16/05/2021
“กลางดึกคืนหนึ่ง เรารับสายจากแรงงานพม่า เธอบอกว่าหายใจไม่ค่อยออกแล้ว และเจ็บหน้าอกมาก เธอเป็นแม่บ้านทำความสะอาด ติดโควิดมาจากนายจ้าง แต่โรงพยาบาลไม่มีเตียงว่าง เลยต้องมากักตัวอยู่ในห้องเช่าตามลำพัง เธอน้ำเสียงสั่นเครือมาก เธอบอกว่ากลัวตาย กลัวออกไปแล้วโดนตำรวจจับ กลัวกระทั่งว่าไปโรงพยาบาลแล้วไม่มีเงินจ่ายค่ารักษา
“แรงงานข้ามชาติ ที่เข้ามาในไทยทั้งถูกต้อง และไม่ถูกต้อง เขาอยู่ในระบบขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศนะ แล้วบางคนเจอนายจ้างแบบ ‘มีแรงกูใช้ เจ็บป่วยกูทิ้ง’ ถ้าคิดแบบนี้ มันคือความคิดแบบกดขี่ นายจ้างบางคน พอรู้ว่าแรงงานตัวเองติดโควิด ก็ปัดทิ้ง ปล่อยไว้ ไม่มาสนใจดูแลเลยก็มี
“สถานการณ์โควิดตอนนี้ มันเป็นผลกระทบต่อเนื่องโดยเฉพาะแรงงานข้ามชาติในระดับปัจเจก เช่น แรงงานที่เป็นแม่บ้าน หรือสถานประกอบการขนาดเล็ก และโรงงานขนาดเล็ก ที่อาจต้องกักตัว หรือหยุดงานไปเลย หรือแรงงานที่เข้ามาแบบไม่มีเอกสารอะไรเลย กลุ่มนี้เขาจะลำบากมาก ถ้าต้องไปตรวจคัดกรองหรือติดโควิดแล้ว และไม่มีเงินในการรักษา คือถ้าจะไปโรงพยาบาลเอกชน ก็ต้องมีเงินติดตัวขั้นต่ำไปอย่างน้อย 8,000 บาทต่อคน หรือบางรายนายจ้างพาไปส่งโรงพยาบาล แล้วทิ้งลูกจ้างไว้ที่โรงพยาบาลเลยก็มี
“บางทีเขาก็ไม่รู้ว่าจะไปพึ่งใครนะ มันพิสูจน์แล้วว่า เบอร์สายด่วนของหน่วยงานรัฐ ที่แรงงานข้ามชาติจะโทรขอความช่วยเหลือมันไม่ตอบโจทย์ ทั้งเรื่องภาษาและการกดเบอร์ต่อภายใน กว่าจะได้คุย
“มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LPN) เลยทำโครงการพัฒนาล่ามภาษา ทั้งเมียนม่า กัมพูชา และลาว ฝึกอบรมล่าม ให้มีทักษะ มีสกิล ในการให้คำปรึกษา และประสานงานต่อ
“บางทีแรงงานโทรมาขอความช่วยเหลือ บอกเพื่อนเขารักษาโควิดอยู่ โรงพยาบาลให้หาเงินไปจ่ายค่ารักษา เราก็มีหน้าที่ประสานนายจ้าง ประสานหาญาติ ประสานหาเพื่อนที่พอจะช่วยเหลือแรงงานคนนี้ได้ คือเราไม่ได้ตั้งต้นจากการที่ต้องให้เป็นภาระโรงพยาบาลนะ เรามีหน้าที่ประสานงานอย่างน้อยต้องคุยกับโรงพยาบาลก่อน ว่าอย่าเพิ่งปฏิเสธการรักษา ถ้ามันไม่พอ หรือไม่ได้จริงๆ ถึงค่อยประสาน เพื่อทำเรื่องขอความอนุเคราะห์กันเป็นกรณีไป
“บางคนโทรมาหาเรา บอกนายจ้างทิ้งเลยไม่มาดูแลเลย กรณีแบบนี้เราก็จะไปประสานส่งตรวจคัดกรอง ประสานงานโรงพยาบาล ปัญหามันไม่ได้จบอยู่แค่นั้น ถ้าแรงงานต้องกักตัว ในชุมชนซึ่งเป็นห้องเช่า เขาก็รังเกียจแล้ว เพราะทุกคนก็กลัวติด มันเป็นการยกภาระให้ต้องกักตัวเอง ซึ่งมันยากมาก ยิ่งถ้าเจ้าของห้องเช่ารู้ว่าแรงงานมีความเสี่ยงต้องกักตัว บางแห่งเขาไล่ออกเลย ไม่ให้อยู่ที่นั่นเลย การกักตัวมันจึงทำได้ยาก
“คำว่า ‘กลุ่มเปราะบาง’ มันควรหมายถึงแรงงานข้ามชาติด้วยนะ เพราะได้รับผลกระทบในวงกว้าง มีปริมาณปัญหาทั้งจำนวน และพื้นที่ แต่เหมือนรัฐปิดตาข้างนึง เคยถามไปทางกระทรวงแรงงาน ว่ามีถุงยังชีพสำหรับแรงงานที่ต้องกักตัวมั้ย ก็ได้รับคำตอบว่าไม่มี แล้วจะให้เขากักตัวกันยังไง ค่าจ้างค่าแรงกินกันวันต่อวัน พอต้องหยุดงานก็คือไม่มีรายได้ แล้วไม่มีเงินเก็บ เขาจะกินอะไรกันตอนกักตัว
“รัฐสร้างระบบที่เป็นปัญหาต่อแรงงานข้ามชาติด้วยนะ ทำกระบวนการให้ยุ่งยาก จนนายจ้างรู้สึกว่า ไม่เอาเข้าระบบดีกว่า ลูกจ้างเลยไม่มีประกันสังคม พอเจ็บป่วยเลยลำบาก นี่ไม่นับรวมนายจ้างที่เอาแรงงานไปให้นายจ้างอื่นจ้างงานต่อ ความเป็นนายจ้างไม่รู้อยู่กับใคร กลายเป็นไม่มีใครดูแลลูกจ้างตัวเอง เพราะนายจ้างตามเอกสารก็ไม่รับผิดชอบ นายจ้างที่จ้างงานต่อ ก็บอกว่าตัวเองไม่ได้เป็นนายจ้างตามเอกสาร
“เราเลยทำกิจกรรม ‘Hand To Hand’ หรือ “จากมือถึงมือ” คือบางทีการช่วยเหลือมันได้แค่ต้นทางนะ แต่ปลายสุดไม่เคยได้รับเลย มันไม่เหลือถึงปลายสุดของปัญหาเลย เราก็พยายามไปถึงตรงนั้นให้ได้ เรามีอาสาสมัครที่เราฝึกอบรม เป็นแรงงานข้ามชาติในพื้นที่ต่างๆ แจ้งข้อมูลเข้ามาว่าจุดไหน ต้องการความช่วยเหลือ มีแรงงานต้องกักตัว ตกงานไม่มีกินกี่คน เราก็จัดถุงยังชีพไปให้
“แล้วเรารู้วัฒนธรรมการกินของเขา รู้ความต้องการของเขา ดูว่าของที่ให้ไปมีประโยชน์กับเขามั้ย เราเลยจัด ข้าวสาร พริก เกลือ ปลาแห้ง ถั่วผ่าซีก หรือในกลุ่มแรงงานที่มีเด็ก ก็จะมีนมกล่อง มีสมุด มีสีไปให้เด็กๆ ด้วย
“ทุกคนกำลังเผชิญปัญหาเดียวกัน แต่ความเป็นแรงงานข้ามชาติมีข้อจำกัดในการได้รับความช่วยเหลือบางอย่าง เมื่อคนเจอปัญหาเดียวกัน เราช่วยพร้อมๆ กันได้มั้ยล่ะ ไม่ต้องแบ่งแยก ว่านี่คนไทย นี่แรงงานข้ามชาติ ก่อนหน้านี้แรงงานข้ามชาติก็ถูกเหมารวมว่าเป็นพาหะ แพร่เชื้อ แต่มีใครบ้างล่ะ ที่อยากเป็นผู้ติดเชื้อ
“แรงงานข้ามชาติในไทย รักเมืองไทยไม่ต่างจากคนไทยนะ เขาถือว่านี่คือดินแดนที่ทำให้เขามีชีวิต มีครอบครัว มีเงินส่งกลับบ้าน สถานการณ์ตอนนี้ และในอนาคตที่ประเทศจะต้องฟื้นตัว แรงงานข้ามชาติ ก็จะเป็นแขน เป็นขา เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศนี้เหมือนกัน”
———————————————
สมพงษ์ สระแก้ว
ผู้อำนวยการ
มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LPN)
———————————————
🚩พื้นที่แนะนำองค์กรที่กำลังปฏิบัติภารกิจ อยู่ในหน้างานพื้นที่แพร่ระบาด
มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน ให้ความช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติในพื้นที่สมุทรสาคร กรุงเทพฯ และปริมณฑล และจังหวัดในพื้นที่ภาคตะวันออก ขณะนี้ต้องการรับบริจาค ข้าวสารอาหารแห้ง สิ่งของจำเป็นสำหรับจัดถุงยังชีพจำนวนมาก
ร่วมส่งต่อความช่วยเหลือได้ที่
มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LPN)
สำนักงานปทุมธานี เลขที่ 1/4 หมู่ 9
ถนนคูบางหลวงไหว้พระ ตำบลคูบางหลวง
อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี 12140
โทรศัพท์ 092-321-1516
หรือร่วมบริจาคสมทบทุน ได้ที่บัญชีธนาคาร
ชื่อบัญชี: Labour Rights Promotion Network
ธนาคารกรุงไทย เลขที่บัญชี: 162-0-09432-0
#แรงงานข้ามชาติ #แรงงานนอกระบบ
X #มูลนิธิกระจกเงา
“กลางดึกคืนหนึ่ง เรารับสายจากแรงงานพม่า เธอบอกว่าหายใจไม่ค่อยออกแล้ว และเจ็บหน้าอกมาก เธอเป็นแม่บ้านทำความสะอาด ติดโควิดมาจากนายจ้าง แต่โรงพยาบาลไม่มีเตียงว่าง เลยต้องมากักตัวอยู่ในห้องเช่าตามลำพัง เธอน้ำเสียงสั่นเครือมาก เธอบอกว่ากลัวตาย กลัวออกไปแล้วโดนตำรวจจับ กลัวกระทั่งว่าไปโรงพยาบาลแล้วไม่มีเงินจ่ายค่ารักษา
“แรงงานข้ามชาติ ที่เข้ามาในไทยทั้งถูกต้อง และไม่ถูกต้อง เขาอยู่ในระบบขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศนะ แล้วบางคนเจอนายจ้างแบบ ‘มีแรงกูใช้ เจ็บป่วยกูทิ้ง’ ถ้าคิดแบบนี้ มันคือความคิดแบบกดขี่ นายจ้างบางคน พอรู้ว่าแรงงานตัวเองติดโควิด ก็ปัดทิ้ง ปล่อยไว้ ไม่มาสนใจดูแลเลยก็มี
“สถานการณ์โควิดตอนนี้ มันเป็นผลกระทบต่อเนื่องโดยเฉพาะแรงงานข้ามชาติในระดับปัจเจก เช่น แรงงานที่เป็นแม่บ้าน หรือสถานประกอบการขนาดเล็ก และโรงงานขนาดเล็ก ที่อาจต้องกักตัว หรือหยุดงานไปเลย หรือแรงงานที่เข้ามาแบบไม่มีเอกสารอะไรเลย กลุ่มนี้เขาจะลำบากมาก ถ้าต้องไปตรวจคัดกรองหรือติดโควิดแล้ว และไม่มีเงินในการรักษา คือถ้าจะไปโรงพยาบาลเอกชน ก็ต้องมีเงินติดตัวขั้นต่ำไปอย่างน้อย 8,000 บาทต่อคน หรือบางรายนายจ้างพาไปส่งโรงพยาบาล แล้วทิ้งลูกจ้างไว้ที่โรงพยาบาลเลยก็มี
“บางทีเขาก็ไม่รู้ว่าจะไปพึ่งใครนะ มันพิสูจน์แล้วว่า เบอร์สายด่วนของหน่วยงานรัฐ ที่แรงงานข้ามชาติจะโทรขอความช่วยเหลือมันไม่ตอบโจทย์ ทั้งเรื่องภาษาและการกดเบอร์ต่อภายใน กว่าจะได้คุย
“มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LPN) เลยทำโครงการพัฒนาล่ามภาษา ทั้งเมียนม่า กัมพูชา และลาว ฝึกอบรมล่าม ให้มีทักษะ มีสกิล ในการให้คำปรึกษา และประสานงานต่อ
“บางทีแรงงานโทรมาขอความช่วยเหลือ บอกเพื่อนเขารักษาโควิดอยู่ โรงพยาบาลให้หาเงินไปจ่ายค่ารักษา เราก็มีหน้าที่ประสานนายจ้าง ประสานหาญาติ ประสานหาเพื่อนที่พอจะช่วยเหลือแรงงานคนนี้ได้ คือเราไม่ได้ตั้งต้นจากการที่ต้องให้เป็นภาระโรงพยาบาลนะ เรามีหน้าที่ประสานงานอย่างน้อยต้องคุยกับโรงพยาบาลก่อน ว่าอย่าเพิ่งปฏิเสธการรักษา ถ้ามันไม่พอ หรือไม่ได้จริงๆ ถึงค่อยประสาน เพื่อทำเรื่องขอความอนุเคราะห์กันเป็นกรณีไป
“บางคนโทรมาหาเรา บอกนายจ้างทิ้งเลยไม่มาดูแลเลย กรณีแบบนี้เราก็จะไปประสานส่งตรวจคัดกรอง ประสานงานโรงพยาบาล ปัญหามันไม่ได้จบอยู่แค่นั้น ถ้าแรงงานต้องกักตัว ในชุมชนซึ่งเป็นห้องเช่า เขาก็รังเกียจแล้ว เพราะทุกคนก็กลัวติด มันเป็นการยกภาระให้ต้องกักตัวเอง ซึ่งมันยากมาก ยิ่งถ้าเจ้าของห้องเช่ารู้ว่าแรงงานมีความเสี่ยงต้องกักตัว บางแห่งเขาไล่ออกเลย ไม่ให้อยู่ที่นั่นเลย การกักตัวมันจึงทำได้ยาก
“คำว่า ‘กลุ่มเปราะบาง’ มันควรหมายถึงแรงงานข้ามชาติด้วยนะ เพราะได้รับผลกระทบในวงกว้าง มีปริมาณปัญหาทั้งจำนวน และพื้นที่ แต่เหมือนรัฐปิดตาข้างนึง เคยถามไปทางกระทรวงแรงงาน ว่ามีถุงยังชีพสำหรับแรงงานที่ต้องกักตัวมั้ย ก็ได้รับคำตอบว่าไม่มี แล้วจะให้เขากักตัวกันยังไง ค่าจ้างค่าแรงกินกันวันต่อวัน พอต้องหยุดงานก็คือไม่มีรายได้ แล้วไม่มีเงินเก็บ เขาจะกินอะไรกันตอนกักตัว
“รัฐสร้างระบบที่เป็นปัญหาต่อแรงงานข้ามชาติด้วยนะ ทำกระบวนการให้ยุ่งยาก จนนายจ้างรู้สึกว่า ไม่เอาเข้าระบบดีกว่า ลูกจ้างเลยไม่มีประกันสังคม พอเจ็บป่วยเลยลำบาก นี่ไม่นับรวมนายจ้างที่เอาแรงงานไปให้นายจ้างอื่นจ้างงานต่อ ความเป็นนายจ้างไม่รู้อยู่กับใคร กลายเป็นไม่มีใครดูแลลูกจ้างตัวเอง เพราะนายจ้างตามเอกสารก็ไม่รับผิดชอบ นายจ้างที่จ้างงานต่อ ก็บอกว่าตัวเองไม่ได้เป็นนายจ้างตามเอกสาร
“เราเลยทำกิจกรรม ‘Hand To Hand’ หรือ “จากมือถึงมือ” คือบางทีการช่วยเหลือมันได้แค่ต้นทางนะ แต่ปลายสุดไม่เคยได้รับเลย มันไม่เหลือถึงปลายสุดของปัญหาเลย เราก็พยายามไปถึงตรงนั้นให้ได้ เรามีอาสาสมัครที่เราฝึกอบรม เป็นแรงงานข้ามชาติในพื้นที่ต่างๆ แจ้งข้อมูลเข้ามาว่าจุดไหน ต้องการความช่วยเหลือ มีแรงงานต้องกักตัว ตกงานไม่มีกินกี่คน เราก็จัดถุงยังชีพไปให้
“แล้วเรารู้วัฒนธรรมการกินของเขา รู้ความต้องการของเขา ดูว่าของที่ให้ไปมีประโยชน์กับเขามั้ย เราเลยจัด ข้าวสาร พริก เกลือ ปลาแห้ง ถั่วผ่าซีก หรือในกลุ่มแรงงานที่มีเด็ก ก็จะมีนมกล่อง มีสมุด มีสีไปให้เด็กๆ ด้วย
“ทุกคนกำลังเผชิญปัญหาเดียวกัน แต่ความเป็นแรงงานข้ามชาติมีข้อจำกัดในการได้รับความช่วยเหลือบางอย่าง เมื่อคนเจอปัญหาเดียวกัน เราช่วยพร้อมๆ กันได้มั้ยล่ะ ไม่ต้องแบ่งแยก ว่านี่คนไทย นี่แรงงานข้ามชาติ ก่อนหน้านี้แรงงานข้ามชาติก็ถูกเหมารวมว่าเป็นพาหะ แพร่เชื้อ แต่มีใครบ้างล่ะ ที่อยากเป็นผู้ติดเชื้อ
“แรงงานข้ามชาติในไทย รักเมืองไทยไม่ต่างจากคนไทยนะ เขาถือว่านี่คือดินแดนที่ทำให้เขามีชีวิต มีครอบครัว มีเงินส่งกลับบ้าน สถานการณ์ตอนนี้ และในอนาคตที่ประเทศจะต้องฟื้นตัว แรงงานข้ามชาติ ก็จะเป็นแขน เป็นขา เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศนี้เหมือนกัน”
———————————————
สมพงษ์ สระแก้ว
ผู้อำนวยการ
มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LPN)
———————————————
🚩พื้นที่แนะนำองค์กรที่กำลังปฏิบัติภารกิจ อยู่ในหน้างานพื้นที่แพร่ระบาด
มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน ให้ความช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติในพื้นที่สมุทรสาคร กรุงเทพฯ และปริมณฑล และจังหวัดในพื้นที่ภาคตะวันออก ขณะนี้ต้องการรับบริจาค ข้าวสารอาหารแห้ง สิ่งของจำเป็นสำหรับจัดถุงยังชีพจำนวนมาก
ร่วมส่งต่อความช่วยเหลือได้ที่
มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LPN)
สำนักงานปทุมธานี เลขที่ 1/4 หมู่ 9
ถนนคูบางหลวงไหว้พระ ตำบลคูบางหลวง
อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี 12140
โทรศัพท์ 092-321-1516
หรือร่วมบริจาคสมทบทุน ได้ที่บัญชีธนาคาร
ชื่อบัญชี: Labour Rights Promotion Network
ธนาคารกรุงไทย เลขที่บัญชี: 162-0-09432-0
#แรงงานข้ามชาติ #แรงงานนอกระบบ
X #มูลนิธิกระจกเงา