยังไม่พอ บางวันคนไข้ก็มองชัด บางวันก็มัว (fluctuation of vision)


และก็ถึงยุคของการพัฒนา excimer laser เกิดเป็นเลสิกขึ้นพอดี

เลสิกทำให้กระจกตาแบนลงเหมือนกัน แต่ไม่ได้ผ่านการกรีด (incisional surgery) แต่เป็นการเจียรด้วยเลเซอร์ excimer (tissue ablation) แม่นยำกว่า ผลคาดการณ์ได้ ผลระยะยาวปลอดภัย

RK เลยไม่ได้ไปต่อ ด้วยเหตุนี้

>

สรุปให้เป็น medical term หน่อย

Long term outcome of RK
1 progressive hyperopic shift
2 vision fluctuation
3 glares and halo
4 visual acuity loss

>

LASIK เริ่มมีช่วงปี คศ 1990 จนถึงปัจจุบัน (version พัฒนาขึ้น ทั้งความเร็ว ความปลอดภัย ความแม่นยำ) นับแล้วก็ 35 ปี น่าจะเป็นข้อพิสูจน์ว่าของเค้าดีจริง ไม่งั้นคงไม่มีใครทำต่อ แบบพี่ RK เป็นตัวอย่าง

>

เคสคนไข้หมอ สรุปว่าเคืองตาจากแผลถลอกกระจกตา มีขนตาล่างม้วนเข้าในสองข้าง มีต้อกระจกเยอะด้วย มารพ ทีเดียว หมอวินิจฉัยโรคกลับไปให้เยอะเลย


เพราะอยากให้ทุกคนมีสุขภาพตาดี มองเห็นชัดเจน

หมอยุ้ย

ในรูป หมอนับเส้นแผลที่กระจกตาให้ เผื่อมองไม่ชัด และดูค่าสายตา ยาวเอียงเยอะเลย โดยเฉพาะข้างซ้าย

คนไข้บอกทำผ่าตัดนี้มาหลายสิบปีก่อนแถวสยาม สมัยนั้นยังไม่มีเลสิกเลยหมอ

สายตาสั้นเท่านี้ ไม่ใส่แว่นมองชัดระยะไหน รู้ไปทำไมอ่ะหมอ ถ้าสายตาสั้นอยู่ก็น่ารู้นะ ไม่แน่ อ่านจบแล้วมีบางคนลองถอดแว่นแล...
01/11/2025

สายตาสั้นเท่านี้ ไม่ใส่แว่นมองชัดระยะไหน

รู้ไปทำไมอ่ะหมอ

ถ้าสายตาสั้นอยู่ก็น่ารู้นะ
ไม่แน่ อ่านจบแล้วมีบางคนลองถอดแว่นแล้วหาไม้บรรทัดมาทาบวัดเลยว่าเป็นตามที่หมอบอกหรือเปล่า

>

คนที่ไม่มีค่าสายตา มองได้ชัดตั้งแต่ระยะไกล ส่วนระยะที่ใกล้เข้ามา อาศัยการเพ่ง ซึ่งระยะมองใกล้ที่สบายตาอยู่ที่ประมาณ​ 25 ซม ห่างจากตา

แต่คนสายตาสั้นนั้น มองไกลไม่ชัด ต้องเอาของมาวางไว้ใกล้หน่อยถึงมองเห็น

แล้วใกล้หน่อยของสายตาสั้นแต่ละค่า ไม่เท่ากัน

คิดง่ายๆจากสูตรนี้

F (focal length) = 1/P (power of lens in diopter)

ฟิสิกส์เรื่องเลนส์และการหักเหแสงอีกแล้ว

เช่น

สายตาสั้น 100 มองระยะประมาณ 1 เมตร ชัด
สายตาสั้น 200 มองระยะประมาณ 50 ซม ชัด
สายตาสั้น 250 มองระยะประมาณ 40 ซม ชัด
สายตาสั้น 300 มองระยะประมาณ 33 ซม ชัด
สายตาสั้น 400 มองระยะประมาณ 25 ซม ชัด
สายตาสั้น 500 มองระยะประมาณ 20 ซม ชัด


หมอเองก็ไม่เคยคิดว่าฟิสิกส์ม ปลาย จะได้ใช้เยอะขนาดนี้
เรียนเรื่องนี้เยอะในบทของค่าสายตาผิดปกติ แว่นตา คอนแทคเลนส์ เลสิก เลนส์แก้วตาเทียมนี่แหละ


รูปอธิบายใน comment
รูป (a) เวลาคนสายตาสั้นมองไกล ไม่ชัด เพราะแสงตกที่ก่อนถึงจอตา (retina)
ถ้าอยากมองชัด ต้องเอาของที่อยากมองมาวางไว้ที่ จุด F ในรูป (b) ถึงมองเห็น ซึ่งระยะนี้คำนวณได้ตามสูตรข้างบน ว่าสั้นเท่าไหร่ เห็นตรงไหน

ยิ่งสั้นมาก ยิ่งต้องเอามาวางใกล้ๆถึงเห็น

และที่ตำแหน่งใกล้ตากว่านั้น ก็มองเห็นชัดด้วยการเพ่ง (Accommodation)

แต่ถ้าคนสายตาสั้น ใส่แว่น มองไกลชัด เหมือนรูป (c) เทียบเท่าคนปกติ ไม่มีค่าสายตา

>

รู้เรื่องนี้ มีประโยชน์อะไร

1. สายตาสั้นน้อย ถ้าใช้ชีวิตทำกิจกรรมที่ระยะใกล้เป็นหลัก ไม่ต้องใส่แว่นสายตาสั้นตลอดเวลาก็ได้

เสริมนิดนึงว่า ถึงสั้นน้อยก็ทำเลสิกได้นะ บางคนไม่ทำเพราะคิดว่าสั้นน้อยอยู่

2. สายตาสั้นน้อย ช่วยบดบังอาการสายตายาวตามวัยได้

จนทำให้บางคนเข้าใจยังไม่มีสายตายาว หรือสายตายาวหายไปด้วยซ้ำ (ซึ่งไม่หาย มีทั้งสองอย่าง)

บดบังยังไง ง่ายๆ คนกลุ่มนี้มีสายตายาวตามวัยแล้ว แต่แค่ถอดแว่นสายตาสั้นออก ระยะมองใกล้ที่ชัด ก็เป็นระยะเดิมของสายตาสั้นที่เคยมี เลยคิดว่าไม่มียาวตามวัย

ระยะมองชัดของคนสายตาสั้น 250-300 ระยะที่ใช้งานได้คือ 30-40 ซม แหม่อะไรมันจะช่างพอดีขนาดนี้

หรือบางคนใส่แว่น/ คอนแทคเลนส์น้อยกว่าค่าจริง ก็ถือว่าทำให้ตัวเองเหลือสายตาสั้นหน่อยๆ มองใกล้สบายตาขึ้นเช่นกัน

3. อธิบายว่าทำไมหลังทำเลสิค บางคนถึงมองใกล้ไม่ถนัด โดยเฉพาะคนสายตาสั้นมาก

เพราะหลังทำเลสิค ระยะที่มองใกล้ชัดเป็นระยะของคนปกติแล้ว ห่างออกมาจากระยะที่เคยชินด้วยตาเปล่าเดิมสมัยสายตาสั้น
และยิ่งเอาเข้าใกล้ตา ยิ่งไม่ชัด ไม่เหมือนตอนสายตาสั้น เลยต๊กใจไปใหญ่

พอหมอให้เอาไว้ระยะคนทั่วไป มองเห็น ค่อยโล่งใจ
ส่วนนี้ให้เวลาปรับตัว 2-4 สัปดาห์จะค่อยๆดีขึ้น

โถ อยู่กับสายตาสั้นมีระยะชินตา ชินมือที่ถนัดแบบนี้มาเป็น 10 ปี เปลี่ยนปุบปับในวันเดียวได้ไง

>

ตอนต่อไปน่าจะเป็นสายตายาว เนื่องจากเพิ่งไปตรวจตาแม่สุประจำปีมา (ยาวแต่กำเนิด 300)

ใครไม่อยากมีค่าสายตาแล้ว ขอตื่นมามองชัดเลย รู้อยู่นะว่าต้องยังไง

ถ้าใครตอบว่าใส่คอนแทคเลนส์นอน จะได้ตื่นมาพร้อมมองเห็น หมอฮึ่มๆเลยนะ

เพราะอยากให้ทุกคนมีสุขภาพตาดี มองเห็นชัดเจน
หมอยุ้ย

เล่าเคสคนไข้ mindset บวก ประเมินทำเลสิกไม่ผ่าน อดไปสอบสายตา พร้อมคำแนะนำสำหรับคนที่วางแผนไปสอบในตอนท้าย เคสปรึกษาคนไข้อา...
31/10/2025

เล่าเคสคนไข้ mindset บวก
ประเมินทำเลสิกไม่ผ่าน อดไปสอบสายตา

พร้อมคำแนะนำสำหรับคนที่วางแผนไปสอบในตอนท้าย

เคสปรึกษา
คนไข้อายุ 14 ปี วางแผนทำเลสิกไปสอบรร นายร้อยต้นปีหน้า

ค่าสายตา
ขวา +2.5 - 5.75 x180
ซ้าย +1.75 - 5.5 x175
ความหนากระจกตา หนาดี
ขวา 594 ซ้าย 599 microns

บางคนคิดว่าหมอพิมพ์เครื่องหมายผิด แต่ใช่แล้ว เป็นค่าสายตายาวเอียง
เอียงเยอะมากด้วย ใส่แว่นตั้งแต่ 7 ขวบ

ตรวจพบตาเหล่ออกแบบซ่อนเร้นนิดหน่อย

ความโค้งกระจกตาปกติ ค่าเอียงเยอะ แต่ไม่เป็นโรคกระจกตาโก่ง - อย่างน้อยหมอกระจกตาโล่งใจไป

จากข้อมูลทั้งหมดหมอยังไม่ผ่าตัดให้ เพราะอายุน้อยและเป็นยาวเอียงเยอะ อายุยังไม่ถึงเกณฑ์​ ค่าสายตายังไม่นิ่ง
แต่ถ้าอายุ 21 ปีขึ้นไป มีแนวโน้มทำได้

“ถ้าไปสอบปีหน้าไม่ได้ แล้วเอาไงต่อดีคะ”

“เดี๋ยวผมไปสอบอีกทาง มีแบบที่ใส่แว่นได้ หรืออีกแบบที่เข้าไปตอนอายุ 20 แล้วก็ได้”

เฮ้ย น้องโครตเจ๋ง มี positive mindset มาก

ส่วนใหญ่แล้วคนไข้วัยรุ่น ถ้าหมอบอกทำไม่ได้ ส่วนใหญ่น้ำตาตก (บางคนกลั้นน้ำตาไม่อยู่) แน่วแน่มาในเส้นทางนี้มากๆ

เข้าใจถึงความฝันคนไข้ แต่หน้าที่หมอคือประเมินและให้การรักษาตามความเหมาะสมทางการแพทย์ โดยไม่เอาปัจจัยอื่นมารบกวน ผ่าตัดตาไม่เหมือนการซื้อของอย่างอื่น

หมอคิดแค่ว่าถ้าเป็นลูกของเราเองจะทำให้ไหม ถ้าเราไม่ทำให้ ก็ไม่ควรทำให้ลูกคนอื่นเหมือนกัน
คงบอกลูกตัวเองว่า ถ้ากายภาพไม่เอื้อ มีสายอาชีพอื่นอีกเยอะเลยนะ มีอะไรน่าสนใจอีกบ้าง

เป้าหมายที่อยากไปถึง ไม่ได้มีทางเดียว
และนี่จะไม่ใช่ความผิดหวังครั้งแรกในชีวิต ชีวิตเราจะเจอความผิดหวังอีกนับไม่ถ้วน

คนไข้คิดได้ตั้งแต่อายุเท่านี้ ถือว่าเร็วมาก

>

เขียนมาขนาดนี้ เดี๋ยวนึกว่าหมอไม่ทำคนไข้อายุน้อย

ทำนะ

เลือกที่ค่าสายตาไม่มาก (ไม่เกิน -3.0 กำลังดี)

เลือกที่ค่าสายตานิ่งแล้ว (ส่วนใหญ่จะเป็นพวกสั้นน้อย)

เลือกที่ความโค้งกระจกตาปกติ

เลือกว่าทำแล้วระยะยาวปลอดภัย

และบอกหมายเหตุทุกครั้งว่า

***มีโอกาสค่าสายตากลับมาอีก เพราะด้วยอายุแล้วค่าสายตายังไม่นิ่ง***

ถ้าค่าสายตากลับมาใหม่ อยากทำซ้ำรอให้นิ่งแล้วมาเติม

แต่ถ้าตรวจตามีอะไรเอ๊ะเหมือไร รอก่อนนะคนดี

เพราะแค่อายุน้อยกว่า 21 ปีอย่างเดียว ก็เป็นคะแนนความเสี่ยงกระจกตาโก่งหลังผ่าตัดที่สูงแล้ว
(ตาม Ectasia risk score system)

>

คำแนะนำสำหรับคนไข้ที่จะเตรียมตัวไปสอบ

1 สอบรร เตรียมทหาร เลือกผ่าตัดวิธี PRK เนื่องจากไม่มีรอยแผล และปลอดภัยกับการเลือกเรียนต่อในทุกเหล่า

2 มาตรวจไว้ก่อน หมอเคยเจอคนไข้ที่สอบผ่านหมดแล้ว มาตรวจตาแล้วเจอว่าเป็น ตาบอดสี มีตาขี้เกียจ เศร้าเลย

3 เผื่อเวลาพักฟื้นให้ค่าสายตาเข้าที่หลังผ่าตัดอย่างน้อย 1 เดือน ให้ดี 3 เดือน แต่ไม่นานเกินไป เพราะสายตาอาจจะเปลี่ยนได้

4 หลังผ่าตัด จะมีช่วงพักฟื้น งดใช้ตาอ่านหนังสือ และงดซ้อมร่างกายอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ ​

>

ขอให้โชคดี สมหวังกันทุกคน

#สอบเตรียมทหาร #สอบสายตา #เลสิกสอบสายตา

บทความนี้ เหมาะกับคนไข้หลังผ่าตัดต้อกระจกและเปลี่ยนกระจกตาทุกชั้น เลี่ยงกิจกรรมเพิ่มความดันตา 10 ข้อนี้เหมือนกัน ส่วนคนไ...
30/10/2025

บทความนี้ เหมาะกับคนไข้หลังผ่าตัดต้อกระจกและเปลี่ยนกระจกตาทุกชั้น

เลี่ยงกิจกรรมเพิ่มความดันตา 10 ข้อนี้เหมือนกัน

ส่วนคนไข้เลสิก ไม่เป็นไร (อ่านให้คุณพ่อคุณแม่ที่จะไปทำต้อกระจกแทน)

กิจกรรมเพิ่มความดันตาที่ (บางคน) ควรเลี่ยง

ใครต้องระวังและเลี่ยงอะไรบ้าง

จะว่าไป เราหรือผู้สูงอายุที่บ้านเผลอทำอยู่ไหม

>

หมอมีคนไข้นอนรพ รักษากระจกตาติดเชื้อหลายราย

หนึ่งในนั้นเป็นคนไข้เก่า เคยปะกระจกตาทะลุมาก่อนปีที่แล้ว กลับไปบ้านตจว อยู่กันเองตายาย กลับมารอบนี้ กระจกตาที่เคยปะไปแผลติดเชื้อและยุ่ยมาก ตรวจตาพบว่าช่องหน้าม่านตา *แคบลง*

ช่องหน้าม่านตาแคบลง แปลว่าเคยมีน้ำรั่วออก ยังดีที่ตอนหมอตรวจ แผลไม่รั่ว

ถ้าแผลรั่ว น้ำในตาไหลออกมาตลอด ช่องหน้าม่านตาแบนไปเลย แบบนั้นต้องผ่าตัดฉุกเฉิน


ก่อนออกจากห้องตรวจ คุณตาบอกว่าเมื่อวานนี้ตอน “ก้มหารองเท้า ได้ยินเสียงปุ๊ มีน้ำตาไหลออกมา และเจ็บตาทันที“

อ้อ ที่หมอถามว่าโดนอะไรกระแทกตาไหม บอกไม่มี แต่มีก้มลงหาของ นี่แหละ จังหวะที่ตาทะลุ

แต่ด้วยจังหวะแรงดันสูงแปบเดียว พอความดันปกติ กระจกตาไม่ยุ่ยมากเลยอยู่ได้ ไม่มีแผลรั่วต่อเนื่อง

>

คนทั่วไปตาไม่ทะลุจากแค่การก้ม แต่มีกลุ่มเสี่ยงที่ต้องระวัง

คือ กลุ่มคนที่มีผนังลูกตาบาง มีตำแหน่งที่แตกง่าย (weak point) เช่น

- คนไข้หลังผ่าตัดทำทางระบายน้ำโรคต้อหิน
- คนที่โครงสร้างกระจกตาหรือตาขาวผิดปกติ
- มีการติดเชื้ออักเสบยุ่ยที่เนื้อกระจกตาหรือตาขาว
- คนไข้หลังผ่าตัดมีแผลที่กระจกตาช่วงแรก เช่น ผ่าตัดต้อกระจก หรือเปลี่ยนกระจกตา (ที่แผลยังไม่แข็งแรง ปกติแผลแข็งแรงที่ 1 เดือนขึ้นไป)
- เลสิกไม่ได้อยู่ในกลุ่มนี้ เพราะผ่านอกลูกตา

นอกจากนี้ ยังควรใส่แว่นป้องกัน (safety glass) อีกชั้นหนึ่งด้วย เพื่อความปลอดภัย

>

แล้วกิจกรรมที่เพิ่มแรงดันในลูกตา มีอะไรบ้าง

1 ออกแรงเบ่ง

ใครท้องผูก เบ่งเยอะ เพิ่มความดันตาครั้งที่เบ่ง

2 กลั้นหายใจ

3 ก้มหัวต่ำกว่าเอว

ของคุณตาใช่เลย จังหวะก้มต่ำ

4 บีบตา

เวลาหมอตรวจตา หรือพยาบาลเปิดตาหยอดยา แม้จะเปิดเบามือแต่ด้วยความเจ็บเลยพยายามบีบตาหลบ จังหวะนี้ก็ความดันขึ้นเช่นกัน

5 ขยี้ตา

ขึ้นกับแรงมือที่กดลงไปว่าแรงขนาดไหน
กลุ่มที่คล้ายกันคือ นวดตา

6 ไอ จาม สั่งน้ำมูก

ใช้แรงกลุ่มเดียวกับการเบ่ง เวลาคนไข้ไอหรือ จามแรงๆหลังผ่าตัดนี่หมอเสียวมาก

7 ยกของหนัก

ยิ่งหนัก ยิ่งเพิ่มแรงดัน จังหวะฮึบนี่แหละตัวดี

8 โยคะ

โดยเฉพาะท่าที่หัวอยู่ต่ำ (head stand)

9 ใส่แว่นว่ายน้ำ (โดยเฉพาะอันที่ขนาดเล็กกดรอบตา)

10 เล่นเครื่องดนตรีชนิดเป่า เช่น ขลุ่ย ทรัมเป็ต - กลั้นหายใจและเป่าสลับแรงเข้าออก

ข้อ 8-10 ไม่เหมาะในคนไข้ต้อหิน เพราะทำให้โรคเป็นมากขึ้นได้

>

เพราะอยากให้ทุกคนมีสุขภาพตาดี มองเห็นชัดเจน

หมอยุ้ย

รูปตาคนไข้ในcomment เหมาะกับผู้กล้า (ดู)

สั้น 100 เอียง 100 ยาว 100เคสปรึกษา คนไข้อายุ 43 ปี อยากทำเลสิก “ปกติไม่ใส่แว่น” ค่าสายตาที่มีทุกอย่าง อย่างละหน่อย มองไ...
29/10/2025

สั้น 100 เอียง 100 ยาว 100

เคสปรึกษา คนไข้อายุ 43 ปี อยากทำเลสิก “ปกติไม่ใส่แว่น”

ค่าสายตาที่มีทุกอย่าง อย่างละหน่อย มองไม่ชัดมาก แต่ก็ไม่แย่ เรียกว่าอยู่ได้ มาปรึกษาเพราะอยากมองเห็น “ชัดกว่านี้” คนใกล้ตัวเพิ่งทำไป เลยสนใจ ลักษณะการใช้สายตา ใส่แว่นเฉพาะเวลาขับรถ แต่ไม่ชอบเพราะปวดตา

มีสรุปสั้นๆให้คนสายตายาวที่อยากทำเลสิก ในตอนท้าย

>

ของรายนี้ ถ้าใส่แว่นตรงค่าสายตา ไม่น่ามีปัญหาเวลาขับรถ

สิ่งที่หมอกังวลคือ “ปกติแล้วไม่ใส่แว่น”

การเอาสายตาสั้นเอียงออก จะเหลือสายตายาวตามวัย การมองใกล้ที่เคยมองได้สบายๆ ไม่ง่ายเหมือนก่อน

>

การทำเลสิก = การเอาแว่นสายตาออกได้ 1 อัน

คนที่ต้องใส่แว่น 2 ชั้น ทำแล้ว ยังเหลือแว่นอีก 1 ค่า

แว่นโปรเกรสซีฟ (ที่เหมือนมีแว่น 3 อันรวมกัน) ทำแล้ว ก็ยังต้องใส่แว่นต่ออยู่ อาจจะเป็นโปรเกรสซีฟแบบเดิม หรือแค่แว่นยาว

เลสิก แก้ค่าสายตาได้ค่าเดียว

แต่ในตาเรา มีการเพ่งเพื่อปรับระยะการมอง เลสิกปรับระยะการเพ่งไม่ได้ เป็นหน้าที่ของเลนส์ตา

>

ในแง่ความน่าทำ ค่าสายตาแบบเดียวกัน หมออาจตอบไม่เหมือนกัน ขึ้นกับคนไข้แต่ละราย

เอาค่าสายตาสั้น 100 เอียง 100 ยาว 100 แบบเดิม

ความน่าทำ 80% (ตัวเลขนี้สำหรับหมอ หมอคนอื่นอาจจะคิดต่างกัน)

ถ้าคนไข้บอกว่าชีวิตประจำวันใส่แว่น (สั้น 100 เอียง 100 ตลอดเวลา) ขับรถเยอะโดยเฉพาะกลางคืน เข้าใจว่ามีสายตายาวแล้ว อีกหน่อยใส่แว่น ช่วยตอนมองใกล้

ความน่าทำ 20%

ถ้าคนไข้ใส่แว่นสั้น 100 เอียง 100 อยู่แล้ว แต่พักหลังถอดแว่นเล่นมือถือสบายตากว่า ปกติไม่ขับรถ ทำงานกับมือถือ

>

หมอให้คนไข้ไปลองคอนแทคเลนส์ (contact lens trial) จำลองค่าสายตา ก่อนผ่าตัด ไม่ต้องใส่เอียง ใส่แบบแก้สั้นอย่างเดียว (คำนวณ​ Spherical equivalent ในบทความก่อน) แล้วค่อยตัดสินใจ

ทำยังไง แก้สั้นไม่แก้เอียง
https://www.facebook.com/share/p/1EZihNGC6w/

ลองได้สองแบบเลย
1 แก้ค่าสายตาหมด หรือ
2 แก้เหลือเป็น monovision

อีก 2 สัปดาห์เจอกัน มารายงานผล

ลองอ่านบทความนี้เสริม

อายุ40 ขึ้นไป อยากทำเลสิคอ่านทางนี้ ถ้าไม่อยากเสียใจทีหลัง
https://www.facebook.com/LASIKDRYUI/posts/140399671879825

>

เลสิกเหมาะ “ที่สุด” กับคนที่ยังไม่มีสายตายาว

ส่วนถ้าสายตายาวแล้ว

สั้นน้อย ยาวน้อย ไม่น่าทำเลสิก
สั้นน้อย ยาวเยอะ ไม่ต้องทำเลสิก

สั้นเยอะ ยาวน้อย น่าทำเลสิก (ถ้าเข้าใจ)
สั้นเยอะ ยาวเยอะ ยังพอได้

ยาวเยอะของแต่ละคนอาจจะต่างกัน ของหมอคือเกิน +1.5

>

เพราะอยากให้ทุกคนมีสุขภาพตาดี happy กับการผ่าตัดเลสิก

หมอยุ้ย

เทคนิคแก้สั้น ไม่แก้เอียง เคยสงสัยไหมว่า บางคนมีทั้งสายตาสั้นและเอียง แต่ใส่แค่แว่นสายตาสั้นก็เห็นได้ชัด หรือคนที่สายตาส...
28/10/2025

เทคนิคแก้สั้น ไม่แก้เอียง

เคยสงสัยไหมว่า บางคนมีทั้งสายตาสั้นและเอียง แต่ใส่แค่แว่นสายตาสั้นก็เห็นได้ชัด

หรือคนที่สายตาสั้นเอียง จะไปใส่คอนแทคเลนส์ หาแบบแก้เอียงด้วยยาก ใส่แบบสั้นอย่างเดียวก็ได้

รวมไปถึงใส่เลนส์เสริม มีค่าสายตาสั้นเอียง แต่คุณหมอบอกว่า แก้แค่สั้นก็พอ เอียงไม่ต้อง

มันมีเทคนิคอยู่ อ่านจบมีวิธีคำนวณให้ด้วยนะ

อยากรู้แล้วละสิ

>

อ่านพื้นฐานก่อน

การหักเหแสงในตาในคนสายตาสั้น เป็นดังรูปใน comment 1

วิธีแก้ไขคือ พยายามหาเลนส์เว้ามากระจายแสง เพื่อให้จุดโฟกัสไปอยู่ที่จุดรับภาพชัดพอดีเป๊ะ

คิดเหมือนเวลาเด็กๆเอาแว่นขยายส่องรวมไฟจากแสงอาทิตย์เป็นจุด

สำหรับคนที่มีสายตาสั้นและเอียง กระจกตาแทนที่จะเป็นทรงกลมเหมือนลูกบอล กลับกลายเป็นคล้ายลูกรักบี้วางหน่อยๆวางนอนอยู่

แสงที่หักเหผ่านแนวตั้ง และแนวนอนของกระจกตาตกลงบนคนละตำแหน่งกัน ให้ภาพเป็นสองเส้น (2 focal lines)

(เรื่องนี้เป็นฟิสิกส์ ม 5 ที่หลายคนน่าจะลืมไปแล้ว 😅)

จากในรูป
แสงสีน้ำเงินจากแนวนอน ผ่านกระจกตา เอาฉากมารับเป็นเส้นได้ในแนวตั้ง (1st focal line)
แสงสีเหลืองในแนวตั้ง ผ่านกระจกตา เอาฉากมารับตกเป็นเส้นในแนวนอน (2nd focal line)

วิธีแก้ไข สายตาเอียงด้วยแว่น

คือเอาเลนส์เว้า 1 อันมาทำให้แสงแนวหนึ่งตกบนจุดรับภาพชัดก่อน
แล้วเอาเลนส์กาบกล้วยอีก 1 อัน มาวางซ้อนกัน ให้แสงอีกแนวตกที่จุดรับภาพชัดพอดี

แต่ปัญหาของเลนส์กาบกล้วยคือ ภาพจะถูกยืดออก ดูหลอกตา ทำให้บางคนใส่แว่นเอียงแล้วรับไม่ได้ เวียนหัว


เป็นที่มาของเรื่อง Spherical equivalent หา circle of least confusion

รูปเดิม เอามาใช้อธิบายได้เหมือนกัน

ที่ระหว่างตำแหน่งของเส้น focus ที่ 1 และ 2 ถ้าเอาฉากไปรับ ขยับไปเรื่อยๆ ภาพจากที่เป็นเส้น จะเป็นวงรี กลมขึ้น รีในอีกแนว จนเป็นเส้นในอีกแนว

ตำแหน่งที่ภาพในฉากเป็นวงกลมที่สุด เรียกว่า circle of least confusion

เราเลือกเลนส์แก้สายตาสั้น ให้แสงมาตกตรงนี้แหละ ถึงไม่ได้ภาพเป็นจุด แต่ภาพเป็นวงกลม ถือว่ารับได้ การมองเห็นดีที่สุดแบบไม่แก้สายตาเอียง


มีตัวอย่างการคำนวณ ค่า SE

คำนวณได้จากสูตร
SE = ค่า sphere + astigmatism/2

เอาสายตาสั้น รวมกับค่าสายตาเอียงที่หาร 2

ค่าแว่น -4.0-1.0x180

สายตาสั้น 400 เอียง 100 ที่แกน 180
(แว่นแก้สายตาเอียงจะมีตัวเลขบอกแกนเสมอ)

SE = -4.0 + (-1.0/2)
= -4.0 + (-0.5)
= -4.5

ใส่แว่นแก้สายตาสั้น 450 แทน

ยิ่งสายตาเอียงมาก ส่วนที่ปรับจากเอียงมาเป็นสั้นทดแทนก็ยิ่งมาก ก็ยิ่งรู้สึกเบลอมากขึ้น (เมื่อเทียบกับแก้เอียงด้วย)

ค่าเอียงที่ไม่เกิน 1.0 D เป็นค่าที่ใส่แบบ SE แล้วยังสบายตา

ทั้งนี้แล้วแต่คน และความชอบในการมอง ว่าจะรับ SE ได้ หรือชอบแบบแก้ให้คมชัดที่สุด
คนที่ชอบภาพคมๆ จะเลือกแก้สายตาเอียงด้วยมากกว่า แลกมากับการใช้เวลาในการปรับตัวหน่อย

คอนแทคเลนส์ก็คิดเช่นเดียวกัน แต่นอกจากเรื่อง SE แล้ว ยังมีเรื่องของระยะชดเชย vertex distance (ระยะระหว่างด้านหลังแว่นกับตาของเรา) มาให้คิดด้วยอีกหน่อย

>

แล้วเลนส์เสริมละ แก้สั้นอย่างเดียว หรือแก้สั้นเอียง หมอคิดยังไง
คิดแบบง่ายสุดๆ มีอะไรก็แก้ตามนั้นไปสิ

มันก็ถูก แต่ถ้าตอบแบบนั้นเดี๋ยวไม่ได้สอนเรื่องนี้ต่อ

ยกตัวอย่าง 3 กรณี

คนไข้ A ค่าสายตา -11.0 -0.5 x 180
ค่าสายตา สั้น 1100 เอียง 50
คำนวณ SE = -11.25 หรือใส่สั้น 1125

คนไข้ B ค่าสายตา -11.0 - 2.0 x180
ค่าสายตา สั้น 1100 เอียง 200
SE -12.0 หรือใส่สั้น 1200

คนไข้ C ค่าสายตา -11.0 - 4.0 x180
ค่าสายตา สั้น 1100 เอียง 400
SE -13.0 หรือใส่สั้น 1300

ถ้าใส่แต่ค่าแก้สายตาสั้น เรียงลำดับคนไข้ที่มองเห็นชัดคือ A ดีกว่า B ดีกว่า C

ยิ่งต้องเฉลี่ยสายตาเอียงมาใส่สั้นเยอะเท่าไหร่ circle of least confusion ก็ใหญ่ขึ้นเท่านั้น

สำหรับหมอเอง ถ้าจะแนะนำคนไข้เลนส์เสริมว่าต้องแก้เอียงไหม ค่าที่อยู่ในใจคือ ถ้าเอียงตั้งแต่ 1.0 D ขึ้นไป เหมาะจะแก้เอียงแล้ว เว้นแต่ติดเรื่องงบประมาณ และยอมรับได้ว่าภาพจะไม่คมชัดมาก ค่อยใช้เทคนิคนี้

หมอลองค่าสายตา โดยให้คนไข้เทียบระหว่างแก้แบบ SE กับแก้สั้นเอียง คนไข้ส่วนใหญ่ชอบความคมชัดมากกว่า บางทีคุยเฉยๆไม่ค่อยเห็นภาพ ให้ลองมองเองแล้วกัน

และเลนส์เสริมจะต่างกันกับแว่นตรงที่ไม่ต้องกลัวว่าใส่เอียงแล้วจะเวียนหัวเหมือนใส่แว่น เนื่องจากไม่มี vertex distance แล้ว หลายคนกังวลตรงจุดนี้

>

สำหรับคนที่สั้นมากๆ จะแก้แบบไหน ก็ชัดว้าวขึ้น เพราะค่าสายตาสั้นเยอะๆส่วนนั้นหายไป

ลองเอาคนไข้สายตา -2.0 -2.0 x180 มาลองใส่แว่นแบบไม่แก้เอียงดูสิ ยังไงก็ไม่ชัด เพราะสั้นนิดเดียว แต่เอียงเป็นส่วนหลัก กรณีแบบนี้ คำนวณ SE ไปก็ไม่ work

>

สรุปใจความ ได้สูตรคำนวณ​ SE และเข้าใจว่า มีประโยชน์ยังไง เป้นทริคหนึ่งไว้ใช้แก้สายตาเอียงแบบไม่แก้เอียง แต่ถ้าชอบชัดเป๊ะ ชัดสุด ต้องแก้ให้หมด ไม่เฉลี่ย ไม่เหลือเอียง

อ่านถึงตรงนี้กันกี่คนนะ งงกันไปหมดแล้วละสิ

อยากลองหาค่า SE ของตัวเองดู ลอง comment ได้นะ เดี๋ยวหมอเช็คให้

Note

1 ส่วนเลสิกนั้น แก้หมดทั้งสั้นและเอียง ไม่ต้องมาคำนวณ SE แบบนี้ (มันมีเหตุผลลึก คือตำแหน่งที่แก้เอียง ไม่มีทางเปลี่ยน ติดกับกระจกตา)

2 บทความนี้ มีที่มาจากคำถามของคนไข้ส่งค่าสายตามาปรึกษาว่า แบบนี้ต้องใส่เลนส์เสริมแบบแก้สั้นเอียงไหม หมอเลยตอบในอีกมุมแทน แต่ได้คำตอบเหมือนกันว่า แนะนำ เพราะเอียงมากกว่า 100 ไปแล้ว ถ้าไม่ใส่ก็พอได้ แต่ไม่ได้ชัดที่สุดเท่าที่จะเป็นได้เท่านั้นเอง

ref รูป
https://entokey.com/optics-3/

27/10/2025

ถ้าหมอทำ e book ”คู่มือเลสิก“ อ่านเข้าใจภาษาบ้านๆ ให้คนที่สนใจหาข้อมูลเกี่ยวกับเลสิก จะมีคนสนใจไหม

กดไลค์ให้เป็นคำตอบก็ได้

ขอบคุณทุกความเห็นและ comment ล่วงหน้าค่า

😘

27/10/2025

ตรวจเจอคนไข้กระพริบตาไม่สุดอยู่บ่ิอยๆตอนมาประเมินเลสิก โดยเฉพาะคนที่ตาแห้ง

ทางแก้คือ ลดหน้าจอ และฝึกกระพริบตา

ก่อนที่จะตัดใจว่าทำ LASIK ไม่ได้ ลองทำแบบนี้ก่อนCorneal warpage syndrome แต่เงื่อนไขเยอะหน่อยใช้ได้กับแค่ 1 กลุ่มคนไข้ใส...
25/10/2025

ก่อนที่จะตัดใจว่าทำ LASIK ไม่ได้ ลองทำแบบนี้ก่อน

Corneal warpage syndrome

แต่เงื่อนไขเยอะหน่อย

ใช้ได้กับแค่

1 กลุ่มคนไข้ใส่คอนแทคเลนส์ประจำ แล้วหลังตรวจประเมิน หมอบอกว่าทำไม่ได้เพราะกระจกตาโก่ง
2 ได้ตรวจครั้งเดียว
3 งดคอนแทคเลนส์ไปน้อยกว่า 1 สัปดาห์

แต่ถ้าใครเข้าเกณฑ์นี้ ลองวิธีที่หมอจะแนะนำก็ไม่เสียหาย

>

แท่นแท๊น

ไม่ได้ยากอะไรเลย แค่หยุดคอนแทคเลนส์ให้นานขึ้นกว่าเดิม เอาสัก 2-4 สัปดาห์ ระหว่างนี้ หยอดน้ำตาเทียมบ่อยๆหน่อย

อีกอย่างคือไปตรวจความแข็งแรงกระจกตา (corneal biomechanic) เพิ่มด้วย เอามาดูรวบคู่กับความโค้งกระจกตา (corneal tomography)

บางคนจากกระจกตาผิดปกติ ความโค้งดูไม่สวย กลายเป็นกระจกตาที่ดูปกติ ทำเลสิกได้

ความผิดปกติแบบนี้เรียก corneal warpage syndrome

เจอได้เรื่อยๆ แต่ถ้าสุดท้ายแล้วยังผิดปกติในแง่ความโค้งที่น่าสงสัย คงได้ไปจบที่เลนส์เสริมแทน (phakic IOL)

เพราะอยากให้ทุกคนมีสุขภาพตาดี มองเห็นชัดเจน

หมอยุ้ย

Note

1 ถึงรูปจะมาจากเครื่องวัดความโค้งต่างเครื่องกัน (ถ่ายห่างกัน 3 สัปดาห์) แต่ดูที่ตัวเลขความโค้งแล้วคิดว่ามาจากคนละคนกันเลย

2 ดูภาพไม่เข้าใจไม่เป็นไร เข้าเนื้อหาที่หมออยากสื่อก็ happy แล้ว

25/10/2025

ขอบคุณรีวิวจากคุณศศิธรค่ะ อ่านแล้วชื่นใจมาก

ที่อยู่

Samut Prakan
10540

เบอร์โทรศัพท์

+66613265596

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ หมอยุ้ยเลสิค-เลนส์เสริม-ต้อกระจกผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram