หรือมีน้ำตาไหลมากขึ้น
- ค่าสายตาคลาดเคลื่อนมาก หรือมีระดับสายตาที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
- มีความดันตาสูงผิดปกติ ซึ่งเป็นความเสี่ยงในการเกิดโรคต้อหิน
- อาการเห็นจุดดำตรงกลาง หรือมีเงามืดในลานสายตา
- เห็นแสงวาบเหมือนฟ้าแลบ หรือเห็นจุดดำลอยไปมาตามการกลอกตา
โ ร ค ต า ที่พบมาก ได้แก่
1. ต้ อ กระจก
พบได้บ่อยที่สุดและเป็นทุกคนเมื่อมีอายุมากขึ้น
เกิดจากเลนส์แก้วตาขุ่น ทำให้แสงผ่านเข้าไปในตาได้น้อยลง
เกิดจากปัจจัยเสี่ยง คือ อายุมากขึ้น หรือมีปัจจัยเสี่ยงร่วม
เช่น การได้รับแสง UV บ่อยๆ หรือแสงแดดจ้า โรคเบาหวาน
ความดันโลหิตสูง ทำให้เป็นต้อกระจกได้เร็วขึ้น ยากินและหยอดตา
กลุ่มสเตียรอยด์ เป็นต้น
ผู้ป่วยต้อกระจกจะมีตามัวลง เห็นภาพซ้อน ตาสู้แสงไม่ได้อาจเริ่มจาก
ต้องเปลี่ยนแว่นบ่อยๆ ต่อมามัวลงมาก ปรับแว่นอย่างไรก็ไม่ดีขึ้น
อาจมองเห็นภาพเป็นสีเหลือง บางคนอาจมองเห็นแสงกระจายในที่สว่างจ้า
สามารถชะลอความเสื่อมได้บ้างด้วยการสวมแว่นกันแดดป้องกันรังสี UV
2. ต้ อ หิ น
พบได้น้อยกว่าต้อกระจก แต่เป็นภัยเงียบที่อาจนำไป
สู่การสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวรโดยที่ผู้ป่วยไม่ทันรู้ตัว
เกิดจากความดันในลูกตาที่สูงขึ้นจนมีการทำลายประสาทตา
ผู้ที่มีบุคคลในครอบครัวเป็นต้อหินก็จะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
ส่วนปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ได้แก่ เชื้อชาติ อายุ ภาวะสายตาสั้นมากๆ
โรคประจำตัวบางชนิด เช่น เบาหวาน การใช้ยาสเตียรอยด์
อย่างต่อเนื่องโดยกิน ฉีด หรือหยอดตา หรือเคยได้รับอุบัติเหตุทางตามาก่อน
สำหรับอาการในช่วงแรกของโรคมักไม่มีอาการ จะเริ่มสูญเสียลานสายตา
คือ การมองเห็นจำกัดวงแคบลง จากด้านข้างเข้ามาตรงกลางเรื่อยๆ
และสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร อาจมีต้อหินบางประเภท เช่น
ต้อหินมุมปิดเฉียบพลันที่มีอาการปวดมาก เห็นแสงรุ้งรอบดวงไฟ
มัวลงมาก และตาแดง ถือเป็นภาวะเร่งด่วนมากต้องมาพบจักษุแพทย์ทันที
ที่สำคัญผู้ป่วยต้อหินทุกคนต้องมาตรวจติดตามอย่างสม่ำเสมอ
และปฏิบัติตามคำแนะนำของจักษุแพทย์อย่างเคร่งครัด และยังไม่มี
วิธีการรักษาใดที่จะทำให้การมองเห็นเป็นปกติ ทำได้เพียงมิให้
การมองเห็นแย่ลงกว่าเดิม ดังนั้นควรตรวจคัดกรองความเสี่ยง
ต้อหินเมื่ออายุ 40 ปีขึ้นไป หากไม่มีความเสี่ยงก็ควรตรวจตา
เป็นประจำทุกปีอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่ไม่มีอาการ แต่ถ้าสงสัย
หรือสังเกตพบความผิดปกติต้องรีบพบจักษุแพทย์โดยเร็ว
3. จุดภาพชัดที่จอตาเสื่อม
เกิดจากภาวะเสื่อมของบริเวณ
จุดภาพชัดที่อยู่ส่วนกลางของจอตา ทำให้การมองเห็น
ส่วนกลางของภาพมัวลง โดยที่บริเวณรอบข้างยังเห็นได้เป็นปกติ
เกิดจากปัจจัยเสี่ยง คือ ภาวะสูงวัย แสง UV การสูบบุหรี่
และความดันโลหิตสูง ในระยะเริ่มต้นอาจไม่มีอาการ
ต่อมาเมื่อจอตาเสื่อมมากขึ้น จะมีอาการตามัว เห็นภาพบิดเบี้ยว
เห็นจุดดำอยู่กลางภาพ และสูญเสียการมองเห็นตรงกลางภาพโดยไม่มีอาการปวด
ผู้สูงอายุควรตรวจตาเป็นประจำทุกปี หรือเมื่อสังเกตพบ
ความผิดปกติต้องรีบมาพบจักษุแพทย์ และควรหยุดสูบบุหรี่
และสวมแว่นกันแดดเป็นประจำ และหมั่นรับประทานอาหาร
ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผัก - ผลไม้สีเขียว - สีเหลือง ถั่วแดง เป็นต้น
4. ภาวะเบาหวานขึ้นจอตา
เกิดจากการที่ระดับน้ำตาล
ในเลือดสูงผิดปกติ ส่งผลให้ผนังหลอดเลือดฝอยเสื่อม
ทั่วร่างกายรวมทั้งหลอดเลือดที่จอตา ทำให้เลือดและสารต่างๆ
รั่วซึมออกมา เกิดจากปัจจัยเสี่ยงที่ผู้ป่วยไม่สามารถควบคุม
ระดับน้ำตาลในเลือดได้ ประกอบกับระยะเวลาที่เป็นเบาหวาน
และโรคประจำตัวอื่นๆ เช่น ความดันโลหิตสูง โรคไต ภาวะซีด
อาการในระยะแรกมักไม่มีอาการผิดปกติ แต่ตรวจตาอาจพบ
จุดเลือดออกที่จอตา หากมีอาการตามัวแสดงว่าเบาหวาน
ขึ้นจอตาเป็นมากแล้ว
การป้องกันที่ดีที่สุด คือ การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ รวมทั้งดูแลโรคประจำตัวอื่นๆ
เช่น โรคความดันโลหิตสูงและโรคไต โรคไขมันในเลือดสูง
อย่างเหมาะสม จะสามารถชะลอความรุนแรงของโรคได้
และผู้ป่วยเบาหวานทุกคนควรต้องตรวจตาโดยจักษุแพทย์อย่างน้อยปีละครั้ง
5. ภาวะสายตายาวสูงอายุ
เกิดขึ้นเมื่อสูงอายุทำให้การมองเห็นไม่ชัดเจน ผู้ป่วยจะมอง
หรืออ่านหนังสือ เขียนหนังสือ ทำงานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
ระยะใกล้ ๆ ไม่ชัดเจน ต้องถือหนังสือห่างๆ ทำงานระยะใกล้ๆ ไม่ได้
แต่มองไกลได้ปกติบางคนอาจมีตาพร่า หรืออาการปวดตา
มักเริ่มมีอาการเมื่ออายุ 40 ปีขึ้นไป เนื่องจากความสามารถ
และช่วงในการเพ่งปรับสายตาลดลง เนื่องจากเลนส์แก้วตาแข็งตัวขึ้น
และการทำงานของกล้ามเนื้อตาลดลง สามารถรักษาด้วยการ
ใช้แว่นสายตา หรือการผ่าตัดทำเลสิก แต่ควรมาตรวจกับ
จักษุแพทย์ก่อนว่าไม่มีความผิดปกติของโรคตาอื่นๆ ร่วมด้วย
ผู้สูงอายุมีแนวโน้มของการเปลี่ยนแปลงตามวัยในระบบต่างๆ
ของร่างกาย รวมถึงระบบการมองเห็นที่อาจจะรบกวนการ
ใช้ชีวิตประจำวันแต่ไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวล เนื่องจากโรคตา
เช่น ต้อกระจกผ่าตัดรักษาได้ บางโรคถ้าดูแลรักษาในระยะแรก
และต่อเนื่องจะสามารถชะลอความเสื่อมได้ เช่น ต้ อ หิ น
จุดภาพชัดที่จอตาเสื่อม หรือบางโรคถ้าควบคุมโรคประจำตัว
จะช่วยลดปัจจัยเสี่ยงของภาวะเบาหวานขึ้นจอตาได้
👀 D-CONTACT ดีคอนแทคปรับสูตรใหม่
เหมาะสำหรับบุคคลที่มีอาการดังนี้
👁 ตาแห้ง แสบตา พร่ามัว
👁 ตามัว มองไม่ชัด ปวดกระบอกตา
👁 แพ้แสง แพ้ลม แสบตา น้ำตาไหล
👁 มองเห็นเป็น หยักไย่ ลอยไป-มา
👁 ต้อลม ต้อเนื้อ ต้อกระจก ต้อหิน
ปรึกษาปัญหาดวงตา
สายด่วน ‼️ ติดต่อคุณ มะตูม
☎️ 063-418-4554